ในโลกอันกว้างใหญ่ของ Toram Online ผู้คนได้สรรค์สร้างเรื่องราวของตนเอง และการเดินทางครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบหนุ่มของหมู่บ้านได้เผลอยกชีวิตให้กับนักเวทสาวแปลกหน้าซึ่งเดินทางผ่านมา
ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ดาร์กแฟนตาซี,โทรัม,เกมออนไลน์,เกม,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้างในโลกอันกว้างใหญ่ของ Toram Online ผู้คนได้สรรค์สร้างเรื่องราวของตนเอง และการเดินทางครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบหนุ่มของหมู่บ้านได้เผลอยกชีวิตให้กับนักเวทสาวแปลกหน้าซึ่งเดินทางผ่านมา
[ไม่มีตารางการอัพเป็นเวลาแน่นอน]
การออกเดินทางครั้งแรกจากหมู่บ้านที่คุ้นเคยกลับจารึกบางสิ่งเอาไว้ในใจมากมายนับไม่ถ้วน
...
เอาสิ...เอาชีวิตข้าไป
เซบรีดี้ (Zebrede) หรือเซบ อาวุธ : ดาบ/โล่
นักรบหนุ่มผู้พึ่งสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปกล่าวต่อผู้แปลกหน้า หากแต่ไม่ได้คิดให้ถีถ้วนนักว่านี่เป็นดั่งคำปฏิญาณว่าจะยกชีวิตให้กับเธอ
...
มันขโมยบางอย่างที่สำคัญมากของฉันไป
เอ็ทน่า (Aetna) อาวุธ : คทา/ปีก
นักเวทสาวผู้ออกเดินทางโดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว ไม่รู้เลยว่าทุกก้าวของตนนั้นได้เปลี่ยนชีวิตของใครหลายๆ คนไป
...
...
กล้าดียังไงมาแตะต้องตัวผม!!
ล็อตต้า (Lotta) อาวุธ : โบว์กัน/ลูกธนู
เด็กชายรูปร่างบอบบางราวกับสตรี เสนอตัวเข้าหาผู้คนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจนั้นมีเพียงความปรารถนาเดียวคืออิสระ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม
...
มาผจญภัยไปด้วยกันเถอะ
...
แต่งขึ้นโดยอ้างอิง สถานที่ การแต่งกาย มอนสเตอร์ เนื้อเรื่องบางส่วน จากเกม Toram Online
...
ช่องทางการติดตามผลงาน พูดคุย หรือทวงงาน
Facebook : เสมียนน้อย ชอบกินหมู
Twitter/X : เสมียนน้อย @Immhu_
Tiktok : @Immhu_uu
*แวะเวียนมาพูดคุย เล่นมุก ด่าตัวละครได้ตามสบาย นักเขียนค่อนข้างชอบ แค่อย่าด่านักอ่านด้วยกันเอง ขอรับคำติชมเหล่านั้นไว้ด้วยใจ♡*
วืดดดดดดดดด วืดดดดวืดดดดด
เสียงกรีดร้องจากพายุหิมะบ้าคลั่งขึ้นอีกครา ความหนาวเย็นจนเจ็บกระดูกแทรกเข้ามาตามร่องไม้แตกสัมผัสกับพวกเขาโดยตรง เซบกระชับผ้าสีเขียวเข้ามาแน่นโดยมีเอ็ทน่าและล็อตต้านั่งขดอยู่ภายในอ้อมแขนของเขา
ฟู่วววววว
ล็อตต้าเป่าลมหายใจซึ่งมีควันพวยพุ่งออกมาหวังให้มันช่วยมือซึ่งแทบจะไม่รู้สึกสิ่งใดให้อุ่นมาบ้าง แต่ลมที่เป่าออกมากลับมีเพียงความเย็นจึงสอดมือแนบเข้าที่ใต้รักแร้ของตนเองซึ่งเป็นจุดที่อบอุ่น
