หัดวาดก่อนเดียวเปลี่ยนปก

ประกายจากพฤกษา - บทที่ 9 เพื่อนเก่า โดย ฟ้าดินนำทาง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,แฟนตาซี,ดาร์ค,แฟนตาซี,ดราม่า,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ประกายจากพฤกษา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,แฟนตาซี,ดาร์ค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ดราม่า,ผจญภัย

รายละเอียด

ประกายจากพฤกษา โดย ฟ้าดินนำทาง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หัดวาดก่อนเดียวเปลี่ยนปก

ผู้แต่ง

ฟ้าดินนำทาง

เรื่องย่อ

 

ขั้นที่ 1: สัมผัสอนูเวท (Basic Anuwet Sense)

ระดับนี้คือการรับรู้เบื้องต้นถึงอนูเวทในสิ่งรอบตัว ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้ตามความละเอียดของการรับรู้:

  1. การรับรู้อนูเวทหยาบ (Rough Anuwet Perception) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของอนูเวทได้ในภาพรวม เช่น รู้สึกถึงพลังเวทมนตร์ในบริเวณที่มีความเข้มข้นสูง หรือรับรู้ถึงการใช้เวทมนตร์ของผู้อื่นได้แบบคลุมเครือ
    • ตัวอย่าง: รู้สึกได้ถึง "ความผิดปกติ" ของพลังงานเมื่ออยู่ในป่าเวทมนตร์ หรือสัมผัสได้ถึงออร่าเวทมนตร์จางๆ จากวัตถุโบราณ
  2. การรับรู้อนูเวทละเอียด (Fine Anuwet Perception) :
    • ความสามารถ: จอมเวทเริ่มสามารถแยกแยะประเภทของอนูเวทได้ เช่น สัมผัสได้ว่าพลังงานที่รับรู้นั้นเป็นอนูเวทธาตุไฟหรือธาตุน้ำ หรือมีความเข้มข้นมากน้อยแค่ไหน
    • ตัวอย่าง: สามารถระบุได้ว่าต้นไม้ต้นนี้มีอนูเวทธาตุดินในปริมาณมาก หรือสัมผัสได้ถึงร่องรอยของอนูเวทที่หลงเหลือจากการใช้เวทมนตร์เมื่อนานมาแล้ว
  3. การรับรู้อนูเวทเฉพาะเจาะจง (Precise Anuwet Identification) :
    • ความสามารถ: จอมเวทมีความเข้าใจลึกซึ้งถึงลักษณะเฉพาะของอนูเวท สามารถระบุแหล่งที่มา, คุณสมบัติย่อย, หรือแม้กระทั่งความ "บริสุทธิ์" ของอนูเวทได้อย่างแม่นยำ
    • ตัวอย่าง: สามารถสัมผัสได้ว่าอนูเวทไฟที่พุ่งมานั้นเป็นไฟแห่งการทำลายล้าง หรือไฟแห่งการชำระล้าง หรือสามารถแยกแยะความแตกต่างของอนูเวทที่มาจากจอมเวทแต่ละคนได้

ขั้นที่ 2: ควบคุมอนูเวท (Anuwet Manipulation)

ระดับนี้เกี่ยวกับการที่จอมเวทเริ่มมีอิทธิพลต่ออนูเวท ตั้งแต่การบังคับเบื้องต้นไปจนถึงการควบคุมได้อย่างเป็นอิสระ:

