ก็เพราะชีวิตประจำวันมันน่าเบื่อ ก็เลยอยากเป็นอินฟลูกับเขาสักคน

แปะจะเป็นอินฟลูฯ - 16 Side โดย Chavaroj @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ตลก,ไทย,เล่าประสบการณ์,ยุคปัจจุบัน,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แปะจะเป็นอินฟลูฯ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ตลก,ไทย,เล่าประสบการณ์,ยุคปัจจุบัน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

แปะจะเป็นอินฟลูฯ โดย Chavaroj  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ก็เพราะชีวิตประจำวันมันน่าเบื่อ ก็เลยอยากเป็นอินฟลูกับเขาสักคน

ผู้แต่ง

Chavaroj

เรื่องย่อ



โลกยุคนี้ มันเป็นยุคของ อินฟลูเอ็นเซอร์ นั่นก็คือบุคคลที่มีผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย


อินฟลูเอ็นเซอร์ จะมีผู้ติดตามมากมายซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีส่วนร่วมในเนื้อหาที่พวกเขาพูดเป็นประจำ อินฟลูฯ มีมากมายหลายหมวด ไม่ว่าจะเป็นหมวดการท่องเที่ยว สายทำอาหาร สายวิชาการ สายบันเทิง สายสุขภาพ 


แต่ผมจะเป็นอินฟลูฯ สายไหนกันดีนะในเมื่อตัวผมเองก็ไม่เก่งอะไรสักอย่าง....เห้อ

สารบัญ

แปะจะเป็นอินฟลูฯ-1 ลูกสาวท่านฑูต,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-2 Good Day,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-3 เพื่อนร่วมงาน,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-4 เพื่อนร่วมงาน 2,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-5 เพื่อนร่วมงาน 3,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-6 หวานเป็นลม,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-7 ขมเป็นยา,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-8 ไม่เที่ยง,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-9 รสชาติของการเติบโต,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-10 มูฟออน,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-11 โอกาส,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-12 น้องธรรมของม๊า,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-13 ช่างแอร์ในตำนาน,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-14 สัมผัสพิเศษ,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-15 เผิงโหย่ว,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-16 Side,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-17 ภาพลวงตา

เนื้อหา

16 Side

โดย Chavaroj




แม้ว่าแดดนอกหน้าต่างจะพยายามส่องแสงเข้ามาภายในห้อง แต่ด้วยผ้าม่านผืนหนาสีเทาเข้ม และเมฆที่ครึ้มตั้งเค้ามาตลอดตั้งแต่เช้า ทำให้ภายในห้องค่อนข้างมืดทึม ยิ่งมีแอร์ที่เปิดจนเย็นจัด และร่างอวบ ๆ ที่นอนซุกอยู่กับอ้อมอกและหนุนท่อนแขนของธรรมจนตอนนี้ท่อนแขนของธรรมชาไปแล้ว


"จิม...จิมมี่...ขยับหน่อย" ธรรมกระซิบพร้อมกับค่อย ๆ ใช้มือยกหัวทุยขึ้นเบา ๆ และขยับต้นแขนของเขาออกอย่างเบามือ วางหัวทุยที่มีผมยาวสยายเคลียอยู่ที่ข้างแก้ม


ทำไมธรรมถึงเป็นไปได้ขนาดนี้กันนะ เขาเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเองหลายครั้งหลายครา ทำไมเขาถึงต้องชอบคนตรงหน้ามากขนาดนี้


จะถามว่าจิมมี่หน้าตาดี ก็ต้องตอบว่าเขาหน้าตาธรรมดา ๆ นี่แหละ เดินไปตามตลาด เดินไปตามห้างก็พบเห็นได้ทั่วไป ไม่มีอะไรโดดเด่น 


จิมมี่อายุอ่อนกว่าธรรมสองปี และเตี้ยกว่าธรรมหลายเซนติเมตร น่าจะร้อยเจ็ดสิบสามพอ ๆ กับอีธงพี่ของธรรมเห็นจะได้ แต่ผิดกันที่ อีธงหุ่นดี ไม่ผอมไม่อ้วน แต่จิมมี่ติดจะเจ้าเนื้อสักหน่อย กะคร่าว ๆ จากสายตาธรรมคิดว่าน่าจะอยู่ที่ 75 กิโลกรัม


