ชายหนุ่มแสนธรรมดาใช้ชีวิตกับเพื่อนสาวสมัยเด็กมาเนิ่นนาน แต่ฝันประหลาดชักนำให้เด็กหนุ่มพานพบกับเหตุการณ์อันเป็นจุดพลิกผันและแยกจาก ความทรงจำ สงคราม กาลเวลา การลืมตาตื่นแห่งการเดินทางเพื่อทวงคืนสิ่งที่สำคัญจึงเริ่มต้นขึ้นบนหน้ากระดาษของยุคสมัยใหม่อันเป็นปฐมบทของมหากาพย์นี้
แฟนตาซี,แอคชั่น,ดราม่า,ดาร์ค,สงคราม,แอ็คชั่น ,แอ็กชัน,แอ็คชั่น,พระเอก,แฟนตาซี ,พล็อตสร้าง,ผจญภัย,แอคชั่น,เวท,เวทมนต์,เวทมนตร์,ดาร์กแฟนตาซี,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บันทึกกาล เทพไร้นามชายหนุ่มแสนธรรมดาใช้ชีวิตกับเพื่อนสาวสมัยเด็กมาเนิ่นนาน แต่ฝันประหลาดชักนำให้เด็กหนุ่มพานพบกับเหตุการณ์อันเป็นจุดพลิกผันและแยกจาก ความทรงจำ สงคราม กาลเวลา การลืมตาตื่นแห่งการเดินทางเพื่อทวงคืนสิ่งที่สำคัญจึงเริ่มต้นขึ้นบนหน้ากระดาษของยุคสมัยใหม่อันเป็นปฐมบทของมหากาพย์นี้
ตารางอัพนิยายจะอัพทุกวัน 18.00 น. และวันเสาร์อาทิตย์เวลา 19.00 น. เวลาอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมต่อไปในอนาคตนะครับ
เรื่องย่อ : ลิซชายหนุ่มมัธยมปลายธรรมดาที่ในอดีตประสบอุบัติเหตุปริศนาจนเสียพ่อแม่และความทรงจำไป ตอนนี้ได้อาศัยอยู่กับเพื่อนสมัยเด็กนาม “ธิน่า” ในทุกคืนลิซจะฝันเห็นถึงเรื่องประหลาด ตัวตนของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ประสบการณ์ ความทรมานและอีกหลาย ๆ อย่าง เขาเก็บเป็นความลับกับธฺิน่าและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขเรื่อยมา แต่ทว่า
วันหนึ่งธิน่าก็ถูกจับตัวโดยตัวตนปริศนาและลิซก็ถูกสังหาร เขาดำดิ่งลงสู่มิติปริศนาที่เขาคอยเห็นผ่านฝันมาตลอด เขาได้รู้ความจริงบางส่วนและเลือกลืมตาตื่นในฐานะ “เทพเจ้า” สายเลือดพิเศษครึ่งหนึ่งที่ไหลเวียนในตัวเขามาตลอด เพื่อเข้าต่อสู้ต่อมาเขาได้รู้จักกับพรรคพวกของธิน่าและเลือกออกเดินทางไปช่วยธิน่า แต่ก่อนจะไปถึงเขาจะต้องเดินทางผ่านอาณาจักรทั้ง 9 เสียก่อน กระแสกลียุคครั้งใหม่ เปลิวเพลิงแห่งหวังอันมืดมิดถูกจุดประกาย ณ ห้วงลึกของกาลเวลา
ท้ายที่สุดการเดินทางแสนยาวนานจะจบลงที่ตรงไหน ก็คงมีแต่ผู้ที่ไปถึงเท่านั้นจะรู้ได้…
#คำเตือน# เนื้อหาในนิยายบางตอนมีการบรรยายถึงดราม่าที่อาจทำให้รู้สึกหดหู่หรือซึมเศร้า เลือด โศกนาฏกรรม การตาย และการ depress ของตัวละครหรือกระทั่ง อาการ PTSD ก็ตาม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เรื่องนี้ไม่เหมาะกับผู้มีอาการซึมเศร้า หดหู่หรือพึ่งประสบเจอสิ่งแย่ ๆ ในชีวิตมา โปรดหลีกเลี่ยง
