ชายหนุ่มแสนธรรมดาใช้ชีวิตกับเพื่อนสาวสมัยเด็กมาเนิ่นนาน แต่ฝันประหลาดชักนำให้เด็กหนุ่มพานพบกับเหตุการณ์อันเป็นจุดพลิกผันและแยกจาก ความทรงจำ สงคราม กาลเวลา การลืมตาตื่นแห่งการเดินทางเพื่อทวงคืนสิ่งที่สำคัญจึงเริ่มต้นขึ้นบนหน้ากระดาษของยุคสมัยใหม่อันเป็นปฐมบทของมหากาพย์นี้

บันทึกกาล เทพไร้นาม - ตอนที่ 2, บทที่ 1 เปิดเรียนวันแรก โดย นักประพันธ์ดารา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,ดราม่า,ดาร์ค,สงคราม,แอ็คชั่น ,แอ็กชัน,แอ็คชั่น,พระเอก,แฟนตาซี ,พล็อตสร้าง,ผจญภัย,แอคชั่น,เวท,เวทมนต์,เวทมนตร์,ดาร์กแฟนตาซี,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกกาล เทพไร้นาม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,ดราม่า,ดาร์ค,สงคราม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แอ็คชั่น ,แอ็กชัน,แอ็คชั่น,พระเอก,แฟนตาซี ,พล็อตสร้าง,ผจญภัย,แอคชั่น,เวท,เวทมนต์,เวทมนตร์,ดาร์กแฟนตาซี,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

บันทึกกาล เทพไร้นาม โดย นักประพันธ์ดารา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชายหนุ่มแสนธรรมดาใช้ชีวิตกับเพื่อนสาวสมัยเด็กมาเนิ่นนาน แต่ฝันประหลาดชักนำให้เด็กหนุ่มพานพบกับเหตุการณ์อันเป็นจุดพลิกผันและแยกจาก ความทรงจำ สงคราม กาลเวลา การลืมตาตื่นแห่งการเดินทางเพื่อทวงคืนสิ่งที่สำคัญจึงเริ่มต้นขึ้นบนหน้ากระดาษของยุคสมัยใหม่อันเป็นปฐมบทของมหากาพย์นี้

ผู้แต่ง

นักประพันธ์ดารา

เรื่องย่อ




ตารางอัพนิยายจะอัพทุกวัน 18.00 น. และวันเสาร์อาทิตย์เวลา 19.00 น. เวลาอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมต่อไปในอนาคตนะครับ

เรื่องย่อ : ลิซชายหนุ่มมัธยมปลายธรรมดาที่ในอดีตประสบอุบัติเหตุปริศนาจนเสียพ่อแม่และความทรงจำไป ตอนนี้ได้อาศัยอยู่กับเพื่อนสมัยเด็กนาม “ธิน่า” ในทุกคืนลิซจะฝันเห็นถึงเรื่องประหลาด ตัวตนของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ประสบการณ์ ความทรมานและอีกหลาย ๆ อย่าง เขาเก็บเป็นความลับกับธฺิน่าและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขเรื่อยมา แต่ทว่า


วันหนึ่งธิน่าก็ถูกจับตัวโดยตัวตนปริศนาและลิซก็ถูกสังหาร เขาดำดิ่งลงสู่มิติปริศนาที่เขาคอยเห็นผ่านฝันมาตลอด เขาได้รู้ความจริงบางส่วนและเลือกลืมตาตื่นในฐานะ “เทพเจ้า” สายเลือดพิเศษครึ่งหนึ่งที่ไหลเวียนในตัวเขามาตลอด เพื่อเข้าต่อสู้ต่อมาเขาได้รู้จักกับพรรคพวกของธิน่าและเลือกออกเดินทางไปช่วยธิน่า แต่ก่อนจะไปถึงเขาจะต้องเดินทางผ่านอาณาจักรทั้ง 9 เสียก่อน กระแสกลียุคครั้งใหม่ เปลิวเพลิงแห่งหวังอันมืดมิดถูกจุดประกาย ณ ห้วงลึกของกาลเวลา

