ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 141 จุดสิ้นสุดไม่ใช่จุดสิ้นสุดเสมอไป [จบ]
เมื่อเห็นร่างสีขาวอันบริสุทธิ์นั้นเกิดขึ้นกับเดวิค เขารับรู้ว่าตัวเองคือตัวแปรเปลี่ยนอนาคตของแม่เขาจ้องมองไปที่แซเทิร์นที่กำลังไม่ชอบใจจนใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำ เขากำลังคิดวิเคราะห์ด้วยความรู้สึกโกรธจนอยากฆ่าอีกฝ่ายสุดกำลัง เด็กหนุ่มที่จับศาสตราวุธที่เป็นมีดสั้นแล้วร่างกายเปลี่ยนไปเทพผู้สูงศักดิ์ไม่เคยบอกเขาเรื่องนี้ที่จะมีคนนอกจากในคำพยากรณ์ปรากฏกายขึ้นในเวลานี้ยิ่งทำให้เคืองกว่าเดิมจนเขายกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
“แก!! ไม่มีทาง!! แกไม่มีทางเป็นได้ แกไม่ได้รับการทดสอบเหมือนแม่ของแก!! การทดสอบพวกนั้นไม่มีทางเป็นไปได้!!”
เดวิคจ้องมองอีกฝ่ายก่อนจะเอานิ้วเคาะหูอย่างเฉยชาจนไม่อยากสนใจเลยสักนิด เขาสนแค่มาช่วยแม่ แซเทิร์นเห็นการกระทำอีกฝ่ายก็ไม่พอใจเป็นที่สุดจนอยากโกรธใส่อีกฝ่ายมากกว่าเดิม เดวิครู้สึกถึงสีหน้าที่บอกบุญไม่รับของอีกฝ่ายก่อนจะหันไปพูดกับพ่อ
“พ่อ...”
“ว่าไง?”
“พาแม่ออกไปซะ...ผมจะจัดการกับเจ้านี้เอง”
“เดวิค...เดวิค...ลูกปล่อยมีดสั้นซะ!! มันของแม่นะ!!”
“ไม่ครับ...มันเป็นของผมตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว!!”
“!!!”
โพรทาเลียรู้สึกหน้าชาไปหมดกับคำพูดที่บ่งบอกว่าสิ่งในมือของเด็กคือสิ่งที่เขานั้นควรได้รับมันตั้งแต่ต้น แล้วเธอล่ะที่พยายามที่จะสร้างมันขึ้นมาถึงง่ายเพียงนิดเดียวแต่ลูกชายกับสามารถใช้มันได้ เดวิคเดินตรงไปข้างหน้าพร้อมกับอาวุธสองอย่างในมือข้างหนึ่งคือดาบยาว ข้างหนึ่งเป็นมีดสั้น
“แก!! ช่างอวดดี!! กล้าถือดาบมาตรงหน้าข้า อยากโดนข้าฆ่าทิ้งหรือไง!?”
แซเทิร์นพูดไม่ทันขาดคำแขนข้างขวาของเขาก็โดนโจมตีจนกระทั่งมันหลุดตกลงกับพื้น
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!! แกกกกกกกกกกกกกก!!”
เดวิคยกยิ้มขึ้นอย่างชอบใจ “โทษนะ...ฉันไม่รู้ว่าทำตัวอวดดีจริงไหม แต่ว่าฉันก็กล้าถือดาบมาต่อหน้าแกจนกว่าชีวิตแกจะดับลง!!”
“ว่าไงนะ!!”
ใบหน้าของแซเทิร์นเริ่มมีเส้นเลือดปูดขึ้นมาเส้น ๆ จนเขารู้สึกว่าเขากำลังโดนเล่นตรงหน้ายั่วโมโหเป็นที่สุด เขาอยากฆ่ามันให้ตายคามือจนแม่มันร่ำไห้ร้องขอชีวิตจากเขา นั้นทำให้เขาพุ่งเข้าหาเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับแกว่งเคียวโจมตีใส่ เดวิคเห็นการโจมตีของอีกฝ่ายก็หลบได้อย่างว่องไวเขาหลบซ้ายหลบขวาจนไม่โดนการโจมตีนั้น ก่อนจะตวัดดาบเหวี่ยงไปข้างหน้าปะทะกับเคียวแล้วฟาดฟันตอบไปอีกหลายครั้ง ต่างคนต่างไม่ยอมแพ้ให้กันจนเป็นการต่อสู้อันดุเดือดกว่าครั้งแรก พวกผู้ใหญ่ตรงนั้นบางคนให้เหล่ามนุษย์กึ่งเทพบางคนพาคนบาดเจ็บกลับไปยังโคลอสเซียมเพื่อพาไปรักษา บางคนก็ดูการต่อสู้เผื่อมีความผิดพลาดอะไรพวกเขาก็พอจะช่วยได้
โพรทาเลียจ้องมองลูกชายกำลังต่อสู้กับแซเทิร์นอย่างไม่สนใจอะไรรอบข้างเธอหวาดกลัวเหลือเกินว่าลูกชายจะเป็นอะไร แต่เธอยังมีคำถามหลายอย่างที่อยากถามว่าทำไมลูกชายเธอถึงแตะศาสตราวุธของตนเองได้ก่อนที่จะมีชายหนุ่มผมยาวเดินมาอยู่ขนาบข้างของโพรทาเลีย เขาจ้องมองการต่อสู้ตรงหน้าอย่างชอบใจว่าเด็กหนุ่มถูกฝึกมาอย่างดีทำให้การต่อสู้ดูสูสีขึ้นเยอะและมาทันช่วงเวลานี้พอดีเป๊ะ
“เด็กคนนั้นมาทันเวลา...พอดีสินะ”
โพรทาเลียได้ยินประโยคนั้นของอีกฝ่ายเธอก็เงยหน้าหันไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับพี่ชายและแฟนหนุ่ม
“ทันเวลา? นายหมายความว่าอะไร!?”
