ชายหนุ่มแสนธรรมดาใช้ชีวิตกับเพื่อนสาวสมัยเด็กมาเนิ่นนาน แต่ฝันประหลาดชักนำให้เด็กหนุ่มพานพบกับเหตุการณ์อันเป็นจุดพลิกผันและแยกจาก ความทรงจำ สงคราม กาลเวลา การลืมตาตื่นแห่งการเดินทางเพื่อทวงคืนสิ่งที่สำคัญจึงเริ่มต้นขึ้นบนหน้ากระดาษของยุคสมัยใหม่อันเป็นปฐมบทของมหากาพย์นี้

บันทึกกาล เทพไร้นาม - ตอนที่ 19, บทที่ 1 การต่อสู้พร้อมความสูญเสีย โดย นักประพันธ์ดารา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,ดราม่า,ดาร์ค,สงคราม,แอ็คชั่น ,แอ็กชัน,แอ็คชั่น,พระเอก,แฟนตาซี ,พล็อตสร้าง,ผจญภัย,แอคชั่น,เวท,เวทมนต์,เวทมนตร์,ดาร์กแฟนตาซี,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกกาล เทพไร้นาม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,ดราม่า,ดาร์ค,สงคราม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แอ็คชั่น ,แอ็กชัน,แอ็คชั่น,พระเอก,แฟนตาซี ,พล็อตสร้าง,ผจญภัย,แอคชั่น,เวท,เวทมนต์,เวทมนตร์,ดาร์กแฟนตาซี,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

บันทึกกาล เทพไร้นาม โดย นักประพันธ์ดารา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชายหนุ่มแสนธรรมดาใช้ชีวิตกับเพื่อนสาวสมัยเด็กมาเนิ่นนาน แต่ฝันประหลาดชักนำให้เด็กหนุ่มพานพบกับเหตุการณ์อันเป็นจุดพลิกผันและแยกจาก ความทรงจำ สงคราม กาลเวลา การลืมตาตื่นแห่งการเดินทางเพื่อทวงคืนสิ่งที่สำคัญจึงเริ่มต้นขึ้นบนหน้ากระดาษของยุคสมัยใหม่อันเป็นปฐมบทของมหากาพย์นี้

ผู้แต่ง

นักประพันธ์ดารา

เรื่องย่อ




ตารางอัพนิยายจะอัพทุกวัน 18.00 น. และวันเสาร์อาทิตย์เวลา 19.00 น. เวลาอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมต่อไปในอนาคตนะครับ

เรื่องย่อ : ลิซชายหนุ่มมัธยมปลายธรรมดาที่ในอดีตประสบอุบัติเหตุปริศนาจนเสียพ่อแม่และความทรงจำไป ตอนนี้ได้อาศัยอยู่กับเพื่อนสมัยเด็กนาม “ธิน่า” ในทุกคืนลิซจะฝันเห็นถึงเรื่องประหลาด ตัวตนของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ประสบการณ์ ความทรมานและอีกหลาย ๆ อย่าง เขาเก็บเป็นความลับกับธฺิน่าและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขเรื่อยมา แต่ทว่า


วันหนึ่งธิน่าก็ถูกจับตัวโดยตัวตนปริศนาและลิซก็ถูกสังหาร เขาดำดิ่งลงสู่มิติปริศนาที่เขาคอยเห็นผ่านฝันมาตลอด เขาได้รู้ความจริงบางส่วนและเลือกลืมตาตื่นในฐานะ “เทพเจ้า” สายเลือดพิเศษครึ่งหนึ่งที่ไหลเวียนในตัวเขามาตลอด เพื่อเข้าต่อสู้ต่อมาเขาได้รู้จักกับพรรคพวกของธิน่าและเลือกออกเดินทางไปช่วยธิน่า แต่ก่อนจะไปถึงเขาจะต้องเดินทางผ่านอาณาจักรทั้ง 9 เสียก่อน กระแสกลียุคครั้งใหม่ เปลิวเพลิงแห่งหวังอันมืดมิดถูกจุดประกาย ณ ห้วงลึกของกาลเวลา