เมื่อพวกเขาเริ่มมองเห็นลานหินกว้างและโล่งอยู่ไกลๆ ซึ่งเป็นทางเข้าเมืองหลวงตามข้อมูลในแผนที่ จู่ๆ พายุหิมะก็พัดโหมกระหน่ำอย่างรวดเร็วจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่พบเข้ากับต้นไม้ยืนต้นตายซึ่งมีโพรงใหญ่มากพอที่จะให้พวกเขาได้หลบ แต่ด้วยอายุของมันทำให้ลมหนาวยังคงสามารถพัดเข้ามาตามรอยแตกหลายจุด
“รู้มั้ยอะไรทำให้อุ่นได้” เอ็ทน่ากล่าวเสียงเรียบพลางขยับให้ชุดคลุมกันหนาวที่ได้รับมาจากยุนปิดปลายขาของตนเอาไว้
“ครับ?” ล็อตต้ารีบตอบกลับอย่างมีความหวัง คิดว่านางอาจจะใช้เวทไฟคุ้มกันพวกเขาเอาไว้เหมือนในหนังสือภาพที่เคยเห็น
“ถ้าได้ ‘ออกแรง’ กันหน่อยน่ะนะ” เอ็ทน่าโอบรอบคอของเซบแน่นพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ดวงตาสีม่วงประดับด้วยขนตาโค้งงอนได้รูปมองตรงเข้าไปในตาของอีกฝ่ายอย่างมีความหมาย
เซบถอนหายใจหนักๆ ออกมาก่อนจะเบือนหน้าหนี ผิดกับล็อตต้าที่เขินอายกับการกระทำของเอ็ทน่าในระยะประชิดจนแทบอยากจะกระโดดหนีถ้าไม่ติดว่าข้างนอกนั่นมีพายุหิมะที่สามารถคร่าชีวิตตนได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
“นี่ฉันพูดจริงๆ นะ” เอ็ทน่าพูดย้ำแต่เซบยังคงพยายามไม่สนใจเลยหันมาหาล็อตต้าแทน มือเรียวสวยจับปลายคางอีกฝ่ายแน่นเพื่อไม่ให้หลบสายตา
“ห๊ะ คือมะ-ไม่” ล็อตต้าพยายามจะขัดขืน แต่ด้วยพื้นที่แคบทำให้ขยับหนีไม่ได้มากนักทั้งยังดวงตาน่าหลงใหลตรงหน้าดึงเอาเรี่ยวแรงและความคิดในหัวทั้งหมดให้หายไปราวกับเวทมนตร์ของปีศาจ
ริมฝีปากบางพุ่งตรงเข้าหาอีกฝ่ายเพื่อจะเริ่มทำสิ่งที่คิดในหัว เซบเห็นดังนั้นรีบรวบแขนของเอ็ทน่าไว้ก่อนที่นางจะได้ทำอะไรแปลกๆ ขึ้นมาจริงๆ ใบหน้าไร้อารมณ์เพ่งมองนายหญิงของตนอย่างตำหนิ
“ท่านเป็นสตรี ระวังเนื้อระวังตัวหน่อย”
“ในคู่มือนักผจญภัยบอกให้ออกแรงเยอะๆ ที่แคบแบบนี้จะทำอะไรได้นอกจาก…”
เมื่อเห็นว่าเซบยังคงปฏิเสธสิ่งที่ตนเสนอซ้ำยังอาการประหม่าจนแทบขุดดินหนีของล็อตต้าทำให้เอ็ทน่าล้มเลิกความคิดไป เมื่อถูกปลดปล่อยจากการจับกุมเอ็ทน่าจึงดึงเอาล็อตต้าเข้ามากอดแทน มือบางซุกไปยังข้อพับของอีกฝ่ายซึ่งเป็นจุดที่อุ่นที่สุดในร่างกายทำให้ทั้งคู่ใกล้กันมากขึ้น เมื่อเซบเห็นดังนั้นจึงกระชับอ้อมแขนเข้ามาได้อีกจนทั้งสองอยู่ภายในผ้าผืนเดียวกันแทนที่จะอยู่คนละฝั่งของต้นไม้
-------------------
[เอินเคลน]
