ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 139 ขัดขวางจนตัวตาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 140 คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 141 จุดสิ้นสุดไม่ใช่จุดสิ้นสุดเสมอไป [จบ]

เนื้อหา

ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย

ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย

แรงกดดันอันทรงพลังได้จางหายไปจนทุกคนหลุดพ้นจากพันธะการที่ตึงร่างกายพวกเขาลงกับพื้น มนุษย์กึ่งเทพบางคนถึงกับสลบไปเรียบร้อย แต่บางคนยังพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมา พวกเพอร์ซีย์มองทุกคนที่กำลังพยายามลุกขึ้นมา พวกเขาต้องขอบคุณโฟกัสที่ปกป้องพวกเขาจากแรงกดดันนั้น โฟกัสยกเลิกบาเรียที่ตนกางเอาไว้ แต่ว่าการสร้างบาเรียไม่ได้ทำให้เธอเหนื่อยแต่อย่างใด แต่แรงกดดันของพี่สาวทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งร่างกาย เธอมองทุกคนที่เดินไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อมองเหตุการณ์ตรงหน้าที่อยู่ไม่ไกลมากหนัก เพอร์ซีย์เห็นชายที่หันหลังให้ตนก็ตกใจจนดวงตาเบิกกว้างออกมา

 

โฟกัสมองสถานการณ์ตรงหน้าเธอรู้สึกภาพเลือนรางไปหมดจนเธอนั้นกำลังจะล้มหงายหลังไป แอนนาเบ็ธที่กำลังเดินมาอยู่ข้างแฟนหนุ่มเห็นอีกฝ่ายกำลังจะล้ม เธอก็รีบพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ทว่ามีอีกคนที่เข้ามาช่วย เธอมองมือที่คล้ายกับมือของเธอประคองหลังของโฟกัส เธอเงยหน้าขึ้นมามองคนที่มาช่วยนั้นก็ทำให้เธอต้องตะลึงจนดวงตาเบิกกว้างจนดวงตาสีเทาหดลง

 

“คุณ...คุณคือ...”

 

หญิงสาวเห็นอีกฝ่ายจะพูดบางอย่างก่อนจะยกนิ้วขึ้นมาแตะริมฝีปากของตนเองเพื่อบ่งบอกให้อีกฝ่ายอย่าส่งเสียงอันใด ก่อนที่เธอจะพยายามอุ้มโฟกัสไว้ในอ้อมกอดของเธอ ก่อนจะเดินหันหลังกลับไปยังประตู แอนนาเบ็ธเห็นก็ยังตะลึงจนพูดไม่ออก เธอหันกลับไปหาเพอร์ซีย์ก่อนจะเห็นพวกนั้นกำลังจ้องมองสถานการณ์ของพวกทวยเทพที่เพอร์ซีย์ผู้ใหญ่กำลังจ้องมองพวกเขาที่สงสัยถึงสิ่งที่เขาพูด

 

“เฮ้อ...คุณนี่มันน่ารำคาญแต่ไหนแต่ไรจริง ๆ ก็อย่าที่บอกพวกคุณต้องขอบคุณผมที่ช่วยพวกคุณ ไม่งั้นคุณคงโดนเด็กคนนี้ฆ่าตายไปแล้ว”

“แค่มนุษย์กึ่งเทพคนหนึ่งเนี่ยนะ!?”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เพอร์ซีย์หัวเราะออกมาเป็นจังหวะ ก่อนจะทำสีหน้าเบื่อหน่าย “พวกคุณมันก็แค่ลิงที่ยังไม่เจอเพชรของตนเองจริง ๆ อยากให้พวกคุณถึงช่วงที่พวกคุณจะเจอเพชรเม็ดงามนี้จริง ๆ อยากเห็นสีหน้าว่าพวกท่านเสียเม็ดนี้ไปเพราะการกระทำของตนเองในอดีตจริง ๆ”

“หึ!! เจ้าคิดว่าพวกเราจะสนใจหรือไง!?”

“ข้าสนนะ!!”

“เราก็ด้วย!!”

“อีกอย่างพวกเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ซุสและแอรีสทำ!!”

“พวกเจ้า!!” ซุสหันไปมองพวกเทพองค์ต่าง ๆ ที่ไม่เข้าข้างเขาเลยสักนิด

เทพแต่ละคนต่างหันหน้าหนีและพยายามลุกขึ้นมายืนกัน พวกเขาบางคนถึงกับซุกลงไปอย่างง่ายดายเกินไป แต่บางคนรู้สึกว่าพลังของเด็กสาวมันคุ้นเคยชอบกล

“น่าว่ามีคนเดียวที่เป็นลิงสินะ!!”

