ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย
เปลือกสีเนื้อกำลังค่อย ๆ ยกตัวขึ้นเผยดวงตาสีเขียวอันส่องประกาย ภาพอันเลือนรางจนแทบมองไม่เห็นสิ่งใดโดยรอบตัวเป็นสีเทา ๆ ก่อนที่หางตานั้นจะเห็นเงาคนกำลังนั่งอยู่ด้านข้างของเธอนั้นทำให้เธอหยีตามองว่าใครกันที่มานั่งข้าง ๆ แต่เธอไม่เห็นอะไรนอกจากผมสั้นสีทองก็ทำให้นึกถึงใครบางคนอย่างเจสันที่กำลังนั่งเฝ้าเธอ ยิ่งคิดว่าอีกฝ่ายมาเฝ้าเธอทำไม แต่ก็ทำให้คิดว่าตัวเองตอนนี้คงกำลังอยู่ในสถานพยาบาลแน่ ๆ ทำให้นึกเรื่องเมื่อคืนที่เธอเกือบฆ่าซุสและโดนใครบางคนทุบหลังคอจนสลบ โอกาสกลับบ้านมันหายไปในพริบตายิ่งน่าเศร้ากว่าเดิมจนเธอยกแขนขึ้นมาบังน้ำตาของเธอที่กำลังไหลออกมา ชายหนุ่มที่นั่งหันหลังให้โพรทาเลียก็หันไปมามองเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นของคนรัก
“โพร...เป็นอะไรนะ?” น้ำเสียงอันอ่อนโยนเอ่ยถามคนรักของตนเอง
โพรทาเลียได้ยินน้ำเสียงอันคุ้นเคยก่อนจะโดนมืออันเรียวยาวจับแขนให้หลบออกเพื่อมองใบหน้าที่มีน้ำตาไหลออกมา โพรทาเลียจ้องมองใบหน้าที่กำลังเข้ามาใกล้จนเห็นเด่นชัดใบหน้าอันหล่อเหลาและทรงผมที่เปลี่ยนไปจากยาวกลายเป็นผมสั้น ดวงตาทั้งสองกำลังประสานเข้าหากัน
“พี่...พี่...พี่ฟีนีอุส...”
“ใช่...พี่เอง...คนดีของพี่ ร้องทำไมคะ?” ฟีนีอุสยกมือขึ้นมาสัมผัสข้างแก้มอีกฝ่ายพร้อมกับลูบใบหน้านั้นเบา ๆ
คำพูดอันไม่คุ้นเคยทำเอาโพรทาเลียไถลตัวขึ้นจนชินกำแพงก่อนจะลุกขึ้นนั่ง เธอจ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังมองเธอด้วยสีหน้าสงสัย แต่ตอนนี้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวไปหมด เธอจ้องมองอีกฝ่ายที่เปลี่ยนไปแค่ทรงผมแต่ทรงใหม่นี้มันดูดีเกินกว่าที่เธอจะรับไหว แต่ทำไมอีกฝ่ายถึงอยู่ที่นี่ เพราะเธอยังไม่ได้เปิดประตูเหมือนกลับมายังยุคเดิม เธอตั้งสติก่อนจะขยับเข้าไปหาอีกฝ่ายแล้วจับใบหน้าอีกฝ่ายเบา ๆ
“ใช่...พี่จริง ๆ เหรอ?”
ฟีนีอุสได้ยินน้ำเสียงอันสั่นเครือของอีกฝ่าย เขาเขยิบเข้าไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับดึงตัวอีกฝ่ายเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเขา
“พี่เอง...จะใครอีกล่ะ? พี่แค่เปลี่ยนทรงผมนะ”
โพรทาเลียเงยหน้ามองใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มตรงหน้า นั้นทำให้เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายนั้นจะอยู่ตรงนี้นั้นก็แปลว่าตัวเธออยู่ในยุคปัจจุบันแล้ว ใบหน้าอันอ้ำอึ้งเริ่มเปลี่ยนไปทำหน้าเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ เธอโอบกอดชายหนุ่มตรงหน้าพร้อมกับน้ำตาที่กำลังไหลริน
“ดีใจจัง...หนู...หนูทำสำเร็จแล้ว...”
ฟีนีอุสฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเขาก็ได้แต่ลูบหัวอีกฝ่ายเบา ๆ ถึงอีกฝ่ายจะเจออะไรมาเยอะ แต่ก็ยังเป็นเด็กในสายตาของเขา ฟีนีอุสยกมือขึ้นมาจับใบหน้าอีกฝ่ายพร้อมกับเช็ดน้ำตาทั้งสองข้างอีกฝ่าย
“ไม่ร้องนะ คนดี”
“ทำไงได้ล่ะ...พี่รู้ไหมว่าน้องเจออะไรมั้ง น้องกลัวนะ...กลัวว่าทำอะไรพลาด...น้องจะไม่ได้เจอพี่กับลูกอีก...”
“หมายความว่าไง?”
“ตอนที่พวกหนูตื่นขึ้นเมื่อหลายวันก่อน...ปัจจุบันมันเปลี่ยนไป...ทั้งพี่...ทั้งพ่อพี่และพ่อหนู...ทุกคนไม่อยู่...คนที่หนูรู้จักหลายคนไม่อยู่ที่นี่...คนเราตื่นมาเจอแบบนั้นจะรู้สึกไง!!”
ฟีนีอุสได้ยินก็นึกสภาพที่รู้สึกอ้ำอึ้งไปหมด “ไม่มีพี่...ไม่มีเอมิลี่...ไม่มีเด็ก ๆ”
“ใช่!!”
“โธ่...โพร...พี่เสียใจนะ…”
ฟีนีอุสลูบใบหน้าของอีกฝ่าย เขาจ้องมองใบหน้าที่เขาโหยหาและคิดถึงมานานและสงสารอีกฝ่ายที่ดันไปเจอเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น ก่อนที่เขาจะจ้องอีกฝ่ายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน
“แต่พี่อยู่นี่แล้วนะ...เราทำสำเร็จแล้วนะ”
“อืม!!” โพรทาเลียพยักหน้าหนึ่งครั้ง เธอดีใจจนน้ำตาไหลออกมามากกว่าเดิม
“โพร...”
“ค่ะ...” โพรทาเลียลืมตาขึ้นมามองอีกฝ่ายเธอยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาของตนเอง
“พี่อยากบอกว่า...ดีใจที่เรากลับมา...พี่กับลูก ๆ ตกใจมากเลยนะที่ว่างที่เธอนอนกับว่างเปล่า...พี่นึกว่าเธอออกไปสูดอากาศหรือไปทำอะไรที่ชั้นหนึ่ง...แต่ว่า...ไม่ใช่แค่เธอที่หายไป น้องสาวเธอก็หายไป...ตอนนั้นพี่...กลัวมากเลยนะ...กลัวว่าพวกอสูรพวกนั้นมาลักพาตัวเธอไปหรือเปล่า”
โพรทาเลียฟังอีกฝ่ายพูดก็รู้สึกแย่ที่ตัวเองทำให้คนที่รักเป็นห่วงแบบนี้ ตอนนั้นอีกฝ่ายคงวิตกกังวลและสับสนว่าเธอนั้นหายไปไหน เธอยิ่งซุกและโอบกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้น
“หนูกลับมาแล้วค่ะ...หนูจะไม่หายไปไหนอีกแล้วนะ”
