ในโลกอันกว้างใหญ่ของ Toram Online ผู้คนได้สรรค์สร้างเรื่องราวของตนเอง และการเดินทางครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบหนุ่มของหมู่บ้านได้เผลอยกชีวิตให้กับนักเวทสาวแปลกหน้าซึ่งเดินทางผ่านมา
ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ดาร์กแฟนตาซี,โทรัม,เกมออนไลน์,เกม,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้างในโลกอันกว้างใหญ่ของ Toram Online ผู้คนได้สรรค์สร้างเรื่องราวของตนเอง และการเดินทางครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบหนุ่มของหมู่บ้านได้เผลอยกชีวิตให้กับนักเวทสาวแปลกหน้าซึ่งเดินทางผ่านมา
[ไม่มีตารางการอัพเป็นเวลาแน่นอน]
การออกเดินทางครั้งแรกจากหมู่บ้านที่คุ้นเคยกลับจารึกบางสิ่งเอาไว้ในใจมากมายนับไม่ถ้วน
...
เอาสิ...เอาชีวิตข้าไป
เซบรีดี้ (Zebrede) หรือเซบ อาวุธ : ดาบ/โล่
นักรบหนุ่มผู้พึ่งสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปกล่าวต่อผู้แปลกหน้า หากแต่ไม่ได้คิดให้ถีถ้วนนักว่านี่เป็นดั่งคำปฏิญาณว่าจะยกชีวิตให้กับเธอ
...
มันขโมยบางอย่างที่สำคัญมากของฉันไป
เอ็ทน่า (Aetna) อาวุธ : คทา/ปีก
นักเวทสาวผู้ออกเดินทางโดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว ไม่รู้เลยว่าทุกก้าวของตนนั้นได้เปลี่ยนชีวิตของใครหลายๆ คนไป
...
...
กล้าดียังไงมาแตะต้องตัวผม!!
ล็อตต้า (Lotta) อาวุธ : โบว์กัน/ลูกธนู
เด็กชายรูปร่างบอบบางราวกับสตรี เสนอตัวเข้าหาผู้คนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจนั้นมีเพียงความปรารถนาเดียวคืออิสระ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม
...
มาผจญภัยไปด้วยกันเถอะ
...
แต่งขึ้นโดยอ้างอิง สถานที่ การแต่งกาย มอนสเตอร์ เนื้อเรื่องบางส่วน จากเกม Toram Online
...
ช่องทางการติดตามผลงาน พูดคุย หรือทวงงาน
Facebook : เสมียนน้อย ชอบกินหมู
Twitter/X : เสมียนน้อย @Immhu_
Tiktok : @Immhu_uu
*แวะเวียนมาพูดคุย เล่นมุก ด่าตัวละครได้ตามสบาย นักเขียนค่อนข้างชอบ แค่อย่าด่านักอ่านด้วยกันเอง ขอรับคำติชมเหล่านั้นไว้ด้วยใจ♡*
ถัดจากบริเวณที่ทหารยามยืนอยู่ไม่ไกลนัก บ้านสองชั้นถูกดัดแปลงให้ชั้นล่างกลายเป็นห้องกว้างขนาดใหญ่ กำแพงและเสาถูกเจาะออกจนเป็นรูปทรงเพื่อเปิดรับเหล่านักท่องราตรีจากทุกพื้นที่ภายในมีโต๊ะกลมจำนวนหนึ่งวางกระจายกันไปในแต่ละมุม นักเดินทางสวมชุดแปลกตาและชาวบ้านนั่งจับจองเก้าอี้เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศสุนทรีพร้อมกับเครื่องดื่มในมือ ด้านในสุดเจ้าของร้านท่าทางกระฉับกระเฉงเดินซ้ายทีขวาทีเพื่อหยิบเอาเครื่องดื่มที่ลูกค้าต้องการมาบริการด้วยความรวดเร็วด้านหลังเคาน์เตอร์บาร์ยาวสีไม้
เอ็ทน่าเลือกโต๊ะเล็กบริเวณมุมหนึ่งของร้าน ตรงนี้จะสามารถมองเห็นทั่วทั้งร้านได้อย่างชัดเจน
“ชุดสวยจังเลยนะครับ” ชายสวมชุดดำทั้งตัวพร้อมดาบเล่มใหญ่สีแดงสะดุดตาเดินมาหาเอ็ทน่าพร้อมกับเครื่องดื่มแก้วใหญ่ในมือ “เป็นนักเวทหรอ เล่นสายอะไร ตี้ผมขาดนักเวทพอดี”
