อารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
ไซไฟ,sci-fic,ไซไฟ,ยูริ,yuri,อนาคต,หุ่นยนต์,สัตว์ประหลาด,ไคจู,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาวอารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
แม้พวกอสูรจะพ่ายแพ้กลับไป ทว่าอารยธรรมของมนุษย์ทั้งหมดก็ถูกทำลาย เหล่าผู้รอดชีวิตอาศัยอยู่ในกลุ่มเล็กๆ กระจัดกระจายกันอยู่ไม่กี่สิบกลุ่มทั่วโลก
แมรี่ เด็กสาวจากกลุ่มอื่นที่เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน เธอถูกอสูรไล่ล่า ดีที่ได้ เจนนิเฟอร์ ยัยเนิร์ดบ้าเครื่องจักรขับหุ่นยนต์มาช่วยไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการต่อสู้และความรักของทั้งสอง
นิยายเรื่องใหม่ของราชาวาฬ ลงวันเว้นวันตอนหกโมงเย็น!
“HOPE System ต้องใช้เวลาถึงจะพร้อมใช้งาน” ฉันพูดอย่างกังวล หยิบเอาไรเฟิลออกมาเล็ง อสูรหมึกยังต่อสู้พัวพันกับโอวี่ ทำให้ล็อกเป้าได้ยาก ภาพการเล็งไรเฟิลตอนที่คุณเรดจากไปย้อนกลับมาในหัว… ฉันไม่มั่นใจเลย
“เธอทำได้” คำพูดให้กำลังใจจากคนที่เรารักในจังหวะที่เหมาะสมมันมีค่ามาก ฉันรู้สึกว่าตัวเองนิ่งขึ้น ความหวาดหวั่นแม้มันจะไม่ได้หายไปหมด แต่ก็ดูเหมือนว่าจะลดลง ในที่สุดฉันก็ล็อกเป้าที่เลวีอาธานได้ และต้องรอจังหวะที่มันทึบแสงสินะ
โอเค ยิง
ประกายไฟปรากฏขึ้นที่ร่างของมัน เลือดสีม่วงไหลออกจากรูนั้น แต่ความเร็วของอสูรร้ายไม่ได้ลดลงเลย มันยังคงต่อสู้ต่อไปเหมือนไม่ได้รับความเจ็บปวด หรือว่าอสูรพวกนี้ก็เพิ่มความสามารถให้ตัวเองได้ เหมือนที่เราเพิ่มความสามารถให้สปาร์ก คราวที่แล้วมันโดนยิงไปขนาดนี้ยังร้องลั่นอยู่เลย
“แมรี่ แดนดิไลออน”
จริงด้วย
ฉันกดปุ่มเปิดใช้งานอาวุธใหม่ล่าสุด ช่องเก็บกระเปาะที่บ่าทั้งสองข้างของสปาร์กเปิดออก ปล่อยลูกบอลเหล็กสีเงินลอยออกมา เข้าใกล้ร่างของอสูรตัวนั้น ฉันมองเห็นภาพจากลูกบอลทั้งหมดอย่างชัดเจนและไม่สับสน อาจเป็นเพราะ HOPE System ทำงานแล้ว และมันส่งผลกับผู้ขับด้วยก็ได้
“สายลมเอ๋ย”
ก็ไม่เข้าใจว่าคำพูดแสน “เบียว” นี้หลุดออกจากปากฉันได้อย่างไร แต่จังหวะนี้ก็ต้องคำพูดนี้เท่านั้น แรงลมที่พัดผ่านในตอนนี้ก็ช่างเป็นใจให้อาวุธชนิดนี้เหลือเกิน
“เปิดกลีบ”
บอลเหล็กทั้งแปดเปิดกลีบออก ดูคล้ายแดนดิไลออนจริงๆ ที่ลอยอยู่กลางอากาศ ปลายเกสรของมันพร้อมที่จะทิ่มแทงศัตรูแล้ว หน้าจอแยกออกเป็นตารางมีช่องเล็กๆ มากมาย แต่ฉันมองเห็นและสั่งการมันได้ทั้งหมด แม้ฉันจะไม่เคยซ้อมใช้อาวุธชนิดนี้มาก่อนเลย เจนนิเฟอร์ เธอรู้ว่าต้องทำอย่างไรฉันถึงจะใช้งานมันได้ทันที
[ลงมือพร้อมกัน]
โอวี่แปลงปลายแขนทั้งสองข้าง ประกบกันเป็นปืนใหญ่ เล็งเป้าหมาย แล้วชาร์จพลังงาน ส่วนฉันหันเข็มทั้งหมดเข้าหาจุดหมายเดียวกัน
[ตอนที่มันทึบแสงก็ยิงเลย]
[ตอนนี้แหละ ยิง!]
ลำแสงสีขาวเจิดจ้าสว่างวาบเข้าปะทะร่างอสูรสีดำ พร้อมกับเข็มพิฆาตนับพันเล่มที่พุ่งเข้าโจมตีพร้อมกัน ผลักเลวีอาธานพุ่งถอยหลังไปปะทะกับต้นไม้ใหญ่ ร่างของมันกระตุก
โอ้กกกกก
อสูรร้ายอาเจียนเลือดสีม่วงของมันออกมาขณะพยายามควบคุมร่างให้เลือนหาย จังหวะนี้มันต้องซ้ำ!
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง!
