ในโลกอันกว้างใหญ่ของ Toram Online ผู้คนได้สรรค์สร้างเรื่องราวของตนเอง และการเดินทางครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบหนุ่มของหมู่บ้านได้เผลอยกชีวิตให้กับนักเวทสาวแปลกหน้าซึ่งเดินทางผ่านมา

Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง - ตอนที่6 ยากจะลืมเลือน โดย อิ่มหมู @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ดาร์กแฟนตาซี,โทรัม,เกมออนไลน์,เกม,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,ดาร์กแฟนตาซี,โทรัม,เกมออนไลน์,เกม,แฟนตาซี

รายละเอียด

Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง โดย อิ่มหมู @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ในโลกอันกว้างใหญ่ของ Toram Online ผู้คนได้สรรค์สร้างเรื่องราวของตนเอง และการเดินทางครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบหนุ่มของหมู่บ้านได้เผลอยกชีวิตให้กับนักเวทสาวแปลกหน้าซึ่งเดินทางผ่านมา

ผู้แต่ง

อิ่มหมู

เรื่องย่อ

[ไม่มีตารางการอัพเป็นเวลาแน่นอน]


การออกเดินทางครั้งแรกจากหมู่บ้านที่คุ้นเคยกลับจารึกบางสิ่งเอาไว้ในใจมากมายนับไม่ถ้วน


...


เอาสิ...เอาชีวิตข้าไป


เซบรีดี้ (Zebrede) หรือเซบ อาวุธ : ดาบ/โล่


นักรบหนุ่มผู้พึ่งสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปกล่าวต่อผู้แปลกหน้า หากแต่ไม่ได้คิดให้ถีถ้วนนักว่านี่เป็นดั่งคำปฏิญาณว่าจะยกชีวิตให้กับเธอ


...


มันขโมยบางอย่างที่สำคัญมากของฉันไป


เอ็ทน่า (Aetna) อาวุธ : คทา/ปีก


นักเวทสาวผู้ออกเดินทางโดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว ไม่รู้เลยว่าทุกก้าวของตนนั้นได้เปลี่ยนชีวิตของใครหลายๆ คนไป


...


...


กล้าดียังไงมาแตะต้องตัวผม!!


ล็อตต้า (Lotta) อาวุธ : โบว์กัน/ลูกธนู


เด็กชายรูปร่างบอบบางราวกับสตรี เสนอตัวเข้าหาผู้คนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจนั้นมีเพียงความปรารถนาเดียวคืออิสระ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม


...


มาผจญภัยไปด้วยกันเถอะ

...

แต่งขึ้นโดยอ้างอิง สถานที่ การแต่งกาย มอนสเตอร์ เนื้อเรื่องบางส่วน จากเกม Toram Online

...


ช่องทางการติดตามผลงาน พูดคุย หรือทวงงาน


Facebook : เสมียนน้อย ชอบกินหมู


Twitter/X : เสมียนน้อย @Immhu_


Tiktok : @Immhu_uu


*แวะเวียนมาพูดคุย เล่นมุก ด่าตัวละครได้ตามสบาย นักเขียนค่อนข้างชอบ แค่อย่าด่านักอ่านด้วยกันเอง ขอรับคำติชมเหล่านั้นไว้ด้วยใจ♡*

