อารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
ไซไฟ,sci-fic,ไซไฟ,ยูริ,yuri,อนาคต,หุ่นยนต์,สัตว์ประหลาด,ไคจู,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาวอารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
แม้พวกอสูรจะพ่ายแพ้กลับไป ทว่าอารยธรรมของมนุษย์ทั้งหมดก็ถูกทำลาย เหล่าผู้รอดชีวิตอาศัยอยู่ในกลุ่มเล็กๆ กระจัดกระจายกันอยู่ไม่กี่สิบกลุ่มทั่วโลก
แมรี่ เด็กสาวจากกลุ่มอื่นที่เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน เธอถูกอสูรไล่ล่า ดีที่ได้ เจนนิเฟอร์ ยัยเนิร์ดบ้าเครื่องจักรขับหุ่นยนต์มาช่วยไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการต่อสู้และความรักของทั้งสอง
นิยายเรื่องใหม่ของราชาวาฬ ลงวันเว้นวันตอนหกโมงเย็น!
แม้อสูรสองตัวนั้นจะสิ้นใจไปแล้ว แต่ชาวกลุ่ม 22 ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป พวกเขาส่วนใหญ่ยังคงซ่อนตัวอยู่ในที่พักของตนเอง ก็คงไม่แปลก เพราะอสูรมันไม่ได้มีแค่สองตัวแต่มีมาบุกเรื่อยๆ พวกฉันเองก็ไม่ได้อยากจะไปเปลี่ยนวิถีของคนที่นี่ เลยรีบไปหาร้านค้า ซึ่งก็ไม่ได้หายากเท่าใดนักสำหรับกลุ่มเล็กๆ ที่มีร้านค้าอยู่เพียง 2-3 แห่ง ชุดว่ายน้ำที่มีขายที่นี่ไม่มีแบบให้เลือกมากนัก ฉันได้เป็นทูพีซที่มีลูกไม้ ส่วนเจนเป็นบิกินี่เรียบๆ สีขาว บอกตรงๆ ฉันแทบจะรอให้ถึงที่ชายหาดไม่ไหว นอกจากชุดว่ายน้ำ สินค้าที่พวกเราซื้อก็เป็นพวกขนมกับอาหารแห้ง ทาคุมิกับคุณไวท์ซื้อเบียร์ไปคนละนิดหน่อย ทาคุมิบอกว่าถ้าชายหาดดูดีก็อาจจะกางเต็นท์ที่นั่น จะได้มีบรรยากาศดีด้วย
ฉันมองดูทุกคนทั้งเจน ทาคุมิ และคุณไวท์ ทุกคนต่างมีความเศร้าซุกซ่อนอยู่ในใจ แต่ก็พยายามจะใช้ชีวิตในแต่ละวันให้มีความสุขที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนหน้านี้ฉันเองก็เคยจมอยู่กับความเศร้าในอดีต แต่เมื่อมารู้จักกับทุกๆ คน โดยเฉพาะเจน ก็ดูเหมือนว่าบาดแผลนั้นจะเยียวยาขึ้นมาได้ แน่นอน เนสก้า เธอก็ด้วย ฉันหวังว่าเธอก็จะสามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เช่นกันนะเนสก้า
ฉันนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเนสก้า โอวี่บอกว่าเนสก้าหายตัวไปหลังจากที่ขุนพลอสูรถูกสังหารไปสองตัว เธออาจจะกลัว แต่ถ้าสาเหตุที่เธอหนีไปไม่ได้มาจากความกลัวล่ะ เนสก้าอาจจะปฏิเสธที่จะต้องมอบพลังที่จะกำเนิดขุนพลอสูรตัวใหม่ก็ได้ เธออาจจะอยากหยุดสงครามระหว่างอสูรกับมนุษย์
แต่จะคิดมากไปก็เท่านั้น เรายังรู้จักกับเธอน้อยเกินไป ถึงยังไงอสูรส่วนใหญ่ ไม่สิ ทั้งหมดที่เคยเจอก็ไม่เป็นมิตรกับมนุษย์ แม้แต่เนสก้าก็อาจจะเชื่อใจไม่ได้ก็ได้…
“เป็นอะไรไปแมรี่ เงียบเลย” ช่างเครื่องของฉันถามขึ้นหลังจากที่เรามาถึงที่ชายหาดและเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำกันแล้ว พวกผู้ชายแยกตัวออกไปทำอะไรกันก็ไม่รู้ ฉันกับเจนเดินเล่นอยู่ท่ามกลางที่ที่น่าจะเคยเป็นท่าเรือใหญ่ ยังมีซากเรือหลงเหลืออยู่มากมาย สะพานปลาที่ปรักหักพัง เมื่อตอนที่มันยังดีอยู่คงเป็นที่ที่น่าเดินไปชมวิวมากทีเดียว ซากตึกสูงมากมายบ่งบอกว่าที่นี่น่าจะเคยเป็นเมืองขนาดใหญ่ ถึงแม้ที่นี่จะไม่ใช่เมืองอีกต่อไปแล้ว แต่ภาพทะเลก็ยังมีเสน่ห์ที่แปลกประหลาด มันเหมือนจะมีความอบอุ่นที่โอบรับเราสองคนอยู่ที่นี่
“คิดอะไรเพลินๆ น่ะ” ฉันตอบกลับไป จับมือของเจนไว้ด้วย ไม่อยากให้เธอเป็นห่วงมาก เจนนิเฟอร์จับมือข้างนั้นของฉันไว้แน่น พวกเรายืนมองท้องฟ้าในยามอาทิตย์อัสดง สักพักเธอก็จูงมือของฉันออกวิ่ง
“จะไปไหนเจน!”
