การรู้ตัวตนที่แท้จริง ทำให้หลี่อี้มองทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง รวมถึงหวังซูเพื่อนรัก

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2 - ตอนที่ 11 ข้าก็แค่อยากเจอคนที่ข้ารัก โดย Kevinth M. PoTae @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,ยุคปัจจุบัน,จีน,รัก,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,ยุคปัจจุบัน,จีน,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2 โดย Kevinth M. PoTae @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

การรู้ตัวตนที่แท้จริง ทำให้หลี่อี้มองทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง รวมถึงหวังซูเพื่อนรัก

ผู้แต่ง

Kevinth M. PoTae

เรื่องย่อ

อธิบาย/เรื่องย่อ

นามปากกา : Kevinth M. PoTae

วาดปก : WALAN

.

หลังจากที่หลี่อี้ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาได้อย่างฉิวเฉียด หลี่อี้ก็ถูกคุณนายเมิ่งสั่งให้มาอยู่ที่โรงน้ำชาแห่งนี้ แม้จะไม่ยินยอม แต่คงต้องยอมรับปากอย่างเสียไม่ได้

ยังเรื่องของวิญญาณตนนั้นที่มาขอความช่วยเหลือ ที่หลี่อี้ดันไปรับปากจนเกิดสัญญาโลกวิญญาณไปเสียแล้ว จึงไม่อาจที่จะปฏิเสธเรื่องนี้ได้ ที่สำคัญ การตายของนักศึกษาและชาวบ้านอย่างปริศนาชนิดรายวัน มันทำให้หลี่อี้อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้ามาเกี่ยวด้วยกับเรื่องนี้ จนกลายเป็นว่าหลี่อี้ต้องตกอยู่ในอันตรายนี้เสียเอง

นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน ดังนั้นตัวละคร/สถานที่/เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเรื่อง จึงถูกสมมุติขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทุกคำพูด ทุกตัวละครไม่มีอยู่จริง…โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน…

ฝากเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยการกดไลก์ คอมเมนต์ และกดเข้าชั้นหนังสือด้วยนะครับ

 

ฝากช่องทางการติดต่อไว้ด้วยนะครับ^^

Threads : mungkorn_kevinth

Twitter : Kevinth_M

Tiktok : kevinth_m.author

Facebook : kevinthm.author

 

 

สารบัญ

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 1 ความตื่นตาหลังเที่ยงคืน,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 2 สนามประลองจำเป็น,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 3 การดูแลนายคือหน้าที่ของฉัน,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 4 เยว่หมิงชาง,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 5 ผู้ตายปริศนาข้างแม่น้ำอู๋เจียง,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 6 คลี่คลายวิญญาณกั๋วอันเฉิง,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 7 เรื่องที่เธออยากรู้,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 8 คุณน้าเมิ่งกับพ่อที่แท้จริง,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 9 ยัยปีศาจแมงมุมน่าเกลียด,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 10 บนนั้นน่ะ…มีคนที่ข้ารักอยู่ด้วยนะ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 11 ข้าก็แค่อยากเจอคนที่ข้ารัก,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 12 ความจริงถูกเปิดเผย,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 13 เสี่ยวมู่ทดแทนคุณ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 14 ก็แค่อยากขอโทษ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 2-ตอนที่ 15 ปรับความเข้าใจ (จบเล่ม 2)

เนื้อหา

ตอนที่ 11 ข้าก็แค่อยากเจอคนที่ข้ารัก

ตอนที่ 11

ข้าก็แค่อยากเจอคนที่ข้ารัก

 

เย็นวันนั้น

“เจ้านี่นะ แค่ชั่วข้ามคืนเจ้าก็เอาเรื่องที่ฉันเล่าให้เธอฟังไปพูดกับทู่เอ๋อเสียแล้ว…นี่ฉันจะเชื่ออะไรเธอได้กันบ้างล่ะเนี่ย”

หลิงเซียงพูดตำหนิหลี่อี้ทันทีที่หลี่อี้กลับมาจากมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก แม้จะเป็นคำตำหนิแต่หลี่อี้ก็เห็นถึงความขบขันที่ปะปนอยู่ในน้ำเสียงนั้น

“แหะ ๆ ก็ผมเป็นห่วงพี่หลิงเซียงนี่ครับ แล้วอีกอย่าง ทู่เกอก็เป็นเพื่อนของพี่หลิงเซียงไม่ใช่หรือครับ อย่างน้อยถ้าเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่หลิงเซียง เขาก็จะได้ช่วยป้องกันได้ยังไงล่ะครับ”

“โถ…แต่มันน่าขายหน้าจะตาย ยอมเอาชีวิตไปแลกกับชานมไข่มุกเนี่ยนะ รู้ถึงไหนก็อายไปถึงนั่น”

