ชายหนุ่มแสนธรรมดาใช้ชีวิตกับเพื่อนสาวสมัยเด็กมาเนิ่นนาน แต่ฝันประหลาดชักนำให้เด็กหนุ่มพานพบกับเหตุการณ์อันเป็นจุดพลิกผันและแยกจาก ความทรงจำ สงคราม กาลเวลา การลืมตาตื่นแห่งการเดินทางเพื่อทวงคืนสิ่งที่สำคัญจึงเริ่มต้นขึ้นบนหน้ากระดาษของยุคสมัยใหม่อันเป็นปฐมบทของมหากาพย์นี้

บันทึกกาล เทพไร้นาม - ตอนที่ 27, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (VII) โดย นักประพันธ์ดารา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,ดราม่า,ดาร์ค,สงคราม,แอ็คชั่น ,แอ็กชัน,แอ็คชั่น,พระเอก,แฟนตาซี ,พล็อตสร้าง,ผจญภัย,แอคชั่น,เวท,เวทมนต์,เวทมนตร์,ดาร์กแฟนตาซี,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกกาล เทพไร้นาม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,ดราม่า,ดาร์ค,สงคราม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แอ็คชั่น ,แอ็กชัน,แอ็คชั่น,พระเอก,แฟนตาซี ,พล็อตสร้าง,ผจญภัย,แอคชั่น,เวท,เวทมนต์,เวทมนตร์,ดาร์กแฟนตาซี,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

บันทึกกาล เทพไร้นาม โดย นักประพันธ์ดารา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชายหนุ่มแสนธรรมดาใช้ชีวิตกับเพื่อนสาวสมัยเด็กมาเนิ่นนาน แต่ฝันประหลาดชักนำให้เด็กหนุ่มพานพบกับเหตุการณ์อันเป็นจุดพลิกผันและแยกจาก ความทรงจำ สงคราม กาลเวลา การลืมตาตื่นแห่งการเดินทางเพื่อทวงคืนสิ่งที่สำคัญจึงเริ่มต้นขึ้นบนหน้ากระดาษของยุคสมัยใหม่อันเป็นปฐมบทของมหากาพย์นี้

ผู้แต่ง

นักประพันธ์ดารา

เรื่องย่อ




ตารางอัพนิยายจะอัพทุกวัน 18.00 น. และวันเสาร์อาทิตย์เวลา 19.00 น. เวลาอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมต่อไปในอนาคตนะครับ

เรื่องย่อ : ลิซชายหนุ่มมัธยมปลายธรรมดาที่ในอดีตประสบอุบัติเหตุปริศนาจนเสียพ่อแม่และความทรงจำไป ตอนนี้ได้อาศัยอยู่กับเพื่อนสมัยเด็กนาม “ธิน่า” ในทุกคืนลิซจะฝันเห็นถึงเรื่องประหลาด ตัวตนของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ประสบการณ์ ความทรมานและอีกหลาย ๆ อย่าง เขาเก็บเป็นความลับกับธฺิน่าและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขเรื่อยมา แต่ทว่า


วันหนึ่งธิน่าก็ถูกจับตัวโดยตัวตนปริศนาและลิซก็ถูกสังหาร เขาดำดิ่งลงสู่มิติปริศนาที่เขาคอยเห็นผ่านฝันมาตลอด เขาได้รู้ความจริงบางส่วนและเลือกลืมตาตื่นในฐานะ “เทพเจ้า” สายเลือดพิเศษครึ่งหนึ่งที่ไหลเวียนในตัวเขามาตลอด เพื่อเข้าต่อสู้ต่อมาเขาได้รู้จักกับพรรคพวกของธิน่าและเลือกออกเดินทางไปช่วยธิน่า แต่ก่อนจะไปถึงเขาจะต้องเดินทางผ่านอาณาจักรทั้ง 9 เสียก่อน กระแสกลียุคครั้งใหม่ เปลิวเพลิงแห่งหวังอันมืดมิดถูกจุดประกาย ณ ห้วงลึกของกาลเวลา

ท้ายที่สุดการเดินทางแสนยาวนานจะจบลงที่ตรงไหน ก็คงมีแต่ผู้ที่ไปถึงเท่านั้นจะรู้ได้…


