อารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
ไซไฟ,sci-fic,ไซไฟ,ยูริ,yuri,อนาคต,หุ่นยนต์,สัตว์ประหลาด,ไคจู,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Spark hope ประกายหวังพิฆาตพันธุ์ต่างดาวอารยธรรมมนุษย์ล่มสลายจากสงครามกับอสูรเมื่อหลายสิบปีก่อน พวกมันกลับมาอีกครั้งในยามที่มนุษย์แทบจะไร้อาวุธต่อกร มีเพียงสิ่งนั้นที่เป็นความหวัง
แม้พวกอสูรจะพ่ายแพ้กลับไป ทว่าอารยธรรมของมนุษย์ทั้งหมดก็ถูกทำลาย เหล่าผู้รอดชีวิตอาศัยอยู่ในกลุ่มเล็กๆ กระจัดกระจายกันอยู่ไม่กี่สิบกลุ่มทั่วโลก
แมรี่ เด็กสาวจากกลุ่มอื่นที่เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน เธอถูกอสูรไล่ล่า ดีที่ได้ เจนนิเฟอร์ ยัยเนิร์ดบ้าเครื่องจักรขับหุ่นยนต์มาช่วยไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการต่อสู้และความรักของทั้งสอง
นิยายเรื่องใหม่ของราชาวาฬ ลงวันเว้นวันตอนหกโมงเย็น!
ถึงโครงสร้างของบ้านจะยังคงแข็งแรงอย่างน่าอัศจรรย์ แต่บ้านหลังนั้นก็ยังคงเป็นบ้านร้างฝุ่นจับที่แทบจะไม่มีอะไรอยู่เลย แม้แต่เฟอร์นิเจอร์ก็แทบไม่เหลือ พวกเราสามคนแยกย้ายกันออกไปค้นหาเบาะแสตามจุดต่างๆ ส่วนคุณไวท์คอยรักษาความปลอดภัยอยู่ภายนอก
“ฉันจะเข้าไปดูในห้องนอนนะ” ฉันพูดอย่างนั้นก่อนเดินเข้าไปในห้องที่น่าจะเป็นห้องนอนของเด็กผู้หญิง ยังมีร่องรอยของความซุกซนเหลืออยู่ตามผนัง สีที่ซีดจางเขียนเป็นภาพคนด้วยลายเส้นโย้เย้ มีพ่อ แม่ ลูก ตอนที่วาดภาพนี้ ไดแอนน์คงจะยังไม่รู้ว่าจะต้องสูญเสียปีเตอร์ไป แล้วแม่ของเธอล่ะ ไดแอนน์ทิ้งจดหมายฝากเจนนิเฟอร์ไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่จดหมายฉบับนั้นก็แทบจะไม่ได้บอกอะไรเลย ไม่แน่ว่าถึงตอนนี้คุณยายของเจนอาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ แต่ถ้าอย่างนั้นไดแอนน์จะทิ้งเจนทำไม ถ้ายังมียายของเจนอยู่ เธอต้องพูดคัดค้านแน่ หลานทั้งคนเชียวนะ
ไม่ไกลจากรูปภาพนั้นเป็นรูปเด็กวาดอีกรูปหนึ่ง แต่มันถูกขีดฆ่าไว้ด้วยสีดำที่วาดทับเป็นวงกลมซ้อนกันอย่างโกรธเกรี้ยว แม้สีพวกนี้จะซีดจางไปเกือบหมดแล้วแต่เมื่อมองลอดช่องว่างของวงกลมเบี้ยวๆ นั้นก็จะเห็นเป็นภาพเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังยืนร้องไห้อยู่ ตามตัวของเธอมีเส้นเต็มไปหมด… เส้นสีม่วงอย่างนั้นเหรอ เธออยู่ข้างๆ ร่างของคนที่นอนอยู่บนเตียง อย่าบอกนะว่านั่นคือแม่ของเธอ
“นั่นคือเด็กที่เกิดมาเมื่อแม่ได้รับสารพิษจากอสูรค่ะ โอกาสที่จะเป็นมีน้อยมาก แต่คุณไดแอนน์ก็โชคร้ายจริงๆ” เสียงเด็กผู้หญิงดังขึ้นข้างกาย ฉันหันขวับ เธอยังใส่ชุดสายเดี่ยวสีขาวตัวโปรดนั้น สายตาเศร้าสร้อย
“เนสก้า!” ฉันร้องอย่างแปลกใจ “เธอมาได้ยังไงกัน”
“ฉันอยู่ได้ทุกๆ ที่ที่ฉันต้องการ” เธอพูด ยิ้มนิดๆ แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความขมขื่น “แต่ตอนนั้น การอยู่ในที่ที่ฉันต้องการกลับนำความโชคร้ายมาสู่ครอบครัวของปีเตอร์ คุณยังจำได้ไหมว่าครั้งที่แล้วที่เราพบกัน ฉันบอกว่าถ้าเราได้เจอกันอีกครั้งจะเล่าเรื่องของฉันกับปีเตอร์ให้ฟัง”