“โหหหหหห” ล็อตต้าร้องออกมาเสียงดังเมื่อเห็นบ้านเมืองประหลาดตรงหน้า รูปตาคล้ายจิ้งจอกในหนังสือนิทานเบิกกว้างไล่มองทุกสิ่งรอบกาย มือบางเอื้อมสัมผัสพื้นหินสีขาวสะอาดตาราวกับมีคนคอยทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา
ผู้คนในเมืองสวมชุดทั้งยาวและหนาเพื่อปกคลุมร่างกายมองตรงมายังพวกเขาอย่างชัดเจนเพราะที่นี่มีนักผจญภัยและพ่อค้าต่างถิ่นผ่านมาน้อยนัก ซึ่งนักผจญภัยที่สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นและสีสันสดใสยิ่งหาได้ยากยิ่งกว่า
บ้านเรือนของที่นี่มีไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนคนทว่าอาคารสิ่งปลูกสร้างแต่ละหลังมีขนาดใหญ่และมีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวออกไป เซบสังเกตเห็นด้านในเพียงเล็กน้อยเพราะมีบางบ้านเปิดประตูทิ้งไว้ หน้าต่างของที่นี่ถูกสร้างด้วยวัสดุหนาแข็งแรงปิดทึบ มีเพียงช่องเล็กๆ ทางด้านบนที่เป็นกระจกช่วยให้แสงสว่างลอดเข้าไปได้ ทำให้พอจะมองเห็นว่าภายในต่างถูกแบ่งเป็นห้องเล็กๆ หลายห้องเช่นเดียวกับที่เอล สคาโร ราวกับมีบ้านในบ้านในบ้านอีกที สิ่งนี้ทำให้เซบประหลาดใจนักว่าผู้ใดเป็นคนคิดค้นขึ้นมาและทำได้อย่างไร
แต่เมื่อเทียบกับบ้านของนายหญิงเอ็ทน่าที่อยู่ภายในประตูบานเล็กเขาก็ไม่คิดว่าจะไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป…
เพียงแต่ของทั้งหมดนี้มิได้เกิดจากเวทมนตร์ มันคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็น่าอัศจรรย์อยู่ดี
“ปิด…เนื่องจากปัญหาด้านพลังงาน” เอ็ทน่าอ่านข้อความบนกระดานไม้สีขาวเนียนเบาๆ ก่อนจะหันมาทางล็อตต้าและเซบ “คืนนี้ท่าจะไม่มีบ้านอยู่กันนะ ออกเดินทางต่อกันมั้ย”
“ถามหาห้องพักที่จัตุรัสกันเถอะครับ” ล็อตต้ารีบเสนอและชี้ไปยังถนนเส้นใหญ่ซึ่งมีผู้คนใช้เส้นทางนี้จำนวนมาก
ไม่ได้นอนมาสองวันแล้วแท้ๆ ยังจะเดินทางต่ออีกหรอ…ล็อตต้าโอดครวญในใจ สองขารีบจ้ำอ้าวหาห้องพักให้เร็วที่สุดก่อนเอ็ทน่าจะเปลี่ยนใจ เพราะคำลวงอย่างกลัวว่าจะมีพายุหิมะพัดเข้ามาอีกต้องรีบเดินทางให้ถึงเมืองให้เร็วที่สุดของนางทำให้เขายอมที่จะเดินทางตลอดเวลาไร้ซึ่งการแวะพัก ซึ่งล็อตต้าสาบานกับตัวเองในใจแล้วว่าจะไม่เชื่อฟังสิ่งใดที่นางกล่าวออกมาอีกต่อไป
สิ่งปลูกสร้างทรงกลมสีขาวสะอาดตาตั้งเด่นอยู่ใจกลางจัตุรัสของเมือง เก้าอี้สีดำถูกวางรายล้อมเป็นจุดๆ เพื่อให้ผู้คนได้นั่งพักรวมไปถึงลูกค้าจากในร้านซึ่งบัดนี้กลับเงียบเหงา เซบจ้องเจ้าวัตถุรูปร่างคล้ายมนุษย์ภายในร้านอย่างสนใจ พวกมันสามารถขยับได้ก็ต่อเมื่อมีคนถามคำถามบางสิ่งหรือออกคำสั่งกับมันเท่านั้น บริเวณโดยรอบอาคารทรงกลมก็มีร้านค้าเปิดอยู่ภายในอาคารซึ่งถูกจัดวางเป็นอย่างดี เซบมองร้านค้าทั้งหมดด้วยตาเปล่าก็พบว่ามีเพียงเจ้าวัตถุเหล่านี้คอยดูแลอยู่
