นิยายรักแฟนตาซีดรามา ที่เล่าเรื่องของชายหนุ่มที่ทำหน้าที่ผู้ส่งสารระหว่างคนเป็นและคนตาย แต่ต้องเข้ามาพัวพันกับหญิงสาวสองคนโดยที่ไม่เคยรู้เบื้องลึกมาว่าแท้จริงแล้วทั้งสามคนนั้นเกี่ยวข้องกันมาก่อน

The Promised พรากสัญญา - ตอนที่27 พรากสัญญา โดย paiinara @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เกาหลี,รัก,อาคม,รักสามเศร้า,รักข้ามภพ,ลึกลับ,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The Promised พรากสัญญา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เกาหลี,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อาคม,รักสามเศร้า,รักข้ามภพ,ลึกลับ,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

The Promised พรากสัญญา  โดย paiinara @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

นิยายรักแฟนตาซีดรามา ที่เล่าเรื่องของชายหนุ่มที่ทำหน้าที่ผู้ส่งสารระหว่างคนเป็นและคนตาย แต่ต้องเข้ามาพัวพันกับหญิงสาวสองคนโดยที่ไม่เคยรู้เบื้องลึกมาว่าแท้จริงแล้วทั้งสามคนนั้นเกี่ยวข้องกันมาก่อน

ผู้แต่ง

paiinara

เรื่องย่อ

The Promised พรากสัญญา


            เป็นเพราะคำสัญญาก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไปเลยทำให้ชาฮีจูต้องติดอยู่ในวังวนความรู้สึกผิดมาตลอด เขาเป็นผู้ลั่นวาจาสัญญากับใครคนหนึ่งเอาไว้แต่กลับจำสัญญานั้นไม่ได้ ชายหนุ่มจึงต้องหาคำตอบเลยทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับคังเยนาและคังยูรีอย่างไม่ได้ตั้งใจ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความหายนะครั้งใหญ่ที่พวกเขาต้องเผชิญ และพวกเขาต้องร่วมมือกัน ช่วยเหลือกันและไว้ใจกัน เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคนั้นไปให้ได้

สารบัญ

The Promised พรากสัญญา -ตอนที่1 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่2 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่3 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่4 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่5 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่6 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่7 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่8 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่9 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่10 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่11 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่12 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่13 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่14 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่15 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่16 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่17 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่18 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่19 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่20 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่21 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่22 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่23 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนทึ่24 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่25 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่26 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่27 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่28 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่29 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่30 พรากสัญญา

เนื้อหา

ตอนที่27 พรากสัญญา

“คุณหายโกรธฉันแล้วใช่มั้ย ฉันรับปากว่าฉันจะไม่ไปเจอเขา”


“เด็กโง่ เธอจะทำแบบนั้นทำไม นี่มันชีวิตของเธอ เธออยากทำอะไรก็ทำ อยากชอบใครก็ชอบ” ชายหนุ่มยิ้มอย่างอบอุ่น มือที่เช็ดน้ำตาเด็กสาวอยู่นั้นก็เปลี่ยนมากุมศีรษะของเธอเอาไว้ด้วยความอ่อนโยน


“คุณไม่ได้โกรธฉันเหรอ แล้วเมื่อกี๊คุณเป็นอะไร”


“ฉันแค่ทำงานหนักไปหน่อยเลยรู้สึกว่าพลังวิญญาณในตัวมันอ่อนลง ไม่ได้เกี่ยวกับเธอสักนิด” ชาฮีจูเลือกที่จะปดเพราะไม่อยากให้เด็กสาวต้องคิดมาก


“จริงเหรอ” คังยูรีเอื้อมมือไปจับมือชายหนุ่มมากุมเอาไว้ เธอจ้องไปที่ชาฮีจูอย่างสั่นไหว เหมือนต้องการความมั่นใจอีกครั้งว่าสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมาเป็นเรื่องจริง


