ในโลกอันกว้างใหญ่ของ Toram Online ผู้คนได้สรรค์สร้างเรื่องราวของตนเอง และการเดินทางครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบหนุ่มของหมู่บ้านได้เผลอยกชีวิตให้กับนักเวทสาวแปลกหน้าซึ่งเดินทางผ่านมา

Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง - ตอนที่35. เสบียงใกล้จะหมดแล้วสิ โดย อิ่มหมู @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ดาร์กแฟนตาซี,โทรัม,เกมออนไลน์,เกม,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,ดาร์กแฟนตาซี,โทรัม,เกมออนไลน์,เกม,แฟนตาซี

รายละเอียด

Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง โดย อิ่มหมู @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ในโลกอันกว้างใหญ่ของ Toram Online ผู้คนได้สรรค์สร้างเรื่องราวของตนเอง และการเดินทางครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบหนุ่มของหมู่บ้านได้เผลอยกชีวิตให้กับนักเวทสาวแปลกหน้าซึ่งเดินทางผ่านมา

ผู้แต่ง

อิ่มหมู

เรื่องย่อ

[ไม่มีตารางการอัพเป็นเวลาแน่นอน]


การออกเดินทางครั้งแรกจากหมู่บ้านที่คุ้นเคยกลับจารึกบางสิ่งเอาไว้ในใจมากมายนับไม่ถ้วน


...


เอาสิ...เอาชีวิตข้าไป


เซบรีดี้ (Zebrede) หรือเซบ อาวุธ : ดาบ/โล่


นักรบหนุ่มผู้พึ่งสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปกล่าวต่อผู้แปลกหน้า หากแต่ไม่ได้คิดให้ถีถ้วนนักว่านี่เป็นดั่งคำปฏิญาณว่าจะยกชีวิตให้กับเธอ


...


มันขโมยบางอย่างที่สำคัญมากของฉันไป


เอ็ทน่า (Aetna) อาวุธ : คทา/ปีก


นักเวทสาวผู้ออกเดินทางโดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว ไม่รู้เลยว่าทุกก้าวของตนนั้นได้เปลี่ยนชีวิตของใครหลายๆ คนไป


...


...


กล้าดียังไงมาแตะต้องตัวผม!!


ล็อตต้า (Lotta) อาวุธ : โบว์กัน/ลูกธนู


เด็กชายรูปร่างบอบบางราวกับสตรี เสนอตัวเข้าหาผู้คนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจนั้นมีเพียงความปรารถนาเดียวคืออิสระ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม


...


มาผจญภัยไปด้วยกันเถอะ

...

แต่งขึ้นโดยอ้างอิง สถานที่ การแต่งกาย มอนสเตอร์ เนื้อเรื่องบางส่วน จากเกม Toram Online

...


ช่องทางการติดตามผลงาน พูดคุย หรือทวงงาน


Facebook : เสมียนน้อย ชอบกินหมู


Twitter/X : เสมียนน้อย @Immhu_


Tiktok : @Immhu_uu


*แวะเวียนมาพูดคุย เล่นมุก ด่าตัวละครได้ตามสบาย นักเขียนค่อนข้างชอบ แค่อย่าด่านักอ่านด้วยกันเอง ขอรับคำติชมเหล่านั้นไว้ด้วยใจ♡*

