ชายหนุ่มแสนธรรมดาใช้ชีวิตกับเพื่อนสาวสมัยเด็กมาเนิ่นนาน แต่ฝันประหลาดชักนำให้เด็กหนุ่มพานพบกับเหตุการณ์อันเป็นจุดพลิกผันและแยกจาก ความทรงจำ สงคราม กาลเวลา การลืมตาตื่นแห่งการเดินทางเพื่อทวงคืนสิ่งที่สำคัญจึงเริ่มต้นขึ้นบนหน้ากระดาษของยุคสมัยใหม่อันเป็นปฐมบทของมหากาพย์นี้

บันทึกกาล เทพไร้นาม - ตอนที่ 18, บทที่ 1 เดินทางสู่ป่าลึก โดย นักประพันธ์ดารา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,ดราม่า,ดาร์ค,สงคราม,แอ็คชั่น ,แอ็กชัน,แอ็คชั่น,พระเอก,แฟนตาซี ,พล็อตสร้าง,ผจญภัย,แอคชั่น,เวท,เวทมนต์,เวทมนตร์,ดาร์กแฟนตาซี,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกกาล เทพไร้นาม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,ดราม่า,ดาร์ค,สงคราม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แอ็คชั่น ,แอ็กชัน,แอ็คชั่น,พระเอก,แฟนตาซี ,พล็อตสร้าง,ผจญภัย,แอคชั่น,เวท,เวทมนต์,เวทมนตร์,ดาร์กแฟนตาซี,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

บันทึกกาล เทพไร้นาม โดย นักประพันธ์ดารา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชายหนุ่มแสนธรรมดาใช้ชีวิตกับเพื่อนสาวสมัยเด็กมาเนิ่นนาน แต่ฝันประหลาดชักนำให้เด็กหนุ่มพานพบกับเหตุการณ์อันเป็นจุดพลิกผันและแยกจาก ความทรงจำ สงคราม กาลเวลา การลืมตาตื่นแห่งการเดินทางเพื่อทวงคืนสิ่งที่สำคัญจึงเริ่มต้นขึ้นบนหน้ากระดาษของยุคสมัยใหม่อันเป็นปฐมบทของมหากาพย์นี้

ผู้แต่ง

นักประพันธ์ดารา

เรื่องย่อ




ตารางอัพนิยายจะอัพทุกวัน 18.00 น. และวันเสาร์อาทิตย์เวลา 19.00 น. เวลาอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมต่อไปในอนาคตนะครับ

เรื่องย่อ : ลิซชายหนุ่มมัธยมปลายธรรมดาที่ในอดีตประสบอุบัติเหตุปริศนาจนเสียพ่อแม่และความทรงจำไป ตอนนี้ได้อาศัยอยู่กับเพื่อนสมัยเด็กนาม “ธิน่า” ในทุกคืนลิซจะฝันเห็นถึงเรื่องประหลาด ตัวตนของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ประสบการณ์ ความทรมานและอีกหลาย ๆ อย่าง เขาเก็บเป็นความลับกับธฺิน่าและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขเรื่อยมา แต่ทว่า


วันหนึ่งธิน่าก็ถูกจับตัวโดยตัวตนปริศนาและลิซก็ถูกสังหาร เขาดำดิ่งลงสู่มิติปริศนาที่เขาคอยเห็นผ่านฝันมาตลอด เขาได้รู้ความจริงบางส่วนและเลือกลืมตาตื่นในฐานะ “เทพเจ้า” สายเลือดพิเศษครึ่งหนึ่งที่ไหลเวียนในตัวเขามาตลอด เพื่อเข้าต่อสู้ต่อมาเขาได้รู้จักกับพรรคพวกของธิน่าและเลือกออกเดินทางไปช่วยธิน่า แต่ก่อนจะไปถึงเขาจะต้องเดินทางผ่านอาณาจักรทั้ง 9 เสียก่อน กระแสกลียุคครั้งใหม่ เปลิวเพลิงแห่งหวังอันมืดมิดถูกจุดประกาย ณ ห้วงลึกของกาลเวลา

ท้ายที่สุดการเดินทางแสนยาวนานจะจบลงที่ตรงไหน ก็คงมีแต่ผู้ที่ไปถึงเท่านั้นจะรู้ได้…