“จริงสิ ยูรี…เธอชอบเขามากมั้ย” ชาฮีจูเสียงอ่อนเอ่ยถามกลับ


“ไม่รู้ แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันชอบเขาฉันก็จะเลิกชอบเขาก็ได้ เพราะคนที่เป็นห่วงและจริงใจกับฉันที่สุดตอนนี้ก็คือคุณ ฉันจะเชื่อทุกการตัดสินใจของคุณ ฉันเชื่อว่าคุณก็มีเหตุผลของคุณเหมือนกัน”


“ขอโทษนะที่ทำให้เธอคิดมาก เธอรีบพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้จะได้ไม่โทรมตอนที่ไปเจอเขา”


ชายหนุ่มยิ้มอย่างละมุน ถึงคำพูดจะแย้งกับความรู้สึกตัวเองก็ตาม หลังแยกตัวออกมาจากคังยูรี ชาฮีจูก็กลับเข้ามาอยู่ในห้วงนิมิต ที่ที่เป็นที่พำนักส่วนตัวของเขา


ชาฮีจูมองไปยังลำธารที่ไหลผ่าน แววตาของชายหนุ่มดูเลื่อนลอยนัก เขารู้สึกเจ็บหัวใจจนต้องเอามือขึ้นมากดเอาไว้ สักครู่น้ำตาของลูกผู้ชายก็ไหลรินออกมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ชาฮีจูรีบเช็ดน้ำตานั้นออกทันทีเมื่อรู้สึกได้ถึงการมาของผู้เป็นอาจารย์


“อาจารย์มาหาศิษย์มีเรื่องอะไรจะใช้ศิษย์เหรอครับ”


“อาจารย์บอกแล้วไงว่าอย่าทำอะไรที่มันล้ำเส้นเกินไป เพราะผลสุดท้ายคนที่จะต้องเจ็บปวดก็คือเธอ”


“อาจารย์บอกศิษย์ได้มั้ยว่าสิ่งที่ศิษย์เจออยู่ตอนนี้คืออะไรกันแน่ ทำไมศิษย์ถึงควบคุมความรู้สึกไม่ได้ ทำไมศิษย์ต้องรู้สึกเจ็บปวดเรื่องของคนอื่นด้วย”


“ไม่มีใครรู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องของคนอื่นหรอก เรื่องทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นเพราะเราเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งนั้น”


“แล้วศิษย์ต้องทำยังไงที่จะลืมเลือนความรู้สึกพวกนี้ไปได้ อาจารย์ชี้แนะศิษย์ด้วย”


“เรื่องแบบนี้ไม่มีใครสามารถช่วยได้ นอกจากตัวเราที่ต้องช่วยเหลือตัวเอง”


ชาฮีจูยังคงสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หัวใจของเขาหยุดเต้นมาตั้งนานแล้ว แต่เหตุใดถึงได้รู้สึกเจ็บปวดเหมือนหัวใจจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และทรมานได้ถึงเพียงนี้ เขาจะเกิดความรู้สึกนี้ก็ต่อเมื่อเป็นเรื่องของคังยูรีเท่านั้น


_________________________


วันต่อมา


คังเยนานั่งฟุบหลับอยู่ที่ห้องสมุด หญิงสาวสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายเหมือนเช่นที่ผ่านมา ในความฝันเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ผู้ชายในความฝันที่เธอเห็นนั้นเป็นใครกันแน่ พอจะเห็นใบหน้าชายดังกล่าวเป็นต้องสะดุ้งตื่นก่อนทุกที


“เยนา เป็นไรมั้ย”


“จินยอง นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่”


“มาได้สักพักแล้ว เห็นเธอหลับอยู่ก็เลยไม่อยากปลุกน่ะ”


“แม่นายเป็นยังไงบ้าง แม่นายทำใจได้หรือยัง”


“ยังเลย แม่จิตใจยังไม่ปกติ ยังยอมรับความจริงไม่ได้ว่าฉันตายไปแล้ว”


“เอาน่า ฉันเชื่อนะว่าสักวันแม่นายต้องทำใจได้”


“อืม ฉันก็หวังแบบนั้นเหมือนกัน เธอล่ะเป็นยังไงบ้าง”


“ฉันก็เหมือนเดิม เป็นคนไร้ตัวตน ไร้ความทรงจำเหมือนเดิม”


“แล้วยูรีล่ะ ยูรีไม่ได้มาหาเหรอ”


“ยัยนั่นออกไปเดทกับผู้ชายน่ะ ป่านนี้ความสุขคงจุกอกไปหมดแล้วมั้ง”


“กับชาฮีจูเหรอ?”


