ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 139 ขัดขวางจนตัวตาย
ทุกฝีก้าวที่กำลังก้าวออกไปความเร็วที่เหนือกว่าสิ่งรอบข้างที่เคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้า โพรทาเลียก้าวขาวิ่งไปตามเส้นทางที่ตนตั้งใจก้าวอย่างมุ่งมั่ง ความเร็วที่ผ่านไปตามเส้นทางทำให้ผู้คนโดยรอบโดนแรงพัดนั้นจนเกือบทรงตัวไม่อยู่กัน เส้นทางข้างหน้ามีกลิ่นอายที่โพรทาเลียคุ้นเคยมันกระตุ้นให้เธอไปหาเพื่อล้างแค้นสิ่งที่อีกฝ่ายกระทำกับเธอตอนเยาว์วัย เสียงกรีดร้องของผู้คนรอบข้างทำให้เธอมองอย่างสงสัย เธอเห็นมนุษย์กึ่งเทพกำลังจะโดนโจมตี เธอวิ่งไปทิศทางนั้นพร้อมกับตวัดดาบฟาดฟันอย่างง่ายดายก่อนจะวิ่งต่อ ทำให้มนุษย์กี่เทพที่อยู่แถวนั้นว่าลมเมื่อกี้คืออะไร ดวงตาสีเขียวกำลังกวาดหาชายคนหนึ่งที่
‘แกอยู่ไหน!? แซเทิร์น!!’
ในหัวของโพรทาเลียตอนนี้มีแต่ชายคนนั้นที่พังทลายชีวิตของเธอมาเนิ่นนานตอนนี้ถึงคราวเอาคืน เธอจะเอาคืนทุกหยดเลือดที่ไหลรินให้อีกฝ่ายได้จำเลยว่าอย่ามายุ่งกับสายเลือดโพไซดอนอีกเด็ดขาด แต่แล้วก็มีสายตาบางอย่างจ้องมองมาทางเธอนั้นทำให้เธอต้องหยุดวิ่งอย่างรวดเร็วก่อนจะเห็นชายร่างสูงใบหน้าคุ้นตา แต่เธอไม่อยากเจออีกฝ่ายที่เข้ามาขวางทางเธอจริง ๆ แต่ก็น่าสงสัยว่าอีกฝ่ายออกมาจากที่คุมขังได้ไง ทำให้คิดเลยว่าที่นรกต้องมีพรรคของพวกมันอยู่ด้วยเช่นกัน เธอสะบัดความคิดนั้นออกไป
“นึกว่าหลังจากกลายเป็นขี้เถ้าจะตกไปอยู่ในนรกทาร์ทารัสเสียแล้วอีกนะ วากาเน็ท!!”
วากาเน็ทยกยิ้มอย่างขบขัน “ฮ่า ๆ เจ้าคิดว่าข้าจะตายง่ายแบบนั้นเหรอ?”
“ไม่เลย...แต่ตายได้ก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องมาเจอหน้าแกอีก!!
“ไม่คิดถึงกันเลยเหรอ!?”
“ไม่! กับชายที่หวังจะนอนกับเด็กมาตลอดอย่างแกก็แค่ไอ้โรคจิตคนหนึ่งก็เท่านั้น”
“ใจร้ายจังนะ!!”
“ฉันใจร้ายได้มากกว่านี้ วากาเน็ท!!” โพรทาเลียถลึงตาใส่อีกฝ่ายก่อนจะตวัดดาบไปมา
วากาเน็ทหัวเราะชอบใจกับท่าทางอีกฝ่าย แต่ก็ต้องหยุดแล้วถอนหายใจเบา ๆ “เฮ้อ...ถ้าเจ้ายอมมาอยู่กับเรา เจ้าคงไม่ต้องเห็นพ่อข้าพังพินาศโลกนี้แท้ ๆ”
“ว่าไงนะ!?”