  1. การควบคุมอนูเวทผ่านสื่อ (Conduit Anuwet Control) :
    • ความสามารถ: จอมเวททั่วไปที่ต้องใช้ "คทา" หรือ "อัญมณีเวท" เป็นตัวกลางในการรวบรวมและชี้นำอนูเวท การควบคุมยังเป็นแบบจำกัดตามขีดความสามารถของเครื่องมือและคาถาที่ใช้
    • ตัวอย่าง: ร่ายคาถาไฟโดยใช้คทาเพื่อเรียกเปลวไฟขนาดเล็ก หรือใช้คฑาน้ำเพื่อสร้างหยดน้ำเวทมนตร์
  2. การควบคุมอนูเวทโดยตรงเบื้องต้น (Basic Direct Anuwet Control) :
    • ความสามารถ: จอมเวทที่มีความเข้าใจในอนูเวทมากขึ้น สามารถเริ่มควบคุมอนูเวทได้โดยตรงในระดับที่ไม่ซับซ้อน เช่น การชี้นำกระแสอนูเวทให้เคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ต้องการ หรือการรวมกลุ่มอนูเวทให้มีความหนาแน่นขึ้นเล็กน้อย โดยไม่จำเป็นต้องใช้คาถาหรือคทาเสมอไป
    • ตัวอย่าง: ใช้มือเปล่าจุดเทียนด้วยอนูเวทไฟ หรือทำให้ใบไม้ลอยขึ้นเล็กน้อยด้วยอนูเวทลม
  3. การควบคุมอนูเวทได้ดั่งใจนึก (Instinctive Anuwet Control) :
    • ความสามารถ: จอมเวทที่มีความเข้าใจในอนูเวทอย่างลึกซึ้งถึงแก่นแท้ สามารถควบคุมอนูเวทได้ทันทีตามเจตจำนง โดยไม่ต้องผ่านการร่ายคาถาหรือใช้เครื่องมือใดๆ การควบคุมเป็นไปอย่างลื่นไหลและแม่นยำ สร้างสรรค์รูปแบบเวทมนตร์ที่ซับซ้อนได้ตามต้องการ
    • ตัวอย่าง: เสกกำแพงน้ำแข็งขึ้นมาในพริบตาเพื่อป้องกันการโจมตี หรือสร้างกระแสลมวนเพื่อโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง

ขั้นที่ 3: สลักอนูเวท (Anuwet Imbuement)

ระดับนี้คือการฝังอนูเวทลงในวัตถุให้คงอยู่ได้ ซึ่งต้องใช้ความแม่นยำและความเข้าใจอย่างมาก:

  1. การประจุอนูเวทชั่วคราว (Temporary Anuwet Imbuement) :
    • ความสามารถ: การประจุอนูเวทลงในวัตถุหรือบุคคลเพื่อให้มีคุณสมบัติเวทมนตร์ในระยะเวลาจำกัด ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการเพิ่มพลังชั่วคราว หรือสร้างผลกระทบที่อยู่ได้ไม่นาน
    • ตัวอย่าง: ประจุอนูเวทโจมตีลงในดาบเพื่อให้ดาบมีความร้อนขึ้นชั่วขณะ หรือประจุอนูเวทรักษาลงบนบาดแผลเพื่อให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นชั่วคราว
  2. การสลักอนูเวทถาวรเบื้องต้น (Basic Permanent Anuwet Engraving) :
    • ความสามารถ: การสลักอนูเวทลงในวัตถุเพื่อให้มีคุณสมบัติเวทมนตร์ถาวร แต่ในรูปแบบที่ไม่ซับซ้อนนัก หรือต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากในการทำ มักจะเป็นการสลักคุณสมบัติเดียว
    • ตัวอย่าง: สร้างดาบที่เปล่งแสงได้ตลอดเวลา หรือแหวนที่ช่วยเพิ่มการป้องกันเล็กน้อยอย่างถาวร
  3. การสลักอนูเวทซับซ้อน/หลายคุณสมบัติ (Complex/Multi-Property Anuwet Imbuement) :
    • ความสามารถ: การสลักอนูเวทลงในวัตถุด้วยความแม่นยำสูง ทำให้วัตถุนั้นมีคุณสมบัติเวทมนตร์ที่ซับซ้อน หรือมีหลายคุณสมบัติพร้อมกัน ผู้ใช้สามารถกำหนดเงื่อนไขการทำงานของอนูเวทที่สลักไว้ได้
    • ตัวอย่าง: สร้างเกราะที่สามารถต้านทานได้ทั้งไฟและน้ำ หรือเครื่องรางที่ช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตและมานาพร้อมกัน

