ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ปล. ก่อนอ่าน วันนี้เป็นวันเกิดของโพรทาเลียและโฟกัสและวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะลงนิยายทั้งหมดให้แก่เหล่านักอ่านทุกท่าน ขอบคุณที่ติดตามจนถึงวันนี้และหลังจากนี้ก็อ่านกันให้มันจนจบไปเลยนะคะ ขอบคุณที่หลายคนมาอ่านกับนิยายแฟนฟิคนี้ที่มีการแก้ไขมาตลอด 8 กว่าปี รักทุกคนที่มาอ่านกันนะคะ
จากใจนักเขียน YukiCoCo
ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง
สองคนที่เคยเจอกันก่อนหน้ามาหลายปีก่อนสำหรับคนหนึ่งแค่ไม่กี่นาที แต่อีกคนนานเป็นปีกว่าจะได้เจอแถมความทรงจำพึ่งกลับมาทำเอาเขาคิดเลยว่าสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจมานานคืออะไรจนกระทั่งตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าคนที่ช่วยเขาไว้นั้นคือใครและคนคนนั้นคือลูกสาวของเพื่อนและว่าที่ลูกสะใภ้แสนเก่งของเขา พอนึกถึงตอนนั้นเขาจะไม่บอกภรรยาแน่ ๆ ว่าในใจแอบสนใจลูกสะใภ้ไปช่วงขณะไม่งั้นเขาได้ตายแน่ ๆ เจสันตั้งสติก่อนจะเอ่ยถึงเรื่องก่อนหน้าที่อีกฝ่ายพูดขึ้นมา
“เมื่อกี้เธอบอกว่ามีแผน? ไหนเล่ามาสิ”
“ค่ะ จากที่ฟังมากองทัพของแซเทิร์นแบ่งออกเป็นห้ากลุ่มล้อมค่ายแห่งนี้เอาไว้ เป็นวงกว้างที่สามารถทำให้เราจนมุมอยู่ภายในนี้และโจมตีได้อย่างง่ายดาย ทางหนีของเรามีแค่ข้ามไปยังอีกค่าย นอกจากค่ายจูปิเตอร์จะโดนโจมตีด้วย”
“ไม่โดนนะ ตอนนี้มีแค่ที่นี่ที่โดน”
โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็เข้าใจทันใดว่าทำไมมีแต่ที่นี่ที่โดนโจมตีอยู่ตำแหน่งเดียว มันเพราะตัวเธอที่แซเทิร์นต้องการนั้นเอง
“งั้นมีแผนเดียวที่ได้ผลดีที่สุดและเป็นเหยื่อล่อพวกมันให้ตายใจได้ คือการใช้กำลังพลแค่นายเดียวเท่านั้น”
“กำลังพล?”
“นายเดียว?”
“จะบ้าหรือไง!? ให้คนเดียวออกไปโจมตีพวกมันเนี่ยนะ?”
“แล้วกำลังพลคนนั้นจะเป็นใครกัน?”
“พวกนายไม่น่าถามเลยนะ...ก็มีอยู่คนหนึ่งที่ทำได้...” เจสันเงยหน้ามองด้วยสายตาอันเฉียบคมมองเจ้าของแผนนี้ “เธอกำลังจะบอกว่าให้เธอจัดการเองคนเดียวสินะ โพรทาเลีย”
ใบหน้าเล็กจ้องมองชายหนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มที่ยิ้มมุมปาก “ถูกต้องค่ะ!”
“ห๊า!!” เพอร์ซีย์ได้ยินแบบนั้นก็ตกใจที่ลูกสาวของเขานั้นจะออกลุยเดี่ยว “โพรทาเลียจะบ้าหรือไง!!!”
“ใช่ค่ะ! หนูบ้า!! ไม่งั้นคงไม่ทำอะไรแบบนี้นะคะ”
“เอ่อ...ลูกอย่าซ้ำเติมตัวเองสิ...”
