ชายหนุ่มแสนธรรมดาใช้ชีวิตกับเพื่อนสาวสมัยเด็กมาเนิ่นนาน แต่ฝันประหลาดชักนำให้เด็กหนุ่มพานพบกับเหตุการณ์อันเป็นจุดพลิกผันและแยกจาก ความทรงจำ สงคราม กาลเวลา การลืมตาตื่นแห่งการเดินทางเพื่อทวงคืนสิ่งที่สำคัญจึงเริ่มต้นขึ้นบนหน้ากระดาษของยุคสมัยใหม่อันเป็นปฐมบทของมหากาพย์นี้

บันทึกกาล เทพไร้นาม - ตอนที่ 10, บทที่ 1 การต่อและความช่วยเหลือ โดย นักประพันธ์ดารา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,ดราม่า,ดาร์ค,สงคราม,แอ็คชั่น ,แอ็กชัน,แอ็คชั่น,พระเอก,แฟนตาซี ,พล็อตสร้าง,ผจญภัย,แอคชั่น,เวท,เวทมนต์,เวทมนตร์,ดาร์กแฟนตาซี,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกกาล เทพไร้นาม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,ดราม่า,ดาร์ค,สงคราม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แอ็คชั่น ,แอ็กชัน,แอ็คชั่น,พระเอก,แฟนตาซี ,พล็อตสร้าง,ผจญภัย,แอคชั่น,เวท,เวทมนต์,เวทมนตร์,ดาร์กแฟนตาซี,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

บันทึกกาล เทพไร้นาม โดย นักประพันธ์ดารา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชายหนุ่มแสนธรรมดาใช้ชีวิตกับเพื่อนสาวสมัยเด็กมาเนิ่นนาน แต่ฝันประหลาดชักนำให้เด็กหนุ่มพานพบกับเหตุการณ์อันเป็นจุดพลิกผันและแยกจาก ความทรงจำ สงคราม กาลเวลา การลืมตาตื่นแห่งการเดินทางเพื่อทวงคืนสิ่งที่สำคัญจึงเริ่มต้นขึ้นบนหน้ากระดาษของยุคสมัยใหม่อันเป็นปฐมบทของมหากาพย์นี้

ผู้แต่ง

นักประพันธ์ดารา

เรื่องย่อ




ตารางอัพนิยายจะอัพทุกวัน 18.00 น. และวันเสาร์อาทิตย์เวลา 19.00 น. เวลาอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมต่อไปในอนาคตนะครับ

เรื่องย่อ : ลิซชายหนุ่มมัธยมปลายธรรมดาที่ในอดีตประสบอุบัติเหตุปริศนาจนเสียพ่อแม่และความทรงจำไป ตอนนี้ได้อาศัยอยู่กับเพื่อนสมัยเด็กนาม “ธิน่า” ในทุกคืนลิซจะฝันเห็นถึงเรื่องประหลาด ตัวตนของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ประสบการณ์ ความทรมานและอีกหลาย ๆ อย่าง เขาเก็บเป็นความลับกับธฺิน่าและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขเรื่อยมา แต่ทว่า


วันหนึ่งธิน่าก็ถูกจับตัวโดยตัวตนปริศนาและลิซก็ถูกสังหาร เขาดำดิ่งลงสู่มิติปริศนาที่เขาคอยเห็นผ่านฝันมาตลอด เขาได้รู้ความจริงบางส่วนและเลือกลืมตาตื่นในฐานะ “เทพเจ้า” สายเลือดพิเศษครึ่งหนึ่งที่ไหลเวียนในตัวเขามาตลอด เพื่อเข้าต่อสู้ต่อมาเขาได้รู้จักกับพรรคพวกของธิน่าและเลือกออกเดินทางไปช่วยธิน่า แต่ก่อนจะไปถึงเขาจะต้องเดินทางผ่านอาณาจักรทั้ง 9 เสียก่อน กระแสกลียุคครั้งใหม่ เปลิวเพลิงแห่งหวังอันมืดมิดถูกจุดประกาย ณ ห้วงลึกของกาลเวลา

ท้ายที่สุดการเดินทางแสนยาวนานจะจบลงที่ตรงไหน ก็คงมีแต่ผู้ที่ไปถึงเท่านั้นจะรู้ได้…