“ก็...เธอต่อสู้กับแซเทิร์นกินเวลานานพอตัว ทำให้เด็กพวกนั้นมาทันก่อนที่จะเริ่มการต่อสู้ของพวกเขา”
“เด็กพวกนั้น?”
โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าเด็กพวกนั้นหมายถึงอะไรก่อนที่เธอจะลืมไปว่ายังเหลือมีดอีกอันของโฟกัส เธอหันไปทางทิศที่โฟกัสยังสลบอยู่พวกพี่กำลังอุ้มตัวเธอด้วยท่าเจ้าหญิงเพื่อจะพาหลบหนีไปที่ปลอดภัย เอเดอร์ที่ยังว่างกะว่าจะไปเอามีดสั้น เขาก็ละสายตาจากการต่อสู้เหนือหัวไม่ได้จนกระทั่งมีสิ่งบางอย่างผ่านหางตาไปก่อนที่เขาจะมองดูก็เห็นหญิงสาวผมสีทองกำลังเดินตรงไปข้างหน้าเขา
“ใครนะ?”
“ฉันก็ไม่เคยเห็นหน้านะ?” เบเดอร์เห็นหญิงสาวคนนั้นก็สงสัยเช่นกัน
เอเดอร์จ้องมองก็ต้องตาลุกวาวที่หญิงสาวคนนั้นเดินไปที่มีดสั้นของโฟกัสก่อนที่จะก้มหยิบดาบสั้นขึ้นมา เขาเห็นแบบนั้นก็นึกได้ถ้ามีหลานก็มีหลานสาวของเขาแปลว่าหญิงสาวตรงหน้าคือหลานสาวของเขา ไม่กี่นาทีหลังจับมีดสั้นร่างกายของหญิงสาวเจิดจ้าขึ้นสว่างจ้าจนทำให้แซเทิร์นเกิดความสนใจของแสงนั้นก่อนจะหันมองเขาเห็นหญิงสาวอีกคนที่ถือมีดสั้นเหมือนเจ้าหนุ่มตรงหน้าเขา เขากำลังเจอตัวแปรที่สองอีกคน นั้นทำให้เขาขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจก่อนที่เดวิคจะเตะอีกฝ่ายไปอีกทางในข้อหาไม่สนใจเขา โพรทาเลียเห็นหญิงสาวตรงหน้าที่ร่างกายเป็นสีขาวไป เธอจำก่อนหน้าที่อีกฝ่ายมีผมสีทองกับดวงตาสีเขียวเหมือนเธอนั้นทำให้เธอคิดเป็นใครไม่ได้นอกจากลูกสาวของเธอ
“คา...คาเร็นน่า...”
เสียงเอ่ยเรียกของเธอทำให้หญิงสาวต้องเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าอันงดงามเมื่อกลายเป็นสีฃทองเธอเหมือนเจ้าหญิงหิมะ โพรทาเลียเห็นใบหน้าลูกสาวช่างงดงามยิ่งกว่าอะไรจนไม่คิดว่าจะเห็นลูกในร่างนี้อีกก่อนที่ลูกสาวจะขยับปากพูดบางอย่างทำให้เธอตะลึงไปช่วงขณะ เพราะเธอทำสีหน้าที่ตัวเธอไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นเด็กน้อยพูดแบบนั้นด้วยสีหน้าที่เหมือนรู้สึกผิดก่อนที่เธอจะอ่านปากของเด็กน้อย
‘หนูรักแม่นะ~’ คาเร็นน่ากล่าวโดยไม่มีเสียงพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแต่ก็แฝงความรู้สึกผิดอยู่ภายใน
คาเร็นน่ารีบพุ่งตัวไปหาพี่ชายที่กำลังต่อสู้กับแซเทิร์นกันดุเดือด คาเร็นน่าบุกเข้ามาจากข้างล่างทำให้แซเทิร์นไม่ทันตั้งตัวก็โดนโจมตีจนเกิดรอยที่ปลายคางของเขา โพรทาเลียมองลูกทั้งสองกำลังต่อสู้กับศัตรูของพวกเขาเธอ คำพูดและสีหน้านั้นของลูกสาวมันบ่งบอกถึงคนที่จะไปตายไม่มีผิดจนเธอต้องหันไปหาชายที่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตเธอ
“เด็กพวกนั้นไม่เกี่ยวข้องนะ!! แองเจิล!! พวกเขาจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม!?”
แองเจิลฟังคำถามของอีกฝ่ายเขาได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรจนโพรทาเลียมองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกหวาดกลัวภายในใจว่าสิ่งที่เธอจะไม่ใช่ตามที่อีกฝ่ายจะพูดออกมาใช่ไหม แต่สิ่งที่เธอคิดคือการทำภารกิจแต่ละอย่างมันเสี่ยงเสมอ มีแค่สองทางให้เลือกรอดกับตาย แล้วเธอไม่อยากให้เป็นทางที่สองที่จะทำให้ลูกทั้งสองของเธอไม่สามารถกลับมาหาเธอได้อีก
“แองเจิล!!!”
“ข้าขอโทษ...” แองเจิลกล่าวแบบนั้นทำให้โพรทาเลียตาค้างไปชั่วขณะก่อนที่เขาจะหันมาหาเธออีกครั้ง "ข้าไม่สามารถหยุดการกระทำที่เด็ก ๆ เหล่านั้นอยากทำได้...เขาทำเพื่อเจ้า...โพรทาเลีย...”
