ถ้าหมอนข้างน้องกระต่ายขาดแบบนี้ คืนนี้จะนอนกอดอะไรล่ะ คุณช่างซ่อมตุ๊กตา... เอ๋ ทำไมถึงได้น่ารักจังเลยนะ?

ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี - ตอนที่ 17 หมีรับมือ โดย ดังใจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ไทย,feel good,slice of life,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

feel good,slice of life,#BL

รายละเอียด

ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี โดย ดังใจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ถ้าหมอนข้างน้องกระต่ายขาดแบบนี้ คืนนี้จะนอนกอดอะไรล่ะ คุณช่างซ่อมตุ๊กตา... เอ๋ ทำไมถึงได้น่ารักจังเลยนะ?

ผู้แต่ง

ดังใจ

เรื่องย่อ

สารบัญ

ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 1 หมีทำขาด,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 2 หมีพร่ำเพ้อ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 3 หมีให้นะ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 4 หมีว้าวุ่น,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 5 หมีตัวดื้อ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 6 หมีเปิดเผย,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 7 หมีออกงาน,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 8 หมีอยากหล่อ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 9 หมีก็เขิน,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 10 หมีเป็นห่วง,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 11 หมีเฝ้าไข้,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 12 หมีปลอบใจ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 13 หมีเร่งรีบ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 14 หมีโดนแซว,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 15 หมีมีจุ๋น,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 16 หมีประกาศ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 17 หมีรับมือ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 18 หมีรับฟัง,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 19 หมีออกเดท,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 20 หมีเติมใจ [จบ]

เนื้อหา

ตอนที่ 17 หมีรับมือ



จุ๋นคิดว่าตัวเองพอใจสุดๆ แล้ว คนสั่งตามเป้าสิบตัวแรก คอมเมนต์แย่ๆ ก็แทบไม่มี คืนนี้คงแยกย้ายกับหมีให้ได้ไปนอนสบายๆ แล้ว ส่วนตัวเขาเองก็จะนั่งดูยอด ตอบคำถามต่างๆ ต่อไปอีกสักหน่อย

แต่สีหน้าหมีตอนนี้ดูแปลกๆ ตอนที่ดีใจกับเขาเมื่อกี้ยังยิ้มอยู่ดีๆ กลับมีสีหน้ายุ่งยากใจขึ้นมาหลังจากพิมพ์อะไรบางอย่างลงไป มันคืออะไรกันนะ?

“หมี มีอะไรรึเปล่า”

“กอดหน่อยได้มั้ยจุ๋น”

แปลกมากที่หมีจะเอ่ยขึ้นก่อน แม้จุ๋นจะประหลาดใจแต่ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว เขาเตรียมจะลุกขึ้นแต่หมีกลับเป็นฝ่ายเดินมาหาเสียก่อน ย่อตัวกอดเขาที่ยังนั่งกับเก้าอี้จนน่ากลัวว่าจะปวดขาปวดเข่า

“ให้เราลุกก่อนก็ได้มั้งหมี”

“ขอกำลังใจแป๊บเดียว เดี๋ยวจะไปสู้ต่อแล้ว”

“อะไร สู้กับอะไร”

เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ ในเมื่อวันนี้เป็นวันต่อสู้ของจุ๋นเองมิใช่หรือที่ต้องต่อสู้กับทั้งความอยากขายของ ความคาดหวัง และความกลัวผิดหวัง แล้วตอนนี้หมีต้องสู้กับอะไรกัน ในขณะที่คิดอยู่ แจ้งเตือนจากคอมเมนต์เฟซบุ๊กก็เด้งขึ้นมา และทำให้เจ้าของเพจถึงบางอ้อ

‘พี่เป็นแฟนพี่หมีจริงๆ ใช่มั้ยคะ’

“หมีบอกคนอื่นไปเหรอ”

“อื้อ”

