ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 139 ขัดขวางจนตัวตาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 140 คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 141 จุดสิ้นสุดไม่ใช่จุดสิ้นสุดเสมอไป [จบ]

เนื้อหา

ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย

ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย

เปลือกสีเนื้อกำลังค่อย ๆ ยกตัวขึ้นเผยดวงตาสีเขียวอันส่องประกาย ภาพอันเลือนรางจนแทบมองไม่เห็นสิ่งใดโดยรอบตัวเป็นสีเทา ๆ ก่อนที่หางตานั้นจะเห็นเงาคนกำลังนั่งอยู่ด้านข้างของเธอนั้นทำให้เธอหยีตามองว่าใครกันที่มานั่งข้าง ๆ แต่เธอไม่เห็นอะไรนอกจากผมสั้นสีทองก็ทำให้นึกถึงใครบางคนอย่างเจสันที่กำลังนั่งเฝ้าเธอ ยิ่งคิดว่าอีกฝ่ายมาเฝ้าเธอทำไม แต่ก็ทำให้คิดว่าตัวเองตอนนี้คงกำลังอยู่ในสถานพยาบาลแน่ ๆ ทำให้นึกเรื่องเมื่อคืนที่เธอเกือบฆ่าซุสและโดนใครบางคนทุบหลังคอจนสลบ โอกาสกลับบ้านมันหายไปในพริบตายิ่งน่าเศร้ากว่าเดิมจนเธอยกแขนขึ้นมาบังน้ำตาของเธอที่กำลังไหลออกมา ชายหนุ่มที่นั่งหันหลังให้โพรทาเลียก็หันไปมามองเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นของคนรัก

 

“โพร...เป็นอะไรนะ?” น้ำเสียงอันอ่อนโยนเอ่ยถามคนรักของตนเอง

โพรทาเลียได้ยินน้ำเสียงอันคุ้นเคยก่อนจะโดนมืออันเรียวยาวจับแขนให้หลบออกเพื่อมองใบหน้าที่มีน้ำตาไหลออกมา โพรทาเลียจ้องมองใบหน้าที่กำลังเข้ามาใกล้จนเห็นเด่นชัดใบหน้าอันหล่อเหลาและทรงผมที่เปลี่ยนไปจากยาวกลายเป็นผมสั้น ดวงตาทั้งสองกำลังประสานเข้าหากัน

“พี่...พี่...พี่ฟีนีอุส...”

“ใช่...พี่เอง...คนดีของพี่ ร้องทำไมคะ?” ฟีนีอุสยกมือขึ้นมาสัมผัสข้างแก้มอีกฝ่ายพร้อมกับลูบใบหน้านั้นเบา ๆ

 

คำพูดอันไม่คุ้นเคยทำเอาโพรทาเลียไถลตัวขึ้นจนชินกำแพงก่อนจะลุกขึ้นนั่ง เธอจ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังมองเธอด้วยสีหน้าสงสัย แต่ตอนนี้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวไปหมด เธอจ้องมองอีกฝ่ายที่เปลี่ยนไปแค่ทรงผมแต่ทรงใหม่นี้มันดูดีเกินกว่าที่เธอจะรับไหว แต่ทำไมอีกฝ่ายถึงอยู่ที่นี่ เพราะเธอยังไม่ได้เปิดประตูเหมือนกลับมายังยุคเดิม เธอตั้งสติก่อนจะขยับเข้าไปหาอีกฝ่ายแล้วจับใบหน้าอีกฝ่ายเบา ๆ

 

“ใช่...พี่จริง ๆ เหรอ?”