ผิวของจิมมี่ขาวจนค่อนข้างเผือด ติดจะซีดเล็กน้อยเพราะเจ้าตัวแทบจะไม่สัมผัสกับแสงแดดเลย เวลานอนของจิมมี่ผิดกับคนอื่น ๆ จะเข้านอนเวลากี่โมงกี่ยามสุดแล้วแต่งานที่เขาทำว่าจะเสร็จเมื่อไร แต่จะตื่นเอาช่วงบ่ายโมงเป็นอย่างต่ำ เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ธรรมรู้จักกับเขา


แต่ดีอยู่อย่างว่าถึงแม้ว่าผิวของจิมมี่จะขาวซีด แต่สองข้ามแก้มป่อง ๆ กลับอิ่มไปด้วยสีเลือด แถมด้วยริมฝีปากแดงจัด ซึ่งลามไปยังหัวนมสีชมพู ธรรมยังตัดสินไม่ได้ว่าสิ่งไหนจะสีจัดกว่ากัน แต่ตอนนี้ธรรมเหลือบตาดู ทั้งหัวนมและริมฝีปาก ของคนที่กำลังนอนหลับ กลับแดงก่ำทีเดียว


เนื้อหนั่นของจิมมี่นั้นมันนุ่มนิ่มไปเสียทั้งตัวเพราะเขาไม่ได้มีต่อมของการออกกำลังกายอย่างธรรม และจิมมี่ก็ไม่เคยมีความอยากเลยแม้แต่น้อย การออกกำลังกายเดียวที่ธรรมคิด ก็คือน่าจะออกกำลังปากจากการกิน ถึงได้เจ้าเนื้ออย่างนี้


คิดแล้วก็มันเขี้ยว ธรรมก็เลยตะปบมือไปที่ก้นของจิมมี่แล้วก็บีบคลึงอย่างสนุกมือ มันนุ่มนิ่มเสียจนธรรมเพลิน 


"งื้อ.....บีบทำไม" เสียงจิมมี่บ่นคราง และพยายามปรือตามองมาทางใบหน้าของธรรม


"นอนต่อสิ เพิ่งบ่ายสี่โมงเอง" ธรรมกระซิบพร้อมกับยื่นปลายจมูกไปจรดที่หน้าผากของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา


"ปกติสี่โมงนี่กำลังตาสว่างเลย" จิมมี่ท้วงเสียงอู้อี้


"แล้วทำไมวันนี้หลับกลางวันได้ล่ะ?" ธรรมถามกลับ พร้อมกับใช้มือลูบไปที่เส้นผมยาวสลวย ถ้าจะมีอะไรที่ดึงดูสายตาใคร ๆ ธรรมก็เห็นจะให้คะแนนเส้นผมของจิมมี่นี่แหละ ผมของจิมมี่ยาวถึงกลางหลัง เป็นสีน้ำตาลเข้มและเป็นเงามันวับ เวลาธรรมลูบจะรู้สึกเหมือนราวกับลูบผืนผ้ากำมะหยี่สีรัตติกาลเลยทีเดียว


"ผมหอมมั๊ย?" จิมมี่ถามและยื่นหน้าให้ธรรมซุกปลายจมูกกับกลุ่มผมเงางาม


"อืม...ถ้าเราไม่มา ก็ไม่สระผมสินะ" ธรรมหยอก แต่ก็ยื่นจมูกไปดอมดมกลิ่นหอมของเส้นผมของจิมมี่ซ้ำ ๆ


"สระบ่อย ๆ เดี๋ยวผมแห้ง แต่จิม...เอ่อ....อาบน้ำทุกวันนะ...วันละ...เอ่อ...หนึ่งหน" จิมมี่เผลอพูด เมื่อรู้ตัวว่าได้พูดสิ่งที่ไม่ควรพูดก็แลบลิ้นออกมา


"หนเดียวจะไหวเรอะ"


"ไหวสิ ไม่ได้ออกไปไหน อยู่แต่ในห้อง ก็รู้อยู่ว่าไปไหนไม่ได้ หิวแล้วอ่ะ แล้วก็อยากกินอะไรพิเศษ ๆ ด้วย กินเป็นเพื่อนหน่อยได้ไหม?" 


