ในโลกอันกว้างใหญ่ของ Toram Online ผู้คนได้สรรค์สร้างเรื่องราวของตนเอง และการเดินทางครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบหนุ่มของหมู่บ้านได้เผลอยกชีวิตให้กับนักเวทสาวแปลกหน้าซึ่งเดินทางผ่านมา
ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ดาร์กแฟนตาซี,โทรัม,เกมออนไลน์,เกม,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้างในโลกอันกว้างใหญ่ของ Toram Online ผู้คนได้สรรค์สร้างเรื่องราวของตนเอง และการเดินทางครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบหนุ่มของหมู่บ้านได้เผลอยกชีวิตให้กับนักเวทสาวแปลกหน้าซึ่งเดินทางผ่านมา
[ไม่มีตารางการอัพเป็นเวลาแน่นอน]
การออกเดินทางครั้งแรกจากหมู่บ้านที่คุ้นเคยกลับจารึกบางสิ่งเอาไว้ในใจมากมายนับไม่ถ้วน
...
เอาสิ...เอาชีวิตข้าไป
เซบรีดี้ (Zebrede) หรือเซบ อาวุธ : ดาบ/โล่
นักรบหนุ่มผู้พึ่งสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปกล่าวต่อผู้แปลกหน้า หากแต่ไม่ได้คิดให้ถีถ้วนนักว่านี่เป็นดั่งคำปฏิญาณว่าจะยกชีวิตให้กับเธอ
...
มันขโมยบางอย่างที่สำคัญมากของฉันไป
เอ็ทน่า (Aetna) อาวุธ : คทา/ปีก
นักเวทสาวผู้ออกเดินทางโดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว ไม่รู้เลยว่าทุกก้าวของตนนั้นได้เปลี่ยนชีวิตของใครหลายๆ คนไป
...
...
กล้าดียังไงมาแตะต้องตัวผม!!
ล็อตต้า (Lotta) อาวุธ : โบว์กัน/ลูกธนู
เด็กชายรูปร่างบอบบางราวกับสตรี เสนอตัวเข้าหาผู้คนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจนั้นมีเพียงความปรารถนาเดียวคืออิสระ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม
...
มาผจญภัยไปด้วยกันเถอะ
...
แต่งขึ้นโดยอ้างอิง สถานที่ การแต่งกาย มอนสเตอร์ เนื้อเรื่องบางส่วน จากเกม Toram Online
...
ช่องทางการติดตามผลงาน พูดคุย หรือทวงงาน
Facebook : เสมียนน้อย ชอบกินหมู
Twitter/X : เสมียนน้อย @Immhu_
Tiktok : @Immhu_uu
*แวะเวียนมาพูดคุย เล่นมุก ด่าตัวละครได้ตามสบาย นักเขียนค่อนข้างชอบ แค่อย่าด่านักอ่านด้วยกันเอง ขอรับคำติชมเหล่านั้นไว้ด้วยใจ♡*
มือแข็งแรงคว้าหูเจ้ากระต่ายป่าสีน้ำตาลตัวกลมขึ้นมาด้วยมือเปล่าก่อนจะตวัดมีดลงไปยังร่างของมันจนแน่นิ่งไป เซบหยิบเอาเชือกที่ทำจากเถาวัลย์แห้งและเหนียวมัดเก็บกระต่ายไว้บนหลังเพื่อเป็นเสบียง
“นี่…หยุดทำร้ายพวกมันได้แล้วน่า” ล็อตต้าเอ่ยขึ้นมาพร้อมทำหน้าแหยแก สองมือยังคงกำไม้ท่อนยาวในมือแน่นเพื่อช่วยในการเดินไปข้างหน้า
เมื่อผ่านพ้นเขตป่าลึกมาก็ถึงตีนผาตามที่ล็อตต้ากล่าว ด้วยความสูงและชันของมันทำให้การเดินทางช้าลงแต่มันก็ถือว่าสบายมากนักเพราะเมื่อมองขึ้นไปด้านบนจนสุดปลายสายตาเหนือขอบเมฆ ภูเขาสูงถูกกัดเซาะจนแหว่งเป็นแท่งยาว ซึ่งถ้าหากพวกเขาต้องเดินทางด้านบนซึ่งมีอากาศที่หนาวและลมแรงรวมไปถึงการต้องกระโดดข้ามหินแต่ละก้อนดูท่าจะหนักหนาพอควร
“หรือจะกินเจ้านั่น” เซบตอบพลางชี้ไปยังกิ้งก่าตัวเขียวที่กำลังพยายามเปลี่ยนสีของตนให้เข้ากับลำต้นไม้อย่างช้าๆ
เมื่อได้เห็นผิวหนังหยาบกร้านและดวงตากลมโตน่ากลัวของมันล็อตต้าจึงเลิกต่อปากต่อคำกับเซบทันที
“ว๊าย!”