สีหน้าอีกฝ่ายที่กล่าวขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ดวงตาที่หวาดกลัวตื่นตระหนกมากกว่าเดิมความรู้สึกข้างในมันวูบวาบไปหมดเหมือนจะหายใจไม่ออก เธอหันหน้าไปทางการต่อสู้ เธอพยายามจะสลัดการรัดกุมของพี่ชาย แต่แรงของเธอตอนนี้มันเหลือน้อยนิดเพราะมีดสั้นดูดพลังของเธอออกไปเช่นกัน
“เดวิค!! คาเร็นน่า!!” โพรทาเลียสลัดหลุดจากพี่ชายก็จะพยายามลุกขึ้น
ฟีนีอุสลุกขึ้นตามอีกฝ่ายก่อนจะรั้งตัวเธอไม่ให้เดินไปไหน “โพรทาเลีย!! เธอจะทำอะไร ตอนนี้เธออ่อนแรงมากแล้ว!! ปล่อยลูก ๆ จัดการพวกมันก็ได้นะ!!”
“จะบ้าเหรอ!? ลูกเราแค่ 6 ขวบนะ!! พวกเขาไม่ควรมาสู้กับแซเทิร์นนะ!!”
“แต่พวกเขาแข็งแกร่งเหมือนเธอนะ พวกเขาต้องผ่านไปได้!!”
“ไม่!! นายไม่เข้าใจ!! ลูก ๆ ต่อสู้อยู่แบบนั้น!! พวกเขาจะตาย!!”
ฟีนีอุสได้ยินก็หยุดนิ่งไปทันที “เธอหมายความว่าไง!?”
“ลูก ๆ กำลังทำหน้าที่แทนพวกเรา!! การต่อสู้ต้องมีการเสียสละ การผนึกแซเทิร์นเราต้องยอมเสียสละตัวเอง!! ลูก ๆ กำลังทำหน้าที่นั้นแทนพวกเรา!!” โพรทาเลียตะโกนใส่อีกฝ่ายทั้งน้ำตา
“ว่าไงนะ!?”
ระหว่างที่พวกผู้ใหญ่กำลังพูดคุยกันนั้นเด็กสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างชำนาญเหมือนคนที่ต่อสู้มาหลายปีพวกเขากำลังจัดการแซเทิร์น คาเร็นน่าพุ่งเข้าใส่พร้อมกับดาบยาวหวังที่จะแทงใส่อีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายก็หลบได้และใช้เงาจับขาของเธอแล้วเหวี่ยงตัวเธอไปอีกทาง เดวิคเห็นน้องสาวโดนเหวี่ยงไปอีกทางเขาก็รับน้องสาวได้ก่อนจะหมุนตัวเหวี่ยงน้องสาวพุ่งไปข้างหน้าโจมตีอีกฝ่ายอีกครั้ง
“ขอบคุณค่ะ!!”
“ไม่มีปัญหา!!”
เดวิคพุ่งตามน้องสาวไปด้วยอย่างไม่สนใจว่าทางข้างหน้าจะมีการเล่นกลลวงยังไง การต่อสู้อันพร้อมเพรียงทำให้คนทึ่งกับความสามารถการต่อสู้ของทั้งสองคน พวกเขาคล่องตัวได้อย่างดีในอากาศโดยไม่ต้องมีพื้นดินเลยสักนิด แซเทิร์นที่ป้องกันการโจมตีของเด็กทั้งสองยิ่งทำให้เขาไม่พอใจที่ต้องเป็นฝ่ายต้องถอยโดยที่เจ้าพวกเด็กตรงหน้าเขาควรเป็นคนที่ต้องถอยหนีเขาจนเขาหมดความอดทน เขาเรียกเงามืดออกมาจากข้างล่างพร้อมกับให้มันพุ่งตรงมาหาเด็กทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว
“ฆ่าพวกมันซะ!!”
“เด็ก ๆ ระวัง!!!” โพรทาเลียตะโกนเตือนลูกทั้งสองคน
เดวิคเห็นการโจมตีจากข้างล่างมันพุ่งตรงมาหาพวกเขาเหมือนเข็มขนาดใหญ่ เขาจับตัวน้องสาวผลักออกจากตรงนั้นจนเธอลอยไปอีกทางทันที
“พี่ค่ะ!!!” คาเร็นน่าหันไปมองพี่ชายที่ช่วยเธอ
เงามืดทั้งหลายพุ่งเข้าใส่ร่างของเด็กหนุ่มทุกจุดของร่างกายทำให้คนที่เห็นตะลึงกับสิ่งที่เห็นร่วมถึงคนเป็นแม่อย่างโพรทาเลีย
“เดวิคคคคคคคคคค!!”
“เดวิค!!” ฟีนีอุสรีบพุ่งตัวไปหาลูกชายทันที
เดวิคกระอักเลือดออกมาเขาไม่คิดว่าหนามพวกนี้จะเจ็บสุด ๆ เขาไม่เคยโดนอะไรที่สาหัสแบบนี้มานานก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงพ่อกับแม่เรียกเขา เขาหันไปมองก็เห็นพ่อกำลังพุ่งตรงมาทางนี้แต่นั่นก็ทำให้เขาต้องหยิบบางอย่างออกมาเหมือนหินกลม ๆ ลูกหนึ่ง เขาเพียงแค่เขย่ามันก็มีบาเรียวงกลมปกคลุมโดยรอบรัศมีวงกว้างที่ตัวเขาอยู่ ฟีนีอุสรีบเบรกตัวโก่งเมื่อเห็นสิ่งที่คล้ายบาเรียจะพุ่งมาโดนเขาก่อนที่มันจะหยุด ฟีนีอุสรอบแตะมันก็ได้รู้ว่าเขาไม่สามารถเข้าไปได้ ก่อนที่เขาจะใช้สองมือทุบมัน
“เดวิค!! ปิดบาเรียนี้เลยนะ!! ให้พ่อเขาไปเดี๋ยวนี้!!”