“ทำไมนายถึงคิดว่าเป็นชาฮีจู” คังเยนาให้ความสนใจกับคำตอบของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก


“สองคนนั้นไม่ได้ชอบกันเหรอ นี่ฉันเข้าใจผิดมาตลอดสินะ”


“จะเป็นไปได้ยังไง ยูรีเป็นใคร ฮีจูเป็นใคร สองคนนั้นอยู่คนละโลกกันจะรักกันได้ยังไง นายอย่าไปพูดให้ฮีจูได้ยินนะ ไม่งั้นนายได้ตายรอบสองแน่”


“นั่นสินะ ฉันลืมคิดไป วันๆ ยูรีเอาแต่ขลุกอยู่กับพวกเรา ฉันเกือบคิดไปว่าเธอก็เป็นวิญญาณเหมือนพวกเราซะแล้ว” ชายหนุ่มหลุดขำ


“ให้ยัยนั่นออกไปมีความสุบบ้างเถอะ จริงๆ เรื่องของฉันก็ไม่ได้เกี่ยวกับเธอด้วย ไม่จำเป็นที่เธอต้องมาช่วยฉันด้วยซ้ำ”


“คนจิตใจดีก็เป็นอย่างนี้แหละ เห็นคนอื่นเดือดร้อนก็อดที่จะช่วยไม่ได้ ถ้าฉันมีพลังวิญญาณแข็งแกร่งกว่านี้คงพาเธอออกไปจากที่นี่ได้บ้าง เธอคงไม่ต้องมารู้สึกเบื่ออยู่แบบนี้”


“ขนาดชาฮีจูยังทำไม่ได้เลย แล้วนายเป็นใครจะมาทำแบบนั้นได้ จริงๆ ฉันก็ไม่ได้เบื่อขนาดนั้นหรอก ตั้งแต่มีชาฮีจู มียูรี และก็มีนาย ชีวิตฉันสนุกขึ้นเยอะเลย”


“ฉันจะอยู่กับเธอไปแบบนี้แหละจนกว่าเธอจะหาร่างตัวเองเจอและฟื้นขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง เพราะฉะนั้นเธออย่าละทิ้งความพยายามนะ เธอต้องมีชีวิตต่อไปให้ได้”


คังเยนาน้ำตาไหลซึ้งใจกับคำปลอบโยนของชายหนุ่มนัก เธอเองก็ตื้นตันใจมากที่มีหลายคนคอยให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างพร้อมสู้ไปกับเธอเช่นนี้


“ขอโทษนะ ขอโทษนายจริงๆ”


หญิงสาวพรั่งพรูความเศร้าใจออกมา มือบางของเธอยื่นไปสัมผัสมือที่เย็นเฉียบของชายหนุ่มเอาไว้อย่างแนบแน่น เธอได้แต่คิดว่าถ้าฟื้นขึ้นมาคงไม่มีโอกาสได้พูดคุยและสัมผัสกับชายหนุ่มแบบนี้อีกแล้ว ยิ่งมองชายหนุ่มตรงหน้าก็ยิ่งรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก


“ทำไมต้องขอโทษด้วย เธอไม่ได้ทำผิดกับฉันสักหน่อย”


“ฉันอยากบอกขอโทษตอนที่ฉันมีโอกาส เพราะถ้าฉันฟื้นขึ้น ฉันคงลืมเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านมา และฉันก็จะลืมนายด้วย”


