ถ้าหมอนข้างน้องกระต่ายขาดแบบนี้ คืนนี้จะนอนกอดอะไรล่ะ คุณช่างซ่อมตุ๊กตา... เอ๋ ทำไมถึงได้น่ารักจังเลยนะ?

ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี - ตอนที่ 15 หมีมีจุ๋น โดย ดังใจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ไทย,feel good,slice of life,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

feel good,slice of life,#BL

รายละเอียด

ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี โดย ดังใจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ถ้าหมอนข้างน้องกระต่ายขาดแบบนี้ คืนนี้จะนอนกอดอะไรล่ะ คุณช่างซ่อมตุ๊กตา... เอ๋ ทำไมถึงได้น่ารักจังเลยนะ?

ผู้แต่ง

ดังใจ

เรื่องย่อ

สารบัญ

ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 1 หมีทำขาด,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 2 หมีพร่ำเพ้อ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 3 หมีให้นะ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 4 หมีว้าวุ่น,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 5 หมีตัวดื้อ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 6 หมีเปิดเผย,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 7 หมีออกงาน,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 8 หมีอยากหล่อ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 9 หมีก็เขิน,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 10 หมีเป็นห่วง,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 11 หมีเฝ้าไข้,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 12 หมีปลอบใจ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 13 หมีเร่งรีบ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 14 หมีโดนแซว,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 15 หมีมีจุ๋น,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 16 หมีประกาศ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 17 หมีรับมือ,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 18 หมีรับฟัง,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 19 หมีออกเดท,ให้ทั้งใจ นายตุ๊กตาหมี-ตอนที่ 20 หมีเติมใจ [จบ]

เนื้อหา

ตอนที่ 15 หมีมีจุ๋น





“มึงไม่ได้มาบ้านกูนานแล้วนะ”

ครีเอทีฟหนุ่มที่ตื่นเกือบเที่ยงในวันหยุดอย่างปั้นเอ่ยขึ้นเมื่อลงมาจากชั้นบนแล้วเจอเพื่อนสนิทกินนั่งกินบัวลอยไข่หวานฝีมือแม่ของตนอยู่

“แกเนี่ยตื่นสายตลอดเลยนะ หัดเอาหมีเป็นแบบอย่างบ้างสิ”

ปั้นทำหน้ายู่เมื่อได้ยินแม่พูดเข้าข้างเพื่อนสนิทอย่างนั้น จริงอยู่ที่ตั้งแต่หมีเรียนจบก็เลิกนิสัยตื่นสายโด่งเพื่อตั้งใจทำงานให้เป็นระบบ แล้วตัวเขาไม่ใช่อย่างนั้นหรือ วันทำงานก็ตื่นก่อนตะวันขึ้นเพื่อเดินทาง ได้ตื่นสายแค่วันหยุดเท่านั้นเอง

“โอ๊ยแม่”

เข้าข้างเพื่อนไม่พอ พอปั้นจะไปตักบัวลอยกินบ้างแม่ก็ตีมือ ไล่ให้ไปกินข้าวเช้าก่อนค่อยกินขนม หรือจะเรียกว่าข้าวเที่ยงก็ได้ ไหนๆ เวลาก็ล่วงเลยมาขนาดนี้แล้ว

“ไหน มีอะไรมาอัปเดต”

ขณะอยู่ในห้วงรักน่ะหายหัว แต่พอมีปัญหาก็มาหา ถึงแม้ว่าตอนทะเลาะกับจุ๋นคราวนั้นหมีจะไม่ได้มาหาปั้นถึงบ้าน แต่ก็โทรมาเล่าให้ฟังบ้าง เพราะงั้นมาถึงบ้านแบบนี้แปลว่าต้องมีอะไรหนักกว่าคราวก่อนเป็นแน่

“เอ่อ..”