“ขอโทษครับ...พ่อ...” เดวิคกล่าวก่อนจะมองไปทางพ่อของเขา ”ผมให้พ่อเข้ามาไม่ได้...นี่เป็นภารกิจของเรา!!”
“ภารกิจ? จะบ้าเหรอ!? ลูกกำลังพาตัวเองและน้องสาวไปตายนะ!!”
“ใช่...พวกเรารู้”
“ว่าไงนะ!?” ฟีนีอุสได้ยินก็ตะลึงที่ลูกชายเขารู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับอะไร
”ขอบคุณนะครับ...”
“หือ?”
เดวิคยิ้มอย่างอ่อนโยนผสมกับสีหน้าที่รู้สึกผิดอยู่ข้างใน ”ที่ผมได้เกิดมาเป็นลูกพ่อและได้เรียนรู้อะไรจากพ่อเยอะมากเลยล่ะนะ”
ฟีนีอุสเบิกตากว้างยิ่งกว่าอะไรที่เขาต้องมาได้ยินคำพูดกล่าวขอบคุณที่แฝงความรู้สึกผิดที่สื่อหลายความหมายอยู่ภายในก่อนที่เขาจะก้มหน้าอย่างเจ็บปวดที่ตนเองทำอะไรไม่ได้ก่อนที่เขาจะใช้สองมือทุบบาเรียนั้นอีกครั้งพร้อมน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มทั้งสองข้าง
“เดวิค!! ได้โปรด!! อย่าทำแบบนั้น!! พ่อขอล่ะ!! เดวิค!! คาเร็นน่า!!”
เดวิคไม่สามารถฟังคำห้ามของผู้เป็นพ่อได้เขาใช้ดาบฟันพวกหนามเงาอย่างรวดเร็วก่อนจะดึงหนามพวกนั้นออกก่อนจะมองหาน้องสาวและอีกฝ่าย เขาเห็นน้องสาวกำลังโดนโจมตีกลับอย่างไม่หยุดจนกระทั่งอีกฝ่ายบีบคอเธอ
“คาเร็นน่า!!!”
คาเร็นน่าต่อสู้กับอีกฝ่ายหลังจากที่เห็นพี่ชายโดนเงามืดแทงร่างกาย เธอก็พุ่งตรงเข้าหาอีกฝ่ายแล้วโจมตีเขาไม่ยั้งมือเลยสักนิดด้วยความโกรธ แต่ไม่กี่นาทีเธอก็โดนโต้กลับด้วยโจมตีแบบไม่ยั้งจนร่างกายบอบช้ำไปหมด พอเธอเผลอไปนิดหน่อยอีกฝ่ายก็พุ่งตรงเข้ามาบีบคอของเธอจนเธอต้องพยายามดิ้นหนีสุดชีวิตไม่งั้นเธอได้ตายแน่ ๆ แต่ยิ่งเธอดิ้นแรงอีกฝ่ายก็พยายามบีบคอให้เธอหายใจไม่ออก ตอนนี้เธอพยายามให้ตัวเธอมีอากาศหายใจแต่ก็ไร้ผลก่อนที่อีกฝ่ายจะเริ่มหัวเราะชอบใจที่ตนเองกำลังฆ่าลูกคนเล็กของโพรทาเลีย
“ดูซะ!! แจ็กสัน!! พวกแกขัดขวางทุกอย่างของฉัน! ถึงเวลาที่ข้าจะฆ่าสิ่งที่แกรัก!!”
“ไม่!! เดวิค!! ไปช่วยน้อง!! เร็ว!!” โพรทาเลียมองลูกสาวที่กำลังจะโดนฆ่าก่อนจะมองลูกชายที่อยู่นิ่งไม่ไปไหน “เดวิค!!”
เดวิคจ้องมองภาพตรงหน้าก่อนที่คาเร็นน่าจะจับมือของชายตรงหน้าของเธอที่กำลังบีบคอเธอด้วยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์
“คนที่จะโดนฆ่านะ? ใครกันแน่เหรอ?”
“ว่าไงนะ!”
แซเทิร์นจ้องมองเด็กสาวตรงหน้าก่อนจะรู้สึกถึงบางอย่างที่ทำให้เขาปวดหัวใจเป็นอย่างมากก่อนจะก้มมองเห็นมีดสั้นปักลงตรงหน้าอกของเขาแถมจุดปักยังใกล้หัวใจของเขา แต่ต้องถามว่ามันมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันโดยที่เขาไม่รู้ตัวก่อนที่เขานั้นจะเงยหน้ามองเด็กสาวตรงหน้า
“ตอนไหนกัน!?” แซเทิร์นตะโกนสุดเสียงด้วยความรู้สึกโกรธเคือง
“ตอนที่แกไม่คาดคิดยังไงล่ะ~”
ช่วงที่อีกฝ่ายโดนโจมตีตอนที่เธอโจมตีใส่อีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องและทำให้เจ็บซ้ำ ๆ จนช้าก่อนจะแทงมีดสั้นลงไปอย่างไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวและนั้นเป็นเทคนิคที่เธอเห็นจากแม่ของเธอเวลาฝึก
“ลาก่อน แซเทิร์น!!” คาเร็นน่าบอกลาอีกฝ่ายพร้อมกับสลัดออกจากมืออีกฝ่ายแล้วพุ่งเข้าไปกอดอีกฝ่ายไม่ให้หนีไปไหน “พี่!!”