“เจ้า!!” ซุสหันขวับมามองเขาตอนนี้เขาก็ยิ่งโกรธที่ยังอยู่สถานที่ไม่สามารถลุกขึ้นได้

เพอร์ซีย์ได้แต่หัวเราะในลำคอ อีกฝ่ายช่างน่าเวทนาในยุคนี้จริง ๆ ก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งเรียกสติเขาให้ออกจากที่นี่

“เพอร์ซีย์!!”

 

น้ำเสียงอันอ่อนนุ่มของหญิงสาวทำให้เพอร์ซีย์สองคนหันไปมองทิศของเสียงที่มีหญิงสาวผมบลอนด์กำลังอุ้มเด็กสาวผมบลอนด์ไว้อยู่ ทุกคนเห็นหญิงผู้นั้นก็ตะลึงกันเพราะคนคนนั้นคือ แอนนาเบ็ธ เชล แฟนสาวของเพอร์ซีย์ แต่คนที่อยู่ตรงนั้นดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอีกคนที่ยังอึ้งอยู่ เพอร์ซีย์ก็ตะลึงกับความสวยของแฟนสาวที่พอโตขึ้นเธอก็งดงามกว่าตอนเป็นวัยรุ่นทำเอาแฟนสาวหยิกเขาหนึ่งครั้งให้ตื่นขึ้น เสียงฮือฮายังดังไปทั้งบริเวณโดยรอบ แอนนาเบ็ธผู้ใหญ่ขยับหัวบ่งบอกสามีว่าตัวเองกำลังจะเข้าไปข้างในก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปภายในประตูแล้วหายไป เพอร์ซีย์เห็นแบบนั้นก็โล่งใจที่อีกฝ่ายพาลูกอีกคนกลับไปอย่างปลอดภัย เขาหันมองลูกอีกคนที่เขากำลังอุ้มความคิดอย่างเดียวตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องกลับ

 

“หมดเวลาเล่นลิ้นกับพวกคุณล่ะ ไว้เจอกันในอนาคตละกัน!” เพอร์ซีย์กล่าวจบก็เดินหันหลังให้เหล่าเทพ

ซุสเห็นแบบนั้นก็พยายามลุกขึ้นตามอีกฝ่ายไปในทันใด “หยุดเดี๋ยวนี่!! เจ้าจะพานางไปไม่ได้!! นางบังอาจมาทำร้ายข้า นางจะต้องโดนลงโทษ-”

เพอร์ซีย์ได้ยินแบบนั้นมันก็รู้สึกเคืองข้างในจิตใจของเขามาก ๆ ก่อนที่เขาจะตวัดตัวไปพร้อมกับอาวุธหอกยาวที่ปลายหอกเป็นหอกสามง่ามจ่อไปที่ใบหน้าของซุส เฉือนจมูกของเขาไปเพียงแค่นิดเดียว เจ้าตัวถึงกับยืนอึ้งที่ชายตรงหน้ากล้าเอาอาวุธมาจ่อหน้าตนแบบนี้

“อย่ามาหยุดกับลูกสาวของฉัน!!ซุส ถ้าท่านยังไม่อยากเห็นโลกนี้พังพินาศ!!”

ซุสฟังประโยคนั้นพร้อมกับดวงตาอันอาฆาตว่าถ้าตนยังยุ่งกับลูกของอีกฝ่าย เขาจะโดนหมายหัวมันยิ่งทำให้เขาไม่พอใจเช่นเดียวกันก่อนที่จะโดนคนเป็นพี่ชายอย่างงโพไซดอนขัดเสียงก่อน

“พอได้แล้ว! ซุส”

“โพไซดอน!! ดูลูกเจ้า!!”

โพไซดอนส่ายหัวเบา ๆ อย่างเบื่อหน่ายกับอารมณ์ของน้องชาย ก่อนที่เขาจะจับไหล่น้องชายให้หลบไปข้างหลังก่อนที่เขาจะหันไปมองลูกชายที่โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะจนเขาไม่คิดว่าจะได้เห็นลูกชายที่โตขนาดนี้

“เจ้าไปซะ...เพอร์ซีย์...”

เพอร์ซีย์ได้ยินแบบนั้นก็ต้องขอบคุณอีกฝ่ายทำให้เขาหลุดพ้นจากเทพบ้านั้น “ขอบคุณครับ...พ่อ...”

เพอร์ซีย์กล่าวจบก็กล่าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เขาประคองลูกจนมาถึงจุดที่พวกของเขาตอนวัยรุ่นยืนอยู่ เขาเดินกำลังจะเดินผ่านพวกนั้นก่อนที่จะพูดประโยคบางอย่างกับตัวเขาตอนเป็นวัยรุ่น

“จงระวังตัวไว้...สักวันนายจะเสียใจกับเรื่องที่นายไม่สามารถทำอะไรได้...”

“เอ๊ะ!?”