“ก็พ่อเริ่มดูก็ย้ำให้ไงคะ!” โพรทาเลียเอียงคออย่างสงสัย
เพอร์ซีย์ที่โดนลูกตอบกลับแบบนั้นเขาก็โดนภรรยากระแทกข้อศอกใส่ทันทีที่พูดแบบนั้นกับลูกสาว ทำเอาเขาเจ็บซี่โครงอย่างจัง ทุกคนมองก็สมน้ำหน้าหน่อย ๆ ก่อนที่โพรทาเลียจะเอ่ยพูด
“แต่หนูต้องความช่วยเหลือจากพี่น้องสายเลือดเฮเฟตัสหน่อยนะคะ”
“หือ? อยากให้ทำอะไรล่ะ!! ในฐานะพี่น้องสายเลือดเดียวกันฉันช่วยได้หมดล่ะ!!”
“นั้นลูกฉัน ลีโอ!! ไม่ใช่พี่น้องของนาย!!”
“พ่อฉันบอกแล้วว่าให้ดูแลโพรทาเลียให้ดีในฐานะลูกสาวของท่าน ฉันก็ต้องดูแลน้องสาวของตัวเองหน่อยล่ะนะ!!”
“ลูกฉัน!!”
“น้องฉัน?!”
“เลิกทะเลาะกันได้แล้ว!!” เจสันขึ้นเสียงขึ้นมาทันใด
ทุกคนหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงที่เบ่งออกมาดังทั่วบริเวณนั้น พวกวัยรุ่นที่อยู่แถวนั้นต่างก็หยุดนิ่งรวมถึงเด็กน้อยสองคนที่อยู่ข้างผู้ได้ยินก็แอบสะดุ้งก่อนจะวิ่งไปหาพ่อของพวกเขาทันที ฟีนีอุสก็อุ้มลูกทั้งสองเพื่อปลอบเบา ๆ
“พ่อครับ...ทำหลาน ๆ ตกใจหมด”
“อ๊ะ!!” เจสันมองหลาน ๆ ที่กอดคนเป็นพ่ออย่างตกใจ
โพรทาเลียรีบเดินไปหาลูกทั้งสองคนพร้อมกับปลอบ “ไม่ตกใจนะ เดวิค คาเร็นน่า...”
“แม่! คุณปู่ตะโกนเสียงดังมากอ่ะ!!” คาเร็นน่าอ้าแขนไปหาแม่พร้อมกับโอบกอดอย่างหวาดกลัว
“โอ๋ ๆ คุณปู่เขาไม่ได้ตั้งใจนะ โอ๋ ๆ” โพรทาเลียอุ้มลูกสาวพร้อมกับปลอบ
เจสันมองลูกสะใภ้ปลอบหลานทั้งสองทำเอารู้สึกแย่เลย เขานึกถึงตอนลูกสาวลูกชายโดนเขาดุทีเดียวกว่าจะคืนดีกันหลายวันเลย จนเขาต้องรีบเข้าไปขอโทษหลานทั้งสองอย่างรวดเร็วไม่งั้นเขาคงโกรธแน่ ๆ
“หลาน ๆ ปู่ ขอโทษนะ...ที่เสียงดัง...ยกโทษให้ปู่นะ”
น้ำเสียงอันอ่อนและสื่อว่ารู้สึกผิดจนเด็กทั้งสองรอดสายตาออกมาจากอกพ่อแม่ก็มองปู่ด้วยสายตาเฉยชาก่อนที่จะหันหน้าหนีด้วยความอาการที่ยังงอนคนเป็นปู่ เจสันเห็นแบบนั้นก็ช็อกเลยที่หลาน ๆ ทำตัวเหมือนลูกของเขาไม่มีผิดหลังจากนี้เขาต้องหาอะไรมาปลอบอีกแล้ว โพรทาเลียเห็นก็ได้แต่หัวเราะในลำคอ เธอหอมแก้มลูกทั้งสองคนที่ยังงอนปู่อยู่ แต่ไม่นานหรอกเดียวก็หาย ระหว่างที่ประชุมกันเล็กน้อยทุกคนต่างแยกย้ายไปทำงานของตนเองต่อ แต่ทว่าโพรทาเลียมีเรื่องจะคุยกับพ่อของเธอต่อ ตอนแรกเพอร์ซีย์ไม่รู้ว่าลูกสาวต้องการอะไรจนกระทั่งออกเดินทาง
