หัดวาดก่อนเดียวเปลี่ยนปก
ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,แฟนตาซี,ดาร์ค,แฟนตาซี,ดราม่า,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ประกายจากพฤกษาหัดวาดก่อนเดียวเปลี่ยนปก
ขั้นที่ 1: สัมผัสอนูเวท (Basic Anuwet Sense)
ระดับนี้คือการรับรู้เบื้องต้นถึงอนูเวทในสิ่งรอบตัว ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้ตามความละเอียดของการรับรู้:
ขั้นที่ 2: ควบคุมอนูเวท (Anuwet Manipulation)
ระดับนี้เกี่ยวกับการที่จอมเวทเริ่มมีอิทธิพลต่ออนูเวท ตั้งแต่การบังคับเบื้องต้นไปจนถึงการควบคุมได้อย่างเป็นอิสระ:
ขั้นที่ 3: สลักอนูเวท (Anuwet Imbuement)
ระดับนี้คือการฝังอนูเวทลงในวัตถุให้คงอยู่ได้ ซึ่งต้องใช้ความแม่นยำและความเข้าใจอย่างมาก:
ขั้นที่ 4: แปรผันอนูเวท (Anuwet Transmutation)
นี่คือการเปลี่ยนแปลงแก่นแท้ของอนูเวท ซึ่งเป็นขีดสุดของความเข้าใจและการควบคุม:
เมื่อพระอาทิตย์แรกแย้มสาดส่องเหนือทิวเขาสูง ดวงตาคู่เล็กก็ค่อยๆ ลืมขึ้นช้าๆ ผืนฟ้าที่มืดมิดค่อยๆ สว่างขึ้น ราวกับดวงตาคู่นั้นเป็นผู้ให้แสง "เหนื่อยจัง" เธอค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างช้าๆ เห็นอาหารวางไว้บนโต๊ะเหมือนวันก่อน เธอค่อยๆ กิน แล้วก็เก็บจานอย่างเรียบร้อย จากนั้นจึงเดินไปที่ลานฝึกหลังบ้านเหมือนที่เคย
"เธอมาแล้วเหรอ" คาลอสพูด "วันนี้เราจะฝึกกันต่อจากวันก่อน"
ลูน่ามองดูสภาพร่างกายของเอลล่าอย่างเป็นห่วง แม้ว่าเธอจะมีเวทมนตร์ชำระล้างที่จะช่วยเอลล่าได้ แต่ลูน่าอยากเห็นว่าเอลล่าจะทนได้แค่ไหน กับการฝึกของคาร์ลอส
คาลอสยังคงเข้มงวดเหมือนเดิม "วันนี้เราจะเน้นการฟันและการป้องกัน" เขาเริ่มสาธิตท่าฟันในรูปแบบต่างๆ อย่างช้าๆ ชี้ให้เห็นถึงการวางคมดาบและการส่งแรงจากสะโพก เอลล่าพยายามทำตามอย่างตั้งใจ แม้ว่าร่างกายจะยังคงปวดร้าวจากเมื่อวาน แต่เธอไม่ยอมแพ้
เสียงดาบไม้ฟาดกระทบกันดังแผ่วเบา สลับกับเสียงหอบหายใจของเอลล่า คาลอสไม่ได้พูดอะไรมากนัก เพียงแต่คอยปรับท่าทางให้เธอเมื่อเห็นว่าผิดเพี้ยนไป บางครั้งเขาก็ให้เธอฟันซ้ำๆ ในท่าเดิมนับสิบครั้ง จนแขนของเอลล่าเริ่มสั่น
ลูน่ายืนพิงต้นไม้มองดูการฝึก เธอรู้สึกชื่นชมในความมุ่งมั่นของเอลล่า แม้จะรู้ดีว่าการฝึกนี้หนักหน่วงเพียงใด แต่เธอก็เชื่อว่ามันจะทำให้เอลล่าแข็งแกร่งขึ้นจริงๆ
เวลาผ่านไปช้าๆ จนกระทั่งพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงอีกครั้ง เอลล่าทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง เหงื่อกาฬไหลซึมไปทั่วใบหน้าและเสื้อผ้า
"พอแล้ว" คาลอสพูดสั้นๆ แล้วเดินไปเก็บดาบไม้ เอลล่าพยักหน้ารับอย่างอ่อนแรง
ลูน่าเดินเข้ามาหาเอลล่าอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยน "วันนี้ก็ทำได้ดีมากเลยนะ มา เดี๋ยวฉันช่วยพยุงไปอาบน้ำ" เธอยื่นมือออกไปช่วยดึงเอลล่าให้ลุกขึ้น เอลล่ายิ้มตอบอย่างขอบคุณ แม้จะเหนื่อยจนแทบหมดแรง แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของเธอกำลังเปลี่ยนแปลงไป
วันแล้ววันเล่า การฝึกดำเนินไปอย่างโหดเหี้ยม คาลอสไม่เคยลดความเข้มงวดลงเลยแม้แต่น้อย เขาสั่งให้เอลล่าฟันดาบไม้ซ้ำๆ จนมือของเธอพองเป็นตุ่ม และในบางครั้ง ตุ่มเหล่านั้นก็แตกออกจนเลือดซิบ ลูน่ามักจะเข้ามาทำแผลให้เธอในตอนเย็น พร้อมกับเวทมนตร์เยียวยาที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวด แต่เอลล่าปฏิเสธที่จะใช้มันจนกว่าเธอจะรู้สึกว่าได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว
การฝึกไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงการฟันดาบ คาลอสพาเธอเข้าไปในป่าลึก บังคับให้เธอวิ่งผ่านทางที่เต็มไปด้วยกิ่งไม้และรากไม้ที่พันกันยุ่งเหยิง เธอล้มลุกคลุกคลานไปนับครั้งไม่ถ้วน ร่างกายเต็มไปด้วยรอยถลอกและฟกช้ำ แต่ทุกครั้งที่ล้ม เธอก็จะลุกขึ้นใหม่ด้วยความมุ่งมั่นที่แรงกล้ากว่าเดิม
"ความอ่อนแอไม่ใช่ทางเลือก!" คาลอสตะโกนใส่เธอในวันที่เอลล่าเกือบจะหมดแรงล้มลงกลางลานกว้าง "เธอต้องแข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่รวมถึงจิตใจด้วย!" คำพูดเหล่านั้นเหมือนคมดาบที่กรีดแทงจิตใจ แต่ก็เป็นเชื้อเพลิงที่จุดประกายความมุ่งมั่นในตัวเธอ
คืนหนึ่ง เอลล่านั่งมองมือที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็น เธอจำได้ถึงความเจ็บปวดที่ผ่านมา แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงพละกำลังที่ไม่เคยมีมาก่อนในร่างกาย เธอไม่ใช่เด็กสาวอ่อนแอคนเดิมอีกต่อไปแล้ว การฝึกที่โหดร้ายของคาลอสกำลังหล่อหลอมเธอให้กลายเป็นบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เธอเคยจินตนาการไว้มากนัก
เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ ร่างกายของเอลล่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด กล้ามเนื้อของเธอแข็งแรงขึ้น และท่าทางการเคลื่อนไหวก็ว่องไวและมั่นคงกว่าเดิมมาก ดวงตาของเธอมุ่งมั่นไม่หวั่นไหวกับความเจ็บปวดใดๆ อีกต่อไป
วันหนึ่ง คาลอสเดินเข้ามาหาเอลล่าพร้อมกับดาบเหล็กเล่มหนึ่ง ไม่ใช่ดาบไม้ที่เธอคุ้นเคย
"วันนี้..." คาลอสเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง "เธอจะไม่ได้ฝึกกับหุ่นไม้แล้ว"
หัวใจของเอลล่าเต้นระรัว เธอรู้ว่านี่คือบททดสอบที่แท้จริง คาลอสไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเพียงแค่โยนดาบเหล็กไปให้เธอ ดาบนั้นหนักกว่าดาบไม้หลายเท่า แต่เอลล่ารับมันไว้ได้อย่างมั่นคง
"จงใช้สิ่งที่เธอได้เรียนรู้มาทั้งหมด" คาลอสพูดด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา "และจงแสดงให้ฉันเห็นถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเธอ"
คาลอสชักดาบของเขาออกมาบ้าง ดาบเหล็กในมือของเขาสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเช้า เอลล่าตั้งท่าพร้อมรับมือ หัวใจของเธอเต้นรัว แต่ความกลัวถูกแทนที่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเอง
คาลอสพุ่งเข้าใส่ก่อน! ดาบของเขาฟันลงมาด้วยความเร็วที่เหนือกว่าที่เอลล่าเคยเห็นมา เธอรีบยกดาบขึ้นป้องกัน เสียงเหล็กกระทบกันดังกังวานไปทั่วลานฝึก แรงปะทะทำให้แขนของเธอสะท้านไปหมด แต่เธอก็ยังยืนหยัดอยู่ได้
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด คาลอสโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งฟัน แทง ปัดป้อง ทุกการเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยพลังและความแม่นยำ เอลล่าใช้ทุกสิ่งที่เรียนรู้มา หลบหลีก ปัดป้อง และพยายามหาช่องโหว่เพื่อสวนกลับ เธอยังไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับคาลอสได้เลย แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้
เสียงดาบกระทบกันดังก้องไปทั่วลานหลังบ้าน เอลล่าเริ่มเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วขึ้นเรื่อยๆ เธอเริ่มมองเห็นรูปแบบการโจมตีของคาลอส และบางครั้งเธอก็สามารถปัดป้องการโจมตีที่รุนแรงได้อย่างหวุดหวิด แม้ร่างกายจะอ่อนล้า แต่จิตใจของเธอกลับแจ่มใสยิ่งขึ้น