หมีชะงักช้อนที่กำลังตักบัวลอยพลางเหลือบตาไปที่แม่ของปั้น หญิงวัยกลางคนที่นั่งดูทีวีอยู่ไม่ไกลก็ช่างเซ้นส์ดี เธอปิดทีวีแล้วเดินมาเขกหัวหมีเบาๆ หนึ่งที

“ไปดูซีรีย์ข้างบนก็ได้ แหม่ บ้านก็บ้านฉันแท้ๆ”

เหล่าลูกชายหัวเราะแหะๆ รอจนแม่เดินขึ้นชั้นสองลับตาไป ปั้นถึงส่งสายตาเป็นเชิงบอกว่าให้หมีเล่ามาสักที มันเรื่องร้ายแรงยังไงถึงขั้นที่แม่ของเขานั่งฟังด้วยไม่ได้

“แบบว่า แม่ของจุ๋นรู้เรื่องที่จุ๋นเป็นเกย์ แล้วก็รู้แล้วว่ากูกับลูกเขาชอบกัน”

เอาล่ะ เรื่องหนักจริงๆ ด้วย ปั้นถึงกับวางช้อนแล้วตั้งใจฟัง แต่พอได้ยินเรื่องเล่าหลังจากนั้นก็ อื้ม ก็ดูจะแฮปปี้เอ็นดิ้งนี่นา งั้นปัญหาต่อไปก็คงจะ…

“มาถึงตอนนี้ คือมึงกำลังหาทางขอจุ๋นเป็นแฟนใช่มะ”

“ยังๆ แบบว่า.. พอพูดเรื่องความแตกต่างทางเพศแล้วกูก็นึกถึงหลายๆ มิติแบบ รสนิยม เอ่อ.. บนเตียงอะไรงี้”

“กลัวว่าเป็นโพเดียวกันว่างั้น”

“กลัวถึงขั้นที่ว่า เขาชอบผู้ชาย หมายถึงรู้สึกทางใจกับผู้ชาย แล้วเค้ามีความรู้สึกทางกายกับผู้ชายเปล่าวะ”

ปั้นขมวดคิ้ว เรื่องนี้ต้องกังวลด้วยหรือ ไปบ้านเขาทุกวัน ไม่ได้แตะตัวกันบ้างหรือไง “เค้าดูไม่อยากเข้าใกล้มึง หรือยังไง”

“คือพวกกูยังแค่จับมือ แต่ก็นานๆ ทีแบบกูก็เขินอะมึง”

คราวนี้ปั้นเริ่มถอนหายใจแล้ว ปัญหาไม่ใช่ที่จุ๋นล่ะทีนี้ แต่เป็นที่เจ้าตัวดีตรงหน้าเขาเนี่ย เพราะหมีไม่เคยคบใครมาก่อน เลยไม่รู้ว่าเวลาชอบใครสักคนแล้วมันจะเขินมากมายขนาดนี้ เอาวะ เป็นเพื่อนกันทั้งทีมาถึงขั้นนี้ก็ต้องช่วยแหละนะ

“แต่พอจับมือแล้วเค้าก็แฮปปี้ใช่ปะ”

“อื้อ เค้าแฮปปี้”

“งั้นก็ต้องไปขั้นต่อไป หอมแก้ม จู.. อั่ก” ไหล่ของปั้นถูกกระแทกอย่างแรงจากน้ำมือของอีกฝ่าย พูดแค่นี้เจ้าหมีก็หน้าแดงเสียแล้ว

“ยังไม่ได้เป็นไรกันเลยนะมึง จะทำแบบนั้นได้ยังไง”

“ก็จะขอเป็นแฟน มึงก็กลัวเรื่องรสนิยมนู่นนี่ กลัวเข้ากันไม่ได้ แต่พอจะให้ทำก่อนขอ มึงก็มีปัญหา นี่ถ้ามึงถามกูนะ ขอเป็นแฟนไปก่อนเลย แล้วค่อยๆ ไปทีละสเตป ปรับกันไป”

“กลัวว่าปรับกันไม่ได้…”

คราวนี้ปั้นถึงกับลุกขึ้นยืนแล้วประเคนกำปั้นลงบนหัวอีกคนบ้างแล้ว แน่นอนว่าหนักมือกว่าตอนที่แม่มาเขกอย่างเอ็นดูนั่นอีก จนหมีกุมหัวร้องโอดโอย

“ถ้ามึงกลัวอนาคต ปัจจุบันมึงจะไม่ได้รักเต็มที่ แต่ถ้ามึงรักตอนนี้ อนาคตจะไม่ดีมึงก็ได้รักนะ”

“มาเป็นคำคมเชียว…”

“กูก็ได้คำคมนี้มาตอนคบแอมนี่ล่ะ รู้ทั้งรู้ว่าเค้าจะไปเรียนต่อเมกาก็ขอคบ ปีนึงก็ยังดี จบแล้วเจ็บฉิบหายแต่นึกย้อนกลับมาก็ดีใจที่ได้คบ ดีกว่าแอบชอบเค้าไปวันๆ จะว่าไปตอนนั้นก็มึงไม่ใช่เรอะที่ยุให้กูไปสารภาพรัก”