 

เพอร์ซีย์วัยรุ่นได้ยินคำพูดของตัวเขาเอ่ยออกมามันทำให้เขางุนงงว่ามันหมายความว่าอะไร เพอร์ซีย์ผู้ใหญ่เดินจนมาถึงปากทางเข้าประตูบานใหญ่กำลังเชื่อมอดีตกับอนาคต เขาหยุดชะงักชั่วคราวก่อนที่จะหันกลับไปหาพวกทวยเทพเขามองไปที่ซุสก่อนที่จะยกมือขึ้นมาชูนิ้วกลางให้อีกฝ่ายพร้อมกับแลบลิ้นใส่ ซุสที่เห็นแบบนั้นก็ปรี๊ดแตกเข้าไปอีก ก่อนที่เขาจะเรียกสายฟ้าออกมา เพอร์ซีย์เห็นแบบนั้นก็กระโดดถอยหลังเข้าไปในประตูอย่างไม่สนใจอะไร แต่พอนึกย้อนกลับไปตัวเขาตอนนี้ก็แสบและกวนประสาทพวกเทพได้อยู่จริง ๆ เขากระโดดเข้ามาประตูข้างในประตูก็ปิดตัวลงอย่างสมบูรณ์ทุกอย่างจบลงแล้ว ลูกสาวทั้งสองที่เขาตามหามานานเกือบหนึ่งเดือนที่ลูกทั้งสองเขาหายไป ตอนแรกโครนอสบอกเพียงว่าเด็กทั้งสองเดียวก็กลับมา แต่เพราะความร้อนใจของเขาทำทุกวิถีทางเพื่อหาลูก ๆ ให้เจอ แต่ก็ไร้ผลจนมาครั้งนี้ที่โครนอสบอกบางอย่างกับเขา ระหว่างที่กำลังจมอยู่ในความคิดนั้นเสียงของอีกฝ่ายก็เอ่ยพูดขึ้นมา

 

“กลับมาสักทีนะ~ หลานข้า~”

เพอร์ซีย์หันไปมองเจ้าของเสียงที่ทำให้เขาสามารถพาลูกสาวกลับมาได้แต่เขาก็ยังไม่เคยไว้ใจอีกฝ่ายอยู่ดี แต่ครั้งนี้ต้องขอบคุณอีกฝ่าย

“ขอบคุณที่ให้ผมใช้ประตูนั้นไปหาลูกสาว”

“ข้าไม่ได้ช่วยอะไร...มันเป็นคำปรารถนาของเจ้า...ข้าแค่เรียกเจ้าให้มาหาข้า เพราะคนเดียวที่จะพาพวกนางกลับมาได้มีเพียงผู้ให้กำเนิดเท่านั้น”

“แต่ก็ขอบคุณ...ถ้าคุณไม่เรียกผม...ป่านนี้ลูกสาวผมคง...”

“คงโดนเทพสั่งลงโทษและจำคุกอยู่ในเขาโอลิมปัสอีกยาวนาน...”

“!!” เพอร์ซีย์ตะลึงกับสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวออกมา

“นั้นคือโทษของผู้ที่ทำร้ายเทพ...หลานชาย...”

เพอร์ซีย์กำหมัดแน่นถ้าเขาไม่ฟังอีกฝ่ายและไม่ช่วยลูกทั้งสองตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เขามองลูกสาวตัวน้อยของเขาที่สลบไปเพราะเขาสกัดไม่ให้เธอทำร้ายเทพเพื่อตัวของเธอ

“จงระวังไว้...”

“ครับ...?”

“พรุ่งนี้ทุกคนอาจจะปวดหัวสักหน่อย เตรียมยากินหน่อยก็แล้วกัน” โครนอสกล่าวและยกแก้วขึ้นมาจิมต่อ

“ว่าไงนะ?” เพอร์ซีย์ขมวดคิ้วอย่างสงสัย

เรอาออกมาจากมุมใดมุมหนึ่งของห้อง แล้วเดินตรงมาพร้อมกับขวดยาบางอย่าง เธอยื่นสิ่งนั้นให้แก่เพอร์ซีย์ด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นสูตรยาของข้านะ หลานชาย”

“ยา...ยาอะไร?”

“แก้ปวดหัวจ๊ะ ตามที่ปู่เจ้ากล่าวพรุ่งนี้พวกเจ้าหลายคนน่าจะปวดหัวน่าดู เอาไปผสมน้ำและดื่มสักหน่อยนะ”

“ปวดหัวจาก?”