สิ่งมีชีวิตชนิดใหม่หรือ… เซบพิจารณาพลางเอื้อมมือไปสัมผัสมันว่ากินได้หรือไม่แต่ตัวของมันกลับแข็งไปหมดทุกส่วนซ้ำยังมีกลิ่นสนิมส่งออกมาบางๆ
“วันนี้ว่างหรอเกรย์” หญิงสาวในชุดคลุมสีน้ำเงินเข้มเอ่ยถามเพื่อนรักซึ่งนั่งทำหน้าเซ็งอยู่บนเก้าอี้เหล็กสีดำสนิท
“พลังงานหุ่นหมดน่ะสิ ฉันต้องปิดร้านมานั่งเล่นอยู่นี่ตั้งแต่เช้า” นางโอดครวญ
“ของเธอด้วยหรอ ที่ร้านฉันก็หมดมาสองวันแล้ว พยายามไปดักรอที่ร้านขายก้อนพลังงานแต่เช้าก็บอกว่ายังไม่มาส่ง”
“เดือนนี้เงินฉันติดลบหมดแล้วเนี่ยยยย” มือบางทึ้งหัวตัวเองอย่างหงุดหงิดและฟุบลงไปกับโต๊ะ
“แต่ว่านักผจญภัยคนดังที่ชื่อซิลเวอร์ดีจัดการเควสสำคัญไปแล้วนี่นา ทำไมพลังงานยังไม่มาส่งอีกนะ”
“นั่นน่ะสิ อย่าบอกนะว่าทางปืนใหญ่ป้องกันอัตโนมัติมีมอนสเตอร์บุกมาโจมตีอีกแล้วน่ะ”
เซบที่กำลังพิจารณาวัสดุสร้างอาคารอย่างตั้งใจได้ยินบทสนทนาของคู่เพื่อนรักเข้าโดยบังเอิญทั้งหมดจนแอบรู้สึกเกรงใจแทนที่จะเป็นพวกนางที่พูดคุยกันเสียงดัง
“มีนักผจญภัยคนดังเกิดขึ้นใหม่อีกแล้วสินะ” ล็อตต้าโผล่หน้าเข้ามาหาเซบพร้อมยื่นผักเสียบไม้ย่างมาให้ลองชิม “เซบไม่อยากเป็นหรอ นักผจญภัยชื่อดังน่ะ”
“หน้าที่ของข้ามีเพียงการทำให้นายหญิงบรรลุเป้าหมายเท่านั้น” เซบตอบอย่างหนักแน่นก่อนจะทำหน้าแหยะเพราะรสชาติขมของผักในปากบางๆ
“เหลือห้องที่ยังใช้ได้แค่ห้องเดียวแถมไม่มีห้องน้ำส่วนตัว ที่อื่นๆ ถูกปิดเพราะพลังงานหมด” เอ็ทน่าเดินถือแท่งสีขาวแปลกตาเข้ามาพร้อมแย่งผักเสียบไม้ย่างในมือเซบไปกิน
“ผมขอนอนข้างเซบครับ” ล็อตต้ารีบเสนอตัวเมื่อนึกถึงสิ่งที่เอ็ทน่าพยายามทำเมื่อสามคืนก่อนท่ามกลางพายุหิมะ
“หาชุดเปลี่ยนกันเถอะ” เอ็ทน่าเสนอ
“อีกแล้วหรอครับ” ล็อตต้าทำตาโต “นี่เอ็ทน่ามีสปีนามากแค่ไหนกันแน่เนี่ย”
ในหมู่นักผจญภัยปกติถึงแม้จะมีชื่อเสียงและร่ำรวยมากแค่ไหนก็จะไม่เปลี่ยนชุดบ่อยขนาดนี้เพราะมีราคาแพง และในอุปกรณ์สวมใส่ทุกชิ้นจะมีค่าความสามารถที่ต่างกันออกไป เมื่อได้ชุดที่ถูกใจแล้ว บางคนก็ใส่ชุดนี้ไปตลอดชีวิต แต่กับเอ็ทน่า นางกลับเปลี่ยนชุดทุกครั้งที่มีโอกาส! ล็อตต้าเริ่มอยากจะขอดูกระเป๋าสตางค์ของนางและค่าความสามารถให้รู้แล้วรู้รอดไปถึงแม้จะดูเสียมารยาทมากก็ตาม
“ล็อตต้าก็ต้องเปลี่ยนด้วย” เอ็ทน่าพูดแกมสั่ง พลางเดินนำไปหากระดานขายสินค้า
