ก็เพราะชีวิตประจำวันมันน่าเบื่อ ก็เลยอยากเป็นอินฟลูกับเขาสักคน

แปะจะเป็นอินฟลูฯ - 13 ช่างแอร์ในตำนาน โดย Chavaroj @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ตลก,ไทย,เล่าประสบการณ์,ยุคปัจจุบัน,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แปะจะเป็นอินฟลูฯ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ตลก,ไทย,เล่าประสบการณ์,ยุคปัจจุบัน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

แปะจะเป็นอินฟลูฯ โดย Chavaroj  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ก็เพราะชีวิตประจำวันมันน่าเบื่อ ก็เลยอยากเป็นอินฟลูกับเขาสักคน

ผู้แต่ง

Chavaroj

เรื่องย่อ



โลกยุคนี้ มันเป็นยุคของ อินฟลูเอ็นเซอร์ นั่นก็คือบุคคลที่มีผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย


อินฟลูเอ็นเซอร์ จะมีผู้ติดตามมากมายซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีส่วนร่วมในเนื้อหาที่พวกเขาพูดเป็นประจำ อินฟลูฯ มีมากมายหลายหมวด ไม่ว่าจะเป็นหมวดการท่องเที่ยว สายทำอาหาร สายวิชาการ สายบันเทิง สายสุขภาพ 


แต่ผมจะเป็นอินฟลูฯ สายไหนกันดีนะในเมื่อตัวผมเองก็ไม่เก่งอะไรสักอย่าง....เห้อ

สารบัญ

แปะจะเป็นอินฟลูฯ-1 ลูกสาวท่านฑูต,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-2 Good Day,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-3 เพื่อนร่วมงาน,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-4 เพื่อนร่วมงาน 2,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-5 เพื่อนร่วมงาน 3,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-6 หวานเป็นลม,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-7 ขมเป็นยา,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-8 ไม่เที่ยง,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-9 รสชาติของการเติบโต,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-10 มูฟออน,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-11 โอกาส,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-12 น้องธรรมของม๊า,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-13 ช่างแอร์ในตำนาน,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-14 สัมผัสพิเศษ,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-15 เผิงโหย่ว,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-16 Side,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-17 ภาพลวงตา,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-18 ภาพหลอกตา,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-19 คนเดียวหัวหาย,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-20 เบื่อ,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-21 รอ,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-22 จักจั่น,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-23 ตามหา,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-24 พบเจอ,แปะจะเป็นอินฟลูฯ-25 นิทานของแม่

เนื้อหา

13 ช่างแอร์ในตำนาน

โดย Chavaroj




เสียงกระหึ่มของมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ มันดังเสียจนคนต้องหันมามอง บ้างก็มองอย่างทึ่ง ๆ ด้วยว่าคนที่กำลังบิดคันเร่งและบีบแตรปี๊น ๆ ดูจากภายนอก ขนาดว่ายังไม่เห็นหน้าเห็นตาด้วยว่าเขาสวมหมวกกันน็อคมิดชิด แล้วยังจะเสื้อแจ็คเก็ตนั่นอีก 


แต่จากส่วนสูง กางเกงยีนทรงเดฟที่รัดติ้ว และไอ้เสื้อแจ็คเก็ตรัดติ้วนั่น เผยให้รู้ว่าเขาหุ่นดีจัด ๆ บ่ากว้าง กล้ามเนื้อหัวไหล่เป็นลูก แต่เอวกิ่วคอด และต้นขากำยำอยากจะกัดเล่นเบา ๆ ถ้าไม่กลัวตีนขนาดเบอร์ 44 ถีบกลับมา


"หนูดีเร็ว ๆ รถติด" เสียงทุ้ม ๆ ของหมอนั่นเล็ดลอดออกมาเมื่อเขาเปิดกระจกหมวกกันน็อค ครู่เดียวเด็กหญิงตัวกระจิ๋ว ผมหน้าม้าเต่อ ยิ้มกว้าง สะพายกระเป๋าเป้สะพายหลัง แล้วยังมีกระติกน้ำสีม่วงสดใส ไหนจะพวงกุญแจรูปตุ๊กตุ่นตุ๊กตาอีกสามสี่ตัว ก็วิ่งแจ้นเข้ามาหาพ่อหนุ่มบิ๊กไบค์


