อารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
ไซไฟ,sci-fic,ไซไฟ,ยูริ,yuri,อนาคต,หุ่นยนต์,สัตว์ประหลาด,ไคจู,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาวอารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
แม้พวกอสูรจะพ่ายแพ้กลับไป ทว่าอารยธรรมของมนุษย์ทั้งหมดก็ถูกทำลาย เหล่าผู้รอดชีวิตอาศัยอยู่ในกลุ่มเล็กๆ กระจัดกระจายกันอยู่ไม่กี่สิบกลุ่มทั่วโลก
แมรี่ เด็กสาวจากกลุ่มอื่นที่เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน เธอถูกอสูรไล่ล่า ดีที่ได้ เจนนิเฟอร์ ยัยเนิร์ดบ้าเครื่องจักรขับหุ่นยนต์มาช่วยไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการต่อสู้และความรักของทั้งสอง
นิยายเรื่องใหม่ของราชาวาฬ ลงวันเว้นวันตอนหกโมงเย็น!
“รอก่อนสิ! รอด้วย!” ฉันตะโกน ออกวิ่งสุดฝีเท้า ถึงที่นี่จะเป็นเมือง (กลุ่ม) ที่เคยอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ย่านที่คุ้นเคยนัก ตรอกซอกซอยดูลึกลับเหมือนเขาวงกต เจนนิเฟอร์วิ่งตามมาไกลๆ ฉันได้ยินเสียงเธอหอบด้วย จริงสิ ถึงเจนจะแข็งแรงแต่เธอไม่ถนัดวิ่งสักเท่าไร ถ้าฉันไม่รอเธอ เธอก็อาจจะหลงทาง แต่ถ้าฉันรอก็อาจจะไม่ได้เจอเด็กคนนั้นอีก จะว่าไปทำไมต้องทำตัวให้เป็นปริศนานักนะ
“กลับไปก่อน! เดี๋ยวฉันตามไป!” ฉันตะโกนบอกเจนที่วิ่งตามมา เธอส่ายหน้าคล้ายจะบอกว่าไม่ได้ยิน แต่ฉันรู้ว่าเจนได้ยินแต่ก็ยังจะรั้นวิ่งตามมา ถ้างั้นฉันจะไม่รอแล้วนะ ถ้าหลงก็โทรศัพท์หาทาคุมิเอาเองละกัน
“รอก่อนสิ! แฮก แฮก…” ในที่สุดเด็กคนนั้นก็หยุดลงริมถนน
เดี๋ยวก่อนนะ… นี่มันคือถนนวันนั้น! นี่เราวิ่งมาไกลขนาดนั้นเลยเหรอ
หัวใจที่เต้นแรงอยู่แล้วจากการวิ่ง ตอนนี้มันเต้นเร็วขึ้นอีก ฉันควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ มันทรุดฮวบลงตรงทางเท้าที่ไร้คนเดินผ่าน ฉันเหลียวกลับไปมองด้านหลังว่าเจนนิเฟอร์ยังตามมาอยู่หรือเปล่า แต่ฉันไม่เห็นเธอ
“ที่นี่ไม่มีใครหรอกค่ะ มันเป็นมิติที่ฉันสร้างขึ้น” เด็กคนนั้นพูดขึ้น ฉันเริ่มมองเห็นร่างกายของเธอชัดขึ้น ผิวขาวซีดของเธอมีริ้วสีแดงที่คล้ายกับรอยสักไปทั่วร่างกาย และตรงกลางระหว่างไหปลาร้าทั้งสองข้าง ฉันมองเห็นสิ่งที่ดูคล้ายกับเขาสัตว์ มันเหมือนกับว่าเคยหักออกไปแล้วงอกใหม่ แต่ยังงอกได้ไม่เต็มที่
“มิติอะไรกัน” ฉันพูดอย่างงุนงง “เธอยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ ฉันยังมีชีวิตอยู่” เธอยิ้มให้ฉันเป็นครั้งแรก “และที่ฉันพาคุณมาที่นี่ ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าจะบอกความจริงกับคุณ”
“ถ้าเธอยังไม่ตาย ทำไมไม่บอกกับฉันตรงๆ ตั้งแต่แรก!” ฉันตะโกน น้ำตาไหลพราก “รู้ไหมว่าฉันต้องทรมานมากแค่ไหน!” ต้องฝันร้ายแทบทุกคืนมาเป็นปีๆ!
“ฉันทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะถ้ามีใครรู้ความลับของฉัน มันจะทำให้ฉันต้องถูกไล่ล่าค่ะ”
“ความลับอะไรของเธอ”
“ฉันเป็นอสูรค่ะ”
“ฮะ!” ฉันกระเถิบถอยหลังไปตามสัญชาตญาณ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแต่หน้าจอของมันมืดสนิท “อย่าเข้ามานะ!”
“ถึงฉันเป็นอสูรแต่ก็ไม่อยากทำร้ายคุณหรอกนะคะ ถ้าฉันจะทำร้ายคุณจริงๆ ก็มีโอกาสตั้งหลายครั้ง ฟังฉันก่อนเถอะค่ะ”
ที่เธอพูดก็จริง แววตาที่ดูจริงใจของเด็กคนนั้นจึงทำให้ฉันไม่พยายามหนีต่อ แต่สายตายังจับจ้องไปยังร่างตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว
“แล้ววันนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“เรื่องวันนั้น…” เด็กคนนั้นเอามือไพล่หลังแล้วสูดลมหายใจ ดูเผินๆ ก็เหมือนเด็กธรรมดา อาจจะดูเป็นคนที่อ่อนแอซะด้วยซ้ำ “มันเป็นวันที่ฉันเสื่อมพลัง และกำลังจะถูกแย่งส่วนหนึ่งของพลังไปค่ะ ผู้ชายที่คุณเห็น เขาพยายามทำแบบนั้น ตอนนั้นฉันอ่อนแอมากกว่าเด็กมนุษย์จริงๆ เสียอีก เรื่องที่ฉันร้องขอความช่วยเหลือจากคุณก็เป็นเรื่องจริง”
“แล้วคือ คนนั้น… ทำสำเร็จเหรอ” ฉันถามออกไปเพราะยังสับสนกับเรื่องที่เธอเล่า แต่เชื่อเต็มร้อยว่านั่นคือเรื่องจริง
เด็กหญิงพยักหน้า “เขาได้รับพลังของอสูรไป ส่วนฉันก็ต้องเยียวยาตัวเองอยู่นานกว่าจะฟื้นคืนมาได้ ตอนนี้ก็ยังไม่เต็มร้อย”
“แล้วเธอจะมาแค้นฉันทำไม หลอกหลอนฉันอยู่ได้ทุกคืน ในเมื่อฉันไม่ได้ทำอะไรเธอ จะช่วยเธอด้วยซ้ำ” ฉันยกแขนขึ้นมาป้ายน้ำตา พรั่งพรูความรู้สึกที่อัดอยู่ในอกด้วยน้ำสีใสที่ไหลออกมาไม่ขาด
“ฉันไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะคะ นั่นเป็นอาการที่เกิดจากบาดแผลในจิตใจของคุณเองค่ะ ฉันมาพบคุณครั้งแรกก็เพื่อที่จะเอาบัตรประจำตัวของปีเตอร์ให้คุณ”
“เธอไปได้บัตรของปีเตอร์มาได้ยังไง” หรือว่าที่ปีเตอร์ตายก็เพราะ…
อสูรในร่างเด็กสาวยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยนราวกับรับรู้ได้ถึงความคิดในใจ “พูดไปคุณก็อาจไม่เชื่อ แต่ปีเตอร์คือเพื่อนมนุษย์คนแรกของฉัน เรื่องราวที่ฉันได้บัตรมามันซับซ้อนเกินไป ไว้เราเจอกันอีกครั้งฉันค่อยเล่าให้คุณฟัง”
“ฟังดูไม่มีเหตุผลเลย ทั้งที่ปีเตอร์ให้บัตรกับเธอ กับที่เธอมาช่วยมนุษย์” ฉันขมวดคิ้วอย่างสับสน