#คำเตือน# เนื้อหาในนิยายบางตอนมีการบรรยายถึงดราม่าที่อาจทำให้รู้สึกหดหู่หรือซึมเศร้า เลือด โศกนาฏกรรม การตาย และการ depress ของตัวละครหรือกระทั่ง อาการ PTSD ก็ตาม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เรื่องนี้ไม่เหมาะกับผู้มีอาการซึมเศร้า หดหู่หรือพึ่งประสบเจอสิ่งแย่ ๆ ในชีวิตมา โปรดหลีกเลี่ยง


จากนี้เชิญสนุกกับนิยายได้เลยครับ

สารบัญ

บันทึกกาล เทพไร้นาม-Prologue สองเส้นขนานบรรจบ??,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 1, บทที่ 1 ชีวิตสามัญยามเช้า,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 2, บทที่ 1 เปิดเรียนวันแรก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 3, บทที่ 1 ฟันเฟืองเริ่มขยับ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 4, บทที่ 1 ฝันร้ายในเรือนกระจก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 5, บทที่ 1 สัญญาณลางร้าย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 6, บทที่ 1 The Last supper มื้ออาหารสุดท้าย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 7, บทที่ 1 ภัยร้ายมาเยือน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 8, บทที่ 1 จุมพิตอำลา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 9, บทที่ 1 คำตอบ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 10, บทที่ 1 การต่อและความช่วยเหลือ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 11, บทที่ 1 ความจริง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 12, บทที่ 1 จดหมายแด่จอห์น,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 13, บทที่ 1 สิ่งที่แปรเปลี่ยนไป,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 14, บทที่ 1 โอกาส,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 15, บทที่ 1 ฝึกฝน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 16, บทที่ 1 เพลิงเหน็บหนาวผ่าขั้วหัวใจ (I),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 17, บทที่ 1 เพลิงเหน็บหนาวผ่าขั้วหัวใจ (II),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 18, บทที่ 1 เดินทางสู่ป่าลึก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 19, บทที่ 1 การต่อสู้พร้อมความสูญเสีย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 20, บทที่ 1 ความเป็นความตาย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 21, บทที่ 1 การเตรียมใจและความเชื่อมั่น,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 22, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (I),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 23, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (II),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 24, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (III),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 25, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (IV),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 26, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (VI),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 27, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (VII),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 28, บทที่ 1 จุดหมายต่อไป,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 29, บทที่ 1 เส้นทางจากนี้,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 30, บทที่ 2 ปรปักษ์แห่งพระเจ้าผู้สวมหน้ากากคนเขลา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 31, บทที่ 2 สู่ 'อีกด้าน',บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 32, บทที่ 2 ผู้ถูกทิ้งสู่เบื้องล่าง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 33, บทที่ 2 เหล่าเศษขยะผู้มารวมกัน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 34, บทที่ 2 คำประกาศของผู้มาเยือน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 35, บทที่ 2 ยมทูตแห่งแสงสว่าง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 36, บทที่ 2 อาทิตย์ยามสนธยา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 37, บทที่ 2 การสนทนาด้วยดาบ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 38, บทที่ 2 ความตายคอยจับจ้อง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 39, บทที่ 2 ออบซิเดียนที่เจิดจรัสที่สุด,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 40, บทที่ 2 เพลิงแค้นของผู้ร่วงหล่น

เนื้อหา

ตอนที่ 10, บทที่ 1 การต่อและความช่วยเหลือ

“อึก…พลังอะไรกัน!? รุนแรงมาก!!”


เมดาเรียสแม้จะป้องกันการโจมตีของลิซได้ แต่ก็ถูกผลักกลับมา อีกทั้ง


“เลือดงั้นเหรอ? นานแล้วนะเนี่ย”


เมดาเรียสเช็ดเลือดที่ออกจากปากแล้วตั้งท่าอีกครั้ง


“คืนธิน่ามาซะ คืนธิน่ามาซะ คืนธิน่ามาซะ”


“นี่แกพูดเป็นอยู่ประโยคเดียวหรือไง?”


เมดาเรียสถากถางลิซที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอแต่ก็ไร้เสียงตอบรับ


“ไม่มีสติสินะ ดีเลย”


เมดาเรียสพุ่งเข้าไปด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ ควงเคียวของเธอไปรอบ ๆ ก่อเกิดลมกรรโชกแรงไปทั่วบริเวณ


“งั้นก็ตายซะ!!”


