ในโลกอันกว้างใหญ่ของ Toram Online ผู้คนได้สรรค์สร้างเรื่องราวของตนเอง และการเดินทางครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบหนุ่มของหมู่บ้านได้เผลอยกชีวิตให้กับนักเวทสาวแปลกหน้าซึ่งเดินทางผ่านมา

Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง - ตอนที่18 ขอเพียงได้พบ โดย อิ่มหมู @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ดาร์กแฟนตาซี,โทรัม,เกมออนไลน์,เกม,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,ดาร์กแฟนตาซี,โทรัม,เกมออนไลน์,เกม,แฟนตาซี

รายละเอียด

Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง โดย อิ่มหมู @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ในโลกอันกว้างใหญ่ของ Toram Online ผู้คนได้สรรค์สร้างเรื่องราวของตนเอง และการเดินทางครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบหนุ่มของหมู่บ้านได้เผลอยกชีวิตให้กับนักเวทสาวแปลกหน้าซึ่งเดินทางผ่านมา

ผู้แต่ง

อิ่มหมู

เรื่องย่อ

[ไม่มีตารางการอัพเป็นเวลาแน่นอน]


การออกเดินทางครั้งแรกจากหมู่บ้านที่คุ้นเคยกลับจารึกบางสิ่งเอาไว้ในใจมากมายนับไม่ถ้วน


...


เอาสิ...เอาชีวิตข้าไป


เซบรีดี้ (Zebrede) หรือเซบ อาวุธ : ดาบ/โล่


นักรบหนุ่มผู้พึ่งสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปกล่าวต่อผู้แปลกหน้า หากแต่ไม่ได้คิดให้ถีถ้วนนักว่านี่เป็นดั่งคำปฏิญาณว่าจะยกชีวิตให้กับเธอ


...


มันขโมยบางอย่างที่สำคัญมากของฉันไป


เอ็ทน่า (Aetna) อาวุธ : คทา/ปีก


นักเวทสาวผู้ออกเดินทางโดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว ไม่รู้เลยว่าทุกก้าวของตนนั้นได้เปลี่ยนชีวิตของใครหลายๆ คนไป


...


...


กล้าดียังไงมาแตะต้องตัวผม!!


ล็อตต้า (Lotta) อาวุธ : โบว์กัน/ลูกธนู


เด็กชายรูปร่างบอบบางราวกับสตรี เสนอตัวเข้าหาผู้คนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจนั้นมีเพียงความปรารถนาเดียวคืออิสระ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม


...


มาผจญภัยไปด้วยกันเถอะ

...

แต่งขึ้นโดยอ้างอิง สถานที่ การแต่งกาย มอนสเตอร์ เนื้อเรื่องบางส่วน จากเกม Toram Online

...


ช่องทางการติดตามผลงาน พูดคุย หรือทวงงาน


Facebook : เสมียนน้อย ชอบกินหมู


Twitter/X : เสมียนน้อย @Immhu_


Tiktok : @Immhu_uu


*แวะเวียนมาพูดคุย เล่นมุก ด่าตัวละครได้ตามสบาย นักเขียนค่อนข้างชอบ แค่อย่าด่านักอ่านด้วยกันเอง ขอรับคำติชมเหล่านั้นไว้ด้วยใจ♡*

สารบัญ

Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่1. เพียงพริบตา,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่2. ดวงดาราที่แปลกไป,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่3. ลองดูมั้ย,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่4 เจ้าเองก็มีฝันร้ายสินะ,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่5 ลีลาจริงๆ เลย,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่6 ยากจะลืมเลือน,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่7 ไม่อยากตายแล้วจริงๆ หรือ,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่8 รวมตัวสมาชิกคนที่สาม,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่9 ออกเดินทางกับเจ้าตัวบาง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่10 ดงโจร,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่11 พบเจออีกครั้ง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่12 หรือนี่คือสรวงสวรรค์...,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่13 ยังไว้ใจมันได้อีกหรือ?,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่14 ชุดอยู่บ้าน...,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่15 เจ้าชื่อว่าอัครเดช,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่16 แสงจันทร์ของนายหญิง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่17 นรกในห้วงนิทรา,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่18 ขอเพียงได้พบ,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่19 ค่ำคืนแห่งฝันร้าย(1),Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่20 ค่ำคืนแห่งฝันร้าย(2),Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่21 ค่ำคืนแห่งฝันร้าย(3),Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่22 ค่ำคืนแห่งฝันร้าย(4 ตื่นจากฝัน),Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่23 ถึงบรรพต,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่24 สตรีผู้นั้น...เสียงทุ้มต่ำ,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่25 สองพี่น้อง หอกและเรน,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่26 ความสัมพันธ์กับเอ็ทน่า,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่27 ฝันอันเรียบง่าย,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่28 ถึงเมืองหลวง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่29 พาลาดิน?,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่30 วงกลมสีฟ้าจำเป็นต้องหลบเลี่ยงหรือ?,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่31 ดวงตาสอดประสาน,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่32 อย่ากลัวที่จะพ่ายแพ้,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่33 ทุกคำนินทา ล้วนมาจากข้อเท็จจริง,Toram Story : หลีกหนีสู่โลกกว้าง-ตอนที่34. ผีไม่มีจริง