สารบัญ

Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่1. เพียงพริบตา,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่2. ดวงดาราที่แปลกไป,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่3. ลองดูมั้ย,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่4 เจ้าเองก็มีฝันร้ายสินะ,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่5 ลีลาจริงๆ เลย,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่6 ยากจะลืมเลือน,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่7 ไม่อยากตายแล้วจริงๆ หรือ,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่8 รวมตัวสมาชิกคนที่สาม,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่9 ออกเดินทางกับเจ้าตัวบาง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่10 ดงโจร,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่11 พบเจออีกครั้ง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่12 หรือนี่คือสรวงสวรรค์...,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่13 ยังไว้ใจมันได้อีกหรือ?,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่14 ชุดอยู่บ้าน...,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่15 เจ้าชื่อว่าอัครเดช,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่16 แสงจันทร์ของนายหญิง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่17 นรกในห้วงนิทรา,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่18 ขอเพียงได้พบ,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่19 ค่ำคืนแห่งฝันร้าย(1),Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่20 ค่ำคืนแห่งฝันร้าย(2),Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่21 ค่ำคืนแห่งฝันร้าย(3),Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่22 ค่ำคืนแห่งฝันร้าย(4 ตื่นจากฝัน),Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่23 ถึงบรรพต,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่24 สตรีผู้นั้น...เสียงทุ้มต่ำ,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่25 สองพี่น้อง หอกและเรน,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่26 ความสัมพันธ์กับเอ็ทน่า,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่27 ฝันอันเรียบง่าย,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่28 ถึงเมืองหลวง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่29 พาลาดิน?,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่30 วงกลมสีฟ้าจำเป็นต้องหลบเลี่ยงหรือ?,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่31 ดวงตาสอดประสาน,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่32 อย่ากลัวที่จะพ่ายแพ้,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่33 ทุกคำนินทา ล้วนมาจากข้อเท็จจริง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่34. ผีไม่มีจริง

เนื้อหา

ตอนที่6 ยากจะลืมเลือน

[เมืองโซเฟีย]

เป็นไปตามคำที่นายหญิงกล่าว เมื่อแสงแรกแห่งตะวันสาดส่องลงมากระทบผิวดินก็เริ่มจะมองเห็นกำแพงเมืองอยู่ตรงหน้า ที่นี่ดูมีชีวิตชีวาอย่างเห็นได้ชัดต่างจากเมืองรกร้างตลอดเส้นทาง

สิ่งปลูกสร้างของเมืองนี้ถูกสร้างจากหินเป็นส่วนใหญ่ มีเพียงชั้นสองของบ้านซึ่งจะมีไม้เป็นส่วนประกอบเพื่อเพิ่มความแข็งแรง หลังคาสีเขียวและแดงรวมไปถึงหน้าต่างกระจกคงจะเป็นที่นิยมอย่างมากในเมืองแห่งนี้ เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน วัสดุ สี และรูปทรงของบ้านต่างคล้ายกันหมดราวกับถูกสร้างจากคนคนเดียวกัน มันคงจะไม่แปลกใจเลยถ้าในค่ำคืนหนึ่งจะมีใครหลายๆ คนเผลอเดินเข้าบ้านผิดหลัง

เซบยืนจ้องความพลุกพล่านและเสียงจอแจของผู้คนด้วยความรู้สึกมากมาย ทั้งตื่นตา ประหม่า ดีใจ แต่ที่แน่ชัดที่สุดคือความโหยหา ในใจลึกๆ เขาหวังว่าจะได้พบกับคนที่คุ้นเคยยืนต้อนรับเขาเช่นวันวาน

ซึ่งบัดนี้มันจะไม่มีภาพเหล่านั้นอีกต่อไป…

“ไม่ชอบคนเยอะหรอ” เอ็ทน่าเห็นเซบที่ยืนนิ่งอยู่นานเอ่ยขึ้น

ถึงแม้สีหน้าปกติของเขาจะไม่ค่อยรับแขกเท่าไหร่นักแต่ตัวเธอเองก็พอมองออกว่านี่ไม่ใช่สีหน้าของคนที่กำลังตื่นเต้นกับบ้านเมืองใหญ่โตตรงหน้าแน่นอน

“แล้วศัตรูของท่านคือผู้ใด”

เซบกล่าวพลางมองไปยังผู้คนรอบกาย ซึ่งต่างคนต่างเดินถือสัมภาระในมือมุ่งตรงไปยังที่ต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายของตน 

มีทหารสวมชุดเกราะอย่างดียืนประจำการตามจุดต่างๆ คอยอำนวยความสะดวกและเฝ้าระวังมิให้เหล่ามอนสเตอร์เข้ามาใกล้ตัวเมือง