จากนี้เชิญสนุกกับนิยายได้เลยครับ
เวลาก็ล่วงเลยมานาน ลิซยังคงวิ่งหาทางออกพร้อมกับฟันมอนสเตอร์ที่จู่โจมเขา ศพเหล่านั้นเกลื่อนกลาดเป็นทางยาว แต่ไม่นานเขาก็มาเจอกับแม่น้ำจึงตัดสินใจพักดื่มน้ำและพักฟื้นความเหนื่อยล้า
“แล้วเงื่อนไขที่ผมจะผ่านได้นี่คืออะไรเหรอครับ? ซิกฟรีด”
ลิซถามซิกฟรีดที่ยังไม่เห็นตัวว่าอยู่ที่ไหน แม้จะรออยู่นานแต่คำตอบก็มาถึง
“เงื่อนไขคือนายต้องเอาชีวิตรอดจนถึงพระอาทิตย์ตก”
“ตอนนี้ประมาณเที่ยงสินะ…”
ลิซพูดพร้อมหรี่มองดูดวงอาทิตย์บนฟ้า แม้จะพอคาดคะเนได้แต่ก็เหลืออีกหลายชั่วโมงก่อนจะถึงพระอาทิตย์ตกดิน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจพักสัก 1 ชั่วโมงก่อนเดินทางต่อ เขานั่งลงใต้ร่มไม้อยู่นาน
“นั้นเสียงอะไรน่ะ!?”
แต่เสียงอะไรบางอย่างกลับสะกิดเขา มันดังมากแม้จะอยู่ค่อนข้างไกลไม่นานกลิ่นสาปบางอย่างก็ลอยมาแตะจมูกลิซ
กลิ่นเลือดนี่!!
ใช่…กลิ่นเลือดโชยมาตามสายลมพร้อมกับเสียงอะไรบางอย่างเหมือนกับเสียงต่อสู้ของบางสิ่งด้วยความสงสัยลิซก็ตั้งท่าจะวิ่งไปดู แต่เสียงของซิกฟรีดก็ดังขึ้นทันควัน
“หาที่หลบเร็ว!! ลิซ!!”
“ทำไมล่ะ!?”
“เร็วเข้าจะไม่ทันแล้ว!!”
ทันใดนั้นเสียงเดินของบางสิ่งก็ค่อย ๆ ตรงมาหาลิซ เขาจึงวิ่งซ่อนตัวโดยหลบในพุ่มหญ้าหนาไม่ไกลจากแม่น้ำมากนัก และสิ่งที่ทำให้เกิดเสียงนั้นก็มาถึงและทำให้ลิซรู้สึกกลัวจากใจ
ภาพของสัตว์รูปร่างคล้ายกอลิล่าตัวใหญ่เดินผ่านมาพร้อมกับศพของอะไรบางอย่าง มันดมกลิ่นหาอะไรสักอย่างก่อนจะหยุดลงและมองไปรอบ ๆ
‘แบบนี้ต้องถอยแล้ว งั้นต้องเบา ๆ ไม่ให้เจอตัว’
ลิซนึกในใจพร้อมพยายามถอยหลังแต่ไม่รู้ไปก่อกรรมอะไรมาดันไปเหยียบกิ่งไม้เล็ก ๆ จนเกิดเสียง เจ้ามอนสเตอร์ตัวนั้นได้ยินก็วิ่งจู่โจมลิซทันทีแต่เขาก็หลบได้
“โธ่เอ้ย!!”
ลิซสบถออกมาพร้อมตั้งท่าต่อสู้แม้จะรู้ว่าโอกาสชนะน้อยนิดเพียงใด แต่เสียงของซิกฟรีดก็ดังขึ้น
“ลิซหนีไปซะ นายสู้มันไม่ไหวหรอก!”
“อยากจะหนีเต็มแก่แล้วแต่มันทำไม่ได้ไง!!”
ลิซสวนกลับไปแต่ไม่ทันไรก็โดนการโจมตีอีกครั้งแต่รอบนี้เขาก็หลบได้เช่นกัน ลิซพยายามเพ่งพลังลงในดาบให้มากที่สุดแล้วมองหาโอกาส แต่การโจมตีของมันก็มาไม่หยุดหย่อน แม้รูปแบบการโจมตีจะง่ายดายอย่างการทุบและต่อยแต่มันก็ทรงพลังถึงขั้นฆ่าลิซได้ภายในครั้งเดียว
“จะทำไงดีเนี่ย!!”