"มาแล้วคร่าแปะ แหมใจเย็น ๆ สิคะโรงเรียนไม่หนีไปไหนหรอกน่า" เด็กหญิงบ่น ขณะโดนชายร่างล่ำอุ้มตัวของหล่อนขึ้นไปนั่งซ้อนที่ด้านหน้า


"โรงเรียนมันไม่หนี แต่แปะจะไปทำงานสายสิคะ" เขาพูดและยิ้มอย่างเอ็นดู


"อ้อนี่ อาม่าทำไข่ยัดไส้มาฝากหนูดีด้วยนะ เมื่อเช้าแปะกินแล้วอร่อยมาก ๆ แปะกินข้าวสองจานเลยนะ" เขาพูดพร้อมกับชูถุงพลาสติกใส มองเห็นกล่องพลาสติกด้านใน และของในกล่องก็เป็นสีเหลืองทองเป็นก้อน ๆ ของไข่ยัดไส้ซึ่งแอบมีกลิ่นหอมฉุยเล็ดลอดออกมา


"ม๊าก็ชอบทำกับข้าวเผื่อจัง ที่โรงเรียนเขามีอาหารเที่ยงให้อยู่แล้วน่า" เสียงใส ๆ ดังขึ้นแบบบ่น ๆ เดินเท้าเอวเข้ามาทักทาย และพยักพเยิดหน้าให้กับพี่ชายของหล่อน แน่ล่ะ แม่ของเด็กหญิงผมหน้าม้านั่นเอง


"ม๊าทำมาแล้ว...แหมเขาตั้งใจทำ เอามาฝากแกด้วยเอ้า" พี่ชายพูดแล้วก็ยื่นถุงพลาสติกซึ่งบรรจุไข่ยัดไส้อีกกล่องให้กับน้องสาว ไม่พูดพร่ำทำเพลงกันละ รถเริ่มติด และแดดก็เริ่มร้อน 


หมวกกันน็อคใบน้อยสีชมพู ติดสติ๊กเกอร์เป็นรูปหมู และมีหูขึ้นมาสองข้างถูกสวมลงบนหัวทุย ๆ ซึ่งมีผมหน้าม้าและด้านหลังตัดสั้นเป็นทรงบ๊อบตรงแหน๋ว


"โก โก" ทั้งสองลุงหลานพูดออกมาพร้อม ๆ กันและเจ้าบิ๊กไบค์ก็แผดเสียงลั่นให้คนตกใจได้ผรุสวาสด่าบรรพบุรุษของคนขับไม่มากก็น้อย 


บิ๊กไบค์คันที่ว่า ขับฉวัดเฉวียนเพราะตอนนี้ถนนสุขุมวิทเริ่มคลาคล่ำไปด้วยรถยนต์ทุกขนาด ทั้งเก่าและใหม่ อาศัยความชำนาญ และความเร่งรีบ ใช้เวลาสิบกว่านาที บิ๊กไบค์คันที่ว่าก็มาจอดอยู่หน้าโรงเรียนอนุบาลชื่อดัง


"เมาคลีเนอสเซอร์สเซอรี่" (ดูแลบุตรหลานท่านดั่งลูกหมา) 


โรงเรียนอนุบาลนี้ช่างมีชื่ออันไม่ค่อยเป็นมงคลสักเท่าไร จำได้ว่ากว่าสองผัวเมียพ่อแม่ของยายหนูดีกว่าจะลงตัวเรื่องการหาโรงเรียนให้ลูกสาวสุดที่รักได้ ก็เถียงกันจนบ้านแตก เพราะเมียชอบโรงเรียนนี้ ด้วยว่ามีสนามหญ้าให้วิ่งเล่น แถมไม่เร่งรัดเรื่องการเรียน ปล่อยให้เด็กได้เล่นสนุก