ท้ายที่สุดการเดินทางแสนยาวนานจะจบลงที่ตรงไหน ก็คงมีแต่ผู้ที่ไปถึงเท่านั้นจะรู้ได้…


#คำเตือน# เนื้อหาในนิยายบางตอนมีการบรรยายถึงดราม่าที่อาจทำให้รู้สึกหดหู่หรือซึมเศร้า เลือด โศกนาฏกรรม การตาย และการ depress ของตัวละครหรือกระทั่ง อาการ PTSD ก็ตาม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เรื่องนี้ไม่เหมาะกับผู้มีอาการซึมเศร้า หดหู่หรือพึ่งประสบเจอสิ่งแย่ ๆ ในชีวิตมา โปรดหลีกเลี่ยง


จากนี้เชิญสนุกกับนิยายได้เลยครับ

สารบัญ

บันทึกกาล เทพไร้นาม-Prologue สองเส้นขนานบรรจบ??,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 1, บทที่ 1 ชีวิตสามัญยามเช้า,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 2, บทที่ 1 เปิดเรียนวันแรก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 3, บทที่ 1 ฟันเฟืองเริ่มขยับ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 4, บทที่ 1 ฝันร้ายในเรือนกระจก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 5, บทที่ 1 สัญญาณลางร้าย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 6, บทที่ 1 The Last supper มื้ออาหารสุดท้าย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 7, บทที่ 1 ภัยร้ายมาเยือน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 8, บทที่ 1 จุมพิตอำลา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 9, บทที่ 1 คำตอบ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 10, บทที่ 1 การต่อและความช่วยเหลือ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 11, บทที่ 1 ความจริง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 12, บทที่ 1 จดหมายแด่จอห์น,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 13, บทที่ 1 สิ่งที่แปรเปลี่ยนไป,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 14, บทที่ 1 โอกาส,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 15, บทที่ 1 ฝึกฝน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 16, บทที่ 1 เพลิงเหน็บหนาวผ่าขั้วหัวใจ (I),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 17, บทที่ 1 เพลิงเหน็บหนาวผ่าขั้วหัวใจ (II),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 18, บทที่ 1 เดินทางสู่ป่าลึก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 19, บทที่ 1 การต่อสู้พร้อมความสูญเสีย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 20, บทที่ 1 ความเป็นความตาย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 21, บทที่ 1 การเตรียมใจและความเชื่อมั่น,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 22, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (I),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 23, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (II),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 24, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (III),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 25, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (IV),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 26, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (VI),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 27, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (VII),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 28, บทที่ 1 จุดหมายต่อไป,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 29, บทที่ 1 เส้นทางจากนี้,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 30, บทที่ 2 ปรปักษ์แห่งพระเจ้าผู้สวมหน้ากากคนเขลา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 31, บทที่ 2 สู่ 'อีกด้าน',บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 32, บทที่ 2 ผู้ถูกทิ้งสู่เบื้องล่าง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 33, บทที่ 2 เหล่าเศษขยะผู้มารวมกัน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 34, บทที่ 2 คำประกาศของผู้มาเยือน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 35, บทที่ 2 ยมทูตแห่งแสงสว่าง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 36, บทที่ 2 อาทิตย์ยามสนธยา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 37, บทที่ 2 การสนทนาด้วยดาบ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 38, บทที่ 2 ความตายคอยจับจ้อง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 39, บทที่ 2 ออบซิเดียนที่เจิดจรัสที่สุด,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 40, บทที่ 2 เพลิงแค้นของผู้ร่วงหล่น

เนื้อหา

ตอนที่ 19, บทที่ 1 การต่อสู้พร้อมความสูญเสีย

“ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย!!”