#คำเตือน# เนื้อหาในนิยายบางตอนมีการบรรยายถึงดราม่าที่อาจทำให้รู้สึกหดหู่หรือซึมเศร้า เลือด โศกนาฏกรรม การตาย และการ depress ของตัวละครหรือกระทั่ง อาการ PTSD ก็ตาม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เรื่องนี้ไม่เหมาะกับผู้มีอาการซึมเศร้า หดหู่หรือพึ่งประสบเจอสิ่งแย่ ๆ ในชีวิตมา โปรดหลีกเลี่ยง


จากนี้เชิญสนุกกับนิยายได้เลยครับ

สารบัญ

บันทึกกาล เทพไร้นาม-Prologue สองเส้นขนานบรรจบ??,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 1, บทที่ 1 ชีวิตสามัญยามเช้า,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 2, บทที่ 1 เปิดเรียนวันแรก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 3, บทที่ 1 ฟันเฟืองเริ่มขยับ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 4, บทที่ 1 ฝันร้ายในเรือนกระจก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 5, บทที่ 1 สัญญาณลางร้าย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 6, บทที่ 1 The Last supper มื้ออาหารสุดท้าย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 7, บทที่ 1 ภัยร้ายมาเยือน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 8, บทที่ 1 จุมพิตอำลา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 9, บทที่ 1 คำตอบ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 10, บทที่ 1 การต่อและความช่วยเหลือ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 11, บทที่ 1 ความจริง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 12, บทที่ 1 จดหมายแด่จอห์น,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 13, บทที่ 1 สิ่งที่แปรเปลี่ยนไป,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 14, บทที่ 1 โอกาส,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 15, บทที่ 1 ฝึกฝน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 16, บทที่ 1 เพลิงเหน็บหนาวผ่าขั้วหัวใจ (I),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 17, บทที่ 1 เพลิงเหน็บหนาวผ่าขั้วหัวใจ (II),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 18, บทที่ 1 เดินทางสู่ป่าลึก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 19, บทที่ 1 การต่อสู้พร้อมความสูญเสีย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 20, บทที่ 1 ความเป็นความตาย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 21, บทที่ 1 การเตรียมใจและความเชื่อมั่น,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 22, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (I),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 23, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (II),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 24, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (III),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 25, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (IV),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 26, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (VI),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 27, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (VII),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 28, บทที่ 1 จุดหมายต่อไป,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 29, บทที่ 1 เส้นทางจากนี้,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 30, บทที่ 2 ปรปักษ์แห่งพระเจ้าผู้สวมหน้ากากคนเขลา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 31, บทที่ 2 สู่ 'อีกด้าน',บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 32, บทที่ 2 ผู้ถูกทิ้งสู่เบื้องล่าง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 33, บทที่ 2 เหล่าเศษขยะผู้มารวมกัน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 34, บทที่ 2 คำประกาศของผู้มาเยือน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 35, บทที่ 2 ยมทูตแห่งแสงสว่าง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 36, บทที่ 2 อาทิตย์ยามสนธยา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 37, บทที่ 2 การสนทนาด้วยดาบ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 38, บทที่ 2 ความตายคอยจับจ้อง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 39, บทที่ 2 ออบซิเดียนที่เจิดจรัสที่สุด,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 40, บทที่ 2 เพลิงแค้นของผู้ร่วงหล่น

เนื้อหา

ตอนที่ 18, บทที่ 1 เดินทางสู่ป่าลึก

 ลิซตื่นขึ้นในห้องอีกครั้ง แม้จะยังรู้สึกปวดหัวอยู่แต่แสงแดดยามเช้าก็ลอดผ่านเข้ามาทำให้เขารู้ว่าเช้าแล้ว จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและจัดการตนเองก่อนจะออกไปหา      ซิกฟรีดและซาฮา

“ยังรู้สึกปวดหัวอยู่เลย ให้ตายสิ”

ลิซจับหัวของตนที่ยังรู้สึกปวดอยู่พลางเดินไปยังลานฝึกที่มีซิกฟรีดและซาฮากำลังยืดเส้นยืดสายยามเช้าอยู่

“อรุณสวัสดิ์ทั้งสองคน”

“อรุณสวัสดิ์”

ทั้งสองตอบกลับลิซพร้อมกัน

“เอาล่ะ เรามายืดเส้นตอนเช้าสักหน่อยดีกว่า”

ซิกฟรีดพูดพร้อมด้วยท่าทีตื่นเต้น ส่วนซาฮาก็ยังคงทำท่าทีเรียบเฉยเหมือนเคย

“ก่อนหน้านั้นผมมีเรื่องอยากจะบอกน่ะครับ”

“มีอะไรเหรอ?”