“ไม่เป็นไร แค่ฉันจำเธอได้ก็พอ” ชายหนุ่มยิ้มอย่างอบอุ่น ใช้มือเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของหญิงสาวด้วยความอ่อนโยน


______________________


คังยูรีออกมาเจอแทอีตามที่ชายหนุ่มนัดเอาไว้ เด็กสาวมาถึงหน้าคาเฟ่ก็ยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นชายหนุ่มยืนรอเธออยู่ คังยูรีรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก


แทอีหันมาเห็นคังยูรีที่กำลังเดินเข้ามาหาก็ยิ้มอย่างมีความหวัง การที่เด็กสาวยอมมาเจอเขาแบบนี้เท่ากับว่าเธอยอมให้โอกาสกับเขา ชายหนุ่มนัยน์ตาสั่นไหวดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ เพราะก่อนหน้านี้เขาเป็นกังวลมาตลอด


“ที่เธอมาวันนี้ พี่มองว่าเธอยอมรับและเปิดใจให้พี่แล้วนะ”


“ฉันจะถามพี่อีกครั้ง พี่มั่นใจใช่มั้ยว่าจะคบกับฉัน”


“พี่รู้ว่าเธอไม่ได้ชอบพี่มากกว่าคนที่อยู่ในใจเธอ เธอไม่ต้องพยายามเพื่อพี่ แต่พี่จะเป็นคนพยายามเพื่อเธอต่อจากนี้เอง” ชายหนุ่มให้คำมั่นก่อนจะคว้ามือของเด็กสาวมากุมเอาไว้


ชาฮีจูที่ยืนดูทั้งคู่อยู่ไม่ไกลนักได้แต่รู้สึกว้าวุ่นใจ ถ้าให้พูดกันตามตรง ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกยินดีกับคังยูรีและแทอีเลยสักนิด ซึ่งความรู้สึกนี้ตัวเขาก็ไม่สามารถยับยั้งความคิดของตัวเองได้เช่นกัน ทำได้แค่มองคนทั้งคู่ใกล้ชิดกันด้วยความเจ็บใจ


“เจ็บจี๊ดละสิ”


น้ำเสียงสดใสของชายหนุ่มบางคนดังแทรกขึ้นมาจนชาฮีจูต้องละความคิดนั้นออก ชาฮีจูหันมองตามเสียงที่ได้ยินก็เห็นชายคนดังกล่าวกำลังทำหน้าแป้นแล้นยิ้มให้เขาอยู่ ท่าทางและน้ำเสียงร่าเริงแบบนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากซัง กามเทพหนุ่มเพื่อนยากของเขานั่นเอง


“ทำไมนายมาอยู่ที่นี่”


“ก็ที่นี่มีคนรักกันให้ฉันช่วยแผลงศรไง ฉันเป็นกามเทพนะ มีคนรักกันอยู่ที่ไหน ฉันก็ต้องอยู่ที่นั่นสิ”


“แถวนี้ไม่มีหรอก นายมาผิดที่แล้ว”


ชาฮีจูรีบเอ่ยสวนขึ้นมา เพราะเขากลัวว่าคนที่กามเทพหนุ่มหมายถึงคือคังยูรีและแทอี ความนึกคิดของชาฮีจูรับไม่ได้ที่ทั้งคู่จะเป็นเนื้อคู่ของกันและกัน


“มีสิ นั่นไง คู่นั้นไง”


กามเทพหนุ่มชี้ไปที่คังยูรีและแทอีที่ยืนคุยกันอยู่หน้าคาเฟ่ ก่อนจะหันกลับมามองชาฮีจูที่จ้องเขาอย่างไม่พอใจ กามเทพหนุ่มเริ่มหวาดกลัวกับท่าทีขึงขังที่ชาฮีจูแสดงออกมาก็เลยต้องรีบเฉลยความจริง ขืนปล่อยไว้แบบนี้คงได้ถูกชาฮีจูเล่นงานเข้าให้เป็นแน่


“ดูทำหน้าทำตาสิ ฉันแค่ล้อเล่นเอง คู่นั้นต่างหาก”


