ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?
ลำแสงสว่างอันเจิดจ้าพุ่งสูงสู่ท้องฟ้าไร้การปะทะจนเกิดความมืดโดยรอบ เหล่ามนุษย์กึ่งเทพและปีศาจต่างหยุดนิ่งกับลำแสงปริศนา เพอร์ซีย์จ้องมองลำแสงนั้นอย่างงุนงงตลอดทางที่กำลังวิ่งว่ามันมาจากไหนแต่ทิศทางของมันคือโคลอสเซียมแล้วที่นั่นมีลูกสาวของเขาอยู่ ยิ่งทำให้เขาที่กำลังตามแซเทิร์นอยู่นั้นภาวนาอย่างเดียวว่าขอไม่ให้เจ้าตัวน้อยทั้งสองของเขาเป็นอะไร
‘ทั้งสองคน อย่าพึ่งเป็นอะไรนะ!!’ เพอร์ซีย์คิด
ลำแสงกระจายไปภายในอากาศอย่างรวดเร็วเหลือไว้เพียงความเงียบสงัด แสงสว่างนั้นทำให้ผู้ที่โดนปะทะแสงสว่างนั้นถึงกับมึนหัวจนต้องปรับสบายตาหลาย ๆ รอบก่อนจะเห็นภาพเลือนรางของดาบตรงหน้าที่ค่อย ๆ เด่นชัดขึ้นตัวดาบจากสีเงินกลายเป็นดาบที่มีออร่าสีขาวไปทั้งด้ามจนน่าประหลาดใจ ตัวดาบที่เป็นสีขาวมีออร่าเรือนแสงเหมือนแสงเหนือที่มีหลายสี โพรทาเลียที่จ้องมองดาบตรงหน้าก่อนจะเลื่อนสายตามองมือของตนเองที่มันทั้งขาวอย่างกับหิมะ เธอปล่อยมือข้างหนึ่งออกจากดาบก่อนจะมองมือของตนเอง ก็มีความทรงจำหนึ่งโผล่ขึ้นมา
‘เจ้า!! ทำไม!! ร่างนั้นมันอะไรกัน!!’ เสียงของแซเทิร์นดังก้องขึ้น
‘เจ้ามันตัวอะไรกัน!!’
เสียงปะทะดังขึ้นพร้อมกันหลายครั้งก่อนที่ภาพจะตัดมาที่พื้นที่มีน้ำหนองโพรทาเลียก็เห็นร่างกายสีขาวซีดที่คล้ายกับตัวเอง ภาพก็หายไปอย่างรวดเร็วโพรทาเลียทรงตัวไม่อยู่จนเกือบล้ม แต่เธอก็พยุงตัวกับโต๊ะได้ทันที
“พี่ค่ะ!!” โฟกัสรีบเข้าไปประคองพี่สาวทันที “พี่เป็นอะไรนะ? หน้ามืดเหรอ?”
“เปล่า...พี่แค่...มีภาพความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยปรากฏขึ้นมานะ...”
“ความทรงจำ? ความทรงจำตอนไหน?”
“ช่วงแรก ๆ ตอนที่โดนจับไปนะ...”
“ตอนโดนจับไปนะเหรอ?”
“จำช่วงเวลานั้นได้แล้วเหรอ?” ลักซ์เอ่ยถามขึ้น
โพรทาเลียเงยหน้าขึ้นมองทุกคนที่ดูเหมือนจะรู้ถึงเหตุการณ์นั้น แต่ก็มีข้อสงสัยทำไมเธออยู่ในร่างนั้น โดยที่กว่าจะมาถึงจุดนี้เธอต้องผ่านอะไรมาเยอะ แต่ตอนเด็กเธอยังไม่เจอบททดสอบพวกนั้นด้วยซ้ำ
“ทำไมฉันถึงอยู่ในร่างนั้น...!?”
“เจตจำนงอันแรงกล้าทำให้เธอปาฏิหาริย์ได้เสมอ เราไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงอยู่ในร่างนั้นได้แต่ร่างนั้นก็ทำให้เจ้าต่อกรกับแซเทิร์นได้ ทำให้เราพึงพอใจว่าเจ้าเป็นคนแรกที่จะผ่านบททดสอบของเราไปได้!!”