“ถึงจะเวลาสั้น ๆ แต่ผมใช้พลังได้แล้วน่ะครับ”

ทันใดนั้นทั้งสองที่ได้ยินก็ชะงักนิ่งไป แต่ไม่นานซาฮาก็พูดขึ้น

“เรื่องจริงใช่ไหม? เจ้าเด็กเทพ”

“คะ…ครับ”

ซิกฟรีดได้ยินก็ฉุกคิดได้บางอย่างก่อนจะพูดขึ้น

“งั้นลองแสดงให้ดูหน่อยได้ไหม?”

ลิซที่ได้ยินก็ตอบกลับไปด้วยสีหน้าที่ไม่มั่นใจ

“ผมไม่รู้ว่าจะได้เหมือนรอบที่แล้วไหมแต่จะลองดู”

จากนั้นลิซก็ตั้งสมาธิและทำแบบเดียวกับเมื่อคืน ไม่นานรูปร่างของลิซก็เปลี่ยนไป ปีกสีขาวดำทั้งสองสยายออก เรือนผมปลิวไสว พร้อมหอกที่ซิกฟรีดและซาฮาเห็นก็ประหลาดใจกับรูปร่างของมัน 

แต่ไม่นานโซ่ก็ปรากฎออกมาและผนึกพลังลิซอีกครั้ง

“แฮ่ก แฮ่ก อย่างที่เห็น…คงได้แค่แปปเดียวเท่านั้นเอง”

“ลิซ…”

“คะ…ครับ?”

ซิกฟรีดเรียกลิซที่สภาพเหนื่อยล้าอย่างมากด้วยท่าทีที่จริงจัง

“โซ่นั้นคือผนึกใช่ไหม?”

“ใช่ครับ”

“ว่าแล้วเชียว…”

ซิกฟรีดพูดพร้อมลูบคางตนเบา ๆ ก่อนจะไปหาซาฮาและบอกอะไรบางอย่างก่อนที่จะหันไปหาลิซอีกครั้ง

“นายไปพักก่อนนะ”

“ละ…แล้วการฝึกล่ะครับ”

“ยังไงตามตารางก็จะเริ่มอีกประมาณ 1 ชั่วโมงไม่ต้องห่วงหรอก”

“ครับ”

ลิซฟังและทำตามคำแนะนำของซิกฟรีด ไม่นานหลังลิซลับหายไป ซาฮาก็พูดกับซิกฟรีดด้วยสีหน้าจริงจัง

“นายเอาจริงงั้นเหรอ? ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเขายังไม่พร้อมน่ะ”

เหมือนว่าซาฮาจะต่อว่าซิกฟรีดเพราะสิ่งที่เขาบอกซาฮาเมื่อก่อนหน้านี้

“ตอนแรกฉันก็คิดว่าฝึกแค่อีกนิดแล้วกลับกันแต่ดูเหมือนคงจะไม่ได้แล้ว”

“เพราะโซ่นั้นหรือหอกนั้นล่ะ?”

ซาฮาพูดถึงสิ่งที่เห็น ดูเหมือนว่าทั้งซิกฟรีดและซาฮาจะรู้จักโซ่และหอกที่อยู่กับลิซ

“ไม่ใช่ทั้งสองหรอก แต่ฉันว่าเราควรให้ประสบการณ์จริงสอนเขาด้วย”

“อ๋อ งั้นเหรอ”

ซาฮาตอบกลับซิกฟรีดพร้อมกับไปเตรียมอะไรบางอย่าง

ไม่นานเวลาก็ล่วงเลยมาถึงเวลาการฝึก

“วันนี้เราจะมาฝึกการควบคุมพลังกัน”

“คะ…ครับ”

ลิซเปลี่ยนเป็นชุดสีดำรัดรูปพร้อมกับซิกฟรีดที่ใส่ชุดนักรบที่ผสมผสานชุดเกราะสมัยยุคกลางเข้ากับสมัยใหม่อีกทั้งรอยผ่าที่แตกเป็นเส้นยาวกลางอกจนเตะตา

“จากที่ฉันเห็นพลังนาย ถ้าสอนให้นายใช้พลังแบบเต็มที่ในสถานการณ์ที่อันตรายมันเสี่ยงเกินไป ดังนั้นฉันจะสอนนายให้ดึงพลังที่แผ่ออกมาก็แล้วกัน”