ผู้ที่เดินนำหน้าตลอดการเดินทางพลาดเหยียบเอาหินร้าวและกรีดร้องขึ้นมาเสียงดังลั่นเพราะมันแตกออกทันทีที่เท้าลงน้ำหนักไป เอ็ทน่าไถลลงมาจากเนินสูงชันทว่าก่อนที่ร่างจะได้กระแทกกับพื้นหินหยาบก็ถูกท่อนแขนแข็งแรงรับเอาไว้ได้ทัน
เซบใช้การก้าวเพียงครั้งเดียวก็ถึงตัวของเอ็ทน่าได้อย่างทันท่วงทีโดยมีล็อตต้ายืนสังเกตอยู่ห่างๆ
“ท่านั้นนี่นา…” ล็อตต้าซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดพูดกับตัวเองเบาๆ “เหมือนจะไม่เคยสอนใช้นะ”
“ขอบใจ” เอ็ทน่ากล่าวขอบคุณแต่ก็ไม่ยอมลุกขึ้นยืนอย่างเต็มตัวและใช้แขนทั้งสองข้างโอบรอบคอของเซบเอาไว้แน่น “ฉันเหนื่อย”
เซบหันหน้าหนีไปทางอื่นทันทีเพราะใบหน้าของทั้งคู่อยู่ใกล้กันมากเกินไปก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ เขาเริ่มรู้แล้วว่านายหญิงต้องการสิ่งใด
ท่อนแขนสีเข้มค่อยๆ ช้อนเอาขาของนางขึ้นมาในท่าอุ้มเจ้าสาว ดวงตาสีเทามองผู้ที่อยู่ในอ้อมแขนอย่างไม่ถูกใจนักหากแต่ไม่สามารถขัดสิ่งที่เอ็ทน่าต้องการได้เนื่องจากตนได้ปฏิญาณเอาไว้แล้ว ว่าจะรับใช้นางตลอดการเดินทาง
“ผมด้วยๆๆๆ” ล็อตต้าที่เดินมาใกล้พอดีรีบซอยขาเข้ามาพร้อมอ้าแขนกว้าง
เซบรีบหันหลังกลับไปใช้เท้ายันอกเจ้าตัวบางไว้ก่อนที่เขาจะได้มีภาระเพิ่ม แค่ต้องเดินทางผ่านพื้นหินสูงชันมันก็ลำบากมากพออยู่แล้ว หากต้องอุ้มนายหญิงและแบกเจ้าล็อตต้าไว้ดูท่าเขาคงต้องทนกับอาการปวดเนื้อตัวไปอีกหลายวัน
“ผมก็เหนื่อยนะ”
“ไม่ -_-”
“แค่แบกผมกับเอ็ทน่าซักสองวันเอง เดี๋ยวก็ถึงตีนผาแล้วน่า” ล็อตต้าเริ่มโอดครวญ พยายามส่งสายตาออดอ้อนไปให้
เซบที่ปกติหน้าบึ้งอยู่แล้วยิ่งดูไม่รับแขกมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นการกระทำของเจ้านักยิงตัวบางตรงหน้า
“เป็นบุรุษต้องอดทน”
“แต่ล็อตเหนื่อยแล้วนะคะ” ล็อตต้าใช้ท่าไม้ตายทำเสียงอ่อนและส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้ ใบหน้าเรียวสวยถูกกดลงเล็กน้อยอย่างเขินอายพร้อมปลายนิ้วอมชมพูปัดปอยผมข้างหูเผยให้เห็นต้นคอขาวเนียน
โดยปกติแล้วการที่เขาทำเช่นนี้มักจะได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอแต่ล็อตต้ากลับลืมไปว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้มิใช่อย่างที่ผ่านๆ มา
พลั่ก
เซบถีบเข้าที่กลางอกของล็อตต้าอย่างตั้งใจพร้อมความหมั่นไส้จนถึงขีดสุด ร่างบางสะอาดตากลิ้งลงไปยังทางที่ผ่านมากระแทกเข้ากับพื้นหินหยาบหลายครั้ง เซบรีบเดินห่างออกไปโดยยังคงอุ้มนายหญิงของตนเอาไว้แน่น
“ไอ...ไอหยาบช้า!!” ล็อตต้าตะโกนไล่หลังพยายามนึกคำด่าที่หัวที่จะทำให้เจ้านั่นเจ็บใจแต่ก็นึกไม่ออก
--------------