"แล้วจะไปทันเขาได้ยังไง โรงเรียนโน้น จบอนุบาลสองเขาอ่านเอบีซีได้แล้ว" สามีเถียงทำหน้าเบื่อ เพราะเถียงเมียไม่เคยชนะ


"โอ๊ยยายหนูดีตัวแค่นี้จะให้เรียนอะไรนักหนา เรียนสูงก็ใช่ว่าจะได้เอาไปใช้ประโยชน์มากมาย ดูเฮียสิ จบปริญญาแล้วยังไงสุดท้ายก็มาอยู่ร้านขายของ ใบปริญญาได้ใช้ประโยชน์อะไรไหมเล่า ฮึ" เมียเถียงฉอด ๆ ผัวที่ดีก็ได้แต่ทำหน้าเบ้เพราะ ผัวที่ดีย่อมทำตามคำสั่งเมีย


"อนุบาลกาเหว่าก็ดีนา โรงเรียนเขาดูสะอาดสะอ้าน" แม่ผัวซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกล ไม่วายจะขอร่วมแสดงความเห็นด้วย (อนุบาลกาเหว่า ดูแลลูกเขาเหมือนลูกเราเอง) เผอิญว่าธรรมไปส่งหลานกลับบ้าน ได้ยินฉากถกเถียงกันพอดีว่าจะให้ลูกสาวสุดที่รักเรียนที่ไหนถึงจะดีที่สุด


"ลองให้หนูดีไปดูก่อนสิว่าที่ไหนน่าเรียนกว่า พรุ่งนี้ว่างเดี๋ยวจะพายายหนูดีไปเที่ยวเอง" ธรรมเอ่ย ด้วยว่าตอนนั้นว่างพอดี พาหลานสาวไปดูทั้งสองโรงเรียนชื่อดัง สุดท้ายยายตัวแสบก็เลือกโรงเรียนที่ตัวเองเห็นว่าที่นี่เหมาะกับเจ้าหล่อน


"หนูดีชอบที่นี่เพราะป้ายโรงเรียนเขาเขียนสวยดีค่ะ" หนูดีกระซิบบอกอาแปะธรรม และหัวเราะกิ๊กกั๊ก เหตุผลอาจจะไม่ค่อยเมคเซ้นส์ แต่สำหรับธรรมแล้ว เข้าใจหลานมากที่สุด 


ถอดหมวกกันน็อคและร่ำลากันแล้ว ธรรมก็ย่อตัวลงไปให้หลานสาวกอดเพื่อเป็นกำลังใจ คุณครูทั้งสาวทั้งแก่ แอบมองลุงกับหลานคู่นี้กันใหญ่ เพราะนาน ๆ จะมีผู้ปกครองหล่อและหุ่นดี ๆ แบบนี้มาให้ดูเป็นอาหารตา


"ตั้งใจเรียนนะคะ เดี๋ยวตอนเย็นป๊ามารับนะหรือไม่ก็ม๊าแหละมั้ง แปะน่าจะเลิกเย็น" ธรรมบอกกับหลาน และเด็กแก่แดดก็อมยิ้มทำหน้าเซ็ง ๆ แน่สิ ถ้าป๊าหรือม๊ามารับ ก็มักจะพาหล่อนกลับบ้านเลย แต่ถ้าเป็นแปะธรรม มารับล่ะก็ มักจะซื้อขนม แล้วก็พาออกนอกเส้นทาง ไปดูอะไรแปลก ๆ สนุก ๆ ครั้งหนึ่งไปถึงสวนหลวงร.๙ เพราะมีงานพรรณไม้งามอร่ามสวนหลวง เดินจนขาปวดไปหมด แต่ที่ชอบใจคือมีพลุหนูดีจำได้ไม่ลืมเลยทีเดียว


"ให้แปะหอมที" ธรรมพูดเบา ๆ แล้วก็ยื่นหน้าเอาปลายจมูกโด่ง ๆ ไปหอมแก้มตุ่ย ๆ ของหลานสาวสองที