เสียงตะโกนของน้องสาวทำให้แซเทิร์นหันไปมองอีกคนที่หลุดออกมาจากเงามืดตอนไหนก็ไม่รู้ ร่างกายของอีกฝ่ายกำลังเปล่งประกายเหมือนเด็กสาวที่กำลังกอดรั้งตัวเขาไม่ปล่อย เด็กหนุ่มกำลังพุ่งตรงมาทางเขาสุดชีวิต นั้นทำให้เขาลนลานจนพยายามดึงเด็กสาวออกจากตัวเขา
“ปล่อยข้านะเจ้าเด็กเปรต!!”
“ไม่มีวัน!! ฉันไม่ยอมให้แกหลุดไปแน่ ฉันจะไม่ให้แกได้แตะต้องแม่ของฉันได้อีก!!”
หลายคนที่ได้ยินคำพูดของหญิงสาวก็ทำให้รู้สึกตะลึงที่เด็กคนนี้คิดที่จะปกป้องแม่ของตนเอง แต่บางคนไม่ต้องการให้เด็กทำแบบนั้นพวกเขาพยายามพังบาเรียนั้นเข้าไปข้างใน แต่ผู้เป็นแม่ได้แต่มองด้วยความรู้สึกสิ้นหวังที่เธอกำลังจะเห็นสิ่งที่ตัวเองไม่อยากเห็นลูกชายกำลังพุ่งเข้าใส่แซเทิร์น ลูกสาวกำลังกอดรั้งไม่ให้อีกฝ่ายหนีไปไหน นั้นเป็นภาพที่เธอไม่ต้องการจะเห็น
“เด็ก ๆ !!”
โพรทาเลียกำลังจะวิ่งตรงไปข้างหน้า แต่ข้างหน้ามันเป็นหลุมใหญ่ที่เกิดจากการโจมตีก่อนหน้า เพอร์ซีย์ที่วิ่งมาหาพวกโพรทาเลียก็รีบวิ่งตรงดิ่งไปหาลูกสาวและกอดรัดเธอไม่ให้ไปไหน
“หยุดวิ่ง!! ลูกจะตกลงไปนะ!!”
“ไม่!! ปล่อยหนู ลูกทั้งสองของหนูเขากำลัง-!!”
โพรทาเลียพยายามดิ้นสุดชีวิตแต่ก็ไร้ผล เธอพยายามเข็นพลังของอดีตชาติออกมาก็ไม่เป็นผล เธอได้แต่มองจนไม่สามารถทำอะไรได้น้ำตากำลังไหลรินทุกหยดอาบใบหน้า
“พ่อไปหนู!! เดวิค!! คาเร็นน่า!!”
‘แม่…’ เดวิคเอ่ยเรียกผู้เป็นแม่
โพรทาเลียนิ่งไปชั่วขณะที่ได้ยินเสียงเรียกของลูกอยู่ภายในความคิด เธอเงยหน้ามองลูกชายที่กำลังพุ่งตรงไปหาแซเทิร์น
‘ขอบคุณ...ที่ทำให้พวกเราสองคนเกิดมา...ผมรักแม่นะ’
โพรทาเลียส่ายหน้าช้า ๆ เธอไม่อยากได้ยินแบบนั้นจากลูกของตนเอง นั้นทำให้เธอพยายามดิ้นจนอ้าแขนไปข้างหน้าเพื่อพยายามที่จะตรงดิ่งไปหาลูกทั้งสอง แต่ก็ไม่สามารถขยับไปได้
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!! อย่าทำแบบนั้นนนนนนนนนนนน!! เดวิคดดดดดดด!!! คาเร็นน่าาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!”
เดวิคที่กล่าวคำอำลากับแม่จบเขาก็ตรงดิ่งมาอยู่อีกไม่กี่เมตรเขาก็กำลังจะพุ่งตรงมาอยู่ข้างหลังของอีกฝ่าย ยิ่งร่างกายของสองพี่น้องอยู่ใกล้มากขึ้นแสงของร่างกายก็สว่างเจิดจ้าเป็นออร่าเรืองแสงหลากสีออกมา แซเทิร์นพยายามดิ้นสุดกำลังร่างกายของเขาโดนตราตรึงข้างล่างในทันใด
“วันนี้เป็นวันตายของแก!! แซเทิร์น!!”
“ไม่มีทาง!!! เจ้าเด็กนี้!!!”