“ยังเหมือนเดิมเลยแฮะ” เอ็ทน่าไม่สนใจในสิ่งที่เซบพูด สายตาเพ่งมองไปยังหุ่นไล่กาทางซ้ายมือ

ซึ่งถูกจับแต่งตัวด้วยชุดที่ดูเก่าและมีร่องรอยการใช้งานมาอย่างหนัก ส่วนหัวของมันมีใบหน้าซึ่งถูกขีดเขียนอย่างลวกๆ แต่ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นหุ่นไล่กาแต่กลับมีเจ้านกน้อยตัวอ้วนมาทำรังบนหมวกของมันซะอย่างงั้น

เสียชาติเกิดชะมัด….

เซบยืนจ้องหน้าของมันสลับกับป้ายที่ถูกห้อยไว้ที่คอซึ่งเขาอ่านไม่ออก ย้อนคิดไปถึงเรื่องเล่าของท่านผู้นำหมู่บ้านที่มักเล่าให้ฟังนับร้อยนับพันครั้งก็ไม่จบเสียที

ถึงนักผจญภัยที่ออกเดินทางเพื่อช่วยเหลือเหล่าทวยเทพด้วยกำลังที่เขามีเพียงตัวคนเดียว การต่อสู้อย่างห้าวหาญมากมายจนนับไม่ถ้วนเล่าสืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่น

“เซบบบบบ มานี่” 

เสียงของเอ็ทน่าตะโกนมาจากที่ไกลๆ เรียกให้เขากลับสู่ความเป็นจริง

ท่อนแขนบางยืนโบกไปมาอยู่หน้าร้านขายของซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบ้านสองชั้นสีสะอาดตา ด้านบนสุดที่ดูเหมือนห้องใต้หลังคา หน้าต่างถูกฝุ่นเกาะจนเป็นคราบหนาบ่งบองว่าไม่มีผู้ใดขึ้นไปอาศัยอยู่เลย

“สวัสดีคุณลูกค้า นี่หรือสินค้าที่ท่านกล่าวถึง เยอะเหมือนกันนะเนี่ย” มนุษย์ตัวจ้อยที่มีปลายหูแหลมผิดจากคนทั่วไปกล่าวด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง

“มีรีไวต้าVมั้ยโซโลโล” เอ็ทน่าเอ่ยถามพลางกวาดสายตาไปยังสินค้าต่างๆ ด้านหลังพ่อค้าตัวจ้อยซึ่งถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบอยู่บนชั้นวางสีไม้

“ของแบบนั้นต้องหาซื้อเอาที่กระดานขายสินค้าแล้วล่ะ แต่พลัสไวต้าของข้าน่ะคุณภาพดีทีเดียวเลยนะ คุณลูกค้าสนใจมั้ย” โซโลโลตอบในขณะที่คำนวณราคาสินค้าให้ลูกค้าคนอื่นไปด้วย

เซบไม่รู้เรื่องการค้าเหล่านี้มากนักจึงค่อยๆ เดินถอยออกมาเงียบๆ และนั่งพักลงบนเก้าอี้ไม้หน้าร้านซึ่งถูกจับจองที่นั่งบางส่วนโดยผู้สัญจรเช่นกัน

แต่เมื่อได้มองดูผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างตั้งใจเขาก็ได้พบว่า การแต่งกายของพวกเขาช่างพิลึกราวกับไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ ทั้งปีกขนาดใหญ่ผิดปกติ หมวกสวมศีรษะที่มีรูปร่างคล้ายสัตว์ หางปุกปุยปลอมๆ อาวุธมีแสงสะท้อนราวกับเปลวไฟ ทั้งยังมีสีสันที่เขาไม่คาดคิดและไม่เหมาะแก่การเอาชีวิตรอดแต่พวกเขากลับดูแข็งแกร่งจนน่าพิศวง