"กินอะไรอีก อ้วนจะตายอยู่แล้ว" ธรรมหยอก และยื่นมือไปบีบพุงของจิมมี่จนเจ้าตัว หัวเราะร่วนและพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากการจี้เอวของอีกฝ่าย


"อยากกินอาหารอิตาเลียน" จิมมี่เปรย พร้อมกับยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่ตกอยู่ข้างหมอน เปิดดูโน่นดูนี่และกดรัว ๆ จนธรรมหวั่นใจว่าจิมมี่จะสั่งอะไรมากินเยอะแยะเกินจำเป็นหรือเปล่า


"ระหว่างรอ ขอกินนมอีกหน่อย" ธรรมกระซิบ และดันตัวของจิมมี่ให้ขยับไปนอนหงาย ทรวงอกของอีกฝ่ายขยับขึ้นลงตามจังหวะของการหายใจ รวมไปถึงติ่งเนื้อสีชมพูจัด ที่มันชูช่อ ราวกับจะเย้ยให้ได้ลิ้มลอง...อีกครั้ง


ปลายลิ้นของธรรมแตะลงเบา ๆ แต่เมื่อริมฝีปากครองฐานทั้งหมดของหัวนม ธรรมก็เปลี่ยนเป็นดูดมันอย่างแรง และตวัดปลายลิ้นรัวเร็ว จนแผ่นหลังของจิมมี่ขยับเกร็ง และเริ่มส่งเสียงครางราวกับจะร้องขอชีวิต


มือของธรรมเกเรซุกซน ลูบไปตามแผ่นหลังจนถึงสะโพกนุ่มนิ่ม ธรรมบีบคลึงเคล้นราวกับมันเป็นของเล่น ไม่ห่วงเลยว่าจิมมี่จะร้องครวญครางราวกับจะขาดใจ


"เฮีย......เบา ๆ" จิมมี่ได้แต่ร้องขอเบา ๆ ครางกระเส่าอยู่ในลำคอ ธรรมรำคาญเสียงพูดจึงเปลี่ยนจุดหมายมาเป็นริมฝีปากแดงฉ่ำของจิมมี่แทน


ลิ้นทั้งสองตวัดเลียไปมา ราวกับจะหยอกล้อและช่วงชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบ กลิ่นหอมหวานซาบไปทั่วโพรงปากของธรรม หอมหวาน...ยั่วยวน 


ท่อนเนื้อร้ายของธรรมมันแข็งชูชันแทบจะไม่อ่อนตัวลงเลย นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่น้ำแตก...รอบที่สองไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน สาเหตุนั้นก็ไม่ใช่เพราะอะไร ก็เพราะมีผิวเนื้อนิ่ม ๆ เนียน ๆ สัมผัสกับมันอยู่นั่นเอง และตอนนี้มือของจิมมี่ก็ขยับไปจับมันอย่างเบามือ 


ที่ส่วนปลายน้ำใสเยิ้มซึมออกมา และปลายนิ้วอวบนิ่มก็สัมผัสมันช้า ๆ เบามือ


เสียงจูบเริ่มดังขึ้น ราวกับเป็นเสียงต่อสู้ของสัตว์ร้าย สัตว์ต่าง ๆ ต่อสู้ประหารกันด้วยเขี้ยว ด้วยงา ด้วยกงเล็บ และพละกำลัง แต่ศึกของธรรมและจิมมี่ ใช้เพียงร่างกายเพื่อชิงชัย ร่างกายเปลือยเปล่าและสัมผัสซ่านสยิว


ธรรมขยับตัว เลื่อนอาวุธของธรรมขยับมาให้อยู่ตรงหน้า ผลักจิมมี่ให้ทิ้งตัวนอนหงาย 


"ขยับดี ๆ" ธรรมสั่ง และเลื่อนมือดึงหมอนให้กระชับกับต้นคอของอีกฝ่าย ทันทีที่องศาพอเหมาะ ธรรมก็ค่อย ๆ ส่งอาวุธของเขาเข้าไปในโพรงปากช้า ๆ


