ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 139 ขัดขวางจนตัวตาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 140 คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 141 จุดสิ้นสุดไม่ใช่จุดสิ้นสุดเสมอไป [จบ]

เนื้อหา

ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย

ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย

เสียงฟ้าผ่าคำรามอย่างไม่ปรานีจนสว่างวาบไปตามท้องฟ้าอันมืดมิด เหล่ามนุษย์กึ่งเทพทั้งหลายต่างเงยหน้ามองกันอย่างตกใจว่าเหนือบ้านพักของพวกเขามีเสียงท้องฟ้าคำรามอย่างกับเตือนภัยถึงสิ่งบางอย่างที่กำลังจะตามหา แต่พวกเขาคิดว่านี้อาจจะเป็นฝีมือของเทพที่กำลังโกรธเกรี้ยว แต่ทว่าเหล่าทวยเทพต่างหันไปมองมหาเทพที่เป็นเจ้าของพลังนั้น แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธและสับสนว่าตนเองไม่ได้ทำอันใดทั้งนั้น ก่อนที่จะคิดว่าเป็นฝีมือใครถึงกล้ามาใช้พลัง

 

“ใครกันที่เรียกสายฟ้าเมื่อกี้!! ธาเลียเจ้างั้นฤๅ!?”

ธิดาที่ถูกเอ่ยนามถึงกับสะดุ้งกับน้ำเสียงอีกฝ่าย เธอกำลังยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าพรานหญิงของเธอ เธอสะบัดใบหน้าอย่างรุนแรงก่อนจะตอบออกไป

“เปล่านะ ฉันไม่ได้ทำ-” 

“ใช่! พี่เขาไม่ใช่คนทำ!! แต่เป็นผมเอง!!”

 

เสียงทุ้มเอ่ยพูดขึ้นจนทุกคนหันไปตามทิศทางของน้ำเสียง เหล่ามนุษย์กึ่งเทพจำนวนหนึ่งหลบทางให้แก่เจ้าของเสียง พวกเขาอย่างเกรงกลัวต่ออีกฝ่ายเพียงเพราะว่าอีกฝ่ายนั้นน่าจะตายไปแล้วหลังจากที่พวกเขาได้ยินข่าวจากไพเพอร์ว่าอีกฝ่ายตายไปแล้ว ผมสีทอง ดวงตาสีฟ้า ทำให้ผู้เป็นพี่สาวถึงกับตะลึงจนหายใจไม่ออก ข้างในมันสั่นไปทั้งร่างกายตอนที่เธอได้ยินข่าวของน้องชายว่าเสียชีวิต ใจของเธอเหมือนแตกสลายไปหมด ตอนนี้เธอได้เห็นน้องชายข้างในมันกำลังจะทะลักออกมา

 

“เจ...เจสัน...”

“นาย…”

เพอร์ซีย์จำใบหน้าของชายตรงหน้าได้ถึงหลังจากสงครามมากมายที่พวกเขาเจอมากัน เขาก็ไม่เคยลืมไปหน้าของชายที่เขาคิดว่าอีกฝ่ายคือมิตรและคู่แข่งของเขา

“เกรซ!!”

“โอ๊ส แจ็กสัน~”

“โอ๊สบ้าอะไรกัน!! นาย...ไพเพอร์บอกว่า...”

“ฉันตกจากหลังม้าหลังจากโดนโจมตี...ใช่...ตามที่ไพฟ์บอก...แต่ว่าฉันอยู่ตรงนี้...อยู่ต่อหน้าทุกคนในตอนนี้แล้ว...ก็แปลว่ายังไม่ตายล่ะนะ~”

 

พวกโพรทาเลียเห็นว่าอีกฝ่ายออกไปเรียกความสนใจจากทุกคนได้ เธอก็หันไปหาน้องสาวแล้วเตรียมตัวกันวิ่งไปตามทางเพื่อตรงไปยังบ้านอะพอลโลอย่างเร่งรีบกัน จากเวลาที่เธอกำหนดในกำไลข้อมือเหลือเวลาไม่มากที่จะเปิดประตูแล้วหนีออกไปจากที่นี่ เหลือเวลาแค่ยี่สิบหน้านาทีเท่านั้นที่พวกเธอจะต้องตรงดิ่งไปที่บ้านอะพอลโล เจสันใช้แค่หางตามองไปทิศบ้านอะพอลโลเขาหวังว่าเด็กสาวทั้งสองคนจะจัดการเรื่องของตัวเองจบ ก่อนที่คนเป็นพ่อจะตะโกนออกมา

 

“เจสัน!!”