ไรเฟิลในมือส่งกระสุนไปที่ร่างของมันจนหมดแม็ก ดวงตาสีเหลืองของมันเหลือบขึ้นมองฉันอย่างโกรธแค้น แต่เพียงเท่านี้มันก็ยังไม่สิ้นใจ ขุนพลอสูรคงไม่จบชีวิตได้โดยง่าย
“กลีบแดนดิไลออนใช้โจมตีซ้ำได้ด้วยนะ!” เจนเพิ่งจะพูดออกมา
“แล้วมาบอกเอาป่านนี้!” ฉันเอ็ดแต่ยิ้มที่มุมปาก ก่อนสั่งให้ดอกแดนดิไลออนทั้งแปดที่ลอยอยู่หมุนเป็นกงจักร เข้าสะบั้นร่างที่เต็มไปด้วยหนวดนั้น เลือดของมันสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ อสูรร้ายดิ้นทุรนทุราย มันหอบหายใจ ดวงตาคู่นั้นปรากฏความกลัวขึ้นเป็นครั้งแรก
“ข้า จะ ควบคุม เจ้า” หนวดข้างหนึ่งที่สั่นระริกพุ่งตรงเข้าหาค็อกพิทของสปาร์กด้วยความเร็วสูงสุดที่มันจะทำได้ในตอนนี้ แม้พละกำลังของมันจะถูกบั่นทอนลง แต่ก็ยังเพียงพอที่จะทำลายกระจกห้องโดยสารของสปาร์กได้อย่างง่ายดาย
“ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก!” เสียงพูดของคุณไวท์ เป็บเปอร์ถือดาบสะบั้นเศียรไว้ในมือ ตัดหนวดยักษ์จนขาดสะบั้น!
“คุณแมรี่!” เขายื่นดาบสะบั้นเศียรเล่มนั้นให้กับฉัน สองมือของสปาร์กจับดาบไว้แน่น ทรัสเตอร์ทั้งหมดเปล่งแสง ร่างของสปาร์กพุ่งเข้าไปหามันด้วยความเร็วสูงสุด เลวีอาธานพยายามหายตัวหนี แต่ความบาดเจ็บกับความกลัวทำให้มันควบคุมพลังของตัวเองไม่ได้ ร่างจางลงได้เพียงเล็กน้อยแต่ก็กลับชัดขึ้นมาใหม่
“นี่ของคุณเรดดดดด!” ฉันตะโกนลั่น เหวี่ยงดาบยักษ์ขึ้นตัดร่างของมันขาดสองท่อน ดวงตาที่บอกแววไม่อยากเชื่อนั้นจ้องมองทะลุห้องโดยสารมาสบตากับฉันด้วยความโกรธแค้น หนวดที่เหลือทั้งเจ็ดพยายามเคลื่อนที่เข้าทำร้าย แต่มันอ่อนแรงเกินกว่าจะทำอะไรได้
เลวีอาธานสิ้นใจลงแล้ว
ฉันโยนดาบสะบั้นเศียรลงกับพื้นดินแล้วยืนหอบหายใจ ร่างสีดำมหึมาของมันกระจัดกระจายไปทั่ว เลือดสีม่วงไหลนอง ดวงตาสีเหลืองคู่นั้นปิดลงและมันไม่มีทางที่จะกลับเปิดขึ้นมาอีก
มันตายแล้วจริงๆ
[คุณไวท์] ฉันพูดได้เพียงเท่านั้น หันมองเป็บเปอร์ หุ่นตัวนั้นก็ยืนนิ่งเช่นกัน ถึงจะล้างแค้นสำเร็จ แต่คุณเรดก็จะไม่คืนกลับมา แต่ถึงอย่างนั้น ขุนพลอสูรก็สมควรตายแล้วใช่ไหม
โอวี่ก็ยังไม่กลับร่างเดิม เขายังยืนมองร่างอสูรตัวนั้นเหมือนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ฉันกับคุณไวท์ยังสูญเสียไปแค่คุณเรด แต่ในยุคของคุณโอวี่ ไม่รู้เลยว่าหุ่นโดรนตัวนี้ต้องสูญเสียใครไปบ้าง
[เดี๋ยวสองคนช่วยฉันเอาศพมันไปที่ชายหาด ฉันจะเผามัน ปล่อยไว้มันจะเน่า สิ่งแวดล้อมที่นี่เสียแน่] ผ่านไปอึดใจหนึ่งเขาก็ส่งข้อความมา หุ่นโดรนสีขาวก้มลงเก็บร่างอสูรยักษ์ทันที สปาร์กกับเป็บเปอร์ก็ทำอย่างนั้นด้วย
ภาพถัดมาที่พวกเราได้เห็นคือหุ่นยนต์ยักษ์สามตัวยืนล้อมร่างไร้วิญญาณของขุนพลอสูรที่ชายหาดในคืนเดือนเพ็ญ ทาคุมิตามมาในตอนสุดท้าย เขาบอกว่าให้เรายืนส่งวิญญาณของเลวีอาธานให้ไปสู่สุคติ ทั้งคุณเรด ทั้งมันก็ตายไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะแค้นกันต่อไป
กองไฟมหึมาลุกโชติช่วงขึ้นสู่ท้องฟ้า ฉันเงยหน้าตามเปลวไฟนั้นไป หวังว่าเมื่อสงครามครั้งนี้จบลง เราจะไม่ต้องมีการต่อสู้ ไม่ต้องมีความแค้นใดๆ เกิดขึ้นอีก
ลาก่อน… เลวีอาธาน
………….
คืนนั้นนอกจากคุณโอวี่ที่ปิดระบบร่างกายตัวเองได้แล้วก็ไม่มีใครหลับลง ต่างคนต่างมีเรื่องที่ครุ่นคิดอยู่ในใจ โชคดีที่กว่าการต่อสู้เมื่อคืนจะจบลงก็ดึกมากแล้ว ไม่นานนักก็เช้า พวกเราพากันเดินทางต่อไปยังแหลมคะแนเวอรัลที่เป็นที่หมายสุดท้าย