หัดวาดก่อนเดียวเปลี่ยนปก

ประกายจากพฤกษา - บทที่ 10 การฝึกของเอลล่า โดย ฟ้าดินนำทาง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,แฟนตาซี,ดาร์ค,แฟนตาซี,ดราม่า,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ประกายจากพฤกษา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,แฟนตาซี,ดาร์ค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ดราม่า,ผจญภัย

รายละเอียด

ประกายจากพฤกษา โดย ฟ้าดินนำทาง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หัดวาดก่อนเดียวเปลี่ยนปก

ผู้แต่ง

ฟ้าดินนำทาง

เรื่องย่อ

 

ขั้นที่ 1: สัมผัสอนูเวท (Basic Anuwet Sense)

ระดับนี้คือการรับรู้เบื้องต้นถึงอนูเวทในสิ่งรอบตัว ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้ตามความละเอียดของการรับรู้:

  1. การรับรู้อนูเวทหยาบ (Rough Anuwet Perception) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของอนูเวทได้ในภาพรวม เช่น รู้สึกถึงพลังเวทมนตร์ในบริเวณที่มีความเข้มข้นสูง หรือรับรู้ถึงการใช้เวทมนตร์ของผู้อื่นได้แบบคลุมเครือ
    • ตัวอย่าง: รู้สึกได้ถึง "ความผิดปกติ" ของพลังงานเมื่ออยู่ในป่าเวทมนตร์ หรือสัมผัสได้ถึงออร่าเวทมนตร์จางๆ จากวัตถุโบราณ
  2. การรับรู้อนูเวทละเอียด (Fine Anuwet Perception) :
    • ความสามารถ: จอมเวทเริ่มสามารถแยกแยะประเภทของอนูเวทได้ เช่น สัมผัสได้ว่าพลังงานที่รับรู้นั้นเป็นอนูเวทธาตุไฟหรือธาตุน้ำ หรือมีความเข้มข้นมากน้อยแค่ไหน
    • ตัวอย่าง: สามารถระบุได้ว่าต้นไม้ต้นนี้มีอนูเวทธาตุดินในปริมาณมาก หรือสัมผัสได้ถึงร่องรอยของอนูเวทที่หลงเหลือจากการใช้เวทมนตร์เมื่อนานมาแล้ว
  3. การรับรู้อนูเวทเฉพาะเจาะจง (Precise Anuwet Identification) :
    • ความสามารถ: จอมเวทมีความเข้าใจลึกซึ้งถึงลักษณะเฉพาะของอนูเวท สามารถระบุแหล่งที่มา, คุณสมบัติย่อย, หรือแม้กระทั่งความ "บริสุทธิ์" ของอนูเวทได้อย่างแม่นยำ
    • ตัวอย่าง: สามารถสัมผัสได้ว่าอนูเวทไฟที่พุ่งมานั้นเป็นไฟแห่งการทำลายล้าง หรือไฟแห่งการชำระล้าง หรือสามารถแยกแยะความแตกต่างของอนูเวทที่มาจากจอมเวทแต่ละคนได้

ขั้นที่ 2: ควบคุมอนูเวท (Anuwet Manipulation)

ระดับนี้เกี่ยวกับการที่จอมเวทเริ่มมีอิทธิพลต่ออนูเวท ตั้งแต่การบังคับเบื้องต้นไปจนถึงการควบคุมได้อย่างเป็นอิสระ:

