วิทยา ฟรีแลนซ์ผู้บ้างาน จับพลัดจับผลูไปอยู่ในเกมออนไลน์ชื่อดัง “Alterwind” ถึงจะอยู่ต่างโลก แต่เขาก็ยังต้องส่งงาน!? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลย
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ไทย,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,ผจญภัย,ต่างโลก,เกมออนไลน์,ไลท์โนเวล,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ยวิทยา ฟรีแลนซ์ผู้บ้างาน จับพลัดจับผลูไปอยู่ในเกมออนไลน์ชื่อดัง “Alterwind” ถึงจะอยู่ต่างโลก แต่เขาก็ยังต้องส่งงาน!? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลย
วิทยาฟรีแลนซ์บ้างานจับพลัดจับผลูมาอยู่ในเกมออนไลน์ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังจะทำงานส่งจากในเกมนี่แหละ!
เลเวลก็ต้องเก็บ บอสก็ต้องปราบ งานก็ต้องทำ ไหนๆ ยังกลับบ้านไม่ได้ เปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลยก็แล้วกัน!
ประมาณสองสามปีที่แล้ว มีปาร์ตี้ของคนสี่คนที่เป็นที่ฮือฮาในหมู่ผู้เล่นเกม Alterwind เพราะเป็นการรวมตัวกันของผู้เล่นใหม่ทว่าพัฒนาพลังฝีมืออย่างรวดเร็วจนมีผลงานในการต่อสู้เป็นที่ประจักษ์ กลุ่มผู้เล่นเหล่านี้ไม่เข้าสังกัดกิลด์ใด ทว่าร่วมผจญภัยไปในดินแดนต่างๆ ทุกทวีป อาจมีบางครั้งที่รับงานจากกิลด์บ้าง แต่ก็ไม่เคยเข้าสังกัดใดๆ ด้วยความรักในอิสระไม่ผูกมัด และเล่นเกมเพื่อความสนุกเท่านั้น
สมาชิกในปาร์ตี้ประกอบด้วย
อัคคีหรือเพลิง อาชีพบาร์บาเรียน มีขวานคู่พลังไฟเป็นอาวุธ พลังชีวิตสูงมาก หลายครั้งการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามทำได้เพียงสะกิด การโจมตีของเขาก็รุนแรง บางครั้งจบชีวิตคู่ต่อสู้ได้โดยไม่ต้องใช้อัลติ
อไนราหรือไอซ์ ฉายาเจ้าหญิงน้ำแข็ง อาชีพเทมเมอร์หรือผู้ฝึกสัตว์ อันจะไปจับมอนสเตอร์ตามที่ต่างๆ มาเป็นสัตว์เลี้ยงไว้ใช้งานได้ เธอมีเจ้าอาร์กติก เพนกวินพลังน้ำแข็งเป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจที่รู้ใจกันราวกับอ่านใจกันได้ ถึงเจ้าอาร์กติกจะเป็นเพนกวินตัวเล็กๆ แต่ก็มีพลังโจมตีที่รุนแรงจนไม่สามารถจะดูถูกได้เลย
ภูผา ไม่มีชื่อเล่น อาชีพซามูไร เขามีเกราะที่แข็งแกร่งฟันแทงไม่เข้า อาจจะมีความอึดมากกว่าเพลิงเสียด้วยซ้ำ จะเล่นงานภูผาได้ต้องเล็งเข้าที่ข้อต่อหรือดวงตาอย่างแม่นยำเท่านั้น เขาใช้ดาบคาตานะหรือดาบญี่ปุ่นเป็นอาวุธ ถึงแม้จะมีเกราะที่หนัก แต่ภูผาก็เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว โจมตีอย่างรุนแรงได้ในพริบตา