โพรทาเลียอ้ำอึ้งไปกับคำพูดของฮาลอนที่เชื่อมั่นในตัวเธอ โดยที่บางครั้งเธอยังไม่เคยเชื่อมั่นตัวเองเลยก่อนที่จะเอ่ยถามออกไป
“พวกนายเชื่อแบบนั้น...แล้วอย่างเมื่อกี้ถ้าฉันไม่เลือกดาบของลักซ์...แล้วเหลือสิ่งอื่นล่ะ!? พวกนายเชื่อได้ไงว่าฉันจะผ่านมันไปได้!!!”
“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วนี่” ฮาลอนกล่าว “เจ้าคือพวกเรา พวกเราคือเจ้า เรารู้ว่าเจ้าจะเลือกหรือทำอะไร มันเหมือนวงเวียนชีวิตที่จะทำซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าชีวิตเราจะจบลง พวกเราถึงเชื่อมั่นว่าเจ้าจะผ่านอุปสรรคทุกอย่างไปได้”
คำพูดที่รู้สึกจุกอกไปหมดเธอรู้สึกวิตกกังวลไปชั่วขณะตอนที่คิดจะสร้างศาสตราวุธนั้นทำให้เธอเปลี่ยนอารมณ์ไวมาก ๆ จนเธอคิดว่าตัวเองคงป่วยแน่ ๆ ถึงอารมณ์แปรปรวนได้ขนาดนี้ก่อนจะรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่พุ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว แต่ทุกคนตรงนั้นไม่รู้สึก โฟกัสกำลังหยิบดาบสั้นอีกอันที่เธอถือมาตวัดเล่น
“ดูสิ ฉันจะเอาดาบสั้นนี้แทงแซเทิร์นให้ตายคามือฉันเลยล่ะ!”
“อย่าพูดมากดีกว่านะ ตัวเล็กแค่นี้จะไปทำอะไรได้!?”
“ว่าไงนะ! พารา!!” โฟกัสได้ยินก็หันขวับไปหาอีกฝ่าย
“อย่ามาย่อชื่อข้าเป็นชื่อยี่ห้อยาเชียวนะ!!” พาราซอนชี้หน้าใส่อีกฝ่ายที่อยู่ตรงหน้าเขา
“แล้วจะทำไม!?”
ทั้งสองปะทะกันด้วยสายตาจนเกิดเป็นประกายไฟเหมือนไฟฟ้ากำลังช็อกกัน ทุกคนกำลังสนุกสนามอย่างไม่สนใจภายนอกกันเลยนอกเว้นแต่โพรทาเลียที่หันมามองภายในโรงตีเหล็กว่าไม่มีผู้ใด แต่แรงอาฆาตนั้นพุ่งตรงมาหาเธออย่างแน่ชัดจนเธอรู้สึกเหมือนโดนดึงดูดให้ตามไปหาเจ้าของแรงอาฆาตนั้น แต่ไม่ต้องบอกว่าเป็นใครเพราะยังไงเธอก็จะไปหาอีกฝ่ายอยู่วันยังค่ำ เธอก้าวข้าวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจรอบข้างแต่อย่างใดจนทุกคนต่างมองเธอกำลังวิ่งไปที่ประตู
“โพรทาเลีย!!”
“พี่ไปไหนนะ!?” โฟกัสมองพี่สาวที่กำลังวิ่งไปไหน
โพรทาเลียเปิดประตูก่อนจะพูดบางอย่างออกมา “ไปหาเจ้าไอ้เวรที่ฉันอยากฆ่าไงล่ะ!!”
สิ้นคำพูดนั้นโพรทาเลียก็พุ่งออกจากตรงนั้นไปอย่างรวดเร็วทุกคนเห็นแบบนั้นก็รีบตามออกไปอย่างรวดเร็วก่อนจะเห็นโพรทาเลียที่วิ่งออกไปเจอกลุ่มคนอยู่ที่หน้าประตูโคลอสเซียมยืนออกันเต็มไปหมด เธอเห็นแบบนั้นก็วิ่งเลี้ยวไปด้านข้างแล้วกระโดดขึ้นไปแถวผู้ชมตามขั้นต่าง ๆ ก่อนจะกระโดดข้ามออกนอกโคลอสเซียมไป พวกโฟกัสเห็นก็นิ่งไปชั่วขณะก่อนจะตะโกนออกมา
“บ้าไปแล้ว!!!”