“ฉันไม่เคยเห็นด้วยกับวิธีของราชาอสูรตั้งแต่แรกแล้ว ดาวของเรากำลังจะตายก็จริงแต่ยังมีวิธีอื่นที่ดีกว่าการทำลายทุกสิ่งของดาวอื่นแบบนี้” อสูรเด็กสาวว่า พร้อมแววตาที่จะซ่อนความหมายบางอย่างเอาไว้ในประโยคถัดไป “แต่ว่าฉันก็ไม่ได้ถึงขนาดจะช่วยมนุษย์หรอกนะ แต่เป็นคุณ คุณคนเดียวเท่านั้น”
“ฉันเหรอ”
“คุณพยายามช่วยชีวิตฉัน ถนนสายนั้นมีผู้คนผ่านมามากมาย มีเพียงคุณคนเดียวที่พยายามช่วยฉัน”
ฉันถอนหายใจ เมื่อนึกถึงภาพหลอนที่เคยได้รับมาหลายปี มันช่างแตกต่างจากคำพูดของ “ตัวจริง” เหลือเกิน
“เลียนแบบมนุษย์ได้เหมือนมากเลยนะ ทั้งเลือด ทั้งหัวใจ” ภาพในวันนั้นยังติดตามาตลอด ใครจะไปคาดคิดว่ามันจะเป็นอสูรไปได้
“มันจำเป็นค่ะ เพราะถ้าพวกคุณเห็นฉันก็จะฆ่าเท่านั้น”
“แล้วมาช่วยฉันอย่างนี้อสูรตัวอื่นไม่ว่าอะไรเลยหรือไง”
“ก็คงจะว่าแหละค่ะ ไม่สิ คงจะฆ่าเลยด้วยซ้ำ แต่ว่าอย่างที่บอกไงคะว่าฉันไม่เห็นด้วยกับวิธีของราชา ตอนนี้ฉันเลยไม่ได้อยู่ทั้งฝ่ายอสูรและมนุษย์ค่ะ”
“ฮะ ง่ายๆ แบบนี้เลย พวกอสูรปกครองกันยังไงเนี่ย”
“ฮ่าๆ ก็ง่ายๆ แบบนี้แหละค่ะ” เธอป้องปากหัวเราะ “ปกติทุกคนต้องฟังคำสั่ง แต่เหมือนหลังจากวันนั้นฉันไม่ต้องฟังน่ะค่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน”
“แต่ถ้าเป็นอย่างที่เธอว่าจริง เธอก็ต้องหนีจากทั้งมนุษย์และอสูร” เมื่อกี้ยังกลัวเขาอยู่เลย จะกลายเป็นเห็นใจซะแล้ว
“อื้อ ก็ไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียวหรอกนะคะ อย่างน้อยก็ยังได้เจอกับคุณ” เธอยิ้มให้ฉันอีกแล้ว แต่ไม่นานหลังจากนั้นอสูรในร่างเด็กสาวก็เอามือกุมหน้าอกแล้วหอบหายใจ
“แฮก แฮก… อย่างที่คิดจริงๆ ด้วย การสร้างมิติ… มันใช้พลังมากเกินไป แค่ก” เธอเริ่มไอ มีเลือดสีม่วงไหลออกมาจากปากและจมูก “แค่ก ฉันคงต้องไปแล้วล่ะค่ะ ขอโทษ… ที่ทำให้คุณทรมาน… หวังว่าความจริงที่ฉันบอกคงจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น”
“เดี๋ยวก่อนสิ!” ฉันร้อง “อย่างน้อยก็บอกชื่อมาก่อนเถอะ!”
“เนสก้าค่ะ”
ร่างบอบบางนั้นค่อยๆ เลือนหายไป และฉันพบว่าตัวเองนั่งอยู่คนเดียวบนฟุตบาธที่ถนนสายนั้น ไม่นานนักเจนนิเฟอร์วิ่งตามมาจนพบ กับความจริงจากปากเธอที่ว่า เห็นแค่ฉันที่วิ่งหน้าตั้งอยู่คนเดียว ไม่มีเด็กผู้หญิงที่ไหนทั้งนั้น พร้อมยืนบ่นฉันชุดใหญ่ว่าคราวหลังอย่าทำแบบนี้อีก