เสียงลิฟต์กำลังแล่นไปข้างบนเสียงสั่นสะเทือนจนมาถึงชั้นบนสุด ทุกคนต่างมองหน้ากันชั่วขณะก่อนที่ประตูจะเปิดกว้าง เพอร์ซีย์หันหน้าออกไปนอกประตู เขาเห็นสถาปัตยกรรมอันคุ้นเคยถึงมันช่างเป็นสถานที่ที่เพอร์ซีย์ไม่อยากมาถ้าไม่จำเป็นและไม่ใช่เพราะว่าลูกสาวของเขาต้องการจะมา โพรทาเลียเดินนำหน้าไปก่อนอย่างไม่คิดอะไรจนเพอร์ซีย์กับโฟกัสที่ตามมาด้วยก็รีบเดินตามอีกฝ่าย โพรทาเลียอยากจะตรงดิ่งไปยังที่ที่เธออยากจะไปแต่ทว่าการไม่พบกับเจ้าของสถานที่นี่ก่อนอาจจะเป็นการเสียมารยาท เพอร์ซีย์พาเข้าไปยังสภาเทพ เหล่าทวยเทพกำลังประชุมก็มีการแจ้งเข้ามาว่าบุตรแห่งโพไซดอนและหลานสาวมาขอเข้าพบ ทวยเทพได้ยินก็ยอมเชิญพวกนั้นเข้ามา แต่พวกเขาหารู้ไหมว่าตัวเองนั้นกำลังจะเจอภัย
ทวยเทพกลายร่างให้เล็กลงเพื่อพูดคุยกับมนุษย์ให้ง่ายขึ้น ทั้งสามคนก้าวเข้ามายังสภาเทพอย่างไม่เกรงกลัว แต่หนึ่งในนั้นกำลังรับพลังอันรุนแรงของทวยเทพจนตอนนี้สติไม่อยู่กับตัวเลยสักนิดยิ่งมีพลังที่ดึงดูดเธออยู่อีกมันยิ่งรับไม่ไหวกว่าเดิมจนอยากสลบไปตรงนี้ โฟกัสเห็นพี่สาวทำท่าทางไม่ดีแต่เธอก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
“พี่...ไหวไหม?”
“อืม...พอได้...ถ้าขุดพลังออกมาปะทะก็ดี แต่ว่าพลังของเราเน้นโดยตรงไม่ใช่ทางอ้อมนี่สิ”
“ก็จริงนะ...แต่พวกเทพ...”
เพอร์ซีย์ได้ยินบทสนทนาของลูกทั้งสองก็หันไปมองอย่างสงสัย “ทั้งสองเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“เอ่อ...แค่...”
“พวกเธอปล่อยพลังมากดดันนะคะ คงโกรธเมื่อตอนนั้นที่พวกหนูเล่นงานพวกเขานะ”
เพอร์ซีย์ได้ยินแบบนั้นก็หันไปมองด้วยความไม่พอใจที่พวกนี้เล่นกันอะไรจนพวกเขาเดินมาถึงปลายทาง พวกเขาก้มโค้งทำความเคารพเทพทั้งหลาย
“ขอทำความเคารพเหล่าเทพ”
“ไม่นึกว่าพวกเจ้าจะมาที่นี่แห่งนี้หลังจากพวกเรานั้นได้ข้อมูลใหม่เข้าในหัวของพวกเรากันจริงไหม? หลานสาวโพไซดอน?” ซุสเอ่ยพูดเขาหันไปมองเด็กหญิงผมสีดำ
โพรทาเลียเก็บอาการของตนเองก่อนจะทดลองบางอย่างเธอลองแผ่แรงกดดันของตนเองออกมาเช่นกัน จนทำเอาเทพแต่ละองค์ที่แผ่แรงกดดันมาก่อนหน้ารู้สึกว่าแรงกดดันจากอีกฝ่ายนั้นช่างแข็งแกร่งเกินไปจริง ๆ ก่อนที่โพรทาเลียเห็นจะยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเลิกทำ
“ไม่รู้สินะ ตอนนั้น...พวกเทพแต่ละองค์...ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในหัวเลยสักนิด นอกจากอยากกลับบ้าน พวกท่านอยากมาวุ่นวายเอง”
“เจ้าว่าไงนะ!?”
“หยุดซะ ซุส!! ตอนนั้นถ้าบุตรโพไซดอนไม่ห้ามลูกสาว ตอนนี้ท่านคงไม่อยู่ให้มาเชิดคอได้ น่าเสียดายที่ตอนนั้นเจ้าฆ่าไปนิด!!” เฮร่าประชดอย่างไม่พอใจ เพราะถ้าซุสหายไปลูกชู้แต่ละคนคงไม่โผล่มาขนาดนี้
“เฮร่า!!”