จากนั้นซิกฟรีดก็ปักดาบลงและหลับตาทำสมาธิและไม่นานคลื่นพลังที่แผ่อยู่รอบตัวก็ส่องสว่างขึ้น พลังสีฟ้าอมขาวที่ดูสบายใจและน่าเชื่อถือลอยออกมาจาง ๆ แม้จะรู้สึกดีแต่ก็มีความระแคะระคายปะปนอยู่

“มันดูสวยงามเหลือเกิน” 

ลิซอุทานในใจอย่างช่วยไม่ได้ ความวิจิตรงามที่จำต้องชายตามอง ดั่งแสงสว่างอันอบอุ่นแต่ก็อันตรายหากใกล้เกินไป ลิซไม่อาจละสายตาได้จนซิกฟรีดต้องทักขึ้น

“ว่าแต่ทำไมถึงไม่ให้ผมปลดผนึกพลังเหรอครับ?”

“นายก็รู้ดีนี่ หากนายปลดออกจากนั้นนายจะเหนื่อยล้า แล้วคิดว่ามันเกิดตอนสถานการณ์น่าเสี่ยวน่าขวานดูสิ”

“คะ…ครับ”

“อีกทั้งนี่คือพื้นฐานที่ทุกคนควรทำได้ ‘สิ่งที่ยิ่งใหญ่มักเกิดขึ้นจากสิ่งเล็ก ๆ ’ จำไว้ล่ะ”

“คะ…ครับ!!”

จากนั้นซิกฟรีดก็รวบรวมพลังเหล่านั้นผ่านแขนซ้ายมายังมือ ไม่นานพลังเหล่านั้นก็กลายเป็นลูกบอลขนาดเล็ก 

ลิซเห็นก็ทำหน้าตาตกใจอีกทั้งยังประหลาดใจ ซิกฟรีดที่เห็นก็อธิบายต่อ

สิ่งที่เขาใช้นั้นคือการรวบรวมพลังที่แผ่ออกมา รวบรวมเป็นรูปร่าง สิ่งนี้นั้นเป็นทั้งการฝึกฝนควบคุมพลังและเป็นการลบกลิ่นอายชั่วคราว อีกทั้งยังเป็นรากฐานสำคัญอย่างหนึ่งในการใช้เวทมนตร์ชนิดต่าง ๆ 

“แล้วมันสามารถโจมตีได้หรือเปล่าครับ?”

ลิซถามขึ้นด้วยสีหน้าที่คาดหวัง ซิกฟรีดก็ยิ้มก่อนที่จะพูดในสิ่งที่ทำให้ลิซต้องอึ้ง

“มันใช้ไม่ได้น่ะ…”

ชั่วพริบตานั้น ดวงตาของลิซว่างเปล่าในใจเปี่ยมด้วยความผิดหวังและความรู้สึกว่า “ถ้าใช้ไม่ได้แล้วจะสอนทำไมวะ” ทั้งนี้สิ่งสิ่งนั้นก็สะท้อนออกมาจากตาของลิซเช่นกัน จนซิกฟรีดต้องรีบพูดก่อนที่ลิซจะผิดหวังไปมากกว่านี้

“ถึงใช้โจมตีไม่ได้แต่มันก็ใช้แบบนี้ได้นะ”

จากนั้นซิกฟรีดก็โยนลูกบอลพลังลงพื้นและเกิดแสงสว่างวาบขึ้นมาจนลิซต้องร้องออกมาเพราะแสบตาแถมยังโดนทั้งที่ยังไม่ทันตั้งตัว

“ตะ…ตาฉัน!!”

ลิซหลับตาและใช้มือขยี้ไปมา แสงสว่างวาบทำให้ทัศนะของลิซพร่ามัวไปชั่วขณะ แต่ไม่นานเขาก็เริ่มมองเห็นทุกอย่างได้ตามปรกติ

“ก่อนจะใช้ ช่วยบอกกันหน่อยสิครับ”

“มันจะไม่สนุกเอาน่ะสิ ถ้างั้นฉันจะอธิบายวิธีที่นายจะต่อสู้ในตอนนี้ให้”

“วิธีต่อสู้…”

“สิ่งสำคัญของวิธีนี้คืออาวุธและเราจะใช้แบบนี้”

ซิกฟรีดกำลังจะสาธิตวิธีสู้ที่เหมาะกับลิซในตอนนี้ แต่ทว่าก่อนหน้านั้นเขายกดาบขึ้นและฟันไปยังสิ่งของใกล้จนขาดออกจากกันอย่างสวยงาม 