เกมเทพหนุ่มยกคันธนูแผลงศรไปยังคู่ชายหญิงคู่หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากคังยูรีและแทอีเท่าไหร่นัก พอเห็นแบบนั้นชาฮีจูก็รู้สึกพอใจมาก อย่างน้อยคังยูรีกับแทอีก็ยังไม่ใช่เนื้อคู่กัน ถึงจะเป็นแค่ตอนนี้ก็ตาม


“นายจะหวงเธอไว้ทำไม ยังไงนายกับเธอก็ครองคู่กันไม่ได้อยู่แล้ว”


“ฉันแค่รู้ว่าคนนี้ไม่ใช่เนื้อคู่เธอ ไม่ได้หวงสักหน่อย”


“ทำไมจะไม่ใช่ ตอนนี้ความรู้สึกของทั้งคู่อาจยังไม่ชัดเจน แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าความชอบเปลี่ยนมาเป็นความรักเมื่อไหร่นั่นก็คงใช่แล้วล่ะ บางทีฉันไม่ต้องช่วยแผลงศรเลยก็ได้”


“แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ใช่ไง” ชาฮีจูเน้นเสียงหนักแน่นจนกามเทพหนุ่มต้องเบนหน้าหนี


ซังซู กามเทพหนุ่มที่มีอายุยาวนานมาหลายร้อยปี ครั้งหนึ่งขณะกำลังแผลงศรไปที่คู่รักคู่หนึ่งก็เหลือบไปเห็นชาฮีจูที่กำลังทำหน้าที่ผู้ส่งสารแบบเก้ๆ กังๆ เพราะพึ่งเป็นการทำหน้าที่ครั้งแรกของเขา


กามเทพหนุ่มยืนดูชาฮีจูด้วยความพอใจ เขาเอ็นดูท่าทางของชาฮีจูในตอนนั้นเป็นอย่างมาก เสียงหัวเราะของเขาดังมากจนทำให้ชาฮีจูรู้ตัว จากนั้นทั้งคู่ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกันและได้รู้จักกัน แต่ต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเองเลยน้อยครั้งที่จะได้พบปะกัน


ซังซูเห็นชาฮีจูเหมือนเพื่อน เหมือนน้องชายคนหนึ่ง ถึงทั้งคู่จะมีหน้าที่และบริบทต่างกันแต่ก็สามารถเข้าใจและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ ถึงตัวซังซูจะเป็นเทพที่คอยแผลงศรให้มนุษย์ได้รักกัน และชาฮีจูเป็นผู้ส่งสารที่ทำหน้าที่อยู่ในโลกวิญญาณก็ตาม นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคที่ทั้งสองจะเป็นเพื่อนกัน


_________________________


แทอีเดินกุมมือคังยูรีมาส่งที่บ้านหลังจากที่ทั้งคู่ไปดูหนังด้วยกันมา กว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกอยู่พอสมควร วันนี้ถือว่าเป็นเดทแรกของเขาและเธอ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ชายหนุ่มยังคงให้เกียรติคังยูรีเหมือนเช่นก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้หวือหวา ต่างอยากเรียนรู้กันและกันเหมือนเพื่อนแบบนี้ไปก่อน


“ทำไมที่บ้านเงียบจัง ซูฮวาไม่อยู่เหรอ”


“พี่ซูฮวาไปค้างที่บ้านเพื่อนค่ะมีติวเข้ามหาลัย ส่วนป้าก็น่าจะเข้านอนแล้ว เดี๋ยวแป๊บหนึ่งนะคะฉันขอส่งข้อความบอกพี่ซูฮวาก่อนว่าถึงบ้านแล้ว”


“ซูฮวาเป็นห่วงเธอจังเลยนะ มีพี่สาวที่ดีแบบนี้เธอคงมีความสุขมากใช่มั้ย”


“ค่ะ ทั้งพี่ซูฮวาและป้าต่างก็ดีกับฉันมาก ถึงพี่ซูฮวาจะดูเย็นชาสักหน่อยแต่พี่เขาก็เป็นคนน่ารักมากนะคะ”