“อะไรนะครับ ไม่!” เมื่อนึกถึงชุดโชว์เรือนร่างที่เอ็ทน่าและเซบสวมใส่จึงพยายามปฏิเสธออกไปแต่ดูท่าเอ็ทน่าจะไม่ฟัง สองขาเรียวก้าวยาวๆ เพื่อไปยังจุดหมายที่ต้องการอย่างมุ่งมั่น “เอ็ทน่าาาาาา ฟังผมก่อนสิครับ”
--------------------------------
โชคดีมากๆ ที่เมืองแห่งนี้ไม่มีกระดานขายสินค้าดังเช่นเมืองที่ผ่านๆ มา เพราะชาวเมืองไม่ค่อยชอบให้คนนอกมาเพ่นพ่านมากนัก ตอนนี้ทั้งสามเลยได้มายืนอยู่ในเต็นท์ร้านตีเหล็กนอกเมืองซึ่งถูกสร้างอย่างแข็งแรงด้วยโครงเหล็กหนา
“มีเท่าที่เห็นล่ะนะ การขนส่งถูกขัดขวางอีกทั้งยังไม่ค่อยมีนักผจญภัยผ่านทางมาฉันเลยไม่ได้กักตุนสินค้าเอาไว้มากนัก” ชายร่างกำยำกล่าวในขณะที่ยังคงตีดาบร้อนระอุในมือไปด้วย ใบมีดโค้งงอคล้ายกริซแต่กลับมีขนาดที่ใหญ่ถูกเผาไฟจนแดงฉานและทุบตีจนเป็นรูปทรงสลับกับการจุ่มลงไปในน้ำสะอาดเพื่อทำให้คงรูปเร็วยิ่งขึ้น
“มีแค่เกราะเองหรอ…” เอ็ทน่าถามพลางเปิดหาสินค้าที่กองทับกันบนโต๊ะไม้ยาวเก่าๆ
“ที่นี่คือเมืองแห่งจักรกลเชียวนะยัยหนู เกราะจากที่นี่น่ะ ทั้งเบาแล้วก็แข็งแกร่ง ไม่ว่านักผจญภัยคนไหนผ่านมาก็ต้องซื้อไปเก็บไว้ทั้งนั้น” เจ้าของร้านพยายามโฆษณา
ซึ่งล็อตต้าดูจากสภาพร้านแล้วคงจะเชื่อได้ยากเพราะถ้าหากมันขายดีจริงๆ คงไม่เหลือมากมายจนกองท่วมร้านขนาดนี้แน่…
“เปลี่ยนสีให้ได้มั้ย” เอ็ทน่าถามพร้อมหยิบเอาคทาสีสนิมยาวขึ้นมาจากบนพื้น บริเวณหัวของคทามีฟันเฟืองขนาดใหญ่โอบล้อมลูกแก้วกลมสลักลวดลายประหลาดราวกับเส้นเลือดสีเข้ม มันถูกยึดไว้กับไม้เท้าด้วยเหล็กหนาแวววาวประหลาดส่องสว่างออกมาตลอดเวลาราวกับมีเวทมนตร์เป็นของตัวเอง
“ได้สิ แต่ข้าไม่มีสีสำรอง ต้องไปหามาเองนะ”
“ท่านเอ็ทน่า…” เซบเดินมาพร้อมกับหมวกเกราะครึ่งใบสีทองแวววาวในมือ อัญมณีเม็ดใหญ่ประดับอยู่บริเวณใจกลางส่องประกายออกมาตลอดเวลาดูน่ากลัว อีกทั้งยังมีเม็ดเล็กอีกสองข้างทั้งซ้ายและขวายิ่งทำให้มันดูเหมือนกับมีชีวิตและกำลังจ้องมองทุกการกระทำ
เอ็ทน่าพยักหน้าอย่างเข้าใจและหยิบเอาเกราะแขนสีทองข้างตัวขึ้นมา
“เจ้าหนุ่มใช้ดาบกับโล่ใช่มั้ย ข้าว่าข้ามีอาวุธที่ดูเข้ากันอยู่นะ” เจ้าของร้านวางค้อนตีเหล็กในมือก่อนจะเดินหายเข้าไปทางหลังเต็นท์สีสดไม่นานก็ออกมาพร้อมกับดาบและโล่สีทองอร่าม
“ของเขาเอาสีทองทั้งชุดเลยล่ะกัน” เอ็ทน่ากล่าวและยื่นเอาชุดเกราะในมือให้ “ฉันเอาสีม่วง”
“อืม…ของเจ้าถ้าม่วงทั้งหมดจะไม่สวยนา เอางี้ คทาเจ้าเอาสีแดงมั้ย ข้ามีสีเหลืออยู่ คิดราคาพิเศษ”