  1. การควบคุมอนูเวทผ่านสื่อ (Conduit Anuwet Control) :
    • ความสามารถ: จอมเวททั่วไปที่ต้องใช้ "คทา" หรือ "อัญมณีเวท" เป็นตัวกลางในการรวบรวมและชี้นำอนูเวท การควบคุมยังเป็นแบบจำกัดตามขีดความสามารถของเครื่องมือและคาถาที่ใช้
    • ตัวอย่าง: ร่ายคาถาไฟโดยใช้คทาเพื่อเรียกเปลวไฟขนาดเล็ก หรือใช้คฑาน้ำเพื่อสร้างหยดน้ำเวทมนตร์
  2. การควบคุมอนูเวทโดยตรงเบื้องต้น (Basic Direct Anuwet Control) :
    • ความสามารถ: จอมเวทที่มีความเข้าใจในอนูเวทมากขึ้น สามารถเริ่มควบคุมอนูเวทได้โดยตรงในระดับที่ไม่ซับซ้อน เช่น การชี้นำกระแสอนูเวทให้เคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ต้องการ หรือการรวมกลุ่มอนูเวทให้มีความหนาแน่นขึ้นเล็กน้อย โดยไม่จำเป็นต้องใช้คาถาหรือคทาเสมอไป
    • ตัวอย่าง: ใช้มือเปล่าจุดเทียนด้วยอนูเวทไฟ หรือทำให้ใบไม้ลอยขึ้นเล็กน้อยด้วยอนูเวทลม
  3. การควบคุมอนูเวทได้ดั่งใจนึก (Instinctive Anuwet Control) :
    • ความสามารถ: จอมเวทที่มีความเข้าใจในอนูเวทอย่างลึกซึ้งถึงแก่นแท้ สามารถควบคุมอนูเวทได้ทันทีตามเจตจำนง โดยไม่ต้องผ่านการร่ายคาถาหรือใช้เครื่องมือใดๆ การควบคุมเป็นไปอย่างลื่นไหลและแม่นยำ สร้างสรรค์รูปแบบเวทมนตร์ที่ซับซ้อนได้ตามต้องการ
    • ตัวอย่าง: เสกกำแพงน้ำแข็งขึ้นมาในพริบตาเพื่อป้องกันการโจมตี หรือสร้างกระแสลมวนเพื่อโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง

ขั้นที่ 3: สลักอนูเวท (Anuwet Imbuement)

ระดับนี้คือการฝังอนูเวทลงในวัตถุให้คงอยู่ได้ ซึ่งต้องใช้ความแม่นยำและความเข้าใจอย่างมาก:

  1. การประจุอนูเวทชั่วคราว (Temporary Anuwet Imbuement) :
    • ความสามารถ: การประจุอนูเวทลงในวัตถุหรือบุคคลเพื่อให้มีคุณสมบัติเวทมนตร์ในระยะเวลาจำกัด ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการเพิ่มพลังชั่วคราว หรือสร้างผลกระทบที่อยู่ได้ไม่นาน
    • ตัวอย่าง: ประจุอนูเวทโจมตีลงในดาบเพื่อให้ดาบมีความร้อนขึ้นชั่วขณะ หรือประจุอนูเวทรักษาลงบนบาดแผลเพื่อให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นชั่วคราว
  2. การสลักอนูเวทถาวรเบื้องต้น (Basic Permanent Anuwet Engraving) :
    • ความสามารถ: การสลักอนูเวทลงในวัตถุเพื่อให้มีคุณสมบัติเวทมนตร์ถาวร แต่ในรูปแบบที่ไม่ซับซ้อนนัก หรือต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากในการทำ มักจะเป็นการสลักคุณสมบัติเดียว
    • ตัวอย่าง: สร้างดาบที่เปล่งแสงได้ตลอดเวลา หรือแหวนที่ช่วยเพิ่มการป้องกันเล็กน้อยอย่างถาวร
  3. การสลักอนูเวทซับซ้อน/หลายคุณสมบัติ (Complex/Multi-Property Anuwet Imbuement) :
    • ความสามารถ: การสลักอนูเวทลงในวัตถุด้วยความแม่นยำสูง ทำให้วัตถุนั้นมีคุณสมบัติเวทมนตร์ที่ซับซ้อน หรือมีหลายคุณสมบัติพร้อมกัน ผู้ใช้สามารถกำหนดเงื่อนไขการทำงานของอนูเวทที่สลักไว้ได้
    • ตัวอย่าง: สร้างเกราะที่สามารถต้านทานได้ทั้งไฟและน้ำ หรือเครื่องรางที่ช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตและมานาพร้อมกัน

ขั้นที่ 4: แปรผันอนูเวท (Anuwet Transmutation)

นี่คือการเปลี่ยนแปลงแก่นแท้ของอนูเวท ซึ่งเป็นขีดสุดของความเข้าใจและการควบคุม:

  1. การปรับเปลี่ยนคุณสมบัติย่อย (Minor Property Adjustment) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถปรับเปลี่ยนคุณสมบัติเล็กๆ น้อยๆ ของอนูเวทได้ เช่น ทำให้อนูเวทไฟมีความร้อนสูงขึ้น หรือลดอุณหภูมิลงเล็กน้อย หรือเพิ่มแรงดันของอนูเวทน้ำ
    • ตัวอย่าง: เสกบอลไฟที่ร้อนแรงกว่าปกติ หรือสร้างกระแสน้ำแข็งที่กัดกร่อนได้เล็กน้อย
  2. การเปลี่ยนแปลงประเภทอนูเวท (Anuwet Type Transmutation) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถเปลี่ยนอนูเวทจากประเภทหนึ่งไปอีกประเภทหนึ่งได้ เช่น เปลี่ยนอนูเวทธาตุไฟให้เป็นอนูเวทธาตุน้ำ หรือเปลี่ยนอนูเวทบริสุทธิ์ให้เป็นอนูเวทแห่งความมืด
    • ตัวอย่าง: สามารถดูดซับพลังงานไฟจากสิ่งแวดล้อมแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานน้ำเพื่อใช้โจมตี หรือแปลงพลังงานแสงให้เป็นพลังงานเงา
  3. การสร้างสรรค์อนูเวทรูปแบบใหม่ (Anuwet Genesis/Recreation) :
    • ความสามารถ: จอมเวทสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานของอนูเวทเพื่อสร้างอนูเวทประเภทใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน หรือสามารถหลอมรวมอนูเวทหลายประเภทเข้าด้วยกันเพื่อสร้างคุณสมบัติที่ไม่เคยเกิดขึ้น
    • ตัวอย่าง: ผสมผสานอนูเวทไฟกับอนูเวทลมเพื่อสร้าง "อนูเวทพายุเพลิง" ที่มีคุณสมบัติทั้งสอง หรือสร้างอนูเวทแห่ง "มิติ" ที่สามารถเปิดประตูมิติขนาดเล็กได้

 

สารบัญ

ประกายจากพฤกษา-บทที่ 1 สงคราม,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 2 พฤกษาผู้พิทักษ์,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 3 จุดเริ่มต้น,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 4 ความสิ้นหวัง,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 5 ความโดดเดี่ยว,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 6 ความลึกลับของป่าไม้,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 7 แสงรุ่งอรุณ,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 8 กลับบ้าน,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 9 เพื่อนเก่า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 10 การฝึกของเอลล่า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 11 ความเหนื่อยยาก,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 12 ความเหนื่อยยาก 2,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 13 ฉันสู้เพื่ออนาคต,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 14 เข้ามา,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 15 การจากลา,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 16 โลกอันกว้าใหญ่,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 17 เอาตัวรอด,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 18 คนแปลกหน้า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 19 ไม่นะ,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 20 การตัดสินใจของเอลล่า,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 21 การหลบหนี,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 22 หลังเอาชีวิตรอด,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 23 ผลโลหิต,ประกายจากพฤกษา-บทที่ 24 ความเจ็บปวด

เนื้อหา

บทที่ 10 การฝึกของเอลล่า

เธอมองเด็กสาวคนนั้นด้วยสายตาลึกล้ำ แล้วหันกลับมาทางคาลอส "นี่นายไม่คิดจะเชิญฉันเข้าบ้านหน่อยเหรอ"

คาลอส ทำท่ากระอึกกระอ่วน "เข้ามาสิ" เขาพูดเสียงแผ่ว เธอค่อยๆ เดินผ่านคาลอสไปนั่งบนเก้าอี้อย่างสบายใจ "พวกนายสองคนจะไปไหนกัน ด้วยสภาพแบบนี้เนี่ยนะ" เธอหัวเราะ

"คือพวกเราจะไปหาอะไรทานน่ะ พวกเรายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย" คาลอสตอบพลางมองไปที่เอลล่า

"นายจะไปสภาพนี้จริง ๆ เหรอ" เธอมองเอลล่าแล้วพูด "ดูสภาพเธอสิ เหมือนหมูเปื้อนโคลน พวกนายมายืนตรงนี้สิ"เธอสั่ง พวกเขาค่อยๆ เดินมาหยุดตรงหน้าเธอด้วยอาการมึนงง "เธอจะทำอะไรน่ะ" คาลอสถามอย่างไม่แน่ใจ ทันใดนั้นเอง 