แซเทิร์นพยายามใช้พลังของตนเองโจมตีใส่เด็กหนุ่ม แต่ว่าเดวิคไม่สนใจอะไรว่าตัวเองจะโดนโจมตีร่างกายที่บาดเจ็บพุ่งตรงมาข้างหน้าจนกระทั่งปลายมีดพุ่งเสียบเข้าร่างกายของแซเทิร์นตรงดิ่งสู่ภายในทิศทางในมุมที่ปะทะกับมีดสั้นอันจนเกิดปฏิกิริยาของศาสตราวุธขึ้น แสงสว่างเปล่งเจิดจ้าขึ้นเป็นวงกว้าง ฟีนีอุสที่อยู่ใกล้สุดก็ถึงกับตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ว่าแสงนั้นจะทำอะไรเขาไหม แต่ผู้เป็นพ่อรีบพุ่งตัวเข้ามาหาและช่วยพาเขาลงมาอยู่ข้างล่าง โพรทาเลียเห็นการระเบิดของแสงสว่าง ภายในหัวใจของเธอเหมือนแตกสลายไปหมดก่อนที่คนเป็นพ่อจะร่างกายบังเธอไม่ให้โดนแสงนั้นเนื่องจากหาที่หลบไม่ทันแล้ว ทุกคนโดยรอบต่างหาที่หลบกันอย่างรวดเร็ว แสงสว่างนั้นกระจายไปทั่วเขาโอลิมปัสมันทำลายเหล่าปีศาจโดยรอบไปหมดสิ่งร่วมถึงร่างที่ตายลงรอบเขาโอลิมปัสก่อนที่แสงสว่างนั้นจะจางหายไปในชั่วพริบตา
เมื่อทุกอย่างเงียบสงัดลงทุกคนต่างพากันออกมาจากที่ซ่อนคนที่หลบไม่ทันก็ไม่เป็นอะไรจากแสงนั้น เพอร์ซีย์ลืมตาขึ้นมามองอย่างช้า ๆ เขาเห็นว่าทุกอย่างจบลงแล้วเขาก็โล่งใจ ก่อนจะมองลูกสาวที่พอเห็นว่าแสงสว่างไม่มีเธอก็รีบออกจากอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อ จนได้เห็นรอบข้างเธอเงยหน้ามองทิศทางที่ต้องการมองก็ต้องทำให้ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นมาเมื่อภาพตรงหน้าไร้วี่แววของลูกแฝดของตนเองนั้นทำให้เธอทรุดลงกับพื้นจนคนเป็นพ่อประคองลูกสาวของตนเอง เขาเรียกเธอซ้ำไปซ้ำมาแต่ไร้การตอบสนองของเธอจนพี่โอราอุส อลิซ่าเบ็ธที่อยู่ไม่ห่างรีบมาดู พวกเบเดอร์เห็นน้องสาวช็อกกับสิ่งที่เห็นก็ทำให้พวกเขารู้สึกเศร้าใจเช่นกัน ภายในอ้อมกอดของเบเดอร์ โฟกัสที่สลบไปหลังจากต่อสู้ เธอค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ โดยไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ตอนนี้เป็นยังไง ก่อนจะเห็นใบหน้าของพี่ชายคนรองของเธอ
“พี่...เบเดอร์...”
“โฟกัส!!”
“น้องตื่นแล้ว!!”
“เกิดอะไรขึ้น? การต่อสู้ล่ะ...”
“มันจบแล้ว...แต่...”
“จบด้วย...การสูญเสีย...”
“หมายความว่าไง...!?” โฟกัสเอ่ยถามอย่างงุนงง
เธอมองภาพรอบข้างก่อนจะเห็นเพียงพี่สาวของเธอที่โดนพวกผู้ใหญ่ล้อมรอบเธอ ใบหน้าของพี่สาวที่โฟกัสมันเลื่อนลอยเหมือนคนไร้สติ นั้นทำให้เธองุนงงว่าพี่สาวเป็นอะไรไปจนได้รับคำตอบว่าตอนเธอสลบไปนั้นหลานสาวและหลานชายของเธอต่อสู้กับแซเทิร์นจนเกิดปรากฏแสงสว่างหลังจากใช้ศาสตราวุธจัดการกับแซเทิร์นแล้วตอนนี้ไร้วี่แววของหลานสาวและหลานชายนั้นบ่งบอกว่าหลานทั้งสองของพวกเขาได้จากไปแล้ว โฟกัสรีบวิ่งตรงไปหาพี่สาวพร้อมกับกอดปลอบพี่สาวที่ตอนนี้ไร้ซึ่งการตอบสนอง ตอนนี้ความโศกเศร้าเสียใจของโพรทาเลียกำลังกัดกินข้างในร่างกายของเธอ ห่างออกมาพวกอดีตชาติที่ได้รับการช่วยจากพวกบิดามารดาของตนเอง พวกเขาได้แต่มองอยู่ห่าง ๆ ด้วยสายตารู้สึกผิดต่ออีกฝ่ายที่รู้ว่าจะเกิดอะไรแต่ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้
“มันจะ...ตราตรึงอยู่ข้างในใจของโพรทาเลียตลอดไป...”
“แล้วนางก็จะโทษพวกเรา...ถ้ารู้ว่าเรารู้ว่าลูกนางจะเป็นแบบนี้...”
“แต่ว่า...เด็ก ๆ จะไม่โดยเทพองค์นั้นทำอะไรใช่ไหม?”
“ไม่ต้องห่วง...ยังมีคนคนนั้นตามไปด้วยตอนเกิดระเบิดเมื่อกี้...”