ฟีนีอุสมองรอยยิ้มที่น่ารักถึงอีกฝ่ายจะรอยแผลเป็นหรืออะไรก็ตามที แต่หญิงสาวตรงหน้าของเขานั้นยังน่ารักในสายตาของเขา เขายกมือขึ้นมาลูบข้างแก้มอีกฝ่ายเบา ๆ ก่อนที่เขาจะปล่อยอารมณ์ของเขาตามสิ่งที่ต้องการเขาค่อย ๆ ยื่นใบหน้าของตนเองเข้าหาใบหน้าตรงหน้า โพรทาเลียเห็นท่าทางอีกฝ่ายก็รับรู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร แต่ว่าเธอกลับไม่ขัดขืนแต่กลับขยับเข้าหาอีกฝ่ายเช่นกัน จนริมฝีปากอันบางประกบริมฝีปากอันอวบอิ่มของหญิงสาว ฟีนีอุสได้สัมผัสทั้งรสชาติและผิวสัมผัสที่เขาอยากมานาน ยิ่งดื่มด่ำกับมันทำให้เขาไม่อยากปล่อยมันออกไป เสียงลมหายใจปะทะกันอย่างร้อนผ่าวไปหมด ทั้งสองจ้องมองผ่านดวงตาสองสีก่อนที่จะดื่มด่ำรสชาตินี้กันอย่างเพลิดเพลิน แต่แล้วก็มีเสียงแหลมตะโกนขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
“พ่อ!!!”
ชายหญิงทั้งสองสะดุ้งกันอย่างตกใจ พวกเขาถอยห่างออกจากกันก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงที่ตะโกนออกมานั้นก็คือลูกชายที่กำลังเอามือปิดตาน้องสาวที่กำลังสนใจสิ่งที่พ่อแม่กำลังทำกัน
“เดวิค...” ฟีนีอุสจ้องมองลูกชายที่มาขัดจังหวะ
“ทำไมไม่บอกกันว่าแม่ฟื้นแล้วอ่ะ!!” เดวิคพูดอย่างดุดัน ก่อนจะรีบวิ่งไปหาแม่ของเขาทันที “แม่ครับ!!”
“เดวิค...” โพรทาเลียกอดลูกชายที่รีบวิ่งมาหา
“แม่เขาพึ่งตื่นนี่น่า!” ฟีนีอุสมองลูกชายที่รีบวิ่งตรงเข้ามากอดอีกฝ่ายโดยไม่สนใจเขาเลย
“ชิ!!” เดวิคทำน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
คาเร็นน่ารีบวิ่งมาหาแม่เช่นเดียวกัน เธอปีนจากปลายเตียงแล้ววิ่งมาอยู่อีกข้างของแม่ “แม่!แม่หายไปไหนมา หนูกับพี่คิดถึงแม่มาก ๆ เลยนะ”
“คิก ๆ แม่ขอโทษนะ ที่หายตัวไป แม่คิดถึงลูกทั้งสองมากเลยนะ” โพรทาเลียโอบกอดลูกทั้งสองอย่างคิดถึง เธอหอบแก้มลูกทั้งสองอย่างคิดถึง
“แม่!! ผมอายนะ!!”
“จะอายใครกัน? มีแค่พ่อกับแม่นะ”
ถึงพูดแบบนั้นแต่สายตาของเดวิคก็หันไปทางพ่อของเขาที่ยกยิ้มอย่างสนุก โพรทาเลียเห็นแบบนั้นก็แอบเหน็บอีกฝ่ายเบา ๆ
“พี่ค่ะ...”
“อะไรเหรอ?”
“ห้ามแกล้งลูกนะ”
“พี่เปล่านะ!!”
“เหรอคะ?” โพรทาเลียยกคิ้วอย่างสงสัย
“พี่พูดจริงนะ สัญญาเลย!!”
อีกฝ่ายยังการันตีว่าตัวเองจะไม่แกล้งลูกชายเธอหันไปมองลูกชายที่ทำท่าทางส่ายหน้าอย่างแรงบอกว่าอย่าไปเชื่อ จนเธอยกปากขึ้นจนเหมือนปากเป็ด
“ถ้าฉันเห็นพี่แกล้งลูก ฉันจะโกรธจริง ๆ นะ”
“ไม่เอาน่า...แค่หยอกเล่นเอง...”