#คำเตือน# เนื้อหาในนิยายบางตอนมีการบรรยายถึงดราม่าที่อาจทำให้รู้สึกหดหู่หรือซึมเศร้า เลือด โศกนาฏกรรม การตาย และการ depress ของตัวละครหรือกระทั่ง อาการ PTSD ก็ตาม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เรื่องนี้ไม่เหมาะกับผู้มีอาการซึมเศร้า หดหู่หรือพึ่งประสบเจอสิ่งแย่ ๆ ในชีวิตมา โปรดหลีกเลี่ยง


จากนี้เชิญสนุกกับนิยายได้เลยครับ

สารบัญ

บันทึกกาล เทพไร้นาม-Prologue สองเส้นขนานบรรจบ??,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 1, บทที่ 1 ชีวิตสามัญยามเช้า,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 2, บทที่ 1 เปิดเรียนวันแรก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 3, บทที่ 1 ฟันเฟืองเริ่มขยับ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 4, บทที่ 1 ฝันร้ายในเรือนกระจก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 5, บทที่ 1 สัญญาณลางร้าย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 6, บทที่ 1 The Last supper มื้ออาหารสุดท้าย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 7, บทที่ 1 ภัยร้ายมาเยือน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 8, บทที่ 1 จุมพิตอำลา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 9, บทที่ 1 คำตอบ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 10, บทที่ 1 การต่อและความช่วยเหลือ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 11, บทที่ 1 ความจริง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 12, บทที่ 1 จดหมายแด่จอห์น,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 13, บทที่ 1 สิ่งที่แปรเปลี่ยนไป,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 14, บทที่ 1 โอกาส,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 15, บทที่ 1 ฝึกฝน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 16, บทที่ 1 เพลิงเหน็บหนาวผ่าขั้วหัวใจ (I),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 17, บทที่ 1 เพลิงเหน็บหนาวผ่าขั้วหัวใจ (II),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 18, บทที่ 1 เดินทางสู่ป่าลึก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 19, บทที่ 1 การต่อสู้พร้อมความสูญเสีย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 20, บทที่ 1 ความเป็นความตาย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 21, บทที่ 1 การเตรียมใจและความเชื่อมั่น,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 22, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (I),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 23, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (II),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 24, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (III),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 25, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (IV),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 26, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (VI),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 27, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (VII),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 28, บทที่ 1 จุดหมายต่อไป,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 29, บทที่ 1 เส้นทางจากนี้,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 30, บทที่ 2 ปรปักษ์แห่งพระเจ้าผู้สวมหน้ากากคนเขลา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 31, บทที่ 2 สู่ 'อีกด้าน',บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 32, บทที่ 2 ผู้ถูกทิ้งสู่เบื้องล่าง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 33, บทที่ 2 เหล่าเศษขยะผู้มารวมกัน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 34, บทที่ 2 คำประกาศของผู้มาเยือน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 35, บทที่ 2 ยมทูตแห่งแสงสว่าง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 36, บทที่ 2 อาทิตย์ยามสนธยา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 37, บทที่ 2 การสนทนาด้วยดาบ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 38, บทที่ 2 ความตายคอยจับจ้อง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 39, บทที่ 2 ออบซิเดียนที่เจิดจรัสที่สุด,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 40, บทที่ 2 เพลิงแค้นของผู้ร่วงหล่น

เนื้อหา

ตอนที่ 27, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (VII)

หมอกควันที่ค่อย ๆ เลือนหายไป ปรากฎให้เห็นผู้ยืนกำชัยและผู้พ่ายแพ้ในหมอกควันที่เลือนหาย และตัวจริงของผู้ชนะนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ

“ลิซ!!!”

“เจ้าเด็กเทพ!!”

คนคนนั้นคือลิซที่ตามตัวมีแต่แผลจากการปะทะของคลื่นพลังและอาวุธของทั้งสอง ผู้แพ้อย่างเดียร์มุดก็หัวเราะพร้อมกับเลือดที่กระอักออกมา

“เป็นชัยชนะของเจ้าสินะ”

ไม่นึกว่าในช่วงเวลาแค่ 10 วินาที เจ้าสามารถมองและโต้กลับวิชาของข้าออกได้ เจ้าใช้หอกเป็นตัวล่อและแยกดาบมาเพื่อแทงข้า หนำซ้ำยังเร่งความเร็วขึ้นซึ่งเร็วกว่าก่อนหน้ามากจนข้าตอบสนองไม่ทัน

“เยี่ยมยอดมาก ลิซ….”

