อารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
ไซไฟ,sci-fic,ไซไฟ,ยูริ,yuri,อนาคต,หุ่นยนต์,สัตว์ประหลาด,ไคจู,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาวอารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
แม้พวกอสูรจะพ่ายแพ้กลับไป ทว่าอารยธรรมของมนุษย์ทั้งหมดก็ถูกทำลาย เหล่าผู้รอดชีวิตอาศัยอยู่ในกลุ่มเล็กๆ กระจัดกระจายกันอยู่ไม่กี่สิบกลุ่มทั่วโลก
แมรี่ เด็กสาวจากกลุ่มอื่นที่เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน เธอถูกอสูรไล่ล่า ดีที่ได้ เจนนิเฟอร์ ยัยเนิร์ดบ้าเครื่องจักรขับหุ่นยนต์มาช่วยไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการต่อสู้และความรักของทั้งสอง
นิยายเรื่องใหม่ของราชาวาฬ ลงวันเว้นวันตอนหกโมงเย็น!
เวลาผ่านมาจนค่ำ พวกเราเลยตัดสินใจเปิดห้องที่โรงแรมใกล้ๆ ตึกของโอวี่ ถึงเจ้าตัวจะบอกว่ามีที่ให้ไปพักได้ แต่ด้วยความเกรงใจบวกกับเห็นข้าวของมากมายทาคุมิก็เลยปฏิเสธ ปู่อาสาเดินมาส่งที่โรงแรมก่อนกลับบ้าน ฉันพยายามชวนคุยถึงดาวที่ปู่เคยอยู่ แต่แกบอกว่าเป็นแค่ดาวที่เป็นโรงงานให้หุ่นยนต์ทำงาน ไม่มีอะไรน่าสนใจ แล้วก็หันมาเทศนาพวกฉันเรื่องการรักษาสุขภาพต่อจนถึงโรงแรม
โรงแรมของกลุ่ม 30 แห่งนี้ไม่ได้หรูหราเป็นพิเศษ ถึงอย่างนั้นก็มีห้องพักที่สะอาดและมีสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐาน อย่างเครื่องปรับอากาศที่ฉันไม่ได้สัมผัสมานาน และยังมีอ่างอาบน้ำด้วย ถ้ามาที่นี่ในเวลาอื่น ฉันกับเจนคงจะตื่นเต้นกับมันมากกว่านี้ อาจารย์ทาคุมิให้ฉันไปชวนคุณเรดมาพักด้วย แต่เขาอาสานอนในหุ่น แม้พวกเราจะบอกว่าเปิดห้องแบบสตูดิโอ คือมีสองห้องนอนแยกชายหญิงแล้วก็ตาม
ทันทีที่ถึงห้อง ทุกคนโยนข้าวของส่วนตัวไว้ที่มุมห้องแล้วหาที่ส่วนตัวจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เจนนิเฟอร์เอารูปใบนั้นออกมาดูเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน แน่นอนว่าเราเล่าให้โอวี่ฟังว่ามีเบาะแสว่าเจนอาจจะเป็นหลานของปีเตอร์ แล้วขอที่อยู่ของไดแอนน์ โอวี่ก็ให้ได้เพียงที่อยู่ของบ้านเกิดปีเตอร์ เขาไม่แน่ใจว่าไดแอนน์จะยังคงอยู่ที่นั่นหรือไม่ และเมื่อพิจารณาจากจดหมายที่ถูกทิ้งไว้ที่หน้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไดแอนน์น่าจะมีความจำเป็นที่ต้องออกเดินทางด้วยซ้ำ ถึงอย่างนั้นเจนนิเฟอร์ก็ยืนยันว่าอยากจะขอไปดูที่บ้านเกิดของปีเตอร์สักครั้งหนึ่ง แต่คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้เพราะเรายังมีเรื่องที่ต้องทำที่กลุ่ม 16
