หัดวาดก่อนเดียวเปลี่ยนปก

ประกายจากพฤกษา - บทที่ 2 พฤกษาผู้พิทักษ์ โดย ฟ้าดินนำทาง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,แฟนตาซี,ดาร์ค,แฟนตาซี,ดราม่า,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ประกายจากพฤกษา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,แฟนตาซี,ดาร์ค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ดราม่า,ผจญภัย

รายละเอียด

ประกายจากพฤกษา โดย ฟ้าดินนำทาง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หัดวาดก่อนเดียวเปลี่ยนปก

ผู้แต่ง

ฟ้าดินนำทาง

เรื่องย่อ

 

ขั้นที่ 1: สัมผัสอนูเวท (Basic Anuwet Sense)

ระดับนี้คือการรับรู้เบื้องต้นถึงอนูเวทในสิ่งรอบตัว ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้ตามความละเอียดของการรับรู้:

  1. การรับรู้อนูเวทหยาบ (Rough Anuwet Perception) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของอนูเวทได้ในภาพรวม เช่น รู้สึกถึงพลังเวทมนตร์ในบริเวณที่มีความเข้มข้นสูง หรือรับรู้ถึงการใช้เวทมนตร์ของผู้อื่นได้แบบคลุมเครือ
    • ตัวอย่าง: รู้สึกได้ถึง "ความผิดปกติ" ของพลังงานเมื่ออยู่ในป่าเวทมนตร์ หรือสัมผัสได้ถึงออร่าเวทมนตร์จางๆ จากวัตถุโบราณ
  2. การรับรู้อนูเวทละเอียด (Fine Anuwet Perception) :
    • ความสามารถ: จอมเวทเริ่มสามารถแยกแยะประเภทของอนูเวทได้ เช่น สัมผัสได้ว่าพลังงานที่รับรู้นั้นเป็นอนูเวทธาตุไฟหรือธาตุน้ำ หรือมีความเข้มข้นมากน้อยแค่ไหน
    • ตัวอย่าง: สามารถระบุได้ว่าต้นไม้ต้นนี้มีอนูเวทธาตุดินในปริมาณมาก หรือสัมผัสได้ถึงร่องรอยของอนูเวทที่หลงเหลือจากการใช้เวทมนตร์เมื่อนานมาแล้ว
  3. การรับรู้อนูเวทเฉพาะเจาะจง (Precise Anuwet Identification) :
    • ความสามารถ: จอมเวทมีความเข้าใจลึกซึ้งถึงลักษณะเฉพาะของอนูเวท สามารถระบุแหล่งที่มา, คุณสมบัติย่อย, หรือแม้กระทั่งความ "บริสุทธิ์" ของอนูเวทได้อย่างแม่นยำ
    • ตัวอย่าง: สามารถสัมผัสได้ว่าอนูเวทไฟที่พุ่งมานั้นเป็นไฟแห่งการทำลายล้าง หรือไฟแห่งการชำระล้าง หรือสามารถแยกแยะความแตกต่างของอนูเวทที่มาจากจอมเวทแต่ละคนได้

ขั้นที่ 2: ควบคุมอนูเวท (Anuwet Manipulation)

ระดับนี้เกี่ยวกับการที่จอมเวทเริ่มมีอิทธิพลต่ออนูเวท ตั้งแต่การบังคับเบื้องต้นไปจนถึงการควบคุมได้อย่างเป็นอิสระ:

  1. การควบคุมอนูเวทผ่านสื่อ (Conduit Anuwet Control) :
    • ความสามารถ: จอมเวททั่วไปที่ต้องใช้ "คทา" หรือ "อัญมณีเวท" เป็นตัวกลางในการรวบรวมและชี้นำอนูเวท การควบคุมยังเป็นแบบจำกัดตามขีดความสามารถของเครื่องมือและคาถาที่ใช้
    • ตัวอย่าง: ร่ายคาถาไฟโดยใช้คทาเพื่อเรียกเปลวไฟขนาดเล็ก หรือใช้คฑาน้ำเพื่อสร้างหยดน้ำเวทมนตร์
  2. การควบคุมอนูเวทโดยตรงเบื้องต้น (Basic Direct Anuwet Control) :
    • ความสามารถ: จอมเวทที่มีความเข้าใจในอนูเวทมากขึ้น สามารถเริ่มควบคุมอนูเวทได้โดยตรงในระดับที่ไม่ซับซ้อน เช่น การชี้นำกระแสอนูเวทให้เคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ต้องการ หรือการรวมกลุ่มอนูเวทให้มีความหนาแน่นขึ้นเล็กน้อย โดยไม่จำเป็นต้องใช้คาถาหรือคทาเสมอไป
    • ตัวอย่าง: ใช้มือเปล่าจุดเทียนด้วยอนูเวทไฟ หรือทำให้ใบไม้ลอยขึ้นเล็กน้อยด้วยอนูเวทลม
  3. การควบคุมอนูเวทได้ดั่งใจนึก (Instinctive Anuwet Control) :
    • ความสามารถ: จอมเวทที่มีความเข้าใจในอนูเวทอย่างลึกซึ้งถึงแก่นแท้ สามารถควบคุมอนูเวทได้ทันทีตามเจตจำนง โดยไม่ต้องผ่านการร่ายคาถาหรือใช้เครื่องมือใดๆ การควบคุมเป็นไปอย่างลื่นไหลและแม่นยำ สร้างสรรค์รูปแบบเวทมนตร์ที่ซับซ้อนได้ตามต้องการ
    • ตัวอย่าง: เสกกำแพงน้ำแข็งขึ้นมาในพริบตาเพื่อป้องกันการโจมตี หรือสร้างกระแสลมวนเพื่อโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง

ขั้นที่ 3: สลักอนูเวท (Anuwet Imbuement)

ระดับนี้คือการฝังอนูเวทลงในวัตถุให้คงอยู่ได้ ซึ่งต้องใช้ความแม่นยำและความเข้าใจอย่างมาก:

  1. การประจุอนูเวทชั่วคราว (Temporary Anuwet Imbuement) :
    • ความสามารถ: การประจุอนูเวทลงในวัตถุหรือบุคคลเพื่อให้มีคุณสมบัติเวทมนตร์ในระยะเวลาจำกัด ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการเพิ่มพลังชั่วคราว หรือสร้างผลกระทบที่อยู่ได้ไม่นาน
    • ตัวอย่าง: ประจุอนูเวทโจมตีลงในดาบเพื่อให้ดาบมีความร้อนขึ้นชั่วขณะ หรือประจุอนูเวทรักษาลงบนบาดแผลเพื่อให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นชั่วคราว
  2. การสลักอนูเวทถาวรเบื้องต้น (Basic Permanent Anuwet Engraving) :
    • ความสามารถ: การสลักอนูเวทลงในวัตถุเพื่อให้มีคุณสมบัติเวทมนตร์ถาวร แต่ในรูปแบบที่ไม่ซับซ้อนนัก หรือต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากในการทำ มักจะเป็นการสลักคุณสมบัติเดียว
    • ตัวอย่าง: สร้างดาบที่เปล่งแสงได้ตลอดเวลา หรือแหวนที่ช่วยเพิ่มการป้องกันเล็กน้อยอย่างถาวร
  3. การสลักอนูเวทซับซ้อน/หลายคุณสมบัติ (Complex/Multi-Property Anuwet Imbuement) :
    • ความสามารถ: การสลักอนูเวทลงในวัตถุด้วยความแม่นยำสูง ทำให้วัตถุนั้นมีคุณสมบัติเวทมนตร์ที่ซับซ้อน หรือมีหลายคุณสมบัติพร้อมกัน ผู้ใช้สามารถกำหนดเงื่อนไขการทำงานของอนูเวทที่สลักไว้ได้
    • ตัวอย่าง: สร้างเกราะที่สามารถต้านทานได้ทั้งไฟและน้ำ หรือเครื่องรางที่ช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตและมานาพร้อมกัน

ขั้นที่ 4: แปรผันอนูเวท (Anuwet Transmutation)

นี่คือการเปลี่ยนแปลงแก่นแท้ของอนูเวท ซึ่งเป็นขีดสุดของความเข้าใจและการควบคุม:

  1. การปรับเปลี่ยนคุณสมบัติย่อย (Minor Property Adjustment) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถปรับเปลี่ยนคุณสมบัติเล็กๆ น้อยๆ ของอนูเวทได้ เช่น ทำให้อนูเวทไฟมีความร้อนสูงขึ้น หรือลดอุณหภูมิลงเล็กน้อย หรือเพิ่มแรงดันของอนูเวทน้ำ
    • ตัวอย่าง: เสกบอลไฟที่ร้อนแรงกว่าปกติ หรือสร้างกระแสน้ำแข็งที่กัดกร่อนได้เล็กน้อย
  2. การเปลี่ยนแปลงประเภทอนูเวท (Anuwet Type Transmutation) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถเปลี่ยนอนูเวทจากประเภทหนึ่งไปอีกประเภทหนึ่งได้ เช่น เปลี่ยนอนูเวทธาตุไฟให้เป็นอนูเวทธาตุน้ำ หรือเปลี่ยนอนูเวทบริสุทธิ์ให้เป็นอนูเวทแห่งความมืด
    • ตัวอย่าง: สามารถดูดซับพลังงานไฟจากสิ่งแวดล้อมแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานน้ำเพื่อใช้โจมตี หรือแปลงพลังงานแสงให้เป็นพลังงานเงา
  3. การสร้างสรรค์อนูเวทรูปแบบใหม่ (Anuwet Genesis/Recreation) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานของอนูเวทเพื่อสร้างอนูเวทประเภทใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน หรือสามารถหลอมรวมอนูเวทหลายประเภทเข้าด้วยกันเพื่อสร้างคุณสมบัติที่ไม่เคยเกิดขึ้น
    • ตัวอย่าง: ผสมผสานอนูเวทไฟกับอนูเวทลมเพื่อสร้าง "อนูเวทพายุเพลิง" ที่มีคุณสมบัติทั้งสอง หรือสร้างอนูเวทแห่ง "มิติ" ที่สามารถเปิดประตูมิติขนาดเล็กได้

 

สารบัญ

ประกายจากพฤกษา-บทที่ 1 สงคราม,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 2 พฤกษาผู้พิทักษ์,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 3 จุดเริ่มต้น,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 4 ความสิ้นหวัง,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 5 ความโดดเดี่ยว,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 6 ความลึกลับของป่าไม้,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 7 แสงรุ่งอรุณ,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 8 กลับบ้าน,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 9 เพื่อนเก่า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 10 การฝึกของเอลล่า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 11 ความเหนื่อยยาก,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 12 ความเหนื่อยยาก 2,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 13 ฉันสู้เพื่ออนาคต,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 14 เข้ามา,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 15 การจากลา,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 16 โลกอันกว้าใหญ่,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 17 เอาตัวรอด,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 18 คนแปลกหน้า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 19 ไม่นะ,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 20 การตัดสินใจของเอลล่า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 21 การหลบหนี,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 22 หลังเอาชีวิตรอด,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 23 ผลโลหิต,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 24 ความเจ็บปวด

เนื้อหา

บทที่ 2 พฤกษาผู้พิทักษ์

ความมืดมิดคืบคลาน ปกคลุมซอกซอยแคบเฉอะแฉะ กลิ่นเหม็นอับของขยะและไอเย็นชื้นแทรกซึมไปทุกอณูอากาศ เด็กสาวตัวน้อยขดตัวชิดกำแพงอิฐมอญเก่าคร่ำคร่า ร่างกายผอมบางสั่นเทิ้มราวกับใบไม้ต้องลมหนาว

สายลมเหน็บหนาวราวกับคมมีดกรีดเฉือนผิวกายบาง เสื้อผ้าเก่าขาดรุ่งริ่งเพียงน้อยชิ้นมิอาจต้านทานความยะเยือกที่กัดกินกระดูก ดวงตากลมโตที่เคยสดใส บัดนี้หม่นแสงและฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตาที่แข็งกรังเป็นทางบนแก้มซีดเซียว ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงปกคลุมใบหน้าเล็กราวกับกรอบอันเศร้าสร้อย

ริมฝีปากเล็กๆ เม้มแน่น พยายามกลั้นเสียงสะอื้นที่จุกอยู่ในอก มือเล็กๆ ที่ด้านชาจากการสัมผัสความเย็น พยายามกอดตัวเองไว้แน่นขึ้น ราวกับต้องการสร้างเกราะกำบังจากโลกที่โหดร้ายนี้