“พรุ่งนี้ก็รู้เอง...ตอนนี้พวกเจ้ายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ...อย่างเช่น...สงครามที่แซเทิร์นกำลังก่อขึ้นมันกำลังจะปะทุมากขึ้น หลานชาย”

 

สงครามเป็นอะไรที่เพอร์ซีย์เกลียดที่สุด เพราะมันทำให้พวกเขาสูญเสียทุกอย่างแต่เขาจะไม่ยอมให้เป็นแน่ ตลอดหลายสัปดาห์มานี้เขาปกป้องและต่อสู้กับพวกปีศาจมากมายที่จะบุกมายังค่ายตลอดและเขาส่งคนออกไปตามมนุษย์กึ่งเทพที่อยู่นอกค่ายเพื่อปกป้องพวกเขาเช่นกัน เพราะพวกเขาอยู่ภายนอกไม่น่าจะเกี่ยวกับพวกเขาที่อยู่ในค่าย แต่ว่าดูเหมือนเป้าหมายของแซเทิร์นจะเปลี่ยนไป เขาคงอยากล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์กึ่งเทพให้ตายไปให้หมด แล้วเหลือเพียงเทพเจ้าที่เขาสามารถต่อกรได้

 

“เพอร์ซีย์...” แอนนาเบ็ธเดินเข้ามาเกาะแขนอีกฝ่าย

เพอร์ซีย์มองภรรยาแสนสวยของเขาที่กำลังทำหน้ากังวลใจที่ตัวเขากำลังทำสีหน้าไม่ดีอยู่ตรงนี้ เพอร์ซีย์ยกยิ้มให้อีกฝ่ายเบา ๆ ก่อนจะยื่นขวดยาให้อีกฝ่าย

“ฉันไม่เป็นไร...”

“แน่นะ...?”

“อืม...แล้วโฟกัสล่ะ...?”

“พวกโอราอุสอุ้มเธอกลับบ้านไปแล้วนะ...ฉันรอเธอกลับมา...ฉันกังวลนะ...ว่าถ้าประตูปิดไปก่อนหรือ...พวกเทพทำอะไรนายขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น?”

“ไม่ต้องห่วง ถ้าตอนนั้นพวกนั้นจะเล่นงานอะไรฉัน ตอนนั้นล่ะฉันจะทำให้ทั้งค่ายในปีนั้นน้ำท่วมจนไม่มีที่จะให้พวกเขายืนเลยล่ะ”

“ดีไม่เกิดอะไรขึ้น...คิดสภาพแล้ววันนั้นพวกเขาคงต้องสั่งให้นายไล่น้ำออกแน่ ๆ”

“เหอะ ๆ”

 

เพอร์ซีย์หัวเราะอย่างเบื่อหน่ายยิ่งในช่วงนั้นเขาเป็นบุตรคนเดียวของโพไซดอนเขาคงทำงานหนักขึ้นแน่ ๆ แต่ว่าเขาจำได้ว่าหลังจากที่เขามีลูกนี้สิ เซอร์ไพรส์ก็มาเต็ม ๆ มีเด็กอายุหกขวบสองสามคนที่เป็นลูกของโพไซดอนโผล่มาทำให้เขารู้ว่าพ่อเขาไปทำให้ผู้ใหญ่ท้องและในปีนั้นไม่ใช่แค่ของโพไซดอนยังมีเทพอีกหลายคนที่สร้างภาระเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปีจนเขาอยากฆ่าพวกนี้ให้ตายจริง ๆ เขาถอนหายใจออกมาเบา ๆ

 

“พวกผมไม่รบกวนแล้ว ขอตัวกลับนะครับ”

“ตามสบาย เจ้าหนู”

“เดินทางปลอดภัยนะ~” เรอาโบกมือลาเด็กทั้งสองคน

เพอร์ซีย์โค้งให้ทั้งสองคนเล็กน้อยระหว่างที่ยังอุ้มลูกสาวของเขา แต่เขาพึ่งสังเกตว่าโพรทาเลียตัวหนักขนาดนี้เลยเหรอ ครั้งล่าสุดที่เขาได้อุ้มลูกก็ตอนที่ลูกอายุหกขวบ มันทำให้เขานึกถึงคำพูดตัวเองที่พูดกับตัวเขาวัยรุ่น มันช่างน่าเจ็บปวดที่เขาไม่สามารถปกป้องลูกคนเดียวไว้ได้ เขากอดลูกไว้พร้อมกับคิดในใจ

 

‘พ่อขอโทษนะ...โพรทาเลีย...’

 

สองสามีภรรยาตรงดิ่งกลับบ้านของพวกเขาทุกคนที่ต่างรอการกลับมาขออีกคนก็ต้องดีใจที่น้องอีกคนได้กลับมาอย่างปลอดภัยถึงจะยังไม่ได้สติพวกเขาก็ดีใจแถมสองตัวน้อยที่เห็นแม่กลับมาก็ยิ่งดีใจ คนเป็นพ่อก็ดีใจที่ทุกคนต่างคิดถึงเด็กทั้งสอง เพราะทั้งสองคนหายตัวไปเกือบเดือนมีหรือใครจะไม่คิดถึงกัน พวกพี่น้องเห็นน้องสาวกลับมาอย่างปลอดภัยก็ได้แต่ดีใจกันยกใจ ก่อนที่พวกเขาจะพาโพรทาเลียกลับไปพักที่ห้องของตนเอง ทุกอย่างนั้นกลับมาสงบสุขอีกครั้งก่อนจะมีสัญญาณเตือนเกิดขึ้น พวกเขาทุกคนต่างมองหน้ากันก่อนจะพุ่งตัวออกจากบ้านไป เพอร์ซีย์ที่วิ่งไปตามทางคิดเพียงอย่างเดียววันไหนจะได้กลับไปใช้ชีวิตปกติโดยไม่ต้องมาวุ่นวายกับพวกบ้านี่อีก