เดียร์มุดเอ่ยชื่นชมอย่างซื่อตรงและลิซเองก็รับไว้

“นายเองก็เช่นกัน เดียร์มุด”

เขาเองก็ชมเดียร์มุดกลับที่สามารถทวงความยึดมั่นวิถีแห่งนักรบของตนได้ แม้ว่าจะเคยสูญเสียมันมาแล้วก็ตาม

คำพูดสั้น ๆ แต่เอ่อล้นไปด้วยความหมายและความเคารพของนักรบทั้งสองต่างส่งไปถึงอีกฝ่ายโดยที่ทั้งสองต่างรับรู้ทั้งยังสัมผัสถึงมันได้เช่นกัน 

ไม่ต้องใช้คำพูดอันสวยหรูหรือคำโกหกอันหอมหวานเพียงแค่ซื่อตรงและถ่ายทอดอารมณ์ที่มีลงไปในคำพูดเป็นพอ

“เดียร์มุด…นายช่วยบอกเหตุผลที่นายทำแบบนี้ได้ไหม?”

เดียร์มุดได้ยินตาของเขาก็เบิกกว้าง เขาใช้แรงที่เหลือพยายามลุกขึ้นมาและบอกกับลิซ

“ที่ฉันทำแบบนี้เพราะ…”

แต่ไม่ทันไรสายฟ้าก็ฟาดลงมาที่เดียร์มุด แต่เดียร์มุดก็สามารถผลักลิซออกไปได้ทันแต่เขาโดนสายฟ้าไปเต็ม ๆ เนื้อหนังถูกเผาไหม้จนส่งกลิ่นออกมาพร้อมกับร่างที่ล้มลงของนักรบผู้ทรงเกียรติ

“เดียร์มุด!!”

เสียงของลิซ ซิกฟรีดและซาฮาประสานกันโดยไม่ตั้งใจ ทั้งสามต่างวิ่งกรูเข้าไปเพื่อดูอาการของเดียร์มุด

ลิซพยายามประคองเขาขึ้นมาและต่อให้ไม่ต้องตรวจแบบละเอียดก็รู้ได้เลยว่า…เขาใกล้จะตายแล้ว

“ละ…ลิซ แค่ก ๆ”

เดียร์มุดพูดชื่อของลิซพร้อมทั้งกระอักเลือดออกมา ร่างกายของเขาเสียหายอย่างหนัก กระทั่งหอกคู่กายยังแตกเป็นเสี่ยง ๆ ซิกฟรีดและซาฮาที่มาทีหลังเมื่อเห็นสภาพร่างกายของเดียร์มุดก็รู้ว่าจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น

“ลิซ ฉันมีเรื่องต้องบอกนาย…”

“หยุดพูดก่อนสิ!! นายต้องรอดนะ!!”

ลิซพยายามห้ามปรามเดียร์มุดแต่ตัวเขาเองก็รู้ว่าชะตากรรมของตนจะเป็นอย่างไร

“คนที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้…คนที่ฉันทำงานให้ด้วยคือ…1 ในเทพเจ้าหนุ่มที่แข็งแกร่งที่สุด ผู้กวัดแกว่งค้อนแห่งความยุติธรรม ผู้บงการสายฟ้าฟาด นามนั้นคือ…เทพเจ้าสายฟ้าธอร์!!”

“ธอร์นี่หมายถึงธอร์บุตรแห่งโอดินงั้นเหรอ!?”

ซิกฟรีดได้ยินก็ตกใจและหน้าถอดสี

“ใช่…และเขาเป็นคู่หมั้นของเทพีแห่งสงครามและราตรีมืด อาธีน่าแห่งโอลิมปัส!!”

“เขาเป็นคู่หมั้นของธิน่าด้วยเหรอ!?”