เจสันหันไปมองผู้เป็นพ่อที่ตอนนี้ทำตัวได้น่ารำคาญกว่าแต่ก่อนสุด ๆ ถึงจะเป็นพ่อในร่างกรีก แต่เขาก็ไม่ชอบใจอยู่ดี พอ ๆ กับภรรยาของพ่ออย่างเทพีเฮร่าที่จ้องเขาอย่างไม่พอใจที่เขายังอยู่ คงเพราะเขาเป็นลูกชู้นั้นล่ะถึงไม่ชอบขี้หน้าเขาเท่าไหร่ แต่เขาจะแคร์เหรอ

“ไง พ่อ ไม่ได้เจอกันนานรู้สึกว่าทำตัวน่ารำคาญขึ้นนะ”

“เจ้าว่าไงนะ?”

“ก็อย่างที่ได้ยินมันน่ารำคาญอย่างที่แจ็กสันพูด รบกวนการนอนของพวกเด็ก ๆ ไม่ว่าเปล่า ยังมาตามหาเด็กสองคนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าอีก”

“หือ?”

ซุสได้ยินคำพูดของบุตรชายก็ตาเบิกกว้างอย่างสงสัยว่าที่อีกฝ่ายหมายถึงอะไร แต่เขารู้ว่าตอนที่แสงสว่างตกลงมาไม่ได้มีแค่แสงเดียว แต่มีถึงสองที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

“เจ้ารู้ได้ไง?”

“รู้หรือไม่รู้ มันก็เรื่องของผมล่ะนะ เดี๋ยวนะพ่อเป็นเทพน่าจะรู้มากกว่าผมว่ารู้ได้ไง?”

“แล้วข้าจะรู้ได้ไงว่าเจ้ารู้มาจากไหน!!”

“ก็ชอบทำตัวเป็นฉลาดไม่ใช่หรือไง? ไม่หาคำตอบเองล่ะ!!” เจสันเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เน้นคำพูดทุกอย่างใบหน้าของเขาเหมือนมีเส้นเลือดปูดขึ้นมา

“เจ้า!!” ซุสชี้หน้าไปทางบุตรชายอย่างโกรธเกรี้ยวที่อีกฝ่ายกล่าวแบบนั้นกับตนเอง

“ทำไม~” เจสันกอดอกอย่างคนมีชัยที่ทำให้พ่อโกรธ “เป็นเทพแท้ ๆ แต่ไม่มีมือมีเท้าตามหาเองว่างั้น? ถึงมาใช่พวกเรา?”

“กล้าพูดเยี่ยงนี้เจ้าพร้อมจะตายใช่ไหม? เจสัน!!” ซุสเรียกสายฟ้าขึ้นมาไว้ในมือ

เจสันเตรียมที่จะต่อสู้กับอีกฝ่ายแต่ทว่าก็มีหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้งเข้ามาขวางตรงหน้าของเขา เขามองอีกฝ่ายที่มาบังตัวเขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครถึงทรงผมจะสั้นกว่าตอนที่เขาเจอล่าสุดก็ตามที แต่กลิ่นอายของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกสบายใจมาก ๆ ยิ่งกว่าอะไร

“ตัวเล็กซะเปล่าจะปกป้องฉันเหรอ? ไพฟ์”

หญิงสาวได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายเธอก็สะบัดตัวหมุนมองอีกฝ่ายที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ อีกฝ่ายนั้นไม่เปลี่ยนไปจากที่เธอเจอล่าสุด ยิ่งมองอีกฝ่ายภายในใจที่รู้สึกถึงตราบาปที่ช่วยอีกฝ่ายไม่ได้มันฝังลึกอยู่ในใจของเธอ