"เป็นไงคะแปะ?" เด็กสาวกระซิบถาม และอมยิ้มอย่างมีเลศนัย 


"อืม.....เหมือนขนมปังชีสที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ ๆ" ธรรมพูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ ร่ำลากันแล้วก็ยืนมองหลานสาวที่มีอะไรพะรุงพะรังเดินหายเข้าไปในโรงเรียน


ก่อนจะสตาร์ตรถ ขณะที่กำลังสวมหมวกกันน็อคอย่างใจลอย พอธรรมสูดหายใจลึก ๆ กลิ่นหอมของขนมปังชีสยังฟุ้งอยู่ในโพรงปากและโพรงจมูก เขาอมยิ้มและสลัดหน้าไปมาเบา ๆ พร้อมกับรีบขับรถไปยังจุดหมายคือที่ทำงาน


งานประจำของธรรมคือช่างแอร์ ธรรมเลือกทำงานที่นี่เพราะเป็นร้านของรุ่นพี่ ตัวของธรรมเองชอบเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าและวงจรต่าง ๆ มาตั้งแต่เด็กแล้ว 


ความประทับใจแรกของธรรมก็น่าจะราว ๆ ประถมสามหรือประถมสี่นี่ล่ะ ธรรมก็ชักจะเลือน ๆ ไปแล้วแต่รู้ว่าเด็กเหลือเกินล่ะ


ตอนนั้นหน้าร้อน ร้อนเสียจนแทบจะนอนกันไม่ได้ ด้วยว่าแสงแดดที่แผดเผากรุงเทพฯ ในช่วงกลางวัน ก็ทำให้ร้อนพอแรง แต่พอพลบค่ำเท่านั้นล่ะ ไอร้อนที่ซ่อนตัวอยู่ตามถนน และตึกอาคารต่าง ๆ ก็จะถูกคายออกมา 


ถ้าลมไม่พัดด้วยล่ะก็ มันก็เหมือนอยู่ในเตาอบดี ๆ นี่เอง เล่นเอาธรรมและคนอื่น ๆ ในบ้านนอนกันไม่หลับ


ตอนนั้นจำได้ว่าธรรมและครอบครัวยังอยู่แฟลตทหาร เดชะบุญที่อยู่กันชั้นสามไม่ได้อยู่ชั้นบนสุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ร้อนจนป๊าต้องถอดเสื้อนอน เตียงนอนของป๊ากับม๊าไม่มีใครยอมใช้เป็นที่นอน 


ผ้าผืนบาง ๆ ถูกปูที่พื้น แล้วทุกคนก็มานอนด้วยกัน พัดลมสองตัวถูกเปิดทำงานตลอดเวลาตัวใหญ่ใช้เปิดส่ายไปมา ส่วนตัวเล็กเปิดจ่อตรง เพราะอากาศร้อนจนนอนแทบไม่ได้ 


ยิ่งตอนนั้นธรรมยังเด็ก แถมยังไม่แข็งแรง จะฤดูไหนธรรมก็ป่วย หน้าร้อน โดนพัดลมจ่อตัว ธรรมก็เป็นไข้ หน้าฝนอากาศชื้น ธรรมโดนละอองฝน ธรรมก็เป็นหวัด ส่วนหน้าหนาวไม่ต้องเป็นห่วง ภูมิแพ้กำเริบ ธรรมไม่สบายอีกแล้ว


ป๊าก็เลยยอมตัดปัญหา ซื้อแอร์มันหนึ่งตัว เงินเดือนจ่าตรีไม่ได้มาก แต่โชคดีที่มันผ่อนได้ ป๊าก็เลยต้องยอมกัดฟันทน


"โอ้โห มันเย็นดีจัง" ธรรมบ่นกับตัวเอง นั่งยอง ๆ กับแอร์ที่กำลังเดินเครื่อง และส่งไอเย็นสบายใส่หน้า 


"นี่น้องธรรม ห้ามแงะเปิดดูมันเด็ดขาดเชียวนะ" ม๊าที่รู้นิสัยลูกชายว่านอกจากจะกินยากแล้วยังอยากรู้ยากเห็น ชิงเปรยแต่ต้นมือ 