สาเหตุที่ธิน่าถูกจับไปเรื่องนี้ก็มีส่วนสินะ…

“ด้วยเหตุที่โอดินแห่งแอสการ์ดและซุสแห่งโอลิมปัส 2 เทพสูงสุดคิดจะผลิตทายาทเลือดบริสุทธิ์ที่มีพลังมากล้น อีกทั้งซุสยังโปรดปรานธิน่าเป็นพิเศษอีกด้วย…”

เดียร์มุดพยายามพูดออกมาแต่เลือดก็กระอักออกมาไม่หยุดและลมหายใจที่ค่อย ๆ แผ่วเบา

“ลิซ…เจ้าคงรู้ว่าจะทำยังไงถึงจะไปที่ที่ธิน่าถูกจับได้อยู่แล้วสินะ??”

“อ่า…ใช่แล้ว”

“ถ้างั้นอุปสรรคที่เจ้าต้องฟันฝ่ายังคงมีอีกมากมายนัก ยังไม่รวมกับพวกที่แข็งแกร่งกว่าฉันด้วย ฉะนั้นนายต้องควบคุมและใช้พลังของนายให้ได้!!”

“และที่นายให้เวลาฉันคงเพื่อการนั้นสินะ…”

“นายพูดอะไรของนายน่ะ ลิซ?”

“ใช่ เจ้าเด็กเทพนายพูดอะไรออกมาน่ะ?”

ทั้งซิกฟรีดและซาฮาต่างสงสัยว่าทำไมลิซถึงพูดแบบนี้ออกมากับศัตรูที่กะจะฆ่าเขา แต่ลิซก็ยังคงความสงบของตนไว้และพูดต่อ

“ตอนที่ผมใช้พลังความทรงจำบางส่วนผมก็กลับคืนมา ทั้งยังสามารถรับรู้อดีตหรือความรู้สึกของสิ่งที่ต่าง ๆ ได้”

“เป็นไปไม่ได้น่า!? พลังในการหยั่งรู้ในทุกสรรพสิ่งงั้นเหรอ!?”

ซิกฟรีดตกใจกับคำตอบที่ลิซมอบให้ เขาคิดว่าการมีพลังระดับนี้นั้นมันเทียบเท่าหรืออาจจะเหนือกว่าเทพสูงสุดทั้ง 2 ก็เป็นได้

ลูกชายของคุณทั้งสองนี่พิเศษแบบที่พวกคุณเคยว่าจริง ๆ

“ใช่แล้ว…ฉันรู้ดีว่าสิ่งที่อยู่ในตัวนายคือสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง นายคือ******”

‘เอ๊ะ!! ทำไมอยู่ดี ๆ ก็ไม่ได้ยิน…’

ลิซรู้สึกเวียนหัวจนจะล้มหลังจากได้ยินคำพูดของเดียร์มุด

***** งั้นเหรอ? มันคืออะไรกันแน่?

แต่ก่อนที่ลิซจะถามคำถามกับตนไปมากกว่านี้ เดียร์มุดก็สำลักเลือดออกมาอีกครั้ง ลิซดึงสติของตนกลับมาก่อนจะมองไปที่เดียร์มุดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยราวกับสูญเสียสหายร่วมรบไป

“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ…ตลอดชั่วชีวิตตั้งแต่เสียสิ่งที่รักไปก็หลงผิด ข้าก็ทำทุกอย่างเพื่อจะได้เจอกับคนรัก ทั้งที่รู้ว่านั้นคือการหลอกตัวเองไปวัน ๆ ทำให้เกียรติยศที่ตนเฝ้าทะนุถนอมมาต้องแปดเปื้อนไปด้วยเลือดและคำโกหก….”

เดียร์มุดพยายามพูดในสิ่งที่เขาอยากจะพูด เขารู้ตัวดีว่าอีกไม่นานเขาก็จะตาย…

“แต่ว่านี่คือครั้งแรกในหลายร้อยหรือหลายพันปีที่ฉันได้ซื่อสัตย์ต่อหัวใจตนอีกครั้ง และได้ต่อสู้อย่างสุดความสามารถโดยที่เดิมพันทุกอย่างไว้กับมันเป็นครั้งสุดท้าย ฉันดีใจจริง ๆ ลิซ ที่ฉันได้จบชีวิตลงเพราะการต่อสู้ของเรา…ฉัน…ดะ…ดีใจ…จริง ๆ”