“ก็...ฉันนะ...มีแต่นายปกป้อง...ครั้งนี้ฉันจะปกป้องนายมั้ง...” ไพเพอร์พูดพร้อมน้ำตาที่กำลังไหลออกมา

เจสันเห็นก็ไม่อยากคิดเลยว่าการตายของเขาทิ้งอะไรไว้ให้หญิงสาวตรงหน้า ก่อนที่เขานั้นจะยืดมือออกไปจับหลังศีรษะอีกฝ่ายแล้วดึงตัวอีกฝ่ายเข้ามากอดเบา ๆ

“ถึงเธอพูดแบบนั้นฉันก็ยังจะต้องปกป้องเธอก่อนอยู่นี่นั้นล่ะ”

“เจสัน...”

ไพเพอร์ได้ยินแบบนั้นดวงตาของเธอยิ่งมีน้ำตาหลั่งไหลออกมาเธอกอดอีกฝ่ายที่คิดถึงมาตลอด เธอไม่คาดฝันว่าอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ เจสันเงยหน้าขึ้นมามองคนเป็นพ่อก่อนที่เขาจะเรียกดาบของตนเองออกมา

“รู้สึกว่าแฟนผมทำให้บรรยากาศเศร้าไปเล็กน้อย...แต่ว่า...เรื่องของท่านที่ก่อกวนที่นี่ยังไม่จบไปนะ พ่อ”

“ว่าไงนะ!!”

พวกเพอร์ซีย์รีบมายืนข้างเจสันพวกเขาเตรียมต่อสู้กับเทพเช่นเดียวกัน ถึงจะเป็นมหาเทพทั้งสิบก็ตามที แต่พวกเขากำลังล้ำเส้นของค่ายฮาล์ฟบลัด

“พวกเจ้า!!”

“ถ้าท่านโจมตีพวกเรา!! สงครามระหว่างทวยเทพและมนุษย์กึ่งเทพอาจจะเกิดขึ้นเหมือนทุกทีก็ได้นะ ซุส”

“เพอร์ซีย์ อย่าทำอะไรบ้า ๆ เด็ดขาด!!” โพไซดอนเห็นบุตรชายชักดาบออกมาเตรียมการโจมตีจากทวยเทพ

“ขอโทษ พ่อ แต่ว่าถ้าซุสเริ่ม…พวกผมก็คงไม่ยอมเช่นกัน ถ้าอยากไม่ให้มีเรื่องก็ขอเชิญกลับไป”

“เจ้าว่าไงนะ! บุตรแห่งโพไซดอน”

“ก็อย่างที่ได้ยินนั้นล่ะ!!”

 

สิ้นประโยคสุดท้ายของเพอร์ซีย์ก็เกิดแสงสว่างเจิดจ้าออกมาจากบ้านพักหมายเลขเจ็ด นั้นก็คือบ้านของเหล่าลูกอะพอลโลทุกคนต่างมองกันว่าบ้านของตนเองทำไมถึงมีแสงสว่างเจิดจ้าออกมา เจสันที่เห็นแบบนั้นก็คิดว่ายัยหนูทั้งสองคนกำลังจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้วใช่ไหม แต่ทว่าทวยเทพต่างมองอย่างสับสนว่าเกิดอันใด แต่มีหนึ่งคนที่สนใจแสงสว่างนั้นมันทั้งทรงพลังและมีพลังอันคุ้นเคยกำลังเอ้อล้นออกมา นั้นทำให้เขาถูกดึงดูดให้เข้าไปจัดการสิ่งนั้น เขาหายวับไปจากตรงนั้นสู่ภายในบ้านพักหมายเลขเจ็ด

 