ฟีนีอุสได้ยินน้ำเสียงอันสั่นเครือของอีกฝ่าย เขาเขยิบเข้าไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับดึงตัวอีกฝ่ายเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเขา

“พี่เอง...จะใครอีกล่ะ? พี่แค่เปลี่ยนทรงผมนะ”

โพรทาเลียเงยหน้ามองใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มตรงหน้า นั้นทำให้เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายนั้นจะอยู่ตรงนี้นั้นก็แปลว่าตัวเธออยู่ในยุคปัจจุบันแล้ว ใบหน้าอันอ้ำอึ้งเริ่มเปลี่ยนไปทำหน้าเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ เธอโอบกอดชายหนุ่มตรงหน้าพร้อมกับน้ำตาที่กำลังไหลริน

“ดีใจจัง...หนู...หนูทำสำเร็จแล้ว...”

ฟีนีอุสฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเขาก็ได้แต่ลูบหัวอีกฝ่ายเบา ๆ ถึงอีกฝ่ายจะเจออะไรมาเยอะ แต่ก็ยังเป็นเด็กในสายตาของเขา ฟีนีอุสยกมือขึ้นมาจับใบหน้าอีกฝ่ายพร้อมกับเช็ดน้ำตาทั้งสองข้างอีกฝ่าย

“ไม่ร้องนะ คนดี”

“ทำไงได้ล่ะ...พี่รู้ไหมว่าน้องเจออะไรมั้ง น้องกลัวนะ...กลัวว่าทำอะไรพลาด...น้องจะไม่ได้เจอพี่กับลูกอีก...”

“หมายความว่าไง?”

“ตอนที่พวกหนูตื่นขึ้นเมื่อหลายวันก่อน...ปัจจุบันมันเปลี่ยนไป...ทั้งพี่...ทั้งพ่อพี่และพ่อหนู...ทุกคนไม่อยู่...คนที่หนูรู้จักหลายคนไม่อยู่ที่นี่...คนเราตื่นมาเจอแบบนั้นจะรู้สึกไง!!”

ฟีนีอุสได้ยินก็นึกสภาพที่รู้สึกอ้ำอึ้งไปหมด “ไม่มีพี่...ไม่มีเอมิลี่...ไม่มีเด็ก ๆ”

“ใช่!!”

“โธ่...โพร...พี่เสียใจนะ…”

ฟีนีอุสลูบใบหน้าของอีกฝ่าย เขาจ้องมองใบหน้าที่เขาโหยหาและคิดถึงมานานและสงสารอีกฝ่ายที่ดันไปเจอเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น ก่อนที่เขาจะจ้องอีกฝ่ายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน

“แต่พี่อยู่นี่แล้วนะ...เราทำสำเร็จแล้วนะ”

“อืม!!” โพรทาเลียพยักหน้าหนึ่งครั้ง เธอดีใจจนน้ำตาไหลออกมามากกว่าเดิม

“โพร...”

“ค่ะ...” โพรทาเลียลืมตาขึ้นมามองอีกฝ่ายเธอยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาของตนเอง

“พี่อยากบอกว่า...ดีใจที่เรากลับมา...พี่กับลูก ๆ ตกใจมากเลยนะที่ว่างที่เธอนอนกับว่างเปล่า...พี่นึกว่าเธอออกไปสูดอากาศหรือไปทำอะไรที่ชั้นหนึ่ง...แต่ว่า...ไม่ใช่แค่เธอที่หายไป น้องสาวเธอก็หายไป...ตอนนั้นพี่...กลัวมากเลยนะ...กลัวว่าพวกอสูรพวกนั้นมาลักพาตัวเธอไปหรือเปล่า”

โพรทาเลียฟังอีกฝ่ายพูดก็รู้สึกแย่ที่ตัวเองทำให้คนที่รักเป็นห่วงแบบนี้ ตอนนั้นอีกฝ่ายคงวิตกกังวลและสับสนว่าเธอนั้นหายไปไหน เธอยิ่งซุกและโอบกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้น

“หนูกลับมาแล้วค่ะ...หนูจะไม่หายไปไหนอีกแล้วนะ”

 