เนื้อหา

ตอนที่18 ขอเพียงได้พบ

มองไม่เห็น…

ใบหน้าเรียบเฉยพยายามเพ่งมองท้องฟ้าซึ่งถูกบดบังด้วยใบไม้หลากหลายชั้นจนแทบมองไม่เห็นสิ่งใด สองถึงสามวันมานี้เซบพยายามมองหาดวงจันทร์ดังเช่นทุกคืนแต่กลับไม่พบ แม้กระทั่งดวงดาวสักดวง แต่ด้วยแสงสว่างเล็กน้อยจากที่ไกลๆ ทำให้ยังสัมผัสได้ว่าผืนฟ้ายังคงมีมันอยู่

“เซบเฝ้านะ” เอ็ทน่าเอ่ยขึ้นในขณะที่กำลังปูผ้าสีน้ำตาลแดงลงกับพื้นดินเพื่อจัดเตรียมที่นอน ดวงตาสีม่วงแทบจะลืมตาไม่ขึ้นเสียแล้ว

“ได้”

เซบตอบตกลงในทันทีเพราะคาดคิดเอาไว้แล้วว่านายหญิงไม่มีทางเฝ้ายามได้ในคืนนี้ เนื่องจากนางไม่ยอมนอนดังเช่นทุกทีติดกันมาสามคืนแล้ว ความเหนื่อยล้าส่งผ่านออกมาอย่างชัดเจนผ่านดวงตาสีม่วงนั่น 

แต่กลับต้องคิดหนักเมื่อในอีกไม่กี่ชั่วโมงต้องปลุกล็อตต้ามาเฝ้ายามต่อเมื่อใกล้รุ่งสาง เพราะเจ้าตัวไม่ชอบให้ตนเข้าไปใกล้มากนัก ท่าทางรังเกียจราวกับได้สัมผัสสิ่งโสมมยังคงทำให้เซบข้องใจเสมอมา

แซ่ก แซ่ก

แล้วเสียงการเคลื่อนไหวในป่าก็ดึงให้เซบเข้าสู่โหมดพร้อมต่อสู้

จากเสียงเมื่อครู่สิ่งที่กำลังเข้ามาใกล้ต้องมีขนาดพอๆ กับเขาเป็นแน่

เซบหยิบดาบและโล่ขึ้นมาถือเอาไว้ในมือ สองขาค่อยๆ ก้าวผ่านกองไฟอย่างระมัดระวัง

“ไง-”

ทันทีที่ร่างผู้มาเยือนปรากฏออกมาจากเงามืดจนเห็นเป็นตัวคน โล่หนามสีเหลืองก็ถูกปาออกไปจนสุดแรงทว่าอีกฝ่ายกลับหลบทัน

ปีกสีแดงสดถูกกางออกหลังผ้าคลุมยาวระพื้นพร้อมวงแหวนเวทรอบกาย

เซบพุ่งเข้าหามันทันทีก่อนจะได้ร่ายสิ่งใด

ทว่ายังช้ามากนัก ระยะเพียงปลายฝ่ามือก่อนดาบเล่มยาวจะกระแทกร่าง ลูกไฟสีม่วงหลายลูกกระหน่ำยิงลงมาจากฟากฝ้าเฉียดศีรษะของเขาไปจนต้องล่าถอยออกมา