“เออว่ะ”

ความทรงจำสมัยม.ปลายย้อนกลับมาแล้ว ตอนนั้นปั้นแอบชอบเพื่อนผู้หญิงต่างห้อง ได้แต่ส่งขนมให้ไม่กล้าบอกชอบสักทีเพราะรู้ว่าเธอต้องไปเรียนต่อแสนไกล เป็นหมีนี่แหละที่อยากเห็นเพื่อนสมหวังเลยยุแล้วยุอีก สุดท้ายปั้นก็ได้รักกับแอมจริงๆ

มาดูตอนนี้ ตัวเขาไปไกลกว่าปั้นตอนนั้นเสียอีก ตอนนั้นปั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแอมชอบตัวเองมั้ย แต่หมีอยู่ใกล้จุ๋นทุกวัน รู้ว่าต่างคนต่างชอบกัน จนแม่ของจุ๋นเปิดทางให้แล้ว ก็ยังมายึกยักเพราะกลัวอนาคตอีก เฮ้อ คงเพราะคุยเรื่องที่ถ้าหมีแต่งหญิงแล้วอีกคนจะรับไม่ได้อะไรนั่น บวกกับข้อมูลและความเห็นเกี่ยวกับเรื่องความหลากหลายทางเพศที่ได้อ่านมาในอินเทอร์เน็ตอีก เลยเก็บมาคิดมากเลย

สมควรโดนกำปั้นของปั้นแล้วล่ะ

“เฮ้อ เห็นให้แม่กูไปที่อื่น พอเกริ่นเรื่องรสนิยมบนเตียงมาก็นึกว่าจะถามกูว่าทำยังไงให้มีเรื่องบนเตียงกับจุ๋น”

“ไอ้ปั้น!”

นิ่งได้ไม่เท่าไรก็มีเรื่องชวนตีอีกแล้ว หมีอยากเตะปั้นคืนสักที ติดว่าอีกคนรีบชิ่งเอาจานข้าวที่กินเสร็จไปเก็บแล้ว ตัวเขายังไม่ได้ลุกจากที่เลย

“เรื่องแบบนั้นมึงคงไม่ถามกูใช่มั้ยล่ะ”

“แหงสิ นั่นมันเรื่องส่วนตัว แต่เออ พอมึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา กูก็คิดว่าการขอจุ๋นเป็นแฟน หมายถึงสเตปแรก มันดูง่ายขึ้นมาเลยว่ะ”

“คิดได้งี้ก็ดี ไปๆ ไปขอได้แล้ว”

ถึงจะฮึกเหิมขึ้นมา แต่ก็ใช่ว่ามันจะง่ายอย่างนั้น หลังจากนั่งกินขนม พูยคุยเรื่อยเปื่อยอีกพักหนึ่ง หมีบอกลาปั้นโดยไม่ลืมจะขึ้นไปสวัสดีแม่ที่อุตส่าห์หลีกทางให้สองลูกชายได้คุยกันอีกด้วย ก่อนจะปั่นจักรยานไปบ้านของจุ๋นตามปกติ

“ว่าไงลูกหมี”

แค่สรรพนามที่เปลี่ยนไปจากปากคุณแม่จ๋าก็ทำให้หมียิ้มขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้แล้ว อะไรกัน แม่ลูกคู่นี้ ขยันแกล้งเขากันเสียจริง

“สวัสดีครับคุณน้า”

“น้องหมีไม่รับมุกเลย”

เอ๋?

ไม่ทันได้ถามอะไร คุณแม่จ๋าก็ตะโกนบอกจุ๋นว่าจะแวะเอาของไปฝากบ้านข้างๆ แล้วออกไปเสียแล้ว ไม่รับมุกอะไรกันนะ เมื่อกี้คุณน้าทักว่าลูกหมี หรือว่าจริงๆ แล้วเขาควรตอบว่า สวัสดีครับแม่จ๋า

ให้ตายสิ หุบยิ้มไม่ได้เลย

“หมีๆ มานี่เร็ว แล้วทำไมยิ้มแบบนั้น”

