วิทยา ฟรีแลนซ์ผู้บ้างาน จับพลัดจับผลูไปอยู่ในเกมออนไลน์ชื่อดัง “Alterwind” ถึงจะอยู่ต่างโลก แต่เขาก็ยังต้องส่งงาน!? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลย
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ไทย,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,ผจญภัย,ต่างโลก,เกมออนไลน์,ไลท์โนเวล,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ไปต่างโลกยังต้องเอางานไปทำด้วยอีกเหรอเนี่ยวิทยา ฟรีแลนซ์ผู้บ้างาน จับพลัดจับผลูไปอยู่ในเกมออนไลน์ชื่อดัง “Alterwind” ถึงจะอยู่ต่างโลก แต่เขาก็ยังต้องส่งงาน!? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลย
วิทยาฟรีแลนซ์บ้างานจับพลัดจับผลูมาอยู่ในเกมออนไลน์ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังจะทำงานส่งจากในเกมนี่แหละ!
เลเวลก็ต้องเก็บ บอสก็ต้องปราบ งานก็ต้องทำ ไหนๆ ยังกลับบ้านไม่ได้ เปิดบริษัทสตาร์ทอัพในเกมมันซะเลยก็แล้วกัน!
หลังจากกินโพชันเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตและรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดีแล้ว น้ำและเพลิงก็กลับไปที่เต็นท์บัญชาการอีกครั้ง ทั้งสองเห็นวิทยานั่งกอดเข่าอยู่บนเก้าอี้ โดยที่มือไม่ได้แตะต้องคีย์บอร์ด แต่เขาก็ไม่ได้ไปนอนพักเช่นกัน
“นึกศัพท์ไม่ออก” แพนด้านักแปลเงยหน้าอันอิดโรยขึ้นมาบอกเพื่อนของเขาด้วยเสียงแหบแห้ง ก่อนจะซบหน้าลงบนเข่า
“นึกไม่ออกก็ไปนอนพักก่อนเถอะค่าาา” วารินพูดยานคางแล้วรีบพยุงวิทยาที่กำลังสมองเบลอให้ไปนอนพักที่โซฟา ชายหนุ่มหลับไปในเวลาอันรวดเร็ว คงเป็นเพราะไม่ได้นอนหลับมานาน
หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินมาที่คอมพิวเตอร์เพื่อจะปิดให้ เธอเห็นแถบความคืบหน้าของงาน 80% แล้ว
อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว จบงานนี้ต้องพักนะคะ เธอคิดในใจก่อนจะชัตดาวน์คอมพิวเตอร์ แล้วมานั่งที่โต๊ะประชุม เพลิงกับโอวี่ก็มานั่งด้วย
“เราคุยกันเองก่อนดีไหมครับ ให้คุณวิทย์นอนพักไปก่อน” เพลิงเสนอ น้ำพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้ดูภาพที่ส่งมาจากกล้องที่ติดตั้งไว้ในเมืองและตามที่ต่างๆ” โอวี่บอก และเปิดจอภาพโฮโลแกรมขึ้นบนโต๊ะ ในจอนั้นฉายภาพอัศวินจำนวนมากกำลังค้นหาบางสิ่งอยู่ ส่วนมุมมองที่มองเห็นท้องฟ้าก็มีนกเรเวนบินอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน
“ถึงจะยังหาไม่เจอที่นี่แต่ไม่นานพวกนั้นต้องเจอความผิดปกติแน่ๆ”
“ผมวางกับดักไว้รอบๆ โดมบาเรียแล้ว ถ้ามีการบุกรุกกับดักจะทำงาน แล้วยังมีป้อมปืนอัตโนมัติที่ไปซื้อมาเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง”
“บาเรียที่ฉันสร้างก็ทนการโจมตีได้พักหนึ่ง น่าจะถ่วงเวลาได้พอสมควร” โอวี่เสริม “พอบาเรียแตกก็ให้พวกมอนสเตอร์เข้าปะทะได้เลย”