"อ๊าาาาาาาาา" ธรรมร้องครางเมื่อส่วนสัมผัสที่ไวต่อความรู้สึกมากที่สุด สัมผัสกับเนื้อนุ่มอุ่นและเปียกชื้น สะโพกของธรรมขยับเข้าออกช้า ๆ ธรรมก้มหน้ามองใบหน้าของอีกฝ่ายที่หลับตาพริ้ม และในบางจังหวะ จิมมี่ดันตัวของธรรมออกเล็กน้อย จนอาวุธแข็งแปดนิ้วหลุดจากการครอบครอง และปลายลิ้นของเขาก็ค่อย ๆ ลามเลียราวกับมันคือขนมหวาน


ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่ง จิมมี่ขยับตัวและผลักธรรมให้กลับเป็นฝ่ายนอนแทนที่ของเขา ที่หัวเตียงของจิมมี่มีน้ำผึ้งแบบหลอด จิมมี่ขยับตัวเปิดฝาของมันจนดังเป๊าะ จากนั้นก็ค่อย ๆ บีบออกช้า ๆ จนหยดน้ำผึ้งเหนียว ๆ ค่อย ๆ หยดลงบนเนื้อตัวของธรรม ตั้งแต่หน้าอก จนถึงของสำคัญ


"อยากกินหนม" จิมมี่พูด นัยตาเคลิ้ม เผลอเลียริมฝีปากของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ และเมื่อขยับตัวเอื้อมไปหยิบหนังยางรัดผม แล้วก็นำมารัดผมของตนเองอย่างลวก ๆ 


ปลายลิ้นร้อนของจิมมี่ค่อย ๆ สัมผัสความหวานหอม ที่เนื้อตัวของธรรมช้า ๆ กล้ามเนื้อของธรรมสะท้านเล็กน้อย ธรรมขยับสองมือไปพาดศีรษะ เฝ้ามองภาพของคนที่โลมเลียเนื้อตัวของเขาอย่างพออกพอใจ


จนถึงตอนท้าย จิมมี่ก็ครอบครองสิ่งสำคัญไว้ด้วยปากอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันถนัดถนี่กว่า ธรรมได้แต่นอนหลับตาซี้ดปากด้วยความเสียวอย่างถึงที่สุด 


เวลาผ่านไปราว ๆ ยี่สิบนาที เสียงกริ่งเจ้ากรรมก็ดังขึ้น ธรรมหงุดหงุดจนอยากจะด่า แต่จิมมี่ที่กำลังสนุกอยู่บนเนื้อตัวของธรรมกลับเบิกตาโพลงอย่างยินดี


"รอแป๊บเดียวนะเฮีย" จิมมี่พูดพร้อมกับรีบถลันตัวลงมาจากเตียง ดึงเสื้อคลุมยูกาตะมาคลุมตัวอย่างรวดเร็ว แล้วเจ้าตัวก็รีบถลันร่างอวบอิ่มพร้อมกับโทรศัพท์มือถือเพื่อไปรับของกินที่สั่งไว้ที่หน้าบ้าน 


"กินพิซซ่ากันดีกว่า" จิมมี่พูดอย่างอารมณ์ดี เมื่อโผล่หน้าจากประตูห้องนอนเพื่อบอกธรรม ซึ่งแน่ล่ะ ธรรมอารมณ์เสียนิด ๆ เพราะเครื่องกำลังเดิน แต่ก็ถือว่าอารมณ์เสียไม่มากนัก เพราะน้ำแตกมาสองรอบแล้ว ถ้าเป็นน้ำแรกแล้วโดนขวางอย่างนี้ธรรมต้องอาละวาดแน่ ๆ


จิมมี่ดูจะมีความสุขกับการกิน จริง ๆ ธรรมรู้ว่าจิมมี่ไม่ได้เป็นคนชอบกินขนาดนั้น แต่ที่จิมมี่มีความสุขเป็นเพราะมีธรรมมาอยู่เป็นเพื่อนต่างหาก แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ธรรมมาอยู่เป็นเพื่อนทุกวันก็ไม่ได้ วิถีชีวิตของเรามันต่างกันเกินไป และที่สำคัญมันทำให้จิมมี่อึดอัด อึดอัดจนต้องบอกกับธรรมตรง ๆ


 จิมมี่เป็นคนพูดอะไรตรงกับใจเสมอ และทำอย่างที่ใจตนเองต้องการเสียด้วย ธรรมยอมรับเพราะถือว่าเป็นข้อตกลงที่เราทั้งสองคนเห็นชอบว่ามันดีที่สุด ดีที่สุดแล้วสำหรับความสัมพันธ์ของเราสองคน 