ไม่มีเสียงตอบจากช่างเครื่องผมบลอนด์ มีแต่เสียงหัวเราะที่แสนร่าเริง เจนพาฉันวิ่งไปบนหาดทรายที่มีทรายสีขาวละเอียด เสียงคลื่นลมดังจนแทบไม่ได้ยินเสียงพูด เธอหยุดวิ่งทันควันทำเอาฉันหยุดไม่ทัน ชนเข้ากับอ้อมแขนของเธอที่รอโอบรับอยู่
“ตั้งใจแกล้งใช่ไหม” ฉันถามด้วยเสียงหอบนิดๆ
“ใช่ แล้วก็ยังแกล้งไม่เสร็จด้วย” อยู่ๆ เจนอุ้มฉันขึ้นมาหน้าตาเฉย เดินลงไปในทะเลที่ลึกระดับเข่า แล้วโยนฉันลงน้ำ!
ตูม! เสียงน้ำสาดกระเซ็น
“ว้าย! ยัยบ้านี่!” ฉันตะโกนแต่แล้วกลับหัวเราะ รู้สึกสนุกขึ้นมา ใช้มือสาดน้ำใส่เจน พวกเราผ่านอะไรกันมามากมายเหลือเกิน แต่กลับแทบไม่เคยเล่นสนุกให้สมวัย วันนี้ขอสักหน่อยเถอะน่า
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เธอหัวเราะเสียงดัง “ฉันรักเธอนะแมรี่”
“บอกรักบ่อยจังเลย”
“ก็อย่างที่เธอบอกแหละ ไม่รู้ว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันถึงเมื่อไหร่”
“แต่ตอนนั้นเธอบอกว่าจะอยู่กับฉันตลอดไป”
“ใช่แมรี่ จะอยู่กับเธอตลอดไป แล้วก็จะบอกรักแมรี่ตลอดไปด้วย”
ฉันอดใจไม่ไหวกระโจนเข้าจูบเธอ ทำไมฉันถึงได้รักผู้หญิงผมบลอนด์คนนี้มากเหลือเกิน
“ฉันก็รักเธอเจนนิเฟอร์ ว้าย!” ฉันหน้าแดงก่ำ เอามือปิดหน้าตัวเอง เมื่อเห็นทาคุมิกับคุณไวท์อยู่ที่ชายหาดเบื้องหน้า พวกเขาไปตกปลากันมานี่เอง ไม่รู้ว่าสองคนนั้นมาทันเห็นเราสองคนจูบกันหรือเปล่า
“มีอะไรเหรอ อ๋อ อาจารย์ คุณไวท์ พวกเราอยู่ตรงนี้ค่า!” เจนนิเฟอร์ไม่เขินแม้แต่นิดเดียวแถมยังโบกมือให้สองคนนั้นอีกด้วย ฉันเลยทุบเธอแก้เก้อ นี่แน่ะๆ!
“ปะ แมรี่ หิวแล้ว ขึ้นกันเถอะ!”
ยัยผู้หญิงแรงเยอะอุ้มฉันขึ้นจากน้ำไปหาอาจารย์ แล้วช่วยกันปิ้งปลาพร้อมกับดูชายหาดไปด้วย พวกเรายิ้ม หัวเราะ เล่าเรื่องราวสนุกสนานให้แก่กัน ราวกับว่าไม่มีอสูร ไม่มีการต่อสู้ใดๆ ฉันอดนึกไม่ได้ว่าถ้าหากพวกเราไปเกิดในช่วงที่โลกสงบสุขจะมีความสุขแค่ไหน พวกเราจะทำให้ความสงบสุขนั้นเกิดขึ้นมาให้ได้
…………….
