คุณทำแบบนี้ทำไม คุณนี่มันไม่ไหวจริงๆ งานการอื่นที่มีประโยชน์มีให้ทำเยอะแยะ ทำแบบนี้มันเกินไปนะ
อาชญากรรม,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ผู้ใหญ่,เลือดสาด,สืบสวนสอบสวน,สยองขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ฆาตกรรมปิดตายในห้องพักสวนนํ้าคุณทำแบบนี้ทำไม คุณนี่มันไม่ไหวจริงๆ งานการอื่นที่มีประโยชน์มีให้ทำเยอะแยะ ทำแบบนี้มันเกินไปนะ
คู่รักคู่หนึ่งรักกันดีมากจนวันหนึ่งได้จัดงานแต่งงานกัน จนกระทั่งวันหนึ่งเสียงดังเกิดขึ้นจากห้องพักห้องหนึ่งในหอพัก คาดเดาว่าน่าจะเป็นเสียงคู่รักใหม่ทะเลาะกัน ห้องข้างๆทนไม่ไหวจึงเดินไปบอกให้หยุดแต่พวกเขาก็ไม่ฟัง เจ้าของห้องข้างๆตัดสินใจไปตามนิติ เมื่อนิติมาบอกแจ้งเตือนเสียงเขาเงียบไป ห้องถูกปิดอยู่อย่างนั้นและเขียนเลขหน้าห้อง นิติคิดว่าต้องเกิดอะไรขึ้นแน่จึงไปหยิบกุญแจสำรองมา พอเปิดประตูกลับล็อคโซ่ไว้ด้วย นิติได้เห็นซากศพจึงปิดทันทีแล้วบอกให้สาวข้างห้องโทรแจ้งตำรวจ ตำรวจมาถึงจุดหมาย อัญญา เด็กสาวตำรวจสายสืบสวนเพิ่งเข้ามาใหม่ ต้องเจอศพที่สยองซึ่งไม่เคยเจอมาตั้งแต่ทำคดี การสืบสวนนี้เธอต้องใช้ความอดทนในการเจอศพให้มากๆ อัญญาจะจัดการศพอย่างไร รอลุ้นกัน
อัญญาขอออกไปคุยข้างนอกห้อง เธอเดินไปที่สระน้ำที่เป็นวิวตรงกับห้องคนตาย จับสังเกตการกระโดดของคนร้ายว่าอาจจะมีบาดเจ็บแต่ไม่ถึงตายหรืออาจจะตกน้ำ
“อันนี้ชั้นสามเองนะคะ ตกลงมาแค่ขาหักไม่ถึงกับตาย แสดงว่าคนร้ายยังหนีไปได้ไม่ไกล ถูกไหมคะ“
”น่าจะใช่ค่ะ“นิติหอพักตอบแบบงงๆ
”คงกำลังช็อคล่ะสิ ใช่ไหมคะคุณ“
”ใช่ค่ะ ฉันช็อคมาก ไม่น่าเชื่อ คนอะไรทำกันได้ขนาดนี้“
”ไม่เป็นไรค่ะ ฉันก็เป็นเหมือนกับคุณ อดทนหน่อยนะคะ“
”ฆาตกรคนนี้มันโหดจังเลยค่ะ ฉันอยากให้คุณประหารมัน“นิติหอพักร้องไห้ออกมา
”โอเคค่ะ ฉันจะจัดการให้คุณ“อัญญาตอบรับคำจากเธอ จากนั้นหญิงสาวพานิติกลับเข้าไปทำงานตามปกติ พร้อมบอกว่าให้ทำใจนิ่งซะ แล้วลืมทุกอย่างไป คิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้นเธอให้เขาไปพักตามปกติ
อัญญาถ่ายรูปศพเพิ่มเติม เธอทั้งหยีลูกตาแล้วรู้สึกแหวะที่เห็นสภาพแบบนั้น หลังจากถ่ายเสร็จเธอรีบออกจากห้องแล้วบอกให้กู้ภัยจัดเก็บอย่างรวดเร็ว