“อย่างที่ได้ยิน~”วากาเน็ทเริ่มเดิมไปด้านข้าง
โพรทาเลียเห็นก็เดินไปอีกฝั่งตรงข้ามกับอีกฝ่ายเดิน “ถึงยุคไหนพวกแกก็จะคิดพังโลกนี้อยู่แล้วนี่!?”
“แต่ครั้งนี้ต่างออกไป ถึงเจ้าจะอยู่ร่างสีขาวนั้นก็ไม่มีทางที่จะบ่งบอกว่าเจ้าจะชนะการต่อสู้ในครั้งนี้”
“ใจกล้าที่พูดแบบนั้น แกยังไม่เห็นฤทธิ์เดชของร่างนี้ด้วยซ้ำ”
“ไม่เห็นข้าก็พูดได้ เจ้ายังขาดอะไรอีกเยอะ!”
โพรทาเลียยกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายนั้นหมายถึงอะไร เธอยังจะขาดอะไรอีกโดยที่ทุกคนให้พังเธอหมดแล้ว จนเธอนึกบางอย่างขึ้นมาที่พวกฮาลอนปิดบังเธอบางอย่าง แต่พวกเขาไม่สามารถบอกเธอได้ยิ่งทำให้เธอสงสัยอะไรคือสิ่งที่เธอขาดหายไปกัน
“ดูสีหน้านั้นสิ!”
“!!” โพรทาเลียเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่พูดแบบนั้นออกมา
“เจ้าก็ไม่รู้สินะ” วากาเน็ทกำลังเดินไปเรื่อย ๆ พร้อมกับยักไหล่ เขาก็คิดบางอย่างได้ทันที “เอางี้สิถ้าเจ้าอยากรู้ถ้าให้คำตอบได้ แต่ต้องแลกกับ-อึ้ก”
เสียงอุทานมาพร้อมกับร่างกายชายร่างใหญ่กำลังลอยพลิ้วไปข้างหลังอย่างกับกระดาษที่กำลังพัดไป วากาเน็ทยังตกตะลึงที่ร่างกายของเขากำลังลอยไปสายตาของเขาจ้องมองหญิงตรงหน้าที่กำลังยกขาลงหลังจากเตะเขาอย่างแรง
“เจ้าาาาาาาาาาาาาาาา!!”
เสียงลากยาวของอีกฝ่ายดังไปสุดสายก่อนที่โพรทาเลียจะหันหลังให้เธอไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะสามารถตรงดิ่งมาหาเธอได้ เพียงเพราะอีกฝ่ายโดนรองเท้าของเธอที่มีเข็มอาบยาพิษเข้าไปอย่างจัด อีกฝ่ายคงใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะตามเธอมาได้ แต่ตัวเธอก็ลืมไปว่าตัวเองดัดแปลงรองเท้าไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พอจะใช้มันก็ออกมาเองตลอด เธอส่ายหน้าอย่างชอบใจก่อนจะพุ่งตัวตรงไปข้างหน้าต่ออย่างไร้เยื่อใย
เหล่ามนุษย์กึ่งเทพที่ล้มตายเริ่มมีเยอะขึ้นทำให้ผู้เป็นพ่อแม่ที่เห็นต่างเจ็บปวดใจที่ต้องมาเห็นลูกของตนเองที่เกิดจากมนุษย์ที่ตนรักต้องมาตายแบบนี้ยิ่งทำให้เหล่าเทพต้องสำแดงฤทธิ์เดชของตนเองออกมา การต่อสู้อันดุเดือดนี้ยังมีเรื่อย ๆ จนกระทั่งเสียงปะทะอันรุนแรงสั่นสะเทือนไปทั้งชั้นสองของเขาโอลิมปัสยิ่งการต่อสู้ยิ่งรุนแรงเพียงใดก็ทำให้สิ่งก่อสร้างโดยรอบเกิดรอยร้าวหรือรอยแตกออกมา ผู้คนที่อยู่ใกล้ ๆ ต้องพากันหนีจากจุดนั้นกันเพื่อไม่ให้โดนลูกหลงของการต่อสู้ก็สองผู้มหาอำนาจแห่งโลกทวยเทพกับโลกของมนุษย์กึ่งเทพ ดวงตาสีเขียวพินิจการต่อสู้อันรุนแรงของชายตรงหน้าที่เขาพยายามไม่ให้อีกฝ่ายหนีไปจากตรงนี้ เขาฟาดฟันใส่อีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องไม่ให้อีกฝ่ายมีช่องว่างให้อีกฝ่ายโจมตีเขาได้
“เจ้ากล้ามาขัดขวางข้างั้นเหรอ!? บุตรโพไซดอน!!” แซเทิร์นยกเคียวของตนขึ้นมาป้องกันการโจมตีของอีกฝ่าย
“ไม่เห็นหรือไง!?”