“ถึงยังไงก็อย่าพยายามสู้ให้นาน เราแค่ถ่วงเวลาให้พวกฟินิกซ์วาร์ปไปฐานสอง” หุ่นโดรนพูดต่อไป “พวกอัศวินมีจำนวนมาก ยังไงก็สู้ไม่ชนะหรอก ยิ่งถ้าพวกเลเวลสูงๆ มาด้วยน่าจะไม่ไหว งบพวกนายก็มีจำกัดด้วย ไม่งั้นฉันจะแนะนำให้ไปจ้างพวกจักรกลมาช่วยสู้อีกแรง แต่ค่าจ้างพวกนั้นก็แพงมาก”
เพลิงถอนหายใจ “ขนาดโอวี่บอกว่าแพงก็คงจะแพงมากจริงๆ ผมเคยคิดว่าถ้ามีมอนสเตอร์เลเวลสูงมาเป็นพวกก็น่าจะสู้ได้สบายขึ้น แต่พวกนั้นก็เจรจายาก ยิ่งคุณวิทย์พูดภาษามอนได้อยู่คนเดียว แล้วเค้าเจรจาไม่ค่อยเก่งด้วย”
“ตอนนี้น้ำว่าคุณวิทย์เจรจาไม่เก่ง แต่ถ้าเวลาผ่านไปก็ไม่แน่หรอกค่ะ เพราะคุณวิทย์เป็นคนที่ไม่มีพิษภัย ใครๆ ก็เป็นเพื่อนได้หมด”
“นั่นก็ใช่แหละครับ แต่สถานการณ์ที่เราเจอตอนนี้มันรอไม่ได้น่ะสิ” อัคคีถอนหายใจ
“ยังไงก็ตามถ้าเราย้ายฐานไปแล้วก็น่าจะซ่อนตัวจนขนหางงอกสมบูรณ์ ก็ครบตามสัญญาพอดี” โอวี่จ้องเพลเยอร์ทั้งสองด้วยเลนส์ตาเดี่ยวกลมโตของมัน “เราแค่อดทนให้ถึงตอนนั้น”
หรือเราจะขอร้องสองคนนั้นให้มาช่วย แต่คราวที่แล้วเราก็ไม่ได้ไปแล้วเขาจะมาเหรอ เราออกจากปาร์ตี้นั้นมาแล้ว ถ้าไม่จำเป็นเราก็จะไม่กลับไปอีก แต่คราวนี้ถือว่าจำเป็นหรือเปล่านะ ความคิดวนเวียนอยู่ในหัว เอาไว้ไม่มีทางออกจริงๆ ค่อยไปขอร้องละกัน
อัคคีถอนหายใจใบหน้าคร่ำเครียด วารินเอามือมาแตะที่บ่าเพื่อให้กำลังใจ เธอคิดว่าเพลิงกำลังกลุ้มใจกับสถานการณ์ แต่หารู้ไม่ว่าเธอคิดถูกแค่ครึ่งเดียว
………………
กิลด์ดาร์กบลัด สาขาซลิฟิส
“เล่นภาพจากทะเลทรายตรงนั้นอีกครั้งซิ”
โนอาห์อยู่ในห้องขนาดใหญ่ที่ผนังห้องด้านหนึ่งฉายภาพที่มาจากดวงตาของเรเวนเกือบทุกตัวที่ถูกสั่งให้ออกค้นหา พ่อมดหนุ่มต้องการหาเหล่าฟินิกซ์ให้พบโดยเร็วที่สุด เขายืนอยู่กับแม่มดที่จัดการ “กล้อง” เหล่านี้มานานหลายชั่วโมงแล้ว ตัวเขาเองก็อ่อนล้าเต็มทีแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ สาเหตุที่ต้องใช้เวลามากมาสังเกตดูด้วยตนเอง ไม่ได้ใช้เวทมนตร์ตรวจหาความผิดปกติก็เพราะ “ความผิดปกติ” ที่ต้องตรวจหามีขอบเขตที่กว้างเกินกว่าจะระบุได้
“นั่นน่ะ ซูมเข้าไปซิ” แม่มดสาวทำตามอย่างว่าง่าย “ดูทรายมันเคลื่อนไหวแปลกๆ นะว่าไหม”
“ค่ะ” เธอตอบรับสั้นๆ ฉายภาพให้ดูซ้ำอีก การเคลื่อนไหวของทรายบริเวณนี้ดูไม่ต่อเนื่องจริงๆ
“จับภาพไว้” เขาสั่งอีก เมื่อได้ไฟล์ภาพนั้นมาแล้ว โนอาห์รีบส่งไปให้ลูก้าดู
“ข้าเจออะไรเข้าแล้ว” ขึ้นว่าอ่านแล้ว แต่ไม่มีการตอบกลับ พ่อมดหนุ่มกำหมัดอย่างหงุดหงิด รำคาญนิสัยเจ้านั่นชะมัด
เจ้านั่นที่ว่า ยืนเงียบๆ อยู่ข้างหลังเขา
“ว้าก?!” โนอาห์สะดุ้งจนเสียมาด หลังจากเขาตั้งสติได้ก็รีบต่อว่า “มาก็ให้สุ้มให้เสียงกันบ้างสิ ตกใจหมด”
“ให้เรเวนไปเก็บภาพบริเวณนั้นเพิ่มอีก” ลูก้าสั่ง “เดี๋ยวข้าจะสั่งเหล่าอัศวินให้ไปลาดตระเวณบริเวณนั้นด้วย”
คำสั่งต่างๆ ได้รับการถ่ายทอดอย่างรวดเร็ว การที่จะพบเหล่าฟินิกซ์ที่ซ่อนตัวอยู่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา่เท่านั้นแล้ว
………………….