“ฮ่า ๆ ๆ แต่พี่ก็ยังทำไม่ใช่เหรอครับ แหม ใครจะคิด ว่าปีศาจที่อายุหลายพันปีสองตน ต่อสู้กันแทบตายแค่เพื่อชานมไข่มุกแก้วเดียวเนี่ยนะ เรื่องนี้ ท่าทางว่าจะเป็นเรื่องให้ผมได้เล่าต่อไปอีกหลายปีเลยล่ะครับ เอ้…หวังซูยังไม่รู้เรื่องนี้เลยนี่นา ผมคงจะต้องไปเล่าให้หวังซูฟังซะแล้วล่ะครับ…”

“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ เจ้านี่นะ พอเห็นว่าข้าใจดีหน่อยก็เอาใหญ่เลยนะ เดี๋ยวเถอะช่างพูดแบบนี้สักวันฉันจะจับเธอกินเป็นอาหารซะเลย”

“พี่หลิงเซียงไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ ผมรู้ว่าพี่หลิงเซียงน่ะทั้งสวยทั้งใจดี ต่อให้เป็นปีศาจก็ไม่ได้ดุร้ายอย่างคนอื่น ผมรู้ว่าพี่หลิงเซียงไม่มีทางกลืนกินวิญญาณของใคร เพียงเพื่อเพิ่มพลังชีวิตให้กับตัวเองหรอกใช่มั้ยล่ะครับ…”

“นี่เธอกำลังชม…กำลังถาม…หรือว่ากำลังหลอกด่าฉันกันแน่นะ?”

“ฮ่า ๆ ๆ ถามนี่แหละครับ อ้อ…ว่าแต่ที่นี่นอกจากเป็นโรงน้ำชาแล้วยังเป็นโรงเตี๊ยมด้วยเหรอครับ?”

“อันที่จริงก็ใช่นะ หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะพักที่นี่ได้ ว่าแต่เธอถามทำไมล่ะ?”

“เปล่าหรอกครับ ผมจำได้ว่าตอนที่พี่หลิงเซียงได้รับบาดเจ็บมา ทู่เกอก็ดูจะเป็นห่วงพี่หลิงเซียงมากเลยนะครับ แถมห้องก็มีอยู่ราวกับว่ามันถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้วอย่างนั้นล่ะครับ ผมก็เลยคิดเอาว่า หรือจริง ๆ แล้ว ที่นี่จะเป็นโรงเตี๊ยมที่ให้เหล่าเทพเซียนแล้วก็ปีศาจมาพักค้างคืนกันแบบนี้น่ะครับ”

.

.

“พวกเราน่ะ ไม่มีใครนอนกันหรอก หากจะพักก็แค่มาพักเพื่อรักษาตัวเท่านั้น” ในขณะที่ทั้งสองคนคุยกันอยู่ ทู่เอ๋อก็เดินเข้ามาพร้อมกับชาเลือดมังกรแก้วที่สองสำหรับวันนี้

“ที่นี่ภายนอกดูเหมือนกับร้านขายน้ำชาธรรมดา แต่หากเข้ามาข้างใน ในช่วงเวลาที่ประตูมิติเปิดออก คนที่อยู่ด้านในก็จะเห็นว่าที่นี่แท้จริงแล้วคือโรงเตี๊ยม ที่มักจะมีเหล่าปีศาจ และเทพเซียนสัญจรมาพักหลบภัยกันอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะ เหล่าเทพเซียนที่ถูกทำร้าย หรือไปมีเรื่องกับใครมาอย่างหลิงเซียง เธออยู่ที่นี่มาก็นาน ไม่เคยเห็นการเปลี่ยนแปลงบ้างเลยหรือไง?”

“จริงหรือครับ แต่ทำไมผมถึงไม่เคยเห็นคนที่มาพักที่นี่เลยล่ะครับ?”

“ก็ตอนนี้ยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรงน่ะสิ ไม่มีใครหาเรื่องอย่างยัยหลิงเซียงคนนี้หรอก ถึงภายนอกจะดูดีขึ้นมากแล้ว แต่ความจริง…หากออกไปรักษาตัวเองข้างนอก หลิงเซียงก็อาจจะไม่รอดจากการถูกตามล่าก็เป็นได้”

“แล้วมาอยู่ที่นี่ ปีศาจพวกนั้นจะไม่ตามมางั้นเหรอครับ ในเมื่อเวลาหลังเที่ยงคืนประตูมิติก็จะเปิดออกแล้วนี่ครับ?”

“การมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ จะได้รับการคุ้มครองจากคุณนายเมิ่ง และเหล่าเซียนปราบมาร ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือเซียนทั่วไปที่มีความสามารถด้านการต่อสู้ ที่คุณนายเมิ่งแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลนั่นแหละ สำหรับที่นี่ก็คือข้า…หวังปว๋อและเป่าเหลียน”

“แต่ว่าทั้งสองเป็นเซียนที่อยู่ในการดูแลของเจ้าแม่หวังหมู่นี่ครับ แล้วทำไม ถึงมาเป็นเซียนปราบมารที่นี่ได้กันล่ะครับ?”