“ก็จำได้อยู่หรอก แต่คือมาปรากฏตัวเพราะอยากจะเล่าเรื่องปีเตอร์เนี่ยนะ” ถ้าเป็นนิยายก็คงจะมาเพื่อความสะดวกของนักเขียนละมั้ง
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ แต่การสร้างมิติมันต้องใช้พลังเยอะมาก ทำให้ฉันมาหาคุณไม่ได้บ่อยๆ ถึงอย่างนั้น ฉันก็ต้องมา เพราะคุณเป็นคนเดียวที่จะหยุดลูซิเฟอร์ได้”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องสร้างมิติสิ ก็ออกมาเจอกันแบบธรรมดาก็ได้” ทุกครั้งที่เนสก้าสร้างมิติ คนอื่นๆ จะมองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ หมายความว่าถึงฉันจะตะโกนขอความช่วยเหลือ หรือเรียกเจนหรือทาคุมิมาก็ทำไม่ได้
“ยังทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ อย่างที่บอกว่าถ้ามนุษย์หรืออสูรเห็นฉันก็คงจะฆ่า ฉันเองก็ยังรักชีวิตนะคะ” เนสก้ามองตาฉันนิ่ง “ตอนนี้คุณพร้อมจะฟังเรื่องที่ฉันจะเล่าหรือยังคะ”
ฉันพยักหน้า ไม่มีทางเลือกก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกใจฉันก็อยากรู้เรื่องราวทั้งหมดเหมือนกัน “เล่ามาสิ เนสก้า”
อสูรในร่างเด็กหญิงที่อยู่ตรงหน้าฉันหลับตาลงคล้ายจะรำลึกถึงเรื่องราวในอดีต ก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้ง
“ความสัมพันธ์ของฉันกับปีเตอร์เริ่มขึ้นหลังจากสงครามเกิดขึ้นมาสักพักใหญ่ ฉันในตอนนั้นยังมองมนุษย์ทุกคนเป็นศัตรูและทำตามคำสั่งของลูซิเฟอร์เท่านั้น แม้ฝ่ายอสูรจะมีพลังมากและสังหารมนุษย์จนแทบจะหมดโลก แต่พวกมนุษย์ก็ยังไม่ยอมแพ้ โดยเฉพาะหน่วย Protector และผู้นำของเขา ปีเตอร์ เลอกู้ด”
“หลังจากที่พวกเขาได้พัฒนา HOPE System จนสำเร็จ ฝ่ายอสูรที่เคยได้เปรียบก็เริ่มตกเป็นรอง พวกเราต้องสูญเสียอบาร์ดดอนกับซาริเอล สองขุนพลอสูรไป ฉันได้รับคำสั่งด่วนให้เสาะหาอสูรที่มีหน่วยก้านพอจะมอบพลังให้เป็นขุนพลตนใหม่ขึ้นมาแทนที่ แต่ตอนนั้นฉันยังไม่ได้ทำงานนั้นทันที แม้จะเป็นคำสั่งโดยตรงจากลูซิเฟอร์ก็ตาม”
ถึงตอนนี้เธอเดินไปที่หน้าต่างห้อง แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง แม้ภายนอกนั้นจะเป็นความดำมืดของมิติที่เธอสร้างขึ้นมาเองก็ตาม
“ฉันเกิดความคิดว่าควรจะไปสังเกตการณ์ดูพวกมนุษย์ โดยเฉพาะหน่วย Protector ว่าพวกนี้มีความสามารถอะไรถึงล้มขุนพลอสูรได้ถึงสองตน เพราะอย่างนั้นฉันถึงจำแลงร่างเป็นเด็กคนนี้ แล้วแกล้งเป็นว่าถูกอสูรทำร้ายจนบาดเจ็บ ปีเตอร์เป็นคนที่เข้ามาช่วยฉันเป็นคนแรก… อ๋อ เขานี่น่ะเหรอคะ ไม่มีใครมองเห็นหรอกค่ะ ตอนนั้นฉันยังมีพลังเต็มเปี่ยม จำแลงร่างได้อย่างสมบูรณ์”
“แค่ก” เธอไอ เลือดสีม่วงไหลออกจากปาก
“ไหวไหม” ฉันถาม ไม่รู้ว่าควรจะเป็นห่วงหรือเปล่า คราวที่แล้วเนสก้าบอกว่าการสร้างมิติต้องใช้พลังมาก