มารุตหรือลม อาชีพนักสู้ เขาใช้มือเท้ากับวิชาต่อสู้จัดการกับศัตรู อาวุธเป็นกำไลโลหะที่ฝังคริสตัลธาตุลม มารุตเป็นคนอารมณ์ดี ชอบสร้างเสียงหัวเราะให้กับกลุ่ม ไม่เคยมีใครเห็นเขาโกรธหรือเศร้าเลย การโจมตีของลมอาจจะไม่รุนแรงทว่ารวดเร็วจนมองตามไม่ทัน และเป็นการโจมตีอย่างถี่ยิบจนถ้าเผลอก็อาจจะพลังชีวิตหมดได้โดยไม่รู้ตัว
พวกเขาไม่มีฮีลเลอร์ ด้วยลำพังการป้องกันของภูผาและอัคคีก็เป็นปราการอันแข็งแกร่งที่ทำลายได้ยากยิ่งอยู่แล้ว การโจมตีของพวกเขามักจะให้มารุตเป็นคนเปิดเรียกความเสียหายแล้วกลับเข้ามาอยู่ในวงที่มีภูผากับอัคคีเป็นผู้ปกป้อง แล้วจึงหาจังหวะออกไปใหม่ หรือโจมตีระยะไกล ไอซ์ส่งอาร์กติกออกไปต่อสู้โดยที่ตนเองเป็นผู้จ่ายบัพให้กับมอนสเตอร์คู่ใจอยู่ภายใต้การป้องกันโดยไม่ต้องออกมา ในส่วนของอัคคีและภูผานั้นก็ไม่ได้ยืนนิ่งเฉยเป็นกำแพง พวกเขายังโจมตีได้อย่างรุนแรงอีกด้วย
ปาร์ตี้ของคนทั้งสี่โลดแล่นอยู่ในโลกของ Alterwind อยู่ราวๆ ปีครึ่งก็แยกทางกันไป ลือกันว่าเป็นเพราะเพลิงนำไอเท็มที่ต้องใช้ชุบชีวิตอาร์กติกไปขาย ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในกลุ่ม ทว่าไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงของการกระทำของอัคคี
……………..
ปัจจุบัน
เพลิงยืนอยู่ตรงหน้าลานน้ำแข็งขนาดใหญ่อันเป็นที่อยู่ของบอสตัวหนึ่งในทวีปลิโอเซน ทิวทัศน์รอบกายเป็นภูเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ มีลมพัดแรงเป็นบางช่วงทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหนาวอยู่บ้าง ถึงแม้จะเตรียมเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับทวีปนี้แล้วก็ตาม
มารุตเป็นคนแรกที่วิ่งมาหาเขา ชายร่างเล็กผู้แคล่วคล่องยังยิ้มร่าเริงเหมือนทุกคราว
“เพลิง มาจนได้ คราวที่แล้วไม่มาเลยต้องไปตีบอสตัวอื่น มิสเตอร์สโนว์แมนนี่ขาดธาตุไฟไม่ได้จริงๆ”
“อืม เป็นยังไงกันบ้าง”
ลมหันหน้าไปทางอื่นเพียงเสี้ยววินาที แต่เพลิงก็สังเกตเห็น
“พอนายไม่อยู่ ฉันก็แยกออกมา มีสองคนนั้นยังผจญภัยอยู่ด้วยกัน แต่คงไม่สนุกเหมือนตอนอยู่ครบทุกคนหรอก”
ลมชี้ให้เพลิงดูภูผากับไอซ์ที่ยืนอยู่ห่างออกไป รูปลักษณ์ในเกมของหญิงสาวดูโตขึ้น ทว่าเอกลักษณ์ต่างๆ ยังคงเดิม ไม่ว่าจะเป็นผมสีฟ้า ชุดที่เคยแซวกันว่าเหมือนอนิเมชันเรื่องดังที่มีตัวเอกเป็นเจ้าหญิงใช้พลังน้ำแข็ง หรือดวงตาที่แฝงความเยือกเย็น ข้างกายมีสิ่งมีชีวิตที่ดูคล้ายยูนิคอร์นที่มีเขากับหางเป็นน้ำแข็ง คงเป็นมอนสเตอร์รับใช้ตัวใหม่ ส่วนภูผาเปลี่ยนชุดเกราะเป็นแบบที่ปิดคลุมร่างกายมากขึ้น ดูเป็นเกราะซามูไรแบบหลายชั้น เขาสวมหมวกและหน้ากากปิดบังใบหน้าไว้ จึงมองไม่เห็นว่าชายหนุ่มมีอารมณ์เป็นเช่นไร