เอ็ทน่าพยักหน้ารับก่อนจะหันมาทางล็อตต้าที่ยังไม่หยิบดูของในร้านสักชิ้นตั้งแต่เดินเข้ามา “ล็อตต้าเลือกเอาสิ”
“ผมไม่…ดีกว่าครับ” ล็อตต้าปฏิเสธอย่างสุภาพ
“หรือจะให้ฉันเลือกให้” เอ็ทน่ายังคงพยายามยัดเยียดและเดินตรงเข้ามาหา "อย่าให้ฉันพูดซ้ำ"
“ผมเป็นแค่คนร่วมปาร์ตี้ไม่ใช่คนของเอ็ทน่าใช่มั้ยครับ ไม่เอาดีกว่า ของที่ผมใส่ก็ดีมากๆ แล้ว”
“ใส่เจ้านี่ด้วย” เอ็ทน่ากล่าวโดยที่ไม่ฟังสิ่งที่ล็อตต้าพยายามอธิบายและยัดเอาที่คาดผมสีน่ารักซึ่งประดับไปด้วยคริสตัลซึ่งได้จากบอสใส่มืออีกฝ่าย
“ของสองรู!” ล็อตต้ามองของในมืออย่างตื่นเต้น เขาเคยได้ยินมาบ้างถึงอุปกรณ์สวมใส่ที่สามารถแสดงพลังจากอัญมณีที่ดรอปจากบอสหรือมินิบอสได้ถึงสองเม็ดแต่ก็ไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเองซักที ทั้งหมู่บ้านเองก็มีเพียงพ่อที่มีมันทั่วทั้งตัวแม้กระทั่งสร้อยคอที่สวมใส่ “ผมรับไว้ไม่ได้หรอกครับ” ล็อตต้ารีบปฏิเสธและยื่นที่คาดผมในมือกลับไปแต่เมื่อมือของเขาเข้าไปใกล้เอ็ทน่ากลับถูกดึงเข้าไปหา
ท่อนแขนสีเข้มดึงเอาเอวบางเข้าไปประชิดและเชยคางล็อตต้าขึ้นมาให้สบตากับตน “ให้พูด…อีกที”
ถึงแม้ว่าส่วนสูงและขนาดร่างกายจะห่างกันไม่มากแต่ในระยะเท่านี้ที่ดวงตาคู่นั้นจับจ้องอยู่กลับทำให้เรี่ยวแรงหายไปจนหมดสิ้น กลิ่นหอมจางๆ จากต้นคอของนางกำลังทำให้ล็อตต้ารู้สึกมึนงงราวกับได้ดื่มแอลกอฮอลล์หลายสิบแก้วในคราวเดียว…แม้แต่จะเบี่ยงสายตาไปทางอื่นยังไม่กล้าที่จะทำ
“จะใส่ชุดที่เลือกเองหรือให้ฉัน ใส่ ให้” ไม่ว่าเปล่า เอ็ทน่าโน้มหน้าลงประกบริมฝีปากสีสดลงไปอย่างรวดเร็วโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว
ร้อน…สัมผัสแรกที่ล็อตต้าสามารถรู้สึกได้เมื่อเอ็ทน่าทำเช่นนั้น มันร้อนรุ่มราวกับเปลวไฟแผดเผาสติสัมปชัญญะทั้งหมดออกไปจนหมดสิ้น ขาเรียวบางล้มลงไปกองกับพื้นดินเย็นเฉียบอย่างรวดเร็ว เมื่อได้สติเล็กน้อยดวงตาสั่นระริกมองไปยังเอ็ทน่าที่งยืนอยู่ที่เดิมพร้อมเสียงเต้นแรงของหัวใจ
“ดี…” ดวงตาเย่อหยิ่งปรายตามองผู้ที่อยู่บนพื้นอย่างพอใจ “งั้นก็เลือกชุดที่อยากใส่ซะ ของเดิมทิ้งไปให้หมด ฉันจะรอข้างนอก” พูดจบนางก็เดินปลีกตัวออกไปทันที
ปีศาจชัดๆ….
เซบและเจ้าของร้านคิดสิ่งเดียวกันขึ้นมาโดยไม่ได้นัดหมาย
วิธีการบังคับอีกฝ่ายให้ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการทำเอาเจ้านักยิงตัวบางช่างจ้ออดีตโจรล่อลวงนักผจญภัยให้หลงกลมานักต่อนักพ่ายแพ้อย่างหมดรูปช่างน่าอัศจรรย์
เซบรู้สึกคิดถูกขึ้นมาทันทีที่ไม่เคยขัดใจนางเลยแม้แต่ครั้งเดียว…