“ผัวเมียห้ามทะเลาะกัน!!” โพไซดอนกล่าวออกมาก่อนจะมองสายเลือดของเขา “พวกเจ้ามาที่นี่ เนื่องจากเหตุอันใด?”
คำถามนั้นทำให้คนที่อยากฟังกล่าวเดินออกมาจากด้านหลังผู้เป็นพ่อ ทุกสายตาจับจ้องมาที่หญิงสาวที่ก้าวมาข้างหน้ายิ่งทุกสายตามองพวกเขานึกถึงเรื่องในอดีตที่เคยเจอ หญิงสาวที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อนจนตอนนี้รู้แล้วว่าคือใคร ซุสจ้องมองคนตรงหน้าครั้งแรกที่เธอเจออีกฝ่ายเขานึกว่าเป็นแค่มนุษย์กึ่งเทพธรรมดา ยิ่งตอนนั้นโดนโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวช่างขายขี้หน้าสุด ๆ เขายิ่งสงสัยเข้าไปอีกว่าอีกฝ่ายนั้นต้องการอะไร ดวงตาสีเขียวประกายจ้องมองทวยเทพที่กำลังจ้องมองเธอก่อนที่ปากอันเล็กจ๋อยจะเอ่ยพูดบางสิ่งออกมา
“ฉันขอยืมสถานที่แห่งหนึ่งค่ะ!!” โพรทาเลียเอ่ยออกมาเป็นนัย ๆ
“สถานที่?”
“เจ้าจะมาขอยืมอะไร?”
“โคลอสเซียมค่ะ!!”
เมื่อเอ่ยสิ่งที่ต้องการทุกคนได้แต่จ้องมองอย่างงุนงงว่าสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการมีแค่นี้เองงั้นเหรอ ก่อนที่ซุสจะเอ่ยถามอีกครั้ง
“แค่นี้?”
“ใช่ค่ะ!!”
ซุสได้ยินก็ส่ายหัวอย่างขบขันเขาไม่อยากเชื่อว่าอีกฝ่ายเดินทางมาถึงนี้เพียงแค่ต้องการที่จะขอยืมสถานที่ในเขาโอลิมปัส ถ้ามาแค่นี้แค่แจ้งคนส่งข้อความมาก็ได้ไม่ต้องมาเสนอหน้าให้เขาเห็นก็น่าจะดีกว่า
“ถ้ามีแค่นั้นครั้งหน้าไม่ต้องมา-”
“แต่ว่ายังมีอีก!”
“หือ?” ซุสพูดยังไม่จบอีกฝ่ายก็พูดต่อจนเขานั้นยกคิ้วอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรอีก
“ฉันขอท้าดวลกับท่าน...ซุส!!”
“!!!”
คำท้าดวลทำให้ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อเห็นหญิงสาวต้องการจะท้าดวลกับหนึ่งในมหาเทพ ผู้เป็นพ่อและปู่ถึงกับจ้องมองกันอย่างงุนงงว่าทำไมจู่ ๆ อีกฝ่ายพูดแบบนั้น ซุสที่ได้ยินก็ไม่อยากเชื่อหูตัวเองที่มนุษย์กึ่งเทพไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาท้าดวลกับเขา เสียงสนทนาของเหล่าเทพทำให้โพรทาเลียรับรู้ว่าพวกเขาคิดว่าเธอต้องบ้าแน่ ๆ ที่ท้าดวลกับซุส แต่ว่ายังไม่หมดเธอหันไปหาชายที่อยู่ในชุดเดิมจนทำให้คิดว่าอีกฝ่ายนั้นมีอยู่ชุดเดียวใช่ไหม
“และก็ท่าน แอรีส!!”
“เจ้าท้าดวลผิดคนแล้วนะ!! เจ้าจะแพ้เปล่า ๆ นะ!!” แอรีสยกยิ้มอย่างตื่นเต้น เพราะตอนนั้นเขายังสู้ได้อย่างไม่เต็มทีเลยด้วยซ้ำ
“ยังไม่ได้สู้เลยนะ ท่านคิดว่าตัวเองจะชนะหรือ?”
“เจ้าจะหาว่าข้าจะแพ้เจ้างั้นเหรอ?”
“ไม่รู้สินะ!!”