จุ๋นลุกขึ้นเดินตามหมีที่เดินกลับที่นั่งตัวเอง เห็นที่อีกฝ่ายตอบคอมเมนต์ไปแล้วก็ตกใจจนเอามือปิดปาก ด้วยรู้ว่าเรื่องเพศสภาพของหมีมีน้อยคนนักที่รู้ แล้วตอนนี้เพจเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของหมีก็แทบแตกไปแล้ว แค่เห็นจำนวนแจ้งเตือนก็น่ากลัวแล้วโดยที่ยังไม่ได้กดไปอ่านอะไร ดูท่าเจ้าตัวก็คงอยากรู้แต่ก็กลัวเหมือนกัน

“เราอ่านให้เอามั้ย”

“อื้อ แป๊บนึงนะจุ๋น”

เสียงโทรศัพท์ของหมีดังขึ้นพอดี จุ๋นเห็นหน้าจอแล้วเป็นแม่ของอีกฝ่ายโทรมา คงจะรู้เรื่องตอนนี้เหมือนกันถึงโทรมาได้จังหวะขนาดนี้ ดีจัง กำลังใจจากครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญในตอนนี้เลย

ไม่ใช่แค่กำลังใจจากครอบครัว แม้แต่ฝั่งเพื่อนก็คงไปถึงเร็วเหมือนกัน แจ้งเตือนจากไลน์ที่ล็อกอินในโน้ตบุ๊กเด้งขึ้น เป็นปั้นที่ทักมาก่อนคนแรก ทีแรกจุ๋นลังเลว่าจะตอบดีมั้ย จึงดึงเสื้อหมีให้มาดูว่าเพื่อนสนิททักมาแล้วทำนิ้วเป็นท่าทางว่าจะตอบให้ อีกฝ่ายก็อนุญาต

‘เล่นงี้เลยเหรอวะไอ้หมี โคตรกล้า’

‘ปั้น นี่จุ๋นเองนะ หมีคุยกับที่บ้านอยู่อะ’

‘อ่อโอเค แล้วนี่ ที่หมีมันบอก จุ๋นเป็นคนบอกให้พิมพ์ไปอย่างนั้นรึเปล่า’

‘เปล่านะ เราก็เพิ่งรู้ตอนหมีบอกเนี่ย’

‘5555 เจ๋ง นี่เดี๋ยวเพื่อนๆ ก็คงถามเหมือนกัน เดี๋ยวเราเคลียร์เพื่อนมัธยมให้เอง แต่เพื่อนมหาลัยมันมีอีกกลุ่มนึง ฝากจุ๋นดูด้วยละกัน’

‘โอเค’

เพื่อนๆ เหรอ ใช่สองกลุ่มที่กำลังมีแจ้งเตือนดังนี่รึเปล่านะ อันที่จริงก็ไม่ใช่แค่สองกลุ่มหรอก แต่ไลน์ของหมียังมีคนอื่นถามขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนคนอื่นหรือใครยังไง เอาไว้ค่อยบอกหมีทีหลัง ตอนนี้ขอสังเกตการณ์กลุ่มเพื่อนก่อนดีกว่า

ข้อความจากหลากหลายคนต่างขึ้นมาว่า จริงเหรอ เป็นตั้งแต่เมื่อไร มิน่าถึงไม่สนใจสาวๆ นึกว่าชอบแต่สาว2Dซะอีก แต่เท่าที่อ่านผ่านๆ ดูก็ไม่ได้มีใครรับไม่ได้ขนาดนั้น มีแต่ตกใจกันซะมากกว่าเพราะหมีไม่เคยบอกใคร โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนมัธยมที่ตอนนี้ชี้ไปที่ปั้นแทนแล้ว ว่าทำไมรู้อยู่คนเดียว พวกเขาไม่น่าไว้ใจกันขนาดนั้นหรือยังไง