“จุดนั้นมันสูงนะเว้ย!!!”
“พี่บ้าได้ตลอดสุด!!” โฟกัสตะโกนหลังจากตกใจที่พี่สาวกระโดดออกไปแล้ว
“กำแพงโคลอสเซียมมันสูงหลายเมตรเชียวนะ!! ยัยนั้นคิดอะไรอยู่กัน!!”
“เลิกพูดได้แล้วตามนางไปเร็ว!!!”
ทุกคนกล่าวแบบนั้นก่อนจะรีบวิ่งออกจากโรงตีเหล็กตรงไปข้างหน้าเพื่อตามโพรทาเลียไปทันใด ส่วนโพรทาเลียที่กระโดดลงมาจากโคลอสเซียมก็ทำเอาคนที่อยู่แถวนั้นที่กำลังปกป้องทางเจ้าโคลอสเซียมตกใจกันยกใหญ่ว่าอะไรตกลงมาร่วมถึงพวกโอราอุสที่อยู่แถวนั้นพวกเขาเห็นคนปริศนาที่มีร่างกายสีขาวทั้งร่างกาย แต่พออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมา พวกเขาก็เห็นว่าเป็นใคร
“โพร!!” พี่ทั้งสามต่างมองอย่างตกตะลึงว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวเขา
อลิซ่าเบ็ธร่างของโพรทาเลียก็ตะลึงที่เด็กคนนั้นอยู่ในร่างที่เคยต่อกรกับแซเทิร์น โพรทาเลียไม่ได้สนใจคนรอบข้างก่อนจะวิ่งออกจากตรงนั้นไป
“โพร!! เธอจะไปไหนนะ!!”
“ยัยน้องบ้า!!”
“โพรทาเลีย!!”
เสียงของทุกคนไม่ได้เข้าหูของโพรทาเลียก่อนที่จะมีกลุ่มเหล่าอดีตชาติกับโฟกัสออกมาจากข้างในโคลอสเซียม พวกโอราอุสก็หันไปมองกลุ่มคนก็เห็นหนึ่งในนั้นตัวขาวเหมือนกับโพรทาเลียไม่มีผิด พวกเขาเห็นอีกฝ่ายก็รู้ว่าเป็นใคร
“โฟกัส!!”
“พี่!!” โฟกัสมองพี่ทั้งสามก่อนจะเดินไปหาพวกพี่ ๆ “เห็นพี่โพรทาเลียไหม!?”
“พึ่งวิ่งออกไปเมื่อกี้เอง!!”
“ทำไมตัวเธอถึงเป็นสีขาวทั้งตัวนะ!!”
“ช่างเถอะ!! หนูขอตามพี่เขาไปก่อนนะ!!”
“แล้วโพรทาเลียกำลังไปไหนนะ!!”
“คงไปหาแซเทิร์น!!”
“ว่าไงนะ!!”
“จะบ้าเหรอ!?”
“ไปหาเจ้านั้นเดียวได้โดนฆ่าพอดี!!”
“ไม่ต้องห่วง! พวกหนูมีวิธีจัดการหมอนั้นแล้ว!!”