เพอร์ซีย์ถามกวนอีกฝ่ายที่ไม่เห็นว่าเขากำลังทำอะไรหรือไง เขายิ่งฟาดฟันใส่อีกฝ่ายแรงขึ้นจนจังหวะหนึ่งเขาก็ยกดาบขึ้นสูงพร้อมกับฟาดไปเต็มแรงจนอีกฝ่ายไถลไปด้านหลังจนเกือบล้ม สภาพของทั้งสองสะบักสะบอมสุด ๆ เพราะการต่อสู้ที่นานมาหลายนาที แซเทิร์นมองมือของตนเองที่สั่นเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามองฝ่ายตรงข้าม
“แรงดีนี่!!”
“ก็เห็นนี่!! เอาล่ะ แซเทิร์น!! ถึงเวลาจบเรื่องนี้!! ฉันจะจัดการแก!! ไม่ให้ผ่านทางตรงนี้ไปได้เด็ดขาด!!”
“หึ ๆ เจ้าคิดงั้นเหรอว่าข้าไม่สามารถผ่านทางไปได้ฤๅ!?” แซเทิร์นเอ่ยออกมาอย่างสงสัย
“เพราะฉันนี่ล่ะจะขวางแกจนกว่าจะจัดการแกได้!!”
แซเทิร์นได้ยินแบบนั้นเขาฉีกยิ้มอย่างคนบ้า ก่อนจะพุ่งตรงไปหาอีกฝ่าย เพอร์ซีย์เห็นแบบนั้นก็ตวัดดาบสองสามรอบก่อนที่จะตวัดดาบขึ้นม่านน้ำขนาดใหญ่บังเกิดขึ้นปิดทางข้างหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว แซเทิร์นเห็นก็ต้องหยุดชะงักกับการกระทำอีกฝ่าย
“ต่อสู้มาตั้งนานเริ่มป้องกันตัวงั้นเหรอ? ช่างน่าขำ!!”
“ทำไมคนเรามีสิทธิ์ป้องกันตัว!! แซเทิร์น”
แซเทิร์นพยายามวิ่งไปอีกทิศที่ไม่มีการป้องกัน แต่ว่าเพอร์ซีย์ก็เพิ่มม่านน้ำปกคลุมทุกทิศไม่ให้อีกฝ่ายออกมา แซเทิร์นที่เห็นแบบนั้นก็ถึงกับหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะตะโกนออกมา
“เจ้าคิดว่าม่านน้ำแค่นี้จะกักขังข้าได้งั้นเหรอ? บุตรโพไซดอน!!”
“ไม่รู้สินะ” เพอร์ซีย์กล่าวพร้อมกับค่อย ๆ เดินเข้ามาข้างใน "แต่มันก็สามารถขัดขวางแกไม่ให้ออกจากที่นี่ได้สักระยะ!!"