อ่า.. นั่นสินะ สำหรับเพื่อนสนิทแล้วคงจะคิดอย่างนั้นแหละ ทั้งที่คิดว่าตัวเองจะรู้เรื่องของเพื่อนมากมายแท้ๆ แต่ที่ปั้นตอบกลับไปก็มีเหตุผล ว่าสมัยนั้นหลายคนในกลุ่มชอบแซวกะเทยกัน แล้วใครจะไปกล้าบอก หมีเองก็กลัวโดนแกล้ง นั่นล่ะเพื่อนๆ ถึงคงจะย้อนนึกแล้วคิดได้กันขึ้นมา พลางบอกว่าตอนนี้พวกตัวเองก็เกินวัยเบญจเพสแล้ว เข้าใจโลกมากขึ้น แล้วก็ยอมรับหมีได้ ได้อ่านเท่านี้จุ๋นก็โล่งใจแทน

‘อะไรวะเนี่ย กูรับไม่ได้หรอกนะ’

แต่ดูเหมือนกลุ่มเพื่อนมหาวิทยาลัยจะไม่ได้เรียบง่ายแบบนั้น ใช่มั้ยนะ ในเมื่อข้อความนี้ดังขึ้นมาจากกลุ่มหนึ่งซึ่งมีสมาชิกห้าคน และพอจุ๋นกดเข้าไปดู คงทำให้คนขึ้นอ่านกันครบ ถึงได้มีข้อความขึ้นมาอีก

‘ไอ้หมีตอบสิวะ มึงแค่อำนักอ่านเล่นใช่ปะ’

จุ๋นนิ่ง ด้วยคิดว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ตอบแทน ยังดีที่คนอื่นๆ ในกลุ่มยังคอยถามว่าจะคาดคั้นทำไม เป็นจริงแล้วทำไม แต่คนๆ นั้นก็ยังไม่หยุด จุ๋นไม่เข้าใจเลย คงเพราะเพื่อนๆ ของเขาไม่มีใครเลยที่รับไม่ได้ เลยไม่เข้าใจว่าคนที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปี ทำไมถึงยอมรับเพื่อนของตนไม่ได้

แต่ก็พลอยเข้าใจหมีขึ้นมา ว่าทำไมไม่กล้าเปิดเผยออกไป…

“มาแล้วจุ๋น”

หมีดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆ จุ๋นด้วยหน้าตาแจ่มใส พ่อแม่คงจะอัดฉีดพลังบวกมาเยอะเลยมีกำลังใจขึ้นมา ไม่รู้ว่าพอเห็นข้อความของเพื่อนแล้วจะใจเหี่ยวอีกมั้ย จึงเปิดกลุ่มของเพื่อนมัธยมให้ดูก่อนดีกว่า

“ปั้นช่วยเยอะมากเลยนะ”

“จริงด้วย” ด้วยความที่นอกจากปั้นแล้วต่างแยกเรียนคนละมหาวิทยาลัยกับคนอื่นและไม่ได้เจอกันบ่อยๆ ทำให้ตลอดมายังติดภาพทุกคนในวัยมัธยมกันอยู่ พอเห็นว่าเพื่อนเติบโตและยอมรับความหลากหลายได้แล้วก็โล่งใจ ได้ตอบขอบคุณเพื่อนๆ ไปก่อนเล็กน้อยแล้วจึงบอกว่าขอไปเคลียร์ที่อื่นๆ ก่อน ทุกคนก็ให้กำลังใจกลับมา

แล้วกลุ่มที่ไม่มีปั้นอยู่ล่ะ?

‘ไอ้หมีหายเลย เพราะมึงนั่นแหละ’

‘กูก็ไม่อยากอยู่กลุ่มเดียวกะพวกผิดเพศมั้ย’

แจ้งเตือนขึ้นเต็มสองตาเลย ใจที่เต็มฟูเริ่มเหี่ยวลงเมื่อเห็นว่าเป็นข้อความจากใคร เพื่อนคนนี้อาจจะไม่ได้สนิทกันที่สุดในกลุ่ม แต่นิสัยกับรสนิยมหลายอย่างคล้ายกัน เลยรู้สึกช็อกขึ้นมาเมื่อเพื่อนดูจะไม่ยอมรับขนาดนี้

“เราอยู่ตรงนี้นะหมี”