"ถ้าม๊าเห็นมาแงะมันล่ะก็ จะตีเสียให้มือหัก" ม๊ากำชับตอนท้าย ธรรมไม่กลัวหรอก เพราะธรรมรู้ว่าในบรรดาพี่น้องสาวคม ม๊าน่ะรักและสงสารธรรมที่สุด 


แต่วันดีคืนดี ป๊าก็ชวนธรรมมาล้างแผงกรองแอร์ ไม่น่าเชื่อว่าห้องที่แสนสะอาดสะอ้าน เพราะทั้งป๊าและม๊าเป็นคนเจ้าระเบียบและชอบความสะอาด แต่ถึงอย่างนั้นแผ่นกรองก็มีฝุ่นจับเสียหนาเตอะ 


ยิ่งธรรมรู้ว่าตัวเองเป็นคนไม่ได้มีหัวในด้านคำนวณเหมือนน้องสาว แล้วก็ชอบลงมือปฏิบัติมากกว่าที่จะมาท่องจำ ธรรมก็บอกตัวเองเลยอย่างมั่นใจว่าธรรมจะเป็นช่างไฟ จะซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า จะซ่อมอะไรให้มันได้ให้หมด 


แต่ตอนนี้ช่างมันไปก่อนธรรมจอดรถที่หน้าห้องแถวซึ่งเป็นสำนักงานออฟฟิศของธรรม ทักทายเพื่อนร่วมงานและเฮียบู๊ เจ้าของบริษัท 


"เออมาแล้วเหรอวะ เอ๊าวันนี้งานเยอะหน่อยนะ ล้างแอร์ที่คอนโดXXX" เฮียบู๊กล่าวพร้อมกับจะยื่นมือมาแตะไหล่ธรรมแต่ธรรมก็ไหวตัวทัน หลบตัวออกมาอย่างว่องไวเสียก่อน


"เฮียลืม ขอโทษทีโว๊ย" เฮียบู๊กล่าว ยิ้มเก้อ ๆ แล้วก็บรีฟงานกับพวกเรา


เพื่อนร่วมงานของธรรมมีด้วยกันหกคน ถ้าโดยปกติ ก็ไปทำงานกันเป็นคู่ ๆ แต่งานนี้งานใหญ่ ต้องระดมกันไปหมดนี่ คอนโดที่ว่าเป็นคอนโดกลางเก่ากลางใหม่ ซึ่งว่าจ้างบริษัทของเฮียบู๊ให้ดูแลเรื่องไฟฟ้า มาสองปีแล้ว ด้วยว่าทำงานเรียบร้อย ซื่อสัตย์ และสุภาพ 


นับวันลูกค้าหอพัก คอนโด แมนชั่น ต่าง ๆ แม้แต่บ้านเรือนมากมายก็มักจะใช้บริการของเฮียบู๊มากขึ้นทุกที ด้วยว่ามีการปากต่อปาก แนะนำกันมา จนธรรมมีงานล้นมือทุกวัน 


งานของธรรมนั้นเป็นงานมีเงินเดือน แต่ก็จะได้เงินพิเศษจากการไปล้างแอร์ตัวละหนึ่งร้อยบาท วันนึงล้างแอร์เสียสิบตัว ก็ได้แล้วตั้งหนึ่งพัน หนึ่งเดือนก็สามหมื่น ไม่รวมเงินเดือน 


แต่ชีวิตจริงมันก็ไม่ได้ยุ่งขนาดนั้นหรอก เฮียบู๊เป็นคนยุติธรรมแบ่งงานให้กระจาย ๆ จนได้เงินพิเศษพอ ๆ กัน แต่ธรรมนั้นเฮียบู๊จะค่อนข้างถูกใจในฝีมือด้วยว่าธรรมเป็นคนทำงานประณีต และลูกค้ามักจะเอ่ยปากชม ที่สำคัญ ลูกค้าชอบที่ช่างรูปหล่อ กล้ามโต