ฟีนีอุสมองรอยยิ้มที่น่ารักถึงอีกฝ่ายจะรอยแผลเป็นหรืออะไรก็ตามที แต่หญิงสาวตรงหน้าของเขานั้นยังน่ารักในสายตาของเขา เขายกมือขึ้นมาลูบข้างแก้มอีกฝ่ายเบา ๆ ก่อนที่เขาจะปล่อยอารมณ์ของเขาตามสิ่งที่ต้องการเขาค่อย ๆ ยื่นใบหน้าของตนเองเข้าหาใบหน้าตรงหน้า โพรทาเลียเห็นท่าทางอีกฝ่ายก็รับรู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร แต่ว่าเธอกลับไม่ขัดขืนแต่กลับขยับเข้าหาอีกฝ่ายเช่นกัน จนริมฝีปากอันบางประกบริมฝีปากอันอวบอิ่มของหญิงสาว ฟีนีอุสได้สัมผัสทั้งรสชาติและผิวสัมผัสที่เขาอยากมานาน ยิ่งดื่มด่ำกับมันทำให้เขาไม่อยากปล่อยมันออกไป เสียงลมหายใจปะทะกันอย่างร้อนผ่าวไปหมด ทั้งสองจ้องมองผ่านดวงตาสองสีก่อนที่จะดื่มด่ำรสชาตินี้กันอย่างเพลิดเพลิน แต่แล้วก็มีเสียงแหลมตะโกนขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

 

“พ่อ!!!”

ชายหญิงทั้งสองสะดุ้งกันอย่างตกใจ พวกเขาถอยห่างออกจากกันก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงที่ตะโกนออกมานั้นก็คือลูกชายที่กำลังเอามือปิดตาน้องสาวที่กำลังสนใจสิ่งที่พ่อแม่กำลังทำกัน

“เดวิค...” ฟีนีอุสจ้องมองลูกชายที่มาขัดจังหวะ

“ทำไมไม่บอกกันว่าแม่ฟื้นแล้วอ่ะ!!” เดวิคพูดอย่างดุดัน ก่อนจะรีบวิ่งไปหาแม่ของเขาทันที “แม่ครับ!!”

“เดวิค...” โพรทาเลียกอดลูกชายที่รีบวิ่งมาหา

“แม่เขาพึ่งตื่นนี่น่า!” ฟีนีอุสมองลูกชายที่รีบวิ่งตรงเข้ามากอดอีกฝ่ายโดยไม่สนใจเขาเลย

“ชิ!!” เดวิคทำน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

คาเร็นน่ารีบวิ่งมาหาแม่เช่นเดียวกัน เธอปีนจากปลายเตียงแล้ววิ่งมาอยู่อีกข้างของแม่ “แม่!แม่หายไปไหนมา หนูกับพี่คิดถึงแม่มาก ๆ เลยนะ”

“คิก ๆ แม่ขอโทษนะ ที่หายตัวไป แม่คิดถึงลูกทั้งสองมากเลยนะ” โพรทาเลียโอบกอดลูกทั้งสองอย่างคิดถึง เธอหอบแก้มลูกทั้งสองอย่างคิดถึง

“แม่!! ผมอายนะ!!”

“จะอายใครกัน? มีแค่พ่อกับแม่นะ”

ถึงพูดแบบนั้นแต่สายตาของเดวิคก็หันไปทางพ่อของเขาที่ยกยิ้มอย่างสนุก โพรทาเลียเห็นแบบนั้นก็แอบเหน็บอีกฝ่ายเบา ๆ

“พี่ค่ะ...”

“อะไรเหรอ?”

“ห้ามแกล้งลูกนะ”

“พี่เปล่านะ!!”

“เหรอคะ?” โพรทาเลียยกคิ้วอย่างสงสัย

“พี่พูดจริงนะ สัญญาเลย!!”