หลับไปไม่นานทำไมตื่นมารอบข้างมีแต่ป่าทึบที่มองไม่เห็นปลายทางเนี่ย!!

ลิซนึกในใจพร้อมลุกขึ้นและมองหาทางออกแต่ก็พบแต่ต้นไม้รูปร่างประหลาดกว่าที่เขาเคยพบเห็น ลิซนึกได้เลยลองตะโกนเรียกหาซิกฟรีดและซาฮาแต่ก็ไม่เป็นผล ในขณะที่ความสิ้นหวังค่อย ๆ ครอบงำจิตใจลิซนั้น

เสียงแห่งความหวังก็ดังแว่วเข้าหูเขาโดยพลัน

“อย่าตื่นตูมเป็นกระต่ายอย่างงั้นสิ ลิซ”

เสียงของซิกฟรีดดังขึ้นอย่างไร้ที่มา แม้ลิซจะลองมองหาแต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา

“ต่อให้นายมองไปทางไหนก็ไม่เจอหรอกต่อให้บนฟ้าก็ตามนะ”

และใช่แม้จากคำพูดนั้นลิซจะเดาได้ว่าซิกฟรีดอยู่ที่ไหนแต่ที่ไม่สามารถหาได้นั้นคือซิกฟรีดอยู่บนท้องฟ้าแต่ด้วยความแน่นหนาของป่าทึบบดบังวิสัยทำให้ไม่เห็นเขา แต่กระนั้นลิซก็ถอนหายใจโล่งอกที่เขาไม่ได้ถูกทิ้ง

“แล้วพาฉันมาที่ไหนเนี่ย”

ลิซใจเย็นลงและถามซิกฟรีดที่อยู่ไกล ๆ เมื่อเขาได้ยินก็ยิ้มออกมาก่อนจะตอบคำถามนั้นด้วยคำตอบอันแสนจะโหดร้าย

“ที่นี่คือป่าลึกที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์อันตรายแบบสุด ๆ อีกทั้งพืชที่เต็มไปด้วยความพิศวงแต่ก็น่าอัศจรรย์ ดังนั้นมันจึงถูกเรียกว่า “พงไพรลักซ่อน” น่ะ”

“ “พงไพรลักซ่อน” ทำไมชื่อมันดูจืดชืดขัดกับความอันตรายที่พูดจังครับ”

ลิซถามด้วยสีหน้าที่โมโหปนสงสัยที่ทำไมป่านี้ถึงถูกตั้งชื่อแย่แบบนี้ ทั้งความสงสัยที่เขาถูกพามาโดยที่ไม่บอกกล่าวและคำสาปแช่งเล็ก ๆ ถึงซิกฟรีดในใจ

“เพราะมันเป็นที่ที่ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นไงล่ะ อีกทั้งคนที่เข้ามาก็ไม่มีวันได้ออกมา มันจึงมีชื่อนี้”

ลิซที่ได้ยินก็ลองมองไปรอบ ๆ บรรยากาศที่ดูเงียบสงบเหมือนป่าทั่วไปแต่สิ่งที่ลิซสัมผัสได้คือความสยดสยองจนขนลุกซู่กับความน่าพิศวงชวนสะอิดสะเอียนจนแทบอาเจียนออกมา

“แล้วพาผมมาทำไมเนี่ย!?”

“แน่นอนฝึกฝนนายไง”

“ห้ะ!?”

ซิกฟรีดอธิบายถึงเหตุผลที่ต้องพาลิซมายังที่อันตรายแบบนี้ ทั้งฝึกฝนลิซที่ต้องสู้กับเดียร์มุดในอีกไม่ช้า หากฝึกแบบปรกตินั้นลิซแพ้และถูกฆ่าแน่นอน หรือฝึกให้ปลดผนึกพลังก็มีความเสี่ยงมากเกินไปที่จะหมดก็อกกลางคัน ดังนั้นจึงตัดสินใจให้ลิซฝึกฝนพลังที่พึ่งสอนไปและฝึกร่างกาย อารมณ์ การตัดสินใจ ไหวพริบใน “พงไพรลักซ่อน” แห่งนี้