เช้าวันรุ่งขึ้น ตอนที่ฉันตื่นขึ้นมาเจนนิเฟอร์ก็ไม่ได้อยู่ในเต็นท์แล้ว แถมยังเก็บที่นอนเรียบร้อยผิดวิสัยอีกด้วย น่าจะเป็นเพราะวันนี้คือวันที่เรานัดพบกับโอวี่ที่พิกัดที่หุ่นโดรนบอกว่าเป็นบ้านเกิดของไดแอนน์ เมื่อวานนี้เจนไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย แต่ฉันรู้ว่าเธอเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจตลอด
“เจน…” ฉันเปิดประตูเต็นท์ออกมามองหาเธอ เห็นเจนยืนอยู่กับทาคุมิและคุณไวท์อยู่ข้างทิวต้นสน ใกล้กันนั้นเป็นสปาร์กกับเป็บเปอร์ที่จอดรออยู่ เจนใส่ชุดใหม่ที่เพิ่งซื้อพร้อมกับชุดว่ายน้ำ เป็นเสื้อยืดสีเขียวอ่อนกับกางเกงยืนส์ขาสั้นสีน้ำเงิน และรองเท้าผ้าใบสีขาว ดูเป็นสาววัยรุ่น สลัดคราบช่างเครื่องที่ฉันเห็นมาตลอด เจนขอให้ฉันช่วยเลือกชุดให้ หลังจากลองแล้วลองอีกก็ได้เป็นชุดนี้ ปกติคุณเธอไม่ค่อยจะสนใจเรื่องแต่งตัวนัก แม้ว่าวันนี้โอกาสที่จะได้พบกับคุณไดแอนน์จะน้อยแต่ก็เห็นได้ว่าเจนค่อนข้างจะตื่นเต้นทีเดียว
“พร้อมไหม” ฉันถามเธอ เจนนิเฟอร์พยักหน้าอย่างจริงจังก่อนที่จะไปขึ้นรถบรรทุกกับอาจารย์ทาคุมิ ส่วนฉันก็มาขึ้นขับสปาร์กพร้อมเอ่ยคาถาที่ไม่ได้พูดมาเสียนาน
“แมรี่ ไอออนฮาร์ท สปาร์ก อิคิมัส!”
…………….
พวกเรามาหยุดยืนอยู่ที่บ้านเดี่ยวชั้นเดียวหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ในส่วนที่น่าจะเคยเป็นเมืองมาก่อน น่าแปลกที่บ้านหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยวที่ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสูง ดูค่อนข้างแปลกแยก แม้จะเป็นอดีตที่ตึกรามบ้านช่องยังสมบูรณ์ดี หรือในปัจจุบันที่สิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ถูกทำลาย แต่น่าแปลกที่บ้านหลังนี้ยังคงอยู่
โอวี่ลอยตัวรอเราอยู่ที่บ้านหลังนั้น ขณะที่เดินตามเขาลอยช้าๆ เข้าไปในบ้าน หุ่นโดรนสีขาวเล่าให้ฟังว่าบ้านหลังนี้เป็นโบราณสถานที่อยู่มานานก่อนสงครามอสูรครั้งแรกมาก เป็นบ้านของวิศวกรหุ่นยนต์ที่เรียกกันว่าตาจอร์จ อาจจะเรียกได้ว่าจอร์จคนนี้คือบิดาของการสร้างหุ่นผู้ปกป้องทั้งมวล เพราะเขาเคยสร้างหุ่นยนต์เพื่อช่วยกู้ภัยสึนามิ จนกลายเป็นต้นแบบของหุ่นยนต์ต่างๆ มาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงสปาร์กและโอวี่ด้วย ที่จริงบุคคลสำคัญขนาดนี้ทุกคนน่าจะต้องเรียนในวิชาประวัติศาสตร์ซะด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะคลื่นพลังของพวกอสูรที่ทำให้สื่อบันทึกทั้งหลายเสียหายแทบทั้งหมด ประวัติศาสตร์เหล่านี้จึงเลือนหายไปด้วย
เอ๊ะ ถ้าอย่างนั้น
“อย่าบอกนะคะว่า นามสกุลของจอร์จคือ…”
“ไม่ผิดหรอก จอร์จ เลอกู้ด” โอวี่พูดอย่างกับอ่านใจฉันได้ “ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด เขาน่าจะเป็นต้นตระกูลเลอกู้ดด้วย แล้วบ้านเกิดของไดแอนน์ก็คือที่นี่”
“ห๊า” ฉันอุทานเสียงดัง ที่บอกว่าความคลั่งเครื่องจักรมันอยู่ในสายเลือดนี่คือไม่ใช่เปรียบเปรย แต่มันอยู่ในสายเลือดจริงๆ ฉันมองหน้าเจนเลิ่กลั่ก สุดท้ายก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น
“เป็นอะไรของเค้า” เจนนิเฟอร์แปลกใจ แต่พอเห็นฉันหัวเราะมากๆ เข้าเธอก็พลอยขำไปด้วย
“ขอบใจนะแมรี่ ฉันหายเครียดเลย” เจนหัวเราะจนน้ำตาเล็ด “ถ้างั้นเรามาสำรวจบ้านหลังนี้กันเถอะ”