เพอร์ซีย์ยกมือขึ้นมาพร้อมกับคลื่นน้ำต่างเคลื่อนตัวพุ่งตรงไปหาอีกฝ่าย แซเทิร์นเห็นแบบนั้นก็กระโดดหลบการโจมตีของอีกฝ่ายก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปโจมตีอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรงอยู่ภายในคลื่นน้ำ เด็กบางคนที่เห็นก็รู้สึกไม่น่าเข้าไปข้างในนั้น แซเทิร์นต่อกรกับอีกฝ่ายอยู่สักระยะจนเขาคิดว่าตนเองควรเลิกเล่นกับอีกฝ่ายเสียทีก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายพร้อมเคียวใหญ่จนอีกฝ่ายยกดาบขึ้นมาป้องกันอีกทาง แต่ทว่าแซเทิร์นก็เปลี่ยนฝั่งเป็นมืออีกครั้งที่มีขยายใหญ่แปลงเปลี่ยนเป็นสีดำเหวี่ยงสุดแรงตบอีกฝ่ายกระเด็นไปด้านข้างอย่างแรง เพอร์ซีย์ไม่ได้ทันระวังตัวเขาไม่เห็นการเปลี่ยนทิศการโจมตีนั้นจนเขาโดนอย่างเต็มแรงจนกระเด็นไปตามพื้นจนฝุ่นตลบ เสียงได้เงียบลงชั่วขณะก่อนที่จะมีเสียงการเคลื่อนไหว สายตาสีเขียวกำลังพร่ามัวพื้นที่กำลังจับจ้องมันเรือนร่างจนการโฟกัสภาพตรงหน้าลำบากยิ่งกว่าอะไร เขาพยายามประคองสติขึ้นมาเงยหน้าขึ้นมองภาพตรงหน้า เขามองชายตรงหน้าที่มีกลับไปสู่สภาพเดิมอีกฝ่ายค่อย ๆ กำลังเดินตรงมาทางนี้อย่างเชื่องช้า
“รู้สึกว่าข้าอ่อนข้อให้เจ้ามากจนเจ้าได้ใช้จนประมาทไปสินะ บุตรโพไซดอน”
เพอร์ซีย์พยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นก่อนจะคายเลือดออกมาลงบนรองเท้าอีกฝ่ายที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ เขาเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเหยียบหยาดอีกฝ่าย
“ประมาทงั้นเหรอ? แกคิดผิดคิดไม่ดีกว่านะ!!”
แซเทิร์นจ้องมองอีกฝ่ายก่อนจะก้มมองรองเท้าของเขาที่โดนอีกฝ่ายถุยเลือดใส่ เขาก็ยกขาขึ้นมาเตะอีกฝ่ายทันที
“อ๊าก!!!”
เพอร์ซีย์ล้มลงไปกับพื้นอีกครั้ง แซเทิร์นเดินเข้ามาพร้อมกับยกขาเหยียบบนหน้าอกของอีกฝ่ายทันที
“อึ้ก!!”
“รู้ไหม? นิสัยของโพรทาเลียคงมาจากเจ้าที่กวนประสาทข้าได้ทุกครั้ง แต่...พ่อลูกเหมือนกัน...ทำให้อยากคิดเลยว่าเสียงกรีดร้องของเจ้าจะเหมือนนางแค่ไหนเวลาที่ข้าทรมานเจ้า!”
เพอร์ซีย์จ้องมองอีกฝ่ายที่พูดถึงลูกสาวเขาทำให้หน้าอันเรียบนิ่งกลายเป็นใบหน้าอันโกรธเกรี้ยว
“แกว่าไงนะ!!”
“ทำไม? โกรธงั้นเหรอ!? ไม่พอใจที่ข้าพูดถึงลูกสาวเจ้า? หรือการทรมานที่ทำให้ลูกสาวเจ้าต้องเจอกับความเจ็บปวดกัน!”
“หึ!! ฉันโกรธเหรอ? แกคิดไงกับคนที่เลี้ยงลูกมาด้วยความรัก!! ฉันรักลูกทุกคนถึงพวกเขาจะเกเรยังไงก็ตาม แต่ฉันก็เลี้ยงมาด้วยความเข้าใจ ฉันไม่เคยต้องทำร้ายลูก!! แต่แกกล้ามาใช้แผนลักพาตัวลูกสาวฉันและทำให้เธอต้องเจอกับเรื่องพวกนั้น!! ฉันควรโกรธแกเป็นพันเท่า!!! แซเทิร์น!!”