“แน่นอนว่าหากมีอะไรที่นายรับไม่ไหวเกิดขึ้น ฉันก็จะช่วยเองไม่ต้องห่วง”

“ต่อให้พูดแบบนั้นผมก็ไม่สบายใจขึ้นเลย”

ลิซที่ได้ยินไปก็รู้สึกไม่สบายอย่างมาก อีกทั้งความกลัวที่ค่อย ๆ กัดกินจิตใจเขา แต่คำพูดหนึ่งของซิกฟรีดก็ดึงสติของลิซอีกครั้ง

“จะไปช่วยไม่ใช่เหรอ ธิน่าน่ะ!!”

แค่ประโยคเดียวก็ทำให้ลิซนึกถึงเหตุผลที่เขาเลือกจะออกเดินทาง เผชิญหน้ากับความจริงที่ไม่เคยรู้และความอัปยศในวันนั้นที่เขาไม่สามารถปกป้องคนที่รักได้

“ถ้าแค่ตัวเองยังเอาไม่รอด คิดเหรอว่าจะมีปัญญาไปช่วยเธอน่ะ!!”

คำพูดของซิกฟรีดตบหน้าลิซเข้าอย่างจังเหมือนกับหมัดน็อกเอ้าท์ของนักมวยที่ใช้เผด็จศึกศัตรู

ลิซได้ยินก็กำหมัดแน่นและบอกตนในใจ

‘ใช่แล้ว ถ้าแค่ตัวเองยังไม่รอด แล้วจะช่วยคนอื่นเขายังไง’

จากนั้นลิซก็พบกับดาบที่ซิกฟรีดให้ไว้วางราบอยู่ที่พื้น เขากำไว้แน่นราวกับมันคือสมบัติของตน และเดินมุ่งเข้าไปในป่า

“แบบนั้นแหละลิซ อย่าหยุดเพียงแค่อุปสรรคเล็ก ๆ แค่นี้ สิ่งที่นายกำลังท้าทายอยู่คือสิ่งที่พวกเราหรือแม้แต่พ่อแม่นายก็ไม่เคยคิดที่จะทำ “การท้าทายเทพเจ้าและโชคชะตา” ”

ซิกฟรีดมองลิซจากบนฟ้าไกล ๆ แต่ไม่นานเขาก็นึกบางอย่างได้ เขาจึงรีบเรียกลิซ

“ลิซ ฉันลืมบอกนายว่า…”

“หืม…”

ไม่ทันจบมอนสเตอร์รูปร่างหมาป่าก็วิ่งเข้ามาหาลิซ แต่เขาก็หลบได้ ทว่าธรรมชาติของหมาป่านั้นคือพวกมันอยู่รวมกันเป็นฝูงนั้นเอง

มอนสเตอร์รูปร่างหมาป่าหอนเสียงดังเรียกพรรคพวกที่รอขย้ำเหยื่อในความมืดออกมารุมกินโต๊ะเหยื่อตรงหน้า ลิซเห็นก็วิ่งป่าราบทันทีโดยไม่คิดชีวิต

“ฉันจะบอกนายว่าอย่าเดินมั่ว ๆ ซั่ว ๆ อย่างงั้น!!!”

ซิกฟรีดเห็นก็ตะโกนออกไปโดยไม่รู้ตัว

“แล้วทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้เล่า!!!!”

ลิซพูดตะโกนพร้อมวิ่งหนีสุดชีวิตพลางด่าซิกฟรีดในใจที่ไม่เตือนให้เร็วกว่านี้ 

เขาวิ่งหนีไปเรื่อย ๆ ทั้งหลบต้นไม้ สิ่งกีดขวางและสัตว์ประหลาดรูปร่างหมาป่าที่คอยวิ่งเข้ามากัดเขาจนซิกฟรีดเห็นก็ทนไม่ไหว

“ลิซอย่าวิ่งอย่างเดียวสิ! ไม่งั้นแรงนายหมดก่อนแน่ ใช้สิ่งที่เรียนมาสิ!”