แรงบีบที่ไหล่ของจุ๋นทำให้พอทำใจสู้ขึ้นมาได้บ้าง พอหันไปยิ้มให้คนรักแล้วหมีถึงมีแรงกดเข้าไปอ่านในกลุ่ม ข้อความยังคงไหลมาอย่างต่อเนื่อง

‘ผิดก็ช่างมันปะไรวะ เพื่อนเป็นเกย์แล้วมึงเดือดร้อนอะไร’

‘พวกมึงไม่ใช่คนจะถูกอัดตูดก็ไม่เข้าใจดิ มิน่าเมื่อก่อนแม่งตัวติดกับกูจัง คิดแล้วขนลุก’

หา?

“หมีเคยชอบคนนี้เหรอ”

หมีส่ายหน้าอย่างเร็วเมื่อได้ยินคำถามของจุ๋น ไม่เคยชอบเพื่อนในกลุ่มตัวเองเลยสักครั้ง ไม่แม้แต่จะคิด ไม่รู้ว่ามันเอาความมั่นใจจากไหนมาพูดแบบนี้ ไม่ได้การ เขาต้องแก้ข่าวแล้ว

‘อะไร ใครจะไปชอบมึง บ้ารึเปล่า’

‘มาแล้วเหรอไอ้เกย์ ไม่ชอบแล้วเมื่อก่อนกินข้าวเหมือนกูทำไม มาแชร์การ์ตูนกับกูทำไม ไปเที่ยวตจวมึงก็นอนแต่กะกู’

นี่มันแปลว่าชอบตรงไหนนะ…

และคงไม่ใช่หมีกับจุ๋นที่อ่านแล้วทำหน้าเอือมอยู่หน้าจอคอมกันสองคน เพราะดูเหมือนเพื่อนคนอื่นจะงงเหมือนกัน ถึงได้เป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อนที่ตัวคนถูกถามจะพิมพ์อะไรตอบเสียอีก

‘เรื่องนอนนี่ ก็เมื่อก่อนมึงเล่นเกมเดียวกันอยู่สองคนป่ะวะ’

‘กินข้าวเหมือน? งง ก็พวกมึงชอบกินแกงส้มไง งี้กูชอบกินคั่วกลิ้งเหมือนใครคือชอบคนนั้นเหรอ’

‘ไม่ใช่ดิ พวกมึงไม่เข้าใจ มันมีสัญญาณอยู่’

‘ไม่มีเหี้ยอะไรทั้งนั้น’

จุ๋นยังตกใจเมื่อเห็นหมีพิมพ์แบบนั้นออกไป รู้อยู่หรอกว่าอยู่กลุ่มผู้ชายห่ามๆ ก็คงพูดคำหยาบกัน เพราะกลุ่มหลากเพศของจุ๋นก็พูด แต่คงเพราะไม่เคยได้ยินหมีพูดกับตัวเอง ถึงได้ตกใจและคิดว่าหมีคงหัวร้อนมาก จึงรีบกอดแขนอีกฝ่ายไว้ หวังช่วยปลอบประโลม

‘มั่นหน้านักนะมึง กูเป็นเกย์ก็ไม่ได้ชอบผู้ชายทุกคนมั้ย ยิ่งเห็นมึงกินเหล้าหัวราน้ำหน้าไม่ล้างน้ำไม่อาบใครจะชอบลง’

‘อย่างที่เพื่อนบอกแหละว่ากูแค่ชอบหลายๆ อย่างเหมือนมึงเฉยๆ เมื่อก่อนมึงก็ไม่เห็นอะไร พอรู้ว่ากูเป็นเกย์โยงนู่นโยงนี่ใหญ่’

‘จะรังเกียจ จะรับไม่ได้ก็เรื่องของมึง แต่มามโนว่ากูชอบมึงกูก็รับไม่ได้เหมือนกัน’