ขั้นที่ 4: แปรผันอนูเวท (Anuwet Transmutation)

นี่คือการเปลี่ยนแปลงแก่นแท้ของอนูเวท ซึ่งเป็นขีดสุดของความเข้าใจและการควบคุม:

  1. การปรับเปลี่ยนคุณสมบัติย่อย (Minor Property Adjustment) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถปรับเปลี่ยนคุณสมบัติเล็กๆ น้อยๆ ของอนูเวทได้ เช่น ทำให้อนูเวทไฟมีความร้อนสูงขึ้น หรือลดอุณหภูมิลงเล็กน้อย หรือเพิ่มแรงดันของอนูเวทน้ำ
    • ตัวอย่าง: เสกบอลไฟที่ร้อนแรงกว่าปกติ หรือสร้างกระแสน้ำแข็งที่กัดกร่อนได้เล็กน้อย
  2. การเปลี่ยนแปลงประเภทอนูเวท (Anuwet Type Transmutation) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถเปลี่ยนอนูเวทจากประเภทหนึ่งไปอีกประเภทหนึ่งได้ เช่น เปลี่ยนอนูเวทธาตุไฟให้เป็นอนูเวทธาตุน้ำ หรือเปลี่ยนอนูเวทบริสุทธิ์ให้เป็นอนูเวทแห่งความมืด
    • ตัวอย่าง: สามารถดูดซับพลังงานไฟจากสิ่งแวดล้อมแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานน้ำเพื่อใช้โจมตี หรือแปลงพลังงานแสงให้เป็นพลังงานเงา
  3. การสร้างสรรค์อนูเวทรูปแบบใหม่ (Anuwet Genesis/Recreation) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานของอนูเวทเพื่อสร้างอนูเวทประเภทใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน หรือสามารถหลอมรวมอนูเวทหลายประเภทเข้าด้วยกันเพื่อสร้างคุณสมบัติที่ไม่เคยเกิดขึ้น
    • ตัวอย่าง: ผสมผสานอนูเวทไฟกับอนูเวทลมเพื่อสร้าง "อนูเวทพายุเพลิง" ที่มีคุณสมบัติทั้งสอง หรือสร้างอนูเวทแห่ง "มิติ" ที่สามารถเปิดประตูมิติขนาดเล็กได้

 

สารบัญ

ประกายจากพฤกษา-บทที่ 1 สงคราม,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 2 พฤกษาผู้พิทักษ์,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 3 จุดเริ่มต้น,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 4 ความสิ้นหวัง,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 5 ความโดดเดี่ยว,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 6 ความลึกลับของป่าไม้,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 7 แสงรุ่งอรุณ,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 8 กลับบ้าน,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 9 เพื่อนเก่า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 10 การฝึกของเอลล่า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 11 ความเหนื่อยยาก,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 12 ความเหนื่อยยาก 2,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 13 ฉันสู้เพื่ออนาคต,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 14 เข้ามา,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 15 การจากลา,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 16 โลกอันกว้าใหญ่,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 17 เอาตัวรอด,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 18 คนแปลกหน้า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 19 ไม่นะ,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 20 การตัดสินใจของเอลล่า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 21 การหลบหนี,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 22 หลังเอาชีวิตรอด,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 23 ผลโลหิต,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 24 ความเจ็บปวด

เนื้อหา

บทที่ 9 เพื่อนเก่า

"เราควรหาที่พักก่อนเป็นอันดับแรกเลยนะ" คาลอสพูดพร้อมกับชำเลืองมองเอลล่าที่ยืนอยู่ข้างๆ