“นี่คือพลังของบาลมุงแบบที่ยังไม่เสริมพลังเข้าไป แม้จะสามารถฟันได้แต่เมื่อเจอของแข็ง ๆ หรือของที่มีคุณสมบัติพิเศษก็อาจจะใช้ไม่ได้ ดังนั้นเราจะเสริมพลังโดยการใช้พลังจากเมื่อกี้อัดเข้าไป”

จากนั้นซิกฟรีดก็นำพลังที่สาธิตเมื่อครู่ ถ่ายโอนเข้าดาบบาลมุงจนบาลมุงนั้นเรืองแสงออกมาและเขาก็หันไปฟันกับของที่มีลักษณะดูแข็งแกร่งกว่าสิ่งที่ซิกฟรีดฟันไปก่อนหน้า

ลิซที่เห็นแม้จะตกใจกับความสุดยอดของมัน แต่เขาก็ยังมีคำถามกับวิธีการแบบนี้

“ซิกฟรีด ทำไมเราไม่อัดพลังจากร่างกายเข้าอาวุธไปเลยล่ะ”

“เป็นคำถามที่ดี ส่วนสาเหตุเพราะนายถูกผนึกพลังแบบสมบูรณ์เลยไม่สามารถใช้พลังออกมาได้ใช่ไหมล่ะ?”

“ครับ…ถึงจะใช้ได้แต่ก็หมดแรงตอนท้ายอยู่ดี”

“แม้นายจะถูกผนึกพลัง แต่เมื่อนายปลดออกแล้วย่อมมีพลังบางส่วนไหลออกมาโดยที่นายไม่รู้ตัว ฉันเลยใช้จุดนั้นไงล่ะ”

“อย่างนี้นี่เอง”

“ถึงมันจะอ่อนแอกว่าการ ‘เสริมพลัง’ ที่ฉันใช้ปรกติแต่มันก็เอนไปทาง ‘enchant’ ของช่างทำอาวุธเหมือนกันใช่ไหมซาฮา”

นักดาบหนุ่มหันไปถามเด็กสาวที่กำลังเตรียมบางอย่างอยู่ เมื่อเธอได้ยินจึงลุกขึ้นและรับช่วงต่อ

“ใช่ถึงมันจะไม่มีการ ‘enchant’ อย่างถูกวิธี แต่ก็ถือว่าใช้ได้ แต่ว่าในด้านพลังทำลายหรือประสิทธิภาพนั้นยังอ่อนกว่า ‘เสริมพลัง’ มาก”

“ว่าแต่ซาฮา…enchant นี่คืออะไรเหรอ?”

ลิซยกมือถามซาฮา ซาฮาที่ได้ยินก็จิ๊เบา ๆ ก่อนที่จะตอบคำถามนั้น

“ ‘enchant’ คือการร่ายมนตร์คาถาบางอย่างเพื่อเสริม แปรเปลี่ยน หรือยกระดับอาวุธ”

“แล้วมันต่างจาก ‘เสริมพลัง’ ยังไงเหรอ?”

ลิซยิงคำถามเพิ่ม ซาฮาได้ยินก็ทำหน้าเหมือนจะบอกว่า “นี่นายไม่รู้อะไรเลยเหรอ?” ลิซเห็นก็ทำหน้าเจื่อน ๆ    รับผิด

“ ‘enchant’ เป็นการเสริมแบบเจาะจงมากกว่า ‘เสริมพลัง’ แต่ว่า ‘enchant’ เป็นศาสตร์ที่แทบจะเรียกได้ว่าสูญหายไปแล้ว แม้จะเจอคนที่ใช้ได้แต่ประสิทธิภาพมันต่ำ คนจึงนิยม ‘เสริมพลัง’ มากกว่า”

“อย่างนี้นี่เอง แล้วซาฮาใช้ได้ไหมครับ ‘enchant’ น่ะ?”

ซาฮาได้ยิน เธอก็ยืดอกพร้อมพูดออกไปอย่างมั่นใจว่า

“ใช้ได้ แต่มันก็ไม่ได้ทรงประสิทธิภาพมากเพราะมันยังไม่สมบูรณ์”

“ไม่สมบูรณ์เหรอครับ!?”