ซิกฟรีดพูดกับลิซที่ในใจบอก “แค่หนีก็เต็มกลืนแล้ว ยังจะให้โต้กลับอยู่เหรอ?” ในเสี้ยววิที่ลิซคิดอยู่นั้นเองมอนสเตอร์รูปร่างหมาป่าตัวหนึ่งก็พุ่งเข้ามาหมายจะปลิดชีพลิซ แต่เขาหลบได้จึงจบแค่แผลถลอกเท่านั้น แต่เขาก็พลาดสะดุดล้มลง

“โอ๊ย!!”

ลิซร้องอย่างเจ็บปวดพร้อมกุมเท้าที่สะดุด แต่หารู้ไม่ว่าเขากำลังถูกล้อมด้วยมอนสเตอร์รูปร่างหมาป่าประมาณ 7-8 ตัว ซิกฟรีดเห็นก็ตะโกนสุดเสียงว่า

“ดาบมีก็ใช้สิ! ลิซ!! คิดสิคิด!!!”

คำพูดของซิกฟรีดทำให้ลิซฉุกคิดได้ แต่ทันใดนั้นหมาป่าตัวหนึ่งก็เข้ามาตะครุบลิซแต่เขาใช้ดาบป้องกันและคิดหาทางฝ่าวงล้อม

“เอาไงดี”

ลิซพูดพร้อมหายใจหอบเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขากำลังเหนื่อยล้า หมาป่าตัวอื่นที่เห็นเหยื่อตรงหน้าใกล้หมดแรงก็บีบวงให้แคบลงเรื่อย ๆ 

ลิซนึกถึงที่ฝึกกับซิกฟรีดและซาฮา แม้ว่าเขาจะไม่เคยนำมาประยุกต์หรือทดลองก่อนจะมาใช้ในสถานการณ์จริง แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกแล้ว 

ตั้งสมาธิแล้วนึกให้ออกซะ! ถึงสิ่งที่พวกเขาได้สั่งสอนมา

ลิซตั้งสมาธิจินตนาการถึงคลื่นพลังรอบตัวและสั่งให้มันไหลรวมกันที่ดาบไม่นานคลื่นพลังที่อยู่รอบตัวเขาก็ถูกถ่ายโอนมายังดาบที่ลิซถืออยู่จนมันส่องแสงขึ้นมา สีของมันราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มี ดวงดาวมากมายโอบล้อมอยู่ 

ซิกฟรีดสัมผัสได้ก็ดีใจจนตัวสั่นที่ลิซสามารถทำได้แล้ว แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ที่ว่าเขานั้นจะสามารถทลายสถานการณ์สุดเลวร้ายข้างหน้านี้ได้หรือไม่?

หมาป่าที่เห็นก็มีทีท่าหวาดกลัว แต่ก็มีหมาป่าตัวหนึ่งที่มีลักษณะพิเศษกว่าตัวอื่นทำการเห่าเพื่อเป็นการปลุกขวัญตัวอื่น ลิซเห็นก็รู้เลยว่าเจ้านั้นคือจ่าฝูงดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะฝ่าวงล้อมไปเพื่อฆ่าจ่าฝูง แต่ว่ามันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น

ทันใดนั้น ณ ช่วงเวลาหนึ่งที่ทุกอย่างเงียบสงบไร้การเคลื่อนไหว มีเพียงเสียงใบไม้ปลิวไสวและเสียดสีเบา ๆ ทั้งสองต่างจ้อมมองอีกฝ่ายด้วยจิตสังหารเต็มเปี่ยม ไร้ซึ่งการปิดบังใด ๆ 