เสียงลมหวีดหวิวลอดผ่านรอยแตกของกำแพง ฟังดูคล้ายเสียงคร่ำครวญของโชคชะตา แสงจันทร์สลัวลอดผ่านช่องระหว่างต้นไม้ สาดส่องร่างเล็กๆ ที่นอนขดอยู่บนพื้นราวกับถูกทอดทิ้ง ความเหงา ความหวาดกลัว และความเหน็บหนาว ถักทอเป็นความรู้สึกอันหนักอึ้งที่กดทับหัวใจดวงน้อยๆ

ในความมืดมิดและความเงียบงันนั้น ไม่มีใครรู้ว่าเด็กสาวผู้นี้มาจากไหน เธอต้องเผชิญกับอะไร หรืออนาคตที่รออยู่ข้างหน้าจะเป็นเช่นไร มีเพียงความหนาวเหน็บที่กัดกิน และความมืดมิดที่โอบล้อม ราวกับจะกลืนกินความหวังสุดท้ายที่อาจหลงเหลืออยู่

เด็กสาวเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างยากลำบาก ด้วยความอ่อนล้ากัดกินไปทั่วร่าง ทว่าสายตาพลันจับจ้องไปยังแสงเรืองรองพราวระยับที่ทอประกายอยู่ใกล้กลุ่มเงาของพุ่มไม้ใหญ่

"ต้นไม้นั่น...ช่างประหลาดนัก" ความคิดแผ่วเบาคล้ายเสียงกระซิบดังขึ้นในห้วงสำนึก ต้นไม้ที่ปรากฏแก่สายตา ราวกับถูกฉาบไล้ด้วยความโปร่งใส แสงจันทร์สีเงินยวงสอดส่องทะลุผ่านช่องว่างเล็กๆ ระหว่างใบไม้ คล้ายอัญมณีที่ส่องประกายในความมืด

ความปรารถนาที่จะลุกขึ้นนั่งกัดกินหัวใจดวงน้อย เธอพยายามใช้มือเล็กๆ ที่เย็นเยียบและสั่นเทาพยุงกายอันบอบบาง ทว่าราวกับมีอำนาจลึกลับมาเหนี่ยวรั้ง แม้จะรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ก็ไม่อาจขยับเขยื้อนได้ ความว่างเปล่าในกระเพาะอาหารที่กัดกินมาสองราตรี ทำให้เรี่ยวแรงที่มีอยู่น้อยนิดเหือดหายจนหมดสิ้น

ด้วยความสิ้นหวัง ทว่ายังคงมีความมุ่งมั่น เด็กสาวจึงใช้สองมือที่ชาหนึบตะเกียกตะกายไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า...

ด้วยความหวังอันน้อยนิด ในที่สุดร่างเล็กก็ตะเกียกตะกายไปจนถึงใต้พฤกษา เธอจ้องมองด้วยความสงสัย...

เธอเห็นแสงระยิบระยับล่องลอยรอบตัว ราวกับกลุ่มหิ่งห้อยไร้ปีก "นี่มันคืออะไรกัน?" เธอได้แต่สงสัย...

เธอเอื้อมมือเล็กๆ ไปสัมผัส ทันใดนั้นเอง กระแสความอบอุ่นก็ไหลซ่านไปทั่วร่างกาย "อุ่นจัง..." เธอพึมพำแผ่วเบา

จู่ๆ แสงประกายก็เริ่มส่องสว่างขึ้นจากดวงตาที่เคยหมองมัวของเธอ... แผ่แสงเรืองรองสีฟ้าดั่งพื้นน้ำทะเล

ในดวงตาของเธอปรากฏอักขระแปลกประหลาดขึ้นมาโดยที่เธอไม่รู้ตัว

ในขณะที่เธอพยายามจะคว้าจับแสงระยิบระยับนั้นอีก ความอ่อนล้าและเหน็ดเหนื่อยก็ถาโถมเข้าใส่ จนดวงตาของเธอเริ่มปรือปรอย...

แล้วเธอก็หมดเรียวแรงแล้วหลับไปด้วยอาการอ่อนแรงใต้ต้นพฤกษา