ท้ายที่สุดการเดินทางแสนยาวนานจะจบลงที่ตรงไหน ก็คงมีแต่ผู้ที่ไปถึงเท่านั้นจะรู้ได้…


#คำเตือน# เนื้อหาในนิยายบางตอนมีการบรรยายถึงดราม่าที่อาจทำให้รู้สึกหดหู่หรือซึมเศร้า เลือด โศกนาฏกรรม การตาย และการ depress ของตัวละครหรือกระทั่ง อาการ PTSD ก็ตาม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เรื่องนี้ไม่เหมาะกับผู้มีอาการซึมเศร้า หดหู่หรือพึ่งประสบเจอสิ่งแย่ ๆ ในชีวิตมา โปรดหลีกเลี่ยง


จากนี้เชิญสนุกกับนิยายได้เลยครับ

สารบัญ

บันทึกกาล เทพไร้นาม-Prologue สองเส้นขนานบรรจบ??,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 1, บทที่ 1 ชีวิตสามัญยามเช้า,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 2, บทที่ 1 เปิดเรียนวันแรก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 3, บทที่ 1 ฟันเฟืองเริ่มขยับ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 4, บทที่ 1 ฝันร้ายในเรือนกระจก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 5, บทที่ 1 สัญญาณลางร้าย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 6, บทที่ 1 The Last supper มื้ออาหารสุดท้าย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 7, บทที่ 1 ภัยร้ายมาเยือน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 8, บทที่ 1 จุมพิตอำลา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 9, บทที่ 1 คำตอบ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 10, บทที่ 1 การต่อและความช่วยเหลือ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 11, บทที่ 1 ความจริง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 12, บทที่ 1 จดหมายแด่จอห์น,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 13, บทที่ 1 สิ่งที่แปรเปลี่ยนไป,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 14, บทที่ 1 โอกาส,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 15, บทที่ 1 ฝึกฝน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 16, บทที่ 1 เพลิงเหน็บหนาวผ่าขั้วหัวใจ (I),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 17, บทที่ 1 เพลิงเหน็บหนาวผ่าขั้วหัวใจ (II),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 18, บทที่ 1 เดินทางสู่ป่าลึก,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 19, บทที่ 1 การต่อสู้พร้อมความสูญเสีย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 20, บทที่ 1 ความเป็นความตาย,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 21, บทที่ 1 การเตรียมใจและความเชื่อมั่น,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 22, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (I),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 23, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (II),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 24, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (III),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 25, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (IV),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 26, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (VI),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 27, บทที่ 1 ไอวี่ลิลลี่ (VII),บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 28, บทที่ 1 จุดหมายต่อไป,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 29, บทที่ 1 เส้นทางจากนี้,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 30, บทที่ 2 ปรปักษ์แห่งพระเจ้าผู้สวมหน้ากากคนเขลา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 31, บทที่ 2 สู่ 'อีกด้าน',บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 32, บทที่ 2 ผู้ถูกทิ้งสู่เบื้องล่าง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 33, บทที่ 2 เหล่าเศษขยะผู้มารวมกัน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 34, บทที่ 2 คำประกาศของผู้มาเยือน,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 35, บทที่ 2 ยมทูตแห่งแสงสว่าง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 36, บทที่ 2 อาทิตย์ยามสนธยา,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 37, บทที่ 2 การสนทนาด้วยดาบ,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 38, บทที่ 2 ความตายคอยจับจ้อง,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 39, บทที่ 2 ออบซิเดียนที่เจิดจรัสที่สุด,บันทึกกาล เทพไร้นาม-ตอนที่ 40, บทที่ 2 เพลิงแค้นของผู้ร่วงหล่น

