อารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
ไซไฟ,sci-fic,ไซไฟ,ยูริ,yuri,อนาคต,หุ่นยนต์,สัตว์ประหลาด,ไคจู,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาวอารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
แม้พวกอสูรจะพ่ายแพ้กลับไป ทว่าอารยธรรมของมนุษย์ทั้งหมดก็ถูกทำลาย เหล่าผู้รอดชีวิตอาศัยอยู่ในกลุ่มเล็กๆ กระจัดกระจายกันอยู่ไม่กี่สิบกลุ่มทั่วโลก
แมรี่ เด็กสาวจากกลุ่มอื่นที่เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน เธอถูกอสูรไล่ล่า ดีที่ได้ เจนนิเฟอร์ ยัยเนิร์ดบ้าเครื่องจักรขับหุ่นยนต์มาช่วยไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการต่อสู้และความรักของทั้งสอง
นิยายเรื่องใหม่ของราชาวาฬ ลงวันเว้นวันตอนหกโมงเย็น!
[คุณโอวี่ คุณเคยบอกว่าเลวีอาธานเป็นอสูรเจ้าเล่ห์ เป็นคนวางกลยุทธ์ของฝ่ายนั้น แต่การที่เขามาสู้กับคุณตรงๆ นี่มันไม่ดูสมกับเป็นเขาเท่าไหร่เลยนะคะ] เจนส่งข้อความไปหาโอวี่ในระหว่างทางเพราะพวกเราเริ่มจะเงียบกันมานานเกินไป
[ก็จริง แต่ฉันพอจะเข้าใจเจ้านั่นอยู่… คือมันอยากจะจบการต่อสู้ระหว่างเราสองคนเสียทีน่ะ] ข้อความที่คุณโอวี่ส่งกลับมาไม่ยาวนัก แต่เจ้าตัวก็เงียบไปนาน อาจจะนึกถึงความทรงจำที่ยาวนานนั้นก็ได้ [ฉันกับเจ้านั่นต่อสู้กันมานับครั้งไม่ถ้วน เพื่อนๆ ของเราถูกพวกมันฆ่าไปเยอะก็จริง แต่ฝ่ายเราก็ฆ่าพวกมันเยอะเหมือนกัน ถ้าจะบอกว่าฉันแค้นมัน มันก็คงแค้นฉันไม่น้อย ซาริเอลเพื่อนรักของมันก็จบชีวิตลงด้วยฝีมือฉัน]
เขายังส่งข้อความต่อไปว่า [ที่พวกเราออกเดินทางกันมันก็รู้ พลังควบคุมของมันมีไปถึงอสูรใต้คำสั่งมันทั้งหมด แต่มันเลือกที่จะนัดฉันออกมาสู้กันตรงๆ ที่นี่ สำหรับมัน ก็คงถึงขีดสุดแล้วเหมือนกัน]
หลังจากนั้นพวกเราเดินทางต่อไปเงียบๆ จนเจนนิเฟอร์เกิดสงสัยขึ้นมาอีก แล้วส่งข้อความ
[คุณโอวี่ แล้วคนขับ 02 ล่ะคะ เห็นบอกว่า 02 พาพวกคุณไดแอนน์ไปที่แหลมคะแนเวอรัล แต่ไม่เห็นเคยพูดถึงคนขับหุ่น 02 เลย จะว่าเป็นสามีคุณไดแอนน์ก็น่าจะอายุห่างกันเกินไป]
[...]