 

หลังจากจบคลื่นรอบใหม่ทุกคนก็กลับไปพักผ่อนกันอย่างสงบสุข เพอร์ซีย์ยังคงเป็นห่วงลูกทั้งสองคนอีกคนยังเหนื่อยอีกคงเขาเป็นคนทำให้สลบ คนที่เขาทำให้สลบน่าเป็นห่วงสุดนั้นล่ะว่าลูกตื่นมาจะมาฆ่าเขาไหมที่ทำให้เจ็บตรวจ แอนนาเบ็ธมาหาเพอร์ซีย์เพื่อพาเขาไปพักผ่อน เขายอมที่ไปนอนพักผ่อนกับภรรยาของเขาและสิ่งที่แซเทิร์นเตือนไว้ก็บันดาลขึ้นกับเหล่าผู้ใหญ่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อยี่สิบเอ็ดปีก่อน

 

“!!!” เพอร์ซีย์สะดุ้งตัวสุดกำลังเขาปวดหัวถึงขั้นสุดความทรงจำในตอนนั้นกำลังไหลเข้ามาในหัวของเขา “อึ้กกกกกกกกก!!”

“อ๊ากกกก นี่มันอะไรกัน!!” แอนนาเบ็ธยกมือขึ้นมาจับข้างศีรษะของตน มันทั้งปวดและจี้ไปทั้งหัว

“นี่เป็นสิ่งที่โครนอสเตือนสินะ บ้าชิบ!!”

เพอร์ซีย์เอ่ยพูดอย่างไม่ชอบใจเขาต้องลุกขึ้นไปทำยาแก้ปวดหัว แต่แล้วก็มีแก้วน้ำมาอยู่ตรงหน้าของเขา เพอร์ซีย์เงยหน้าขึ้นมามองก็เห็นดวงตาสีเขียวจ้องมองเขา

“โอราอุส...”

“ลิซ่าบอกว่าพวกพ่อจะมีอาการปวดหัวตอนเช้า พวกผมเลยเอาขวดยาที่พวกพ่อเอากลับมาไปผสมน้ำให้ครับ...”

“ทำไมรู้ว่าต้องผสมน้ำ?”

“พอดีลิซ่าบอกว่าพ่อแม่เตือนเธอไว้นะว่าให้ดูอาการพวกพ่อเลยบอกว่าเอายาให้พวกพ่อไว้ด้วยนะ”

“เหอะ...ขอบใจ...” เพอร์ซีย์รับแก้วน้ำจากลูกชาย

โอราอุสก็เดินไปหาแม่พร้อมกับประคองตัวแม่ขึ้นมา เธอพยายามลุกขึ้นพร้อมกับดื่มน้ำในแก้วนั้น

“ช่วย...” เพอร์ซีย์กำลังจะเอาพูดบางอย่าง

“ผมให้น้อง ๆ นำตัวยาไปให้แต่ละบ้านที่เป็นผู้ใหญ่เรียบร้อยครับ”

เพอร์ซีย์ถึงกับอึ้งไปเลยที่ลูกคนโตดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทุกวัน “ลูกพึ่งพาได้ตลอดจริง ๆ โอราอุส”

 

โอราอุสได้ยินแบบนั้นก็ดีใจที่พ่อชมเขาแบบนั้น ตลอดทั้งเช้าทุกคนต่างพาพวกผู้ใหญ่ที่สถานพยาบาลเพื่อดูอาการที่ปวดหัวขึ้นมาอย่างกะทันหันกันและไม่เว้นแต่ไครอนที่กำลังนั่งปวดหัวทำความเข้าใจกับความจริงที่ความทรงจำของเขาหายไปช่วงหนึ่งรวมไปถึงพวกเพอร์ซีย์ที่มารวมตัวกันที่บ้านเพอร์ซีย์ ทุกคนมาคุยกันถึงสถานการณ์ตอนนี้ก็ครบหนึ่งเดือนเต็มแล้ว แต่ระหว่างบ่นก็บ่นถึงอาการปวดหัวกันไปเรื่อย ๆ

 

“บ้าชิบ...โคตรปวดหัว...!!” วิลกล่าวเขาจำภาพทุกอย่างได้จนเขานึกถึงกระเป๋าใบหนึ่งที่มันตกอยู่ในบ้านเขาและเขาเก็บมันมานานอย่างสงสัยว่ามันคืออะไร “เพอร์ซีย์!! ลูกนายทำให้เราลืมช่วงเวลาต่าง ๆ ไหมเนี่ย?”