สิ้นสุดคำพูดนั้นเดียร์มุดก็ได้สิ้นใจลงในอ้อมแขนของนักรบหนุ่มที่เอาชนะเขาได้ เขาไม่มีแม้แต่ความโกรธหรือเกลียดชัง มีแต่คำขอบคุณและความปิติที่ถูกสังหารลงด้วยเด็กหนุ่มผู้มีชะตาที่ยิ่งใหญ่คนนี้

“ที่นี่มัน…”

เดียร์มุดตื่นมาอีกครั้งในสถานที่ที่แปลกตา มีแต่สีขาวปกคลุมไกลสุดลูกหูลูกตาและก็ได้มีคนคนหนึ่งปรากฎต่อหน้าเขา คนที่เขารู้จักและรักมากที่สุดในโลก

“กลอเนียงั้นเหรอ…”

อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรแต่ก็ยิ้มออกมาตอบรับเสียงเรียกนั้น

“ในที่สุดฉันก็มาถึงแล้วสินะ…แต่ดูเหมือนคงอีกนานกว่าเราจะได้อยู่ด้วยกัน”

เดียร์มุดหันหลังมองก็เจอขุมนรกที่ในนั้นมีแต่คนที่เขารู้จักและไม่รู้จัก คนที่เขาฆ่าไปไม่ว่าจะเด็กหรือคนแก่ ทหารร่วมรบหรือตัวการที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมแสนสลดนี้ก็ตาม

เขาเลือกที่จะเดินไปยังขุมนรกเพื่อชดใช้บาปที่ตนสร้างขึ้น แม้เขาจะเป็นผู้สูญเสียแต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะละเลยบาปที่เขาก่อมันขึ้นได้ แต่มือของกลอเนียก็รั้งเขาไว้

“กลอเนีย??”

“ฉันจะไปกับคุณด้วยค่ะ”

มืออันอบอุ่นสัมผัสกับมือที่เย็นเยือกของชายหนุ่ม น้ำตาได้ไหลอาบแก้มของชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว เขาทั้งคิดถึงทั้งรู้สำนึกผิดที่ทำให้ชะตากรรมของเธอคนนี้เปลี่ยนไปตลอดกาล

“แต่ว่า…”

เดียร์มุดพยายามปฏิเสธไปเพราะเขาไม่อยากให้ผู้หญิงที่เขารักมาพัวพันมากกว่านี้แล้ว แต่หญิงสาวกลับส่ายหน้าปฏิเสธกลับพร้อมกับพูดในสิ่งที่ทำให้นักรบหนุ่มเปลี่ยนใจ

“ฉันไม่ขอรอคุณอีกแล้ว ฉันรอคุณมานานเกือบชั่วนิรันดิ์แล้วครั้งนี้คุณกลับไล่ฉันไปเหรอ?”

ใช่แล้ว มันนานมากนานเกือบชั่วนิรันดร์ ทำไมกัน? ทั้งที่อยากจะปฏิเสธแท้ แต่ว่า…

“เข้าใจแล้วกลอเนีย…ไปกันเถอะ ครั้งนี้ข้าไม่สิ…ฉันจะไม่ปล่อยมือเธอไปอีกแล้ว”

จากนั้นเดียร์มุดและกลอเนียก็จับมือเดินไปยังขุมนรก แต่ในระหว่างทางทั้งสองกลับคุยกันอย่างสนุกสนาน โดยที่ไม่คิดถึงสิ่งที่พวกเขาจะเจอต่อจากนี้แม้แต่น้อยเพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจากนี้…มันต้องไม่เป็นไรแน่นอนเพราะพวกเขาทั้งสองได้อยู่ด้วยกันแล้ว 

“เขาไปดีแล้วสินะ”

ลิซพูดขึ้นพร้อมตรวจดูชีพจรของเดียร์มุดและพบว่ามันได้หยุดลงแล้ว เรื่องราวชีวิตของนักรบผู้เปี่ยมล้นไปด้วยเกียรติยศและความรักต่อหญิงที่รักได้จบลง ณ ตรงนี้

“หลับให้สบายนะ ที่เหลือพวกเราจะจัดการเอง”

ลิซใช้มือปิดเปลือกตาที่ยังปิดไม่สนิทของเดียร์มุดลง และทุกคนที่อยู่ที่นั้นก็สวดภาวนาให้วิญญาณของเขาได้พบกับความสงบและการพักผ่อนที่เรียกว่า “ความตาย” 