แสงอันเจิดจ้าออกมาจากการที่พวกโพรทาเลียนำกุญแจทั้งสองมาเชื่อมต่อกันมันก็ส่องแสงสว่างเจิดจ้าออกมาอย่างไม่ให้ลืมตาขึ้นมาเลย ยิ่งสว่างมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเชื่อมกลับได้เร็ว พวกเธอไม่รู้เลยว่าแสงสว่างนี้ออกไปสู่ภายนอกจนกลายเป็นจุดสนใจ แต่ทว่าโพรทาเลียกับรู้สึกถึงบางอย่างที่พุ่งตรงมาทางนี้พร้อมกับโผล่มาเหนือหัวพวกเธอ เธอเงยหน้าขึ้นก็เห็นชายในชุดหนังโผล่มาแล้วยกดาบฟาดฟันมาทางพวกเธอ โพรทาเลียรีบลุกขึ้นพร้อมกับชักดาบของตนเองออกมาแล้วเหวี่ยงรับการโจมตีนั้นอย่างรวดเร็ว

 

“ใช้ได้นี่ แต่ว่าเป็นแค่มนุษย์กึ่งเทพที่โง่เขลาที่จะมาต่อสู้กับเทพแห่งสงครามอย่างข้า!!”

โพรทาเลียจ้องมองอีกฝ่ายเป็นใคร แต่ว่าภายในใจของเธอกับคุ้นเคยยิ่งกว่าอะไร คุ้นเคยอย่างโกรธเคืองเหมือนสิ่งบางอย่างกำลังดึงเธอจมสู่ความทรงจำอันดำมืด แต่เธอตั้งสติได้ก็มีใบหน้าที่ย่นอย่างไม่พอใจ

“แอรีส!!”

“ใช่!!ข้า แอรีส เทพแห่งสงคราม!!”

 

แอรีสกล่าวแบบนั้นพร้อมกับฟาดฟันใส่โพรทาเลียไม่ยั้ง แต่ทว่าเธอรับการโจมตีทุกท่วงท่าอีกฝ่ายได้หมด แอรีสรู้สึกร่างกายสูบฉีดไปหมดเขาไม่เคยคิดว่าบนโลกนี้จะมีมนุษย์กึ่งเทพที่แข็งแกร่งแบบนี้ ยิ่งต่อกรกับเขาได้ก็ยิ่งชอบใจเขาอยากปะทะอีกฝ่ายจนร่างขาดสะบั้น โพรทาเลียหาจังหวะเหมาะที่อีกฝ่ายไม่ได้ระวังยกขาขึ้นพร้อมกับถีบอีกฝ่ายไปอีกฝั่งจนลอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว เธอก็หันไปหาน้องสาว

 

“โฟกัส หนีออกไป!!”

“ว่าไงนะ? แล้วพี่ล่ะ!!”

“พี่จะต่อกรกับแอรีสให้ เหลือเวลาไม่มาแล้วนะ-”

โพรทาเลียยังไม่ทันพูดจบก็โดนแอรีสพุ่งเข้ามาชนแล้วดันตัวเธอออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วจะทะลุออกนอกบ้านไป

“พี่ค่ะ!!”

พวกมนุษย์กึ่งเทพที่ได้ยินเสียงครึกโครมภายในก็ทำการหลบออกจากบ้านหลังนั้นก่อนที่จะมีเสียงดังขึ้นก็มีสองคนที่ทะลุออกมาจากบ้านจนเด็ดบ้านอะพอลโลเห็นถึงกับตะลึง

“บ้านเรา!!!”

“บ้านลูกข้า!!” อะพอลโลเห็นถึงกับตะลึงที่มีคนพังบ้านของตนที่ลูก ๆ อยู่

 

โพรทาเลียจำตัวอีกฝ่ายที่ผลักดันเธอให้ไปข้างหลัง เธอจำพร้อมกับปล่อยเปลวเพลิงอันรุนแรงออกมา แอรีสเห็นแบบนั้นก็จับอีกฝ่ายกระชากแล้วผลักออกไป ตัวเธอรู้สึกแรงนั้นก็หมุนตัวอย่างรวดเร็วก่อนจะตั้งท่าลงจนตัวเธอคร่อมพื้นเหมือนกิ้งก่าคลานบนพื้น เธอเงยหน้ามองชายที่ผลักเธอออกมาจากบ้าน ร่างกายของเธอมีเปลวเพลิงปะทุตามร่างกาย ดวงตาสีเขียวกลายเป็นสีแดงในเสี้ยววิ ก่อนที่เธอจะสะบัดมันออกไป

 

“ดูเหมือนจะกลัวไฟนะ แอรีส!!”