เนื้อหา

ตอนที่ 2, บทที่ 1 เปิดเรียนวันแรก

สติของผมตื่นขึ้นอีกครั้งในสถานที่แห่งหนึ่ง สถานที่ชวนพิศวง ดูไม่ปลอดภัย ท้องฟ้ามีแต่ดวงดาวส่องแสงเจิดจ้า พื้นที่ยืนอยู่ทำจากวัสดุที่แปลกประหลาดซึ่งเมื่อมองลงไปก็พบกับท้องฟ้าที่เต็มด้วยดวงดาวเหมือนกัน อาจจะเป็นกระจกหรืออะไรบางอย่าง สายตากวาดไปไม่เห็นจุดสิ้นสุด อีกทั้งต้นไม้ใหญ่ตั้งตระหง่าน กิ่งก้านแผ่ขยายไกลสุดตาเห็น รากหยั่งลึกสู่ทะเลดวงดาวเบื้องล่าง และสายตาของลิซก็สบเข้ากับชายคนหนึ่ง


ใช่แน่นอนคนคนนั้นคือชายหนุ่มที่เขาเห็นในฝันก่อนหน้านี้นี่เอง เขามั่นใจ


เขาอยู่ที่นี้งั้นเหรอ? สารรูปแบบนั้นมันคืออะไรกันแน่?


ภาพที่ลิซเห็นนั้นคือภาพของชายที่นั่งคุกเข่าลง โซ่ตรวนห้อมล้อมทุกทิศทางซ้ำยังแทงเข้าไปในร่างเขา แต่เขากลับไม่สนใจมัน มือข้างหนึ่งทำท่าภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้า ส่วนอีกข้างเอื้อมขึ้นไปเหนือศีรษะเหมือนจะคว้าอะไรสักอย่าง สายตาเหม่อลอยไปไกลเหมือนไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน


มันเป็นภาพที่งดงามแต่ก็โหดร้ายเช่นกัน


ลิซค่อยๆเดินไปหาที่หน้าเขาและจ้องมองเขาอย่างสงสัย


‘ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ได้นะ’


“ใกล้ถึงเวลาแล้ว วันที่จะพาเจ้าไปสู่ทางเลือกสองเส้นขนานที่มิอาจจะมาบรรจบกันได้ หากเจ้าเลือกหนทางที่จะจะหลงลืมทุกสิ่ง เจ้าจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”


ชายคนนั้นกล่าวขึ้นอย่างไม่ตั้งตัว ลิซตกใจเล็กน้อยแต่ก็เก็บอาการเอาไว้


“แล้วอีกทางเลือกล่ะ?”


ลิซกล่าวถามด้วยความสงสัย


“ส่วนอีกทางหากเจ้าเลือกมันล่ะก็เจ้าจะทุกข์ทรมานไปชั่วกัลป์ชั่วกัน เจ้าจะสูญเสีย สูญเสีย เจ้าจะสูญเสียซึ่งทุกสิ่งอย่าง!!”


‘สูญเสีย’ คำๆนี้ออกมาจากปากเขาไม่หยุดยั้งราวคนบ้า อารมณ์มากมายพรั่งพรูออกมาจากคำพูดนั้น โดยเฉพาะความโกรธ และความเศร้าที่ลิซสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนจนน้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาข้างหนึ่งของเขา โดยที่เขาไม่รู้ตัว


“สูญเสีย ฉันจะสูญเสียอะไรไปล่ะ? ตอบมาสิ!”


“อีกไม่นานเจ้าก็จะรู้เอง”


สิ้นสุดประโยคนั้น ลิซรู้สึกว่าตนกำลังตกลงไปในความมืดมิดไร้ก้นบึ้ง จากนั้นเขาก็สะดุ้งตื่นขึ้น


“เฮือก!”


ลิซตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการหายใจไม่เป็นจังหวะ สายตากวาดไปมา มือไม้สั่นเทาและหนาวสั่น ธิน่าที่เห็นดังนั้นก็ถามด้วยความเป็นห่วง 


“ลิซเป็นอะไรไหม!?”


“ไม่มีอะไร ธิน่า”


เมื่อกี้มันอะไรกันแน่ มันต่างจากที่ผ่านมามากเลยต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น!?