“หึ!! โกรธข้าเข้าไปเถอะ...แล้วก็...โทษตัวเองด้วยก็ดีที่พวกเจ้ากำเนิดตัวประหลาดออกมา!”
“ตัวประหลาด!?” เพอร์ซีย์เบิกตากว้างอย่างุนงง
"ใช่!! เพราะลูกของเจ้าทั้งสองเกิดมาพร้อมชะตากรรมที่ท่านผู้นั้นต้องการ!!"
“ท่านผู้นั้น? แกหมายถึงเคออสงั้นเหรอ!?”
แซเทิร์นได้ยินนามจากปากอีกฝ่ายก็รู้สึกไม่ชอบใจสุด ๆ “รู้สึกพี่ข้าจะพูดมากให้เจ้าฟังสินะ แต่ไม่ต้องห่วงเจ้ายังไม่รู้อีกเยอะว่าในอีกไม่ช้า เจ้าอาจจะได้เห็นลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้”
เพอร์ซีย์ได้ยินประโยคสุดท้ายก็ยิ่งทำให้เลือดภายในมันร้อนผ่าวนั้นทำให้เขามีความคิดบางอย่างก่อนจะจับขาอีกฝ่ายที่กำลังเหยียบหน้าอกเขาแล้วงัดมีดสั้นที่ซ่อนไว้แทงเข้าที่น่องของอีกฝ่ายจนเลือดสีทองกระฉูดออกมา
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!! แก!!”
“อย่าหวังว่าแกจะรอดจากตรงนี้!! ถ้าแกแตะต้องลูกทั้งสองของฉัน ฉันจะส่งแกไปนรกพร้อมกันกับฉัน!!”
“งั้นฉันก็จะฆ่าแกก่อน บุตรโพไซดอน!!”
แซเทิร์นยกขาออกก่อนจะกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายขึ้นมาแล้วเหวี่ยงอีกฝ่ายออกไปลอยเหนือตัวเขาแล้วลอยไปไกลจนไถลกับพื้น แซเทิร์นจับมีดสั้นที่แทงน่องของเขาก่อนจะดึงมันออก เขารู้สึกขมขื่นกับสิ่งที่ได้รับความเจ็บปวดยิ่งทำให้เขาอยากทรมานอีกฝ่ายเหมือนที่เขาเคยทำกับลูกอีกฝ่าย เขาหันไปไปมองอีกฝ่ายที่ลอยไปไกลจากจุดที่เขาอยู่ เพอร์ซีย์รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกายที่ตนเองโดนเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาแบบนี้ ก่อนที่เขานั้นจะลุกขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับยื่นมือไปด้านข้างก็มีสิ่งบางอย่างลอยมาหาเขา อาวุธยาวที่มีปลายแหลมสามแท่ง ตรีศูลประจำกายของเขา เขาจับมันตวัดหมุนไปตามทิศทางที่เขาขยับก่อนจะเตรียมตัวโจมตีใส่อีกฝ่ายอีกครั้ง
“ถ้าคิดจะฆ่ากันก็มา!! ฉันจะทำให้แกเห็นว่าใครกันแน่ว่าจะโดนฆ่า!!”
“ได้!! แล้วอย่ามาเสียใจที่แกจะตายด้วยน้ำมือของข้าละกัน!!”
“เพื่อครอบครัวฉันจะไม่เสียใจเด็ดขาด!!”