“ยัยนั่นเนี่ยนะ ขอโทษนะที่พี่ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่ ถ้าเธอไม่ใช่น้องสาวซูฮวาพี่คงไม่อยากคุยกับซูฮวาด้วยซ้ำ ซูฮวาเป็นคนประเภทที่พี่เข้าไม่ถึงน่ะ”


“นั่นแหละค่ะพี่ซูฮวา ดูเย็นชาแต่ก็อบอุ่น”


“เอาเถอะ พี่เชื่อแล้ว เธอเข้าบ้านไปเถอะพี่ก็จะกลับแล้ว อ้อ…เรื่องสร้อยที่เธอให้พี่ซ่อมน่ะเสร็จแล้วนะ”


“เสร็จแล้วเหรอคะ พี่เอามาด้วยมั้ย” เด็กสาวตาโตดูมีความสุขมากเมื่อรู้ว่าสร้อยผลึกของเธอถูกซ่อมเรียบร้อยแล้ว


“ใครให้เธอมาเหรอ ดูเหมือนสร้อยนี้จะมีความหมายกับเธอมากเลย”


“พี่จีโฮให้มาค่ะ” เด็กสาวยิ้มแป้นก่อนจะค่อยๆ หุบยิ้มนั้นลงเมื่อรู้สึกตัว


“จีโฮ…เขาเป็นใครเหรอ ถ้าจะให้เดาจากท่าทางของเธอ เขาคงจะเป็นชายหนุ่มคนที่อยู่ในใจเธอใช่มั้ย” ชายหนุ่มแสดงท่าทีผิดหวัง


“ขอโทษค่ะ ฉันลืมตัวไปหน่อย” เด็กสาวเม้มปากเล็กน้อยเมื่อถูกชายหนุ่มจับได้


“ยูรี พี่ชอบเธอมากจริงๆ นะ พี่หวังว่าเธอจะลืมเขาได้แล้วหันมาชอบพี่จริงๆ”


“ก็เพราะอย่านี้ไงคะฉันถึงถาม ว่าพี่มั่นใจแล้วเหรอว่าจะคบกับฉัน”


“งั้น…ต่อจากนี้เราก็มาพยายามไปด้วยกันนะ พี่เชื่อว่าสักวันพี่ต้องทำให้เธอชอบพี่มากว่าที่ชอบเขาแน่ๆ เธอกลับเข้าบ้านเถอะ ส่วนเรื่องสร้อยไว้พี่ค่อยเอามาให้ วันนี้พี่ไม่ได้เอามาด้วยน่ะ” ชายหนุ่มยิ้มรับ


“ก็ได้ค่ะ วันหลังค่อยเอามาให้ฉันก็ได้”


คังยูรียืนมองชายหนุ่มที่พึ่งเดินออกไป เธอเองก็รู้สึกเห็นใจแทอีเช่นกัน ในเมื่อตอนนี้เธอเลือกที่จะเริ่มต้นพัฒนาความสัมพันธ์กับแทอีก็ต้องทำให้ดีที่สุด บางทีแทอีอาจจะเข้ามาแทนที่นัมจีโฮ คนที่อยู่ในใจเธอได้อย่างที่ชายหนุ่มกล่าวเอาไว้


แทอีหลังเดินออกมาจากเด็กสาวก็ล้วงเอาสร้อยผลึกที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ตออกมาดู ตามจริงชายหนุ่มจะคืนให้เด็กสาวแล้วแต่เมื่อเห็นท่าทางดีใจของเธอเลยไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ บางครั้งก็มีความคิดว่าอยากจะปาสร้อยเส้นนี้ทิ้งไปด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำแบบนั้นคังยูรีต้องโกรธให้เขามากแน่ๆ