[แอสทริดตายไปก่อนหน้านั้นแล้ว เธอต่อสู้กับซาริเอล มันเป็นศึกความเร็ว… แต่เธอก็เพลี่ยงพล้ำถูกแทงเข้าที่ค็อกพิทสิ้นใจทันที ฉันมาถึงสนามรบไม่ทัน แต่เพราะอย่างนั้นฉันถึงตั้งปณิธานว่าต้องจัดการซาริเอลให้ได้]
[ขอโทษด้วยนะคะที่ถาม]
[ไม่เป็นไร สงครามก็เป็นอย่างนั้น มีแต่ความสูญเสีย ยังดีที่ 02 ไม่เสียหายมากนัก ฉันเลยสั่งการมันให้พาไดแอนน์ไปที่แหลมคะแนเวอรัลได้]
[มีเหตุผลไหมคะว่าทำไมต้องเป็นที่นั่น]
เอ เหมือนมีใครเคยบอกว่าเพราะไดแอนน์อยากเป็นนักบินอวกาศไม่ใช่เหรอ
[เดี๋ยวเธอไปถามเอากับเจ้าตัวเลยก็แล้วกัน]
[เอ๊ะ]
[ดูไปรอบๆ สิ เจนนิเฟอร์]
ด้วยความที่เจนอยู่ในรถบรรทุก ฉันเลยไม่รู้ว่าเธอได้เงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอแล้วดูวิวเหมือนกับฉันไหม แต่เมื่อฉันมองออกไปนอกค็อกพิทของสปาร์ก ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเรามาถึงแหลมคะแนเวอรัลแล้ว มันเป็นยามค่ำคืนที่มีดวงดาวเปี่ยมท้องฟ้า แม้ดวงจันทร์จะยังคงอยู่เกือบเต็มดวงเพราะเพิ่งผ่านคืนเดือนเพ็ญ แต่แสงจันทร์ก็ไม่อาจกลบแสงดาวที่มีมากมายขนาดนั้นได้ มันช่างสวยงามเหลือเกิน ถ้าพวกเราได้มาที่นี่ในตอนที่โลกสงบสุขแล้วจะมีความสุขมากขนาดไหนนะ ฉันนึกภาพเจนนิเฟอร์ อาจารย์ทาคุมิ คุณไวท์ ทุกๆ คน แม้แต่โอวี่ มาร่วมชมดาวด้วยกันที่นี่โดยที่ไม่มีความกังวลอะไรอีกแล้ว ทุกคนคงจะมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แม้แต่โอวี่ หน้าจอของเขาก็ต้องขึ้นรอยยิ้มด้วย
พวกเราค่อยๆ เดินผ่านอาคารที่เป็นศูนย์อวกาศและฐานปล่อยจรวดเก่า ยังมีเศษซากอาคารและจรวดเก่า รวมถึงยานพาหนะและอุปกรณ์แปลกๆ อีกมากมายที่ถูกทิ้งร้างไว้ คุณโอวี่บอกว่าที่นี่เก่ากว่ายุคของเขา แต่อาคารพวกนั้นก็ยังคงสภาพได้ดีกว่าของสมัยใหม่ซะอีก แต่คนสมัยนั้นก็อาจจะจงใจสร้างที่นี่ให้แข็งแรงกว่าที่อื่นๆ เพราะต้องใช้เดินทางไปยังอวกาศก็ได้ จะว่าไปเบาะแสของคุณไดแอนน์ก็มีแค่คำพูดของเนสก้า แหลมนี่ก็กว้างมากซะด้วย มันไม่มีพิกัดที่ชัดเจนเลย ไม่รู้ว่าต้องเดินตามหาไปถึงเมื่อไหร่
[ทางนั้นค่ะ] ปากของฉันขยับไปเองเมื่อเห็นร่างของเด็กผู้หญิงใส่ชุดกระโปรงสายเดี่ยวที่คุ้นเคย เนสก้ายิ้มบางๆ ให้กับฉันก่อนวิ่งนำไป สปาร์กตามเธอไปเรื่อยๆ คนที่เหลือไม่ได้ตั้งคำถามอะไรฉันเลยแม้ว่าพวกเขาคงจะมองไม่เห็นเนสก้าอย่างที่ฉันเห็น พวกเขาเชื่อที่ฉันพูดว่ามีแต่ฉันที่มองเห็นเธออยู่คนเดียว และเนสก้ามีอยู่จริง
ฉันยังกังวลเรื่องโอวี่กับเนสก้าก็เลยหันไปมองที่รถบรรทุก หุ่นโดรนไม่ได้อยู่ในร่างพร้อมรบ ร่างต่อสู้ของเขามีประสิทธิภาพสูงมากแต่ใช้งานไม่ได้นาน ตอนนี้เขากลายเป็นหุ่นร่างเล็กที่อยู่ในรถบรรทุกกับทาคุมิและเจนนิเฟอร์ มีแต่ฉันกับคุณไวท์ที่อยู่ในหุ่นเพื่อรักษาความปลอดภัย บางทีฉันก็อยากไปอยู่ในรถนั่นเหมือนกันนะ ถึงเวลาคุยกันเจนจะพยายามใช้เป็นการแชทเพื่อให้ฉันไม่เหงาเกินไปก็เถอะ