เอ็ทน่าไม่สนใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดแต่กลับมองไปรอบๆ เพื่อหาบางสิ่ง
“คืนนี้ตี้ผมว่าจะไปตีบอสดรอปของ ไปด้วยกันนะครับ”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ นักดาบหนุ่มก็ถือวิสาสะเดินเข้ามาโอบเอวบางภายใต้ชุดรัดรูปสีม่วง
“ไม่เห็นใครใส่ชุดอาร์นิกม่านานแล้วนะเนี่ย” สายตาหื่นกามจงใจจ้องไปยังสะดือของอีกฝ่ายและค่อยๆ ไล่สายตาขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วยความพอใจ
เซบที่พึ่งจะเดินมาถึงก็เห็นนายหญิงของตัวเองไม่สนใจมือที่พยายามลูบไล้นั่นนี่บนร่างกายตัวเองก็รีบดิ่งไปหาทันที
เพียงยืนมองครู่เดียวนักดาบคนนั้นก็รีบลุกหนีไปพร้อมสบถคำหยาบคายไปด้วย
“มีผัวไม่บอกวะ อีเ*ร”
เซบยืนมองเรือนร่างภายใต้ชุดรัดรูปบางโดยเฉพาะส่วนหน้าท้องที่สามารถมองเห็นสะดือได้อย่างชัดเจน อันที่จริง นอกจากส่วนแขนและขาซึ่งมีเกราะหนาสวมอยู่นอกจากนั้นเขาสามารถมองเห็นทุกส่วนของนายหญิงได้เลยแม้จะมองจากที่ไกลๆ
นี่มันชุดแบบใดกัน
“ทำไมท่านไม่ปกป้องตัวเอง” เซบถามเสียงเรียบพร้อมสายตาตำหนิ
“ปกป้องจาก?”
“คนเมื่อครู่ มันพยายามจะทำมิดีมิร้ายท่าน”
“แค่ให้จับนิดจับหน่อย ปกติของพวกผู้ชายไม่ใช่หรอ”
“แต่-”
“มันชอบมาหาราคาของที่นี่ ไม่ก็ล่อนักผจญภัยไปกับมัน”
ด้วยน้ำเสียงจริงจังของเอ็ทน่าทำให้เขาตื่นตัวขึ้นมา มือของเขาเตรียมพร้อมที่จะหยิบอาวุธขึ้นมาต่อสู้ได้ทุกเมื่อ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นกลับมีร่างหนึ่งเดินเข้ามาใกล้โดยที่ตัวเขาไม่ทันสังเกต
“สวัสดี”
จู่ๆ ใบหน้าเรียวก็โผล่เข้ามาใกล้ระหว่างช่องว่างของทั้งคู่
เซบเกือบจะต่อยมันไปแล้วถ้าไม่ติดว่าเอ็ทน่ายังคงดูสงบเงียบอยู่
ริมฝีปากบางฉีกยิ้มกว้างรับกับดวงตาที่ดูราวกับสุนัขจิ้งจอกในหนังสือนิทาน ผู้แปลกหน้ามองทั้งสองด้วยท่าทางสนใจ
“ผมไม่เคยเห็นคุณแถวนี้มาก่อนเลยนะครับ” คนแปลกหน้าพูดกับเอ็ทน่าต่อด้วยท่าทางสนิทสนม
ผม? ผู้ชายงั้นรึ…
เซบพิจารณาร่างกายบอบบางและผิวสะอาดตาของคนแปลกหน้าด้วยความมึนงง
“ขอตี้ด้วยได้มั้ยครับ ผมเล่นปืนคู่ ไปกับพวกคุณต้องสนุกมากแน่ๆ เลย”
เอ็ทน่าไม่ตอบแต่ทำท่าทางครุ่นคิดอยู่นานทีเดียว
“ผมชื่อล็อตต้านะครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย”
[ล็อตต้า เข้าร่วมปาร์ตี้]
เซบพยายามดึงสตินายหญิงของตัวเองที่ใช้ความคิดนานไปหน่อยแต่ก็ไม่สำเร็จ นางตกอยู่ภายใต้ห้วงความคิดของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้เจ้าล็อตต้าท่าทางประหลาดและไม่น่าไว้ใจพูดอยู่นานแถมยังเดินไปและกลับมาพร้อมกับเครื่องดื่มในมือหลายแก้ว
ปั๊ก
แก้วไม้ขนาดพอดีมือกระแทกลงมาอย่างแรงตรงหน้าเซบราวกับตั้งใจ
“ขอโทษทีนะครับ มันหนัก” ล็อตต้ากล่าวด้วยเสียงต่ำก่อนจะหันไปยิ้มให้เอ็ทน่าพร้อมวางแก้วที่เหลือลงบนโต๊ะด้วยความเบามือ
เจ้าบุรุษตัวบางคนนี้ไม่ชอบข้ารึเปล่านะ...