การโจมตีของมันทรงพลังมากถึงจะดูเป็นมอนสเตอร์ที่ไม่ค่อยใช้สมองเท่าไหร่ก็เถอะ แต่สัญชาตญาณของมันเข้าขั้นน่ากลัวเลย งั้นสิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือ…
ในขณะที่ลิซอยู่ในภวังค์ความคิดนั้นก็ถูกการโจมตีของมันเข้าที่บริเวณท้องแต่เขาก็ใช้ดาบป้องกันได้ แต่แรงกระแทกทำเขาพุ่งชนกับต้นไม้หักไป 5 ต้นและเลือดออกบริเวณหัวทั้งยังอ้วกเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก แถมสติของเขาก็ค่อย ๆ เลือนราง
ให้ตายสิ! ประมาทจนได้! ดีที่ใช้ดาบป้องกันไว้เลยรอดตายมาได้
ในขณะที่ลิซตัดพ้ออยู่นั้นมอนสเตอร์มันก็ใกล้เข้ามาหาเขาเรื่อย ๆ
“จะรอดไหมเนี่ยงานนี้…”
“ที่นี่สินะ ไม่นึกว่าจะอยู่ที่เดียวกับเจ้านั้นได้นะเนี่ย”
คนที่พูดไม่ใช่ใครแต่คือซาฮานั้นเอง ดูเหมือนว่าที่ซิกฟรีดบอกเธอก่อนหน้านี้นั้นจะเป็นคำขอให้มาทำอะไรบางอย่าง ณ ที่แห่งนี้
“นี่มัน…แขกที่ไม่คาดว่าจะมานะเนี่ย…”
ซาฮาเข้าไปพร้อมกับเสียงของใครบางคนกล่าวต้อนรับ ซาฮามองอย่างไม่สบอารมณ์แต่อีกฝ่ายก็ยังนิ่งเฉยราวกับผิวน้ำ
“ไม่เจอกันนาน หน้าตายังไม่รับแขกเหมือนเคยนะ เจ้าเด็กน้อย”
“แกนั้นแหละ ยัยหน้าขาว ไม่สิ “กลีบเหมันตร์ เบ่งบานบนกองศพ” หรือเปล่านะ?”
“หึ…ไม่นึกว่าจะรู้จักฉายานั้นด้วยนะ ไอ้เด็กโข่ง”
“แหม…ไม่เจอกันนาน แต่ยังปากเหมือนสุนัขข้างทางเหมือนเคยนะ”
การโต้วาจาเริ่มขึ้นทันทีหลังจากทั้งสองเจอหน้ากัน ดูท่าทั้งสองคนนี้จะไม่ถูกกันมากเลยทีเดียว ทั้งคำดูถูกทั้งคำแซะที่ออกมาในทุกครั้งที่มีโอกาส ซาฮาที่อยากจะรีบทำให้มันจบ ๆ ก็เอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าเธอ
“แล้วรายละเอียดภารกิจล่ะ”
ซาฮาพูดพร้อมยื่นมือออกมา
“แหม…เด็กสมัยนี้เลือดร้อนจังหรือว่าจะไปหาคนรักกันจ้ะ?”
“หุบปากแกแล้วส่งมาก่อนที่ฉันจะระเบิดที่นี้ซะ!”
ซาฮายื่นคำขาดออกไป แต่หญิงสาวตรงหน้ากลับไม่มีทีท่าที่หวาดกลัวกลับกันเธอเย้อหยันซาฮาที่อารมณ์เสียอยู่
“ชิ! ไม่สนุกเลย เอ้า…เอาไป”
หญิงสาวตรงหน้าโยนม้วนกระดาษบางอย่างใส่หน้าซาฮาแต่เธอก็รับได้ก่อนที่จะโดนหน้า ซาฮาจิ๊ปากก่อนเปิดดูแต่ก็ต้องไม่สบอารมณ์อีกครั้ง
“นี่ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย!! ไอ้พวกสันขวานนั้น!!”
ซาฮาสาปแช่งพร้อมปาม้วนกระดาษลงพื้น
“อย่าทำแบบนั้นสิ เดี๋ยวก็เสียหายกันพอดี”
“ยุ่งน่า!! แต่ช่างเถอะแล้วเรื่องของเดียร์มุดล่ะ?”