ทันใดนั้นซาฮาก็ทำสีหน้าเศร้าสร้อยอย่างกับหน้าตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความทะนงเมื่อครู่คือเรื่องโกหกที่ปั้นขึ้น ลิซเห็นเขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันหมายความว่าอะไร

มันคือสิ่งที่เธอได้รับมาจากพ่อเลี้ยงของเธอ…

ลิซเห็นก็ทำหน้าเศร้าตาม ซิกฟรีดที่เห็นว่าบรรยากาศเริ่มไม่ดีจึงตบมือเพื่อตัดบทและเรียกสติทั้งคู่

“งั้นเรามาซ้อมใช้พร้อมกับมาทวนการฝึกครั้งที่แล้วกัน”

“ผมต้องหนีดงกระสุนอีกแล้วเหรอ…”

ลิซพูดพร้อมสั่นกลัวกับความหายนะที่เกิดขึ้นครั้งก่อน ทำเขาแทบจะกลัวกระสุนไปโดยใช่เหตุ

“ไม่ต้องห่วงน่าเจ้าเด็กเทพ…วันนี้ฉันจะสอนการเสริมพลังแบบดี ๆ ต่างหาก”

ลิซได้ยินก็ดีใจจนน้ำตาซึมจนเขาต้องกุมมือเข้าด้วยกันแล้วนึกในใจ “ขอบคุณพระเจ้า!!” ซาฮาที่เห็นก็รู้สึกไม่ชอบแปลก ๆ แต่ไม่นานการฝึกของลิซและซาฮาก็เริ่มขึ้น

แม้มันจะยากสำหรับลิซแต่เขาก็สามารถทำได้อย่างดี แม้จะโดนซาฮาตำหนิดุด่าเป็นบางครั้ง แต่ก็สามารถทำได้โดยสวัสดิภาพและไม่นานการฝึกกับซาฮาก็จบลง

ต่อมาเป็นการฝึกกับซิกฟรีดซึ่งเป็นการซ้อมประดาบโดยใช้การเสริมพลังอาวุธเข้าร่วม ทั้งสองประดาบอยู่นาน ทั้งล้มลุกคลุกคลาน ทั้งดาบพังเพราะรับพลังไม่ไหวหรือสู้กันจนดาบพัง แต่กระนั้นแล้วดาบของลิซก็ยังไม่โดนซิกฟรีดแม้แต่นิดเดียว

ไม่นานการฝึกกับซิกฟรีดก็จบลง ลิซทิ้งตัวลงพื้น หายใจหอบพร้อมเหงื่อที่ไหลออกมาอย่างกับสายน้ำ

“เหนื่อยชะมัดเลย!!”

ลิซพูดออกมาโดยในมือก็ถือขวดน้ำเย็น ๆ ไว้ เขาดื่มมันเหมือนกับนักวิ่งที่วิ่งมาอย่างเหน็ดเหนื่อย

“นายนอนพักก็ได้นะลิซ เดี๋ยวเราค่อยเริ่มการฝึกอีกที”

“จริงเหรอครับ!! งั้นฝันดีครับ”

พูดจบลิซก็นอนลงไปกับพื้นและกรนอย่างสบายใจ ซิกฟรีดที่เห็นก็ยิ้มออกมาจนซาฮาต้องบอก

“ยิ้มน่าขยะแขยงจังนะ ซิกฟรีด”

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ”

“ทั้งที่จะพาเขาโยนไปที่แบบนั้นแท้ ๆ”

“ก็มันจำเป็นนี่”

ซิกฟรีดพูดขึ้นพร้อมสีหน้าที่จริงจัง พร้อมทั้งหันไปหาซาฮา

“เจ้านั้นเก่งมาก แค่ฝึกแบบนี้มันไม่ทันแน่ดังนั้น…”

“ดังนั้นฉันเลยเตะเขาลงไปในที่ ๆ อันตรายงั้นเหรอ”

“โหดร้ายจังเลยนะ”

ทั้งสองพูดพร้อมมองไปยังลิซ แม้ในใจของซิกฟรีดและซาฮาจะรู้สึกผิดที่ต้องพาเขาไปที่อันตรายทั้งที่ยังไม่พร้อม แต่ว่าตอนนี้ไม่มีทางเลือกแล้ว 

ลิซก็ยังนอนกรนโดยไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยว่าเขากำลังจะถูกพาไปยังที่ที่อันตราย

 

ต่อมาลิซก็ตื่นขึ้น เขาก็รับรู้ว่าสภาพแวดล้อมที่เขาอยู่มันเปลี่ยนไป

“ที่นี่มันที่ไหนเนี่ย!!!!”