ล็อตต้ารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อลูกไฟบางลูกหล่นลงพื้นดินข้างตัว มือบางคว้าเอาอาวุธประจำตัวขึ้นมากำไว้แน่นแต่เมื่อสายตาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจึงเก็บอาวุธกลับเข้าที่

“คุณหมอ!!” ล็อตต้าตะโกนพร้อมดวงตาเบิกโพลงก่อนจะรีบวิ่งไปหา ทำเอาเซบยืนงุนงง แต่เมื่อเห็นว่านี่อาจจะเป็นคนรู้จักของล็อตต้าทั้งยังมาคนเดียวจึงค่อยๆ ลดดาบในมือลง

“เพื่อนใหม่เก่งใช้ได้เลยนะ” ชายในผ้าคลุมยาวกล่าวพร้อมเอื้อมแขนซึ่งสวมถุงมือหนังสีน้ำตาลขึ้นมาลูบหัวล็อตต้าเบาๆ

พลันรอยยิ้มใสซื่อราวกับเด็กชายตัวน้อยก็ฉายขึ้นมาบนใบหน้ารูปไข่ ล็อตต้าฉีกยิ้มน่ารักออกมาพลางถือวิสาสะล้วงเอาขนมในกระเป๋าเสื้อโค้ทของผู้ที่อยู่ตรงหน้าออกมาเคี้ยวจนแก้มตุ่ย

ก็ยิ้มแบบคนปกติเป็นเหมือนกันนี่…

เซบคิด พลางพิจารณาบุคคลมาใหม่ที่สวมชุดคลุมปิดบังร่างกายและใบหน้าจนไม่มีส่วนใดโผล่พ้นออกมาทั้งยังเป็นสีดำแถมยังดูหนารวมไปถึงถุงมือและรองเท้าบู้ทยาวทำจากวัสดุอย่างดีจนสามารถรับรู้ด้วยตาเปล่า เจ้าหน้ากากสีสนิมครึ่งหน้าด้านบนซึ่งมีจะงอยยาวราวกับปากของอีกาดูรวมๆ แล้วน่ากลัวและหดหู่อย่างน่าประหลาด

ราวกับผู้ที่ต้องบุกเข้าไปรักษาผู้คนในยามสงครามและในเหตุการณ์อันตราย

“เสียงดังจังเลย…” เอ็ทน่าที่พึ่งรู้สึกตัวงัวเงียลุกขึ้นมา

ด้วยสติที่ยังมีไม่เต็มที่และความพร่ามัวในดวงตา นางเดินตรงไปยังผู้มาใหม่พยายามหรี่ตามอง

“ใครน่ะ”

“คุณหมอเฮปป้าครับ ที่ผมบอกว่าจะทำยาให้เอ็ทน่าได้”

“เอ็ทน่า???” เสียงเข้มภายใต้หน้ากากเหล็กหนาเอ่ยขึ้นพร้อมมองมายังเอ็ทน่าซึ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ “ยังไม่ตายหรอ”

“รู้จักกันรึไง”

เอ็ทน่าเอ่ยถาม อีกฝ่ายไม่ตอบแต่กลับใช้มือดึงเอวบางเข้ามาประชิดตัว

“นี่ ถ้าจะบอกว่าเคยนอนกับฉัน ฉันจำไม่ได้ ปิดหน้าปิดตาเอาไว้แบบ…” พูดยังไม่ทันจบนางก็ก้มตัวลงมองช้อนขึ้นไปภายใต้หน้ากากครึ่งเดียว “นี้…”

ในขณะที่เอ็ทน่ากำลังใช้สติอันน้อยนิดพิจารณาสิ่งตรงหน้า ลูกตาดำสนิทตัดกับนัยน์ตาสีแดงสดคุ้นเคยก็มองลอดลงมายังใบหน้าเรียวพร้อมรอยยิ้ม

พลันภาพในอดีตก็ฉายขึ้นมาในหัว

สัมผัสร้อนรุ่มและเสียงลมหายใจในระยะประชิดเธอยังคงจำได้เสมอมา รวมไปถึง…รอยคมเขี้ยวเล็กๆ บนร่างของเธอด้วย

เซบรีบเดินเข้ามาใกล้ทันทีที่เห็นการกระทำของเจ้าหมอเฮปป้า แต่ต้องหยุดฝีเท้าลงเพราะเอ็ทน่าเป็นคนผลักให้มันถอยห่างออกไปพร้อมใบหน้ามีเลือดฝาด

นี่นาง…กำลังเขินอาย!!