สารบัญ

Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่1. เพียงพริบตา,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่2. ดวงดาราที่แปลกไป,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่3. ลองดูมั้ย,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่4 เจ้าเองก็มีฝันร้ายสินะ,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่5 ลีลาจริงๆ เลย,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่6 ยากจะลืมเลือน,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่7 ไม่อยากตายแล้วจริงๆ หรือ,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่8 รวมตัวสมาชิกคนที่สาม,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่9 ออกเดินทางกับเจ้าตัวบาง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่10 ดงโจร,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่11 พบเจออีกครั้ง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่12 หรือนี่คือสรวงสวรรค์...,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่13 ยังไว้ใจมันได้อีกหรือ?,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่14 ชุดอยู่บ้าน...,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่15 เจ้าชื่อว่าอัครเดช,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่16 แสงจันทร์ของนายหญิง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่17 นรกในห้วงนิทรา,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่18 ขอเพียงได้พบ,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่19 ค่ำคืนแห่งฝันร้าย(1),Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่20 ค่ำคืนแห่งฝันร้าย(2),Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่21 ค่ำคืนแห่งฝันร้าย(3),Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่22 ค่ำคืนแห่งฝันร้าย(4 ตื่นจากฝัน),Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่23 ถึงบรรพต,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่24 สตรีผู้นั้น...เสียงทุ้มต่ำ,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่25 สองพี่น้อง หอกและเรน,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่26 ความสัมพันธ์กับเอ็ทน่า,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่27 ฝันอันเรียบง่าย,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่28 ถึงเมืองหลวง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่29 พาลาดิน?,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่30 วงกลมสีฟ้าจำเป็นต้องหลบเลี่ยงหรือ?,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่31 ดวงตาสอดประสาน,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่32 อย่ากลัวที่จะพ่ายแพ้,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่33 ทุกคำนินทา ล้วนมาจากข้อเท็จจริง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่34. ผีไม่มีจริง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่35. เสบียงใกล้จะหมดแล้วสิ

เนื้อหา

ตอนที่35. เสบียงใกล้จะหมดแล้วสิ

[ที่กำจัดขยะเปริโกร]

เหล่าจักรกลอีกแล้ว…

เซบยืนจิ้มเจ้ามอนสเตอร์ตัวโตรูปกายคล้ายมนุษย์หากแต่ส่วนหัวมีเพียงไฟสีส้มดวงเดียวดูไกลๆ ราวกับลูกตาและร่างกายซึ่งทำจากวัสดุแข็ง ปลายแขนของมันถูกวัชพืชเติบโตและยืดเกาะเอาไว้จนไม่สามารถมองเห็นรูปร่างเดิมได้แต่เมื่อมันขยับตัวส่วนแขนนั้นกลับหมุนวนไปมาพร้อมๆ กับเถาวัลย์ดูน่าอัศจรรย์

ต้องรีบหาเสบียงเพิ่ม…ก่อนจะอดตายกันหมด

เซบขบคิดในหัว พลางหันมองรอบกาย ก่อนจะลุกขึ้นยืนตัดสินใจแน่วแน่ที่จะสังหารสิ่งมีชีวิตตนใดก็ตามด้านหน้า

ขณะเดียวกันนั้นเองที่เจ้าม้าทั้งสามเกิดอาการตื่นตระหนกจนมิอาจควบคุมให้ก้าวเดินต่อได้ ดวงตาสีน้ำตาลเบิกโพลงจ้องเขม็งมาทางเขาอย่างไม่ลดละ

ซึ่งยืนอยู่ท่ามกลางเจ้ามอนสเตอร์ที่มีรูปร่างประหลาดตา เดินด้วยขาสี่ขา ส่วนหัวของมันมีก้อนสีน้ำเงินขุ่นประหลาดสั่นไหวทุกครั้งที่ขยับตัวคล้ายกับจะสามารถระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ ร่างกายของมันถูกโอบไว้ด้วยกลีบดอกไม้ขนาดใหญ่เหี่ยวสีแดงปนน้ำตาลส่งกลิ่นเหม็นออกมาตลอดเวลาไม่แปลกใจเลยที่ม้าจะกลัวพวกมัน

“ไม่เอาน่าเด็กดีอย่าดื้อสิ” ดอดจ์พยายามเจรจา

“เจ้ากินไม่ได้สินะ”

เซบเลิกสนใจเจ้าม้าทั้งสามและหันไปพูดคุยกับมอนสเตอร์ที่มีดอกไม้สีแดงโอบรอบกาย พวกมันมองเขาด้วยดวงตาสีขาวขุ่นมาสักพักด้วยความใคร่รู้