เซบเริ่มคิด
“จริงสิ” เอ็ทน่าพูดโพล่งขึ้นมาพลางทำท่าเหมือนนึกอะไรออก “แล้วนี่ใคร…”
เซบมองนายหญิงของตนด้วยท่าทางเหลือเชื่อ นี่นางไม่รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้อย่างไรกัน
“ผมชื่อล็อตต้าครับ เราอยู่ปาร์ตี้เดียวกันแล้ว ยินดีที่ได้รู้จัก” มือบางเอื้อมไปจับมืออีกฝ่ายพร้อมเขย่าไปมาหลายที “แล้วคุณชื่อ…”
“เอ็ทน่า”
“เอ็ทน่า เราไปทำอะไรกันดี ผมพร้อมมากเลยล่ะ” ล็อตต้ากล่าวด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง
“ฉันมาตามหาคนคนนึง”
เซบพยายามจะส่งสายตาเตือนไม่ให้เอ็ทน่าพูดมากไปกว่านี้แต่ดูท่านายหญิงของเขาจะไม่สนใจ
“ใครหรอครับ ผมวิ่งเล่นแถวนี้บ่อย อาจจะช่วยได้”
“พ่อค้าชั่วที่ชอบล่อนักผจญภัยไปอยู่ในสังกัดน่ะ”
“อืม… มีหลายคนเลยนะครับที่ทำแบบนั้น” ล็อตต้าทำหน้าครุ่นคิด
“ฉันจำคนที่มากับมันได้ นักดาบคู่ใส่ชุดสเตลลาไฟท์เตอร์สีแดงกับดาบดำ ผมสั้นๆ สีเขียวสว่าง”
“คุณ ‘นิลทกาล’ งั้นหรอครับ นักล่าคนดังเลยนี่นา”
“รู้จักหรอ มันอยู่ไหน”
“ล่าสุดได้ข่าวว่าอยู่แถวบอสเขตทะเลทรายนะครับ เดี๋ยวผมจะไปหาข่าวมาให้ ซักครู่”
พูดจบล็อตต้าก็ทำท่าจะเดินออกไปแต่ถูกเอ็ทน่าหยุดเอาไว้
“จะไปตลาดมืดหรอ”
“รู้จักด้วยหรอครับ”
“หาสิ่งนี้มาให้หน่อย นักปรุงยาของเมืองไม่ยอมทำให้น่ะ” เอ็ทน่ายัดเศษกระดาษใส่มืออีกฝ่ายพร้อมทำสีหน้าจริงจัง
ล็อตต้าทราบในทันทีว่านางต้องการอะไร มือบางกำเอากระดาษในมือเก็บไว้ในที่ปลอดภัยและเดินจากไปยังเส้นทางเปล่าเปลี่ยวของเมืองหลวง
“ท่านเอ็ทน่า…”
หลังจากล็อตต้าเดินห่างออกไปไม่นานเซบก็เอ่ยขึ้นมา
“แล้วคนที่ท่านตามหาเราจะต้อง…”
“คงต้องเดินทางต่อกันอีกหน่อย ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งถึงตัวมันง่ายขึ้นเท่านั้น มันเป็นพ่อค้า ต้องแวะดรอปของและขายสินค้า เราน่าจะตามทัน”
“เดินทางอีกหรือ”
น่าแปลกนักที่เขากลับรู้สึกดีใจเล็กๆ ที่จะได้เดินทางต่อ ถึงแม้มันอาจจะเป็นการเดินทางในระยะสั้นๆ ก็ตาม
โดยไม่ทันรู้ตัวมือของเขาก็จับเอาบริเวณต้นขาที่มีผ้าเช็ดหน้าถูกพับไว้ในกระเป๋ากางเกงอย่างแผ่วเบา
[ทางน้ำใต้ดินเมืองโซเฟีย]