อีกฝ่ายยังการันตีว่าตัวเองจะไม่แกล้งลูกชายเธอหันไปมองลูกชายที่ทำท่าทางส่ายหน้าอย่างแรงบอกว่าอย่าไปเชื่อ จนเธอยกปากขึ้นจนเหมือนปากเป็ด

“ถ้าฉันเห็นพี่แกล้งลูก ฉันจะโกรธจริง ๆ นะ”

“ไม่เอาน่า...แค่หยอกเล่นเอง...”

“เหรอ?”

 

ฟีนีอุสมองอีกฝ่ายที่ทำสายตาแบบนั้นก่อนจะมองเจ้าลูกชายที่พออยู่หลังแม่แล้วทำท่าแลบลิ้นใส่เขา ทำให้คิดเลยว่าลับสายตาคนเป็นแม่เมื่อไหร่ เขาจะแกล้งให้สาสมกับที่เขาโดนแกล้งกลับจริง ๆ โพรทาเลียมองสองพ่อลูกที่นิสัยไม่ต่างกันเท่าไหร่ก่อนจะนึกบางอย่างได้ว่าก่อนหน้าเธอไม่ได้เปิดประตูกลับมาแล้วเธอกลับมาได้ไง ก่อนจะเอ่ยถามอีกฝ่าย

 

“แล้วใครพาฉันกลับมากัน?”

“อ๋อ คนพาเธอกลับมาก็คือคุณแจ็กสัน”

“พ่อเหรอ?”

 

สิ้นคำพูดนั้นโพรทาเลียก็ครุ่นคิดมาตลอดทางว่าคนที่พาเธอกลับมาคือพ่อละก็คนที่ทุบหลังคอเธอก็คงไม่พ้นพ่อด้วยสินะ นั้นทำให้เธออยากไปเจออีกฝ่ายจริง ๆ แต่ตอนที่อยู่ที่ห้องนอนเธอยังสงสัยว่าห้องนั้นของใครแต่จากทิศทางของบ้านนั้นคือห้องที่นูอัสเคยใช้ แต่ตอนนี้มันไม่มีอะไรนอกจากห้องนอนและข้าวของเก่า ๆ สมัยเธอยังเด็ก พี่ฟีนีอุสบอกว่าพ่อแม่ของเธออยากให้ห้องนี้กลับเป็นห้องที่เธอชอบประตูห้องสีเขียวมีภาพทะเลอยู่ทางเข้าประตู ภายในห้องที่ตกแต่งโทนสีเขียว น้ำตาลอ่อน เป็นแบบโทนธรรมชาติเหมือนสมัยเด็ก ทำให้เธอคิดถึงมาก ๆ ระหว่างที่เดินไปกันนั้นโพรทาเลียก็สงสัยว่าจะไปหาพ่อที่ไหน

 

“เรากำลังจะไปไหนกันเหรอ?”

“ไปหาคุณเพอร์ซีย์ที่บ้านใหญ่นะ”

“อ๋อ...คงกำลังทำงานสินะ...” โพรทาเลียเกือบลืมไปว่าพ่อของเธอเป็นผู้ดูแลค่ายนี้น่าตอนนี้คงทำงานอยู่ที่นั่นล่ะ

“ประชุมนะ...เกี่ยวกับสงครามนะ...ตอนนี้สถานการณ์มันย่ำแย่มาก”

“สงคราม? สงครามอะไร? ผู้ใดกล้ามาก่อสงครามกับค่ายเรา!?”

“แซเทิร์นค่ะ แม่...” 

โพรทาเลียได้ยินก็ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ เมื่อได้ยินชื่อนั้นจากลูกสาว ก่อนที่ลูกชายจะเอ่ยต่อ

“เจ้านั้นเริ่มแผนของมัน...มันโจมตีตอนที่แม่กับน้าไม่อยู่”

“ว่าไงนะ? แล้วมีคนบาดเจ็บเยอะไหม?”