เคียวของเมดาเรียสฟาดลงเป็นแนวยาวหลากเส้นซ้อนกันจากทั่วทิศราวกับเสี้ยวจันทรา แต่การโจมตีนั้นกลับไร้ประโยชน์


‘หลบได้งั้นเหรอ!?’


ลิซเคลื่อนไหวหลบการโจมตีหลายทิศทางได้อย่างง่ายดาย และใช้หอกในมือแทงเข้าไปที่ช่องว่างกลางลำตัวของเมดาเรียส แต่เมดาเรียสก็ใช้พลังบางอย่างป้องกันไว้ได้


“งั้นจะแสดงให้เห็นเองถึงการต่อสู้ที่แท้จริง!!”


เมดาเรียสปลดปล่อยคลื่นพลังสีม่วงแกมน้ำเงินออกมา แม้ปริมาณของมันจะไม่เท่ากับลิซ แต่ก็มากมายมหาศาลเหลือจะจินตนาการถึง 


พลังเหล่านั้นควบรวมกับเคียวก่อเกิดเป็นรูปร่างของเคียวที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า เมดาเรียสตั้งท่าอีกครั้งเพื่อที่จะใช้การโจมตีฉากนี้


พริบตานั้นเมดาเรียสก็เข้าโจมตีอีกครั้ง โดยครั้งนี้ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและคดเคี้ยวราวกับอสรพิษคลั่งที่มุ่งแต่จะสังหารเหยื่อเท่านั้น


แต่ทันใดนั้นเอง


เสียงดีดนิ้วดังขึ้นทั่วบริเวณ ทำให้ทุกสิ่งรอบตัวลิซค่อย ๆ เคลื่อนที่ช้าลง จนกระทั่งหยุดลงในที่สุด


‘นี่มันบ้าอะไรกัน!!’


เมดาเรียสที่เจอเรื่องประหลาดไม่พักก็ได้แต่โอดครวญออกมา ถึงความไร้เหตุผลที่อยู่ตรงหน้าเธอ ราวกับสามัญสำนึกที่เธอมีและใช้ตลอดมา มันไร้ความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าสิ่งที่เหนือความเข้าใจของเธอ


“นี่เป็นการหยุดเวลาไงล่ะ”


เสียงของลิซดังขึ้นในหัวของเมดาเรียส มันทำให้เธอรู้สึกปวดหัวเอามาก ๆ มันเป็นเหมือนโทรจิตที่เธอมักจะใช้ แต่นี้มันเหนือกว่ามาก…


“เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ”


ขณะที่ลิซจะใช้หอกแทงเข้าหัวใจของเมดาเรียสนั้นเอง


เปรี้ยง!!


เสียงของสายฟ้าฟาดลงมายังบริเวณที่ลิซอยู่พอดิบพอดี ทำให้เขากลับสู่ร่างเดิมและเวลาก็กลับมาเดินอีกครั้งหนึ่ง


“อะไรกัน”


ลิซนอนบาดเจ็บสาหัส ดูเหมือนสายฟ้าปริศนานั้นจะมาจากพรรคพวกของเมดาเรียส 


ส่วนเมดาเรียสที่เห็นแม้เธอจะตกใจภาพข้างหน้า แต่เธอก็รู้ว่านี้คือสัญญาณที่กำลังบอกเธอให้ทำภารกิจให้สำเร็จ


“ดูเหมือนข้าจะแพ้ในการประลองตัวต่อตัวสินะ ข้าขอยอมรับเลยเจ้ามนุษย์”


เมดาเรียสค่อยเดินมาด้วยร่างกายที่บาดเจ็บจากลิซและสายฟ้าเมื่อกี้นี้ แม้มันจะไม่ทำให้เธอบาดเจ็บไม่มาก แต่ผลพวงมันก็มาหาเธออย่างช่วยไม่ได้


“งั้นก็จงตายเสียเถอะ!!”


เมดาเรียสถือเคียวและฟาดลงไปเต็มแรง ในวินาทีแห่งความเป็นความตายนั้นเอง


“จงเบิกทางสู่อนาคต บาลมุง”


คลื่นดาบสีฟ้าปนขาวพุ่งเข้าใส่เมดาเรียส แม้เธอจะหลบได้แต่เธอก็พลาดโอกาสที่จะปลิดชีพลิซอีกแล้ว เธอมองไปยังต้นเสียงด้วยสายตาอาฆาต


“นายคือใครกัน??”