ทาคุมิก็ยังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง นั่งเหม่ออยู่ที่มุมหนึ่งของเตียง ดูเขาจะค่อนข้างผิดหวังเมื่อมีแนวโน้มที่ควาเมจะเป็นคนร้ายและไปเข้ากับฝ่ายอสูร ทาคุมิกับควาเม… พวกเราเพียงรู้ว่าสองคนนี้รู้จักกันมานานแต่ไม่ค่อยพูดคุยกัน ไม่เคยรู้ว่าความสัมพันธ์ในอดีตของพวกเขาเป็นอย่างไร บางทีอาจจะลึกซึ้งกว่าที่คิดก็ได้
ส่วนฉันเอง แม้จะสบายใจขึ้นที่ได้รู้ว่าเนสก้ายังไม่ตายและก็ไม่ได้แค้นฉันอย่างที่เคยเข้าใจ แต่เพราะไม่มีใครอื่นเห็นเธอเลย ไม่แน่ว่าเนสก้าก็อาจจะเป็นภาพหลอนอีกอย่างหนึ่่งด้วยก็ได้ สิ่งที่น่าสงสัยอีกอย่างหนึ่งคือเขาอสูรที่หน้าอกของเธอที่งอกขึ้นมาใหม่ มันดูคล้ายกับเขาที่อยู่ตรงกลางหุ่นยนต์ของควาเมมาก แต่ถ้าเป็นเขาของเนสก้าจริง เพราะอะไรขนาดมันถึงใหญ่ขึ้นได้ขนาดนั้น หรือว่าร่างจริงของเธอจะมีขนาดใหญ่กัน ถ้าดูจากอสูรแบบอื่นทั้งงู ลิง อสูรเมือก หรืออสูรเต่าที่เราเคยได้เจอมา พวกนั้นมีร่างกายที่ใหญ่กว่ามนุษย์มาก ร่างอสูรของเนสก้าก็อาจจะใหญ่จริงๆ ก็ได้… ถ้าหากว่าเธอมีตัวตนน่ะนะ
ฉันถอนหายใจ เป็นตอนเดียวกับที่เจนเข้ามานอนหนุนตัก เธอไม่ได้พูดอะไร แต่กลับทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นอย่างประหลาด กลิ่นจากเรือนผมชวนให้ความรู้สึกอบอุ่น ฉันจึงเอื้อมมือมาลูบผมสีบลอนด์ที่สวยของเธอ แม้จะไม่ได้บำรุงมากแต่กลับเป็นเส้นผมที่มีสุขภาพดี แตกต่างกับฉันที่ต้องพยายามแทบตาย ฉันตระหนักถึงความรู้สึกบางอย่างที่มีต่อเธอคนนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่นานช่างเครื่องของฉันก็หลับไป เธอคงเหนื่อยมามาก ฉันเลยปล่อยให้เจนนอนอยู่ที่ตักต่ออีกสักพัก
“เจน ไปนอนที่เตียงได้แล้วมั้ง” ฉันพูด จะลูบผมของเธอต่ออีก แต่มีเพียงความว่างเปล่า “เจน!”
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอแมรี่” เรามานอนอยู่บนเตียงได้ยังไงกัน
“ฉันเห็นเธอหลับก็เลยอุ้มมานอนน่ะ ตัวเธอนี่เบามากเลย ต้องกินบำรุงเยอะๆ นะ”
“ฉันหลับไปเหรอ ไม่ใช่เธอที่หลับ”