ภายใต้เมืองใหญ่จุดที่ไม่มีคนสนใจ ทางน้ำใต้ดินซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อระบายน้ำในเมืองและป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเนื่องจากบริเวณโดยรอบของเมืองนั้นคือเส้นทางน้ำขนาดใหญ่ เหล่ากลุ่มคนสวมชุดปิดบังร่างกายและใบหน้ายืนเว้นระยะห่างกันพอประมาณ บางคนมีปึกกระดาษในมือในขณะที่บางคนนำผ้ามาปูบนพื้นพร้อมสินค้าที่ไม่อาจขายได้ในตลาดทั่วไป แต่ถึงแม้พวกเขาจะไม่แต่งกายมิดชิด ด้วยแสงเพียงเล็กน้อยที่สามารถส่องลอดเข้ามาทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นแคบลงไม่ทำให้ตัวตนของพวกเขาถูกเปิดเผยอยู่ดี
“คนนี้เป็นไง” คนในชุดคลุมสีน้ำตาลกล่าวขึ้นมา สายตามองทอดยาวออกไปราวกับคุยคนเดียว
ในอีกฝั่งของเสา ชายวัยกลางคนมีหนวดรกรุงรังสวมเพียงกางเกงขายาวถือดาบใหญ่ไว้บนมือดวงตาเต็มไปด้วยความดุร้ายนั่งยองอยู่กับพื้นพร้อมกับเอาผ้าที่สกปรกไม่แพ้กันขึ้นมาเช็ดดาบใหญ่เบาๆ
“สวย หัวหน้าต้องถูกใจแน่ๆ” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาจากริมฝีปากหนา “แล้วอีกตัวล่ะ ดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นะ”
“ดูโง่ๆ ไม่น่ายากเท่าไหร่”
“เอาไปส่งที่หมู่บ้าน”
“แต่มัน...ไกลมากเลยนะ”
“จะไม่ทำรึไง” ผู้ที่ถือดาบใหญ่เตือน
คนในชุดคลุมสีน้ำตาลนิ่งไปซักพักมือทั้งสองกำแน่นพร้อมกับสั่นเบาๆ
“ได้ครับ…” คำตอบรับที่ไม่เต็มใจเค้นออกมาอย่างแผ่วเบาราวกับกระซิบ
[เขตก่อสร้าง]
พื้นที่อีกฝั่งของประตูเมืองซึ่งมีทหารยามยืนรักษาการมากกว่าปกติ สิ่งปลูกสร้างบริเวณนี้ดูไม่สมบูรณ์นักราวกับการก่อสร้างหยุดชะงักไปและมีเหล่ามอนสเตอร์ป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆ ช่วยคลายความสงสัยถึงจำนวนทหารยามได้ดีทีเดียว
นักผจญภัยและเหล่าเสตรย์เดินผ่านบริเวณนี้กันเป็นประจำจนดูคึกคัก
เซบยืนจ้องเจ้ามอนสเตอร์ตัวน้อยรูปร่างคล้ายผลของมะพร้าวกระโดดไปมาด้วยขาเล็กๆ สองขา ส่วนที่ดูเหมือนใบหน้าถูกปิดไว้ด้วยหน้ากากไม้รูปทรงประหลาด พลางคิดว่าหากกะเทาะมันออกมาจะมีสิ่งหอมหวานออกมาด้วยหรือไม่
“ของพวกนี้คนไม่ค่อยดรอปมาขายในบอร์ดเลยครับผมลองเช็กดูแล้ว” ล็อตต้ากล่าวพร้อมยื่นแผ่นกระดาษขนาดเล็กให้แก่เอ็ทน่า
ในนั้นเต็มไปด้วยรายการวัตถุดิบในการทำของที่เอ็ทน่าต้องการ
“เยอะขนาดนี้ถ้าไปหาพร้อมกันคงใช้เวลานานไปหน่อยนะ”
เอ็ทน่าทำท่าทางครุ่นคิดโดยไม่สนใจว่ามอนสเตอร์รูปร่างคล้ายหนูสีเหลืองแต่กลับมีหางทรงประหลาดพยายามมาดมที่ขาของตนเอง
แล้วสายตาของเซบก็ไปหยุดอยู่ตรงสิ่งที่มีรูปร่างคุ้นตา เจ้ามอนสเตอร์ตัวใหญ่เดินเล่นไปมาพร้อมกับหล่าโคลอนน้อย มันเหมือนกับเจ้ามินิบอสที่เขาเคยเจอก่อนหน้านี้ราวกับฝาแฝด แต่ด้วยขนาดตัวที่เล็กกว่าทำให้แยกได้ไม่ยากนัก