[ถึงแล้วค่ะ] ถึงไม่ต้องบอกอย่างนี้ทุกคนก็รู้ได้เองอยู่ดี เมื่อเนสก้าพาพวกเรามาหยุดยืนอยู่หน้าหุ่นยนต์ยักษ์ตัวหนึ่งที่ไหล่ของมันมีตัวอักษรความหวัง และ Protector 02 หุ่นยนต์ที่พวกเราตามหามานานยืนนิ่งอย่างสงบท่ามกลางแสงจันทร์และแสงดาวเหมือนกับว่ามันรอคอยพวกเราอยู่ที่นี่ รูปร่างของมันคล้ายกับสปาร์กแต่ดูเพรียวบางกว่ามาก และมีทรัสเตอร์เล็กๆ ติดตั้งอยู่ทั่วร่างกาย คงเป็นเพราะเน้นไปที่ความเร็ว
เจนนิเฟอร์ เธอใกล้จะได้เจอแม่แล้วนะ
ที่ข้างๆ หุ่น 02 เป็นสิ่งก่อสร้างประหลาดที่ดูคล้ายกับลูกบอลโลหะที่เจาะช่องเป็นประตูและหน้าต่าง น่าจะเป็นที่พักของคุณไดแอนน์ ฉันกับคุณไวท์หันไปรอบๆ เผื่อว่าจะมีอสูรหรืออันตราย แต่เมื่อไม่มีอะไร พวกเราก็เตรียมที่จะลงจากหุ่นยนต์
แต่ว่าคุณไวท์ก็เอ่ยหยุดเราไว้ [เดี๋ยวก่อนครับ]
แคร่ก
มีบางสิ่งอยู่ข้างๆ ขาของพวกเรา มันคือวัตถุหน้าตาประหลาดสีแดงที่มีสิ่งที่ดูคล้ายกับขาแมงมุมยื่นออกมา บางส่วนเจาะทะลุเข้าไปในขาของสปาร์ก ส่วนที่เหลือยื่นยาวออกมาปักกับพื้นดิน
[คุณไวท์คะ]
[ศัตรูครับ]
ฉันเอื้อมมือไปกดสวิตช์เปิด HOPE System หันไปรอบๆ ไม่เห็นใคร แต่ว่าอาวุธเล็กแค่นี้ แค่ดึงออก…
“อ๊ากกกกก”
ฉันต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลไปทั่วร่างเมื่อมือของสปาร์กสัมผัสกับสิ่งนั้น ระดับพลังงานของสปาร์กลดลงอย่างรวดเร็ว นี่มันอะไรกัน
[ไปจับมันไม่ได้ครับ มีไฟฟ้าช็อต]
[เตือนช้าไปนะคะ] ฉันตอบผ่านวิทยุเพื่อให้เขาได้ยินว่าฉันไม่ได้อารมณ์เสีย แต่ว่าศัตรูอยู่ที่ไหนกัน หน้าจอของสปาร์กไม่แสดงว่าตรวจพบอะไรเลย
เปรี้ยง
จู่ๆ หุ่นยนต์ปิศาจที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันก็เหวี่ยงหมัดมหึมาเข้าใส่ค็อทพิท ฉันเอาแขนขึ้นมากันได้ทัน มันยังโจมตีเข้ามาไม่หยุด ในขณะที่ฉันได้แต่ตั้งรับเพราะขาขยับไม่ได้
ไอน้ำแข็งปรากฏขึ้นรอบหุ่นของควาเม คุณไวท์กำลังยิงคลื่นความเย็นเข้าใส่มัน ฉันเอื้อมมือไปหยิบไรเฟิลที่หลัง รอให้ 01 โดนแช่แข็งแล้วจะยิงซ้ำ
[ผมรู้หมดแหละคุณคิดอะไร]
หุ่นยนต์สีดำหายไปจากตรงนั้นทันทีแล้วไปปรากฏตัวที่เบื้องหน้าเป็บเปอร์ ใช้พละกำลังที่เหนือกว่าแย่งปืนน้ำแข็งมาแล้วโยนไปไกล
[ฮิกังบานะ มันถูกโทษว่าเป็นดอกไม้แห่งความตาย แต่วันนี้ ผมจะให้มันเป็นดอกไม้แห่งความตายที่แท้จริง]
พูดอะไรเนี่ย ฮิกังบานะไหน
อ๋อ ไอ้แมงมุมเนี่ยนะ ดูไปบางมุมก็เหมือนแฮะ อาวุธใหม่ของมันเรอะ
ช่องเก็บบนร่างของมันเปิดออกแล้วปล่อยดอกฮิกังบานะเพิ่มขึ้นอีก มันเกาะเข้าที่แขนสองข้างของสปาร์ก เป็บเปอร์ก็มีสภาพไม่ต่างกัน
[ไปโทษปีเตอร์ที่โลกหลังความตายละกันครับคุณแมรี่!]
หมัดมหึมาของมันต่อยเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้ฉันไม่มีแขนที่จะปกป้องการโจมตีได้แล้ว
[ไม่ให้ทำได้หรอก!]
[คุณโอวี่!]