เมื่อออกมาได้เธอรีบประกาศตามหาคนร้ายพร้อมทั้งพิมพ์ใบปลิวให้ประชาชนช่วยหา แต่แล้วก็ไม่มีใครพบ
อัญญาเดินตะลอนไปมาตามสถานที่ใกล้สถานีตำรวจ ถามพนักงานร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีใครพบเห็นเขาเลย ขณะนั้นเองเธอรู้สึกเหนื่อยจึงขอนั่งร้านกาแฟ
ไม่นานผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาตีสนิทใส่เธอ บอกว่าเป็นตำรวจกองปราบปราม ดูท่าจะชอบเข้าสังคมไม่เบา เธอแปลกใจที่ได้พบเจอเขาแถมยังมานั่งด้วย
“เป็นไงบ้างครับคุณ ช่วงนี้ งานเยอะเลยล่ะสิ”
“ใช่ค่ะ แล้วคุณล่ะ มาจากไหน ฉันยังไม่รู้จักคุณดีเลยนะ มานั่งตรงนี้ได้ไง ฉันแค่อยากจะพักผ่อน อยากอยู่คนเดียวค่ะตอนนี้”เธอทำหน้าไม่โอเคใส่เขา ตาเธอขวางไม่ใช่เล่น ใบหน้าเขายังยิ้มตอบรับพร้อมทั้งเอื้อมมือมาจับเธอมาที่อกเขาเพื่อจะปลอบใจ แต่เธอกลับยกมือขึ้นเนื่องจากไม่อยากให้ใครมาแตะต้อง
“คุณทำอะไรน่ะ ฉันไม่รู้จักคุณนะ”เธอลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากร้าน ส่วนเขาเดินตามเธอไป เมื่อเธอเห็นเขากำลังตามมา เธอตัดสินใจเลือกที่จะไม่เดินทางกลับบ้าน แต่เลือกที่จะไปห้างสรรพสินค้าแทน เธอเดินเตร็อเตร่อยู่ตามแถวผักสด ตำรวจหนุ่มเริ่มงงว่าเธออยู่ไหน เขาถูกสาวขายโทรศัพท์ชักจูงไปหาเพื่อจะดูโทรศัพท์ แต่เขาปฏิเสธที่จะไม่เอาจนเขาได้เดินออกไป
อัญญาหันกลับมาคาดว่าเขาคงกลับไปแล้ว แต่เธอกลับสงสัย ตอนนั้นสังเกตที่แขนเสื้อมีรอยเลือดปะปนอยู่ เป็นไปได้ไหมที่จะเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เธอออกมาข้างนอกไม่เห็นเขาอีกเลย จากนั้นจึงคิดว่าเดินกลับบ้านแล้วไปคิดเอาที่บ้านจะดีกว่า
ยังไม่ทันไรเธอเดินไปถึงบ้านสิ่งที่เธอเห็นนั้นบ้านเธอสะอาดเรียบร้อยไม่มีเปอะเปื้อน ต้นไม้ด้านหน้าถูกวางเป็นระเบียบ ไม่มีไม้เลื้อยออกมารุงรัง กุญแจถูกเปิดออก
“เฮ้ย อะไรกันเนี่ย ฉันไม่ได้ล็อคบ้านเหรอ”เธอควานหากุญแจ ปกติจะเก็บไว้ในกระเป๋าส่วนตัว ปรากฎว่ามันหายไปจริงคาดว่าน่าจะเป็นตอนอยู่ร้านกาแฟ ผู้ชายคนนั้นหยิบไปแน่นอน
“เอาล่ะ เข้าไปดูหน่อยละกัน”เธอเดินเข้าไปจนถึงห้องครัว เห็นเขากำลังทำกับข้าวหลายอย่าง ทั้งหม้อไหวางอยู่บนเตาหมด เขาหันหลังมาเจอเธอพอดี
“เอ้าที่รัก กลับมาแล้วเหรอ มานั่งสิ กินข้าวด้วยกัน มา วันนี้มีแต่เมนูพิเศษทั้งนั้นเลยนะ”เขาจูงมือเธอไปนั่งที่โต๊ะแต่เธอก็ปัดทิ้งอีกเช่นเคย
“ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ”อารมณ์ของเธอเริ่มขุ่นเคือง ใบหน้าสีแดง อาการโกรธแรงฤทธิ์ของเธอเปิดออกมาให้เห็น สุดท้ายเขาก็ปฏิเสธไม่ออกไป อีกทั้งยังสัญญาว่าจะรักเธอเพียงคนเดียว
“คุณ พอเถอะค่ะ ฉันไม่อยากมีแฟน โอเคนะคะ”หญิงสาวพูดอย่างสุภาพโดยไม่มีการว่าจะดุด่า แต่ครั้งต่อไปเธอจะตวาดแล้ว ชายคนนั้นเดินออกไปด้วยสีหน้าที่มืดมน เธอนึกเสียอารมณ์ขึ้นมา แต่เธอก็เสียดายอาหารที่เขาทำให้มันถูกวางบนโต๊ะอย่างสวยงาม การจัดตกแต่งจานก็เช่นกัน วันนี้เธอตัดสินใจยอมกินไปก่อน
อัญญากินจนหมดไม่เหลือสักเมนู เธอคิดว่าอยากจะกินให้หมดไปเพราะไม่ชอบคนแบบนี้
“เข้าบ้านมาได้ไง ไม่ใช่สิ มันรู้บ้านฉันได้ไงก่อน”สีหน้าของเธอบูดบึ้งยิ่งขึ้นด้วยความไม่พอใจอย่างมาก เธอชักเริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อย พยายามมองหาที่ซ่อนกุญแจเพื่อไม่ให้เขาจับได้ แต่ก็กลัวว่าจะลืมว่าเอาไว้ไหน เธอคิดตัดสินใจว่าจะเอาไปที่ทำงานเหมือนเดิม
วันต่อมาเธอเดินออกจากบ้านอย่างมีความสุข วันนี้ไปทำงานเหมือนปกติของคนทั่วไป ตอนนี้เธอกลับกังวลมากกว่าปกติ สายตาเธอมองหน้าหลังอยู่ตลอดเวลาจนมาถึงที่ทำงาน เพื่อนต่างตกใจว่าเธอเป็นอะไร
“อัญญา เป็นอะไรหรือเปล่า ดูหน้าซีดนะ”
“ฉันแค่ไม่สบายนิดหน่อย กินยาเดี๋ยวก็หาย”
“ฉันไม่เชื่อ บอกมาเถอะ จะได้ช่วยกัน”
“ฉันแค่กังวลว่าใครจะตามมาหรือเปล่าเนี่ยสิ”
“ใครล่ะ มีใครแอบตามเธอมางั้นเหรอ”
“ก็ยัยบ้านั้นสิ เมื่อวานฉันนั่งอยู่ร้านกาแฟ ไอ้หนุ่มนั้นขโมยกุญแจไปเปิดบ้านฉัน ทำกับข้าวให้ ฉันก็ไล่มันออกไป แล้วพยายามกินของมันให้หมดเพื่อที่จะได้ไม่เหลือเสนียดมันอีก”
“โอ้โห น่ากลัวมากเลยนะคนแบบนี้ โรคจิตเปล่าเนี่ย”
“นั้นสิ เป็นตำรวจกองปราบปราม เธอรู้จักเขาไหม”
“มีรูปถ่ายไหมล่ะ”
“ฉันไม่ได้ถ่ายรูปเขาเลยด้วยซ้ำ เกลียดมันมาก”
“เท่าที่ฉันรู้ ตำรวจกองปราบปรามจะไม่ค่อยโผล่หน้า เวลาจับคนร้ายไปแบบลับๆและจับโดยการใช้ความรุนแรงใส่คนร้าย”
“โอ้โห ดีเท่าไรแล้วที่อยู่สืบสวน”
“หึ ส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้ชายแหละที่ทำงานแบบนี้ เพราะผู้ชายแรงเยอะ”เพื่อนเธอลุกออกไปหลังจากพูดจบ เธอนั่งสืบคดีต่อเมื่อเห็นรูปจึงคิดอยากให้เพื่อนช่วยขึ้นมา โชคดีเพื่อนยังไปไหนได้ไม่ไกล