“ได้!! กี่โมงดีล่ะ!?”
“เดี๋ยวนี้เลยค่ะ!!” โพรทาเลียตอบอย่างชัดเจน
แอรีสจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจที่อีกฝ่ายกล้ามาท้าเขา แต่เขาก็ชอบใจที่มีคนมาท้าดวลเขา แต่คนเป็นพ่อถึงกับอึ้งที่พาลูกสาวมาที่นี่เขานึกว่ามาขออะไรแต่นี้มาขอท้าดวลอีก ทำเอาเขาตกใจจนอยากว่าลูกสาวของเขาจริง ๆ ปากของโพรทาเลียกำลังขยับไปมาเหมือนเธอกำลังคุยกับใครก่อนที่เธอจะขยับมือของเธอพร้อมกับตราที่กำลังเรืองแสงออกมา ก็มีสิ่งบางอย่างพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเธอ ลำแสงที่ออกมาปรากฏของร่างจุติแต่ละคนออกมา ทุกคนเห็นก็ตะลึงถึงจะกี่ครั้งก็ยังตะลึง โพรทาเลียหันไปมองทุกคนก่อนจะออกคำสั่ง
“ระหว่างฉันต่อสู้กับเทพสององค์พวกนายแต่ละคนไปสกัดพ่อแม่ของตนเอาไว้ล่ะ”
“รับทราบ!!”
“ระหว่างคุมตัวแบบนั้น ต่อสู้กันเองมั้งได้ไหม?” ลักซ์กล่าวเขาอยากปะทะกับพ่อของเขา
“อย่าทำอะไรเด็ดขาด ฉันมีพลังได้แค่ประคองพวกนายให้อยู่ในร่างชั่วคราวได้ไม่นาน”
“โธ่...”
“งั้นเล่นสนุกกับพ่อได้ใช่ไหม? ฉันอยากเล่นหมากรุกกับท่านนะ!!” เซเรน่าเสนอสิ่งที่เธออยากเล่นกับพ่อมาตลอดหลังจากที่เธอตายไป
“ตามสบาย”
“เย้!! ท่านพ่อ!! เรามาเล่นหมากรุกเหมือนเมื่อก่อนกัน!!”
เซเรน่าหันไปพูดกับบิดาของตนเองด้วยสีหน้าสดใสเหมือนเด็กแรกแย้ม ทำเอาคนเป็นบิดาเห็นรอยยิ้มนั้นก็เปี่ยมไปด้วยความสุขมาก ๆ โฟกัสได้ยินคำพูดของพี่สาวพูดแบบนั้นทำให้เธอลองทำมั้ง พวกอดีตชาติฝั่งโฟกัสก็โผล่ออกมาพวกนั้นไม่ต้องพูดก็รับรู้แล้วว่าต้องการให้ทำอะไร พวกโพรทาเลียเรียกเชิญไปกับพวกเธอตรงดิ่งกันที่โคลอสเซียม เหล่าเทพที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่ต้องเป็นพยานพวกเขาก็ได้แต่มานั่งมองกัน บางคนหันไปสนใจลูกของตนเอง ซุสกับแอรีสมาอยู่ที่ใจกลางโคลอสเซียมพร้อมกับโพรทาเลียที่เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ พวกอดีตชาติต่างพากันส่งเสียงเชียร์
“โพรทาเลีย!! อัดเทพทั้งสองให้สลบไปเลย!!”
“เอาเท่าที่ทำได้นะ!!”
“โพร ฉันพนันข้างเธอไว้นะ!!”
“นี่ยังไม่เริ่มก็พนันกันแล้วเหรอ!?”
“สิทธิ์ของฉันนี่น่า!!”
“น่ารำคาญจริง ๆ พวกผู้ชายพวกนี้...”
“งั้นเจ้าอย่าไปฟังดีกว่านะ” โพไซดอนหันไปมองลูกสาว เขาใช้น้ำทำเป็นร่มป้องกันไม่ใช่ลูกสาวโดนแดดเผา
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”
“รักลูกเจ้าจังนะ โพไซดอน แต่อีกคนกำลังยืนโดนแดดอยู่นั้นนะ”
เทพีดีมิเทอร์หันสายตาไปมองคนที่อยู่อีกมุมกำลังจ้องมองสถานการณ์อันตึงเครียดอยู่
“เพอร์ซีย์!!” โพไซดอนเอ่ยเรียกอีกฝ่าย
เพอร์ซีย์ก็หันไปมองอีกฝ่ายเรียก เขาก็เดินตรงไปหาอีกฝ่าย “ครับ?”