ไม่นานเสียงตกของลูกผลไม้ก็ดังขึ้นอันเป็นสัญญาณของการฆ่าฟัน

หมาป่าทั้งหมดยกเว้นจ่าฝูงกระโจนเข้ามาลิซด้วยความบ้าคลั่ง ลิซเห็นก็หลบการโจมตีของหมาป่าตัวแล้วตัวเล่า แต่เพราะเสียเปรียบด้านจำนวนจึงไม่สามารถฆ่าเพื่อชิงความได้เปรียบได้

“สภาพแวดล้อมแบบนี้พวกมันชำนาญกว่า…เสียเปรียบเต็มประตูเลยสินะ!?”

ลิซพูดขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกหวาดกลัวในใจ เขาเสียเปรียบทุกด้านทั้งจำนวน พลัง ความชำนาญด้านสภาพแวดล้อม มีเพียงดาบที่อัดพลังอยู่เท่านั้นที่เป็นข้อได้เปรียบของเขา

‘ซิกฟรีดบอกให้ใช้ในสิ่งที่เรียนมา แต่ว่า…จะทำยังไงดี!?’

ในขณะที่ลิซกำลังคิดหาหนทางที่จะทลายสถานการณ์เลวร้ายตรงหน้า แต่ฝูงหมาป่ากลับไม่ยอมให้เขาทำอย่างแบบนั้น พวกมันกระโจนเข้าใส่ทั้งยังกวัดแกว่งเคี้ยวเล็บของมันทำให้ลิซค่อย ๆ บาดเจ็บ

แต่ทันใดนั้นเอง

“มองการเคลื่อนไหวของศัตรูซะลิซ นี่จะเป็นคำแนะนำสุดท้ายจากฉันแล้ว!”

เสียงของซิกฟรีดดังสนั่น ลิซได้ยินมันอย่างแจ่มชัดแม้จะรู้ความหมายของมันแต่เขากลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย

หรือที่เพราะทำไม่ได้เพราะเขาคิดอย่างงั้นกัน!?

ความคิดนี้โผล่ขึ้นมาในหัวลิซ ที่ทำไม่ได้เพราะมันทำไม่ได้หรือเพราะว่าเขากำลังหาข้ออ้างกัน?

“ฉันสัญญากับตัวเองแล้ว…”

ลิซพูดพร้อมยกดาบขึ้นและกำแน่นพร้อมทั้งเปล่งเสียงออกมา

“ว่าฉันจะไปช่วยธิน่า!!”

ลิซพุ่งเข้าใส่หมาป่าตัวหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าเขา ตัวอื่นที่เห็นก็พยายามเข้ามาโจมตีแต่เขาก็อ่านการเคลื่อนไหวของพวกมันทีละตัวและหลบมัน ตัวแล้วตัวเล่าที่เข้าจู่โจมลิซแต่เขาก็หลบได้ กระทั่งมีตัวหนึ่งเสียจังหวะ ลิซเห็นก็ใช้ดาบฟันไปที่คออย่างไม่ลังเล

หัวของมันขาดออกจากลำตัวอย่างง่ายดาย เลือดพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมากอาบย้อมตัวลิซด้วยสีแดงม่วงของมัน ไม่ทันไรตัวอื่นที่เห็นก็เข้าโจมตีอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาหลบและสวนกลับทันที

เพลงดาบถูกวาดแล้ววาดเล่าจนทุกตัวที่เข้าโจมตีเขาต่างถูกตัดคอจนหมดเลือดสีแดงม่วงพุ่งออกมาเหมือนน้ำพุ ไหลย้อมพื้นที่แถวนั้นจนเป็นสีเดียวกัน ตอนนี้เหลือแค่หมาป่า 3 ตัวซึ่งรวมจ่าฝูงด้วย

จ่าฝูงเห็นท่าไม่ดีจึงจะวิ่งหนีแต่ลิซก็อ่านทัน

“นี่แกจะทิ้งพรรคพวกที่ตายไปหรือไง!!”