เซบทำตาโต มองเอ็ทน่าสลับกับเจ้าชุดคลุมประหลาดไปมา

“ยังสบายดีสินะ” เฮปป้ากล่าวพลางนั่งลงเขี่ยให้กองไฟติดอีกครั้ง

“ช่วยทำยาให้เอ็ทน่าหน่อยได้มั้ยครับ” ล็อตต้าพูดเจื้อยแจ้วในขณะที่ในปากยังคงเต็มไปด้วยขนมหวานรสเลิศ มือบางยื่นเศษกระดาษซึ่งเต็มไปด้วยรายการวัตถุดิบสำหรับการผลิตยาให้กับเฮปป้า

โชคดีที่ล็อตต้าซึ่งอยู่อีกฝั่งของทั้งสองเลยไม่ทันได้เห็นสีหน้านั้น มิเช่นนั้นเอ็ทน่าคงจะโดนล้อเลียนไปอีกหลายวัน

“ยาพวกนี้…” เฮปป้าอ่านสิ่งที่อยู่ในกระดาษเพียงครู่เดียวก็ทราบถึงสูตรยาที่ตนได้เคยเรียนรู้เมื่อนานมาแล้ว

“พวกผมหาของมาครบแล้วล่ะ”

“กินยาพวกนี้ทำไม” เฮปป้าเอ่ยถาม

“ไม่ทราบครับ แต่เอ็ทน่าพร้อมจ่าย ใช้เวลาทำนานมั้ย พวกเราค่อนข้างรีบเลยล่ะ”

หากแต่ไม่ได้ถามล็อตต้า ดวงตาภายใต้หน้ากากสีสนิมมองตรงมายังผู้ที่อยู่ตรงข้ามกองไฟ คิ้วสีเดียวกับผมขมวดเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจนัก

เอ็ทน่ารีบเบือนหน้าหนีทันที ก่อนจะพบว่าพิษบนตัวเซบเริ่มจะเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง รอยสีม่วงดำสลับน้ำตาลพาดผ่านไหล่ลงไปใต้ผ้าพันแผลสีเขียวสว่าง

“รักษาได้มั้ย” เอ็ทน่ากล่าวพร้อมชี้ไปยังคนข้างตัว


----------------------

 


“ทนมาจนป่านนี้ได้ยังไง” เฮปป้าเอ่ยถามหลังจากที่ดูร่องรอยบนตัวทั้งหมด มือซึ่งสวมถุงมือหนาจิ้มเข็มฉีดยาบรรจุของเหลวสีใสลงไปบนหัวไหล่ขวา

“ข้าเก่ง” เซบตอบหน้าตาย “อั่ก!”

ก่อนจะถูกฝ่ามือสีเข้มทุบลงมายังหน้าอกอย่างแรงจนร้องออกมา

“เจ็บทำไมไม่บอก” เอ็ทน่าทำหน้ามุ่ย “อยากตายนักรึไง”

“คู่ขา…คนใหม่หรอ” เฮปป้าที่ฉีดยาชาเสร็จเรียบร้อยเอ่ยถามเบาๆ

“คู่ขาคือสิ่งใด/ใช่!”

แต่ทั้งสองตอบกลับมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ทว่าเอ็ทน่ากลับเสียงดังกว่าใครและเป็นนางที่ตอบว่าใช่

เซบได้ยินเช่นนั้นมองไปยังนายหญิงด้วยความงงงวย ในขณะที่เฮปป้าหัวเราะในลำคอเบาๆ

“แผลคงจะเจ็บมากเลย งั้นผมจะไปหาสมุนไพรมาเพิ่มนะครับ” ล็อตต้าเสนอตัว ก่อนจะรีบเดินหายเข้าไปในป่า

เซบแอบเห็นใบหน้าตึงเครียดของล็อตต้าครู่นึงก่อนตัวเขาจะจากไปแต่ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจมากนักเพราะเฮปป้ากำลังค้นเอาอุปกรณ์รักษาหน้าตาแปลกประหลาดออกมาวางเรียงกันบนผืนผ้าสะอาดตา