ทั้งสองพุ่งตรงเข้าหากันจนเกิดคลื่นการปะทะเป็นโซนิคออกมา เพอร์ซีย์ตวัดหอกของตนแทงเข้าไปที่หน้าอกอีกฝ่ายอย่างแรงจนอีกฝ่ายหลบการโจมตีนั้นก็ต้องมีโดนปลายหอกเฉียดผ่านจนเสื้อเขาขาด นั้นทำให้เขาต้องตวัดเคียวเตรียมฟันอีกฝ่าย แต่เจ้าตัวก็หลบการโจมตีทุกครั้งได้ เพราะจังหวะการเหวี่ยงดาบมันช้าไปชั่วขณะทำให้เพอร์ซีย์จับทางได้ เขาหมอบหลบการโจมตีนั้นก่อนจะลุกขึ้นมาเตรียมตวัดแขนเพื่อชกไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายแต่ทว่าร่างกายของเขาก็หยุดชะงักจนดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้างอย่างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขา
แซเทิร์นขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมา “ฮ่า ฮ่า ฮ่า แกคงลืมอีกอย่างว่าฉันเหมือนพี่ชายฉันสามารถย้อนเวลารอบข้างหรือ...หยุดเวลาก็ได้นะ!”
เพอร์ซีย์พยายามจะขยับร่างกายของเขาแต่มันก็ไม่เป็นพ้น เขาไม่ชอบเลยที่เขาต้องมาต่อสู้กับเทพที่อยู่เหนือตนเองมันยิ่งเหมือนเขาเป็นเพียงมดตัวเล็กที่กำลังจะต่อสู้กับนกตัวใหญ่ แซเทิร์นเริ่มเดิมรอบตัวเขาก่อนที่จะเตรียมตัวยกเคียวใหญ่ของเขาออกมาให้อยู่เหนือหัวเตรียมที่จะเหวี่ยงใส่
“ตายซะ บุตรโพไซดอน!!”
เสียงเหวี่ยงอันรวดเร็วผ่านเข้าหูของผู้ที่จะโดนมันผ่า แต่แล้วก็มีสิ่งบางอย่างพุ่งมาจากอีกด้านอย่างรวดเร็วจนทำให้แซเทิร์นกระเด็นไปไกลจนฝุ่นกระจายไปในบริเวณนั้นทำให้เพอร์ซีย์หลุดจากการควบคุม เขาค่อย ๆ เงยหน้ามองคนที่ช่วยเขาไว้จนเห็นชายร่างสูงที่เขาคุ้นเคย
“พ่อ!!”
“ต่อสู้ได้บันเทิงจริง ๆ ลูกชาย!!”
เพอร์ซีย์พยุงตัวเองขึ้นช้า ๆ “พ่อไม่ต้องลำบากมาช่วยผมก็ได้!!”
“จะบ้าหรือไง!!” โพไซดอนเดินเข้ามาช่วยพยุงลูกชาย “เจ้ามีสิทธิ์ตายได้ตลอดเวลาต่างจากพ่อที่เป็นเทพ!! พ่อไม่อยากเสียลูกคนไหนไปอีกเด็ดขาด!!”
“พ่อ...” เพอร์ซีย์จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกหนักอึ้งภายในใจ
“หึ ๆ คำพูดสวยหรูจริง ๆ หลานข้า!!” แซเทิร์นกำลังพยุงตัวเองขึ้นมาเขาถุยน้ำลายที่ผสมกับเลือดออกจากปาก เขาค่อย ๆ เดินออกมาจากเงาของควันฝุ่น “แต่เจ้ากล้ามาขัดขวางข้างั้นเหรอ!?”
“แน่ล่ะ!! เจ้าทำให้เราต้องออกโรงแบบนี้ ไม่สิ!! พวกเราต่างหาก!!”
สิ้นคำพูดนั้นกำแพงน้ำที่เพอร์ซีย์สร้างขึ้นก็สลายหายไปพร้อมกับเหล่าเทพมากมายกำลังเดินตรงเข้ามายังภายในพร้อมกับเด็ก ๆ เหล่ามนุษย์กึ่งเทพบางส่วนที่อยู่โดยรอบนั้น แซเทิร์นเห็นภาพตรงหน้านั้นก็ได้รู้สึกว่ารอบข้างนั้นเงียบสงัดไปนั้นทำให้เขารู้สึกอยากหัวเราะออกมา ก่อนที่จะมีหญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มเหล่าเทพนั้นทำให้ทุกคนไม่คิดว่านางจะออกมาสู่สนามรบแบบนี้
“แซเทิร์น!! อนุชาแห่งบิดาทวยเทพ!!”