“ไปพักกันก่อนเถอะ ค่ำๆ ร้านเหล้าเปิดเราถึงจะหาตัวมันได้” เอ็ทน่าเดินมาพร้อมถุงสปีนาในมือจำนวนหนึ่ง

ซึ่งเมื่อได้เห็นแบบนี้แล้ว การแต่งกายของนายหญิงเอ็ทน่าดูปกติไปเลยทีเดียว

“จะไปมั้ย” เอ็ทน่าถามซ้ำก่อนจะเดินนำหน้าไปตามทางเดินซึ่งปูด้วยหิน

นายหญิงพาเขาลัดเลาะไปตามขอบของเมืองเพื่อหลบเลี่ยงผู้คน 

“จริงสิ เรามาเปลี่ยนชุดกันมั้ย” เอ็ทน่าเอ่ยถามขึ้น

เซบไม่ตอบในทันทีแต่มองตนเองและเอ็ทน่าสลับไปมา “ข้าคง…สวมชุดของท่านไม่ได้”

“ชุดอาร์นิกม่าจะเข้ามั้ยนะ”

เอ็ทน่ากล่าวพร้อมทำสีหน้าครุ่นคิดและรีบเดินลัดเลาะไปตามทางต่อไปโดยไม่รอความเห็นของเขาอีกเช่นเคย ราวกับเมื่อครู่ทั้งหมดที่นางกล่าวมาเพียงแค่ต้องการคุยกับตนเองเท่านั้น

เมื่อผ่านเขตชุมชนของเมืองใหญ่และท่าเรือขนาดเล็ก ซึ่งมีเรือที่จอดเทียบท่าเพียงลำเดียวผิดจากจำนวนคนสัญจรในตัวเมืองมากนัก เอ็ทน่าหยุดฝีเท้าลงบริเวณด้านหน้าของบ้านหลังใหญ่ อันเป็นที่ตั้งของกระดานไม้แต่กลับถูกกระดาษแปะซ้อนทับกันไปมาจนเป็นปึกใหญ่ มีคนจำนวนมากยืนอ่านสิ่งที่เขียนอยู่บนกระดานเช่นเดียวกัน

เซบไม่สนใจสิ่งเหล่านี้มากนักเพราะตัวเขาเองอ่านไม่ออก แต่เมื่อมองตรงไปยังอีกฝากของตัวเมืองข้ามผ่านสะพานหินซึ่งดูจะเป็นเขตที่อยู่อาศัย บ้านเรือนดูใหญ่และเป็นระเบียบยิ่งกว่าถูกปลูกสร้างบนพื้นที่ริมแม่น้ำทอดยาวออกไป บริเวณใจกลางส่วนที่สูงที่สุดของเมืองดูจะเป็นสถานที่ของบุคคลสำคัญ ด้วยรูปทรงโค้งมนและสะอาดตาทำให้มองเห็นได้ง่ายนัก ในใจลึกๆ ของเขากลับอยากเดินเข้าไปหาราวกับมีลูกศรสีฟ้าสดใสชี้ทางอยู่

“ถือไว้”

เอ็ทน่ายัดบางสิ่งใส่มือของเขาจำนวนมากและเดินนำหน้าไปยังอีกฝั่งของถนน ซึ่งมีร้านค้าชั้นเดียวเปิดอยู่ไม่กี่ร้าน ผู้คนแต่งกายประหลาดเดินเข้าออกจำนวนมาก แต่นางกลับเดินผ่านร้านเหล่านั้นไปลัดเลาะตามกำแพงเมืองอีกครั้ง

จนมาหยุดที่บ้านหลังหนึ่งริมประตูเมืองอีกฝั่งซึ่งไม่มีทหารยามเฝ้า ชั้นแรกของบ้านถูกดัดแปลงให้เป็นร้านค้าเล็กๆ ดอกไม้มากมายถูกจัดวางจนแทบมองไม่เห็นทางเดิน