"ถ้าหากวันไหนเฮียพบใครอีกคนที่เฮียชอบ เฮียก็ไปได้เลยนะ ไม่ต้องบอก ไม่ต้องติดต่อ วันนั้นจิมจะรู้เอง" จิมมี่พูดไปและแหงนหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ธรรมรู้ว่าจิมมี่ไม่ได้มองไปเรื่อย ๆ หรอก ในสายตาของจิมมี่ที่มองนอกหน้าต่างนั้น เขาเห็นอะไรที่คนอื่น ๆ คนปกติ คนทั่วไป ไม่สามารถมองเห็นได้


พิซซ่าถาดใหญ่ ไก่ทอด ผักโขมอบชีส และสลัด ถูกกินหมดไปอย่างละครึ่ง ธรรมอิ่มจนท้องแทบแตก และจิมมี่ก็ดูจะมีอาการไม่ต่างกัน


"อิ่มแล้วเนอะ ที่เหลือก็เข้าตู้เย็นก็แล้วกัน เผื่อเก็บเอาไว้กินดึก ๆ ตอนทำงาน" จิมมี่บอก พร้อมกับทั้งสองคนค่อย ๆ ลำเลียงของที่เหลือเก็บเข้าตู้เย็น


"พยายามอย่ากินของเหลือ กินของสด ๆ ใหม่ ๆ บ้าง" ธรรมไม่วายจะบ่น แน่นอนว่าจิมมี่จะเบะปากทำหน้าเซ็ง เพราะธรรมพูดครั้งนี้เป็นครั้งที่ร้อยเสียกระมัง


"ไปเดินย่อยกันดีกว่า" จิมมี่พูดอย่างนึกครึ้ม มันทำให้ธรรมแปลกใจจนกลั้นยิ้ม 


"เดี๋ยวจิมเอาเสื้อคลุมให้" จิมมี่กุลีกุจอ หยิบเสื้อคลุมยูกาตะอีกตัว เป็นสีเขียวเข้มนำมาสวมให้ธรรมพร้อมกับผูสายรัดเอวให้ด้วย


ทั้งสองเดินในสวนด้วยเท้าเปล่า ไม่น่าเชื่อว่าต้นไม้ร่มครึ้มที่ถูกปลูกอยู่รอบบ้าน จะทำให้ที่บ้านหลังนี้เหมือนถูกตัดออกจากโลกภายนอก 


"เมื่อเดือนก่อนสั่งต้นกระดังงาสงขลามาปลูก มันออกดอกแล้วด้วยล่ะ" นี่ล่ะกระมังคงเป็นสาเหตุที่จิมมี่อยากจะอวดธรรม เขาดึงมือของธรรมให้เดินลัดเลาะผ่านพุ่มไม้จนถึงด้านหนึ่งของบ้าน 


ต้นไม้สูงขนาดเท่าเอว ยอดอ่อน ๆ ของมันผลิแล้ว แสดงว่ารากได้ชอนไชจนเริ่มตั้งลำต้น และผลผลิตที่เป็นเครื่องยืนยัน ก็คือดอกกระดังงาสงขลา สีเขียวอมเหลืองที่กลีบของมันบิดเกลียวอย่างประหลาด เป็นดอกไม้ที่จิมมี่เคยคุยว่าอยากได้มาครอบครอง


"หอมมั๊ย?" จิมมี่เด็ดดอกไม้ที่ว่ายื่นมาจนถึงปลายจมูกของธรรม


"เด็ดทำไม ไม่ทิ้งไว้กับต้น" ธรรมทักท้วง


"พรุ่งนี้มันก็โรยแล้วล่ะ ...ว่าแต่เคยได้กลิ่นหอมแบบนี้จากใครหรือเปล่า" จิมมี่ถามละทำหน้าแง่งอน


"ไม่เคย...ไม่เคยได้กลิ่นนี้ด้วยแต่ก็หอมดีนะ แต่เราชอบกลิ่นรสช็อกโกแลตมากกว่า" ธรรมพูดพร้อมกับยื่นมือไปกอดเอวอวบ จิมมี่ทิ้งหัวทุย ๆ ไปแผ่นอกของธรรม เหลือบตาขึ้นมามองหน้าธรรมแล้วก็มองเลยไปจนมองบนหัวของธรรม...อีกแล้ว


