วิทยา ฟรีแลนซ์ผู้บ้างาน จับพลัดจับผลูไปอยู่ในเกมออนไลน์ชื่อดัง “Alterwind” ถึงจะอยู่ต่างโลก แต่เขาก็ยังต้องส่งงาน!? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลย
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ไทย,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,ผจญภัย,ต่างโลก,เกมออนไลน์,ไลท์โนเวล,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ยวิทยา ฟรีแลนซ์ผู้บ้างาน จับพลัดจับผลูไปอยู่ในเกมออนไลน์ชื่อดัง “Alterwind” ถึงจะอยู่ต่างโลก แต่เขาก็ยังต้องส่งงาน!? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลย
วิทยาฟรีแลนซ์บ้างานจับพลัดจับผลูมาอยู่ในเกมออนไลน์ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังจะทำงานส่งจากในเกมนี่แหละ!
เลเวลก็ต้องเก็บ บอสก็ต้องปราบ งานก็ต้องทำ ไหนๆ ยังกลับบ้านไม่ได้ เปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลยก็แล้วกัน!
โอวี่ยื่นโน้ตบุคสภาพเหมือนใหม่ให้กับเขา
“นอกจากจะซ่อมให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ฉันยังอัปเกรดให้นิดหน่อย เร็วขึ้นประมาณ 200% ไม่เยอะหรอก ลบข้อมูลขยะให้ด้วย” หุ่นโดรนบรรยายสิ่งที่มันทำ ดูคราวนี้จะอวดเก่งแต่พอประมาณไม่มากเกินไป
“เท่าไหร่ครับ” วิทยาเรียกเมนูในเกมขึ้นมา
“ส่งข้อความไปให้แล้ว คราวนี้ไม่แพงหรอกงานง่ายๆ” ชายหนุ่มยิ้มบางๆไม่แพง ดูจะขัดกับตัวเลขตรงหน้าเขานิดหน่อย แต่ในเมื่อมันอาจจะเป็นโน้ตบุคต่างโลกเครื่องเดียวของที่นี่ ราคานี้ก็อาจจะเหมาะสมก็ได้
“งั้นเดี๋ยวผมขอทำงานตรงนี้เลยได้ไหมครับ พอดีงานมันเร่ง” หลังจากแทบจะจูบคอมพิวเตอร์สุดรัก วิทยาก็เอ่ยปากขอนั่งทำงาน หุ่นโดรนสีขาว “พยักหน้า” ซึ่งก็คือการขยับทั้งตัวเป็นเชิงตกลง ชายหนุ่มปาดของที่ระเกะระกะรอบตัวออกไปให้พ้นทางแล้วจึงนั่งทำงานในห้องของโอวี่ วันนี้น้ำกับเพลิง และอายูมิติดภารกิจที่โลกจริงกันหมดจึงไม่มีใครเข้ามา วิทยานั่งอยู่นานหลายชั่วโมงโดยไม่ลุกเปลี่ยนอิริยาบถเลยจนโอวี่เริ่มเป็นห่วง
“เฮ้ย ไม่ลุกเดินบ้างเรอะ ร่างกายมนุษย์มันไม่ได้ถูกสร้างมาให้ทำงานแบบนี้นะ”
ไม่มีเสียงตอบจากผู้ที่อยู่ตรงนั้นนอกจากเสียงรัวแป้นพิมพ์ ถ้าหากว่าหุ่นยนต์ถอนหายใจได้ โอวี่ก็คงจะทำไปแล้ว ไม่รู้ใครกันแน่ที่เป็นหุ่นยนต์ มันคิด ถึงจะเป็นในเกม แต่เห็นว่าเกมนี้สมจริงมาก ร่างกายมนุษย์ที่สร้างมาก็สแกนมาจากร่างกายจริงๆ อาจจะปรับแต่งพวกใบหน้ากับรูปร่างได้ แต่ภายในก็คือระบบเดิมเหมือนกับที่อยู่ข้างนอก โพชันหรือเวทมนตร์ก็ได้แต่เพิ่มกำลังวังชา รักษาออฟฟิศซินโดรมไม่ได้หรอกนะ
ก่อนหน้านี้โอวี่สังเกตเห็นแววตาของวารินที่มักจะจับจ้องมาที่วิทยาอยู่ตลอดเวลา มันเข้าใจว่าหญิงสาวมีระดับความห่วงใยคนบ้างานตรงหน้ามากกว่าปกติ ทว่านอกจากรอยยิ้มร่าเริงที่มีตามนิสัยแล้ว หลายครั้งมันยังได้ยินเสียงดุอยู่บ่อยๆ อีกด้วย นี่ถ้ายัยนั่นอยู่ด้วย หมอนี่ได้โดนทุบกะโหลก หุ่นยนต์คิดในใจพลางทำงานของมันไปด้วย เพลินกับงานไปไม่นานมันก็เหลือบมาเห็นชายหนุ่มหลับฟุบหน้าลงกับคีย์บอร์ด เป็นอีกครั้งที่มันอยากจะถอนหายใจได้ ดีนะที่ฉันเก็บผ้าห่มสมัยเลี้ยงแมวเอาไว้ด้วย หุ่นสีขาวไปรื้อหาผ้าห่มผืนนั้นที่มุมห้องแล้วนำมาคลุมไหล่ให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่ มันคงดูไม่สะอาดนักแต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย สักพักมันก็เข้าโหมดพักผ่อนเหมือนกัน
…………..