รถกระบะของออฟฟิศพาบรรดาช่างแอร์ไปยังคอนโดของลูกค้าธรรมบิ๊กไบค์ของเจ้าตัวตามมาติด ๆ ไม่วายว่าจะมีคนบ่นว่าขอติดรถธรรมมาด้วยเพราะไม่อยากแออัดอยู่บนรถกระบะโดยมีเฮียบู๊เป็นผู้ขับ แถมขับไปบ่นไปซะอีก 


แต่ธรรมก็จนใจ เขาไม่ใช่คนไร้น้ำใจ แต่ไม่สามารถให้คนอื่นนั่งซ้อนท้ายได้จริง ๆ จะได้ก็เฉพาะคนพิเศษ ๆ เท่านั้น ไม่ใช่แค่ต้องรู้จัก แต่ต้องทำให้ธรรมไม่รู้สึกแย่ด้วย


สิ่งที่ธรรมต้องระวังและป้องกันตัวคือการถูกสัมผัสอย่างไม่ตั้งใจ บางคนก็ดีบางคนก็ร้าย บางครั้งธรรมก็เบื่อหน่าย เพราะสิ่งที่ธรรมเป็น มันเป็นได้ทั้งพรจากสวรรค์ หรือคำสาปจากนรก


ธรรมเป็นกลุ่มอาการ ซินเนสทีเซีย ซึ่งจะเป็นปรากฏการณ์รับรู้ทางประสาทสัมผัสแบบพิเศษ


กล่าวคือ ถ้ามีใครมาสัมผัสโดนตัวของธรรม ธรรมจะได้กลิ่นหรือรส อย่างเมื่อเช้า ตอนที่ธรรมหอมหลานสาว ธรรมก็จะได้กลิ่นหอม ๆ ของขนมปังอบใหม่ ๆ มันไม่ได้เกิดจากการคิดและหลอนประสาทไปเอง ธรรมเองก็ไม่เข้าใจ แต่ม๊าเล่าว่าธรรมน่าจะเป็นเพราะตอนธรรมยังเป็นทารก เคยชักเพราะเป็นไข้ ซึ่งจะเป็นจริงอย่างที่ม๊าคิดหรือเป็นเพราะมันเป็นธรรมชาติของธรรมเองก็สุดจะรู้


แต่ธรรมรับรู้ได้ว่าถ้าธรรมโดนม๊ากอด ธรรมจะรู้สึกได้ถึงรสมัน ๆ หวาน ๆ และกลิ่นหอม ๆ ของนมสด ๆ แต่ถ้าเป็นป๊าที่ธรรมไปโดนตัว ธรรมจะได้กลิ่นน้ำมันเบนซิน ซึ่งธรรมว่ามันหอมดี


ถ้าเป็นไอ้ธงมานอนเบียดธรรม ธรรมจะได้กลิ่นฟักทองอบ หรือฟักทองย่าง และถ้าโดนธารกอดคอ เวลาไปซุกซน ธรรมจะได้กลิ่นหอม ๆ ของน้ำยาปรับผ้านุ่ม


ไม่ใช่แค่นั้น การสัมผัสอวัยวะต่าง ๆ ก็ให้กลิ่นที่ต่างกันไป ถ้าสัมผัสโดนแขนข้างขวา ธรรมจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นไก่ทอด แต่ถ้าโดนไหล่ซ้าย ธรรมจะได้กลิ่นข้าวสุกใหม่ ๆ เป็นต้น


แต่ถ้าระหว่างทำงาน ซึ่งมันต้องโดนเนื้อโดนตัวกันโดยบังเอิญ ใจของธรรมโฟกัสอยู่กับงาน ธรรมก็จะไม่ค่อยได้กลิ่นเท่าไร 


"ขออนุญาตนะคร้าบ" ธรรมกล่าวเสียงนุ่ม หลังจากเคาะประตู และเจ้าของห้อง เปิดประตูรับ


"ช่างมาล้างแอร์ค่ะ นอกจากจะให้ล้างแอร์ มีอะไรอยากให้ทำเพิ่มเติม แจ้งช่างได้เลยนะคะ" พนักงานดูแลอาคารพูดเสียงเจื้อยแจ้ว ธรรมกับเพื่อนร่วมงานได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ พากันแบกบันได และเครื่องมือทยอยเข้าไปในห้องของลูกค้า