“มีอะไรอยากให้ช่วยงั้นเหรอ”
“พอดีเลยแหละ ช่วยดูศพให้บ้างได้ไหม ฉันยังหาคนร้ายไม่เจอเลย”
“ได้สิ แต่ช่วยได้แปปเดียวนะ ฉันต้องไปคดีของฉัน”
“โอเค เธอว่าถ้าขายอวัยวะมนุษย์นี่มันเท่าไรเหรอ ทำไมต้องทำกันขนาดนี้”
เพื่อนอัญญาสอดส่องดูแต่ละรูป อาเจียนแทบพุ่งเมื่อเห็นรูปภาพพวกนี้
“เป็นไงล่ะ ฉันถึงได้ถามเธอไง ฉันว่านะคนร้ายมันต้องเอาไปขายแน่เลย”
“แล้วนี่ได้สืบมาหรือยังว่าเขาทำอาชีพอะไร”
“จากที่ตรวจดูเขาทำงานอะไรไม่รู้ ผลบอกว่าเป็นแรงงานต่างด้าวที่นักธุรกิจคนหนึ่งจ้างมา
“สองคนนี้รักกันเปล่า”
“ได้ยินว่า สองคนนี้เพิ่งจะแต่งงานกันแล้วย้ายมาอยู่อพาร์ตเม้นต์นี้ อยู่มาวันหนึ่งข้างห้องได้ยินเสียงดังจนผิดปกติ เธอเลยเรียกนิติมา แต่พอเปิดไปเท่านั้นแหละสภาพศพอย่างที่เห็น ร่างกายถูกกรีดด้วยกรรไกรหมอ กรีดตั้งแต่คอหอยยาวมาถึงท้อง ทุกอย่างถูกวางกองไว้บนโซฟา ยกเว้นปอด คนร้ายใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทาง ส่วนหัวใจคนร้ายเอาไป ที่เหลืออยู่บนโซฟา อ้อ แล้วอีกอย่าง สองคนนี้เพิ่งจะคบกันได้สองเดือนบนโลกออนไลน์ ผ่านมานานทั้งสองอยากเห็นหน้าจึงนัดเดตกันแล้วแต่งงานทันที”
“เอาละนะ ยาวยืดมาก ทำได้ไง คบกันแค่สองเดือนแต่งงานกันแล้ว ชักจะบ้าตาย เป็นฉันล่ะคงทดสอบไปสักปีสองปี”
“ฉันก็พูดแบบนั้นแหละ”เพื่อนเธอเคาะปากกาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“ไอ้งานค้าขายอวัยวะมนุษย์เนี่ยได้เงินเยอะเลยล่ะ บางอย่างเป็นล้าน เป็นแสนเลย”อัญญาตกใจกับสิ่งที่เพื่อนพูด เธอเปิดอินเตอร์เน็ตให้ดู นางทั้งตกใจและไม่น่าเชื่อ
“นี่ขายได้ขนาดเนี้ย เยอะกว่าเงินเดือนเราอีกนะเนี่ย”
“ใช่ ยังน้อยกว่าเงินเดือนหมอด้วยซ้ำ”
“แต่มันไม่ไหวเลย ชีวิตคนนะเฮ้ย ทำแบบนี้ได้ไง เป็นหนังผีไปได้ ราวกับคุณไสยอาคมอะไรพวกนั้นเลย ที่ต้องกินเนื้อคนอื่นจึงจะรู้วิชาของเขา พูดแล้วก็สยองตามเลย อี๋”อัญญารู้สึกอยากอาเจียน เธอเดินเข้าไปห้องน้ำอย่างไม่ทันตั้งตัว เพราะเผลอเดินเข้าห้องน้ำผู้ชาย
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ เข้าผิดค่ะ”
“อัญญา ไหวไหม สภาพศพคงดูสยดสยองมากสินะ”หัวหน้าตำรวจถามเธอด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรค่ะ ยังไหว”