ความรู้สึกในครั้งนั้นยังคงฝังอยู่ในความทรงจำของเขาเสมอมา
“เอาตามนี้ก็แล้วกัน”
เสียงคุ้นเคยของเอ็ทน่าช่วยดึงสติของเซบกลับมาสู่ปัจจุบัน
“ผมขอไปกับเอ็ทน่าไม่ได้หรอครับ” ล็อตต้าทำเสียงออดอ้อน
“ฉันไปคนเดียวสะดวกกว่า แล้วก็นายสองคนเลเวลน้อย ช่วยกันก็แล้วกัน” เอ็ทน่าตอบด้วยน้ำเสียงแกมสั่ง
“ให้ข้าไปกับมันหรือ” เซบที่พอจะเข้าใจสถานการณ์เล็กน้อยเอ่ยถามขึ้น
“ถ้าของครบไปเจอกันที่เนินกรวดนะ”
เอ็ทน่าไม่ฟังความเห็นของใครอีกเช่นเคย
“อ้อ ถ่ายรูปมาให้ดูด้วยนะว่าไปด้วยกันจริงๆ ฉันอยากให้เซบเก่งกว่านี้หน่อยของจำเป็นอยู่ในกระเป๋า ฝากหมอนี่ด้วย”
นางกล่าวสิ่งที่ต้องการพูดเสร็จสรรพก็เดินแยกออกไปทิ้งคนแปลกหน้าซึ่งกันและกันไว้ท่ามกลางเหล่ามอนสเตอร์ตัวเล็ก
[ทุ่งราบที่ถูกเผาวิเทก้า]
“เอ็ทน่าบอกว่ามีของจำเป็น ไหนอะ” ล็อตต้าเอ่ยขึ้นและยื่นมือออกมาตรงหน้าอีกฝ่าย
เซบไม่ตอบแต่ทิ้งกระเป๋าสัมภาระใส่ล็อตต้าจนตัวเซ
“ไอ…”
เมื่อคิดได้ว่าด่าไปไอคนหน้านิ่งคงไม่รู้สึกเจ็บจึงเริ่มที่จะค้นของในกระเป๋า
เซบเดินไปนั่งพิงเจ้าเต่าที่บางส่วนของกระดองมีวัตถุแข็งสีเงินแวววาวแทงขึ้นมาช่วยให้กระดองของมันนั้นแข็งแกร่งขึ้นมาก ซึ่งมันกำลังหลับอยู่ ดวงตากลมลืมตาขึ้นมามองเขาครู่นึงก่อนจะหลับต่อ
เบื้องหน้าของเขาคือทุ่งราบลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นหญ้าที่กำลังถูกเผาโดยมีเหล่ามอนสเตอร์ตัวกลมมีหินสีแดงร้อนระอุตามร่างกายนอนแผ่กายรับแสงแดดอย่างสบายใจ ดูจากความเร็วการเผาไม้แล้วนั้นถ้าไม่มีใครมาดับไฟไม่นานที่แห่งนี้คงจะเต็มไปด้วยเปลวเพลิงและเศษขี้เถ้า
“โพรเทคชั่น จะเพิ่มความต้านทานทางกายภาพให้แก่สมาชิกปาร์ตี้ชั่วขณะ” ล็อตต้าอ่านสิ่งที่อยู่ในสมุดเล่มบางอย่างชัดถ้อยชัดคำ “แกเรียนอันนี้ก่อนก็แล้วกัน เป็นแทงค์นี่”
เซบมองล็อตต้าด้วยความงุนงงราวกับไม่ได้พูดคุยด้วยภาษาเดียวกัน
“นี่…แกเรียนสกิลไม่เป็นหรอ”
“มันคืออะไร”
ล็อตต้าสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อตั้งสติ
“นี่แก เป็นคนป่ารึไงเรื่องแค่นี้ทำไมไม่รู้”
“ใช่”
“ห๊ะ-”
“ข้าอาศัยที่หมู่บ้านในป่ามาร์บาโร่” เซบทำหน้าตาย
มือบางกำสมุดในมือแน่นนึกอยากจะฉีกมันทิ้งเป็นส่วนๆ
แค่ได้เดินทางกับเจ้าหน้านิ่งนี่ก็แย่พอแล้ว มันยังเป็นคนป่าอีก ทำไมเขาถึงได้มาอยู่กับมันแทนที่จะได้ไปผจญภัยอย่างสนุกกับเอ็ทน่าด้วย!