โฟกัสกล่าวก่อนจะเตรียมวิ่งออกไป พวกอดีตชาติคนอื่นเห็นว่าอาจจะช้าถ้าไม่รีบไปบางคนที่บินได้ก็รีบลอยตัวไปข้างหน้ากันก่อนทันที ใครที่บินไม่ได้ก็หายานพาหนะตรงดิ่งไปทิศที่โพรทาเลียวิ่งไปทันใด พวกโอราอุสเห็นแบบนั้นก็ทิศจุดป้องกันโคลอสเซียมแล้วตามพวกน้องสาวไปทันใด พวกเขาจะไม่ยอมให้น้องต้องไปพบอันตรายแค่สองคนแน่ ๆ
ทางด้านค่ายฮาล์ฟบลัด
การต่อสู้เหล่าปีศาจบุกเข้ามาทางทุกเส้นทางเหล่ามนุษย์กึ่งเทพหลายตนพลาดท่าจนบาดเจ็บบางคนถึงกับเกือบตายถ้าไม่ได้คนอื่น ๆ มาช่วยถึงพวกเขาจะมีจำนวนน้อย แต่ก็มีคนที่แข็งแกร่งคอยช่วย อาจารย์ไครอนและโอเซซัสช่วยกันยิงธนูจัดการพวกปีศาจที่บุกเข้ามาในค่าย พวกผู้ใหญ่บางส่วนพาเด็ก ๆ หลบหนีไปที่อื่นก็เพื่อความปลอดภัย ส่วนบางคนที่บาดเจ็บถูกส่งไปสถานพยาบาลก่อน สถานพยาบาลเลยมีการป้องกันพอตัวเพราะพวกเขาบาดเจ็บเลยเป็นจุดบอดเช่นกัน
“คนที่บาดเจ็บพาไปที่เตียงที่ว่างอยู่!!”
“เตียงเต็มหมดแล้ว!!”
“ให้นอนที่พื้นไปก่อนเลย!!”
“นี่มาช่วยหน่อย!! ทางนี้เลือดไหลไม่หยุดเลย!!”
“ใช้ยาห้ามเลือดสิ!!”
เสียงแตกตื่นของเหล่าสายเลือดอะพอลโลที่ยังอายุน้อยไม่เคยที่จะได้ออกมารักษาใครบ่อย ๆ ถ้าไม่ใช่พี่ ๆ ในบ้านของตนเองเป็นคนรักษา ทำให้บางคนที่ไม่เคยจัดระเบียบการรักษายิ่งวุ่นวายเข้าไปอีก พวกที่อยู่รอบสถานพยาบาลกำลังระวังพวกปีศาจหรืออสูรอะไรก็ตามที่มาทางนี้
“อ๊ากกกก!! มียักษ์ไซคลอปส์ตรงมาทางนี้ด้วย!!”
ทุกคนที่ได้ยินต่างตาลุกวาวสถานการณ์ย่ำแย่ของพวกเขาที่ไม่สามารถพาคนไข้ออกไปจากตรงนี้ได้หมดแน่ ๆ บางคนออกมาดูว่าพวกยักษ์กี่ตนก่อนจะเห็นว่ามีสิบตนที่มาทางนี้
“ซวยแล้ว!! คนไข้อยู่ตรงนี้เต็มเลยนะ!!”
“จะทำไงนะ!!”
“หรือว่าต้องทิ้งพวกเขาแล้วหนีไปเหรอ!?”
“พวกนายจะบ้าเหรอ!? จะทิ้งพวกเราที่บาดเจ็บเนี่ยนะ!!”
“พวกเราพยุงพวกนายหลายสิบคนไปไม่ไหวหรอกนะ!!”
เสียงถกเถียงภายในสถานพยาบาลดังไปหมดจนทำให้เด็กคนหนึ่งรู้สึกว่าความวุ่นวายนี้เกิดจากความไม่เข้มแข็งและกำลังขวัญเสียกันหมดก่อนที่เขาจะตะโกนออกมา
“ทุกคนเงียบ!!!!”
เสียงนั้นทำให้ทุกคนต่างหันไปมองเด็กชายที่มีผมลอนยาวต่างมองทุกคนที่กำลังตื่นตระหนกและขวัญเสียไปหมด
“พวกพี่ ๆ ใจเย็นกันก่อนสิ!! ทุกคนเอาแต่เถียงกันมันก็จบเห่กันตรงนี้สิ!!”
“โนอาห์…”
โนอาห์มองทุกคนก่อนจะออกคำสั่ง "คนที่ยังต่อสู้ไหวจงออกไปปกป้องที่นี่!! ส่วนคนที่เหลือก็รักษาคนบาดเจ็บ!!”
“นายจะมาออกคำสั่งกับเราเนี่ยนะ!!”