พวกอดีตชาติทุกคนต่างมองขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนที่พวกเขาทุกคนจะหายไปจากตรงนั้นอย่างเงียบสงัด
สงครามในครั้งนี้ก็เป็นเหมือนทุกครั้งมันจบลงด้วยความโศกเศร้าที่ต้องสูญเสียเหล่ามนุษย์กึ่งเทพหลายชีวิตในการต่อสู้ครั้งนี้และเทพบางตนหมดพลังจนต้องสลบไสลไปอีกยาวนานหลายสิบปี สายเลือดของพวกเขาได้แต่โศกเศร้าเสียใจที่ต้องเห็นบิดามารดาของตนเองไม่อาจจะฟื้นขึ้นมาได้อีกยาวนาน เทพบางตนได้แต่แอบไปร้องไห้กับการตายของสายเลือดของตนที่พวกตนเป็นเทพยังไม่สามารถปกป้องลูกของตนได้ ร่างของมนุษย์ถูกพากลับไปยังค่ายฮาล์ฟบลัดพร้อมกับทำพิธีศพให้แก่เด็กเหล่านี้และพวกเขาต้องแจ้งให้พ่อหรือแม่พวกเขาทราบถึงการตายนี้ เหล่าคนที่เห็นคนสนิทของตนเองต้องตายไปจากไปร่วมถึงพวกเพอร์ซีย์ที่พวกเขาต้องสูญเสียหลานทั้งสองไปแต่ความเสียใจของพวกเขาไม่เท่ากับโพรทาเลีย
ช่วงเวลาอันโศกเศร้าค่อย ๆ หายไปยกเว้นคนหนึ่งที่ยังโศกเศร้ากับสิ่งที่ยังไม่หายไปจากใจของเธอ โพรทาเลียนอนอยู่ภายในห้องนอนของเธอไม่ไปไหนอยู่ข้างในนั้นมาหลายวันนอนจนเป็นเดือน ทำให้คนในครอบครัวต่างเป็นห่วงสุขภาพจิตของเธอที่เคยทุกข์จากสิ่งที่แซเทิร์นสร้างครั้งนี้มันยิ่งหนักขึ้นกว่าเดิม บางวันทุกคนมาพูดคุยกับเธอผ่านประตูโดยไม่เข้าไปเพื่อความเป็นส่วนตัวเธอ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยเธอเลยสักนิด เธอคิดถึงลูกแฝดทั้งสองจนเธอไม่อยากทำอะไรจนวันนี้เธอผล็อยหลับไปอย่างเงียบ ๆ เธอเหมือนคนจมดิ่งสู่ความมืดจมไปเรื่อย ๆ จนหนักอึ้งก่อนจะมีเสียงบางอย่างมาดึงสติของเธอ
“แม่!”
ดวงตาเปิดกว้างขึ้นเธอมองภาพตรงหน้าก็ต้องน้ำตาไหลออกมาเธอเห็นภาพที่อยากเห็น ภาพของลูกทั้งสองยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ
“เดวิค...คาเร็นน่า...”
เด็กทั้งสองยิ้มอย่างดีใจก่อนจะโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ของพวกเขา โพรทาเลียได้กลิ่นท้องฟ้าและน้ำทะเลจากตัวเด็กทั้งสองกลิ่นที่คุ้นเคย เธอกอดพวกเขาไว้แน่นจนน้ำตาอันคิดถึงยิ่งไหลรินอาบข้างแก้มของเธอ เธอไม่คาดคิดว่าจะได้เจอลูกทั้งสองอีก
“ทำไม!! ทำไมลูกสองคนถึงทำแบบนั้นกัน!! รู้ไหม!? แม่เสียใจแค่ไหนที่ต้องเห็นลูกสองคนทำแบบนั้น!!!”
“แม่ครับ...”
“แม่ค่ะ...พวกเราเสียใจกับสิ่งที่ทำค่ะ...”
“แต่ถ้าเราไม่ทำยังไง โลกก็พังพินาศ เพราะพวกแม่ไม่สามารถทำอะไรได้แล้วนะครับ!! พวกเรายอมเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องทุกคนดีกว่า!!”
โพรทาเลียอึ้งไปชั่วขณะเด็กเพียงแค่หกขวบสองคนกลับคิดแบบนี้มันไม่ใช่ภาระที่เด็ก ๆ ต้องมารับแท้ ๆ
“ทำไมลูกสองคนถึงโตมาเป็นแบบนี้กัน...”
“เพราะแม่ไงครับ!!”
“แม่สอนเราให้เป็นคนเก่งไงคะ!!”
โพรทาเลียอ้อมกอดลูกทั้งสองอย่างดีใจ แต่ก็สงสัยว่าทำไมเธอนึกถึงลูกจนเอามาฝันงั้นเหรอ
“แม่ดีใจที่ได้ฝันถึงลูกสองคนอีก...”
“แม่?”
เด็กทั้งสองมองหน้ากันอย่างงุนงงที่ผู้เป็นแม่มองว่านี้เป็นแค่ความฝัน ก่อนที่จะมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามามองทั้งสามคนก่อนจะได้ยินคำพูดของผู้เป็นแม่เขาก็เอ่ยพูดออกมา
“เจ้ายังคิดว่าเป็นความฝันงั้นเหรอ?” แองเจิลเอ่ยถามอย่างสงสัย
โพรทาเลียเงยหน้ามองก็ต้องตกใจที่เห็นอีกฝ่ายอยู่ที่นี่กับลูกของเธอ “ทำไมนายถึงอยู่นี่”
“ดูถามเขาว่าทำไมข้าอยู่ที่นี่”
“ก็มันจริง นายรู้ทั้งรู้ว่าลูกฉันต้องตายแต่ไม่ทำอะไร!!”
“เฮ้อ...” แองเจิลถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะกล่าวออกมา ”บาปที่ข้าก่อ...ข้าก็ต้องชดใช้...ข้าถึงมาอยู่กับเด็ก ๆ ไงล่ะ”
“มันหมายความว่าไง?”
“แม่...ตอนที่เกิดแสงสว่างเกิดขึ้น คุณแองเจิลแอบพุ่งหาพวกเราตอนที่เกิดแสงนะครับ...”
“เขาถึง...ต้องมาตายพร้อมพวกเราไงล่ะค่ะ...”
“ไม่เอาตายไปแล้ว เขาจะตายอีกได้ไง!!”
“จริงของเจ้า...ข้าตายไปแล้ว...แต่วิญญาณข้าก็สามารถตายได้อีก ข้าถึงตามเด็ก ๆ มาเพราะห่วงว่าเคออสจะทำอะไรพวกเขา แล้วก็จริง...”