“สองสามเดือนก่อนฉันเหงา คิดถึงเมื่อก่อนเลยลองทักสองคนนั้นไป ปรากฏว่ากำลังหาไอเท็มที่ได้จากมิสเตอร์สโนว์แมนอยู่พอดี ก็เลยทักนายไปด้วย แต่นายไม่ว่าง”
“เข้าไปคุยกันก่อนสิ เดี๋ยวต้องประชุมก่อนสู้บอสด้วย” เพลิงยังยืนนิ่งอยู่สักพักจนลมต้องผลักเขาให้เดินไปข้างหน้า
ทำใจให้กล้าหน่อย เขาบอกตัวเองก่อนจะก้าวเดินไป
ภูผาเพียงแต่พยักหน้ารับรู้การมาของเขาแต่ไม่กล่าวอะไร ซึ่งก็ไม่แปลกสำหรับชายหนุ่มที่พูดน้อยมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อไนรามองตรงมาที่อัคคี สายตาของเธอมีหลากหลายความรู้สึกปนกัน ส่วนเพลิงพยายามจะสบตากลับแต่ทำได้แค่ไม่นานเขาก็ทนไม่ไหวจนต้องหลบตา เวลาผ่านไปจนมารุตกำลังจะอ้าปากพูดเพื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้น แต่ไอซ์พูดขึ้นก่อน
“สวัสดีเพลิง”
“เพลิงมีอะไรจะอธิบายเรื่องตอนนั้นไหม” ไอซ์ตรงเข้าประเด็น สายตาเย็นเฉียบ
“เรายอมรับว่าตอนนั้นทั้งโกรธทั้งเสียใจ เลยไม่ได้ให้โอกาสเพลิงอธิบาย แต่ตอนนี้เวลาก็ผ่านมานานมากแล้ว พวกเราก็เป็นเพื่อนกันมานาน เราอยากรู้เหตุผลของเพลิง” น้ำเสียงอ่อนลง อไนราดูโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผลขึ้นมาก ไม่ได้เป็นเจ้าหญิงน้อยของกลุ่มอีกแล้ว
“ตอนนั้นแม่เราไม่สบาย เราต้องหาเงินให้แม่ไปผ่าตัด” เพลิงโพล่งประโยคที่เก็บในใจมานาน ไม่ใช่เขาไม่อยากบอก แต่พูดไปก็เหมือนเป็นการแก้ตัว
ทันใดนั้นน้ำตาก็ค่อย ๆ หยดลง
พยายามยกมือขึ้นเช็ด แต่น้ำตากลับทะลักออกมามากกว่าเดิม
“ เรา… เราไม่ได้อยากเอาไปขาย แต่แม่เรารอไม่ไหวแล้ว เราไม่รู้จะทำยังไง เลยตัดสินใจไปแบบนั้น”
“แล้วทำไมตอนนั้นเพลิงไม่บอก เราเป็นเพื่อนกันนะ!”
“เรื่องสำคัญขนาดนี้ ทำไมต้องเก็บไว้คนเดียว”
เพลิงเงยหน้าขึ้นสบตากับไอซ์ ท่ามกลางม่านน้ำตา เขารู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่ปมในใจนี้จะคลายออก
“เราไม่อยากให้คนอื่นรู้ ได้ไม่มีใครกังวล ไม่ต้องเดือดร้อนกับเราด้วย เพราะเป็นเพื่อนคนสำคัญ เราเกรงใจ”
ไอซ์ “แต่ยอมให้เข้าใจตัวเองผิด แล้วไม่มาคุยกันอีก ทำเหมือนให้เสียเพื่อนไปเลยเนี่ยนะ เราเสียใจมากนะเพลิง อาร์กติกก็ตาย เพลิงก็ทำตัวเหมือนตายไปด้วย แทนที่พวกเราจะหาวิธีดี ๆ ได้ ไม่มีใครต้องเสียอะไรไป เหมือนที่เราช่วยกันแก้ปัญหาในเกมไง”
“เรา…เราขอโทษ ไอซ์จะให้เราทำอะไรก็ได้ ถ้ามันไม่ผิด”
“เพลิงพูดเองนะ ทำอะไรก็ได้”
“ถ้ามันไม่ผิดนะ”
“เพลิงเห็นเราเป็นคนยังไง”