แต่ที่น่าแปลกคือที่นี่ไม่ใช่ร้านขายดอกไม้แต่อย่างใด เมื่อผ่านส่วนทางเข้าจนมาถึงด้านในได้ เตาเผาร้อนระอุคือสิ่งแรกที่มองเห็น อุปกรณ์ช่างนานาชนิดแขวนอยู่ริมกำแพงเพื่อให้หยิบใช้งานง่ายที่สุด

“วันนี้เปิดร้านมั้ย ฟลอเรีย” เอ็ทน่ากล่าว

ผู้ที่ถูกเรียกหันกลับมาด้วยท่าทางตกตะลึง ดวงตากลมโตเบิกกว้าง พร้อมริมฝีปากเล็กสีเชอรี่ฉีกยิ้มจนแทบเห็นฟันครบทุกซี่

“เอ็ทน่า!” เอลฟ์สาวพุ่งเข้าสวมกอดอย่างแรงจนอีกฝ่ายเซเล็กน้อย “ฉันนึกว่าเธอตายไปแล้วซะอีก”

“ฉันไม่ตายง่ายขนาดนั้นน่า” เอ็ทน่ากอดตอบเบาๆ 

“ฉันเองก็กำลังคิดอยู่ว่าคนที่จะฆ่าเธอได้ต้องเป็นปีศาจแบบไหนกันแน่”

“ร้านเป็นไงบ้าง”

“ฮัดเช่ย!!”

เสียงจามจากคนแปลกหน้าดึงความสนใจของเพื่อนรักที่เอาแต่พูดคุยกันยาวเยียดให้หันไปมอง

เซบยืนทำหน้าแหยแกพลางพยายามเดินหลบเลี่ยงดอกไม้ซึ่งวางอยู่จนทั่วบริเวณ

“ใครน่ะ…มากับเอ็ทน่าหรอคะ” เอลฟ์สาวรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าจากในกระเป๋ากระโปรงตัวโปรดเดินตรงเข้าไปหา “นี่จ๊ะ” มือบางยื่นผ้าเช็ดหน้าปักด้วยมือให้

ดวงตากลมโตสีทองสุกสว่างกวาดสายตามองเซบทั่วทั้งตัวก่อนจะยิ้มออกมาเบาๆ

รอยยิ้มที่ราวกับแสงอบอุ่นของหิ่งห้อยท่ามกลางพายุหิมะเย็นเฉียบ แม้เพียงเล็กน้อยแต่ก็สามารถทำให้ภูเขาน้ำแข็งละลายได้เลยทีเดียว

“แพ้เกสรดอกไม้หรอคะ” เอลฟ์สาวถาม

“ขะ...ข้าไม่ชอบกลิ่นหอม” เซบตอบตะกุกตะกัก รีบถือผ้าเช็ดน้าขึ้นมาปิดจมูกแล้วรีบเดินเข้าไปในร้านพร้อมใจเต้นระรัว

ไม่รู้ว่าเพราะกลิ่นหอมรอบกายหรือเพราะสิ่งอื่นกันแน่

“สีนี้สวยจัง” เอ็ทน่าหยิบถ้วยขนาดเล็กที่ทำจากดินเผาขึ้นมา ภายในเต็มไปด้วยของเหลวสีเหลืองสดใส

“ฉันซื้อมาจากพ่อค้าในเมือง น่าจะทำมาจากดอกไม้นะคะ”

“นี่เซบนะ เซบรีดี้ ชุดของหมอนี่เอาสีนี้ละกัน” เอ็ทน่าสั่งยาวเหยียดพร้อมหยิบเอาถ้วยสีที่เลือกวางไว้บนโต๊ะทำงานเล็ก

“โอ้…คู่หู คนใหม่หรอคะ” ฟลอเรียมองเอ็ทน่าสลับกับผู้มาเยือนพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ

มือนิ่มราวกับไม่ใช่ผู้ที่เคยทำงานหนักหยิบเอาของทั้งหมดในมือของเขาไปและเริ่มลงมือจัดการตามคำสั่งเมื่อครู่