“เหรอ?”
ฟีนีอุสมองอีกฝ่ายที่ทำสายตาแบบนั้นก่อนจะมองเจ้าลูกชายที่พออยู่หลังแม่แล้วทำท่าแลบลิ้นใส่เขา ทำให้คิดเลยว่าลับสายตาคนเป็นแม่เมื่อไหร่ เขาจะแกล้งให้สาสมกับที่เขาโดนแกล้งกลับจริง ๆ โพรทาเลียมองสองพ่อลูกที่นิสัยไม่ต่างกันเท่าไหร่ก่อนจะนึกบางอย่างได้ว่าก่อนหน้าเธอไม่ได้เปิดประตูกลับมาแล้วเธอกลับมาได้ไง ก่อนจะเอ่ยถามอีกฝ่าย
“แล้วใครพาฉันกลับมากัน?”
“อ๋อ คนพาเธอกลับมาก็คือคุณแจ็กสัน”
“พ่อเหรอ?”
สิ้นคำพูดนั้นโพรทาเลียก็ครุ่นคิดมาตลอดทางว่าคนที่พาเธอกลับมาคือพ่อละก็คนที่ทุบหลังคอเธอก็คงไม่พ้นพ่อด้วยสินะ นั้นทำให้เธออยากไปเจออีกฝ่ายจริง ๆ แต่ตอนที่อยู่ที่ห้องนอนเธอยังสงสัยว่าห้องนั้นของใครแต่จากทิศทางของบ้านนั้นคือห้องที่นูอัสเคยใช้ แต่ตอนนี้มันไม่มีอะไรนอกจากห้องนอนและข้าวของเก่า ๆ สมัยเธอยังเด็ก พี่ฟีนีอุสบอกว่าพ่อแม่ของเธออยากให้ห้องนี้กลับเป็นห้องที่เธอชอบประตูห้องสีเขียวมีภาพทะเลอยู่ทางเข้าประตู ภายในห้องที่ตกแต่งโทนสีเขียว น้ำตาลอ่อน เป็นแบบโทนธรรมชาติเหมือนสมัยเด็ก ทำให้เธอคิดถึงมาก ๆ ระหว่างที่เดินไปกันนั้นโพรทาเลียก็สงสัยว่าจะไปหาพ่อที่ไหน
“เรากำลังจะไปไหนกันเหรอ?”
“ไปหาคุณเพอร์ซีย์ที่บ้านใหญ่นะ”
“อ๋อ...คงกำลังทำงานสินะ...” โพรทาเลียเกือบลืมไปว่าพ่อของเธอเป็นผู้ดูแลค่ายนี้น่าตอนนี้คงทำงานอยู่ที่นั่นล่ะ
“ประชุมนะ...เกี่ยวกับสงครามนะ...ตอนนี้สถานการณ์มันย่ำแย่มาก”
“สงคราม? สงครามอะไร? ผู้ใดกล้ามาก่อสงครามกับค่ายเรา!?”
“แซเทิร์นค่ะ แม่...”
โพรทาเลียได้ยินก็ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ เมื่อได้ยินชื่อนั้นจากลูกสาว ก่อนที่ลูกชายจะเอ่ยต่อ
“เจ้านั้นเริ่มแผนของมัน...มันโจมตีตอนที่แม่กับน้าไม่อยู่”
“ว่าไงนะ? แล้วมีคนบาดเจ็บเยอะไหม?”