ลิซตะโกนพร้อมวิ่งไปหาแม้จะมีอีก 2 ตัวที่พุ่งเข้ามาแต่มันก็โดนฆ่าด้วยวิธีเดียวกับเพื่อนของมัน จ่าฝูงกำลังวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตและค่อย ๆ ทิ้งห่างไปเรื่อย ๆ ลิซเห็นว่าไม่ทันแน่จึงตัดสินใจปาดาบไปหาหมาป่าตัวนั้นและเข้ากลางตัวเต็ม ๆ หมาป่าตัวนั้นล้มลงแต่มันก็พยายามคลานไปจนลิซสงสัย

แต่ไม่นานความสงสัยนั้นก็กระจ่างแจ้ง

“นี่แกมีลูกด้วยเหรอ!?”

แต่ว่าดูจากรูปพรรณแล้วนี่มัน…ตัวเมียนี่!!

ลิซตกใจในสิ่งที่ตนพึ่งเห็นทั้งลูกน้อยของหมาป่าและความจริงที่จ่าฝูงนั้นคือตัวเมีย

“แกไม่ได้ทิ้งพรรคพวกแล้วหนีออกมาสินะ…”

ลิซพูดทั้งยังมองร่างของจ่าฝูงที่กำลังจะตาย ลูก ๆ ของมันวิ่งหาแม่ด้วยร่างกายเล็ก ๆ และสั่นเทาพร้อมส่งเสียงร้องออกมา แต่ไม่นานแม่มันก็สิ้นลมลงเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว

และใช่แล้วมันมาจากดาบของลิซนั้นเอง

“...”

ไร้เสียงใด ๆ จากลิซ ตอนนี้เขาทั้งสงสาร สับสนและพยายามเข้าใจว่านี้คือกฎธรรมชาติที่ผู้แข็งแกร่งจะอยู่รอดแต่ว่านี่มัน…

“อะ…อา…อ้ากกกก”

เขากรีดร้องออกมาเสียงดังจนซิกฟรีดที่ได้ยินก็ลองมองดูและเห็นภาพเหตุการณ์แม้ในใจเขาจะเศร้าที่มีส่วนผิดในเรื่องนี้แต่

“ลิซ…นายมี 2 ทางเลือกตอนนี้ 1.ฆ่าลูกหมาป่าซะหรือ…”

“ผมเลือก 2 ครับ”

ซิกฟรีดพูดไม่ทันจบ ลิซก็ตอบ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการฆ่าไปมากกว่านี้แล้วซิกฟรีดจึงไม่ว่าอะไรและบอกให้รีบไปจากที่ตรงนั้น

ลิซได้ยินก็ค่อย ๆ ดึงดาบออกจากจ่าฝูงที่เป็นแม่ของพวกมันอย่างช้า ๆ แม้พวกมันจะออกมาปกป้องแม่ด้วยการกัดและข่วนก็ตามแต่เขาก็ไม่ตอบโต้ใด ๆ และดึงดาบออกมาอย่างอ่อนโยนทั้งยังจะรูปศพให้เรียบร้อยด้วยก่อนจะกุมมือภาวนาก่อนเดินจากไป

บรรยากาศที่ไร้ซึ่งเสียงใด ๆ มีเพียงเสียงใบไม้กระทบกันและเสียงร้องของลูกหมาป่าที่เสียแม่ไป เสียงนั้นบาดลึกเข้าไปในจิตใจลิซจนเป็นแผลแต่เขาก็กดฟันและเดินหน้าต่อไป ซิกฟรีดที่เห็นก็ออกจากนอกระยะและมองดูลิซจากที่ไกล ๆ เช่นเดิม แต่ทั้งสองกลับไม่รู้เลยว่า

ทั้งการต่อสู้อันดุเดือด ทั้งการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ล้วนถูกจ้องมองด้วยสายตาประหลาดคู่หนึ่งที่มองอยู่ไกล ๆ