“ไม่เป็นไรค่ะ” เนสก้าฝืนยิ้มให้ฉันแล้วใช้หลังมือเช็ดเลือดออก “ตอนนั้นเขาถึงกับลงจากหุ่นยนต์ที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อมาอุ้มฉันไปที่ห้องพยาบาล… หาที่พักและอาหารให้ ที่จริงที่ฉันไปปรากฏตัวก็ค่อนข้างน่าสงสัย… เด็กผู้หญิงตัวคนเดียวอยู่กลางป่า แต่ตอนหลังฉันถึงรู้ว่าถ้าไม่ได้อยู่ในระหว่างการต่อสู้ติดพัน ถ้าหากปีเตอร์พบใครที่บาดเจ็บและเขาพอจะช่วยได้ เขาจะช่วยเหลือทันทีไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นใครก็ตาม ฉันได้ใช้เวลาที่บาดเจ็บปลอมๆ นี้เรียนรู้พวกมนุษย์ ได้รู้จักกับมิตรภาพและความเสียสละของพวกเขา จนเกิดความคิดขึ้นมาว่าอสูรอาจจะหาทางออกร่วมกับมนุษย์ได้”
เนสก้าถอนหายใจยาว เธอมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง
“แล้วก็ถึงวันนั้น วันที่ฉันเปิดเผยความจริง”
“แทนที่ปีเตอร์จะตกใจหรือประหลาดใจ แต่เป็นฉันเสียเองที่ต้องประหลาดใจ เพราะเขาบอกว่ารู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าฉันเป็นอสูรค่ะ ฉันถามเขาว่าแล้วไม่โกรธ ไม่เกลียดฉันเหรอ เพราะฉันก็เป็นอสูร เป็นพวกพ้องของสิ่งมีชีวิตที่คร่าชีวิตเพื่อนๆ ของเขาไปมากมาย”
“ตอนนั้นเขาบอกว่าแน่นอน เขาต้องโกรธและเกลียดอสูรมาก แต่เมื่อทำสงครามไปนานเข้า เขาก็เริ่มมองไม่เห็นอะไรนอกจากการฆ่าอีกฝ่ายให้จบไปในแต่ละวัน ชีวิตมีแต่การฆ่า หรือไม่ก็ถูกฆ่า เขาบอกว่าเขาอยากจะหลุดออกจากวงจรนี้ และสิ่งนั้นคือการจบสงครามระหว่างมนุษย์กับอสูร”
“ฉันบอกว่าอย่าหวังเรื่องการเจรจา ลูซิเฟอร์ไม่มีวันยอมแบ่งดาวดวงนี้ให้กับใคร ราชาอสูรเลือกที่จะสังหารมนุษย์ให้หมดโลก ปีเตอร์หันมาย้อนถามฉันว่าแล้วทำไมฉันไม่ทำตามอย่างลูซิเฟอร์ มาปลอมตัวอยู่กับมนุษย์ทำไม ในเมื่อมนุษย์เหลือจำนวนน้อยเต็มทีแล้ว ถึงหน่วย Protector จะพยายามปกป้องมนุษยชาติไว้ก็คงทนได้อีกไม่นาน”
“ตอนนั้นฉันก็อึ้งไปเหมือนกัน แล้วถึงได้บอกกับเขาว่าฉันเองก็คิดว่ามันต้องมีหนทางอื่นที่ไม่ใช่การฆ่าอีกฝ่ายให้หมดไป ฉันคิดว่าการทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ปีเตอร์บอกว่าไม่รู้เพราะอะไร แต่เขาเชื่อใจฉัน แต่ผลสุดท้ายสงครามมีผลลัพธ์แบบที่คุณรู้แล้ว… ปีเตอร์กับลูซิเฟอร์ต่อสู้กัน ลูซิเฟอร์สังหารปีเตอร์ได้ แต่เขาเองก็บาดเจ็บสาหัสจนต้องกลับไปฟื้นตัว ส่วนฉันได้แต่หลบๆ ซ่อนๆ อยู่ที่โลกของคุณ เพราะไม่อยากให้เขาใช้พลังของฉันสร้างขุนพลอสูรขึ้นมาใหม่”
ฉันพยักหน้า เริ่มเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างแล้ว แต่ปริศนาก็ยังไม่คลี่คลายเสียทั้งหมด ตอนนี้เรื่องสำคัญที่สุดที่จำเป็นต้องรู้คือ…
“แค่ก” เนสก้าไออีกครั้ง เวลาที่เธอจะเล่าเรื่องอาจจะใกล้หมดลงแล้ว เธอยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนล้า “ฉันว่ามิตินี้คงอยู่ได้อีกไม่กี่นาทีแล้วล่ะค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอถามเรื่องคุณไดแอนน์ คุณพอจะรู้ไหมว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”