ไอซ์เห็นเพลิงร้องไห้ เธอกำลังน้ำตาคลออยู่ คิดถึงอาร์กติก กับเวลาที่เสียไป อยู่ ๆ นายเพลิงก็จะคีพคาร์ซื่อตรง เธอยิ้มทั้งน้ำตา
“เอาแบบนี้ นอกเกมเรามีธุระที่ต้องมีเพื่อนไปด้วย เพลิงก็ไปกับเราวันนั้นก็แล้วกัน เดี๋ยวจะนัดไปอีกที คราวนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายห้ามปฏิเสธ ส่วนอย่างอื่นไว้คิดออกว่าอยากให้เพลิงทำอะไรเพื่อชดใช้ให้อาร์กติก จะบอกอีกที”
“ครับ” เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่ได้กลับมาคุยกันกับเพื่อนในปาร์ตี้ หลังจากที่เขาทำทุกอย่างพัง โอกาสครั้งนี้ เพลิงทราบดีว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับ อยากจะทำให้ดีที่สุด ด้วยความจริงใจ
ภูผากับมารุตเข้ามาบีบไหล่อัคคีไว้คนละข้าง ก่อนจะประชุมวางแผนการต่อสู้กับบอสที่แข็งแกร่ง มิสเตอร์สโนว์แมน
มิสเตอร์สโนว์แมน ดูเหมือนจะเป็นชื่อของมนุษย์หิมะผู้ใจดี แต่ในความเป็นจริงของเกม Alterwind แล้ว ไม่ใช่เช่นนั้นเลย เขาคือเยติปิศาจร่างยักษ์ผู้ดุร้าย มีลมหายใจเยือกแข็งที่นอกจากจะแช่แข็งเพลเยอร์ได้แล้ว ยังมีพิษจากหิมะกัดที่ค่อยๆ กัดกินพลังชีวิตของผู้ที่ต้องลมหายใจเยือกแข็ง และยังมีอาวุธเป็นน้ำแข็งที่ละลายได้ยากมีรูปร่างคล้ายกับเคียวของตั๊กแตนตำข้าวอยู่ที่แขนทั้งสองข้าง การเคลื่อนไหวรวดเร็ว โจมตีรุนแรง วิธีการต่อสู้ที่ได้ผลคือใช้ความร้อนเข้าละลายเคียวและทำลายพิษของมัน อันที่จริงปาร์ตี้ของอไนราก็พอจะต่อสู้กับมันได้โดยไม่ต้องมีอัคคี เนื่องจากประสบการณ์และฝีมือของผู้เล่นทั้งสาม เพียงแต่จะยากลำบากไปสักหน่อยเท่านั้น
เพลเยอร์ทั้งสี่เข้าประจำตำแหน่งตามที่วางแผนไว้ คือมารุตและอไนราอยู่วงในโดยมีอัคคีและภูผาคอยปกป้อง ลมกระโดดขึ้นบนอากาศยิงคลื่นลมเป็นวงกลมหลายวงซ้อนกันออกไปปะทะมิสเตอร์สโนว์แมนเพื่อสร้างความเสียหายแรก ด้านไอซ์ส่ง “เฮาเคีย” มอนสเตอร์รูปร่างคล้ายยูนิคอร์นที่มีเขาและหางเป็นน้ำแข็ง น้ำแข็งนี้คือ “น้ำแข็งนิรันดร์” ที่ไม่มีวันละลาย โดยปกติธาตุเดียวกันจะโจมตีกันเองไม่ค่อยได้ผลมากนัก ทว่าด้วยระดับชั้นของมอนสเตอร์แล้ว เฮาเคียก็น่าจะพอทำอะไรมิสเตอร์สโนว์แมนได้บ้าง มันวิ่งพุ่งเข้าใส่ขาของบอสอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายได้เล็กน้อย
โอววววว
เยติปิศาจส่งเสียงร้องคำรามก่อนที่มันจะกระทืบพื้นหลายครั้งติดต่อกัน ส่งผลให้เกิดหิมะถล่มโดยรอบ ทั้งสี่คนต้องเคลื่อนที่มาอยู่กลางลานน้ำแข็งและกลายเป็นเป้านิ่ง มนุษย์หิมะขนปุยหายไปจากสายตา
อยู่ที่ไหน
ทั้งหมดสอดส่ายสายตามองหามิสเตอร์สโนว์แมนทว่าไม่พบ