แต่เมื่อคิดได้ว่ามันมีราคาเพียงใดจึงหยุดมือตัวเองเอาก่อน
“โอเค เรามาไปกันช้าๆ ก็แล้วกัน” ล็อตต้านั่งลงตรงหน้าเจ้าคนป่าหัวทึบด้วยท่าทางเป็นการเป็นงาน “นี่คือสมุดสกิล นายจะต้องอ่าน เรียนรู้ และคำนวณว่าจะใช้สกิลไหนในการทำอะไร เมื่อชำนาญประมาณนึงแล้วสามารถต่อกันเป็นคอมโบได้ ดาเมจ พลังป้องกัน หรือแม้กระทั่งการทำสถานะจะทำได้ดียิ่งขึ้น แต่ต้องระวังการเรียนรู้สกิลที่มากเกินไปจะทำให้นายไม่สามารถเรียนสกิลอื่นๆ ที่จำเป็นได้ เข้าใจมั้ย”
“ไอตัวนั้นกินได้มั้ย” เซบชี้นิ้วไปทางมอนสเตอร์รูปร่างคล้ายระเบิดสีแดงที่อยู่ห่างออกไป
“นี่แก!”
“เจ้าพูดมากกว่าแม่ข้าอีก”
ล็อตต้ายกมือขึ้นมาลูบหน้าเบาๆ เมื่อสงบสติอารมณ์ได้แล้วจึงพยายามอธิบายอีกครั้ง
“โอเค แกอ่านหนังสือไม่ออกใช่มั้ย งั้นผมจะอ่านให้ฟัง ทำตามที่บอกในสมุด แค่นั้นก็พอ”
เซบไม่ตอบแต่กลับเปลี่ยนจากท่านั่งสบายๆ เมื่อครู่เป็นการนั่งขัดสมาธิ
“โอเค สกิลนี้ จะใช้โล่กระแทกเข้าที่ศัตรูอย่างแรงทำให้เกิดความเสียหายและจะติดสถานะหมดสติ ถ้าทำได้ในขั้นถัดไปสอนถึงการปาโล่ ทำให้ติดสถานะเหมือนกันแต่ดูจะใช้ง่ายกว่าในระยะไกล”
“แค่กระแทกโล่ไปข้างหน้างั้นรึ” เซบถามอย่างสงสัย แค่การกระทำพวกนี้แม้แต่มอนสเตอร์ไร้สมองก็ทำได้โดยที่ไม่ต้องอ่านหนังสือพวกนี้ด้วยซ้ำ
“ก็ไม่เชิง อะนี่” ล็อตต้ายื่นสมุดซึ่งมีรูปวาดและคำอธิบายยาวเหยียดขึ้นมาให้คู่สนทนาดู “จะต้องใช้แรงจากตรงข้อศอก กระแทกไปด้านหน้า ถ้าแรงพอจะเกิดคลื่นลมเบาๆ และถ้าถูกจุดสำคัญจะทำให้ศัตรูหมดสติ”
เซบมองภาพในสมุดอย่างพินิจ พลางพยายามทำความเข้าใจ
“เริ่มจากเจ้าตัวนั้นมั้ยล่ะ” ล็อตต้าชี้ไปยังเจ้ามอนสเตอร์ตัวกลมบริเวณที่ถูกไฟเผา