“ฉันจะรู้ไหม? ขอล่ะ...อย่าพูดมาก ยิ่งพูดมันยิ่งปวดหัวนะ...”

“ยาก็เริ่มได้ผล...แต่...โคตรปวดไปหมดเลย...บอกลูกนายมาเอากระเป๋าคืนด้วยล่ะ”

“ห๊า กระเป๋า? หมายความว่าไง?”

“ตอนนั้นฉันเอากระเป๋าโฟกัสเป็นตัวประกัน เพราะเห็นภาพครอบครัวนาย ฉันถึงเอาเป็นตัวประกันตอนนั้นนะ”

“ว่าไงนะ!! ไอ้บ้าถึงว่าตอนนั้นนายทำไมถึงอยู่ได้คนเดียว!!” เพอร์ซีย์เข้าไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายทันที

“อ๊ากกก อย่าทำฉันนะ!! ฉันยังมีลูกมีเมียที่น่ารักต้องดูแลนะ!!”

“หุบปากไปเลย!! เจ้าบ้า!!” เพอร์ซีย์เขย่าคอเสื้ออีกฝ่าย

“พูดถึงเมีย...นิโคเป็นไงมั้งนะ? วิล”

“ฉันติดต่อไปแล้วนะ ตอนนี้สบายดีแล้วนะ ตอนแรกก็ปวดหัวนิดหน่อย เขาบอกว่าเดี๋ยวจะกลับมาช่วยอีกแรก...” แต่พอวิลนึกถึงนิโคก็รู้สึกคิดถึงกว่าเดิม "อ๊ากกกกกกก ยิ่งพูดยิ่งคิดถึงโวย!!”

“งั้นก็ตามเมียนายไปออกภารกิจไปสิ!!ไม่ต้องกลับมา!!” เพอร์ซีย์จิ้มแก้มอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ

“ว่าไงนะ!!”

แคลรีสฟังเสียงพวกผู้ชายแล้วรำคาญมาก ๆ ก่อนที่เธอจะพูดกับเพอร์ซีย์ “ฉันอยากฆ่าลูกนาย แจ็กสัน...ทำฉันไว้แสบมาก...”

เพอร์ซีย์หันหน้าไปหาแคลรีสทันใด “เธอเล่นงานลูกฉัน...แคลรีส เธอตายแน่!!”

“ก็เอาสิ!!”

แอนนาเบ็ธส่ายหน้าเบา ๆ ทุกคนช่างเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนทะเลาะกันได้ตลอด เสียงบางอย่างดังขึ้นพอดี เธอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงไปห้องครัวผ่านไปสักระยะก็มีบางอย่างออกมาจากห้องครัวทันใด นั้นก็คือบราวนี่อบใหม่ร้อน ๆ มาวางตรงหน้าของทุกคน

“เลิกทะเลาะกันแล้วกินของหวานทำให้อาการดีขึ้นดีกว่านะ”

ทุกคนต่างหันมาสนใจพร้อมกันหยิบบราวนี่คนละชิ้นสองชิ้นทันใด ก่อนที่ทุกคนจะกล่าวขอบคุณ

“ขอบคุณมาก แอนนาเบ็ธ”

แอนนาเบ็ธยิ้มอย่างพอใจก่อนจะไปหาสามีพร้อมกับวางจานที่มีบราวนี่สีฟ้า “ของคุณค่ะ”

“ขอบคุณ...แล้วคุณไม่เป็นอะไรเหรอ?” เพอร์ซีย์เอ่ยถามพร้อมกับกอดภรรยาอย่างรักใคร่

“อืม ยังปวดเล็กน้อยนะ...แต่ก็ทนได้นะ”

“เป็นอะไรบอกฉันนะ”

“ค่ะ แต่ขอพูดบางอย่างได้ไหม?”

“อะไรเหรอ?”

“คุณตอนนั้นเท่มากเลยล่ะนะ” แอนนาเบ็ธเอ่ยถึงอีกฝ่ายตอนที่ไปช่วยลูก

เพอร์ซีย์โดนคำชมของภรรยาพร้อมกับใบหน้าอันยิ้มแย้มหวานจนเขานั้นรู้สึกร่างกายจะละลายตรงนั้นไปเลยก่อนที่เขานั้นจะแสดงความรักกับเธอจนเพื่อน ๆ ที่อยู่ตรงนั้นเหม็นกับความรักของทั้งสอง ก่อนที่พวกเขาจะยกจานขนมหนีสองคู่รักที่มีลูกถึงแปดคนแล้วยังจะหวานกันต่อหน้าคนอื่นอีก

 