“หึ ข้าแค่ไม่อยากให้เสื้อตัวเก่งไหม้ก็เท่านั้น”

“เหรอ...” โพรทาเลียมองอีกฝ่ายที่กำลังยิ้มเยาะอย่างพอใจ

“แอรีส!!” 

เสียงตะโกนของซุสดังลั่นขึ้น จนเจ้าตัวได้ยินก็หันไปมองผู้เป็นบิดาเอ่ยเรียกเขา โพรทาเลียที่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายก็หันไปมอง ตอนที่อยู่ไกล ๆ เธอไม่คิดอะไรกับอีกฝ่าย แต่ทว่าพอมาอยู่ใกล้ ๆ ความรู้สึกที่ขุ่นเคืองและโกรธเกรี้ยวมันกำลังปะทุขึ้นมา

“ท่านพ่อ...เรียกข้าทำไม?”

“เจ้ากำลังทำอะไร!? ทำไมถึงเข้าไปปะทะกับมนุษย์กึ่งเทพ”

“หึ สมองท่านคงถอยหลังสินะ ถึงไม่เข้าใจสถานการณ์ เจ้าเด็กตรงหน้าข้าคือคนที่แสงสว่างที่ท่านตามหาไม่ใช่หรือไง?”

“ว่าไงนะ!!” ซุสได้ยินแบบนั้นก็หันไปมองเขาได้ยินจากไดโอนีซุสว่าแสงสว่างที่ว่านั้นมีผมสีบลอนด์ไม่ใช่หรือไง “นางไม่ใช่คนผมสีบลอนด์ตามที่ไดโอนีซุสบอกไม่ใช่หรือไง?”

“หือ? อ๋อ ถ้าผมบลอนด์ข้าเห็นแวบ ๆ”

 

แอรีสหันไปข้างหลังก็เห็นอีกคนกำลังวิ่งออกมาจากบ้านพัก เธอชะงักเมื่อทุกคนหันมามองเธอ ทุกคนมองเธอที่เป็นต้นตอของการมาของทวยเทพ เพอร์ซีย์มองอีกฝ่ายเขาไม่โทษเธอที่ทวยเทพมา แต่ต้องโทษพวกทวยเทพที่มากันอย่างไม่บอกกล่าวและไม่เกรงใจพวกเขา ระหว่างที่ทุกคนกำลังจ้องมองไปทางโฟกัส กำไลข้อมือของโพรทาเลียก็ดังขึ้นมาเสียงแจ้งเตือนหมดเวลาดังขึ้น ทำให้ดวงตาของโพรทาเลียเบิกกว้างขึ้นมา ทุกคนต่างมองกันว่าเสียงเตือนนั้นมาจากไหน ซุสมองไปที่กำไลข้อมือของเด็กหญิงตรงหน้า

 

“เสียงนั้นคืออะไร? เจ้ากำลังทำอะไร”

“ทำอะไร?” โพรทาเลียเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เสียงนั้น...บ่งบอกว่า...ฉันหมดเวลา...ที่จะกลับบ้าน...”

“กลับบ้าน?”

โพรทาเลียกัดฟันจนเสียงขบฟันดังไปในบริเวณ “ใช่!! ถ้าไม่ใช่เพราะพวกแกมาตามหาเรา!!ป่านนี้เราคงได้กลับบ้านไปหาครอบครัวหมดแล้ว ไอ้เหล่าทวยเทพเส็งเคร็ง!!”

พวกเทพที่ได้ยินคำพูดนั้นถึงกับตะลึงที่โดนมนุษย์กึ่งเทพด่าอีกแล้ว วันนี้พวกเขาโดนอย่างหนักทุกอย่าง แล้วนี่มีโดนเด็กแปลกหน้าด่าอีกจนซุสนั้นถึงกับกำหมัดแน่น

“เส็งเคร็งงั้นเหรอ? เจ้ารู้ไหมว่าเราเป็นใคร!!”