“พิธีจบแล้ว ขอให้นักเรียนทุกคนกลับห้องของตนและเริ่มคาบโฮมรูมได้ค่ะ”


ดูเหมือนว่าจะจบลงแล้วสินะ หลับไปนานมากเลยนะเนี่ย ได้เวลาต้องกลับไปห้องแล้ว


ลิซเดินออกจากห้องประชุม ตรงกลับห้องเรียนของตน


“งั้นเจอกันตอนเย็นนะ ลิซ”


“เข้าใจแล้ว เจอกัน ธิน่า”


เราทั้งสองบอกลาชั่วคราวแล้วแยกย้ายกันไป 


‘คงใกล้เวลาแล้วสินะ’


ธิน่าพึมพำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ก่อนเดินกลับไปห้องโดยสายตาของเธอเหมือนกับคนตัดสินใจบางอย่างได้และมุ่งมั่นจนน่ากลัว


ส่วนลิซก็เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงประตูห้องเขาหายใจเฮือกใหญ่เข้าออกและยืนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปิดออกเตรียมรับแรงปะทะที่เขาจะเจอ


“นั้นมัน…คนในข่าวลือนี่”


เสียงในห้องเริ่มดังขึ้น สายตาทั้งหมดจับจ้องมาที่ลิซ สายตาของความเกลียดชัง ริษยา สงสัย โกรธแค้น มันทำให้ลิซรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อยเลยทีเดียว พร้อมกับอะไรแปลก ๆ ที่เขามักจะเห็นเสมอเวลามีคนนินทา แต่ครั้งนี้กลับสีเข้มขึ้นและน่ากลัวกว่าเดิมจนอยากอาเจียนออกมา


แต่เขาก็พยายามไม่สนใจและเดินไปนั่งลงที่โต๊ะของตนเอง โดยคงท่าทีสุขุมไว้


“เจ้านั่นหยิ่งชะมัด แค่มีเพื่อนสมัยเด็กเป็นคุณธิน่าอย่าได้ใจหน่อยเลย”


เฮ้อ เสียงพวกนี้ผมล่ะรำคาญมันมากเลย จะอะไรกันหนักหนาก็ไม่รู้ อยากได้เธอนักก็ไปจีบให้มันติดสิ แต่จะว่าไปก็มีพวกโดนหักอกแล้วมาลงกับผมด้วยนี่น่า ลืมคิดเลย ให้ตายสิ จะเห็นแก่ตัวอะไรขนาดนั้น แค่นกทีสองทีทำเป็นเรื่องคอขาดบาดตายไปได้


คงเพราผมแทบไม่รู้สึกถึงอารมณ์นี้กับผู้หญิงคนไหน ผมจึงไม่ค่อยเข้าใจ แต่อาจเพราะอยู่กับธิน่ามานานด้วย ตั้งแต่ผมเกิดมาผมก็รู้สึกว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนสวยเท่าเธอแล้ว หรือว่านี่ผม…


ก่อนผมจะเตลิดไปมากกว่านี้ อาจารย์สาวสวยที่สวมชุดทางการของโรงเรียนตามระเบียบแบบเป๊ะทุกระเบียบนิ้วก็เปิดประตูเข้ามา แล้วก็ทุบสมุดลงกับโต๊ะเพื่อสยบความวุ่นวายทั้งหมด


“เงียบ!! แล้วนั่งที่ของตนได้แล้ว!!”


เสียงของอาจารย์ดังขึ้น ทุกคนได้แต่ทำตามอย่างช่วยไม่ได้ และเมื่อสถานการณ์สงบลง อาจารย์ก็พูดขึ้น


“สวัสดีทุกคน ฉันชื่อยูกิเป็นอาจารย์ประจำชั้นของเธอเอง ปีนี้ก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยล่ะ”


อาจารย์ยูกิงั้นเหรอ? จะว่าไปเธอมีข่าวลือมากมายทั้งดีและแย่ทรวดทรงที่สวยงาม หน้าตาอ่อนวัยขัดกับอายุ แม้จะเป็นที่หมายปองของผู้ใหญ่หรือแม้แต่เด็กที่อากจะเด็ดดอกฟ้าแทนธิน่า แต่เธอก็ไม่สนใจหนำซ้ำยังปฏิเสธได้เย็นชาและเจ็บแสบกว่าธิน่าเสียอีก 