เวลาผ่านไปไม่นานโฟกัสได้ยินเสียงปิดประตูดังจนเข้าโซนประสาทของเธอนั้นทำให้ปวดหัวสุด ๆ แค่ร่างกายก็ปวดจนไม่อยากลุกไปไหน แต่ความนุ่มของเตียงช่างทำให้เธอไม่อยากตื่นแต่เธอกับนึกถึงได้ว่าเมื่อวานเธอทำอะไรอยู่กันแน่ก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอเห็นสภาพแวดล้อมก็จำได้ว่าข้างหน้านี้คือห้องนอนของเธอ แต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไงก่อนที่จะจำได้ว่าพ่อเข้ามาช่วยพี่ก็แปลว่าตอนนี้เธออยู่บ้านอยู่ในยุคของเธอแล้ว นั้นทำให้เธอลุกออกจากเตียงวิ่งลงไปข้างล่างในทันใด เพอร์ซีย์ที่กำลังแสดงความรักกับภรรยาอยู่นั้นถึงกับตกใจเสียงคนวิ่งมาข้างล่างแต่แล้วก็เห็นร่างบางร่างวิ่งผ่านไปก่อนจะย้อนกลับมา โฟกัสก็เห็นชายหญิงที่เธอคุ้นเคย

 

“แม่...พ่อ...”

“โฟกัส”

“ลูกแม่...ฟื้นแล้วเหรอ?”

 

พวกผู้ใหญ่ต่างดีใจที่ลูกสาวฟื้นแล้ว แต่โฟกัสไม่ตอบอะไรข้างในในส่วนลึกกำลังถามว่านี่เรื่องจริงใช่ไหม เธอกลับมายังช่วงเวลาของเธอแล้วใช่ไหม ทุกอย่างมันถาโถมเข้ามาหาเธอทั้งเรื่องต่อกรกับทวยเทพทั้งพี่สาวที่ระเบิดแรงกดดันออกมาจนทำให้เธอรู้สึกเพลียและเหนื่อยล้าสุด ๆ ตอนนี้ตรงหน้าของเธอมีพ่อแม่ที่เธอคิดถึงและอยากขอคำปรึกษามาตลอด ดวงตาสีเทาของเธอกำลังมีน้ำตาที่กำลังเอ่อไหลลงอาบข้ามแก้มคนเป็นพ่อแม่ถึงกับตกใจจนรีบเดินมาดู

 

“โฟกัส!! ลูกเป็นอะไร บาดเจ็บตรงไหนเหรอ!?”

“จริงด้วย...หรือว่าลูกบาดเจ็บก่อนหน้านั้น”

พ่อแม่รีบมาดูลูกสาวที่จู่ ๆ มีน้ำตาไหลออกมาจนพวกเขานึกว่าลูกเป็นอะไรไป

โฟกัสรีบเช็ดน้ำตาของตนเองก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ “ไม่ค่ะ...หนูไม่ได้เป็นอะไร...”

“งั้นลูกร้องไห้ทำไม? ถ้าลูกไม่เป็นอะไรทำไมถึงร้องไห้กัน!!”

“ที่หนูร้องไห้...ก็เพราะดีใจค่ะ...”

“ดีใจ...?” สองสามีภรรยามองหน้ากันอย่างงุนงง

โฟกัสโผเข้ากอดผู้เป็นพ่อแม่อย่างคิดถึง “หนูคิดถึงพ่อกับแม่!!ดีใจจริง ๆ ที่พ่อแม่ยังอยู่...”

 

ทั้งสองคนได้ยินลูกพูดแบบนั้นก็สงสัยเลยว่าลูกไปเจออะไรมาจนทั้งสองคนกอดลูกเบา ๆ พร้อมกับถามเหตุการณ์ก่อนหน้าว่าเกิดอะไรขึ้น โฟกัสพยักหน้าที่จะบอกพวกเขาว่าเจออะไรมามั้ง แต่เธอสงสัยว่าพี่สาวของเธอตอนนี้อยู่ไหนจนพ่อแม่บอกว่าโพรทาเลียยังไม่ตื่นยังนอนอยู่ข้างบนห้องของเธอ ยิ่งทำให้เธอเป็นห่วงพี่สาวเข้าไปอีกว่าตอนนี้จะเป็นยังไงมั้ง เพราะพ่อบอกว่าใช้สันมือน็อคพี่สาวให้สลบไปยิ่งน่าเป็นห่วงคูณสองอีก

 

ลึกเข้าไปยังภายใต้ความเงียบสงัด โพรทาเลียกำลังเดินไปตามทางอย่างไม่รู้จุดหมายปลายทางแต่อย่างใด เธอเห็นแต่รอบ ๆ ที่เป็นสีดำมีเพียงร่างกายของเธอที่ส่องสว่าง เธอสงสัยว่าตัวเองจะเดินไปไกลแค่ไหนแล้วกำลังตามหาอะไรจนรู้สึกแปลก ๆ ว่าทำไมตัวเธอถึงสว่างกันหรือว่าเพราะพลังของธีเอมัส แต่ก็มานึกสิ่งที่เธอกำลังตามหานั้นอยู่ไม่ไกลไม่สิอยู่ภายในร่างกายนี้ของเธอ

 

“ฮาลอน...”