ลูน่า ก็ยกมือขึ้นอย่างแผ่วเบา แสงสว่างจ้าสาดส่องไปทั่วห้อง คาลอสและเอลล่ารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย ความเหนื่อยล้าหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่ เมื่อพวกเขาลืมตาขึ้น ก็สังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ได้เปลี่ยนไปแล้ว 

เอลล่าประหลาดใจมากที่ความเหนื่อยล้าหายไปราวกับเสื้อผ้าที่เปื้อนโคลนแล้วถูกฝนตกใส่ คาลอสหันไปมองลูน่าด้วยความสงสัย "นี่เธอแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีกเหรอเนี่ย"

ลูน่าพูดอย่างภาคภูมิใจ "แน่นอนสิ ก็ต้องแข็งแกร่งขึ้นอยู่แล้ว ใครจะเหมือนนายล่ะ ผ่านไปกี่ปีก็ยังเหมือนเดิม"

คาลอสถอนหายใจ "เฮ้อ..."

เอลล่ามองไปที่คาลอสด้วยความสงสัย "เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?"

คาลอสตอบ "เวทมนตร์น่ะ"

"เวทมนตร์เหรอคะ?" เอลล่าถามด้วยอาการงุนงง

"ใช่แล้วล่ะ มันคือเวทมนตร์ชำระล้าง" ลูน่าอธิบาย

"เอลล่าพึมพำเสียงแผ่วเบา 'เวทมนตร์ชำระล้าง' คาลอสถามอย่างสงสัย 'เวทมนตร์นี้เห็นว่ามีแค่นักบวชใช้ได้ไม่ใช่เหรอ เธอไปเอาเวทมนตร์นี้มายังไง?' ลูน่ายิ้มอย่างได้ใจ 'อัจฉริยะอย่างฉัน ต้องทำความเข้าใจเองอยู่แล้วสิ' คาลอสมองเธออย่างจับผิด 'เธอไปขโมยมาจากโบสถ์ใช่ไหม?' 'บ้า! ใครจะไปที่แบบนั้นกัน มีแต่พวกเสียสติ'"

"ก็จริงของเธอ เธอค่อยๆ นำอาหารออกจากแวนของเธอ แล้ววางไว้บนโต๊ะ คาลอสและเอลล่าจ้องมองด้วยดวงตาเปล่งประกาย 'กินสิ จะยืนบื้ออะไรอยู่ตรงนั้น'  'พวกเรากินได้ใช่ไหม เอลล่าถาม?' ลูน่ามองไปที่เอลล่าแล้วตอบอย่างใจดี 'ได้สิ มาๆ กินได้แล้ว'" 

พวกเขาค่อยๆ เดินมานั่งบนเก้าอี้แล้วมองไปที่ลูน่าอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ลูน่าเอ่ยขึ้นอย่างใจดีว่า "กินได้แล้ว จะมองอะไรนักหนา" จากนั้นพวกเขาก็เริ่มกินอาหารอย่างหิวโหยมานานหลายวัน บนโต๊ะมีอาหารมากมายวางเรียงราย ไม่ว่าจะเป็นไก่ย่างเครื่องเทศ หนังกรอบสีทองส่งกลิ่นหอมชวนหิว ซุปข้นเนื้อร้อนๆ ในชามดินเผา ขนมปังโฮลวีทเนื้อแน่น เสิร์ฟพร้อมเนยแข็งก้อนโต และยังมีแอปเปิ้ลอบเชยหวานฉ่ำวางอยู่ข้างๆ

คาลอสถามขึ้นด้วยความสงสัย "แวนที่เธอใส่อยู่นี่... เป็นแวนเวทมนตร์มิติใช่ไหม?"

ลูน่าหันไปมองคาลอส พลางตอบอย่างภาคภูมิใจ "ใช่"

คาลอสพยักหน้าช้าๆ แล้วว่า "ได้ยินมาว่าราคามันไม่ธรรมดาเลยนะ... ของแบบนี้หายากมากด้วย"

ลูน่าเสริมขึ้นมาว่า "มีคนให้มานะ"

ลูน่าเปลี่ยนเรื่อง ไหนลองเล่าเรื่องที่พวกนายไปเจอมาให้ฟังหน่อย 

คาลอสชะงักงัน ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่เขาเผชิญให้ลูน่าฟัง เธอตั้งใจฟังเรื่องที่ทีมของเขาเจออะไรมาบ้าง และไปพบเอลล่าได้อย่างไร แต่เขากลับไม่ได้เล่าเรื่องที่เขากับเอลล่าไปพบต้นไม้พฤกษาผู้พิทักษ์