นับพันเกือบหมี่นปีที่เรื่องราวของเขาได้ดำเนินมาพบกับความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า เชยชิมความอัปยศสุดขั้วหัวใจมาแทบนับไม่ถ้วน และท้ายที่สุดนี้แม้ไม่รู้ว่าวิญญาณมีจริงหรือไม่ แต่หากมีจริงก็ขอให้วิญญาณของเขาได้พบกับสิ่งที่ตนได้เฝ้าหวังมาด้วยเถิด

“จากนี้เราจะทำอะไรต่อเหรอครับ?”

ลิซหันกลับไปถามทั้งสามคนที่อยู่ด้านหลังเขา โดยที่ไม่มีท่าทีสงสัยในตัวของหญิงสาวผู้สวมกิโมโนลายหิมะ แม้แต่น้อยจนซิกฟรีดและซาฮาต้องแปลกใจ

“จากนี้เราจะไป ‘อีกด้าน’ กัน”

“อีกด้าน??”

“โลกใบนี้มีโลกอยู่ 2 ฝั่ง คือโลกปรกติที่เราอยู่ตอนนี้และอีกด้าน…”

ซาฮาพูดอธิบายเพิ่มเติมต่อจากซิกฟรีด

“โลกอีกด้านหนึ่งเป็นโลกที่เป็นเวทมนตร์ซะส่วนมาก อีกทั้งยังเป็นอีกด้านที่แย่เอาเรื่อง”

ซาฮาทำสีหน้าไม่ชอบและสื่อว่าไม่อยากจะไป

“มันไม่ดีขนาดนั้นเลยหรือครับ?”

ลิซถามไถ่ซาฮาถึงความแย่ของมัน แต่ซาฮาก็ทำหน้าประมาณว่า “อย่าให้พูดเลย” ลิซเห็นก็ไม่ถามอะไรต่อ

“เอาเป็นว่าเดี๋ยวไปเจอก็รู้เอง ตอนนี้เราต้องจัดการร่างของเดียร์มุดก่อน”

ซิกฟรีดแทรกทั้งสองคนก่อนที่จะยกร่างของเดียร์มุดและใช้ผ้าสีขาวคลุมไว้

“จะว่าไปคนที่ใส่ชุดกิโมโนสีขาวนี่ อาจารย์ยูกิใช่ไหมครับ?”

ซิกฟรีดกับซาฮาได้ยินก็ตกใจว่าทำไมเขาถึงรู้ได้ แต่ซิกฟรีดก็เอะใจว่าลิซมสามารถใช้พลังในการรับรู้ทุกสิ่งได้ คงไม่แปลกที่เขาสามารถรู้ตัวจริงของคนคนนี้ได้

“ใช่ ฉันเป็นหนึ่งในพรรคพวกของสองคนนี้ที่ถูกส่งมาให่ช่วยซัพพอร์ตน่ะ”

“แต่คุณดูไม่เหมือนมาช่วยเลยนะครับ…”

ลิซยิงคำถามเพิ่มใส่ยูกิ เธอได้ยินก็ยิ้มออกมาราวกับว่ายอมรับในความพ่ายแพ้ของเธอ

“ฉันถูกส่งมาเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์โลกใบนี้แทนธิน่าด้วย เพราะเธอคนนั้นถูกจับไปทางเราเลยวุ่นวายกันใหญ่เลย ที่นี้หมดคำถามหรือยัง?”

“แค่นี้ก็พอแล้วครับ เพราะตอนนี้ผมต้องการพัก…”

ไม่ทันจบ ลิซก็ล้มสลบไป ทั้งสามเห็นก็พยายามช่วยเหลือและดูอาการเต็มที่ นี่คงเป็นศึกที่หนักหนาสำหรับเขามากแน่นอน จากเด็กธรรมดาที่ไม่รู้ความจริง สู่เทพเจ้าที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้หรือทำลายกันแน่นั้น เรามิอาจรู้ได้

“เจ้านั้นทำพลาดงั้นหรือ…”