“เอาล่ะๆ ข้าไม่บังคับแล้ว”

ดอดจ์ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย มืออวบอ้วนเปิดผ้าม่านกั้นให้ผู้โดยสารด้านหลังได้เห็นเส้นทางก่อนจะชี้ไปยังเบื้องหน้าที่เริ่มเห็นปากถ้ำขนาดใหญ่ลางๆ

“เดินอีกซักครึ่งวันก็ถึงแล้วล่ะ”

“ครึ่งวันเลยหรอ” ล็อตต้าโอดครวญ แต่เมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของม้าทั้งสามก็ไม่กล้าบ่นอะไรเพิ่มอีก

คนตัวบางเก็บเอาสัมภาระทุกสะพายไว้บนหลังและโดดลงจากรถม้า แต่เมื่อได้เห็นเซบยืนจับส่วนที่ยื่นออกมาคล้ายมือของมอนสเตอร์ที่ชื่อว่าเปทัลเขย่าไปมาความขยะแขยงก็ประทับขึ้นมาบนใบหน้าทันที

“ล็อตต้าตามไปทีหลังนะ”

เอ็ทน่าที่กำลังรื้อค้นหีบบนรถเอ่ยขึ้นเมื่อนึกบางสิ่งได้ ทำเอาคนตัวบางชะงักไปครู่หนึ่งราวกับกำลังประมวลผล

“ทำไมล่ะครับ”

ไร้ซึ่งเสียงตอบรับดังเช่นทุกทีเมื่อได้ออกคำสั่งไปแล้ว เอ็ทน่าคว้าบางสิ่งจากในหีบและชูออกไปให้ดอดจ์ได้เห็น

“ของบนรถนี่ฉันใช้ได้หมดเลยใช่มั้ย”

“หากมันช่วยภรรยาข้าได้ ไม่ว่าสิ่งใดจำเป็นก็เอาไปเถิด”

คนตัวบางจ้องเอ็ทน่าอย่างคาดคั้นอยู่สักพักแต่ก็ต้องเลิกราไปเพราะคิดได้ว่าการบังคับให้เอ็ทน่าพูดนั้นยากกว่าการสู้กับบอสเสียอีก

ขณะที่กำลังยืนรอให้เอ็ทน่าเตรียมตัวอยู่นั้นสายตาก็ดันเผลอมองคนป่างี่เง่าอีกครั้งและได้เห็นว่ามันกำลังพยายามตีสนิทกับเหล่ามอนสเตอร์รอบกายจนอดไม่ได้ที่จะต้องห้ามปราม

“นี่แก ผมจะไม่กินมันหรอกนะ”

“พวกนี้มีพิษกินไม่ได้” เซบตอบตาใส ท่อนแขนสีเข้มบรรจงล้วงเข้าไปในปากเจ้าเห็ดตัวอวบอ้วนเพราะอยากรู้ว่าด้านในของมันมีสัมผัสเป็นเช่นไร

“มีพิษแล้วไปจับตัวมันทำไมเล่า”

“ด้านในของมันไม่อุ่นเลย เจ้าลองดูสิ”

ไม่! สมองแกมีปัญหารึไง”

ล็อตต้าเริ่มขึ้นเสียงขณะเดินเข้าใกล้เรื่อยๆ มือสะอาดตาทั้งสองเท้าเอวแน่น

“เห็ดไม่มีฟันกัดเจ้าหรอก…ขี้ขลาดไปใย”

“แต่มันมีพิษ ออกห่างจากตัวมันได้แล้ว”

ตุ้บ

จู่ๆ กองผ้ามากมายก็ถูกโยนลงมากลางวงของสองหนุ่มที่เอาแต่เถียงกันจนทั้งคู่เงียบไป ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้ามาเพื่อจับดูของเหล่านั้นซึ่งส่วนใหญ่คือเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย

“เราจะเปลี่ยนชุดกันอีกแล้วหรอครับ…” ล็อตต้าทำเสียงอ่อนพลางมองเหล่ากองเสื้อผ้าตรงหน้า

“ใช่” เอ็ทน่าตอบเสียงเรียบขณะกำลังถอดชิ้นส่วนเกราะบนตัวออกทีละชิ้น

“แถวนี้ไม่มีช่างตีเหล็กหรือคนผสมของซักคนเลยนะ”

ล็อตต้าเริ่มทำหน้าเครียดเพราะการที่จะย้ายอัญมณีของบอสหรือปรับแต่งย้อมสีชุดนั้นจะต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญทักษะด้านงานช่างและการผสม คนปกติธรรมดาไม่สามารถทำได้เลย

“ข้างในมีแค่มนุษย์ จะใช้ของพวกนี้ไปทำไม”

“แต่-”

พูดจบเอ็ทน่าก็โยนเสื้อผ้าชุดหนึ่งให้กับเซบซึ่งรับไปสวมใส่โดยไม่ทักท้วง ไม่รู้ว่าเพราะไม่อยากจะขัดใจหรือไม่ทราบกันแน่ว่าที่ตนเองเก่งกาจขึ้นมาได้นั้นไม่ใช่จากความสามารถหรือพลังกายแต่ส่วนหนึ่งคืออัญมณีราคาแพงที่เอ็ทน่าได้จัดเตรียมเอาไว้ให้

“ข้า…พอจะปรับแต่งชุดเกราะได้เล็กน้อย”

ดอดจ์ที่เมื่อเห็นบทสนทนาหยุดลงจึงเอ่ยขึ้นมาเบาๆ เรียกให้ล็อตต้าหันไปหาพร้อมรอยยิ้มโล่งใจที่ตนสามารถเข้าไปยังที่อันตรายได้โดยมีอุปกรณ์ครบครัน

“แต่ขอคิดราคาซักเล็กน้อยนะครับ”


……..


เมื่อทั้งสามแต่งตัวจนเกือบแล้วเสร็จเซบก็ได้สังเกตเห็นสิ่งแปลกปลอมห้อยย้อยบนหลังของนายหญิง

มันดูคล้ายแขนสีม่วงที่ไม่มีนิ้วทั้งยังมีสัมผัสเรียบลื่นราวกับผิวหนังของสัตว์น้ำ เมื่อได้ลองจับดูพวกมันกลับมีชีวิตขึ้นมาและสามารถตอบรับได้โดยการกอดรัดมือของเขาเบาๆ

ริมฝีปากสีสดเผลออมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้เมื่อได้เห็นแววตาเป็นประกายของคนตรงหน้า

“ใส่นี่ด้วย” เธอกล่าวพลางกวักมือเรียกให้เซบก้มลงมา

ผ้าปิดตาที่ทำจากหนังคุณภาพดีถูกใส่เข้ามาซึ่งมันสามารถมองเห็นได้แม้จะลางเลือนอย่างน่าอัศจรรย์

แต่เขายังคงสนใจเจ้าสิ่งประหลาดบนหลังของนายหญิงมากกว่า

“คุณดอดจ์พกเจ้านี่มาทำไมครับเนี่ย…”

ล็อตต้าเอ่ยถามเมื่อได้เห็นอุปกรณ์เวทมนตร์ที่มีรูปร่างคล้ายหนวดของปลาหมึกบนหลังของเอ็ทน่า ครีบเล็กๆ ที่ยื่นออกมาจากหนวดอีกทีถูกย้อมด้วยสีแดงสดตัดกับสีม่วงของหนวดดูราวกับสิ่งที่มีพิษกำลังดูดยึดติดกับแขนของเจ้าคนป่าขี้สงสัยแน่นขึ้นเรื่อยๆ