จากที่หมีเคยกลัวว่าถ้าบอกเรื่องเพศสภาพออกไปแล้วเพื่อนรับไม่ได้ ตัวเองจะเสียใจ กลายเป็นว่าความจริงแม้จะเสียใจแต่ก็มีความโกรธร่วมด้วย ถ้าเพื่อนคนนั้นแค่บอกว่าเป็นเกย์แล้วเคยชอบกูรึเปล่าแบบขำๆ เหมือนที่เกย์หลายคนโดนก็ยังพอจะทำใจปล่อยผ่าน แต่มาปรักปรำว่าเขาหวังทำมิดีมิร้ายนี่ไม่ไหวจริงๆ

หมีกดออกจากกลุ่มทันที แล้วค่อยทักไปขอบคุณเพื่อนคนอื่นทีหลัง กลายเป็นว่าหมีถูกเชิญเข้าอีกกลุ่มหนึ่งอย่างรวดเร็ว เป็นกลุ่มที่ไม่มีเพื่อนคนนั้นอยู่ น่าใจหายเหมือนกันที่มิตรภาพอันยาวนานอาจจะจบลง แต่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ในเมื่อคนนั้นไม่ยอมรับเขานี่นา

“ต่อไปก็นักอ่านสินะ…”

“หมี พักก่อนๆ หรือวันนี้เราไปนอนกันก่อนมั้ย พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”

“หัวร้อนขนาดนี้นอนไม่หลับหรอกจุ๋น อยากเคลียร์ให้รู้เรื่องไปเลย พอเพื่อนหายไปคนนึงมันก็พอทำใจได้แล้วล่ะ”

ถึงจะพูดแบบนั้นจุ๋นก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี ดูก็รู้ว่าไม่ได้ทำใจได้จริง แต่ทั้งเศร้าและหงุดหงิดเลยเผลอคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วไม่ใช่รึไงกัน

ในเมื่อคิดว่าห้ามไม่ไหว จึงบอกว่าจะไปหาขนมหวานๆ มาให้เพื่อดับหัวร้อน ให้อีกคนรอก่อนที่จะกดเข้าไปอ่านอะไร ซึ่งหมีก็ดีใจที่จุ๋นนึกเป็นห่วง แต่ตอนนี้ในหัวกำลังคุกรุ่นเลย อีกอย่างเขาคิดว่าคงไม่มีใครทำให้สะเทือนใจได้เท่าเพื่อนสนิทอีกแล้วล่ะมั้ง

แต่หมีคาดผิดไป ในเมื่อข้อความจากคนไม่รู้จักกลับยิ่งรุนแรง เป็นเรื่องจริงที่ว่าคนเราหลบอยู่หลังหน้าจอ การไม่ได้เปิดเผยตัวตนทำให้กล้าใช้ถ้อยคำรุนแรงมากขึ้น

การเป็นเกย์นี่ มันถึงขั้นถึงกับไล่ให้ไปตายเชียวหรือ…

พอดูว่าใครคอมเมนต์ก็เห็นว่าเป็นแอคเคาท์ไม่คุ้นเคย เอาเถอะ หมีผ่านสงครามเกรียนคีย์บอร์ดมาตั้งเท่าไร กับแค่คอมเมนต์ของคนที่ไม่ได้ติดตามการ์ตูนของหมีนั้นทำอะไรจิตใจที่แข็งแกร่งนี้ไม่ได้หรอก

ส่วนที่ทำได้น่ะ เป็นของคนที่ติดตามกันมาตลอดต่างหาก

‘ขอเลิกติดตามแล้วนะครับ’

หรือข้อความอื่นๆ ทำนองนี้จากหลายคนที่คุ้นเคย ถึงจะเป็นส่วนน้อยก็ทำเอาใจดวงนี้แตกร้าวได้เหมือนกัน…