“ก็บางส่วนนะ...ตอนนี้พวกเรามีกำลังรบไม่เพียงพอ เพราะบางส่วนต้องออกไปปกป้องคนที่อยู่ภายนอกแล้วพากลับมานี้” ฟีนีอุสอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง

โพรทาเลียได้ยินก็รู้สึกผิดที่ตัวเองไม่อยู่ที่นี่ ก่อนจะฟังแฟนที่ค่ายกำลังทำแต่นั่นมันเสี่ยงที่จะมาตายที่นี่กันมากกว่า

“ไม่ ๆ ไม่ควรพากลับมานะ! ที่นี่เหมือนกรงหนูกรงหนึ่งเลยนะ!!”

“พี่เข้าใจ โพร แต่ว่าถ้าไม่ทำแบบนั้นคนที่อยู่ข้างนอกจะตายนะ”

โพรทาเลียฟังยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดเธอแข็งแกร่งกว่าทุกคนและรู้กลยุทธ์ของพวกมันทุกอย่าง ถ้าเธออยู่อาจจะทำให้ทุกคนปลอดภัยได้มากกว่านี้ ระหว่างที่อีกฝ่ายมีสีหน้าคิดมากอยู่นั้น ฟีนีอุสกำลังคิดหัวข้อสนทนาที่จะทำให้อีกฝ่ายสบายใจขึ้นก่อนจะนึกถึงวันสำคัญที่จะมาใกล้ในอีกสองวัน

“เสียดายที่ปีนี้คงไม่ได้ฉลองวันเกิดนะ”

โพรทาเลียที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้นก็หลุดออกจากความคิดแล้วมาฟังอีกฝ่ายที่เปลี่ยนเรื่องพูดอย่างกะทันหัน

“วันเกิด? วันเกิดใคร?”

“พ่อ!!”

“บอกทำไมคะนั้น!!”

สองแฝดหันไปมองคนเป็นพ่อที่พูดอะไรที่เป็นเลศนัยทำให้คนเป็นแม่สงสัยในคำพูดนั้น โพรทาเลียมองทุกคนที่กังวลกับคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า

“มีอะไรเกี่ยวกับวันเกิดเหรอ?”

“ไม่มีครับ!! แม่!!”

“ใช่ค่ะ!! ไม่มีหรอก!!”

“อะไรกันก็ช่วงนี้เราอยู่เดือนมิถุนายน...เธอน่าจะรู้นะว่าใกล้วันเกิดใคร?”

โพรทาเลียยกนิ้วขึ้นมานับวันตั้งแต่วันที่เธอหายไปจนกระทั่งนับถึงวันหนึ่งที่เธอจำได้ว่าเป็นวันอะไร

“ตายจริง!”

ฟีนีอุสเห็นสีหน้าอีกฝ่ายเขากำลังจะเฉลย แต่โพรทาเลียย่อตัวลงไปหาลูก ๆ ทันทีพร้อมกับจับตัวลูกทั้งสองคน

“แม่ขอโทษนะ ที่แม่ไม่อยู่ฉลองวันเกิดของลูก ๆ นะ!!”

ฟีนีอุสถึงกับเกือบล้มไปข้างหน้าที่อีกฝ่ายกับจำวันที่เขาอยากเฉลยไม่ได้ ดันไปจำวันเกิดลูกที่ผ่านไปได้สักระยะแล้ว สองแฝดหัวเราะคิกคักที่กังวลจนเกินไปสำหรับแม่นั้น ถ้ามีพวกเขาอยู่ก็คิดถึงแต่พวกเขาสองคน ไม่เคยคิดถึงตัวเองก่อนเลย

เดวิคส่ายหน้าเบา ๆ “ไม่เป็นไรครับ ผมกับน้องได้ฉลองกับพ่อ ปู่ย่า ตายายเรียบร้อยแล้ว ไว้ครั้งหน้าแม่มาฉลองให้พวกผมก็ได้นะ”

“อืม ๆ พวกหนูรอได้!!”