“เซียนทุกตนล้วนแต่มีอิสระ แต่ต้องกลับไปทำหน้าที่เมื่อถึงเวลา ดังนั้น ในวันที่ไม่มีงานฉลอง ทั้งสองคนก็จะมาอยู่ที่นี่และอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์เป็นหลักยังไงล่ะ”

.

.

ณ ดาดฟ้าของตึกเรียน

“เจ้าเรียกข้ามาหาที่นี่ มีเรื่องอะไรจะคุยกับข้าอย่างนั้นหรือ?”

“เจ้าบอกข้ามาเสียดี ๆ ว่าเจ้ามาที่นี่ทำไมกัน เหตุใดจึงไม่ทำหน้าที่ของตัวเองบนดวงจันทร์ไปเล่า?”

“ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ไยจึงยังต้องมาถามข้าอีกเล่า ว่าแต่เจ้าเถอะ ครั้งที่แล้วก็เหมือนว่าเจ้าจะวางใจไปแล้วนี่นา แล้วทำไมอยู่ ๆ เจ้าถึงต้องมาระแวงข้าอีกเล่า?”

“ข้าไม่มีทางวางใจเจ้า คนที่ฆ่าคนที่ข้ารักถึงสองคราวข้าจะยอมได้อย่างไร”

“ดูเหมือนว่าเจ้ากับทู่เอ๋อจะมีอะไรที่คล้ายกันหลายอย่างนะ ทั้งเรื่องของศัตรู และความรัก”

“นั่นไม่ใช่เรื่องของเจ้า เจ้าว่ามา ว่าประสงค์ที่เจ้ามาที่นี่นั้น แท้จริงแล้วเจ้าต้องการอะไรกันแน่”

“ข้าเพียงแต่ลงมาหาคนรักของข้าก็เท่านั้น ไม่มีเรื่องอื่น”

“ท่านเทพธิดาฉางเอ๋อรู้เรื่องนี้หรือยัง?”

“ยัง…”

“เช่นนั้นก็หมายความว่าเจ้าหนีลงมาสินะ ข้าจะเอาเรื่องนี้ไปแจ้งกับท่านเทพ ข้าต้องให้แน่ใจว่าหลี่อี้จะปลอดภัยจากเจ้า เช่นนั้นหากเจ้ายังอยู่ที่นี่ ข้าไม่วางใจ”

หวังซูกำลังจะทะยานตัวเองขึ้นไปกลางอากาศเพื่อตรงไปยังบ้านในโลกมนุษย์ของฉางเอ๋อ หากแต่หมิงชางกลับกระชากร่างนั้นลงมาเสียก่อน

“นี่เจ้าคิดจะทำอะไรหมิงชาง?”

“ข้าบอกเจ้าแล้ว ว่าคนรักของเจ้าจะปลอดภัย ข้าเพียงแค่อยากเจอคนที่ข้ารักเท่านั้น เหตุใดเจ้าถึงไม่เข้าใจ?”

“หากเจ้าอยากเจอเขา เหตุใดเจ้าจึงไม่ไปหา จะทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เช่นนี้ไปทำไมกัน พฤติกรรมขอเจ้าไม่บริสุทธิ์ จะให้ข้าวางใจได้หรือ?”

“แต่การลงมาครั้งนี้ ข้าไม่ได้รับอนุญาตจากท่านเทพ หากเจ้าไปฟ้อง ข้าจะไม่โดนกักขังเช่นนั้นหรือ ไหนจะท่านเทพเอ้อหลางอีก เจ้าอย่าลืมสิ ว่าข้ามีฐานะเป็นสัตว์เทพ มีหน้าที่ดูแลดวงจันทร์ยามที่ท่านเทพไม่อยู่ หากข้าละเลย ข้าจะได้รับโทษ”

“เช่นนั้นเจ้าก็จงกลับไป อย่ากลับลงมาที่นี่อีก”

“เจ้านี่ทำไมถึงเข้าใจอะไรยากนักนะ เจ้าเคยเป็นสหายของข้า ไยจึงไม่เข้าใจข้า”

“ก็แค่เคยเป็น ข้าไม่เคยเป็นเพื่อนกับเจ้าตั้งแต่ที่เจ้าฆ่าหลี่อี้ในคราวนั้นแล้ว และยิ่งเพราะข้าเคยเป็นเพื่อนกับเจ้า ข้าจึงรู้ดี ว่านอกจากเรื่องความรักที่เจ้ายอมฝ่าฝืนแล้ว เรื่องอื่น เจ้าไม่เคยผ่อนปรน เจ้าก็เหมือนนักบวชผู้นั้นที่มองแค่หลี่อี้เป็นปีศาจ ไม่เคยแยกแยะถูกผิด”