"ที่พักเหรอคะ?" เอลล่าถามด้วยความสงสัย

คาลอสอธิบายว่า "ใช่แล้ว เราลองไปดูบ้านที่ฉันเคยอยู่ก่อนดีกว่าว่ามันยังใช้ได้อยู่ไหม ถ้าไม่สะดวกแล้วเราค่อยไปหาโรงเตี๊ยมกัน"

คาลอสจับมือเอลล่าแล้วพากันเดินลัดเลาะผ่านตรอกซอกซอยต่างๆ จนมาถึงเนินเล็กๆ แห่งหนึ่ง ตรงหน้าคือภาพบ้านเก่าที่คุ้นตา... ในแววตาของคาลอสปรากฏภาพความทรงจำในวัยเยาว์ผุดขึ้นมา

"คุณแม่ครับ! ดูดอกไม้นี่สิ มันเรืองแสงได้ด้วย!" คาลอสน้อยในความทรงจำพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น

คุณแม่ของคาลอสเดินเข้ามาอุ้มเขาขึ้นมาอย่างอ่อนโยน

"ดอกไม้นี้คุณพ่อของลูกเป็นคนเก็บมาให้แม่นะจ๊ะ" คุณแม่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

คาลอสในวัยเด็กหันมองเข้าไปในดวงตาของแม่ เขาเห็นแววความเศร้าสร้อยฉายชัดอยู่ในนั้น มือเล็กๆ ของเขาก็ค่อยๆ เอื้อมไปสัมผัสใบหน้าของคุณแม่เบาๆ คุณแม่คาลอสหันมามอง คาลอสน้อยด้วยความอ่อนโยน คุณแม่คาร์ลอสพูดกับคาลอสน้อยด้วยความอ่อนโยนว่า

 "ดอกไม้นี้คือ ดอกพีโอนี (Peony) จ้ะ มีตำนานหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่าดอกพีโอนีเป็นดอกไม้เวทมนตร์ที่สามารถบรรเทาความเจ็บปวดขณะคลอดบุตรได้เลยนะ"  คาลอสฟังอย่างตั้งใจ 

"แล้วคุณพ่อล่ะครับ คุณพ่อไปไหน?" คาลอสหันมาถามแม่ " 

คุณพ่อไปที่ไกลแสนไกลนะลูก" แม่คาลอสตอบ 

"ที่ไกลแสนไกลนี้ไกลแค่ไหนหรอครับ? วันที่ผมโตขึ้น ผมจะไปตามหาคุณพ่อ " คาลอสพูดด้วยความมุ่งมั่น แม่คาร์ลอสมองคาลอสด้วยดวงตาเศร้าสร้อย คาลอสหันกลับมาหาแม่ และเห็นเธอกำลังยิ้มให้เขาอย่างช้าๆ 

กลับมาในปัจจุบัน คาลอสถอนหายใจด้วยความเศร้าสร้อย "เข้าไปดูกันข้างในกัน 

" คาลอสจูงมือเอลล่าเข้าไปข้างใน "นี่บ้านคุณหรอคะ? 

" เอลล่าถาม " ใช่แล้ว นี่คือบ้านที่ฉันเคยอาศัย" คาลอสเห็นสภาพบ้านแล้วพูดกับเอลล่าว่า "เราไปหาโรงเตี๊ยมกันดีกว่า" 

"ไม่เป็นไรค่ะ เราช่วยกันทำความสะอาดก็ได้" เอลล่าพูดด้วยความมุ่งมั่น คาลอสหันมองเอลล่าแล้วถอนหายใจ และพูดในใจว่า "เป็นเด็กนี่ดีจริงๆ"

หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมง 

คาลอสและเอลล่าก็ทำความสะอาดบ้านจนเสร็จเรียบร้อย "เห็นไหม สะอาดแล้ว!" เอลล่ากล่าวด้วยความภูมิใจ

ทันใดนั้น เสียงท้องของเอลล่าก็ดังขึ้นมา คาลอสมองเธอด้วยแววตาขบขัน "ป่ะ เราไปหาอะไรกินกัน" คาลอสชวนเอลล่า