เวลาพลบค่ำ เต็นท์บัญชาการกลางทะเลทราย
วิทยาตื่นขึ้นอย่างงงงวย ความทรงจำสุดท้ายคือการทำงานและนึกศัพท์ที่จะใช้แปลไม่ออก แม้จะพยายามค้นคว้าเพียงใดก็ไม่พบศัพท์ที่เหมาะสมสักที หากเป็นเวลาปกติเขาคงจะพักการทำงานแล้วไปทำอย่างอื่นเพื่อให้หัวโล่งขึ้น แต่เมื่อเป็นงานยากและเร่งก็แทบจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องนั่งทำงานให้นานที่สุด
เขาเดินมาที่คอมพิวเตอร์ หงุดหงิดในใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามันปิดอยู่และต้องเสียเวลาเปิดมันขึ้นมาใหม่ แต่เมื่อเขานึกขึ้นได้ว่าคงจะมีใครปิดให้ด้วยความห่วงใยก็มีความรู้สึกที่ดีขึ้น
ระหว่างที่รอให้คอมเปิด ชายหนุ่มเดินไปดริปกาแฟกับหาขนมเพื่อเป็นพลังงานให้สมอง ช่วงนี้จะมีขนมวางไว้ให้อยู่เสมอ เป็นฝีมือของวารินที่จัดเตรียมขนมไว้ให้ทุกคนที่มีสิทธิ์เข้ามาในเต็นท์บัญชาการแห่งนี้ได้ น้ำเลือกขนมได้ถูกปากเขาทุกครั้ง ถึงแม้ว่าวิทยาจะแทบไม่เคยบอกเลยว่าเขาชอบกินขนมรสชาติและผิวสัมผัสแบบใด นั่นทำให้เขารู้สึกดีกับวารินมากยิ่งขึ้น เขามองหาเธอและคนอื่นๆ แต่ก็ไม่พบใครเลย พวกนั้นคงจะล็อกเอาต์ออกจากเกมไปแล้ว
เมื่อเติมพลังและคาเฟอีนเข้าสู่กระเพาะแล้ว คอมพิวเตอร์ก็เปิดขึ้นพร้อมที่จะทำงานต่อไป หัวสมองเมื่อได้รับการพักผ่อน มันก็นึกศัพท์ออกได้เอง การแปลในขณะนี้ราบรื่นดั่งกระแสธารในแม่น้ำ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็มั่นใจได้ว่าทำเสร็จทันก่อนกำหนดแน่นอน วิทยาอารมณ์ดีขึ้นถึงขนาดเปิดเพลงคลอการทำงานไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาชอบแต่ไม่ได้ทำมานานแล้วเพราะเกรงจะรบกวนสมาธิของตนเอง
…ทว่าความราบรื่นก็คงอยู่ไม่นานนัก เมื่อสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น จอภาพอื่นๆ ที่อยู่ในเต็นท์นั้นสว่างขึ้น มันเป็นภาพจากกล้องที่ติดตั้งไว้รอบโดมบาเรีย ภาพในนั้นคือเหล่าอัศวิน และนักเวทมนตร์ โดยอัศวินเป็นกองกำลังภาคพื้นดิน และนักเวทมนตร์ขี่ไวเวิร์น (สิ่งมีชีวิตคล้ายมังกรบินได้ แต่จะมีสติปัญญาที่ต่ำกว่ามาก และพ่นลำแสงหรือไฟไม่ได้) เป็นกองกำลังทางอากาศ
การปะทะได้มาถึงแล้ว