“ทั้งสองคน...” โพรทาเลียมองลูกทั้งสองที่น่ารักและเชื่อฟังมาก ๆ จนเธองุนงงว่าในสถานที่แบบนั้นเธอกับเลี้ยงลูกออกมาเก่งได้ยังไง

ฟีนีอุสกระแอมเบา ๆ “ไปต่อเถอะ”

“ค่ะ!”

 

ฟีนีอุสเดินนำครอบครัวของเขาไปยังจุดหมายปลายทาง ตลอดทางโพรทาเลียเห็นผู้คนต่างพากันซ้อมอย่างหนักบางคนเห็นครอบครัวเธอก็ต่างโบกมือกันอย่างดีใจ เธอโบกมือตอบทุกคนจนมาถึงบ้านใหญ่ก็ได้เห็นผู้ใหญ่ทั้งหลายกำลังประชุมกันอย่างเคร่งเครียดถึงกองกำลังที่กำลังจะล้อมค่ายในไม่ช้าถ้าพวกเขาไม่ทำอะไรสักอย่างตอนนี้พวกเขาต้องหาคนมาช่วยเป็นกำลังเสริม แต่จะหาจากไหนนิโคบอกว่าสามารถขอให้เทพยอมให้ลูกสายเลือดแอรีสขอกองกำลังจากแอรีสได้ แต่แคลรีสบอกไม่เอาเพราะขอทีไรต้องมีสิ่งตอบแทนตลอด โพรทาเลียที่แอบฟังอยู่ข้างนอกก็ครุ่นคิดว่ามันกลายเป็นเรื่องใหญ่น่าดู เธอมองคนเป็นพ่อก่อนจะคิดบางอย่างได้เธอก็ค่อย ๆ เดินไปหาพ่อของเธอ ลูก ๆ ทั้งสองต่างพากันรีบวิ่งตามแม่ไป ฟีนีอุสเห็นแบบนั้นก็เดินตามไปด้วย พวกผู้ใหญ่ที่กำลังพูดคุยอยู่นั้นก็เห็นเด็กสาวหน้าตาคุ้นเคยเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังเพอร์ซีย์

 

“แจ็กสัน!!” วิลที่อยู่ด้านข้างอีกฝ่ายกระซิบเรียกด้วยท่าทางตื่นตระหนก

“หือ? โทษนะ ฉันกำลังคิดว่าจะหากำลังพลมาจากไหนอยู่นะ!!”

“เงยหน้ามาก่อน!!”

“อย่าพึ่งเซ้าซี้สิ!”

“เพอร์ซีย์!!”

“ไอ้บ้าแจ็กสัน!!”

 

ทุกคนกำลังเรียกอีกฝ่ายให้หันมาสนใจสิ่งที่อยู่ข้างหลัง แต่ว่าโพรทาเลียยกมือขึ้นมากำหมัดให้ทุกคนที่กำลังเรียกเพอร์ซีย์ต้องหยุดเสียงของตนเองกันหมด สภาพแวดล้อมต่างเงียบสนิทจนเพอร์ซีย์ที่ตั้งใจคิดอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นมามองทุกคนที่นิ่งเงียบไป เขามองทุกคนที่มีสีหน้าแปลก ๆ ก่อนจะเห็นสายตาบางคนมองไปข้างหลังของเขา ตอนนี้เขารู้สึกเย็นยะเยือกจากด้านหลังก่อนที่จะค่อย ๆ หันไปมองข้างหลังอย่างเชื่องช้าก่อนจะเห็นใบหน้าอันคุ้นเคยก้มมามองเขา

 

“ไงคะ~ พ่อ~”

“เย้ย!!” 

เพอร์ซีย์สะดุ้งตัวโยก เมื่อเห็นลูกสาวที่โผล่มาแบบไม่ให้เสียงเลยสักนิด แถมสายตาที่กำลังจ้องเขาเหมือนกำลังอยากจะฆ่าเขาสุด ๆ

“โพรทาเลีย...ลูก...”