“น่าจะอยู่ทางทิศเหนือไกลมากจากที่นี่ค่ะ เป็นสถานที่ที่มนุษย์เคยใช้ส่งจรวดออกสู่อวกาศในสมัยโบราณ ที่นั่นห่างไกลจากสนามรบ ปีเตอร์ถึงให้ 02 พาคุณไดแอนน์ไปที่นั่น”
ทำไมเธอถึงรู้เรื่องนี้กันนะ ถึงปีเตอร์จะเชื่อใจเนสก้า แต่ก็ไม่น่าบอกที่ซ่อนครอบครัวกับอสูรนี่
จู่ๆ ฉันก็เห็นน้ำไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้างของเธอ มันเกิดอะไรขึ้นที่ที่ซ่อนตัวของไดแอนน์เหรอ
“คุณคงสงสัยว่าฉันรู้ที่ซ่อนของไดแอนน์ได้ยังไง นั่นเป็นเพราะพอฉันรักษาตัวอยู่ที่ฐานทัพ Protector นานเกินไปก็ถึงเวลาที่ร่างกายควรจะหายได้แล้ว ปีเตอร์บอกว่าหากฉันยังอยู่ต่อไปอาจมีคนสงสัยได้ แล้วบอกว่าเมื่อถึงเวลาให้ฉันเดินทางไปกับหุ่น 02 พร้อมกับครอบครัวของเขา ไปอยู่กับคุณแคทเธอรีน ฉันไม่รู้หรอกว่านั่นคือคำสั่งเสียของเขาด้วย”
“แต่ฉันไม่ได้นึกเลยว่าในร่างกายของฉันมีพิษของอสูรซ่อนอยู่ ดูภายนอกเหมือนว่าจะไม่มีอะไรผิดปกติ แต่พิษนั้นได้แทรกซึมไปถึงคุณไดแอนน์ จนเธอเติบโตอายุได้ประมาณ 4-5 ปี พิษนั้นได้สังหารคุณแคทเธอรีนตามรูปที่คุณเห็นที่ผนัง แต่ตอนนั้นคุณไดแอนน์ยังเด็ก เธอจึงไม่เข้าใจ และหมอของมนุษย์ก็ยังมีวิทยาการไม่พอที่จะวินิจฉัย มีแค่ฉันที่รู้อยู่แก่ใจ ฉันรับเรื่องนี้ไม่ได้ ต้องหนีออกมาจากครอบครัวนั้น แต่ก็ยังตัดใจจากพวกเขาไม่ได้ เลยต้องกลายเป็นสตอล์กเกอร์แอบติดตามชีวิตของคุณไดแอนน์จนโตและพบรัก ฉันอยากไปเตือนเธอแต่ก็ไม่กล้า จนสุดท้าย คุณไดแอนน์ก็ตั้งครรภ์แล้วคลอดคุณเจนนิเฟอร์ออกมา ฉันดูแล้วเด็กทารกไม่ได้รับพิษอสูร แต่หากเธออยู่กับแม่ก็อาจเสียชีวิตได้เพราะร่างกายทารกอ่อนแอ ฉันถึงตัดสินใจรวบรวมความกล้าไปบอกเธอ”
“แค่ก แค่ก” ทั้งน้ำตาและเลือดอสูรไหลรวมกันอยู่ที่พื้น ฉันพยายามจะบอกตัวเองว่าเนสก้าอาจจะไม่ได้พูดความจริง อาจจะหลอกเราด้วยความเป็นอสูร แต่เรื่องราวของเธอก็ช่างน่าสงสารเหลือเกิน
“ฉันยังจำน้ำตาของไดแอนน์ในวันนั้นได้ เธอเสียใจที่แม่ตัวเองตาย แต่กลับไม่โทษฉันว่าเป็นคนฆ่า เด็กคนนั้นเหมือนพ่อของเขา มีเหตุผลมากจนไม่น่าเชื่อ ไดแอนน์ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวว่าให้ทิ้งเจนนิเฟอร์ไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อให้เธอไม่ต้องเสี่ยงกับพิษอสูร”
“เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ เนสก้า ไดแอนน์พูดแบบนั้น” ตอนนี้เด็กหญิงตรงหน้าฉันปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “ฉันก็ไม่รู้… ฉันก็ไม่รู้ว่าไดแอนน์คิดแบบนั้นกับอสูรอย่างฉันได้ยังไง เธอยังบอกว่าถ้าฉันอยากไปหาเธอ ก็ไปได้ทุกเมื่อ เธอจะรออยู่ที่นั่น”
เนสก้าไอมากขึ้นทุกที ความที่เธอร้องไห้ไปด้วยจึงไม่อาจคงสมาธิที่จะรักษามิติไว้ได้ “คราวนี้คงจะไม่ไหวจริงๆ แล้วล่ะค่ะ” เธอยิ้มให้ฉันทั้งน้ำตา ก่อนที่ร่างของเธอจะเลือนหายไป
…แล้วจะเล่าให้เจนฟังยังไงล่ะเนี่ย