“นายยังเด็กอยู่นายไม่ได้ออกไปต่อสู้กับพวกมันนะ!!”
“แล้วพวกพี่คิดว่าผมจะไม่ออกไปหรือไง!?”
“คนบาดเจ็บอยู่แบบนี้ ผมจะยอมให้ทุกคนมาตายกันตรงนี้เหมือนความคิดพวกพี่ที่กำลังจะปล่อยคนเจ็บไว้แล้วนี่ไปหรือไง!?”
พวกสายเลือดอะพอลโลบางคนถึงกับหันหน้าหนีกันทันใด ก่อนที่โนอาห์จะหันไปหยิบดาบที่เขาพอจะยกขึ้นมาได้
“ผมไม่ใช่พวกนี้ที่ไม่คิดจะต่อสู้กับมันก่อนคิดจะหนี!!”
โนอาห์รีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นเขารู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นไง ทำเอาทุกคนมองสายเลือดอะพอลโลบางคนที่จะทิ้งพวกเขานั้นทำให้บางคนที่พอจะลุกไหวลุกขึ้นมาแล้วเตรียมหยิบดาบขึ้นมา
“โคตรผิดหวังจริง ๆ!!”
“แม่งกล้าพูดว่าจะทิ้งพวกเราเนี่ยนะ!!”
“เด็ก 6 ขวบยังมีสมองมากกว่าอีก!!”
คนอื่น ๆ ที่ลุกขึ้นไหวกันเดินออกจากสถานพยาบาลทำเอาเด็กบ้านอะพอลโลบางคนที่สติแตกจนเผลอพูดแบบนั้นออกไปรู้สึกละอายใจของตนเอง โนอาห์กับคนอื่น ๆ กำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แอนนาเบ็ธที่อยู่แถวประตูมิติก็รีบวิ่งมาทันใดเธอเห็นพวกยักษ์ไซคลอปส์กำลังมาทางนี้
“ทุกคนเตรียมตัว!! เราจะโจมตีพวกมัน!! เด็กคนไหนยิงธนูเปิดมาอยู่ข้างหน้าโจมตีก่อนเร็ว!!” แอนนาเบ็ธเรียกเด็กที่เก่งธนูออกมา แต่ไม่มีใครออกมา “เกิดอะไรขึ้น!?”
“พวกนั้นปอดแหกไปแล้วคุณแอนนาเบ็ธ...เหลือแค่พวกที่ใช้อาวุธทั่วไปแล้ว!!”
“ว่าไงนะ!!” แอนนาเบ็ธหันไปมองเด็ก ๆ คนอื่นที่อยู่ภายในสถานพยาบาลที่เอาแต่มอง เธอเคยเจอสถานการณ์นี้เธอเข้าใจก่อนจะเปลี่ยนแผนก “งั้นลุยกันเลย!!!”
“โอ๊ส!!!”
ทุกคนต่างยกดาบของตนเองขึ้นมาพร้อมกับวิ่งตรงไปข้างหน้าพวกเขากำลังจะต่อสู้กับพวกปีศาจแต่ก็มีบางอย่างลอยตัดหน้าพวกเขาไปอย่างรวดเร็วก่อนจะไถลลงพื้น แอนนาเบ็ธกางมือออกหยุดเด็ก ๆ ทุกคนก่อนจะมองไปที่สิ่งที่ลอยตัดหน้าคือเด็กสาวผมสีทองที่กำลังตวัดดาบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว พวกยักษ์ทั้งหลายก็สลายหายเป็นผงไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมองอย่างอ้ำอึ้งก่อนที่เธอจะหันไปหาพวกคุณแอนนาเบ็ธ
“คุณยายไม่เป็นอะไรนะคะ”
“เอ๊ะ? คุณยาย?” แอนนาเบ็ธมองเด็กสาวตรงหน้าที่กำลังเดินมาหาตนเอง
“อ๊ะ...หนูลืมไป...หนูเองค่ะ คาเร็นน่า”
“คาเร็น!?”
“ค่ะ...คุณย่าไม่เป็นอะไรมากนะคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ...แต่ว่าหลาน...” แอนนาเบ็ธมองหลานสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าที่พอโตแล้วสวยมาก ๆ แต่ทำไมอยู่ในร่างผู้ใหญ่
“อ๊ะ...หนูมีเหตุผลที่อยู่ร่างนี้นะคะ...”