หน้าผาสูงชันเหนือขอบเมฆขึ้นไปซึ่งมีลมแรงๆ พัดผ่านเป็นระยะคืออีกเป้าหมายหนึ่งของพวกเขา เซบแบกสัมภาระของทั้งปาร์ตี้เอาไว้บนหลังและปีนขึ้นไปเป็นคนแรก ดวงตาสีเทาเพ่งมองก้อนหินแต่ละก้อนที่จะวางน้ำหนักมือและขาลงไปอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ตกลงไป เพราะด้านล่างมีเพียงพื้นหินแข็ง ที่เอวของเขามีเชือกหลายเส้นถักร้อยเข้าด้วยกันจนหนาและแข็งแรงเพื่อผูกอีกสองคนด้านล่างซึ่งปีนตามมาติดๆ ไม่ให้หล่นลงไปหากพลาดเข้า
เศษหิมะเบาบางๆ และอุณหภูมิซึ่งลดต่ำลงอย่างรวดเร็วเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกว่าใกล้จะถึงที่หมายแล้ว แต่ดวงอาทิตย์ทางขวามือกลับทิ้งตัวลงยังขอบภูเขาสุดปลายสายตาเหลือเพียงครึ่งดวงอันเป็นเวลาพลบค่ำ เร่งเร้าให้พวกเขาปีนให้ไวขึ้นก่อนจะได้พบกับความมืดมิดและสภาพอากาศหนาวเย็น แม้ล็อตต้าจะเตือนแล้วว่าไม่สามารถปีนขึ้นไปได้ภายในเวลาแค่หนึ่งวันแต่ก็ต้องลองดู
“ตรงนั้น” เอ็ทน่าตะโกนเรียกพลางชี้มือไปยังโขดหินใหญ่ด้านบนเยื้องไปทางขวาซึ่งยื่นออกมาจากหน้าผาดูท่าจะใช้เป็นที่ค้างแรมได้ในคืนนี้ ทว่าต้นไม้ใหญ่กลับเติบโตขึ้นจนเต็มพื้นที่ ส่วนรากแข็งแรงของมันชอนไชไปยังรอยแตกโอบล้อมทุกสิ่งรอบกายเอาไว้ราวกับรังของนกน้อยที่กำลังวางไข่
เซบสังเกตดูแล้วว่าโดยรอบไม่มีแง่งหินหรือรอยแตกมากพอที่จะปีนไปถึงมัน ยังไงก็ต้องลองเสี่ยงกระโดดเข้าไปหา หวังเพียงว่ารากไม้นั้นจะแข็งแรงมากพอให้เขายึดเกาะ
เซบใช้แรงจากขากระโดดขึ้นไปจับเอารากไม้ใหญ่สำเร็จแต่เพราะแรงกระแทกและน้ำหนักที่มากผิดปกติทำให้มันหลุดร่วงออกจากโคนต้น
วืดดดด
คนตัวโตถูกเหวี่ยงอย่างแรงจนกระแทกเข้ากับหน้าผาอีกฝั่ง เศษรากไม้แห้งและก้อนหินหลุดร่วงตามลงไปยังพื้นเบื้องล่าง
เอ็ทน่ากางปีกติดประกายไฟของตนออกมาเพื่อเริ่มใช้เวทมนตร์ ในหัวครุ่นคิดถึงอะไรก็ตามที่สามรถทำได้ในตอนนี้ คทายาวถูกยื่นออกไปจนสุดแขนหวังให้เซบคว้าเอาไว้ก่อนจะตกลงไป
โชคดีที่มันยังแข็งแรงมากพอที่จะรับน้ำหนักเขาได้จึงไม่ขาดออก โคนของมันถูกพันและยึดเกาะเอาไว้ด้วยรากเส้นอื่นๆ เมื่อทรงตัวได้แล้วเซบจึงค่อยๆ ปีนป่ายขึ้นไปด้วยแรงแขนเพียงอย่างเดียวเพราะไม่มีที่ให้ขาได้เหยียบ
เมื่อสามารถไต่ขึ้นไปยืนบนโขดหินได้อย่างมั่นเหมาะจึงค่อยๆ ดึงเอาคนอื่นๆ ขึ้นมาด้วย
เอ็ทน่าไต่รากไม้ตามขึ้นมาติดๆ ขาทั้งสองพาดกับรากใหญ่ให้มั่นก่อนจะคว้าเอาแขนเซบซึ่งยื่นรออยู่
แต่กับล็อตต้า เขาหมดแรงไปนานแล้วจึงใช้แค่แขนจับเอาเชือกซึ่งมัดเอวเอาไว้แน่นปล่อยให้เซบและเอ็ทน่าดึงตนเองขึ้นไปอย่างทุลักทุเล
“-_-” เซบเริ่มทำหน้าบึ้งอีกครั้งเมื่อเริ่มมองเห็นล็อตต้าที่ทิ้งตัวคิดอยากจะปล่อยให้มันร่วงลงไปข้างล่างให้จบๆ ไป