ก่อนที่คาลอสและเอลล่าจะเดินออกจากบ้าน ก็มีคนสวมเสื้อคลุมสีดำเดินเข้ามาในลานบ้าน คาลอสดึงเอลล่ามาไว้ข้างหลังและจ้องมองคนนั้นอย่างตั้งใจ

ทันใดนั้นก็มีเสียงทักทายดังขึ้น "ทำไมนายถึงทำหน้าตาแบบนั้นล่ะ คาลอส เหมือนนายเจอศัตรูเลยนะ"

คาลอสชะงักไปครู่หนึ่ง

ทันใดนั้น คนในชุดคลุมสีดำก็ถอดผ้าคลุมออก เผยให้เห็นใบหน้าสวยหวานราวกับเทพธิดา ผมยาวสลวยสีรัตติกาลประดับด้วยปิ่นเงินรูปจันทร์เสี้ยว ดวงตากลมโตสีม่วงอเมทิสต์เปล่งประกายลึกลับและน่าค้นหา

เธอสวมชุดยาวสีดำสนิทที่ตัดเย็บจากผ้าไหมเนื้อดี ปักลายดวงดาวสีเงินเล็กๆ ทั่วทั้งชุด ช่วงเอวคอดกิ่วคาดด้วยเข็มขัดหนังสีดำประดับหัวเข็มขัดรูปหมาป่าสีเงิน บนนิ้วเรียวสวมแหวนเงินที่มีอัญมณีสีม่วงเม็ดเล็กๆ เรือนหนึ่ง

ถึงแม้ชุดของเธอจะดูเรียบง่าย แต่กลับขับเน้นรูปร่างที่งดงามและสง่าราวกับนางพญาแห่งรัตติกาล ออร่าที่แผ่ออกมานั้นผสมผสานความลึกลับ น่าค้นหา และเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจ สิ่งที่เห็นเด่นชัดคือ หมวกทรงแหลมใบใหญ่ ที่เธอสวมอยู่

"ลูน่า... นั่นเธอจริงหรอ?" คาลอสถามด้วยความไม่แน่ใจ

"ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นใครล่ะ? นายมีเพื่อนเยอะขนาดนั้นเลยรึไง?" เธอพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

"ก็ใช่... ฉันมีเพื่อนน้อย แต่ก็ยังมีเธออยู่นี่ไง" คาลอสตอบ

ลูน่าเหลือบมองไปยังเกาะของคาลอส "ทำไมเกาะที่ฉันลงเวทมนตร์ให้นายถึงเละขนาดนั้นล่ะ?"

คาลอสยิ้มแหย ๆ ด้วยความเขินอายแล้วหัวเราะเบา ๆ "ไปเจอศัตรูที่พวกเราไม่สามารถสู้ได้น่ะ"

ลูน่าถามต่อ "แล้วลูกน้องนายทั้งสามคนที่ไปด้วยกัน... พวกเขาไปไหนแล้วละ?"

คาลอสถอนหายใจแผ่วเบา "พวกเขา... ตายหมดแล้ว" 

เธอพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

"เด็กข้างหลังนายน่ะเก็บมาจากไหนนะ หรือว่าคือลูกนายล่ะ"

 ลูน่าถาม ขณะที่เอลล่าค่อยๆ ชำเลืองมองผ่านหลังคาลอสด้วยความสงสัย

"เธอชื่อเอลล่า ฉันพาเธอออกมาจากป่าทางตะวันออกนะ หมู่บ้านเธอโดนทำลายนะ" เอลล่าค่อยๆ เดินออกมาจากข้างหลังคาลอส

อย่างช้าๆ ดวงตาลูน่าเปล่งประกายสีม่วงจดจ้องไปยังเอลล่า เธอพยักหน้าขึ้นลงด้วยความพึงพอใจ 

ลูน่าพูดในใจ "เด็กคนนี้ไม่ธรรมดา"