“ก็บางส่วนนะ...ตอนนี้พวกเรามีกำลังรบไม่เพียงพอ เพราะบางส่วนต้องออกไปปกป้องคนที่อยู่ภายนอกแล้วพากลับมานี้” ฟีนีอุสอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง
โพรทาเลียได้ยินก็รู้สึกผิดที่ตัวเองไม่อยู่ที่นี่ ก่อนจะฟังแฟนที่ค่ายกำลังทำแต่นั่นมันเสี่ยงที่จะมาตายที่นี่กันมากกว่า
“ไม่ ๆ ไม่ควรพากลับมานะ! ที่นี่เหมือนกรงหนูกรงหนึ่งเลยนะ!!”
“พี่เข้าใจ โพร แต่ว่าถ้าไม่ทำแบบนั้นคนที่อยู่ข้างนอกจะตายนะ”
โพรทาเลียฟังยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดเธอแข็งแกร่งกว่าทุกคนและรู้กลยุทธ์ของพวกมันทุกอย่าง ถ้าเธออยู่อาจจะทำให้ทุกคนปลอดภัยได้มากกว่านี้ ระหว่างที่อีกฝ่ายมีสีหน้าคิดมากอยู่นั้น ฟีนีอุสกำลังคิดหัวข้อสนทนาที่จะทำให้อีกฝ่ายสบายใจขึ้นก่อนจะนึกถึงวันสำคัญที่จะมาใกล้ในอีกสองวัน
“เสียดายที่ปีนี้คงไม่ได้ฉลองวันเกิดนะ”
โพรทาเลียที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้นก็หลุดออกจากความคิดแล้วมาฟังอีกฝ่ายที่เปลี่ยนเรื่องพูดอย่างกะทันหัน
“วันเกิด? วันเกิดใคร?”
“พ่อ!!”
“บอกทำไมคะนั้น!!”
สองแฝดหันไปมองคนเป็นพ่อที่พูดอะไรที่เป็นเลศนัยทำให้คนเป็นแม่สงสัยในคำพูดนั้น โพรทาเลียมองทุกคนที่กังวลกับคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า
“มีอะไรเกี่ยวกับวันเกิดเหรอ?”
“ไม่มีครับ!! แม่!!”
“ใช่ค่ะ!! ไม่มีหรอก!!”
“อะไรกันก็ช่วงนี้เราอยู่เดือนมิถุนายน...เธอน่าจะรู้นะว่าใกล้วันเกิดใคร?”
โพรทาเลียยกนิ้วขึ้นมานับวันตั้งแต่วันที่เธอหายไปจนกระทั่งนับถึงวันหนึ่งที่เธอจำได้ว่าเป็นวันอะไร
“ตายจริง!”
ฟีนีอุสเห็นสีหน้าอีกฝ่ายเขากำลังจะเฉลย แต่โพรทาเลียย่อตัวลงไปหาลูก ๆ ทันทีพร้อมกับจับตัวลูกทั้งสองคน
“แม่ขอโทษนะ ที่แม่ไม่อยู่ฉลองวันเกิดของลูก ๆ นะ!!”
ฟีนีอุสถึงกับเกือบล้มไปข้างหน้าที่อีกฝ่ายกับจำวันที่เขาอยากเฉลยไม่ได้ ดันไปจำวันเกิดลูกที่ผ่านไปได้สักระยะแล้ว สองแฝดหัวเราะคิกคักที่กังวลจนเกินไปสำหรับแม่นั้น ถ้ามีพวกเขาอยู่ก็คิดถึงแต่พวกเขาสองคน ไม่เคยคิดถึงตัวเองก่อนเลย
เดวิคส่ายหน้าเบา ๆ “ไม่เป็นไรครับ ผมกับน้องได้ฉลองกับพ่อ ปู่ย่า ตายายเรียบร้อยแล้ว ไว้ครั้งหน้าแม่มาฉลองให้พวกผมก็ได้นะ”
“อืม ๆ พวกหนูรอได้!!”