“แต่ครั้งนั้นหลี่อี้ทำให้คนตายนะ ไม่สิ ถ้าจะให้ถูกต้องพูดว่า ครั้งนั้นหูเสินเยาจวิน เป็นคนฆ่าชาวบ้านให้ตายทั้งหมู่บ้าน ข้าในฐานะของสัตว์เทพปราบปีศาจที่รับมอบหมายจากเทพธิดาฉางเอ๋อ ข้าจะละเลยได้อย่างไร”

“หลี่อี้ตายเพราะเจ้าถึงสองครั้งสองคราว ข้าจะไม่มีทางให้เป็นครั้งที่สามเป็นอันขาด”

หวังซูรวบรวมพลังทั้งหมดเท่าที่มี ผลักร่างของหมิงชางที่พยายามจับตัวของตัวเองเอาไว้ ก่อนที่จะผลักร่างของกระต่ายหนุ่มให้ห่างออกไปด้วยพลังวิญญาณอย่างสุดกำลัง เหตุผลเพราะทั้งสองมีพลังวิญญาณที่ไล่เลี่ยกัน หากฝ่ายใดออมมือ ก็จะเสียเปรียบอีกฝ่ายในทันที

ทั้งสองต่อสู้กันอยู่บนดาดฟ้าของตึกเรียนซึ่งอยู่สูงที่สุดในจำนวนหลายตึงแถวนั้น ในช่วงเวลาที่ใกล้ค่ำเต็มที จนลืมไปว่าตอนนี้หลี่อี้กำลังรอหวังซูกลับบ้านอยู่ที่หน้าอาคารเรียน

“ทำไมถึงตอนนี้แล้วยังไม่ลงมานะ ไหนบอกว่าจะขึ้นไปคุยธุระกับอาจารย์เสินกวงแป๊บเดียวไง นี่นานมากแล้วนะ มัวแต่ทำอะไรอยู่กันแน่นะ”

เมื่อเวลาเริ่มจะล่วงเลย หลี่อี้จึงเดินตามวังสู้ขึ้นไปบนตึกหากแต่ว่าเมื่อเดินไปที่ห้องทำงานของอาจารย์เสินกวง กลับไม่พบใครเลยแม้แต่เงา นั่นทำให้หลี่อี้รู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้น

“ไม่อยู่นั้นเหรอ หายไปไหนกันแน่นะ ทำไมถึงได้ดูลึกลับชอบกล จริงสิเรามี GPS ของหวังซูอยู่นี่นา…”

เมื่อคิดได้ดังนั้น หลี่อี้จึงทำการเปิดแอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับการติดตามตัวของหวังซูขึ้นมา ด้วยความที่ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันมาก หลี่อี้และหวังซูจึงได้แลกอีเมลกันเอาไว้และสมัครลงไปในแอป เพื่อที่จะได้ติดตามตัวกันเอาไว้ยามคับขัน

และถึงเวลานี้ ก็ดูเหมือนว่าหลี่อี้จะเห็นถึงความจำเป็นที่หวังซูบังคับให้ตัวเองต้องทำในวันนั้นเสียแล้ว

“ดีนะที่หวังซูเคยบังคับให้เราสมัครเจ้าแอปนี่เอาไว้ ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้ใช้จริง ๆ”

หลี่อี้เริ่มดูพิกัดของหวังซู แล้วเดินตามขึ้นไปข้างบนทีละชั้น แต่ที่แปลกก็คือ พิกัดของหวังซูนั้น ดูเหมือนว่าจะแกว่งไปมาจนดูผิดสังเกต ราวกับว่าร่างของหวังซูกำลังโดนอะไรบางอย่างเหวี่ยงไปมาอยู่อย่างไรอย่างนั้น

“นี่ที่แอปมันเสียหรือเปล่านะ ทำไมหวังซูถึงได้เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเป็นสิบเมตรขนาดนั้นนะ อย่างกับว่ากำลังโดนใครจับทุ่มอยู่อย่างนั้นแหละ”

ในเวลานี้ ทั้งหวังซูและเยว่หมิงชาง ก็ผลัดกันจับร่างของแต่ละฝ่ายทุ่มลงบนพื้นของดาดฟ้า เพื่อหวังให้อีกฝ่ายอ่อนกำลังลง ปีศาจค้างคาวและกระต่ายสัตว์เทพกำลังต่อสู้กันอย่างสุดแรงจนลืมสังเกตไปว่า ตอนนี้…กำลังมีใครบางคนเปิดประตูของชั้นดาดฟ้าแล้วเดินออกมายังจุดที่ทั้งสองกำลังต่อสู้กัน

.

.