มีดเล่มเล็กสีเงินแวววาวกรีดลงมายังบาดแผลทีละน้อย ทว่าเซบกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย แต่ร่องรอยยาวเหยียดซึ่งเขากำลังจ้องมองอยู่ทำให้รู้สึกหวาดเสียวยิ่งนัก ทันทีที่ของเหลวเหนียวข้นไหลออกมาจากบาดแผลเฮปป้ารีบเช็ดออกอย่างชำนาญและคว้าเอาอุปกรณ์สีน้ำตาลรูปทรงกลมขึ้นมา ด้านบนของมันมีสายยาวยื่นออกมาคล้ายท่อขนาดเล็ก เฮปป้าใช้ท่อนั้นจิ้มลงไปยังบาดแผลเพื่อดูดเอาของเสียออกให้พ้นสายตา

สติของเซบเริ่มเลือนรางขึ้นมาทีละน้อยพร้อมๆ กับของเหลวในร่างกายถูกดูดออกไป ดวงตาสีเทาพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะไม่หลับไปตามคำสั่งของคุณหมอ เอ็ทน่ารีบพุ่งตัวเข้ามาสัมผัสใบหน้าเรียบเฉยเพื่อดึงสติ

“ลืมตาเดี๋ยวนี้นะ” เอ็ทน่าทำเสียงดุ ฝ่ามือสีเข้มตบลงไปยังใบหน้าของเซบรัวๆ

“ข้า…” เซบพยายามเปล่งเสียงพูดด้วยแรงเฮือกใหญ่ “มีเนื้อใกล้เน่าอยู่ในกระเป๋า-โอ๊ย!”

“มันใช่เวลาเล่นมั้ยห๊ะ” เอ็ทน่าตบหน้าเซบอย่างแรงด้วยความหงุดหงิดทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เซบกล่าวและลุกขึ้นไปนั่งที่เดิม ในหัวคาดโทษไว้ว่าเมื่อเซบได้รับการรักษาจนแล้วเสร็จจักต้องตายด้วยน้ำมือของตนเป็นแน่


------------------------

 


กว่าการรักษาจะแล้วเสร็จก็ปาไปเกือบรุ่งสาง เขารู้สึกดีขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อแต่รอยสีม่วงจางๆ ยังคงมีอยู่

“เดี๋ยวรอยพวกนี้มันก็หายไป” เฮปป้าชี้มายังหน้าอกของเซบราวกับรู้ถึงสิ่งที่เขากังวล “แต่รอยเขี้ยวนั่นฉันคงทำอะไรให้ไม่ได้”

“ขอบใจ ท่านคุณหมอเฮปป้า” เซบกล่าวขอบคุณพลางก้มหัวลงเล็กน้อย

“ผงนี้…ต้องทาทุกวันนะ เม็ดสีฟ้านี่กินแค่ตอนมีอาการปวดจนทนไม่ไหว มันทำให้ง่วง พยายามอย่าให้แผลโดนน้ำแล้วก็อย่าใช้แรงมากไป แค่เดินทางสู้มอนสเตอร์น่ะพอไหว แต่กับการลงบอสเลี่ยงไปก่อนก็แล้วกัน ผงยาในขวดนี้หมดแผลถึงจะหายดี” เฮปป้าพูดยาวเหยียดพลางยื่นยาทั้งหมดให้เซบ แต่ยังคงจ้องมองไปยังเอ็ทน่าซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“จำได้ใช่มั้ยเซบ” เอ็ทน่าทำเสียงดุ “เลิกทำอะไรแปลกๆ ได้แล้ว ฉันจะเรียกพรประภาออกมาคอยแบกนาย ดาบกับโล่ฝากไว้ที่ฉันก่อน”

เซบทำหน้ามุ่ยพลางคิดในใจว่าย่าของเขายังไม่เคยจู้จี้เช่นนี้เลย เพราะไม่กล้าเอ่ยออกไป

“แล้วจะ…ไม่ตามไปดูหรอ” เฮปป้ากล่าวในขณะที่เริ่มตั้งหมอผสมยา

“ดูอะไรหรือ” เซบถามอย่างสนใจ ดวงตาสีเทาไล่มองอุปกรณ์แปลกตาด้วยความใคร่รู้

“ก็ของที่ใช้รักษาเซบมีมากพออยู่แล้ว แล้วล็อตต้าล่ะ ไปหาอะไร”