“ทั้งสองคน...” โพรทาเลียมองลูกทั้งสองที่น่ารักและเชื่อฟังมาก ๆ จนเธองุนงงว่าในสถานที่แบบนั้นเธอกับเลี้ยงลูกออกมาเก่งได้ยังไง
ฟีนีอุสกระแอมเบา ๆ “ไปต่อเถอะ”
“ค่ะ!”
ฟีนีอุสเดินนำครอบครัวของเขาไปยังจุดหมายปลายทาง ตลอดทางโพรทาเลียเห็นผู้คนต่างพากันซ้อมอย่างหนักบางคนเห็นครอบครัวเธอก็ต่างโบกมือกันอย่างดีใจ เธอโบกมือตอบทุกคนจนมาถึงบ้านใหญ่ก็ได้เห็นผู้ใหญ่ทั้งหลายกำลังประชุมกันอย่างเคร่งเครียดถึงกองกำลังที่กำลังจะล้อมค่ายในไม่ช้าถ้าพวกเขาไม่ทำอะไรสักอย่างตอนนี้พวกเขาต้องหาคนมาช่วยเป็นกำลังเสริม แต่จะหาจากไหนนิโคบอกว่าสามารถขอให้เทพยอมให้ลูกสายเลือดแอรีสขอกองกำลังจากแอรีสได้ แต่แคลรีสบอกไม่เอาเพราะขอทีไรต้องมีสิ่งตอบแทนตลอด โพรทาเลียที่แอบฟังอยู่ข้างนอกก็ครุ่นคิดว่ามันกลายเป็นเรื่องใหญ่น่าดู เธอมองคนเป็นพ่อก่อนจะคิดบางอย่างได้เธอก็ค่อย ๆ เดินไปหาพ่อของเธอ ลูก ๆ ทั้งสองต่างพากันรีบวิ่งตามแม่ไป ฟีนีอุสเห็นแบบนั้นก็เดินตามไปด้วย พวกผู้ใหญ่ที่กำลังพูดคุยอยู่นั้นก็เห็นเด็กสาวหน้าตาคุ้นเคยเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังเพอร์ซีย์
“แจ็กสัน!!” วิลที่อยู่ด้านข้างอีกฝ่ายกระซิบเรียกด้วยท่าทางตื่นตระหนก
“หือ? โทษนะ ฉันกำลังคิดว่าจะหากำลังพลมาจากไหนอยู่นะ!!”
“เงยหน้ามาก่อน!!”
“อย่าพึ่งเซ้าซี้สิ!”
“เพอร์ซีย์!!”
“ไอ้บ้าแจ็กสัน!!”
ทุกคนกำลังเรียกอีกฝ่ายให้หันมาสนใจสิ่งที่อยู่ข้างหลัง แต่ว่าโพรทาเลียยกมือขึ้นมากำหมัดให้ทุกคนที่กำลังเรียกเพอร์ซีย์ต้องหยุดเสียงของตนเองกันหมด สภาพแวดล้อมต่างเงียบสนิทจนเพอร์ซีย์ที่ตั้งใจคิดอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นมามองทุกคนที่นิ่งเงียบไป เขามองทุกคนที่มีสีหน้าแปลก ๆ ก่อนจะเห็นสายตาบางคนมองไปข้างหลังของเขา ตอนนี้เขารู้สึกเย็นยะเยือกจากด้านหลังก่อนที่จะค่อย ๆ หันไปมองข้างหลังอย่างเชื่องช้าก่อนจะเห็นใบหน้าอันคุ้นเคยก้มมามองเขา
“ไงคะ~ พ่อ~”
“เย้ย!!”
เพอร์ซีย์สะดุ้งตัวโยก เมื่อเห็นลูกสาวที่โผล่มาแบบไม่ให้เสียงเลยสักนิด แถมสายตาที่กำลังจ้องเขาเหมือนกำลังอยากจะฆ่าเขาสุด ๆ
“โพรทาเลีย...ลูก...”