“ก็หลับไปแป๊บนึงน่ะ ลืมตาขึ้นมาเห็นเธอสัปหงกอยู่ ก็เลยอุ้มมานอน เดี๋ยวจะเมื่อย” เจนยิ้มยิงฟัน แต่นั่นกลับทำให้ฉันรู้สึกเขินหน่อยๆ ที่ต้องให้เจนอุ้ม แต่ก็… แข็งแรงขนาดนี้เลยเหรอ เจนนิเฟอร์ “จะนอนต่อก็ได้นะ อีกตั้งนานกว่าจะเช้า” จริงด้วย เพิ่งจะตีสี่เท่านั้นเอง แต่ฉันตกใจตื่นเพราะนึกว่าเจนไม่อยู่… เธอมีความสำคัญกับฉันขนาดนั้นเลยเหรอ นั่นสินะ รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้จะขาดเธอไม่ได้เลย
“อือ เธอเองก็ต้องนอนนะ ช่วงซ่อมหุ่นเห็นว่าอดนอนหนักเลยไม่ใช่เหรอ”
“แหะๆ ได้เจ้าค่า ถ้างั้นดิฉันจะไปนอนล่ะนะคะ” ไม่ต้องมาทำเสียงล้อเลียนเลย
“อ้าว ทำไมไม่ไปนอนเตียงโน้นล่ะ มานอนเบียดกันทำไม”
“ก็มันหนาวนี่”
“หนาวก็ไปห่มผ้า นอนเบียดกันเดี๋ยวก็ตกเตียงหรอก”
“ถ้างั้นฉันเลื่อนเตียงมาชิดกันนะ”
“จะทำอะไรก็เชิญ ฉันจะนอนละ” ฉันซุกหน้าลงที่หมอน พยายามเก็บอาการ พยายามไม่นึกถึงจูบ… พอบอกว่าไม่นึกถึงก็นึกขึ้นมาซะอย่างนั้น… เดี๋ยวยัยนั่นก็ต้องมากอดแน่… ว่าแล้ว… อย่าไปสนๆ คืนนี้เราต้องนอนต่อให้ได้
“แมรี่น่ารักที่สุดเลย…” พอหัวถึงหมอน คนร่าเริงก็เหมือนโดนปิดสวิตช์ หลับไปทั้งๆ ที่ยังมีฉันอยู่ในอ้อมแขน ฉันลองหลับตาลง โอบรับความอบอุ่นนั้น ความรู้สึกสบายใจก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว สุดท้ายฉันก็หลับไปอีกครั้ง
…………..
[มีอสูรมุ่งหน้ามาทางนี้ ขอให้ประชาชนอยู่ในที่ปลอดภัย]
[มีอสูรมุ่งหน้ามาทางนี้ ขอให้ประชาชนอยู่ในที่ปลอดภัย]
เสียงประกาศดังก้องไปทั่วบริเวณ ทว่าดูเหมือนประชาชนของกลุ่มนี้จะไม่ต้องแตกตื่นพากันวิ่งไปที่บังเกอร์เหมือนกลุ่ม 16
“กลุ่ม 30 มีหน่วยรบหุ่นยนต์ที่แข็งแกร่งพอสมควร แม้จะไม่มี HOPE System” โอวี่เคยพูดอย่างนั้น “ถึงช่วงนี้อสูรจะบุกเข้ามามากขึ้นก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ที่ฉันพูดในพอดแคสต์ เป็นการพูดกว้างๆ ก็ทั่วโลกไม่มีความใส่ใจจะป้องกันอสูรกันจริงๆ เพียงแต่กลุ่ม 30 เป็นกลุ่มเมืองใหญ่ก็เลยมีการป้องกันที่ดีกว่ากลุ่มอื่นๆ เท่านั้น”
ถ้าอย่างนั้นถึงอสูรจะบุกก็พอจะวางใจได้หรือเปล่านะ ไม่ทันที่ฉันจะวางใจได้อย่างที่คิดก็มีข้อความเข้ามาจากโอวี่
[แมรี่ เจน ทาคุมิ อยู่หรือเปล่า ขับสปาร์กออกมาด่วน มีอสูรเทียร์สูงเข้ามา]
หา!