“เหตุผล...” คาเร็นน่ากำลังจะกล่าวบางอย่างก่อนจะรู้สึกถึงบางอย่าง “หนูขอตัวก่อนนะคะ คุณย่ารีบไปหาที่ปลอดภัยนะคะ”
"คาเร็น-"
แอนนาเบ็ธกำลังจะหยุดให้หลานไม่ไปไหน แต่เจ้าตัวกับรีบวิ่งออกไปแถวโรงตีเหล็กที่มีเด็ก ๆ กำลังโดนพวกปีศาจกำลังโจมตีเธอก็จัดการพวกมันได้อย่างรวดเร็ว เธอพุ่งไปตามสถานการณ์ต่าง ๆ ในค่ายที่มีคนเดือดร้อนจนกระทั่งเธอเกือบโดนโจมตีจนกระทั่งพี่ชายเข้ามาขัดขวางทันที
“พี่!!”
“ระวังหน่อยสิ!!” เดวิคกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นแล้วฟาดสายฟ้าใส่ปีศาจทันที พวกปีศาจกลายเป็นขี้เถ้าไปทันใด ก่อนที่เขาจะมองเธอ “ถึงว่าเธอหายไปไหน? ออกมาทำอะไรแบบนี้เนี่ยนะ?”
“พูดอย่างกับพี่ไม่ทำเลยเนอะ?”
“หึ...เรากลับไปที่บ้านพักกัน”
คาเร็นน่าเกือบจะเอ่ยถามว่าจะไปที่นั่นทำไมจนเธอนึกได้ว่าตอนนี้ที่นั่นเป็นอะไรอยู่ตอนนี้
“พวกเขาสองคนยังไม่จบอีกเหรอ?”
“ใช่! ไปกัน!!”
เดวิคจับมือน้องสาวแล้วก็จะพาลอยกลางอากาศ แล้วพาพุ่งตรงไปยังสถานที่ที่เขาจะไปในทันใด ตลอดทางคาเร็นน่าขอให้พ่อจัดการในจบ ๆ โดยไม่มีคนต้องตายดีที่สุด เมื่อบินไปตามทางเห็นผู้คนหลังต่อสู้กับพวกปีศาจกันอย่างดุเดือดเสียงเหล็กกระทบกันอย่างต่อเนื่องจนได้ยินเสียงอันดุเดือดยิ่งกว่ากำลังฟาดฟัน ทั้งสองค่อย ๆ ลอยตัวลงอย่างช้า ๆ การต่อสู้อันดุเดือดตรงหน้ากำลังเกิดคลื่นเสียงกระโชกอย่างต่อเนื่องทุก ๆ การปะทะ ฟีนีอุสพลาดการป้องกันก็มีเจ็บตัวเป็นบางครั้ง แต่อีกฝ่ายมีช่องว่างเสมอเพราะสายตามองที่เขาอย่างเดียวเหมือนอยากตั้งใจฆ่าเขาคนเดียวนั้นทำให้ฟีนีอุสสามารถจัดการอีกฝ่ายได้ง่าย ๆ ก่อนที่เขาจะสาดการโจมตีอันต่อเนื่องทันที
“อย่าคิดว่าฉันจะยอมนาย!! สิ่งที่นายพูดก่อนหน้ามันคืออะไรกัน!!”
“อึก!! ทำไมแกอยากรู้หรือไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโพรทาเลีย”
“คนรักจะเป็นอะไร มีหรือว่าใครจะไม่อยากรู้นะ!!”
ดีแลนได้ยินคำพูดอีกฝ่ายที่บอกว่าคนรัก ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดกับคำนั้นสุด ๆ คนที่จะเรียกโพรทาเลียว่าที่รักได้มีแต่เขาเท่านั้น
“อย่ามาเรียกโพรทาเลียว่าที่รักต่อหน้าฉัน!!! ไอ้สวะ!!”
“ใครสวะกันแน่!!”