ซาฮาใจเย็นลงและยิงคำถามใส่หญิงสาวตรงหน้าเธออีกครั้ง
“นั้นสินะ…เสียใจด้วย…ไม่เจออะไรทั้งนั้น”
“ห้ะ!!”
“น่าจะมีใครปิดบังไว้ คงเป็นคนใหญ่น่าดู”
“ชิ! งั้นเหรอ…ขอบใจแล้วกัน”
ซาฮาพูดและกำลังจะเดินจากไป หญิงสาวตรงหน้าก็ไม่ได้พูดอะไรได้แต่ส่งยิ้มก่อนที่ซาฮาจะออกไป
เสียงประตูปิดดังขึ้นเบา ๆ พร้อมเสียงถอนหายใจของหญิงสาว แต่ว่าเรื่องน่าปวดหัวก็ยังไม่หมด
“ที่นี่ห้ามเข้ารู้ไหม? ในฐานะคนที่คอยดูแลคงไม่ยอมหรอกนะ”
เสียงของชายบางคนดังขึ้นโดยพลัน ทำให้หญิงสาวที่ได้ยินถึงกับหันไปชายตามอง
“แกเองเหรอ เดียร์มุด!”
“ใช่แล้วล่ะ ที่รัก”
“ที่รง ที่รักบ้านแกสิ! มาทำไมที่นี่!!”
ซาฮาตอบกลับทั้งยังทำท่าพร้อมต่อสู้ แต่อีกฝ่ายก็ทำท่าว่าจะไม่ต่อสู้จึงทำให้ซาฮาลดความระมัดระวังลงเล็กน้อย
ถึงเจ้านั้นจะมีท่าไม่อยากต่อสู้ก็เถอะ แต่อย่าการ์ดตกจะดีกว่า…
ซาฮานึกในใจพร้อมเอามือล้วงลงไปในม้วนคัมภีร์บางอย่างและพูดกับเดียร์มุด
“แล้วแกมีธุระอะไร!?”
“สมแล้วนะ…ขนาดบอกว่าไม่ต่อสู้ยังไม่การ์ดตกเนี่ย”
“อย่างแกน่ะใครมันจะประมาทยะ!”
บรรยากาศอึดอัดและมืดครึ้มปกคลุมทั้งสอง ทั้งที่ไม่มีจิตสังหารใส่กันแท้ ๆ แต่กลับทำให้บรรยากาศรอบข้างดูน่าสะพรึงขนาดนี้ เดียร์มุดที่สัมผัสได้ก็รีบบอกจุดประสงค์ของตนไป
“ให้ลิซมาที่โรงเรียนบ้างสิ…”
“ห้ะ!?”
ในหัวซาฮาล้วนแต่เต็มไปด้วยคำถามจากสิ่งที่เดียร์มุดพึ่งพูดมา “มาโรงเรียนบ้าง” ศัตรูบ้านไหนมาบอกศัตรูให้เข้ามาอยู่ในสายตาสังหารของตนกัน หรือว่านี่จะเป็นแผนของคนที่อยู่เบื้องหลังกันแน่นั้น ซาฮาก็ไม่อาจรู้ได้ ได้แต่ตอบสั้น ๆ ไป
“ได้…เดี๋ยวจะบอกเจ้านั้นให้แล้วกัน”
“ขอบใจแล้วกัน แล้วก็…เคี่ยวเข็ญให้ดีล่ะ มาแบบเน่า ๆ ฉันฆ่าพวกเธอด้วยแน่”
เดียร์มุดพูดและเตือนสั้น ๆ ก็จะเดินลับหายไป ทำเอาซาฮาใจไม่อยู่นิ่ง แต่พอตั้งสติได้เธอก็รีบกลับไปหาซิกฟรีดที่พงไพรลักซ่อนทันที แต่เธอไม่รู้เลยว่า ณ อีกฝั่งนั้นกำลังเกิดเรื่องที่อันตรายสุด ๆ ขึ้น
“ลุกขึ้นมาลิซ! เร็ว!!”