หมีเริ่มทำเพจต่างๆ มาตั้งแต่ม.ปลาย ก็ประมาณสิบปีพอดี บางคนที่พิมพ์อย่างนั้นก็เป็นคนอ่านยุคแรกๆ ที่มาหากันตามงานอีเวนต์บ่อยๆ ตั้งแต่หมีแทบไม่มีคนรู้จักด้วยซ้ำ จะเรียกว่าคุ้นเคยกันก็ได้ ถึงจะไม่ได้สนิทสนมในชีวิตจริงแต่ก็เห็นมานาน นานมากพอที่ไม่คิดว่าหลายคนในนี้จะหายจากเขาไปเพียงเพราะเพศสภาพของเขาไม่ตรงกับใจที่หลายคนคาดหวัง

ไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตาไหลลงมาตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ทิชชู่จากมือของจุ๋นซับเข้าที่หน้านั่นแหละ พอเห็นหน้าคนรักที่วางขนมหวานไว้ให้แล้วมองมาอย่างเป็นห่วง หมีก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไป

วันแรกของการมีแฟนคนแรก วันที่ควรมีความสุขตั้งแต่ตื่นเช้าจนเข้านอน ไม่คาดคิดว่าสุดท้ายจะได้กอดเอวจุ๋นร้องไห้ ยิ่งมีมือที่คอยลูบหัวปลอบใจ สิ่งที่กลั้นไว้มันยิ่งออกมาหมด ถึงจะทำใจไว้แล้วว่าคงมีคนที่รับไม่ได้และเลือกจะจากไป แต่ไม่คิดว่าจะใจสลายขนาดนี้

จุ๋นเองพอโดนหมีกอดเอวอยู่อย่างนั้น ตาก็ได้ไล่อ่านคอมเมนต์ต่างๆ ที่ขึ้นมา เข้าใจเลยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงร้องไห้ ลองให้ลูกค้าหลายๆ คนของตัวเองมาพูดว่าจะไม่มาให้ซ่อมตุ๊กตาอีกแล้วบ้าง จุ๋นก็คงเศร้าเหมือนกัน แล้วนี่เจออย่างนี้ติดกันในช่วงเวลาสั้นๆ ต้องทนไม่ไหวอยู่แล้ว

ความคิดที่ว่าสังคมของเราช่างเปิดกว้างให้เพศหลากหลายมันแทบจะพังทลายไปเลยเมื่อเห็นสิ่งที่หมีเจอ สังคมที่จุ๋นอยู่มาตลอดช่างต่างกับที่นี่ ไม่คาดคิดว่าจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่รับไม่ได้ขนาดนี้ จุ๋นห่วงไปถึงอาชีพของหมีด้วย ถึงแม้ว่าการ์ตูนเรื่องยาวจะไม่ได้เป็นรายได้ทางเดียว แต่ก็เป็นสิ่งที่หมีรักและทุ่มเทกับมันมากจริงๆ ถึงจะเตรียมใจว่ายอดคนอ่านคนซื้อจะลดลง แต่ถ้ามากกว่าที่คิดจะเสียใจขนาดไหนนะ

อยากร้องไห้ไปด้วยเลย แต่เวลาแบบนี้จุ๋นต้องเข้มแข็งรึเปล่า

“หมี..” จุ๋นกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ผ่านไปไม่นานคนที่เคยสะอื้นจนตัวโยนก็เริ่มสงบลง หมีเงยหน้าขึ้นมาให้เห็นดวงตาและจมูกที่แดงก่ำ จนคนมองใจเจ็บไปหมด

“ทำเสื้อจุ๋นเปียกเลย”

“โธ่ แค่นี้เอง มันจะเปียกหรือจะขาดก็ช่างมันเถอะ”

พอได้ร้องไห้อย่างสุดกลั้นออกมาก็เหมือนจะดีขึ้น พอหมีกลับมานั่งดีๆ ได้แล้วจุ๋นจึงถือขนมปังน้ำแดงที่ตอนนี้น้ำแข็งละลายหมดแล้วจ่อปาก ป้อนอีกฝ่ายราวกับเป็นเด็กเล็ก ซึ่งหมีก็ยอมอ้าปากกินดีๆ สงสัยหมดแรงจะเขินไปแล้ว

“มีแรงแล้วล่ะ”

“ไหวแน่เหรอ”