“ข้าได้จากนักผจญภัยเมื่อนานมาแล้วแต่ก็ไม่มีผู้ใดซื้อมันออกไปเพราะมีรูปร่างน่ากลัว ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเหมาะสมนักเมื่ออยู่บนร่างของนาง”

แน่ล่ะ…กับพวกที่ชอบแต่งตัวประหลาดเช่นนี้ ไม่ว่าใส่อะไรก็ดูเหมาะสมไปหมด

“ดาบไม่เท่เลย” เซบกล่าวพร้อมหยิบเอาดาบยาวในปลอกสีแดงสดขึ้นมาตรวจดู

“แค่ชุดก็เท่แล้ว” เอ็ทน่าตอบขณะหยิบมงกุฎสีทองประดับด้วยคริสตัลสีม่วงสว่างสดใสขึ้นมาสวมให้กับตัวเอง เมื่อได้อยู่บนหัวที่ถูกจับดัดลอนทั่วทั้งหัวดูราวกับเจ้าหญิงเอาแต่ใจจากเมืองใหญ่

เขามองดาบดูธรรมดาสลับกับเสื้อคลุมยาวสีเหลืองสดใสสวมทับกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวคอวีลึกจนเกือบถึงสะดือสีฟ้าอมเขียวสดใสไม่แพ้กันก่อนจะเก็บดาบเข้าที่เพราะสิ่งที่นายหญิงกล่าวไม่ผิดนัก แค่ชุดก็สามารถทำให้ศัตรูหรือมอนสเตอร์หวาดกลัวได้แล้ว

“มีแผนมั้ยครับ”

คนตัวบางถามเมื่อเห็นว่าทุกคนแต่งตัวเสร็จแล้ว อันที่จริงๆ เขารอให้เอ็ทน่าสั่งอะไรเพิ่มเติมสักอย่างมานานแล้วแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เกิดขึ้นจนเริ่มกังวล

ดวงตาสีม่วงปรายตามองล็อตต้าครู่หนึ่งก่อนจะยื่นกระดาษยับยู่ยี่ให้

“นี่คือ-”

“รูปของภรรยาดอดจ์ ล็อตต้าแค่พาตัวเธอออกมาแค่นั้นพอ”

“แล้วเอ็ทน่ากับเซบละครับ”

อีกฝ่ายไม่ตอบแต่กลับลุกขึ้นยืนและเดินจากไป พร้อมๆ กับโล่ห่วงกักจอมวายร้ายซึ่งมีรูปร่างคล้ายโซ่ตรวนของนักโทษทว่ารอบวงนั้นมีหนามแหลมแทงออกมาพร้อมโซ่ยาวยื่นให้กับเซบ

“นี่โล่”

เซบรับมันมาถือไว้กับตัวด้วยความงงงวย แต่หากนายหญิงบอกว่ามันคือสิ่งใดมันก็คือสิ่งนั้นจึงสวมมันไว้และเดินตามไปอย่างว่าง่าย ทิ้งให้คนตัวบางและดอดจ์ตัวโตยืนมองตามหลังของทั้งคู่ที่ค่อยๆ ลับตาไป

“แล้ว…ข้าล่ะ” ดอดจ์เอ่ยถามเสียงแผ่ว แม้ในใจอยากจะตะโกนถามสตรีผู้นั้นแต่แววตาของนางน่ากลัวเกินว่าจะเสวนาด้วย

“ดอดจ์รอที่นี่ได้มั้ยครับ” ล็อตต้าบอกเบาๆ

“ได้เลย แถวนี้ไม่เคยมีโจรผ่านทางมา แต่พวกม้าดูท่าจะไม่ชอบเจ้ามอนสเตอร์ด้านหน้าเท่าไหร่ ข้าจะถอยไปอยู่แถวปากอุโมงค์ก็แล้วกัน”

“งั้นผมขอทราบรายละเอียดของภรรยาคุณเพิ่มได้มั้ยครับ”