“ว่าไงนะ เจ้าเทพนั้นทำอะไรลูก ๆ จริงงั้นเหรอ!?”
“ไม่หรอกครับ”
“เขาแค่บังคับเราเท่านั้น”
“บังคับ!?”
“พวกเด็ก ๆ ต้องออกเดินทางทำภารกิจ...แถมเป็นภารกิจที่น่าจะหินน่าดู”
“หมายความว่าไง!?”
“เพราะมันต้องผ่านสถานที่มากมายที่อันตรายและลี้ลับเกินกว่าที่มนุษย์กึ่งเทพสองคนจะทำได้ ข้าถึงตามมาด้วย”
โพรทาเลียมองอีกฝ่ายเธอสงสัยว่าอีกฝ่ายพูดจริงหรือพูดเล่น แต่ถ้าลูก ๆ เธอยังอยู่แบบนี้เธอจะสามารถตามหาพวกเขาได้ไหม
“ฉันสามารถตามหาพวกนายได้ไหม?”
“ไม่ เพราะเราไม่อยู่ปัจจุบัน โพรทาเลีย”
“หมายความว่า!?”
“ใช่...เราอยู่ห่างไกลจากกาลเวลาของเจ้า ของบางอย่างหายสาบสูญไปนานมาก ๆ เคออสต้องการมันแลกกับที่มันทำให้เด็ก ๆ ต้องมาตาย เป็นคำขอของเด็ก ๆ ว่าถ้าหาของเจอเขาต้องยอมปล่อยพวกเราและส่งเรากลับเวลาเดิม”
“ฉันจะได้เจอลูก ๆ อีกใช่ไหม?”
“ได้...” แองเจิลรู้สึกบางอย่างเหมือนเคออสรับรู้ว่าพวกเขาติดต่อกับโพรทาเลีย “หมดเวลาแล้ว...เด็ก ๆ บอกลาแม่พวกเจ้าก่อนเราออกเดินทาง”
ทั้งสองคนต่างพากันกอดลาแม่ของตนเองและมอบกำไลที่ทั้งสองคนทำขึ้น โพรทาเลียเห็นได้แต่น้ำตาไหล ทั้งสองคนมองแม่ด้วยสีหน้าโศกเศร้าก่อนจะโบกมือลาเดินกลับไปหาแองเจิล โพรทาเลียไม่อยากให้ภาพตรงหน้าหายไป ภาพได้เลื่อนรางหายไปจนกระทั่งเธอลืมตาตื่นขึ้น น้ำตาของเธอไหลอาบข้างแก้ม เธอค่อย ๆ ลุกขึ้นมาเช็ดน้ำตา เธอรู้สึกหมดอาลัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ความฝันนั้นเหมือนจริงจนเธอนึกว่าเป็นจริงจนเธอเห็นแขนของเธอที่มีกำไลที่ลูก ๆ ใส่ให้ในฝัน เธอมองพร้อมกับดีใจลูก ๆ เธอยังอยู่ ถึงจะไม่ใช่ที่นี่ แต่พวกเขายังอยู่นั้นทำให้คนเป็นแม่อย่างเธอรู้สึกดีใจมาก ๆ จนคนที่เดินผ่านห้องได้ยินเสียงร้องไห้ผสมหัวเราะจนเขานั้นต้องเปิดประตูเข้าไป
“พี่ครับ!! พี่เป็นอะไร?” มาร์โคเดินเข้ามาดูพี่สาวอย่างเป็นห่วง
โพรทาเลียได้ยินคำถามของน้องชายที่ห่วงว่าเธอจะเป็นบ้าไป เธอเช็ดน้ำตาพร้อมกับหันไปยิ้มให้เขาในรอบหลายเดือนหนึ่งที่เธอเอาแต่เศร้าอยู่ข้างในห้องนี้
“พี่ไม่เป็นไร?”
มาร์โคเห็นพี่สาวยิ้มได้ในรอบหนึ่งเดือนเขาก็ตาโตจนตกใจก่อนจะวิ่งออกไปข้างนอกทันที
“พ่อแม่!! พี่โพรทาเลียยิ้มแล้ว!!!” มาร์โควิ่งออกไปอย่างหน้าตื่น
โพรทาเลียได้แต่งุนงงว่าน้องเป็นอะไร แต่ก็ทำให้เธอหัวเราะชอบใจออกมาได้ก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาอันมุ่งมั่นและสวดภาวนา
“ถึงพวกลูกอยู่ที่ไหน...แม่ก็จะรอจนกว่าจะได้เจอพวกเราอีก...ขอให้ลูกทั้งสองคน จงสำเร็จในภารกิจที่เทพองค์นั้นให้มา!!”
จบบริบูรณ์
---------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อความจากนักเขียน
จบแล้วสำหรับเรื่อง สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญที่เขียนมาตั้ง 9 ปีเต็ม ๆ ถึงเป็นแค่แฟนฟิคที่เรารักแต่ก็ตั้งใจเขียนจนจบมาได้ ขอบคุณสุด ๆ เลยนะคะ เรื่องต่อ ๆ ไปอาจจะตามมาส่วนภาคแยกอีกอันอย่าง เด็กหญิงผู้รอดชีวิต ก็เป็นอีกเรื่องที่เชื่อมกับโลกของโพรทาเลียต้องรอติดตามตอนต่อไปหลังจากเขียนต่อนะคะ อาจจะมีลงมาเป็นครั้งคราวเพราะอยากเขียนเรื่องที่เขียนค้างให้จบ ๆ ฝากติดตามเรื่องอื่น ๆ ของเราด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