เสียงของชายทุ้มต่ำดังขึ้นในห้องขนาดใหญ่ที่ประดับประดาไปด้วยเครื่องเรือนสวยงามมากมายรายล้อมและค้อนขนาดใหญ่ที่วางอยู่ข้างเขา ไม่นานคนรับใช้ของเขาก็เข้ามา

“ท่านธอร์ครับ…ท่านซุสมาขอพบครับ”

“ตาแก่นั้นหูตาไวจริง ๆ เดี๋ยวข้าไป”

“ขอรับ…”

ข้ารับใช้พูดและปิดประตูจากไป ส่วนชายที่ชื่อว่าธอร์ก็สวมเสื้อคลุมและเหวี่ยงค้อนไปมาก่อนจะเดินออกไป

“เฮ้อ…อุตส่าห์ให้เจ้านั้นเป็นมือเป็นเท้าให้แท้ ๆ ช่างเหอะถึงเจ้านั้นจะสำเร็จจริงแต่ความฝันมันก็ไม่มีวันเป็นจริงหรอก”

ธอร์เหวี่ยงค้อนไปมาและเดินไปยังโถงขนาดใหญ่ที่นั่นมีชายแก่สองคนนั่งรออยู่บนบังลังก์สีทองขนาดใหญ่ ทั้งยังทำท่าเบื่อหน่ายต่อท่าทีของธอร์

“เจ้ามาช้านะ ธอร์”

เสียงทุ้มต่ำของชายคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรู้สึกกดดันจากชายคนนั้น แต่ธอร์ก็ไม่มีท่าทีไหว่เกรงแม้แต่น้อย

“ข้าขออภัยท่านพ่อ ท่านซุสมิทราบว่าเหตุใดท่านทั้งสองถึงเรียกข้ามาเช่นนี้?”

ธอร์กล่าวขึ้นพร้อมคุกเข่าคำนับลง แต่ท่าทีของทั้งสองกลับไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย

“คนที่เจ้าส่งไปพ่ายแพ้แล้ว”

“เรื่องนั้นข้าทราบอยู่แล้วครับเพราะข้าฆ่ามันเองขอรับ”

“งั้นเหรอ…”

ชายที่ถูกเรียกว่าท่านพ่อลูบคางพลางคิดบางอย่างไป ก่อนจะหันมาหาธอร์

“เจ้าไปหาธิน่าเสียหน่อยไป…”

“ครับ?”

ธอร์สงสัยกับสิ่งที่ท่านพ่อให้เขาทำ เดิมทีเขาคิดว่าเขาจะโดนดุแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างงั้น

แม้ธอร์จะสงสัยแต่ท่านพ่อก็ไม่พูดอะไรอีก ธอร์เห็นดังนั้นจึงลุกขึ้นและคำนับก่อนจะเดินออกไป

“ดีแล้วหรือ?”

ซุสถาม

“ยังไงสองคนนั้นก็ต้องครองคู่กันไม่มีปัญหาหรอก”

ท่านพ่อตอบอย่างสบายใจและไม่มีท่าทีที่กังวลต่อสถานการณ์ตรงหน้าเท่าไหร่ ซุสที่เห็นดังนั้นก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไรมาก

“ยังเหมือนเดิมเลยนะ โอดิน”

สีหน้าของโอดินที่อยู่ ๆ ก็แสยะยิ้มอันสยดสยองและมีเล่ห์นัยออกมา แม้แต่ซุสที่อยู่ข้าง ๆ ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่

“เฮ้อ…ทำไมข้าต้องไปหานางด้วยนี่”

ธอร์เกาหัวพลางเดินครุ่นคิดไปมา แม้ปากจะบอกว่าไม่อยาก แต่จากภาษากายที่สื่อออกมาก็แสดงให้เห็นว่าเขาดีใจเช่นกัน

และในที่สุดเขาก็มาถึงห้องที่ขังธิน่าไว้ ด้านหน้ามีทหาร 2 นายประจำการอยู่

“พวกเจ้าถอยไป…ข้ามาเพื่อพบนาง”

“ครับ!!”

เสียงของทหารดังขึ้นพร้อมทั้งเปิดประตูเพื่อให้ธอร์เข้าไป ส่วนธอร์ก็หยุดยิ้มไม่ได้

“ข้ามาหาเจ้าแล้วนะ ที่รัก…”