"ปูผ้าก่อน" ธรรมสั่ง เพราะเจ้าคนที่ทำงานกับธรรมเด็กกว่าและเข้ามาใหม่ธรรมเลยต้องสอนงานรุ่นน้อง 


"ช่างคะเหนื่อยมั๊ย มีน้ำหวานแล้วก็ขนมนะคะ ทานได้เลยนะคะไม่ต้องเกรงใจ" เสียงเจ้าของห้อง พูดอย่างหยาดเยิ้ม ไอ้ติ่ง ลูกน้องของธรรมยิ้มพลางมองธรรมอย่างมีความหมาย ธรรมกล่าวของคุณเรียบ ๆ แล้วหันไปขึงตาใส่ไอ้คนที่ทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้า


"ช่างเปลี่ยนหลอดไฟให้ด้วยได้มั๊ยคะ ไม่รู้เป็นอะไรไฟมันติด ๆ ดับ ๆ" เจ้าหล่อนอ้อนอีก ส่วนธรรมก็อือ ๆ ครับ ๆ เพราะมือก็กำลังง่วนอยู่กับการประกอบแอร์ให้กลับไปอยู่ในสภาพเดิม


"แหมดีจริง ขอบคุณช่างมาก ๆ เลยนะคะ จอยล่ะไม่ค่อยรู้เรื่องพวกไฟฟ้าอะไรพวกนี้เลย เอ่อ ขอไลน์ช่างไว้ได้ไหมคะ เผื่อจอยมีปัญหาอะไรอยากรู้จะได้ถามช่างโดยตรง ช่างรับงานนอกด้วยหรือเปล่าเอ่ย?" อ่อยกันขนาดนี้ ไอ้ติ่งยิ้มกว้างปากจะฉีกถึงรูหู


"นี่นามบัตรครับ บริษัทเรายินดีให้บริการนะครับ" ธรรมพูดเสียงเรียบ ๆ และยื่นนามบัตรให้เจ้าหล่อน ขนาดไม่รับมุกทอดสะพานขนาดนี้ เจ้าหล่อนก็โกรธธรรมแทบไม่ลง 


"เฮียไม่ให้ไลน์วะ ยายนี่นมโตชิปเป๋ง ตูดนี่เช้งกระเด๊ะไปเลยว่ะ" ไอ้ติ่งกระซิบกระซาบนินทาลูกค้า ธรรมอดจะขมวดคิ้วทำหน้าดุ จนไอ้ติ่งรู้ตัวว่าได้พูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกมาเสียแล้ว


"อย่านินทาลูกค้า เราไม่รู้หรอกว่าคนอื่นได้ยินหรือเปล่า แล้วถ้าได้ยินเขาจะทำยังไง" ธรรมพูดสอนและไอ้ติ่งก็ยิ้มแห้ง ๆ 


"ไป ๆ ไปห้องต่อไปได้แล้ว" ธรรมกลบเกลื่อน ไม่อยากให้บรรยากาศในการทำงานเสีย ธรรมชินเสียแล้วกับอะไรแบบนี้ ไม่ใช่ว่าธรรมไม่หลงระเริงกับการที่ใคร ๆ ก็แสดงว่าชอบธรรม ทั้งแสดงออกมา แสดงออกน้อย 


ยิ่งตั้งแต่สมัยที่ธรรมค่อย ๆ ฟิตตัวเองจนหุ่นดี จากไอ้กุ้งแห้ง กลายเป็นไอ้กล้าม ใคร ๆ ก็พากันอ่อย พากันขายขนมจีบ แต่ธรรมก็ไม่คิดสานต่อเลย ธรรมไม่ใช่พระอิฐพระปูน เคยแล้วที่อยากจะลองทำอะไรที่มันท้าทายต่อศีลธรรม แต่จนแล้วจนรอด ธรรมก็ยั้งใจตัวเองไว้ได้ 