ธรรมเอ็นดูยื่นมือรับดอกไม้จากมือของจิมมี่มาถือไว้เอง แล้วก็แซมมันไว้ที่ข้างหู เด็ดออกมาแป๊บเดียว กลีบดอกของมันก็เริ่มนิ่มเสียแล้ว แต่กลิ่นหอมกลับยิ่งขจร เพราะได้ความร้อนจากร่างกายเป็นตัวกระตุ้น


ธรรมซุกหน้าไปที่ข้างแก้ม กลิ่นหอมหวนของดอกกระดังงาสงขลาผสมปนเปไปกับกลิ่นหอมวานิลาในช็อกโกแลต มันตีกันจนธรรมต้องขยับใบหน้าหนี หันมาใช้จมูกเคลียไปกับใบหูอีกข้างของจิมมี่แทน 


มือของเขากลับมาเกเรซุกซน เลื่อนไปในซอกเสื้อคลุม บีบบี้ บดเบียดกับติ่งเนื้อที่กำลังลุกชูชัน จิมมี่ตัวอ่อนจนแทบไร้เรี่ยวแรงจะยืน


ธรรมดึงมือของจิมมี่ไปจนถึงชิงช้าที่ตั้งวางอยู่มุมหนึ่ง ต้นโมกถูกปลูกรายล้อม จนแทบจะบังมันจนมิด และเมื่อธรรมทิ้งตัวลง เขาก็ดึงตัวของจิมมี่ให้นั่งลงมาที่ตัก ปฏิบัติการใช้ลิ้นสำรวจผิวเนื้อเริ่มต้นอีกครั้ง เสื้อคลุมของจิมมี่ค่อย ๆ หลุดไพล่ไปด้านหนึ่ง ปลายลิ้นและริมฝีปากของทั้งคู่ ยังคงหยอกเย้ากันอยู่ไม่รู้เบื่อ จนรู้ตัวอีกที พระอาทิตย์ก็เริ่มอัสดงเสียแล้ว


แต่นั่นไม่ใช่เหตุที่จะทำให้กรีฑาที่หยุดลง เมื่อธรรมจะอาบน้ำและเตรียมตัวที่จะกลับบ้าน จิมมี่ก็ยังคงอยู่กับเขาในห้องน้ำ และกว่าธรรมจะแต่งตัวเสร็จ ก็ปาเข้าไปสองทุ่มเข้าให้แล้ว


"ขับรถกลับดี ๆ นะเฮีย" จิมมี่กอดอก อมยิ้ม และมองดูธรรมที่กำลังนำหมวกกันน็อกสวมที่ศีรษะ 


"อย่านอนดึกมากนะ แล้วก็อย่าลืมกินยาด้วย" ธรรมบอกพร้อมกับปิดกระจกหมวกกันน็อก เสียงรถบิ๊กไบค์สตาร์ทดังกระหึ่ม และมันก็ค่อย ๆ แล่นลับจากบ้านของจิมมี่ออกไป ไกลออกไปทุกที ไกลจนจิมมี่ยืนเหม่ออยู่หน้าบ้าน 


บ้านของจิมมี่เป็นบ้านที่อยู่ลึกที่สุดของซอย แสงไฟที่ส่องตามทางสว่างเป็นระยะ ๆ และที่ไกล ๆ จิมมี่เห็นหมาจรจัดนอนเขลงอย่างสบายใจอยู่ตัวหนึ่ง มีอยู่ตัวเดียวในซอยนี้ คนในซอยมักหยิบยื่นเศษอาหารให้มัน ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่มันก็อิ่มหนำ และดูจะไม่ได้ร้อนใจ ตรงกันข้ามมันอาจจะชอบใจก็ได้ที่ไม่ต้องถูกขังอยู่ในกรง หรือถูกสั่งให้ทำอะไรตามใจมนุษย์ อย่างเช่นให้หมอบ ให้ขอมือ มนุษย์มักจะชอบบังคับธรรมชาติเสมอ จริงสินะ แม้แต่จิมมี่เวลาที่เจอไอ้หมาตัวนั้น และนำอาหารเหลือ ๆ ของตัวเองไปฝากมัน ก็ยังอดให้มันขอมือไม่ได้เลย