จังหวะหนึ่ง คาลอสฟันดาบมาทางศีรษะ เอลล่ารีบก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว และใช้โอกาสนั้นแทงดาบสวนกลับไปทางสีข้างของเขา คาลอสหลบได้เพียงเล็กน้อย แต่ปลายดาบของเอลล่าก็สร้างรอยขีดข่วนบางๆ บนชุดของเขาได้สำเร็จ
คาลอสชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาของเขามีประกายความประหลาดใจระคนกับความพึงพอใจ
"ดีมาก" เขาพูดเสียงเรียบ แต่เอลล่ารู้ว่านี่คือคำชมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาเคยให้เธอมา
การต่อสู้ยังไม่จบลง แต่เอลล่ารู้แล้วว่าเธอสามารถทำได้ เธอไม่ได้เพียงแค่ป้องกันตัวเองได้อีกต่อไป แต่เธอกำลังต่อสู้!
คาลอสไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เขายังคงโจมตีต่อไป แต่คราวนี้เขาเพิ่มความเร็วและพลังมากขึ้น เอลล่าถูกบังคับให้ต้องผลักดันตัวเองให้เกินขีดจำกัด แรงปะทะจากดาบของคาลอสทำให้ข้อมือของเธอสั่นสะเทือนไปหมด แต่เธอก็กัดฟันอดทน
เธอหลับตาลงชั่วขณะ ภาพของการฝึกฝนอันแสนสาหัส ความเจ็บปวด และคำพูดของคาลอสที่ก้องอยู่ในหัวผุดขึ้นมา เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง แววตาของเธอก็เปลี่ยนไป มันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่เด็ดเดี่ยวราวกับเหล็กกล้า
เอลล่าพุ่งเข้าใส่คาลอส! เธอฟันดาบใส่เขาอย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิมมาก แม้คาลอสจะป้องกันไว้ได้ทั้งหมด แต่เขาก็ต้องใช้แรงมากขึ้นเพื่อรับมือกับการโจมตีของเธอ
การต่อสู้ดำเนินไปอีกหลายนาที ทั้งสองคนต่างแลกเปลี่ยนการโจมตีและป้องกันกันอย่างดุเดือด ในที่สุด คาลอสก็ถอยดาบลง "พอแล้ว" เขากล่าวพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า "เธอทำได้ดีมาก เอลล่า"
เอลล่าทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง แต่ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ลูน่าที่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ ก็เดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
"ฉันบอกแล้วไงคาลอส ว่าเธอมีความสามารถ" ลูน่าพูดพลางลูบหัวเอลล่าอย่างอ่อนโยน "นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นนะเอลล่า เส้นทางของเธอยังอีกยาวไกล"
เอลล่าเงยหน้ามองคาลอส เขาเก็บดาบเข้าฝักแล้วมองมาที่เธอด้วยแววตาที่แตกต่างจากเมื่อก่อน มันคือแววตาของอาจารย์ที่มองเห็นศิษย์ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง
หลังจากนั้นไม่กี่วัน คาลอสนั่งมองเอลล่าฝึกฟันดาบกับหุ่นไม้อยู่เงียบๆ ท่าทางการเคลื่อนไหวของเธอคล่องแคล่วและมีพลังขึ้นมาก แต่เขาก็รู้ว่าแค่นี้ยังไม่พอ
"ลูน่า" คาลอสเรียกชื่อเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ ลูน่าเงยหน้าขึ้นมองด้วยความแปลกใจ เพราะไม่บ่อยนักที่คาลอสจะยอมเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ
"มีอะไรเหรอ? ไม่ออกไปฝึกวิชาดาบต่อล่ะ" ลูน่าถามอย่างยียวน
"ฉันอยากให้เธอช่วยสอนเวทมนตร์ให้เอลล่า" คาลอสพูดตรงๆ สีหน้าของเขาจริงจังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ลูน่าเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ "อะไรนะ? นายเนี่ยนะจะขอให้ฉันสอนเวทมนตร์ให้เธอหรอ? ปกตินายไม่ใช่คนชอบเรื่องเวทมนตร์ไม่ใช่เหรอ?"
"ฉันสอนเรื่องดาบให้เธอได้แค่พื้นฐานเท่านั้น" คาลอสยอมรับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "และวิชาดาบของฉัน...มันเหมาะสมกับการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ไม่ได้สอนเรื่องการปรับตัวหรือการรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดฝันมากนัก" เขาหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ "แต่เวทมนตร์ของเธอ ลูน่า... มันจะช่วยเติมเต็มสิ่งที่ฉันขาดไป"
ลูน่ามองหน้าคาลอสอย่างพิจารณา เธอเห็นความจริงใจในดวงตาของเขา
"ถ้านายอยากจะให้ฉันสอนเด็กนั่น ก็เอาชนะฉันให้ได้สิ!" ลูน่าพูดพลางมองไปที่คาลอส แววตาของเธอเต็มไปด้วยประกายท้าทาย
คาลอสหันไปมองเอลล่าที่ยังคงตั้งใจฝึกซ้อม ก่อนจะหันกลับมาสบตากับลูน่าอย่างแน่วแน่ ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและตัดสินใจเด็ดขาด "ฉันจะชนะเธอ ลูน่า"
คำท้าของลูน่าสร้างบรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันที คาลอสไม่เคยสู้กับเธอมาก่อน แต่เคยได้ยินมาว่าลูน่าไม่ใช่จอมเวทธรรมดา เธอมีพลังและไหวพริบที่ยากจะคาดเดา
เอลล่าเองก็รับรู้ถึงความตึงเครียดนั้น เธอหยุดฝึกและหันมามองทั้งสองคนด้วยความสงสัย ลูน่ายิ้มให้เอลล่าอย่างอ่อนโยน ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับคาลอสอีกครั้ง "เอาล่ะ... เตรียมตัวให้ดีล่ะพ่อคนเก่ง" ลูน่าพูดพร้อมกับประกายแสงสีฟ้าอ่อนๆ ที่เริ่มก่อตัวขึ้นรอบๆ มือของเธอ
คาลอสเดินไปหยิบดาบใหญ่ของเขาในบ้าน ดาบเหล็กวาววับสะท้อนแสงอาทิตย์ เขายืนนิ่งอยู่ในท่าเตรียมพร้อม นี่ไม่ใช่แค่การต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรี แต่เป็นการต่อสู้เพื่ออนาคตของเอลล่า ถ้าคาลอสชนะ เอลล่าจะได้เรียนรู้ทั้งดาบและเวทมนตร์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเธอ
ลูน่ามองคาลอสอย่างมีความคาดหวัง "จงใช้พลังทั้งหมดที่นายมีสู้กับฉันเสีย ไม่อย่างนั้นนายเจ็บหนักแน่ พร้อมหรือยัง?" ลูน่ากล่าว ก่อนที่เธอจะหายไปราวกับสายลม คาลอสรีบหันไปมา ดวงตาเขามองไปรอบ ๆ อย่างตั้งใจ ทันใดนั้น มีเท้าคู่หนึ่งพุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว เขาใช้ดาบกันไว้ แต่แรงปะทะนั้นกลับทำให้เขาถอยหลัง เธอกลับมายืนอยู่ที่เดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น " "นายก็ยังเหมือนได้แต่ตั้งรับ" เธอพูดด้วยท่าทีผิดหวัง "วิธีดาบของนายก็เหมือนเดิมเลย แข็งทื่อ ไม่มีการพลิกแพลง" เธอมองเขาอย่างเย็นชา "มาเริ่มใหม่"
มือเธอเปล่งแสงสีน้ำตาล ก่อนที่เธอจะพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็วแล้วต่อยไปข้างหน้าอย่างแรง ดาบในมือคาลอสสั่นสะท้านด้วยแรงหมัดของเธอ ดาบของคาลอสสะบัดไปด้านข้างเปิดช่องโหว่ เธอใช้หมัดอีกข้างต่อยตรงเข้าที่ศีรษะเขาอย่างแรง คาลอสเบี่ยงศีรษะหลบได้หวุดหวิด ก่อนจะใช้มืออีกข้างค้ำยันพื้นแล้วตีลังกากลับหลัง
เธอไม่ปล่อยให้เขาได้พักหายใจ เธอพุ่งตัวไปอย่างเร็ว จับศีรษะคาลอสก่อนจะกระแทกเขาใส่ต้นไม้ แล้วโยนเขาไปที่ลานกว้าง คาลอสค่อย ๆ ลุกขึ้นช้า ๆ ใช้ดาบยันพื้นเพื่อพยุงตัวขึ้น เธอพูด อ่อนหัดฝีมือไม่พัฒนา
"เอาใหม่!" เขามองเธอด้วยดวงตานิ่งเฉย