“ขนหางนกฟินิกซ์ไม่มีอีกแล้วเหรอเนี่ย ตามหามาทุกที่แล้วนะ กระทั่งร้าน PAWS ที่เค้าว่ามีของเยอะก็ไม่มี” เพลเยอร์คนหนึ่งบ่นขึ้นที่หน้าร้าน PAWS สาขาแรก “คุยกับคนขายก็ไม่รู้เรื่อง ได้แต่ชี้นิ้วเลือกบนหน้าจอ” ข้อเสียของการให้มอนสเตอร์มาเป็นพนักงานขายก็คือไม่สามารถพูดจาสื่อสารกับผู้ซื้อได้ ได้แต่ใช้หน้าจอแท็บเล็ตกับภาษาใบ้ จึงใช้พนักงานขายส่งเสริมการขายไม่ได้เลย ทำได้อย่างดีที่สุดก็คือการต่อรองราคาเมื่อมีมอนสเตอร์เอาไอเท็มมาขายเท่านั้น ใช่ว่าดาร์สจะไม่รู้เรื่องนี้ แต่ในเมื่อพูดภาษาของเพลเยอร์ไม่ได้ ก็ไม่อาจจะแก้ไขปัญหานี้ได้
“เพื่อนฉันบอกว่าจะไปฟาร์มขนหางจากนกฟินิกซ์ ก็ไม่เจอพวกมันเลยสักตัว แบบนี้ก็คราฟต์โพชันเสริมพลังไฟไม่ได้” เพลเยอร์คนเดิมบ่นอีก ดูเหมือนเขาจะต้องการของรายการนี้มาก
“นี่นาย เห็นว่าร้านของกิลด์เมทัลสแตนด์มีขนหางนกฟินิกซ์ขายแน่ะ” เพลเยอร์อีกคนหนึ่งบอกอย่างตื่นเต้นในขณะที่เขาเปิดหน้าจอข่าวสาร
“จริงเหรอ” เพลเยอร์คนแรกเข้ามาดูด้วย
“จำนวนจำกัด แบบนี้ต้องรีบไปแล้ว”
จากนั้นลูกค้าที่อยู่หน้าร้าน PAWS ก็หายไปเกือบครึ่ง ไอเท็มขนหางนกฟินิกซ์นั้นเป็นของที่มีประโยชน์มาก เนื่องจากนำไปคราฟต์ได้หลายอย่าง ทั้งโพชันเพิ่มพลังธาตุไฟ โพชันชุบชีวิต รวมถึงการนำไปทำเครื่องประดับ ไอเท็มชุบชีวิตอัตโนมัติที่พวกวิทยาเคยไปคราฟต์มาก็มีขนหางฟินิกซ์เป็นส่วนประกอบด้วย นอกเหนือจากเถาวัลย์สีชาด
โดยปกติแล้วขนหางนกฟินิกซ์มีความหายากอยู่ในระดับกลางๆ คือไม่ได้หายากนัก แต่การจะฟาร์มก็อาจจะลำบาก ทั้งการตามหารังฟินิกซ์ ทั้งต้องรอให้มันสลัดขนหางออกเพื่อเกิดใหม่ ตามตำนานกล่าวว่านกฟินิกซ์จะเกิดใหม่ทุกๆ ห้าร้อยปี โชคดีที่ในเกมนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไปที่รังแล้วจะได้ของทันที ส่วนการต่อสู้เพื่อแย่งขนหางมาเลยนั้นเล่า ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่ก็ต้องเสียทั้งเวลา ทั้งโอกาสที่จะเสียชีวิต กลายเป็นขาดทุนเพราะไอเท็มชุบชีวิตก็ต้องใช้ขนหางฟินิกซ์ในการสร้าง
… ทว่าก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบกับความยากลำบากในการต่อสู้กับนกฟินิกซ์ โดยเฉพาะเหล่าอัศวินที่มีทั้งฝีมือและจำนวน
ระบบร้านค้าส่งรายงานการขายถึงเพลเยอร์ทุกคนที่มีรายชื่อเป็นเจ้าของกิจการโดยอัตโนมัติทุกๆ วัน รวมถึงข่าวสารเรื่องขนหางฟินิกซ์ที่ออกจากปากเพลเยอร์นี้ด้วย โดยระบบจะตรวจจับคำพูดบริเวณใกล้เคียงร้านค้าเพื่อนำมาวิเคราะห์ว่ามีเนื้อหาใดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้บ้างหรือไม่ โดยถือว่าเพลเยอร์หรือมอนสเตอร์ทั้งหมดยินยอมให้ข้อมูลดังกล่าวหากต้องการซื้อขายกับทางร้านค้า และแสดงความยินยอมเมื่อกดปุ่มตกลงในหน้าจอการซื้อขาย
ร้านอาหารกลางแจ้งหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งในโอเอซิสแห่งหนึ่งของทวีปไซฟาส
“สรุปได้ว่ายอดขายลดลงเพราะเราไม่มีขนหางนกฟินิกซ์ค่ะ” น้ำกล่าวขึ้นพร้อมกับดูหน้าจอรายงานสรุปประจำวัน “เป็นไปได้ว่าคู่แข่งเราจะกั๊กขนหางนกฟินิกซ์ไว้หมด” เธอยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบ
“ถึงจะจริงแต่เราก็ไม่มีหลักฐานว่าใครเป็นคนทำ” วิทยาตอบเรียบๆ อันที่จริงเขาก็ไม่รู้สึกแปลกใจเท่าใดนัก และก็ไม่ค่อยกังวลด้วย เพราะถึงยอดขายจะลดลงไปแต่ก็ยังเหลืออยู่พอสมควร เพียงพอต่อการจ่ายค่าจ้าง ขยายกิจการต่อ และเหลือเป็นกำไร เพียงแต่ว่าถ้าคู่แข่งยังทำอย่างนี้ต่อไป บริษัท PAWS ก็อาจจะลำบากได้
“จริงๆ เกมนี้ก็มีกฎห้ามกักตุนสินค้าอยู่ แต่ลำพังการที่เมทัลสแตนด์มีขนหางนกฟินิกซ์ขาย มันก็ไม่ใช่หลักฐานว่าพวกเขากักตุนสินค้า พวกเขาไม่ได้แสดงสต็อกว่ามีจำนวนมากด้วย ยังขายตามปกติ” อายูมิจิบไวน์พูดเหมือนทุกครั้งที่ประชุมในโรงแรมตอนเย็น
“แม้แต่ดาร์กบลัดยังไม่มีเลยนะคะ” น้ำบอก เธอค่อนข้างเชื่อว่าเป็นฝีมือของเมทัลสแตนด์
“ใช่แหละค่ะ แต่เท่านี้มันยังใช้เป็นหลักฐานไม่ได้” อายูมิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เครียดขึ้นเล็กน้อย “เราต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน อย่างภาพถ่ายสต็อกสินค้า แม้แต่คลิปอัศวินสู้กับนกฟินิกซ์ ถ้าไม่ได้มาแบบยิ่งใหญ่อลังการก็อาจจะใช้เป็นหลักฐานไม่ได้เลย เพราะทุกคนก็ฟาร์มได้กัน”
“หาหลักฐานไม่ได้ก็ไม่ต้องไปหาหรอกครับ” เพลิงกอดอกพูด ดูเขาไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย แถมยังยิ้มที่มุมปากอีกด้วย
“เราก็ยังมีคุณวิทย์ที่พูดภาษามอนได้อยู่ตรงนี้ไง”
“หมายความว่ายังไง” ทุกคนยังไม่เข้าใจ
“เราก็ไปตามหานกฟินิกซ์แล้วก็คุยให้เค้าเก็บขนหางไว้ให้เรา แลกกับการที่เราปกป้องพวกเค้า หมายถึงจ้างมอนมาปกป้องน่ะครับ”
“แต่เท่าที่อ่านนิยายมา พวกฟินิกซ์ค่อนข้างหยิ่งเลยนะครับ แถมตอนนี้โดนล่าหนัก ไม่รู้จะไปตามหาได้ที่ไหนอีก” วิทยาแย้ง สกิลคุยภาษามอนสเตอร์ก็นับว่ามีประโยชน์อยู่หรอก แต่ความเป็นอินโทรเวิร์ตทำให้เขาไม่ค่อยชอบคุยกับคน (มอน) แปลกหน้าสักเท่าไร
“อ๊ะ” วิทยาคว้าบางสิ่งที่ปลิวมาตามลมได้
“ขนหางนกฟินิกซ์?!”
“คุณวิทย์ มีฟินิกซ์แอบอยู่หลังก้อนหินตรงนั้นครับ!” เพลิงบอกอย่างตื่นเต้น ทุกคนหันไปตามนิ้วของเพลิง เห็นนกในตำนานแอบอยู่อย่างเขินๆ
พวกเจ้าไปหาสถานที่รโหฐาน ไม่มีผู้อื่นมองเห็น ข้ามาเพื่อเจรจา
……………