เสียงซิกฟรีดพยายามดึงสติลิซที่พึ่งโดนซัดไป แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่ายเลย ซิกฟรีดที่เห็นว่ามอนสเตอร์ตัวนั้นกำลังใกล้ลิซ เขาก็เตรียมเข้าไปช่วยแต่ก็มีเสียงของคนคนหนึ่งที่เขาคุ้นเคยกระซิบบอกเขาว่า
“ไม่ต้องหรอก…เด็กคนนั้นเขาเป็นเด็กที่แข็งแกร่ง”
ซิกฟรีดที่ได้ยินก็ตกใจจนต้องหันไปแต่กลับไม่พบใคร แม้ในใจจะดีใจปนสงสัยแต่เขาไม่มีเวลาที่จะทำแบบนั้น เพราะตอนนี้ชีวิตของเด็กคนหนึ่งถูกแขวนบนเส้นด้ายโดยเขาผู้เป็นต้นเหตุ
“ใครมันจะให้เป็นแบบตอนนั้นกัน!!”
ซิกฟรีดตะโกนขึ้นเตรียมพุ่งเข้าไปช่วยลิซ แต่เขาก็ต้องหยุดลง
“นั้นแสงอะไรน่ะ!?”
แสงสว่างบางอย่างส่องสว่างขึ้นบริเวณที่ลิซอยู่ ไม่นานเขาก็รู้ว่านั้นคือพลังของลิซ
“แต่ว่า…สภาพเขาดูแปลกไปหรือว่า!! คลุ้มคลั่ง!!”
ซิกฟรีดที่สัมผัสถึงอันตรายก็พยายามเข้าไปห้ามแต่เพราะแรงลมมหาศาลที่เกิดจากพลังที่ลิซปล่อยออกมาไม่ยอมให้เขาเข้าไป
เรือนผมยาวดั่งสตรีงาม สีผมดังท้องฟ้ายามราตรีอันวิจิตร พร้อมปีกของอัครทูตทั้งสอง
แรงกดดันถูกปล่อยออกไปทั่วทั้งป่า สัตว์น้อยใหญ่ ต้นไม้ใบหญ้า ผืนดิน ซิกฟรีดหรือกระทั่งซาฮาที่กำลังมาก็สัมผัสได้ถึงสิ่งนั้นและรู้เป็นอย่างเดียวกัน
“เทพเจ้าจุติลงมาแล้ว”
ซิกฟรีดพูดขึ้นทั้งที่เหงื่อตกไม่หยุด เขาทั้งกลัว โมโหและวางใจ แม้ครั้งนี้หอกเล่มนั้นจะไม่ปรากฎออกมาแต่ว่าพลังที่ถูกแผ่ออกมาจากตัวลิซนั้นทำเขาผวาไม่น้อย
เจ้ามอนสเตอร์กอลิล่าที่เห็นแม้จะหวาดกลัวแต่มันกลับเลือกที่จะโจมตีต่อ แทนที่จะหนีซึ่งอีกไม่นานมันก็รู้ว่านั้นคือสิ่งที่มันตัดสินใจพลาดที่สุดในชีวิต
“enchant (เสริมพลังยุทธภัณฑ์) การฟัน”
ลิซร่ายบทพร้อมลูบไปที่ดาบจนถึงปลายและมันก็ส่องสว่างออกมา มันทั้งดูสงบ สวยงาม และ…
“สิ้นหวังเหลือเกิน”
มอนสเตอร์ก็พยายามโจมตีอีกครั้งด้วยท่าที่มันถนัด แต่ลิซก็รับไว้ได้โดยไม่หลบ ในขณะที่มันกำลังจะโจมตีอีกครั้ง
“........”
สิ้นสุดคำพูดอันแสนเบาบางร่างกายของมอนสเตอร์ตัวนั้นก็ถูกสับออกเป็นชิ้น ๆ จนไม่เหลือเค้าโครงเดิม
ซิกฟรีดเห็นก็วางใจแต่มันก็ไม่นาน
“นี่มัน!! แผ่นดินไหวเหรอ!?”
เสียงของผืนดินที่กำลังไหวสั่นดังไปทั่วบริเวณ ซิกฟรีดพยายามมองหาสาเหตุก็พบ
“พลังของเขากำลังทะลักออกมาเหรอ!? ไหนผนึกเล่า!?”