“ภูผา!” มารุตร้อง ชี้ไปที่ด้านหลังของภูผา เกราะซามูไรถูกเจาะเป็นรู มีเลือดไหลออกมาเป็นทางยาว
ซามูไรร่างใหญ่ในชุดเกราะไม่ได้ส่งเสียงร้องแสดงความเจ็บปวด ทว่าเขาเปลี่ยนท่าเป็นการเตรียมชักดาบออกจากฝัก ขาข้างหนึ่งก้าวไปด้านหน้า ย่อตัวลง เขาพร้อมที่จะชักดาบออกมาฟันด้วยความรวดเร็วเมื่อบอสเข้ามาใกล้อีกครั้ง
ภูผาใช้สกิล “สัมผัสรอบทิศ” เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของสรรพสิ่งในระยะ 3 เมตรรอบตัว
มาแล้ว
เคียวคู่น้ำแข็งจู่โจมจากด้านบน มันตั้งใจจะปลิดศีรษะของซามูไรหนุ่ม
“ช้าไป!” เขากล่าวพร้อมกับการหลบอย่างทันท่วงทีแล้วชักดาบโจมตีสวนกลับไป รวดเร็วจนแทบมองไม่ทัน มิสเตอร์สโนว์แมนได้รับบาดแผลใหญ่ที่ท้อง เลือดสีแดงฉานไหลลงมาตัดกับขนปุยสีขาว
“ซ้ำเลยเฮาเคีย!” อไนราร้องพลางจ่ายบัพให้มอนสเตอร์คู่ใจของเธอ ดวงตาของเธอเรืองแสง เขาของเฮาเคียก็เรืองแสงขึ้นพร้อมกัน พญาม้าผู้สง่างามพุ่งตรงเข้าไปซ้ำที่แผลของเยติจนเปิดมากกว่าเดิม บอสร้องโหยหวน
อัคคีอัดพลังความร้อนเข้าไปที่ขวานคู่ใจทั้งสองของเขาก่อนจะวิ่งเข้าไปใช้อัลติใส่มิสเตอร์สโนว์แมน “ขวานคู่เพลิงผลาญ!” ทว่าบอสใช้เคียวน้ำแข็งเข้ารับจึงไม่ได้รับความเสียหาย กระนั้นเคียวของมันก็บิ่นไปจากการที่โดนความร้อน
“เพลิง ทำลายเคียวของมัน!” ลมกล่าวก่อนใช้อัลติ “ประทับวายุ คลุมทั่วร่าง” นั่นคือการใช้คลื่นลมคลุมทั่วร่างจนเคลื่อนไหวได้เร็วมากกว่าปกติหลายเท่าตัว ชายหนุ่มร่างเล็กผู้ว่องไวกระโดดเข้าหาบอสร่างยักษ์แล้วกระหน่ำโจมตีทั้งมือเท้าอย่างรวดเร็วจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ด้านอัคคีก็ใช้ขวานเพลิงคู่ของเขาเข้าปะทะกับเคียวคู่ของพญาเยติ น้ำแข็งที่สร้างเคียวแม้จะละลายได้ยากกว่าปกติทว่าไม่ใช่น้ำแข็งนิรันดร์ มันจึงถูกทำลายได้ เคียวมีขนาดเล็กลง และความเสียหายที่มารุตสร้าง ถึงแม้จะได้รับทีละน้อย แต่เมื่อโดนเข้าไปอย่างมหาศาล เมื่อรวมกันจึงเป็นความเสียหายที่รุนแรง
ทว่าเวลาของอัลติก็มีวันหมด ลมใช้ประทับวายุได้เพียงสองนาที ก่อนที่เขาจะต้องกลับมาพักในวงป้องกัน เหลือเพียงอัคคีที่ต้องรับมือกับบอส ถึงแม้พลังไฟของเขาจะทำลายเคียวได้แต่ก็ต้องใช้เวลา และการต่อสู้ตามลำพังกับบอสระดับนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพลิงเพลี่ยงพล้ำได้รับความเสียหายหลายครั้ง
โอววววว
พญาเยติร้องอีกครั้ง มันอ้าปากกว้าง
“ระวัง มันจะใช้ลมหายใจเยือกแข็ง!” ลมร้องเตือน
เพลิงพยายามกระโดดไปด้านหลังเพื่อหลบ แต่ระยะไม่พอ เขาถูกลมหายใจเยือกแข็งเข้าอย่างจัง!