แต่ภายใต้กลีบอันงดงามนั้นคือความเข้มงวดต่อนักเรียนอย่างเหลือเชื่อราวกับหนามของดอกไม้ แต่ด้วยนิสัยที่ตรงข้ามกันอย่างลงตัวนี้จึงทำให้เธอเป็นอาจารย์ที่ไม่ว่าใครก็เคารพรักจากใจจริง ถึงจะมีมากไปหน่อยในบางกรณีก็เถอะนะ คงต้องระวังอย่าไปให้ทำเธอสนใจจะเป็นการดีที่สุด


“เอาล่ะ เราจะตัดเรื่องไร้สาระอย่างการแนะนำตัวทิ้งไปซะ ฉันรู้จักพวกแกทุกคน แล้วจากความคิดฉันทุกคนก็น่าจะรู้จักกันแล้วโดยเฉพาะ…”


จากนั้นสายตาของอาจารย์ยูกิก็มองมาที่ผม ดูเหมือนว่าเธอเองนั้นก็จะรู้จักผมผ่านข่าวลือแล้วเช่นกัน ดูท่าการที่จะใช้ชีวิตหลังจากนี้คงจะยากแล้วสิ ผมถอนหายใจพร้อมสายตาที่ตกเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นเหมือนเดิม


“งั้นฉันจะแจ้งทุกอย่างที่พวกแกควรรู้ไว้ให้แล้วกัน”


จากนั้นอาจารย์ก็อธิบายเรื่องต่าง ๆ ที่เราควรรู้หรือเป็นเรื่องที่เรารู้อยู่ก่อนแล้วก็ตาม ผมที่ไม่ค่อยสนใจอะไรก็ได้แต่มองก้อนเมฆบนฟ้าที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปช้า ๆ 


และเวลาก็ผ่านไปจนถึงเที่ยงวัน


ผมเดินไปยังโรงอาหารที่มีผู้คนพลุกพล่านและแน่นหนา ต่างคนต่างแย่งชิงอาหารที่ตนอยากทานราวคนหิวโหยที่ไม่มีอาหารกินมา 3-4 วัน ซึ่งพวกเขาก็คงหิวจริง ๆ แหละ ไม่งั้นคงไม่เป็นแบบนี้


ผมที่ดูแล้วว่าทานอาหารไม่ทันแน่ถ้าเอาแต่ต่อคิวจึงไปที่ร้านขายของ ซื้อขนมปัง นม กับน้ำมาและตรงไปยังดาดฟ้าของโรงเรียนซึ่งเป็นที่ประจำของผม


แม้มันจะเป็นเขตหวงห้าม แต่ก็มีคนแหกอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน ซึ่งแน่นอนหนึ่งในนั้นคือผมเอง


แม้ว่าแดดตอนเที่ยงมันจะร้อนมากๆ ก็ตาม แต่ว่าก็มีร่มเงาให้อยู่ แถมมีลมพัดเย็นสบาย ไร้ซึ่งความวุ่นวายหรือเสียงใดๆ กลิ่นของธรรมชาติที่ปนกับกลิ่นจากสมัยใหม่ มันช่างสงบดีจริงๆ ผมขึ้นอย่างงั้นพร้อมทิ้งตัวลงในร่มเงาที่ใหญ่พอจะคลุมตัวผมเกือบทั้งตัวได้ เหลือแค่ปลายเท้าที่มีรองเท้าสีดำตามระเบียบโรงเรียบหุ้มไว้อย่างดี


“งั้นมากินดีกว่า”


ผมเปิดถุงขนมปังแล้วกินอย่างช้าๆ พลางเชยชมทิวทัศน์ที่สวยงามภายใต้ร่มเงาของอาคารอย่างเพลินใจ


เมื่อผมกินเสร็จก็ไม่มีอะไรทำ ได้แต่จ้องมองท้องฟ้าค่อยๆเคลื่อนผ่านไป แต่ทว่า


รู้สึกตัวอีกทีผมก็อยู่ในสถานที่เดิมอีกครั้งแล้ว