“ฉันน่ะเหรอ ฉันก็แค่นักดาบที่ผ่านทางมาเท่านั้นเอง”



ณ ตึกระฟ้าแห่งหนึ่งขณะที่ลิซและเมดาเรียส สายตาของชายหญิงคู่หนึ่งได้เฝ้ามองการต่อสู้อันดุเดือดอยู่ไกล ๆ


“จะเข้าไปช่วยไหม?”


คนที่เปิดประโยคคือหญิงสาวตัวเล็ก เรือนผมสีแดงที่กำลังใช้กล่องส่องทางส่องดูการต่อสู้ของทั้งสองคนนั้น


“คงต้องรอดูก่อนนะ จากสถานการณ์ตอนนี้ไม่นานคง”


คนที่ตอบคือชายวัยกลางคนพาดดาบเรียวยาวไว้ข้างตัว


เปรี้ยง!!


เสียงสายฟ้าฟาดดังขึ้นลงตรงบริเวณที่ลิซและเมดาเรียสกำลังต่อสู้กันอยู่


“นั้นมัน!!”


หญิงสาวเรือนผมสีแดงพูดขึ้น


“นี่รีบไปชะ…”


หญิงสาวพูดไม่ทันจบ หนุ่มวัยกลางคนก็กระโดดออกไปทันควัน ทิ้งไว้เพียงอากาศที่ถูกแหวกออกจากการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วกับหน้าตาเอือมระอาของหญิงสาว


“นายนี่นะ…”



“ฉันน่ะเหรอ ฉันก็แค่นักดาบที่ผ่านทางมาเท่านั้นเอง”


ชายวัยกลางคนฟาดคลื่นดาบเข้าใส่เมดาเรียส ทำให้เธอหลบออกห่างจากลิซ


“เป็นอะไรไหม? ลิซ?”


“นายคือ”


“ก็บอกอยู่ว่าฉันน่ะ…”


“เจ้ามาอยู่ที่นี้ได้ไง!? วีรชนผู้สังหารอสูรแห่งท้องนภา ซิกฟรีด”


เมดาเรียสกล่าวกับชายตรงหน้าที่ชื่อซิกฟรีดด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างถึงที่สุด


“ดูท่าเจ้าจะไม่ดูที่ต่ำที่สูงเลยนะ เพียงแค่ผู้สืบทอดจะมาขวางข้างั้นเหรอ?”


“อย่าพูดเย็นชาแบบนั้นสิสหายเก่า อีกอย่างการที่เธอแหกกฎตอนนี้อยู่นั้นก็มากพอแล้ว”


แม้เมดาเรียสจะพูดต่อซิกฟรีดด้วยถ้อยคำดูถูก แต่ทางซิกฟรีก็ยังคงตทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวและตอบกลับไปตามปรกติ


“ช่างเถอะ ฉันจะฆ่าเจ้านั้นซะ!! หลบไป!!”


“โทษทีคงไม่ได้น่ะ พอดีโดนขอร้องไว้น่ะแถมอีกอย่างเขาก็เป็นลูกของคนรู้จักด้วย”


“คุณรู้จักพ่อแม่ผมเหรอครับ?”


ลิซที่ได้ยินก็ถามขึ้นมากะทันหัน แม้เขาจะบาดเจ็บอยู่ก็ตามแต่สิ่งที่เขาได้ยินกลับทำให้เขาไม่สนใจความเจ็บปวดเหล่านั้น


“อยู่เฉย ๆ ไปก่อนนะลิซ”


“ร่างกายนายพึ่งได้รับบาดเจ็บหนักแถมพลังก็พึ่งตื่น”


“อีกอย่างหนึ่ง”


ซิกฟรีดมองกลับไปยังสหายเก่าของเขาที่ตอนนี้กลายเป็นศัตรูที่ต้องห้ำหั่น แม้มันจะดูน่าเจ็บปวดแต่ต่างฝ่ายก็ต้องต่อสู้เพื่อเป้าหมายและสิ่งที่พวกเขาเชื่อ(?)