อัคคีจะเคลื่อนไหวไม่ได้ไปราวๆ สิบถึงสิบห้าวินาที และลมหายใจเยือกแข็งยังเป็นพิษทำให้พลังชีวิตของเขาลดลงเรื่อยๆ ลมยิงคลื่นลมออกไปอีกครั้ง สร้างความเสียหายได้ไม่มากนัก
ภูผาขยับจะเข้าไปต่อสู้ แต่เขายังลังเลเนื่องจากจะไม่มีใครคอยปกป้องไอซ์กับลม
“ไม่เป็นไร ฉันจะใช้อัลติ” เจ้าหญิงน้ำแข็งกล่าว ร่างกายของเธอเรืองแสงขึ้น อไนรากระโดดขึ้นไปบนอากาศ เฮาเคียวิ่งตรงมาเพื่อรับที่ตำแหน่งของเธอ ไอซ์ตกลงมาบนหลังม้า ร่างกายทั้งคู่เรืองแสงขึ้นจนสว่างจ้า แล้วแสงนั้นก็ค่อยๆ จางลง
“ซาจิทอเรียส”
เจ้าหญิงน้ำแข็งกับยูนิคอร์นรวมร่างกันกลายเป็นคนครึ่งม้าหรือเซ็นทอร์ เขาน้ำแข็งนิรันดร์มีขนาดใหญ่ขึ้นมากและเปลี่ยนสภาพเป็นทวนให้อไนราถือที่มือขวา ถึงแม้อัคคีจะยังเคลื่อนไหวไม่ได้แต่เขาก็ยังมองเห็น ชายหนุ่มตกตะลึงกับสิ่งนี้ เช่นเดียวกับมารุตและภูผาที่ถึงจะเคยเห็นมาแล้ว แต่จะเห็นกี่ครั้งก็ยังต้องทึ่ง
ร่างรวมของอไนราพุ่งตรงเข้าหามิสเตอร์สโนว์แมน มันใช้เคียวคู่ไขว้เป็นกากบาทขึ้นรับ แต่เคียวคู่ที่อ่อนแอไม่อาจจะทนทานต่อน้ำแข็งนิรันดร์ มันหักสะบั้นในทันที ทวนใสเล่มนั้นทิ่มเข้าไปกลางหน้าอกและพญายูนิคอร์นยังวิ่งต่อไปจนเสียบร่างของเยติไว้กับภูเขา
พลังของอัลติหมดลง คนกับม้าแยกออกจากกัน เยติปิศาจทรุดตัวลงด้วยความบาดเจ็บ แต่มันยังไม่ตาย
“ระวัง!” ลมกระโดดเข้ามาผลักไอซ์ออกไป ทำให้เขาโดนลมหายใจเยือกแข็งเฮือกสุดท้ายเข้าอย่างจัง
ทว่าเยติปิศาจก็ทำอะไรต่อจากนั้นไม่ได้แล้ว มันสิ้นชีพด้วยดาบคาตานะของภูผา
………………
“สนุกมากเลยเพลิง คิดถึงวันเก่าๆ” มารุตยิ้มกว้างพูดกับเพลิง
“แล้วจะนัดไปนะ” ไอซ์บอก “ตกลงกันแล้ว ต้องมานะ”
“ได้อยู่แล้ว” เพลิงรับคำ
ภูผาหันมาพยักหน้าและโบกมือให้ตามสไตล์ของคนพูดน้อย
“ไว้เจอกัน” อัคคีพูดถึงขณะทุกคนเรียกเมนูเพื่อออกจากเกม ส่วนเขายืนครึ้มอกครึ้มใจต่ออีกสักพักถึงได้ออกจากเกมไป