จุ๋นที่โผล่หน้าออกมาจากห้องทำงานเอ่ยทัก ซึ่งหมีก็ได้แต่ตอบอ้อมแอ้มๆ กลับไป “เมื่อกี้คุณน้าเรียกว่าลูก”

“อ๋อ งี้นี่เอง”

ทีแรกหมีนึกว่าจุ๋นจะแซวมากกว่านี้ แต่อีกคนกลับตอบแค่นั้นแล้วนำหมีไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์แลปท็อปที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน หน้าจอเป็นภาพโปสเตอร์เจ้าหมีไข่ตุ๋นที่ไม่ใช่ภาพวาดของหมี แต่กลับเป็นตุ๊กตาจริงๆ

“เอ๊ะ ไข่ตุ๋นเสร็จแล้วเหรอ”

“ใช่แล้ว”

เจ้าไข่ตุ๋น ตุ๊กตาหมีสีครีมที่หมีออกแบบไว้ถูกยกขึ้นมาจากเก้าอี้ทันที มันถูกซุกไว้กับถุงตุ๊กตาอื่นๆ ที่จุ๋นคงตั้งใจเอามาบังไว้เพื่อจะเซอร์ไพรส์ พอได้เห็น ได้จับตัวจริงของผลงานที่เป็นเหมือนสมบัติทั้งคู่ หมีก็รู้สึกทั้งดีใจและตื้นตัน

“ไปแอบทำตอนไหนเนี่ย”

“ตอนกลางคืน ทุกคืนเลย”

ที่หมีไม่รู้เพราะอย่างนี้นี่เอง เพราะตัวเขานั้นกลับห้องตั้งแต่กินข้าวเย็นเสร็จแล้ว ไม่คิดว่าจุ๋นจะแอบซุ่มทำเจ้าตัวน้อยนี่ อยากโมโหนิดหน่อยอยู่หรอกที่อีกฝ่ายทำงานเยอะเกินไป แต่พอเห็นเจ้าตัวเล็กนี่ก็นึกออกแต่คำชม

“น่ารักกว่าแบบอีก ไม่ใช่จุ๋นเย็บทำไม่ได้นะเนี่ย”

“มีแค่ไข่ตุ๋นที่น่ารักเหรอ”

“อ่า…” ถามมาแบบนี้… “จุ๋นก็น่ารัก”

ถึงจะเป็นคำชมแบบที่ต้องชงถึงจะได้รับ จุ๋นก็ยิ้มหน้าบานทันทีที่ได้ยินคำว่าน่ารัก ไม่ปฏิเสธหรือถ่อมตัวเสียด้วย คงดีใจมากทีเดียว

“แล้วนี่ หมีสังเกตมั้ยว่าน้องหมีมีชื่ออยู่ด้วย”

ได้ยินแบบนั้นแล้วหมีจึงพลิกตัวเจ้าไข่ตุ๋นในมือไปมา แล้วถึงเพิ่งเห็นว่ามีชื่อเล่นของหมีกับสัญลักษณ์หมีคิ้วหนาซึ่งเป็นเหมือนรูปโปรไฟล์ของตนปักอยู่ที่อุ้งมือของเจ้าไข่ตุ๋นด้วย เป็นพื้นที่เล็กๆ แท้ๆ แต่จุ๋นกลับปักลงไปได้ ละเอียดจนน่าทึ่งเลยจริงๆ

“แต่ว่าตัวนั้นเป็นของเรานะ ของหมีจริงๆ เป็นตัวนี้” จุ๋นหยิบตุ๊กตาหมีอีกตัวหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋าออกมาแล้วยื่นในหมีพลางพยิบตัวที่อยู่ในมือของอีกฝั่งมาถือเอง

หมีดูที่อุ้งมือของตัวใหม่ในมือทันที ชื่อจุ๋นกับรูปหัวใจเด่นหราอยู่บนนั้น เห็นแล้วก็ยิ้มออกมาโดยอัตโนมัติ ไม่รู้ว่าตั้งแต่มาถึงบ้านนี้นี่ยิ้มไปกี่ครั้งแล้ว

ดูซิ ปักชื่อแลกกันแบบนี้บนตุ๊กตาสองตัวแรกของแบรนด์ของตัวเอง ถ้าพวกเขาแยกจากกันคงทิ้งแผลเป็นที่ทั้งเจ็บและยาวนาน จุ๋นคงไม่คิดในแง่ร้ายเลย หรือถึงคิด ก็ก้าวข้ามมันและตั้งใจรักเขาอย่างเต็มที่ จนหมีแอบรู้สึกละอายที่ยังหวั่นใจและกังวลในอนาคต

อยากขอจุ๋นเป็นแฟนจัง ตอนนี้เลยได้มั้ย…

“หมี..”