หุ่นโดรนสีขาวประกอบร่างอีกครั้งแล้วปัดการโจมตีนั้นออกไป เขาเข้าต่อสู้กับควาเมอย่างดุเดือด แต่ควาเมไม่ได้ใช้ฮิกังบานะโจมตีอีก หรือว่ามันจะมีจำนวนจำกัด
[แมรี่ ใช้แดนดิไลออน] เจนส่งข้อความมาเตือนสติฉันที่กำลังดูการต่อสู้จนตาค้าง พอกดปุ่มปล่อยแดนดิไลออนออกมา พลังงานของสปาร์กก็ลดลงเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม ฉันต้องรีบใช้งานมันให้เร็วที่สุด แต่หุ่นสองตัวนั้นก็เคลื่อนที่เร็วเกินกว่าที่จะล็อกเป้าได้ทันที
ฮึ่ม ล็อกเป้าไม่ได้ซะที
โอวี่ถูกหุ่น 01 ที่มีแขนของ 04 ต่อยจนกระเด็นไปกระแทกต้นไม้ใหญ่ แขนขวาของเขาใช้การไม่ได้แล้ว มันมีประกายไฟแลบออกมา หุ่นโดรนพยายามพุ่งเข้าต่อกรอีกครั้ง แต่เมื่อร่างกายไม่สมบูรณ์ เขาก็เริ่มตกเป็นรอง จะว่าไปปืนใหญ่ที่เป็นท่าไม้ตายต้องใช้แขนสองข้างประกบกันด้วยนี่นะ
ถ้าอย่างนั้นฉันต้องรีบยิงแดนดิไลออนให้ได้
ยิ่งคิดว่าต้องรีบ ยิ่งทำได้ช้า มือก็สั่นจนเริ่มหงุดหงิด หรือว่าเราจะกดยิงไปมั่วๆ เลยตอนนี้
“ใจเย็นๆ ค่ะคุณแมรี่ คุณต้องทำได้”
เนสก้าปรากฏตัวขึ้นข้างฉันในห้องโดยสาร ใช้มือเล็กๆ ของเธอจับแขนของฉันไว้ น่าประหลาดที่ฉันรู้สึกว่าจิตใจมั่นคงขึ้น
ยิงเลย!
เข็มนับพันพุ่งเข้าใส่หุ่นของควาเม มันเจาะเข้าไปได้ทุกส่วนแม้แต่แขนของ 04 ที่แข็งแกร่งที่สุด แน่นอน กระจกค็อกพิทก็ถูกเข็มนี้ทำลายจนสิ้น ฉันมองเห็นร่างกายของเขาที่นั่งอยู่ในนั้น มันถูกเข็มของแดนดิไลออนเจาะหลายส่วน เลือดไหลซึมออกมาทั่วร่าง แต่สิ่งที่ฉันได้เห็นกลับเป็นรอยยิ้ม
[แค่นี้มันทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับคุณแมรี่] ควาเมปิดหน้าหัวเราะเหมือนคนคลุ้มคลั่ง ฉันต้องรีบใช้กลีบแดนดิไลออนจัดการ
เอ๊ะ
พลังงานของสปาร์กยังไม่หมด แต่ฉันกดปุ่มสั่งแดนดิไลออนไม่ได้ นิ้วของฉันได้แต่อยู่เหนือปุ่ม แต่ฉันกดมันไม่ได้
จริงสินะ ฉันไม่เคยฆ่าคน
[แมรี่ เป็นอะไรไป] โอวี่ส่งข้อความมา เขาคงประหลาดใจที่เห็นฉันชะงัก
พลังงานของสปาร์กหมดลงแล้ว แดนดิไลออนทั้งหมดร่วงลงสู่พื้นดิน ฉันไร้การป้องกัน ถูกตรึงไว้อยู่กับที่ ควาเมย่างสามขุมเข้ามา แม้โอวี่จะพยายามเข้าขัดขวางก็ไม่เป็นผล
“หยุดนะ!” เสียงตะโกนลั่นดังขึ้น เนสก้าออกไปจากห้องโดยสารแล้วไปยืนขวางไว้
“เนสก้าหลบไป!” ฉันตะโกนลั่น ตอนนั้นฉันลืมไปจริงๆ ว่าเธอเป็นอสูร
“เนซึโกะ…” ควาเมพึมพำ แววตาของเขาประหลาดใจเมื่อได้เห็นร่างตรงหน้า
เนซึโกะงั้นเหรอ แต่เนซึโกะตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ หรือว่าเป็นภาพหลอนของคนใกล้ตาย
“ไม่… แกไม่ใช่เนซึโกะ แกมันตัวปลอม ไอ้อสูรเลว!” 01 ขยับอีกครั้ง มันเปลี่ยนเป้าหมายเป็นเนสก้า เด็กหญิงมองไปที่คนตรงหน้าอย่างแน่วแน่ ฉับพลันก็มีแสงสว่างวาบขึ้น และเมื่อมันจางลงก็ไม่มีร่างของเด็กหญิงใส่กระโปรงสีขาวอีกต่อไป
มีเพียงอสูรสาวร่างยักษ์ที่ยืนขวางกั้นระหว่างฉันกับมัน!