“เจ้ามานั่งสิ ไปยืนกลางแดดทำไม?”
“ขอโทษครับ...ผมกำลังเครียดนะ ลูกผมท้าดวลกับเทพนะ!!”
“อย่ากังวลไป บุตรโพไซดอน คนที่ท้าไม่ใช่โพรทาเลียสักหน่อย”
ชายหนุ่มที่มีดวงตาเหมือนจะปิดตลอดเวลาเอ่ยพูดขึ้น เขากำลังฮ้าวอย่างง่วงนอน ทำเอาคนเป็นพ่อได้แต่ส่ายหัว แล้วทุกคนที่อยู่ตรงนั้นได้แต่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“พวกคุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง?”
“รอดูพวกท่านก็เห็นเองล่ะ!!”
พวกเธอที่ฟังคำพูดของสายเลือดไดโอนีซุสกล่าวแบบนั้นทำให้สงสัยว่าคำกล่าวนั้นแฝงอะไรกัน ก่อนที่ในลานประลองโพรทาเลียกำลังจ้องมองเทพทั้งสองที่กำลังเตรียมตัวคุยกันว่าตัวเองจะทำอะไรก่อน เธอก็หลับตาลงอย่างไม่สนใจอะไร ดวงจิตของเธอโดนดึงสู่ห้วงแห่งจิตอันมืดมิด ภายในมีแสงสว่างแค่เล็กน้อยกลิ่นอายของสายฟ้ากำลังแล่นไปตามร่างกายของเธอ โพรทาเลียลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับหันไปมองก็เห็นชายร่างสูงผมสีน้ำตาลทองกำลังจ้องมองเธอ อีกฝ่ายใส่ชุดกรีกแบบเดียวกับที่เธอเห็นครั้งก่อน เขาเดินตรงมาหาเธอพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่โพรทาเลียมองยังไงมันก็แฝงความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจอยู่ภายใน ชายหนุ่มอ้าแขนต้อนรับอีกฝ่ายที่อยู่ในที่แห่งนี้ตามที่นัดหมายกันมา
“เธอมาแล้ว ดีจริง ๆ ที่เธอมาแต่ว่าฉันมีเรื่องจะบอก-”
“หยุดก่อน!”
“หือ?”
“ฉันขอพูดอะไรบางอย่างก่อน นายบอกว่าใครกันที่อยากให้ฉันตาย ฉันบอกคำ ฉันรู้อยู่แล้ว?”
“รู้อยู่แล้ว? เธอรู้ว่าใครกัน?”
“เคออส คนที่สรรค์สร้างโลกนี้ แองเจิลเคยบอกแล้วนะ”
“ว่าไงนะ!! ทำไมมีแต่คนชอบบอกอะไรเจ้ากัน! แองเจิลอีกคนเป็นคนบอกเองว่าอย่าบอกใครแต่ทำไมกัน!!”
“ช่างสิ...”
“ว่าไงนะ!?” ฮาลอนมองอีกฝ่ายที่พูดแบบนั้นก็เกิดข้อสงสัยทันที “เธอ...ถ้ารู้อยู่แล้วจะมาทำไม?”
“ที่ฉันมาก็เพราะนายไงล่ะ!!”
“ห๊า!?”
“นายเห็นข้างนอกนี่? ฉันเตรียมการแสดงไว้ให้นายอยากปลดปล่อยให้ก็ตามสบายฉันให้เวลา 1 ชม. ถ้านายชนะ นายอยากทำอะไรก็ตามใจ แต่ถ้านายแพ้นายต้องยอมรับบททดสอบให้ฉัน เพราะฉันรู้สึกว่าอีกไม่นานหายนะกำลังจะมา!!”
ฮาลอนได้ยินแบบนั้นใบหน้าของเขาเผยริมฝีปากที่ฉีกยิ้มอย่างดีใจเหมือนคนบ้า โพรทาเลียเห็นก็รู้สึกว่าการประลองครั้งนี้อาจจะไม่จบเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงที่เธอกำหนดเป็นแน่
จบตอนที่ 133 โปรดติดตามตอนที่ 134 ต่อไป