จุ๋นเอ่ยเสียงเบาเมื่ออยู่ๆ หมีก็เดินเข้ามาสวมกอด ทำเอาใจคนกล้าเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อคนขี้อายเข้ามารุกก่อน ตอนกอดกันครั้งที่แล้วก็เป็นจุ๋นเริ่มก่อนหลังจากพวกเขาทะเลาะกัน แต่อันนี้ไม่มีปี่มีขลุ่ยเลย

ไม่สิ จริงๆ มันก็มีปี่มีขลุ่ยอยู่หรอก ก็ที่จุ๋นเย็บตุ๊กตาสองคนเหมือนเป็นตัวแทนเราสองคนแบบนี้ ก็ตั้งใจให้หมีประทับใจนั่นแหละ แต่ประทับใจแล้วเข้ามากอดมันก็เกินคาดไปนิด เผลอคิดไปไกลเสียแล้ว…

“ปะ.. เป็นแฟนกับเรานะจุ๋น”

รู้สึกได้เลยว่าหมีสั่นไปทั้งตัว พูดก็เสียงสั่น มือที่กอดหลังนี่อยู่ก็สั่น จุ๋นซบหน้าลงกับไหล่ของอีกคน กระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม

“ทำไมจู่ๆ ก็ขอล่ะ” อยากตอบตกลงตอนนี้ แต่ใจหนึ่งก็อยากแกล้งหมี เลยถามอีกนิดดีกว่า

“เพราะเรารักจุ๋นมากเลย…”

ใจของจุ๋นฟูยิ่งกว่าก้อนเมฆแล้วตอนนี้ คงเพราะทำใจที่จะรอนานกว่านี้ เขารู้ตัวว่าตัวเองเป็นฝ่ายรุกเข้าหามากกว่า เพราะงั้นเวลาอย่างนี้อยากให้หมีเป็นฝ่ายพูดบ้าง แล้วพออีกคนพูดมาจริงๆ ยิ่งเหมือนตัวเองกลายเป็นก้อนเมฆ กายละเอียดล่องลอยขึ้นฟ้า มีความสุขจนอยากหอมแก้มคนตรงหน้าสักฟอด

แล้วทำไมไม่ทำล่ะ?

“จะ.. จุ๋น..”

หมีก็ยังเป็นหมีที่ขี้อาย พอจุ๋นเอียงหน้าฉกหอมแก้มไปแบบไม่ทันตั้งตัว อีกฝ่ายก็เอียงหน้าหลบแล้วเบี่ยงจากซุกไหล่จุ๋นลงมาที่แขนแทน ทำเอาคนหอมหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยความเอ็นดู

“เขินอะไร เราเป็นแฟนกันแล้วนะ”

“จุ๋นยังไม่ตอบตกลงเลย”

“จริงด้วย งั้นเราเป็นแฟนกันนะหมี”

หมีพยักหน้าทั้งที่ยังซุกกับแขนอยู่แบบนั้น จนจุ๋นบอกว่าจะไม่แกล้งหอมแล้วนั่นล่ะถึงค่อยยืนตัวตรงดีๆ แต่พอมองหน้ากันแล้วหมีก็ยังได้แต่ยิ้มอยู่ เหมือนนึกถึงบทสนทนาต่อไปของการเป็นแฟนกันไม่ออก

จังหวะดีที่ประตูบ้านเปิดออก เสียงใสของหญิงวัยกลางคนอย่างคุณแม่จ๋าเอ่ยบอกเด็กสองคนว่าเธอกลับบ้านมาแล้ว และจุ๋นก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อหมีคว้ามือแล้วเดินออกไปจากห้องทำงาน

“คุ.. คุณแม่จ๋า”

หญิงสาวตกใจจนยกมือปิดปาก ทั้งคำเรียกแม่จ๋าทั้งมือที่กุมกันมา หรือว่าเวลาแค่ไม่นานที่เธอไม่อยู่จะมีข่าวดี และลูกชายเธอก็ยืนยันสิ่งนั้นด้วยรอยยิ้มกว้าง

“จุ๋นเป็นแฟนกับหมีแล้วนะแม่”