เมื่อคาลอสเล่าเรื่องราวจบ เขาก็ถอนหายใจออกมา ลูน่ามองสีหน้าของเขาด้วยความเข้าใจ แต่เรื่องราวที่เขาเล่ามานั้นกลับขาดหายไปบางส่วนแต่เธอเข้าใจ ทุกคนล้วนมีความลับเป็นของตนเองแม้แต่กระทั่งเธอ

"แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละ" คาลอสถามอย่างสงสัย

"ก็เห็นว่าพวกนายไปล่าสัตว์เวทมนตร์ในป่านั่นแล้วไม่ออกมาสักที ฉันเลยมาตามหานายที่นี่"

"แล้วเธอรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่?"

"ก็พอคาดเดาได้ว่านายจะอยู่ที่นี่ เพราะเมืองรอบ ๆ มีแค่เมืองนี้ที่ใกล้ป่านั้นมากที่สุด ถ้านายหนีมาก็คงมาที่นี่"

"เธอพอรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพวกที่ใส่ชุดเกราะพวกนั้นไหม ทำไมพวกนั้นถึงต้องมาทำลายผืนป่าด้วย?" คาร์ลอสถาม

"นายถามถึงพวกคนเหล่านั้นเหรอ? ฉันก็ไม่รู้เรื่องมากเท่าไร" ลูน่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ฉันได้ยินผู้คนในเมืองพูดกันว่าพวกนั้นมาจากจักรวรรดิเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์แห่งแอสทราเลียน่ะ"

"แล้วพวกนั้นมาทำไม?" คาร์ลอสถามอย่างสงสัย

"ไม่รู้สิ... ได้ยินมาว่าพวกนั้นทำสงครามกับสัตว์เวทมนตร์อยู่ ไม่รู้ทำไมถึงทำสงครามกัน

"แล้วนายจะเอาอย่างไรกับนางหนูนี่ล่ะ?"

คาร์ลอสมองไปที่เอลล่า ซึ่งมองตอบกลับมาด้วยดวงตาเศร้าสร้อย

คาร์ลอสลังเลสักพัก ทันใดนั้นดวงตาเขาก็มุ่งมั่นขึ้นมา เขาพูดกับเอลล่าว่า...

"เธอจะเอาอย่างไรต่อ" คาร์ลอสถามเธออย่างนิ่งขรึม

"หนูอยากจะแข็งแกร่งขึ้น

ลูน่ามองเอลล่าครู่หนึ่ง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความนัย ก่อนจะหันมามองคาลอส "แล้วนายล่ะ คิดจะทำยังไงกับเด็กคนนี้?"

คาลอสเงียบไปชั่วขณะ เขาครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่พวกเขาเผชิญ ทั้งเรื่องที่ทีมของเขาหายไป การปรากฏตัวของพวกอัศวินชุดเกราะ และการที่เอลล่าต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น ท้ายที่สุด เขาก็ตอบลูน่าด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "ฉันจะสอนเธอเอง"

ลูน่าเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "นายแน่ใจนะว่าทำได้? การฝึกเด็กคนหนึ่งให้แข็งแกร่งขึ้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กที่ยังไม่รู้อะไรเลยแบบนี้"

"ฉันรู้" คาลอสตอบ "แต่นี่คือสิ่งที่ฉันต้องทำ เธอเป็นเด็กที่รอดชีวิตมาได้จากเหตุการณ์ครั้งนั้น และถ้าเธอต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น ฉันก็จะช่วยเธอ"

เอลล่าเงยหน้ามองคาลอสด้วยแววตาเป็นประกาย ความมุ่งมั่นในดวงตาของเธอทำให้คาลอสรู้สึกว่าเขาตัดสินใจถูกต้องแล้ว

"ดี" ลูน่าพูด "ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้โชคดีแล้วกัน" เธอเอื้อมมือไปหยิบแอปเปิ้ลอบเชยขึ้นมากัดอย่างสบายใจ

แล้วคาลอสจะเริ่มต้นการฝึกเอลล่าอย่างไร? การเดินทางของพวกเขาจะพาไปสู่การผจญภัยแบบไหนกัน?