“ถ้าจะถามว่าหนูตื่นแล้วเหรอ? ถ้าหนูไม่ยืนอยู่ตรงนี้ ก็คงยังไม่ตื่นหรอกค่ะ!” โพรทาเลียกอดอกมองคนเป็นพ่อด้วยสายตาเฉยชา
เพอร์ซีย์รู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวของลูกเปลี่ยนไปจนเขารู้สึกไม่ชอบมาพากล ก่อนที่สายตาของเขาจะเห็นท่าทางของฟีนีอุสที่ยอมช่วยพ่อตา เขาทำท่าเหมือนเอามือพันคอของเขาจนเพอร์ซีย์รู้ว่าลูกสาวกำลังอยู่ในสภาวะอะไร กำลังอยู่ในสภาวะเคืองที่เขาโจมตีเธอตอนต่อสู้กับซุสนั้นเอง ก่อนที่เพอร์ซีย์จะกุมมือลูกสาวอย่างออดอ้อน
“โพร...โกรธพ่อเหรอ? พ่อไม่ได้ตั้งใจทำแรงกับลูกเลยนะ” :
“รู้ด้วยเหรอคะ? ว่าจะพูดอะไร?”
“พ่อรู้สิ...เราโกรธที่พ่อโจมตีเราตอนไปช่วยใช่ไหม...พ่อไม่ได้อยากทำนะ แต่พ่อห่วงความปลอดภัยของลูกนะ อย่าโกรธพ่อเลยนะ” เพอร์ซีย์กำลังอธิบายให้ลูกสาวเข้าใจว่าตอนนั้นทำเอาเพราะอะไร
พวกผู้ใหญ่ทุกคนต่างมองอีกฝ่ายที่กำลังปลอบลูกสาวที่กำลังมองด้วยส่ายหน้าเฉยชามาก ๆ พวกเขากำลังคิดว่าควรยกเลิกการประชุมไปก่อนดีไหม แต่ว่าไครอนกับโอเซซัสบอกว่าให้อยู่เฉย ๆ มองสถานการณ์ไปก่อนถ้าเกิดโพรทาเลียโจมตีใส่เพอร์ซีย์ค่อยหาที่หลบกัน พวกผู้ใหญ่ได้ยินก็อยากหาที่หลบทันที โพรทาเลียจ้องมองคนเป็นพ่อพยายามปลอบ เธอจ้องมองเขานึกถึงช่วงเวลาที่ไร้เขา มันเจ็บปวดยิ่งกว่าอะไรพอมาเจออีกฝ่ายที่กำลังอ้อนเธอเหมือนตอนเด็ก ๆ ที่เธอโกรธในเวลาที่ไม่ชอบใจก็มีแต่พ่อที่เห็นและเข้ามาปลอบ นั้นทำให้เธอโกรธเข้าไม่ลงเพราะคนเป็นพ่อมีเหตุผลเสมอนั้นทำให้เธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ
“พ่อค่ะ...”
“พอเถอะ...หนูเข้าใจแล้ว”
“จริงนะ...ไม่โกรธพ่อแล้วนะ?”
“ไม่โกรธแล้วค่ะ ถึงจะโกรธก็โกรธไม่ลง เพราะพ่อช่วยหนูนี่น่า...ไม่งั้นตอนนี้หนูคงไปอยู่ในคุกของเขาโอลิมปัสแล้วก็ได้”
“ก็จริงล่ะนะ...เกือบฟันคอซุสเลยนี่น่าตอนนั้น” แคลรีสแซงขึ้นมาจนทุกคนเข้าไปเอ็ดอีกฝ่ายทันที
เพอร์ซีย์หันไปจ้องอย่างไม่พอใจที่อีกฝ่ายพูดแบบนั้น เขาอุตส่าห์ไม่พูดถึงเหตุการณ์นั้นให้ลูกสาวต้องนึกถึง แต่โพรทาเลียก็นึกถึงว่าถ้าตอนนั้นพ่อไม่เข้ามาขัดขวางตัวเธอที่ควบคุมสติไม่อยู่ฟันคอของซุสขึ้นมาจะทำไง ตอนนี้เธอคงอยู่ในคุกไปแล้วจริง ๆ แล้วเธอจะไม่สามารถกลับบ้านได้และไม่สามารถมาพบลูกทั้งสองคนของเธอแน่ ๆ เธอส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะมองเอกสารบนโต๊ะกับแผนผังที่ฉากอยู่บนโต๊ะ เธอมองกำลังพลของพวกแซเทิร์นที่มาทั้งห้าทิศ เธอจดจำแล้วจะไปจัดการกับพวกมันที่หลัง
“กองกำลังของแซเทิร์นมีเท่านี้เหรอคะ?”