“อื้อ เดี๋ยวขอโพสจดหมายถึงทุกคนหน่อยนะ ขอโทษที แทนที่จะช่วยจุ๋นดูยอดขายแท้ๆ”

“ไม่เป็นไรเลย เดี๋ยวคำถามเอยอะไรเอยเราตอบเอง ใครด่าแรงไปเราด่าให้โอเคนะ”

หมีเริ่มยิ้มออกกับคำล้อเล่นของจุ๋น ถึงจะแอบคิดนิดหนึ่งว่าแฟนของเขาอาจจะไม่ได้ล้อเล่นก็ได้ ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนตรงไปตรงมาใช้ได้เลยทีเดียว เอาเถอะ ปล่อยให้จุ๋นทำตามสมควรนั่นล่ะ ตัวเขาคิดแค่จะตอบนักอ่านยังไงก็พอแล้ว

เขาเลื่อนอ่านคอมเมนต์คร่าวๆ อีกครั้ง พอเวลาผ่านไป นอกจากคำแรงๆ แล้วคำให้กำลังใจก็มีมากขึ้น บางคนอาจจะไม่ได้เป็นแฟนผลงานของหมีด้วยซ้ำ แต่แค่ผ่านเข้ามาให้กำลังใจตามประสามนุษย์คนหนึ่ง ได้อ่านอย่างนี้ก็ดีใจมากแล้ว

เรื่องที่ดูจะใหญ่ที่สุดรองจากคนเลิกติดตาม ก็คงเป็นคนที่คิดว่าการที่เขาเป็นเกย์จะต้องเขียนการ์ตูนออกมาเพื่อสนองตามต้องการของเกย์เท่านั้นล่ะมั้ง ไม่แปลกใจที่หลายคนจะสงสัย ในเมื่อสองสามวันที่ผ่านมาเขาเพิ่งลงฉากสำคัญในความสัมพันธ์ของตัวเอกในเรื่อง คือการที่ทิชาสารภาพรักกับต้นกล้า ตัวเด็กหนุ่มที่แม้จะยังสับสนแต่ก็ดีใจจนดึงทิชามากอด ทำให้หลายคนเข้าใจว่าสองคนนี้เป็นคู่กันแน่แท้ ซึ่งนั่นก็คือความตั้งใจของหมีสำหรับเรื่องนี้ แต่พอตอนนี้ก็มีคนคิดว่าจริงๆ แล้วจะหักมุมให้ต้นกล้าคู่กับพายุในภายหลังรึเปล่า ในเมื่อคนเขียนเป็นเกย์นี่นา

หมีสูดลมหายใจลึก พยายามเรียบเรียงหลายๆ ความคิดในหัว ก่อนจะเริ่มเขียนโพสความในใจถึงผู้ติดตามทุกคน

‘สวัสดีครับ หมีเองนะครับ

เหตุการณ์ในวันนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดจะบอกเลย แต่ใช่ครับ ผมเป็นเกย์ และถึงจะไม่ได้เปิดเผยในวันนี้ ก็คงจะได้เปิดเผยในสักวันอยู่ดี

ซึ่งผมก็ไม่ใช่คนกล้านักหรอกครับ ผมทราบดีว่ากลุ่มเป้าหมายและผู้ติดตามทุกท่านส่วนใหญ่เป็นใคร ชอบผลงานแบบไหน ผมได้เตรียมใจไว้บ้างแล้วว่าหากเปิดเผยออกไป คงจะมีหลายคนรับไม่ได้และเลิกติดตาม แต่พอได้เห็นจริงๆ ก็ยอมรับครับว่าเสียใจกว่าที่คิด แต่ไม่เป็นไร ต้องขอขอบคุณมากกว่าที่คอยติดตามผลงานของผมเสมอมา ไม่ว่าจะรู้จักกันตั้งแต่แรกๆ หรือเพิ่งค้นพบผลงานของผมก็ตาม ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนเสมอมานะครับ และขอให้คุณได้อ่านการ์ตูนสนุกๆ ต่อไป แม้จะไม่ได้มาจากฝีมือผมก็ตาม