ฉันพลิกตัวกลับมาจะปลุกเจน แต่ช่างเครื่องผมบลอนด์ก็ลุกขึ้นแต่งตัวอยู่ก่อนแล้ว
“อาจารย์อยู่ห้องไปนะคะ เดี๋ยวพวกฉันจะไปกับคุณเรด” เจนตะโกนบอกอาจารย์ทาคุมิ ก่อนที่จะวิ่งเปิดประตูออกไปพร้อมกับฉัน สปาร์กจอดรออยู่ข้างล่าง มันอยู่ในสภาพพร้อมรบพอสมควร คุณเรดอยู่ในชิลลี่ ถือปืนรออยู่ก่อนแล้ว
[คุณเรด เดี๋ยวเราจะไปตามพิกัดที่โอวี่ให้มานะคะ น่าจะอยู่บนหน้าจอแล้วค่ะ] ฉันส่งข้อความไปแล้วขับสปาร์กรีบมุ่งหน้าไปยังพิกัดที่โอวี่ให้มาทันที ใช้เวลาพอสมควร มันค่อนข้างจะห่างจากที่พัก
ฉันเห็นภาพที่เหมือนมาจากเครื่องซิม มันมีอสูรงูและลิงหลายสิบตัว ตอนนี้ไม่ใช่ภารกิจง่ายๆ อย่างกำจัดให้ได้สิบตัวแล้ว แต่เราต้องกำจัดมันทั้งหมด
[งูกับลิงมากันมากขนาดนี้แสดงว่ามันถูกควบคุม และอสูรที่ควบคุมพวกมันได้ขนาดนี้ก็มีอยู่ไม่กี่ตัวหรอก] โอวี่ส่งข้อความมา
[คุณโอวี่อยู่ที่ไหน]
[หันมาทางขวาสิ]
ภาพที่ฉันได้เห็นคือโอวี่… เป็นหัวของร่างหุ่นยนต์ขนาดยักษ์สูงเท่ากับสปาร์ก! เขาอยู่กับกองทัพหุ่นยนต์ที่มีอยู่ประมาณ 15 ตัวของกลุ่ม 30
[เท่มาก! เหมือนในอนิเมะเลยค่ะ!] คนที่ส่งข้อความนี้คือเจนนะ ไม่ใช่ฉัน
เพราะอย่างนี้สินะโอวี่ถึงร่วมต่อสู้ได้ นอกจากความสามารถการควบคุมหุ่นยนต์ตัวอื่น
[ตอนนี้หุ่นยนต์ที่ไม่มี HOPE System ยังใช้การได้อยู่ ต้องรีบจัดการอสูรงูกับลิงให้มากที่สุด]
[แมรี่ เธอเปิด HOPE System รอเอาไว้เลย เดี๋ยวมันมาแน่]
จริงด้วย เพราะพวกอสูรเทียร์สูงจะปิดการทำงานหุ่นยนต์ได้
รู้ตัวอีกทีสปาร์ก โอวี่ ชิลลี่ และหุ่นยนต์ทุกตัวก็เข้าต่อสู้กับอสูรมากมายเพื่อปกป้องกลุ่ม 30 ถึงแม้พวกเราทุกคนจะเป็นพลขับหุ่นที่มีทักษะ แต่ก็ใช่ว่าจะกำจัดพวกมันได้ทุกตัวอย่างไร้รอยขีดข่วน มีหุ่นยนต์ที่ถูกทำลายเพิ่มอีกสามตัว และแม้แต่สปาร์กก็พลาดถูกโจมตีที่ท่อจ่ายพลังงาน ทำให้ขับเคลื่อนได้ไม่เต็มร้อย
ชั่วขณะนั้นเอง หุ่นยนต์ทั้งหมดนอกจากสปาร์กกับโอวี่ก็หยุดนิ่งเหมือนไฟฟ้าดับ มันมาแล้วสินะ
“หึ หึ หึ”
“หึ หึ หึ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ฉันหันไปรอบๆ แต่ไม่พบที่มาของเสียงหัวเราะที่แสนขนพองสยองเกล้า
“ออกมาสิ! ฉันรู้นะว่าเป็นแก เลวีอาธาน!” หุ่นยนต์สีขาวที่อยู่ข้างๆ ฉันตะโกน
ฉับพลันภาพที่ได้เห็นตรงหน้าก็สั่นไหวเหมือนโทรทัศน์เวลาที่มีสัญญาณผิดปกติ บางสิ่งค่อยๆ เปลี่ยนสภาพจากล่องหนเป็นโปร่งแสง และทึบแสงขึ้นเรื่อยๆ มันดูเหมือนกับตุ๊กตาไล่ฝนขนาดยักษ์ที่ทำจากผ้าขี้ริ้วสีเทาแก่ ใบหน้าของมันที่อยู่ภายในนั้นดำมืด มีเพียงดวงตาสีเขียวมหึมาที่เรืองแสง
“โอวี่ ยังมีชีวิตอยู่อีกเรอะ"