“ใช่แล้วล่ะ” เพอร์ซีย์ตอบลูกสาวก่อนจะหันขวับอย่างสงสัย “ลูกรู้แล้วเหรอ?”
“พี่ฟีนีอุสบอกนะคะ”
เพอร์ซีย์ได้ยินแบบนั้นก็หันไปจ้องเจ้าว่าที่ลูกเขยด้วยสีหน้าไม่พอใจที่เอาเรื่องนี้ไปบอกลูกสาวเขา ฟีนีอุสยักไหล่อย่างไม่คิดอะไรการพออีกฝ่ายไม่ใช่เรื่องผิด แต่เขาไม่ใช่คนบอกนี่สิ โพรทาเลียจ้องมองแผนต่าง ๆ ที่พอกำลังเขียน
“หนูว่าเรายังมีอีกวิธีที่จะจัดการพวกมันได้ในพริบตานะ”
“เธอมีแผนอะไรกัน?” นิโคเอ่ยถามขึ้น
โพรทาเลียได้ยินเสียงคุ้นเคยก็เงยหน้ามอง “อ๊า...อยู่ด้วยเหรอคะ? คุณนิโค”
“อะแฮ่ม...ก็...ฉันมีอาการมึนหัวเหมือนทุกคนนะ...เลยต้องกลับมารักษาตัว...”
นิโคทำท่าทางอย่างเขิน ๆ เขาไม่คิดว่าคนที่จะทำให้ความหวังเขาทุกอย่างเจิดจ้าได้จะเป็นเด็กน้อยคนนี้ ไม่รู้ว่าเป็นลิขิตอะไรกันถึงได้เขากับอีกฝ่ายถึงมาเจอกันได้แบบนี้
“รู้สึกเราสองคนไม่ได้มาเจอกันเพราะความบังเอิญสินะ...”
“โลกนี้ไม่มีความบังเอิญค่ะ มีแต่สิ่งที่ถูกลิขิตไว้แล้วทั้งนั้นค่ะ”
“ก็จริงนะ”
“เหมือนเรื่องของพวกเราสินะ”
โพรทาเลียได้ยินน้ำเสียงอันคุ้นเคยถึงจะมีน้ำเสียงที่เข้มขึ้นกว่าตอนเป็นวัยรุ่น แต่เธอจะลืมได้ไงน้ำเสียงของชายที่เธออยู่ด้วยแค่ไม่กี่วันและพยายามหาตัวอีกฝ่ายอีก เธอต้องลำบากแค่ไหนกันแต่ความลำบากนั้นยังคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้กลับคืนมา เธอเงยหันไปมองชายผมทองวัยสี่สิบกว่า ๆ ที่กำลังจ้องมองเธอด้วยรอยยิ้มกินใจที่ใคร ๆ มองคนตกหลุมรักเหมือนครั้งแรกที่เธอรู้จักอีกฝ่ายในยุคนี้ เธอหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยเรียกอีกฝ่าย
“ไม่ได้เจอกันนานนะคะ คุณเจสัน”
จบตอนที่ 132 โปรดติดตามตอนที่ 133 ต่อไป