“ถ้าจะถามว่าหนูตื่นแล้วเหรอ? ถ้าหนูไม่ยืนอยู่ตรงนี้ ก็คงยังไม่ตื่นหรอกค่ะ!” โพรทาเลียกอดอกมองคนเป็นพ่อด้วยสายตาเฉยชา

เพอร์ซีย์รู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวของลูกเปลี่ยนไปจนเขารู้สึกไม่ชอบมาพากล ก่อนที่สายตาของเขาจะเห็นท่าทางของฟีนีอุสที่ยอมช่วยพ่อตา เขาทำท่าเหมือนเอามือพันคอของเขาจนเพอร์ซีย์รู้ว่าลูกสาวกำลังอยู่ในสภาวะอะไร กำลังอยู่ในสภาวะเคืองที่เขาโจมตีเธอตอนต่อสู้กับซุสนั้นเอง ก่อนที่เพอร์ซีย์จะกุมมือลูกสาวอย่างออดอ้อน

“โพร...โกรธพ่อเหรอ? พ่อไม่ได้ตั้งใจทำแรงกับลูกเลยนะ” :

“รู้ด้วยเหรอคะ? ว่าจะพูดอะไร?”

“พ่อรู้สิ...เราโกรธที่พ่อโจมตีเราตอนไปช่วยใช่ไหม...พ่อไม่ได้อยากทำนะ แต่พ่อห่วงความปลอดภัยของลูกนะ อย่าโกรธพ่อเลยนะ” เพอร์ซีย์กำลังอธิบายให้ลูกสาวเข้าใจว่าตอนนั้นทำเอาเพราะอะไร

 

พวกผู้ใหญ่ทุกคนต่างมองอีกฝ่ายที่กำลังปลอบลูกสาวที่กำลังมองด้วยส่ายหน้าเฉยชามาก ๆ พวกเขากำลังคิดว่าควรยกเลิกการประชุมไปก่อนดีไหม แต่ว่าไครอนกับโอเซซัสบอกว่าให้อยู่เฉย ๆ มองสถานการณ์ไปก่อนถ้าเกิดโพรทาเลียโจมตีใส่เพอร์ซีย์ค่อยหาที่หลบกัน พวกผู้ใหญ่ได้ยินก็อยากหาที่หลบทันที โพรทาเลียจ้องมองคนเป็นพ่อพยายามปลอบ เธอจ้องมองเขานึกถึงช่วงเวลาที่ไร้เขา มันเจ็บปวดยิ่งกว่าอะไรพอมาเจออีกฝ่ายที่กำลังอ้อนเธอเหมือนตอนเด็ก ๆ ที่เธอโกรธในเวลาที่ไม่ชอบใจก็มีแต่พ่อที่เห็นและเข้ามาปลอบ นั้นทำให้เธอโกรธเข้าไม่ลงเพราะคนเป็นพ่อมีเหตุผลเสมอนั้นทำให้เธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ

 

“พ่อค่ะ...”

“พอเถอะ...หนูเข้าใจแล้ว”

“จริงนะ...ไม่โกรธพ่อแล้วนะ?”

“ไม่โกรธแล้วค่ะ ถึงจะโกรธก็โกรธไม่ลง เพราะพ่อช่วยหนูนี่น่า...ไม่งั้นตอนนี้หนูคงไปอยู่ในคุกของเขาโอลิมปัสแล้วก็ได้”

“ก็จริงล่ะนะ...เกือบฟันคอซุสเลยนี่น่าตอนนั้น” แคลรีสแซงขึ้นมาจนทุกคนเข้าไปเอ็ดอีกฝ่ายทันที

 

เพอร์ซีย์หันไปจ้องอย่างไม่พอใจที่อีกฝ่ายพูดแบบนั้น เขาอุตส่าห์ไม่พูดถึงเหตุการณ์นั้นให้ลูกสาวต้องนึกถึง แต่โพรทาเลียก็นึกถึงว่าถ้าตอนนั้นพ่อไม่เข้ามาขัดขวางตัวเธอที่ควบคุมสติไม่อยู่ฟันคอของซุสขึ้นมาจะทำไง ตอนนี้เธอคงอยู่ในคุกไปแล้วจริง ๆ แล้วเธอจะไม่สามารถกลับบ้านได้และไม่สามารถมาพบลูกทั้งสองคนของเธอแน่ ๆ เธอส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะมองเอกสารบนโต๊ะกับแผนผังที่ฉากอยู่บนโต๊ะ เธอมองกำลังพลของพวกแซเทิร์นที่มาทั้งห้าทิศ เธอจดจำแล้วจะไปจัดการกับพวกมันที่หลัง

 

“กองกำลังของแซเทิร์นมีเท่านี้เหรอคะ?”

“ใช่แล้วล่ะ” เพอร์ซีย์ตอบลูกสาวก่อนจะหันขวับอย่างสงสัย “ลูกรู้แล้วเหรอ?”

“พี่ฟีนีอุสบอกนะคะ”

เพอร์ซีย์ได้ยินแบบนั้นก็หันไปจ้องเจ้าว่าที่ลูกเขยด้วยสีหน้าไม่พอใจที่เอาเรื่องนี้ไปบอกลูกสาวเขา ฟีนีอุสยักไหล่อย่างไม่คิดอะไรการพออีกฝ่ายไม่ใช่เรื่องผิด แต่เขาไม่ใช่คนบอกนี่สิ โพรทาเลียจ้องมองแผนต่าง ๆ ที่พอกำลังเขียน

“หนูว่าเรายังมีอีกวิธีที่จะจัดการพวกมันได้ในพริบตานะ”

“เธอมีแผนอะไรกัน?” นิโคเอ่ยถามขึ้น

โพรทาเลียได้ยินเสียงคุ้นเคยก็เงยหน้ามอง “อ๊า...อยู่ด้วยเหรอคะ? คุณนิโค”

“อะแฮ่ม...ก็...ฉันมีอาการมึนหัวเหมือนทุกคนนะ...เลยต้องกลับมารักษาตัว...”

นิโคทำท่าทางอย่างเขิน ๆ เขาไม่คิดว่าคนที่จะทำให้ความหวังเขาทุกอย่างเจิดจ้าได้จะเป็นเด็กน้อยคนนี้ ไม่รู้ว่าเป็นลิขิตอะไรกันถึงได้เขากับอีกฝ่ายถึงมาเจอกันได้แบบนี้

“รู้สึกเราสองคนไม่ได้มาเจอกันเพราะความบังเอิญสินะ...”

“โลกนี้ไม่มีความบังเอิญค่ะ มีแต่สิ่งที่ถูกลิขิตไว้แล้วทั้งนั้นค่ะ”

“ก็จริงนะ”

“เหมือนเรื่องของพวกเราสินะ”

 

โพรทาเลียได้ยินน้ำเสียงอันคุ้นเคยถึงจะมีน้ำเสียงที่เข้มขึ้นกว่าตอนเป็นวัยรุ่น แต่เธอจะลืมได้ไงน้ำเสียงของชายที่เธออยู่ด้วยแค่ไม่กี่วันและพยายามหาตัวอีกฝ่ายอีก เธอต้องลำบากแค่ไหนกันแต่ความลำบากนั้นยังคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้กลับคืนมา เธอเงยหันไปมองชายผมทองวัยสี่สิบกว่า ๆ ที่กำลังจ้องมองเธอด้วยรอยยิ้มกินใจที่ใคร ๆ มองคนตกหลุมรักเหมือนครั้งแรกที่เธอรู้จักอีกฝ่ายในยุคนี้ เธอหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยเรียกอีกฝ่าย

 

“ไม่ได้เจอกันนานนะคะ คุณเจสัน”

 

จบตอนที่ 132 โปรดติดตามตอนที่ 133 ต่อไป