ตอนนี้พลังของลิซกำลังคลุ้มคลั่งอย่างไร้การควบคุม แล้วใกล้จะระเบิดเต็มที
“ดูท่าคงเลี่ยงความเสียหายไม่ได้แล้ว งั้นก็ต้องลบมันเพื่อจำกัดความเสียหายไว้ให้มากที่สุด!!”
ซิกฟรีดพูดขึ้นพร้อมยกบาลมุงขึ้นมา เสริมพลังให้ดาบพร้อมทำสมาธิเพื่อกะจังหวะ
หากเขาพลาดแม้แต่เสี้ยววิละก็…ทั้งเขาทั้งป่านี้คงพินาศแน่
และแล้วพลังของลิซก็ระเบิดออกมาเป็นเหมือนลูกบอลขนาดยักษ์ มันเข้ากลืนกินทุกอย่างรอบตัว ไม่นานมันก็เข้าใกล้ตัวซิกฟรีด
“จงเบิกทางสู่รุ่งอรุณใหม่ บาลมุง!! (คมดาบมายา สะบั้นอสูรแดนพิสุทธิ์ไกล) ”
แสงสีขาวฟ้าเข้าปะทะกับลูกบอลขนาดยักษ์ แรงกระแทกของมันทำให้ซิกฟรีดถึงกลับถอยหลัง แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้และใส่แรงทั้งหมดที่มีไปในการโจมตีครั้งนี้
“ย้าก~กกก!!”
เสียงคำรามของนักรบดังไปทั่วบริเวณ เส้นเลือดปูดโปนจนเลือดกระเซ็นออกมา กล้ามเนื้อทุกส่วนก็กำลังกู่ร้องและพังทลาย พร้อมกับใบหหน้าของซิกฟรีดที่โดนเศษเสี้ยวพลังเวทที่ปะทะกันเข้าใส่ตัวจนเกิดบาดแผล แต่เขาก็ยังมุ่งมั่นที่จะตัดมัน
และในที่สุดเขาก็ตัดมันได้ บอลขนาดยักษ์ถูกแบ่งเป็นสองส่วนและสลายไปพร้อมกับร่างของนักรบที่เหนื่อยล้าถึงขีดสุด ส่วนลิซที่เป็นต้นเหตุก็พลังหมด ไม่นานก็ถูกโซ่ผนึกตามเดิมและสลบไป
ซาฮาที่เห็นเหตุการณ์จากที่ไกล ๆ ก็รีบบึ่งมาหาซิกฟรีดที่บาดเจ็บหนัก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!”
ซาฮาพูดทั้งเข้าประคองตัวซิกฟรีดที่บาดเจ็บหนัก
“ดูเหมือน…ฉันจะเล่นหนักไปหน่อย”
ทั้งสองมองไปยังลิซที่อยู่ด้านล่างสุดของหลุมขนาดใหญ่ จากการประเมินคร่าว ๆ ของซาฮานั้นการระเบิดครั้งนี้กินพื้นที่ไปทั้งสิ้น 5 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าน้อยมากแล้ว หากซิกฟรีดหยุดไว้ไม่ได้ล่ะก็เหตุการณ์คงบานปลายมากกว่านี้
“รีบพาเขากลับเถอะ ไม่นานเขาน่าจะฟื้น”
ซาฮาได้ยินก็ทำตามที่ขอ เธอพาลิซกลับไปยังที่พักและทำแผลให้ซิกฟรีด ไม่นาน ลิซก็ตื่นขึ้น
“หวา!! ที่นี่มัน…”
“ตื่นแล้วสินะ เจ้าเด็กนี่”
“ซาฮา…อะ…โอ๊ย”
ลิซพูดขึ้นทั้งกุมแผลตนเองและร้องออกมา บาดแผลของเขาแม้จะได้รับการปฐมพยาบาลแล้วแต่ความเสียหายของมันก็ยังมากอยู่ดี
“ดูจากท่าทีนั้นคงไม่รู้ว่าทำอะไรไปสินะ”
“ว่าไงนะ!?”
ซาฮาที่ยืนยันได้แล้วก็ประคองลิซไปที่เต็นท์ ๆ หนึ่ง
“พร้อมนะ…”
ซาฮาถามลิซ เขาก็พยักหน้าตอบรับ เธอจึงเปิดให้เขาดูถึงสิ่งที่ลิซทำลงไป