เอ็ทน่ากับเซบสบตาหันมาสบตากันทันทีอย่างมีความหมายก่อนจะหันกลับมาฟังสิ่งที่เฮปป้าพยายามจะบอก 

“หมายความว่ายังไง” เอ็ทน่าถามเพื่อความแน่ใจ

“เธอไม่โง่ขนาดที่ดูไม่ออกฉันรู้” เฮปป้าตอบเสียงเรียบ “ใกล้ๆ นี้มีหมู่บ้านโจรอยู่ ที่ที่ล็อตต้าโตมาน่ะ”

“มันจะพาคนมาปล้นพวกเราหรือ”

“ถ้าจะปล้นมันง่ายกว่าที่คิด คงไม่พามาใกล้หมู่บ้านขนาดนี้หรอก ว่ามั้ย”

“ต้องการจะบอกอะไรกันแน่” เอ็ทน่าที่เริ่มหงุดหงิดเฮปป้าเพราะเอาแต่พูดอ้อมไปมาเอ่ยขึ้นมาเสียงแข็งพร้อมกอดอกแน่น


----------------------

 


“ไม่ไปด้วยกันรึไง” ผู้ที่สวมชุดรัดรูปสีม่วงเอ่ยถามหลังจากหยิบเอาอาวุธขึ้นมาเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย

“อยากให้ไปด้วยหรอ” เฮปป้าตอบพร้อมรอยยิ้มจางๆ ในขณะที่กำลังคนส่วนผสมในหม้อต้มยา

แต่เพียงแค่รอยยิ้มเล็กน้อยกลับทำให้ใบหน้าของเอ็ทน่าเริ่มมีเลือดฝาดอีกครั้ง

“ก็…พวกเราไม่รู้ทางต่างหาก!”

พูดจบเอ็ทน่าก็เดินปึงปังไปยืนกอดอกอยู่ไกลๆ พร้อมใบริมฝีปากขบแน่นทำเอาเฮปป้าหัวเราะออกมาเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาเช่นนี้ “ตรงไปจนเจอลำธาร เดินย้อนขึ้นไปทางต้นน้ำไม่นานก็จะเจอกับหมู่บ้าน หาไม่ยากหรอก”

เซบมองทั้งสองเงียบๆ อยู่นานพยายามเก็บทุกอย่างที่เห็นเข้าไปในหัว

จากที่เดินทางด้วยกันมาซักระยะก็มีเพียงท่านคุณหมอเฮปป้าผู้นี้ที่ทำให้นายหญิงของเขาเกิดอาการเช่นนี้ได้ ราวกับเด็กสาวแรกรุ่นที่กำลังอยู่ในวัยซุกซน ไร้ซึ่งท่าทีถือตัวดังเช่นที่ผ่านมา

ซึ่งเขาควรจะเรียนรู้ไว้สักหน่อยเผื่อในอนาคตอาจจะใช้วิธีเดียวกันต่อรองกับนางได้มากขึ้น

“ระวังตัวด้วย” เฮปป้าพูดไล่หลังในขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปยังขีดเล็กๆ บนหม้อปรุงยาแบบพิเศษเพื่อมิให้ความร้อนมากเกินไป

และเมื่อทุกอย่างรอบกายเริ่มสงบลง มือหนาภายใต้ถุงมือสีน้ำตาลก็ล้วงเอาเศษคริสตัลสีฟ้าซึ่งถูกผูกมัดด้วยเชือกเส้นเล็กจนกลายเป็นจี้ห้อยคอซึ่งพกติดตัวเสมอออกมาพินิจ “ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ สินะ”

ถึงแม้สีสันบนร่างจะเปลี่ยนไปเช่นไร ทว่าท่าทาง กลิ่นกาย และดวงตาคู่นั้นยังคงเหมือนเดิมมิแปรเปลี่ยนไปเลยจนอยากจะสวมกอดนางไว้ให้นานที่สุด หากแต่จุดมุ่งหมายของพวกเขานั้นต่างกันออกไป…เช่นเคย เพียงแค่ได้พบหน้า หรือแม้แต่ได้ยินว่าอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว