หัดวาดก่อนเดียวเปลี่ยนปก

ประกายจากพฤกษา - บทที่ 11 ความเหนื่อยยาก โดย ฟ้าดินนำทาง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,แฟนตาซี,ดาร์ค,แฟนตาซี,ดราม่า,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ประกายจากพฤกษา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,แฟนตาซี,ดาร์ค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ดราม่า,ผจญภัย

รายละเอียด

ประกายจากพฤกษา โดย ฟ้าดินนำทาง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หัดวาดก่อนเดียวเปลี่ยนปก

ผู้แต่ง

ฟ้าดินนำทาง

เรื่องย่อ

 

ขั้นที่ 1: สัมผัสอนูเวท (Basic Anuwet Sense)

ระดับนี้คือการรับรู้เบื้องต้นถึงอนูเวทในสิ่งรอบตัว ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้ตามความละเอียดของการรับรู้:

  1. การรับรู้อนูเวทหยาบ (Rough Anuwet Perception) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของอนูเวทได้ในภาพรวม เช่น รู้สึกถึงพลังเวทมนตร์ในบริเวณที่มีความเข้มข้นสูง หรือรับรู้ถึงการใช้เวทมนตร์ของผู้อื่นได้แบบคลุมเครือ
    • ตัวอย่าง: รู้สึกได้ถึง "ความผิดปกติ" ของพลังงานเมื่ออยู่ในป่าเวทมนตร์ หรือสัมผัสได้ถึงออร่าเวทมนตร์จางๆ จากวัตถุโบราณ
  2. การรับรู้อนูเวทละเอียด (Fine Anuwet Perception) :
    • ความสามารถ: จอมเวทเริ่มสามารถแยกแยะประเภทของอนูเวทได้ เช่น สัมผัสได้ว่าพลังงานที่รับรู้นั้นเป็นอนูเวทธาตุไฟหรือธาตุน้ำ หรือมีความเข้มข้นมากน้อยแค่ไหน
    • ตัวอย่าง: สามารถระบุได้ว่าต้นไม้ต้นนี้มีอนูเวทธาตุดินในปริมาณมาก หรือสัมผัสได้ถึงร่องรอยของอนูเวทที่หลงเหลือจากการใช้เวทมนตร์เมื่อนานมาแล้ว
  3. การรับรู้อนูเวทเฉพาะเจาะจง (Precise Anuwet Identification) :
    • ความสามารถ: จอมเวทมีความเข้าใจลึกซึ้งถึงลักษณะเฉพาะของอนูเวท สามารถระบุแหล่งที่มา, คุณสมบัติย่อย, หรือแม้กระทั่งความ "บริสุทธิ์" ของอนูเวทได้อย่างแม่นยำ
    • ตัวอย่าง: สามารถสัมผัสได้ว่าอนูเวทไฟที่พุ่งมานั้นเป็นไฟแห่งการทำลายล้าง หรือไฟแห่งการชำระล้าง หรือสามารถแยกแยะความแตกต่างของอนูเวทที่มาจากจอมเวทแต่ละคนได้

ขั้นที่ 2: ควบคุมอนูเวท (Anuwet Manipulation)

ระดับนี้เกี่ยวกับการที่จอมเวทเริ่มมีอิทธิพลต่ออนูเวท ตั้งแต่การบังคับเบื้องต้นไปจนถึงการควบคุมได้อย่างเป็นอิสระ:

  1. การควบคุมอนูเวทผ่านสื่อ (Conduit Anuwet Control) :
    • ความสามารถ: จอมเวททั่วไปที่ต้องใช้ "คทา" หรือ "อัญมณีเวท" เป็นตัวกลางในการรวบรวมและชี้นำอนูเวท การควบคุมยังเป็นแบบจำกัดตามขีดความสามารถของเครื่องมือและคาถาที่ใช้
    • ตัวอย่าง: ร่ายคาถาไฟโดยใช้คทาเพื่อเรียกเปลวไฟขนาดเล็ก หรือใช้คฑาน้ำเพื่อสร้างหยดน้ำเวทมนตร์
  2. การควบคุมอนูเวทโดยตรงเบื้องต้น (Basic Direct Anuwet Control) :
    • ความสามารถ: จอมเวทที่มีความเข้าใจในอนูเวทมากขึ้น สามารถเริ่มควบคุมอนูเวทได้โดยตรงในระดับที่ไม่ซับซ้อน เช่น การชี้นำกระแสอนูเวทให้เคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ต้องการ หรือการรวมกลุ่มอนูเวทให้มีความหนาแน่นขึ้นเล็กน้อย โดยไม่จำเป็นต้องใช้คาถาหรือคทาเสมอไป
    • ตัวอย่าง: ใช้มือเปล่าจุดเทียนด้วยอนูเวทไฟ หรือทำให้ใบไม้ลอยขึ้นเล็กน้อยด้วยอนูเวทลม
  3. การควบคุมอนูเวทได้ดั่งใจนึก (Instinctive Anuwet Control) :
    • ความสามารถ: จอมเวทที่มีความเข้าใจในอนูเวทอย่างลึกซึ้งถึงแก่นแท้ สามารถควบคุมอนูเวทได้ทันทีตามเจตจำนง โดยไม่ต้องผ่านการร่ายคาถาหรือใช้เครื่องมือใดๆ การควบคุมเป็นไปอย่างลื่นไหลและแม่นยำ สร้างสรรค์รูปแบบเวทมนตร์ที่ซับซ้อนได้ตามต้องการ
    • ตัวอย่าง: เสกกำแพงน้ำแข็งขึ้นมาในพริบตาเพื่อป้องกันการโจมตี หรือสร้างกระแสลมวนเพื่อโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง

ขั้นที่ 3: สลักอนูเวท (Anuwet Imbuement)

ระดับนี้คือการฝังอนูเวทลงในวัตถุให้คงอยู่ได้ ซึ่งต้องใช้ความแม่นยำและความเข้าใจอย่างมาก:

  1. การประจุอนูเวทชั่วคราว (Temporary Anuwet Imbuement) :
    • ความสามารถ: การประจุอนูเวทลงในวัตถุหรือบุคคลเพื่อให้มีคุณสมบัติเวทมนตร์ในระยะเวลาจำกัด ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการเพิ่มพลังชั่วคราว หรือสร้างผลกระทบที่อยู่ได้ไม่นาน
    • ตัวอย่าง: ประจุอนูเวทโจมตีลงในดาบเพื่อให้ดาบมีความร้อนขึ้นชั่วขณะ หรือประจุอนูเวทรักษาลงบนบาดแผลเพื่อให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นชั่วคราว
  2. การสลักอนูเวทถาวรเบื้องต้น (Basic Permanent Anuwet Engraving) :
    • ความสามารถ: การสลักอนูเวทลงในวัตถุเพื่อให้มีคุณสมบัติเวทมนตร์ถาวร แต่ในรูปแบบที่ไม่ซับซ้อนนัก หรือต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากในการทำ มักจะเป็นการสลักคุณสมบัติเดียว
    • ตัวอย่าง: สร้างดาบที่เปล่งแสงได้ตลอดเวลา หรือแหวนที่ช่วยเพิ่มการป้องกันเล็กน้อยอย่างถาวร
  3. การสลักอนูเวทซับซ้อน/หลายคุณสมบัติ (Complex/Multi-Property Anuwet Imbuement) :
    • ความสามารถ: การสลักอนูเวทลงในวัตถุด้วยความแม่นยำสูง ทำให้วัตถุนั้นมีคุณสมบัติเวทมนตร์ที่ซับซ้อน หรือมีหลายคุณสมบัติพร้อมกัน ผู้ใช้สามารถกำหนดเงื่อนไขการทำงานของอนูเวทที่สลักไว้ได้
    • ตัวอย่าง: สร้างเกราะที่สามารถต้านทานได้ทั้งไฟและน้ำ หรือเครื่องรางที่ช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตและมานาพร้อมกัน

ขั้นที่ 4: แปรผันอนูเวท (Anuwet Transmutation)

นี่คือการเปลี่ยนแปลงแก่นแท้ของอนูเวท ซึ่งเป็นขีดสุดของความเข้าใจและการควบคุม:

  1. การปรับเปลี่ยนคุณสมบัติย่อย (Minor Property Adjustment) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถปรับเปลี่ยนคุณสมบัติเล็กๆ น้อยๆ ของอนูเวทได้ เช่น ทำให้อนูเวทไฟมีความร้อนสูงขึ้น หรือลดอุณหภูมิลงเล็กน้อย หรือเพิ่มแรงดันของอนูเวทน้ำ
    • ตัวอย่าง: เสกบอลไฟที่ร้อนแรงกว่าปกติ หรือสร้างกระแสน้ำแข็งที่กัดกร่อนได้เล็กน้อย
  2. การเปลี่ยนแปลงประเภทอนูเวท (Anuwet Type Transmutation) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถเปลี่ยนอนูเวทจากประเภทหนึ่งไปอีกประเภทหนึ่งได้ เช่น เปลี่ยนอนูเวทธาตุไฟให้เป็นอนูเวทธาตุน้ำ หรือเปลี่ยนอนูเวทบริสุทธิ์ให้เป็นอนูเวทแห่งความมืด
    • ตัวอย่าง: สามารถดูดซับพลังงานไฟจากสิ่งแวดล้อมแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานน้ำเพื่อใช้โจมตี หรือแปลงพลังงานแสงให้เป็นพลังงานเงา
  3. การสร้างสรรค์อนูเวทรูปแบบใหม่ (Anuwet Genesis/Recreation) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานของอนูเวทเพื่อสร้างอนูเวทประเภทใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน หรือสามารถหลอมรวมอนูเวทหลายประเภทเข้าด้วยกันเพื่อสร้างคุณสมบัติที่ไม่เคยเกิดขึ้น
    • ตัวอย่าง: ผสมผสานอนูเวทไฟกับอนูเวทลมเพื่อสร้าง "อนูเวทพายุเพลิง" ที่มีคุณสมบัติทั้งสอง หรือสร้างอนูเวทแห่ง "มิติ" ที่สามารถเปิดประตูมิติขนาดเล็กได้

 

สารบัญ

ประกายจากพฤกษา-บทที่ 1 สงคราม,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 2 พฤกษาผู้พิทักษ์,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 3 จุดเริ่มต้น,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 4 ความสิ้นหวัง,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 5 ความโดดเดี่ยว,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 6 ความลึกลับของป่าไม้,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 7 แสงรุ่งอรุณ,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 8 กลับบ้าน,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 9 เพื่อนเก่า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 10 การฝึกของเอลล่า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 11 ความเหนื่อยยาก,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 12 ความเหนื่อยยาก 2,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 13 ฉันสู้เพื่ออนาคต,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 14 เข้ามา,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 15 การจากลา,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 16 โลกอันกว้าใหญ่,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 17 เอาตัวรอด,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 18 คนแปลกหน้า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 19 ไม่นะ,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 20 การตัดสินใจของเอลล่า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 21 การหลบหนี,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 22 หลังเอาชีวิตรอด,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 23 ผลโลหิต,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 24 ความเจ็บปวด

เนื้อหา

บทที่ 11 ความเหนื่อยยาก

ในวันต่อมา เอลล่าตื่นขึ้นมาด้วยอาการสะลึมสะลือ เธอเหลือบไปมองที่หน้าประตู เห็นคาร์ลอสกำลังนั่งทำอะไรบางอย่างอยู่ "คุณทำอะไรคะ" คาร์ลอสตอบเสียงนิ่งว่า "ทำดาบไว้ฝึกเธอไง" "ทานข้าวที่วางไว้ที่โต๊ะก่อน ค่อยว่าเรื่องฝึก" คาลอสค่อยลุกออกไปข้างนอก

"ทำไมวันนี้เขาดูแปลกไป" เอลล่าสงสัย เธอค่อยลุกขึ้นมาทานอาหารที่วางไว้อย่างช้าๆ เธอคิดในใจว่า "เราจะได้ฝึกแบบไหนกันนะ... 

เมื่อทานอาหารเสร็จ เธอลุกไปเก็บจาน คาร์ลอสก็เดินกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง เขามองมาที่เอลล่าด้วยแววตาจริงจังที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน "ตามมา" เขาพูดสั้นๆ แล้วเดินนำออกไปทางหลังบ้าน เอลล่าเดินตามไปอย่างช้าๆ หัวใจเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ข้างหลังบ้านเป็นลานกว้างที่เธอไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน มีหุ่นไม้ตั้งอยู่หลายตัว และมีอาวุธวางเรียงรายอยู่ข้างผนัง

คาลอสหยุดยืนกลางลานกว้าง หันมามองเธอ "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การฝึกของเธอจะเริ่มต้นขึ้น" เขาชี้ไปที่ดาบไม้เล่มหนึ่งที่วางอยู่บนพื้น "นี่คือดาบของเธอ" จากนั้นเขาก็มองหน้าเอลล่าอย่างจริงจัง "และนี่ไม่ใช่การฝึกแบบเล่นๆ เธอจะต้องฝึกจนกว่าร่างกายของเธอจะจดจำทุกการเคลื่อนไหว ฝึกจนกว่าเลือดจะซึมออกมาจากฝ่ามือ และฝึกจนกว่าความกลัวจะหายไปจากใจ" 

เอลล่าตัวสั่นด้วยอาการตึงเครียดทันใดนั้น ลูน่าก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิว่า "นายจะจริงจังไปไหนคาลอส! เธอยังเป็นแค่เด็กนะ!"

"อยากจะแข็งแกร่งขึ้นต้องจริงจัง ไม่ใช่จะทำอะไรเล่นๆ ตอนที่ฉันอายุเท่าเธอ ฉันต้องฝึกหนักมาก โดนอาจารย์ดาบซ้อมอย่างหนัก" "กว่าจะได้เท่านี้" คาลอสพูดเสริมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ลูน่าขำ "ฮ่าๆๆๆ" เธอขำจนตัวบิด "ฉันเคยบอกนายแล้วอย่าไปฝึกกับตาแก่นั่น นายฝึกมาไม่เห็นจะได้อะไรมาเลยนอกจากบาดแผล ฮ่าๆๆ โตป่านนี้วิชาดาบยังไม่ได้เรื่องนี้เลย

คารลอสหันมามองเธอด้วยแววตาไม่พอใจ 

"นี่เธอจะกวนประสาทฉันอีกนานไหมลูน่า" คาลอสพูดเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ ลูน่ายังคงหัวเราะคิกคักไม่หยุด "โอ๋ๆๆ ไม่ต้องทำหน้าบูดหรอกน่าคาลอส ฉันก็แค่พูดความจริง" เธอยักไหล่ ก่อนจะหันไปมองเอลล่าที่ยังคงยืนตัวสั่น "เอาล่ะ เด็กน้อย ไม่ต้องกลัวหมอนี่หรอกนะ นายคาลอสขี้โม้คนนี้ถึงจะดูดุดันแต่จริงๆ แล้วก็ใจดีจะตายไป" ลูน่าเดินเข้าไปหาเอลล่าแล้วลูบหัวปลอบโยน "ไว้ว่างๆ ฉันจะสอนวิชาป้องกันตัวให้เอง ไม่ต้องพึ่งหมอนี่หรอก"

คาลอสถอนหายใจเฮือกใหญ่ "เธอไม่เกี่ยวลูน่า! นี่มันเรื่องของฉันกับเอลล่า""เกี่ยวสิยะ! ฉันเป็นเพื่อนเธอนะ คาลอส และฉันก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เข้าใจความรู้สึกของเอลล่ามากกว่านายเยอะ" ลูน่าเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ "ถ้าจะฝึกอะไรโหดๆ แบบที่นายพูดน่ะ ฉันไม่ยอมให้เอลล่าต้องเจ็บตัวฟรีๆ หรอกนะ"

บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างทั้งสองคน เอลล่าได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าพูดอะไร เธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีระหว่างการฝึกที่โหดแต่ดูเหมือนจะทำให้แข็งแกร่งขึ้น กับความอ่อนโยนของลูน่าที่ดูจะห่วงใยเธอจริงๆ

"หนูจะฝึกค่ะ!" เอลล่าตอบเสียงสั่น "ต่อให้ลำบากแค่ไหน หนูก็จะฝึก" 

ลูน่าถาม "เธอจะฝึกจริงใช่ไหม" ก่อนที่เธอจะยิ้ม 

ลูน่ายิ้มกว้างขึ้น "ดีมาก! ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่มีอะไรจะห่วงแล้ว" เธอหันไปมองคาลอสที่ยืนมองอยู่เงียบๆ "ได้ยินไหมคาลอส? เอลล่าเธอมีความตั้งใจนะ นายต้องไม่ทำให้ผิดหวังล่ะ"

คาลอสเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมามองเอลล่าอีกครั้ง แววตาที่เคยแข็งกร้าวอ่อนลงเล็กน้อย "ถ้าเธอพร้อมแล้ว ก็เริ่มต้นกันเลย" เขายื่นดาบไม้เล่มเดิมให้เอลล่า "จำไว้...ทุกบาดแผล ทุกหยาดเหงื่อ จะทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้น"

เอลล่ารับดาบไม้มาถือไว้ในมือ มันหนักกว่าที่เธอคิดไว้มาก แต่เธอกลับรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในนั้น เธอกำดาบแน่น พลางนึกถึงสิ่งที่คาลอสพูด "ต่อให้ลำบากแค่ไหน หนูก็จะฝึก"

การฝึกวันแรกเริ่มต้นขึ้นภายใต้การดูแลของคาลอส และสายตาที่จับจ้องของลูน่า...

"การฝึกวันนี้เราจะฝึกการใช้ดาบพื้นฐาน" คาร์ลอสพูดเสียงเข้มขณะยกดาบขึ้นมา "เธอต้องรู้ก่อน...ว่า"

1. การจับดาบที่ถูกต้อง: ตำแหน่งมือ น้ำหนักที่ถ่ายลงดาบ และท่าทางที่ช่วยให้ควบคุมดาบได้มั่นคงและออกแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.ท่าเตรียมพร้อม: ท่ายืนที่สมดุล มั่นคง และพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวทั้งรุกและรับ เช่น ท่าก้าวหน้า ท่าก้าวหลัง

3.การเคลื่อนที่: การก้าวเท้าอย่างมีระบบเพื่อเข้าหา ถอยหนี หรือเปลี่ยนตำแหน่งในการโจมตีและป้องกัน เช่น การก้าวตรง การก้าวเฉียง การหมุนตัว

4.การชักดาบและเก็บดาบ: วิธีการชักดาบออกจากฝักและเก็บดาบเข้าฝักอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติ

5.การฟัน: การออกแรงฟันในทิศทางต่างๆ เช่น ฟันตรง ฟันเฉียง ฟันขึ้น ฟันลง โดยเน้นที่การวางคมดาบและการส่งแรงจากร่างกาย

6.การปัดป้อง/ป้องกัน: การใช้ดาบป้องกันการโจมตีจากคู่ต่อสู้ เพื่อเบี่ยงเบนแรงปะทะหรือสกัดกั้นการโจมตี

7.การแทง: การใช้ปลายดาบพุ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้ เน้นความแม่นยำและความเร็ว

"เธอเข้าใจใช้ไหม" คาลอสพูดเสียงเข้มขณะยกดาบขึ้นมา "เธอต้องรู้ก่อนว่า การจับดาบที่ถูกต้องคือสิ่งสำคัญที่สุด ทั้งตำแหน่งมือ น้ำหนักที่ถ่ายลงดาบ และท่าทางที่ช่วยให้ควบคุมดาบได้อย่างมั่นคงและออกแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

เขาอธิบายต่อ "จากนั้นก็เป็นเรื่องของท่าเตรียมพร้อม ซึ่งก็คือท่ายืนที่สมดุล มั่นคง และพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวทั้งรุกและรับ เช่น ท่าก้าวหน้า ท่าก้าวหลัง และที่ขาดไม่ได้คือการเคลื่อนที่ การก้าวเท้าอย่างมีระบบเพื่อเข้าหา ถอยหนี หรือเปลี่ยนตำแหน่งในการโจมตีและป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นการก้าวตรง การก้าวเฉียง หรือการหมุนตัว"

คาลอสสาธิตการชักดาบและเก็บดาบให้เอลล่าดูช้าๆ "นี่คือการชักดาบและเก็บดาบ ต้องทำอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติ" เขากล่าวต่อ "และสิ่งสำคัญที่สุดของการใช้ดาบคือการฟัน การออกแรงฟันในทิศทางต่างๆ เช่น ฟันตรง ฟันเฉียง ฟันขึ้น ฟันลง โดยเน้นที่การวางคมดาบและการส่งแรงจากร่างกาย รวมถึงการปัดป้องหรือป้องกัน เพื่อเบี่ยงเบนแรงปะทะหรือสกัดกั้นการโจมตีจากคู่ต่อสู้ และสุดท้ายคือการแทง ที่ต้องใช้ปลายดาบพุ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้ด้วยความแม่นยำและความเร็ว"

"อย่างแรก เธอต้องลองจับดาบให้ถูกต้องก่อน"  "จำไว้ว่าน้ำหนักต้องกระจายไปทั่วทั้งมือ ไม่ใช่แค่กำแน่นจนเกินไป" มันดูใหญ่และหนักกว่าที่เธอคิด เธอพยายามทำตามที่คาร์ลอสบอก แต่ก็ยังรู้สึกเก้ๆ กังๆ

"ไม่ถูกต้อง" คาลอสพูดเสียงเรียบ "นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของเธอต้องทำหน้าที่ควบคุมทิศทาง ส่วนนิ้วที่เหลือแค่ประคองดาบไว้ ลองใหม่"

เอลล่าพยายามปรับท่าจับอีกครั้ง คราวนี้เธอรู้สึกว่าดาบสมดุลมากขึ้นเล็กน้อย

"ดีขึ้น" คาลอสพยักหน้า "ต่อไปคือท่าเตรียมพร้อม ยืนเท้าแยกออกจากกันให้เท่าช่วงไหล่ งอเข่าเล็กน้อย..."

เขาเริ่มต้นการฝึกอย่างเป็นระบบและเข้มงวด เอลล่าพยายามทำตามทุกคำสั่ง แม้ว่าแขนจะเริ่มล้า และท่าทางก็ยังไม่เป็นธรรมชาติ ลูน่ามองดูอยู่ห่างๆ ด้วยรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า บางครั้งเธอก็ยิ้มขำเล็กน้อยเมื่อเห็นเอลล่าทำท่าทางเปิ่นๆ แต่สายตาของเธอก็ยังคงมีความห่วงใย

การฝึกดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า...

เอลล่านั่งลงอย่างหมดเรี่ยวแรง ร่างกายของเธอปวดร้าวไปทั้งตัว แทบไม่มีแรงจะลุกขึ้น

คาลอสพูดว่า "วันนี้จบแค่นี้ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันต่อ" แล้วเขาค่อยเดินจากไป

ลูน่าเดินเข้ามาลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน "อย่าเพิ่งท้อนะ แต่ก่อนคาลอสก็เคยผ่านจุดนี้มาเหมือนกัน เขาอาจจะฝึกหนักกว่าเธออีกด้วยซ้ำ เขาต้องฝึกด้วยตัวเอง และถึงขั้นต้องไปนั่งคุกเข่าเป็นเดือนๆ เพื่อจะได้ฝึก แต่น่าเสียดายที่มันไม่คุ้มกับความพยายามเลย ตาแก่นั่นสอนอะไรประหลาดๆ ให้เขาก็ไม่รู้"  

"ไปอาบน้ำ กินข้าวกัน จะได้มีแรงฝึกต่อ" ลูน่าพูด