“ฉันว่าเธอกลับไปเถอะ เมดาเรียส ฉันไม่อยากฆ่าเธอนะ”


“พูดซะว่าอย่างนายจะฆ่าฉันได้”


“ก็จริงของเธอที่ฉันไม่ แต่ไม่ใช่กับเธอคนนั้นสักหน่อย”


สิ้นสุดคำพูดของซิกฟรีด ลำแสงบางอย่างก็ตรงลงมายังเมดาเรียส แม้เธอจะหลบได้แบบเฉียดฉิว แต่อนุภาพของมันก็เจาะพื้นถนนเป็นรู


“นายนี่มันอ่อนหัดจริง ๆ ซิกฟรีด”


หญิงสาวตัวเล็ก เรือนผมสีแดงปรากฎตัวพร้อมพูดขึ้น 


“อย่างที่ซิกฟรีดพูด เธอถอยไปเถอะก่อนที่ฉันจะเป่าหัวเธอกระจุย”


เมดาเรียสกำหมัดแน่นแม้เธอจะไม่สามารถฆ่าลิซได้ แต่ก็ถือว่าภารกิจเธอตอนนี้เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย ระหว่างเสี่ยงสู้เพียงเพื่อรักษาศักดิ์ศรีหรือทำตามหน้าที่ให้สำเร็จ หนึ่งในสองสิ่งนี้เธอไม่จำเป็นต้องคิดนาน


“ครั้งนี้…ข้าจะละเว้นไปก่อน”


เมดาเรียสเธอเลือกที่จะถอยเพื่อรักษาภารกิจที่ได้รับ เธอหันหลังและมองไปยังลิซที่นอนอยู่กับพื้น


“ถ้าหากเจ้าจะช่วยองค์หญิงล่ะก็…จงมายังสรวงสวรรค์ของพวกเรา”


“และข้าก็จะปลิดชีพเจ้าเอง”


จากนั้นเมดาเรียสก็หายไปราวกับว่าแต่เดิมไม่มีใครอยู่ตรงนั้น ทิ้งไว้เพียงคำพูดที่เป็นทั้งคำแนะนำและคำเตือนต่อลิซ


“ยืนไหวไหม ลิซ?”


คนที่ยื่นมาคือซิกฟรีด ลิซก็จับมือซิกฟรีดเพื่อลุกขึ้น โดยมีหญิงสาวตัวเล็ก เรือนผมสีแดงจ้องมองอยู่ข้าง ๆ


“ดีที่รอบนี้จบได้ด้วยดี…มั้ง?”


“ดีกับผีสิ! ดีที่เรามาช่วยทันไม่งั้นนายได้โดนแน่ แถมพื้นที่รอบ ๆ ก็เสียหายหนักอีกทั้ง…”


หญิงสาวข้าง ๆ พูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ 


“อีกทั้ง?”


“มีผู้เสียชีวิตน่ะสิ เจ้าเด็กเทพ”


คำพูดนั้นทำให้ลิซนึกถึงเด็กนักเรียนสองคนที่เขาเจอก่อนหน้านี้ แม้พวกเขาจะล้อเลียนเขาก็ตามแต่…การที่พวกเขาต้องมาประสบกับความตายเพราะตัวลิซเอง มันทำให้เขารู้สึกผิดไม่น้อยทีเดียว


“ไม่ต้องห่วงน่าลิซ ตอนนี้จงดีใจที่ตนยังมีชีวิตรอดเถอะ”


ซิกฟรีดพูดปลอมประโลมลิซเพื่อให้เขาไม่รู้สึกผิด แม้จะช่วยเขาได้เล็กน้อยก็ตาม


“ครับ”


‘อึก!!’


‘นี่มันอะไรกัน!?’


ลิซรู้สึกเจ็บปวดที่อกเป็นอย่างมากราวกับมีอะไรบางอย่างจะระเบิดออกมา ทันใดนั้นโซ่มากมายก็พุ่งออกมาจากร่างของลิซและทำการรัดตัวลิซไว้แน่น


“อ้ากกกกกก”


ความเจ็บปวดแสนสาหัสเข้าถาโถมใส่ ซิกฟรีดและอีกคนที่อยู่ก็ได้แต่อึ้งในสิ่งที่เห็นโดยที่เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย


เสียงกระแทกพื้นดังสนั่นทั่วบริเวณ ลิซสลบไปเพราะความเจ็บปวดเหล่านั้น 


ทั้งสองคนที่เหลือเห็นเข้าต่างก็กระวนกระวายไปตาม ๆ กัน


แม้ลิซจะสลบไป แต่สติของเขาก็ตื่นขึ้นอีกครั้ง ณ สถานที่เดิม


“ยินดีต้อนรับกลับเด็กน้อย”


เสียงจากต้นไม้ที่คุ้นเคยเอ่ยต้อนรับการมาถึงอีกครั้งของเด็กหนุ่ม