น้ำเสียงอันแหบแห้งเอ่ยเรียกอีกฝ่ายก็สิ่งบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นต่อหน้าโพรทาเลีย ดวงตาที่ลู่ลงค่อย ๆ ลืมขึ้นมามองชายตรงหน้าที่จ้องมองเธอด้วยสายตาอันไม่ชอบใจ

“นายแสบมากเลยนะ”

“ข้าทำอะไรเจ้ากัน?”

“แฝงความรู้สึกของนายลงที่ฉันนะ”

“เหอะ! ใช่ฤๅ?”

“แล้วฉันจะมีปัญหาของซุสและแอรีสทำไม?”

“ฮ่า ๆ” ฮาลอนหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ “ใช่ ข้าเองล่ะที่ทำให้เจ้ามีอารมณ์ร่วมกับข้าที่อยากจะฆ่าพวกมัน!!”

“แต่เขาเป็นพ่อและพี่ชายของนายนะ?”

“พวกมันไม่ใช่!!พ่อที่ไหนฟังลูกชายคนโต โดยไม่ฟังเหตุผลและทฤษฎีตรงหน้าว่าข้านั้นคือบุตรของเขา!!ข้ากับน้องสาว!!”

“นาย...โกรธแค่เพียงเท่านั้นเหรอ?”

“ลองเจ้าเป็นข้า เจ้าจะเข้าใจ...ไม่สิ...เจ้านะเป็นข้า...เป็นแค่ร่างเปลือยเปล่าของพวกเราทุกคนที่ได้มาเกิดใหม่!!”

“หือ? ร่างเปลือยเปล่า?”

“เจ้าไม่เข้าใจว่าเป็นร่างจุติคืออะไรงั้นเหรอ?”

“ก็...เป็นร่างสถิติให้ทุกคนนี้?”

“ไม่ใช่แค่นั้น...เจ้านะเป็นร่างเปลือยเปล่าของพวกเราทุกคน ร่างที่ตายแล้วตายเหล่าแล้วมาเกิดใหม่ ไม่งั้นเจ้าจะถูกเรียกว่าร่างจุติงั้นเหรอ?”

“นายจะ...สื่ออะไร?” โพรทาเลียจ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังสื่ออะไรบางอย่างที่เธอไม่ชอบใจเท่าไหร่

“รู้ไหมว่ามีเทพองค์หนึ่งรอให้เธอตายอยู่”

“ใคร...แซเทิร์นงั้นเหรอ? หึ ฉันไม่มีวันตายนายน่าจะรู้”

“ใช่...พวกเราก็เช่นกัน แต่ว่ามีวันเดียวเท่านั้นที่พวกเราจะตายคือวันเกิดอายุครบรอบ 16 ปีของเรา!!”

“!!”

โพรทาเลียมีสีหน้าตกใจจนฮาลอนยกยิ้มอย่างชอบใจก่อนจะเขยิบเข้าไปกระซิบอีกฝ่าย

“อีกไม่ช้าอีกแค่ไม่กี่วัน เจ้าจะอายุครบ 16 ปีเช่นกัน!”

“ฉันไม่เข้าใจที่นายเอ่ยออกมา!!”

ฮาลอนหัวเราะในลำคอกับปฏิกิริยาของอีกฝ่าย “มาหาข้าสิ...”

โพรทาเลียจ้องมองอีกฝ่าย เธอรู้สึกไม่ชอบใจกับคำเอ่ยนั้นเหมือนเธอกำลังโดยอีกฝ่ายล่อลวงไปยังที่ที่เธอไม่รู้ว่าที่ไหน “แล้วที่ไหนล่ะ?”

ฮาลอนถอยหลังไปเล็กน้อยก่อนจะเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ ก่อนจะอ้าแขนกว้างจนรอบข้างแปลงเปลี่ยนเป็นอีกสถานที่แห่งหนึ่ง เธอรู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ โคลอสเซียมแต่เป็นของที่นี่หนึ่งที่ไม่ใช่ค่ายฮาล์ฟบลัด

“จงมาหาข้าที่นี่ แล้วข้าจะบอกให้ว่าใครกำลังรอให้เจ้ากับน้องสาวต้องตาย”

โพรทาเลียมองสถานที่ตรงหน้าเธอก้มหน้ามองบนพร้อมกับสีหน้าไม่ชอบใจ “เขาโอลิมปัส...” 

 

จบตอนที่ 131 โปรดติดตามตอนที่ 132 ต่อไป