 

ซุสกำลังตรงดิ่งมาทางโพรทาเลีย โฟกัสเห็นท่าทีไม่ดีเธอรีบวิ่งไปทางพวกเจสันที่อยู่ตรงหน้า เพอร์ซีย์เห็นโฟกัสวิ่งมาอย่างเร่งรีบก่อนจะมาถึงตัวพวกเขา เธอก็กางอาณาเขตบางอย่างขึ้นเพื่อปกป้องทุกคน แต่ไม่ทันได้อะไรโพรทาเลียก็เปล่าออร่าอันรุนแรงกว่าของโฟกัสออกมาจนทำให้มนุษย์กึ่งเทพทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ทรุดลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว พวกเพอร์ซีย์เห็นแบบนั้นก็นึกถึงช่วงที่พวกเขานั้นโดนโฟกัสกดด้วยพลังออร่านั้น ทำให้พวกเขาขอบคุณโฟกัสที่เข้ามากางอาณาเขตบางอย่าง แต่ทว่าพวกเขาเห็นโฟกัสกำลังตัวสั่น เพราะแรงกดดันของพี่มันรุนแรงกว่าที่เธอคิด ก่อนที่เพอร์ซีย์กับเจสันจะมาช่วยประคองเธอ โฟกัสหันไปมองทั้งสองคนที่เข้ามาช่วยเธอ

 

“พี่เพอร์ซีย์ คุณเจสัน...”

“เธอเหมือนจะทนกับแรงนั้นไม่ได้เลย ฉันแค่ช่วยประคองก็เท่านั้น!!”

“ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนล่ะ เรารับแรงกดดันนี้ได้ แค่รับไม่ได้ก็แค่สลบเท่านั้นล่ะ”

“ขอบคุณทั้งสองคน...แต่หนูยังไหว...แค่ไม่นึกว่าพลังของพี่...จะแข็งแกร่งแบบนี้...แรงกดดันพวกนี้...กำลังประสานกับอีกหนึ่ง...มันกำลังแข็งแกร่งขึ้น...”

“ประสาน...”

“อดีตชาติ...คนสุดท้าย...”

 

โฟกัสกล่าวแบบนั้นทำให้เพอร์ซีย์ฟังไม่เข้าใจ แต่ว่าเจสันเข้าใจเขาเงยหน้ามองคนตรงหน้าที่กำลังปล่อยออร่าหลากสีออกมาและมีสีหนึ่งเด่นชัดสีทองคำ พวกทวยเทพโดนออร่านั้นกดทับจนเกือบทรุดลงกับพื้น เทพีบางคนถึงกับทรุดลงไปด้วยความเจ็บปวด พวกนางไม่เคยเจอแบบนี้ ซุสพยายามหายใจอยู่หลายรอบ เขาไม่คิดว่าตัวเองนั้นจะมาโดยอะไรแบบนี้ก่อนที่มืออันเรียวเล็กจะจับปลายคางของเขาให้เงยหน้าขึ้นมองตนเอง

 

“เจ้า!!”

“คำถามเมื่อกี้...ท่านถามว่าตนเองเป็นใคร...มีหรือใครจะไม่รู้ ซุส เทพแห่งสายฟ้า หนึ่งในสามมหาเทพ แต่มันควรเป็นคำถามของเรามากกว่า” โพรทาเลียเดินเข้ามาใกล้มาเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ทวยเทพค่อย ๆ ทรุดลงช้า ๆ

“เจ้า...เจ้ามัน...”

“ตัวอันตรายใช่ไหมล่ะ?” โพรทาเลียเอ่ยถามออกมา “ใช่...ตัวข้านั้นมันตัวอันตรายในสายตาของท่านมาแต่ไหนแต่ไร...”

โพรทาเลียจับจ้องมองอีกฝ่ายไม่ใช่แค่เทพ แต่เป็นบิดาอันน่าชิงชังของตนเอง บิดาที่ตนเองอีกคนเกลียดชัง ความรู้สึกที่อยากจะบีบคออีกฝ่ายให้ตาย

“เหมือนชาติที่แล้วก็ข้า ท่านเห็นข้ากับน้องสาวเป็นเพียงลูกชู้จากคำให้การของผู้เป็นพี่ชายของข้า!!”