เรื่องที่หลายคนกังวลกับการ์ตูนของผม ว่าพวกคุณถูกหลอกให้มาอ่านการ์ตูนวายในคราบการ์ตูนมิตรภาพรึเปล่า จากใจจริงนะครับ ผมตั้งใจเขียนเรื่องนี้ให้เป็นการ์ตูนชายหญิง ต้นกล้าจะคู่กับทิชาตามฉากที่เพิ่งปล่อยออกไป ไม่มีการหักมุมทั้งนั้น ทั้งนี้หากมีผู้อ่านท่านใดที่มีจินตนาการต่างออกไป ไม่ว่าจะกับผลงานเรื่องนี้หรือเรื่องก่อนๆ ก็เชิญได้ตามสบายนะครับ เพียงแต่ขอให้ไม่เกินเลย หรือมาบอกว่าคู่หลักไม่ได้มาจากใจจริงผมเท่านั้นก็พอ

ในอนาคต จากที่หลายคนคิดว่าผมจะเทิร์นไปสายการ์ตูนวายเลยรึเปล่า อยากบอกว่าเพศสภาพกับความถนัดในการงานก็เป็นคนละเรื่องกันนะครับ และการที่ผมเป็นเกย์ ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ยินดีกับความรักของชายหญิง และสร้างสรรค์ผลงานของเพศสภาพนี้ไม่ได้อีกต่อไป ผมยังถนัดในการเขียนการ์ตูนชายหญิง การ์ตูนต่อสู้อยู่ และจะทำมันต่อไปครับ

อย่างไรก็ตาม อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน หากผมได้เปลี่ยนสไตล์ของเนื้อเรื่อง หรือหากเรื่องไหนจะเป็นชายชายแน่ๆ ผมจะเขียนไว้ตั้งแต่แรก เพื่อให้ผู้ที่สะดวกใจได้เข้ามาอ่านครับ

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนเสมอมานะครับ’

พอกดส่งโพสออกไป หมีก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนัก การได้สื่อสารจากใจออกไปทำให้โล่งขึ้นพอสมควร บวกกับระยะเวลาที่นั่งเขียนโพสนี้ค่อนข้างนาน ทำให้ใจเย็นลงและคิดว่าพร้อมรับมือข้อความไม่ดีได้มากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ถึงตอนนี้ก็รู้สึกอยากพักผ่อนแล้วอยู่ดี

“เห็นพี่เขียนเรื่องยาวแต่แนวต่อสู้เลยตกใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่เกี่ยวนี่นา ยังไงการ์ตูนพี่ก็สนุกอยู่ดี ผมจะติดตามต่อไปนะครับ”

หมีหันไปมองจุ๋นที่อยู่ๆ ก็พูดบางอย่างออกมา จากการเห็นว่าตาของอีกคนจับจ้องที่หน้าจอแล้ว คงจะเป็นคอมเมนต์ในเพจล่ะมั้ง และนั่นก็ทำให้หมีพอยิ้มออกมาบางๆ ได้

“มีคนเมนต์แบบนี้มาแน่ะ อยากให้เราอ่านอีกมั้ย”

“อื้อ ช่วยหน่อยนะ”

การฟื้นฟูแรงใจให้หมีดำเนินต่อไปจนดึกพอสมควร จากที่คิดว่าจะแยกย้ายกันตั้งแต่ไม่กี่ทุ่มก็กลายเป็นต้องนอนค้าง เป็นการปูฟูกนอนพื้นด้วยกันที่ไม่เขินอย่างที่คิด ความเหนื่อยล้าที่ยังตกค้างในจิตใจทำให้หมีต้องการอ้อมกอดของจุ๋น แค่นอนกอดกันข้ามผ่านคืนนี้ไป

ถึงจะไม่ได้หวานกันอย่างที่คาด แต่อย่างน้อยก็โรแมนติกกว่าครั้งแรกที่ทำงานหนักจนหลับป็อกทั้งคู่แล้วกัน