“แฮ่กกกแฮกกกก” เมื่อสามารถขึ้นมาอยู่ในที่ปลอดภัยได้ ล็อตต้าที่ยังคงเหนื่อยล้านอนแผ่หลาอยู่บนพื้นพร้อมหอบหายใจถี่ มือทั้งสองยังคงกำเชือกในมือแน่น
“ข้าน่าจะตัดเชือกเจ้าทิ้งซะ” เซบทำเสียงแข็งพร้อมสีหน้าหงุดหงิดพลางโยนกระเป๋าสัมภาระใส่
ล็อตต้าอยากจะกวนอะไรกลับไปซักอย่างแบบที่ทำเป็นประจำแต่ความเหนื่อยล้าจนแทบทนไม่ไหวทำให้เขาทำได้เพียงชูนิ้วกลางใส่อีกฝ่าย
เซบไม่เข้าใจสิ่งที่ล็อตต้าทำมากนักแต่สัมผัสได้ว่าเจ้าตัวบางไม่ได้กำลังขอบคุณเขาที่ช่วยดึงขึ้นมาอย่างแน่นอน
ตุ้บ
เอ็ทน่าเมื่อได้มองรอบกายอย่างถีถ้วนไม่พบที่ราบเรียบไว้นอนได้ยกเว้นบริเวณขอบหิน ทิ้งตัวลงข้างล็อตต้าและหลับไปอย่างรวดเร็ว
สภาพของเอ็ทน่าดูดีกว่าล็อตต้ามากนักคงเพราะต้องเดินทางไปทั่วคงจะเคยชินกับอะไรแบบนี้เสียแล้ว แต่ท่าทางเหนื่อยล้ายังคงสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า เซบยืนสังเกตอาการของนายหญิงซักพักก่อนจะเดินไปอีกฝากของโขดหินซึ่งไม่มีรากไม้บดบังพื้นที่เตรียมย่างให้เนื้อแห้งเพื่อเป็นเสบียงในระยะยาว เกลือซึ่งถูกห่อไว้ด้วยใบไม้ของป่าเขตร้อนช่วยทำให้มันยังคงสภาพดีอยู่แม้จะถูกเก็บไว้นานแค่ไหนก็ตามถูกเปิดออกและโรยลงไปส่งกลิ่นหอมออกมาจางๆ
เจ้านี่เคยมีราคาแพงชนิดที่ว่าต้องใช้เนื้อควายป่าทั้งตัวแลกมา แต่เมื่อมาถึงเมืองใหญ่เขากลับพบว่ามันคือของที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปด้วยซ้ำ นึกย้อนไปก็เจ็บใจที่คนป่าอย่างพวกเขาถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าหัวใส
แล้วเสียงของค่ำคืนแห่งนรกก็ดังขึ้นมาอีกครั้งจากหน้ากากข้างกาย เขาหยิบมันขึ้นมาจ้องมองผ่านดวงตาสีฟ้าซึ่งส่องประกายสะท้อนกับแสงของดวงจันทร์ราวกับมีชีวิต มันพยายามบอกบางสิ่งกับเขาอีกแล้ว เสียงของคาร์ลและคนอื่นๆ ดังขึ้นมาเป็นระยะ เแต่เมื่อตั้งใจฟังดีๆ กลับได้ยินเพียงความโกลาหล ราวกับมันฉายภาพของคืนนั้นซ้ำไปซ้ำมาเพื่อตอกย้ำ
“อย่าไป…” เอ็ทน่าเริ่มละเมอกลิ้งไปมาพร้อมเหงื่อกาฬผุดทั่วร่าง ดวงตาเย่อหยิ่งภายใต้เปลือกตาบางสั่นระริก “เดล แม่ขอร้อง” กระทั่งนางคว้าเอามือของล็อตต้าไว้ได้และดึงเข้าไปกอดแน่น ล็อตต้ารู้สึกตัวขึ้นมาเล็กน้อยกอดตอบกลับไปเบาๆ และเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วเนื่องจากความเหนื่อยล้า
น่าแปลกนักที่ถึงแม้ว่าเจ้าตัวบางนั่นจะเข้าใกล้นายหญิงมากถึงเพียงนี้เขากลับไม่รู้สึกเป็นห่วง คงเป็นเพราะรูปร่างไร้ซึ่งความเป็นชายและเรื่องทั้งหมด ทำให้แน่ใจว่าไม่ว่ายังไงล็อตต้าจะไม่มีทางล่วงเกินใครก็ตามหากอีกฝ่ายไม่ยินยอม เซบยังคงย่างเนื้อต่อไปโดยที่สายตายังคงคอยสังเกตสองผู้ร่วมเดินทางซึ่งต่างก็มีฝันร้ายเป็นของตัวเองเป็นระยะ