ฝ่ายธรรมเมื่อกลับถึงบ้าน และเมื่อปิดประตูบ้านลงธรรมก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ไม่ใช่เพราะอะไรแต่เป็นเพราะแสงฟ้าแลบจากที่ไกล ๆ นั่นต่างหาก อีกสักประเดี๋ยวฟ้าฝนคงตกกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตา เพราะนี่มันอยู่ในช่วงพายุฤดูร้อน ดีแค่ไหนแล้วที่วันนี้ทั้งวันเมฆครึ้มคลุมสภาพอาการจนมันสลัว แต่ธรรมกลับรู้สึกสดชื่นสบายใจ เพราะธรรมได้เจอกับใครอีกคน คนที่ธรรมรู้สึกว่าเขาไม่ได้สำคัญมากขนาดที่เขาจะขาดไม่ได้ แต่ถ้าอยู่ใกล้ ๆ ธรรมก็ชอบใจเพราะ ได้ปลดปล่อยความปรารถนาทางธรรมชาติของชายหนุ่ม


นั่งคุยกับป๊าและม๊าครู่เดียว ธรรมก็ขอตัวขึ้นไปห้องนอน แต่ธรรมก็ไม่วายจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นสวมกางเกงบอลขาสั้น พร้อมกับออกกำลังกาย พร้อมกับไลฟ์ไปด้วยเพราะความเคยชิน คอมเม้นต์ถูกพิมพ์มาเรื่อย ๆ ธรรมไม่เคยสนใจจะเข้าไปอ่าน เพราะกลัวว่าจะหลุดปากพูดอะไรไม่ดี ใครใคร่ดูก็ดูไป อยากพูดอะไรก็พูดไป ธรรมไม่ได้สนใจ 


จนจะเข้านอนแล้วนั่นแหละธรรมก็อดจะนึกถึงรสสัมผัสระหว่างเขากับจิมมี่อีกหน เวลาสามปีแล้วกับความสัมพันธ์ทางกายแบบนี้ แต่ธรรมก็มีความสุขดี


จะว่าจิมมี่เป็นเมียของธรรมก็ไม่ได้ เพราะเราไม่เคยมีการสอดใส่กันเลยแม้แต่ครั้งเดียว และธรรมก็เต็มใจ แรกทีเดียวธรรมพยายามอยากจะลอง แต่จิมมี่ก็ไม่ให้ความร่วมมือ และเมื่อรู้เหตุผล ธรรมก็ไม่คิดอยากจะลองอีก 


ธรรมเคยสงสัยว่าเพราะรสนิยมของจิมมี่ มันเป็นแบบไหนกันนะ รุกหรือรับ หรือโบ้ท คือได้ทั้งสองอย่าง แต่ไม่ใช่สักนิด จิมมี่ชอบรสสัมผัสแบบภายนอก อย่างที่เขาเรียกกันว่า side และธรรมเองก็ค่อนข้างอ่อนไหวกับการสัมผัส ถ้าธรรมสอดใส่เข้าไปในโพรงสีชมพูนั้น สอดใส่ให้ลึกที่สุด กระแทกแรง ๆ กระแทกจนจิมมี่ร้องขอชีวิตจะเป็นยังไงนะ


คิดแล้วก็เสือกเกิดอารมณ์อีก หรือจะเป็นเพราะขนาดไอ้ท่อนเนื้อของธรรมที่มันใหญ่โตผิดมนุษย์มนากันนะ ที่ทำให้จิมมี่ไม่ยอมให้เขาสักที แต่ไม่รู้ล่ะ ตอนนี้ธรรมรู้สึกเงี่ยนอีกแล้ว จะนอนทีไรธรรมก็ขอน้ำแตกสักรอบ เพราะมันทำให้หลับสบาย 


แน่นอนว่าคืนนี้ผลประกอบการน้ำกามของธรรมจะไม่ได้มากแบบทุกวัน นั่งนับดูวันนี้ธรรมน้ำแตกไปหกรอบ ถ้านับรอบล่าสุดก็เป็นรอบที่เจ็ด ธรรมคงจะใช้งานกันมากเกินไป เพราะเพลียจนอยากจะหลับก็จริง แต่ธรรมก็ปวดไข่นิด ๆ ไม่น่าเล๊ย ไม่น่าคิดถึงจิมมี่เล๊ย ธรรมก่นด่าตัวเอง