ระหว่างที่คังยูรีเดินเข้าบ้านอยู่นั้นจู่ๆ ก็ปรากฏกลุ่มควันดำลอยฟุ้งเต็มไปหมด เด็กสาวสัมผัสได้ถึงอันตรายที่รออยู่เลยรีบวิ่งตรงเข้าไปในบ้าน แต่ก็ไม่ทันความเร็วของกลุ่มควันดำที่เคลื่อนตัวเข้ามาโอบรายล้อมร่างเธอเอาไว้


ทันใดนั้นคังยูรีก็เหมือนต้องมนต์สะกดให้ขยับตัวและไม่สามารถกรีดร้องขอความช่วยเหลือได้ ในกลุ่มควันดำที่ลอยล้อมเธอไว้นั้นก็ค่อยๆ เผยร่างชายสูงใหญ่ตัวดำทะมึนออกมา ดวงตานั้นแดงก่ำดูเคียดแค้นเป็นอย่างมาก


คังยูรีเบิกตากว้างและตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เห็น เธอจำความรู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่นนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะคือดวงวิญญาณร้ายตนเดียวกันที่เธอเคยเจอมาก่อนหลังอาคารห้องสมุด และครั้งนี้ก็ดูจะมีพลังเลวร้ายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมจนเธอไม่สามารถกระดิกตัวได้แม้แต่นิดเดียว แม้แต่ความรู้สึกภายในจิตใจของเธอก็ยังถูกควบคุมจนเธอไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากชาฮีจูได้


คังยูรีเริ่มหายใจไม่ออกเมื่อจ้องไปที่ดวงตาเดือดดาลที่อยู่ตรงหน้า ดวงตากลมโตของเธอค่อยๆ หรี่ลง พอรู้สึกตัวอีกทีร่างของก็เธอถูกใครบางคนผลักออกจนกระเด็นล้มลงไปกองอยู่กับพื้น


คังยูรีรีบหายใจเข้าออกสูดเอาอากาศให้ได้มากที่สุด สิ่งที่เธอรู้ตอนนี้ก็คือมีใครบางคนเข้ามาช่วยเธอเอาไว้ และเมื่อรู้ว่าเป็นใครก็ตกใจเป็นอย่างมาก


“เยนา!”


คังเยนาที่เป็นคนเข้ามาช่วยเธอเอาไว้ คังยูรีมองไปที่คังเยนาที่ถูกวิญญาณร้ายตนนั้นใช้กำลังเค้นบีบคอของเธออยู่ ไม่ทันที่คังยูรีได้ลุกขึ้นเพื่อเข้าไปช่วยหญิงสาว วิญญาณบอบบางของคังเยนาก็ถูกวิญญาณร้ายทุ่มออกไปจนทำให้หญิงสาวต้องกระเด็นและล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น สภาพของคังเยนาในตอนนี้ดูสาหัสมากนัก


“เยนา!”


คังยูรีรีบวิ่งเข้าไปโอบประคองคังเยนามาไว้ที่อ้อมแขน ใบหน้าของหญิงสาวดูซีดเซียวเหมือนจะไม่ไหวเต็มทน วิญญาณดำทะมึนนั้นก็ค่อยๆ คืบคลานมาหาคนทั้งคู่ คังยูรีหวาดกลัวเป็นอย่างมากเมื่อเห็นคังเยนาแน่นิ่งไป เด็กสาวจ้องไปที่วิญญาณร้ายนั้นอย่างโกรธแค้น แม้ว่าเธอจะต้องตายไปพร้อมคังเยนา เธอก็ไม่นึกกลัวอีกแล้ว


คังยูรีค่อยๆ หลับตาลง เด็กสาวเอาใบหน้าของเธอซุกไปที่ใบหน้าของคังเยนาที่นอนแน่นิ่ง เธอกอดร่างหญิงสาวเอาไว้แนบแน่น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็ไม่ยอมปล่อยคังเยนาไปอย่างแน่นอน คังยูรีหลั่งน้ำตาออกมาไม่ขาดสาย เด็กสาวรวบรวมสติและความกล้าทั้งหมดอีกครั้งก่อนจะตะโกนออกไปสุดเสียงเท่าที่เธอจะทำได้


“ชาฮีจู!”