ฟีนีอุสกล่าวพร้อมกับตวัดดาบไปหาอีกฝ่ายด้วยรัศมีตรงกับคอทันที แค่อีกฝ่ายก็รีบก้มหลบแล้วตวัดขาตัวเองจะสกัดขาอีกฝ่ายให้ล้ม แต่ฟีนีอุสก็กระโดดหนีทันแล้วใช้ขาข้างหนึ่งกระทืบข้างอีกฝ่ายทันทีจนดีแลนร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ดีแลนเงยหน้ามองอีกฝ่ายแล้วใช้ดาบพุ่งไปหาอีกฝ่าย ฟีนีอุสหมุนดาบตวัดป้องกันจนเขารู้สึกถึงการสั่นที่สะท้านผ่านมือของเขาที่จับดาบ คาเร็นน่าเห็นการต่อสู้ของพ่อและอีกฝ่ายทำให้เธอเป็นห่วงเขามาก ๆ ว่าจะผ่านไปได้ไหม จนเธออยากเข้าไปช่วยก่อนที่พี่ชายจะเอามือมากักไม่ให้เธอผ่านเข้าไปในการต่อสู้ตรงหน้า
“พี่!!”
“อย่าเข้าไปขัดการต่อสู้ของพ่อเขา!!”
“แต่ถ้าไม่ช่วยตอนนี้เกิดพี่ดีแลนทำอะไรพ่อขึ้นมาจะทำไง!?”
“หึ! เธอไม่เชื่อใจพ่อหรือไง?”
“ฉันเคยบอกพี่นะ ฉันไม่เชื่อ เพราะสิ่งรอบข้างทำให้เราพลาดได้เสมอนะ!!”
เกร๊ง!!!
ทั้งสองคนต่างหันไปมองอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเห็นดาบของหนึ่งในนั้นกำลังลอยขึ้นสูงก่อนจะตกลงมาปัดลงที่พื้นอย่างรวดเร็ว ชายที่ได้เปรียบก็จ่อดาบไปข้างขออีกฝ่าย ชายผิวขาวซีดดวงตาสีแดงจ้องมองชายผมทองที่ทำให้เขาเสียท่า ฟีนีอุสหอบหายใจอยู่นานเขาไม่ได้หายใจตลอดการโจมตีเขาตั้งใจจนไม่ได้หายใจ เขาจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าไม่พอใจก่อนจะเอ่ยถามถึงสิ่งที่อีกฝ่ายเคยพูดทำให้เขาอยากรู้
“จงบอกมา!? คำทำนายที่นายพูดก่อนหน้ามันหมายความว่าไง!?”
“คำทำนายไหน?”
“แกบอกว่าเราจะไม่สามารถเจอกับโพรทาเลียอีก มันหมายความว่าไง!?” ฟีนีอุสดันดาบกดไปที่ริมคออีกฝ่ายจนมีเลือดซึมออกมา
“หึ!!” ดีแลนมองอีกฝ่ายถามถึงคำทำนายที่เขาแอบได้ยินจากแซเทิร์นนั้นทำให้เขารู้สึกน้ำตาอยากไหลออกมาแต่ก็ต้องฝืนทน “ก็หมายถึงเธอจะไม่กลับมาหลังจากที่เธอจัดการกับแซเทิร์นได้ไงล่ะ!!”
ฟีนีอุสตาลุกวาวเมื่อได้ยินแบบนั้นก่อนที่เขาจะมองไปหาลูกทั้งสองคนพร้อมกับตะโกนให้ลูก ๆ เตรียมตัวไปที่เขาโอลิมปัสกัน เขาเดินออกจากตรงนั้นโดยไม่สนใจดีแลนแล้วแต่นั่นกลายเป็นจุดบอดที่เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโจมตีเขา เดวิคกับคาเร็นน่าเห็นอีกฝ่ายกำลังลุกขึ้นมาพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่เล็บกำลังงอกยาว
“พ่อ!! ระวังข้างหลัง!!!”
“!!!”
จบตอนที่ 138 โปรดติดตามตอนที่ 139 ต่อไป
----------------------------------------------------
ข้อความจากนักเขียน
อีกไม่นานจะจบแล้วนะคะ