ธรรมไม่ใช่คนดีเด่อะไรขนาดนั้น ออกจะเป็นคนเทา ๆ และค่อนข้างลามกซะด้วย แต่ธรรมรู้ว่าธรรมชอบอะไร และไม่ชอบอะไร ธรรมชัดเจนกับตัวเองเสมอ ต้องขอบคุณการเลี้ยงดูธรรมจากป๊าและม๊า 


ธรรมไม่เคยเห่อเหิม แต่ธรรมรู้สึกรักตัวเอง และรู้ว่าธรรมชอบอะไร ธรรมพร้อมที่ปกป้องสิทธิของตัวเอง ไม่ยอมให้ใครละเมิด แต่ธรรมก็ทำอะไรที่มันค่อนข้างจะหมิ่นเหม่ต่อศีลธรรมบ้างในบางครั้ง แต่ในเมื่อธรรมคิดแล้วว่าธรรมป้องกันได้ที่จะ ไม่ทำให้ความชอบของธรรมกระทบกระเทือนถึงชื่อเสียงคนอื่นในครอบครัว ธรรมก็อยากจะทำให้ได้อย่างใจ


ช่วงพักเที่ยงหลังจากกินข้าวกันจนอิ่มหนำ ธรรมเลี่ยงที่จะไปนั่งเล่นอยู่คนเดียวตรงที่ห่างจากเพื่อนร่วมงาน โทรศัพท์มือถือถูกเปิดขึ้นธรรมหันซ้ายหันขวา และเปิดดูการแจ้งเตือนที่ขึ้นฟีดมากมาย


ไหนจะข้อความในกล่องข้อความอีกนับร้อย ๆ นั่นอีกเล่า


"เห้อ ต้องลงรูปลงคลิปใหม่ซะหน่อยละ" ธรรมเปรยกับตัวเองเบา ๆ หันซ้ายหันขวาตอนที่ไม่มีใคร ธรรมค่อย ๆ แบะอกเสื้อจนกล้ามอกด้านขวาโผล่ออกมา ธรรมเกร็งเล็กน้อย จนมัดกล้ามขึ้นเป็นลูก ซีกหน้าหนึ่งปรากฏติดในภาพถ่ายด้วย ธรรมปรับแสงเงา ปรับโทนสีอีกนิดหน่อย แล้วเขาก็โพสรูปนมเต่ง ๆ ของตัวเองลงในโซเชียล ยิ่งกล้ามอกของธรรมมีเหงื่อพราวอยู่นิด ๆ เพราะอากาศอบอ้าว รูปกล้ามอกของธรรมก็ชัดยิ่งขึ้นจนเป็นมันเงา


"เฮียธรรมไปทำงานกันเถอะ" ไอ้ติ่งตะโกนจากที่ไม่ไกลออกไป ธรรมหันไปมองหน้ามัน พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ เก็บโทรศัพท์ลงในกางเกง และรีบติดกระดุมเสื้ออย่างว่องไว


ถ้าไอ้ติ่งไม่เรียกธรรมให้กลับไปทำงาน และธรรมมมีเวลาอยู่หน้าจอนานกว่านั้นอีกสักนิด เพียงเวลาไม่กี่นาที ธรรมก็จะเห็น การกดไลค์ กดหัวใจ การคอมเม้นต์ การกดแชร์ และที่สำคัญ ธรรมไม่รู้หรอกว่ารูปของธรรมถูกเซฟกี่ร้อยครั้ง แต่ตัวเลขใต้ภาพถูกขยับขึ้นรัว ๆ 


"ช่างแอร์ในตำนาน" ธรรมเขียนข้อความสั้น ๆ พร้อมกับรูป ซีกหน้าด้านหนึ่ง กับกล้ามอมตูม ๆ 


ธรรมทำงานเพลินจนลืมคิดถึงรูปที่โพสต์ไว้เมื่อตอนเที่ยง จนตอนเย็นนั่นล่ะ ที่มีข้อความส่งมาถึงธรรม และเมื่อเขาเปิดออกดู ธรรมก็ยิ้มอย่างพออกพอใจ เพราะได้เวลาที่ธรรมจะไปทำอะไรสนุก ๆ อีกแล้ว