ซุสได้ยินก็เงยหน้ามองเด็กหญิงตรงหน้าที่จ้องมองเขาด้วยสายตาเฉยชา “เจ้าเป็นใครกัน”

คำถามนั้นเป็นคำถามที่น่าชิงชังดวงตาของโพรทาเลียที่มีหลากสีกลายเป็นสีฟ้าชั่วขณะ ซุสเห็นดวงตาสีฟ้านั้นทำให้เขารู้สึกว่าเขากำลังเล่นผิดคนและเขารู้สึกถึงตราบาปที่ตนเองเคยก่อขึ้นเมื่อนานมาแล้วกับสายเลือดของตนเอง

“เจ้า...ไม่จริง...เจ้า...”

“หึ มารู้ตัวตอนนี้ก็สายเกินไป..” โพรทาเลียลุกขึ้นมือข้างขวากำลังยกดาบขึ้นเหนือหัวของเธอพร้อมกับรอยยิ้มอันบ้าคลั่ง “ข้ารอโอกาสจะฆ่าท่านมานานแล้ว!! ซุส”

 

ทุกสายตามองเหตุการณ์ตรงหน้ากันอย่างตกตะลึง โฟกัสเห็นก็ตะโกนเสียงห้ามคนเป็นพี่ แสงสว่างจากข้างหลังก็เจิดจ้าใจกลางของสนามหญ้ามีประตูใหญ่กำลังเปิดออก โฟกัสหันไปมองก็ตะลึงที่ประตูที่น่าจะปิดไปตามคำพยากรณ์ว่าถ้าพ้นรุ่งสางจะไม่สามารถแก้อะไรได้ พวกเธออาจจะติดอยู่ที่นี่ ประตูบานใหญ่นั้นเปิดออกพร้อมกับสิ่งบางอย่างที่วิ่งออกมาอย่างรวดเร็วตกไปที่โพรทาเลีย โฟกัสเห็นก็ตะลึง

 

“พ่อ!!”

 

โฟกัสเอ่ยเรียกบุคคลที่วิ่งตรงไปทางพี่สาวจนทุกคนมองอย่างสงสัยว่าคนนั้นเป็นใคร เสียงวิ่งที่ตรงมาทางนี้ทำให้โพรทาเลียที่ตั้งใจจะฆ่าคนตรงหน้ากลับหันไปมองก็เห็นบุคคลปริศนาที่วิ่งเข้ามาอยู่ในระยะประชิด เธอกำลังจะเอ่ยปากแต่อีกฝ่ายก็ง้างมืออย่างแรงกระแทกลงกับต้นคอของโพรทาเลีย เธอถึงกับรู้สึกวูบลงไปจนร่างกายทุกอย่างหยุดลง แรงกดดันหายไปหมด ทุกคนกลับมาหาใจได้ปกติ ซุสหอบหายใจอยู่สักพักก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้น

 

“ขอบใจ...เจ้า...ที่เข้ามาร่วมพวกเรา เจ้า-”

“ฉันไม่ได้มาช่วยท่าน!!” เสียงนั้นเอ่ยพูดขึ้นพร้อมกับประคองร่างของโพรทาเลียขึ้นมาอุ้มเอาไว้อ้อมแขน ก่อนจะหันไปมองเหล่าเทพตรงหน้า “ฉันแค่มาช่วยลูกของฉัน ซุส”

“เจ้า!! มัน...เพอร์ซีย์ แจ็กสัน!!”

เหล่าเทพมองชายร่างสูงใหญ่ที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าตัวเขาในตอนนี้เป็นอย่างมาก เพอร์ซีย์ผู้ใหญ่ยกยิ้มที่มุมปากอย่างขบขันก่อนจะเอ่ยพูดออกไป

“ดูพวกท่านสิ...น่าสมเพชจริง ๆ แต่เมื่อกี้...ต้องขอบคุณฉันนะ...ไม่งั้นพวกท่านได้ตายคามือเด็กคนนี้แน่ ๆ”

“เจ้าว่าไงนะ!!”

 

จบตอนที่ 130 โปรดติดตามตอนที่ 131 ต่อไป