น้ำเสียงของหญิงผู้หญิงเอ่ยพูดขึ้น หญิงสาวใบหน้าอันงดงามดั่งมารดาของเหล่าเทพ ทุกคนต่างทำความเคารพให้แก่อีกฝ่ายถึงแม้บางคนจะไม่ชอบนางก็ตามที แซเทิร์นเห็นอีกฝ่ายก็ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นอีกฝ่ายจนเขาฉีกยิ้มอย่างชอบใจที่ได้เห็นเด็กที่เขาเคยกินเมื่อนานมาแล้ว
“เจ้าเองเหรอ? หลานข้า เฮร่า”
“ข้าไม่อยากนับท่านเป็นผู้ใหญ่ในครอบครัวจริง ๆ ท่านนั้นเหมือนเด็กไม่มีวันโต!!”
“อุ๊ย!! หลานข้า…ด่าเจ็บจริง ๆ ต่างจากวัยเด็กของเจ้าที่ปากหวานและน่ารัก”
“วัยเด็ก? ข้าอยู่ในท้องท่านตั้งแต่ทารกท่านรู้หรือไงว่าข้าในวัยเด็กเป็นไง?”
“หือ? อ๋อ ลืมไปพ่อแม่เจ้าไม่เคยบอกสินะว่าพวกเจ้าสมัยก่อนเป็นไง?”
คำพูดของแซเทิร์นทำให้กลุ่มคนตรงหน้ามองกันอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรก่อนที่จะมีเทพองค์หนึ่งเดินเข้ามา
“เลิกพล่ามสักที แซเทิร์นตอนนี้คนของเจ้าเหลือเพียงน้อยนิด!! เจ้าจะไม่เหลือสมุนไว้ใช้งานอีกแล้ว!!” แอรีสเดินออกมาพร้อมกับกล่าวคำพูดถึงกองทัพของอีกฝ่าย
แซเทิร์นจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นยะเยือกทำให้คนโดนจ้องรู้สึกหนาวกายสุด ๆ เฮร่าก้าวขามาหนึ่งก้าวก่อนจะพูดบางอย่างต่อ
“ตอนนี้เหล่าเทพกำลังรวมตัวกันไม่ช้า เราจะจัดการท่านแล้วส่งตัวไปยังนรกทาร์ทารัสอีกครั้ง!!”
“คิดว่าที่แห่งนั้นจะขังข้าได้หรือไง!? เฮร่า!!” แซเทิร์นตะโกนออกมา
“ก็เคยขังท่านมาแล้วไม่ใช่หรือ?”
“เหรอ?”
แซเทิร์นเอ่ยถาม ดวงตาที่จ้องมองอย่างไร้อารมณ์มาทางเฮร่าทำให้นางคิดว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรก่อนที่อีกฝ่ายจะหายไปชั่วขณะก่อนจะมาโผล่อยู่ตรงหน้าของนางทันที
“แต่คิดว่าข้าจะยอมให้เจ้าทำได้หรือ?”
แซเทิร์นเหวี่ยงเคียวไปทางเฮร่าที่อยู่ตรงหน้านางจ้องมองการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตื่นตระหนกที่ตนเองไม่ทันระวังตัวว่าอีกฝ่ายนั้นจะเข้ามาโจมตีอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าก็มีบางอย่างผ่านสายตาของนาง บดบังสิ่งตรงหน้าเหลือเพียงเส้นผมยาวสลวยปิดบังแผ่นหลัง ดวงตาของเฮร่าเบิกกว้างจับจ้องบุคคลปริศนาอย่างงุนงงว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่ภายในใจนั้นกับรู้สึกคิดถึงคะนึงหา ยิ่งกว่าอะไรจนสับสนว่าชายตรงหน้าเป็นใครกันแน่
‘เจ้าเป็นใครกัน?’
จบตอนที่ 139 โปรดติดตามตอนที่ 140 ต่อไป