"กูเลี้ยงมึงมากับมือ ใครก็พรากมึงไปจากกูไม่ได้!"เศรษฐีหนุ่มใหญ่วัย 39 ปี ที่หวงเด็กในอุปการะพี่เลี้ยงมาอย่างปาริชาติ เด็กกำพร้าที่นับวันยิ่งโตยิ่งสวยนับวันยิ่งหัวกระไดไม่แห้งเพราะเธอต้องเป็นของเขา
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ภาพของเด็กหญิงที่กำลังถูกกระทำเหมือนกับถูกไฟช็อตเข้าที่กลางใจของไกรสร เขารู้สึกเหมือนมีคลื่นความโกรธแล่นผ่านทุกอณูของร่างกาย ความสุขุมที่เคยมีหายไปหมดสิ้น เขาก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้สารวัตรชั่ว!”
ไกรสรยกขาขึ้นเตะเข้าที่หน้าอกของสารวัตรดอนเต็มแรงจนเขาล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะรีบคว้าตัวปาริชาติเข้ามาโอบกอดไว้ในอ้อมแขน
“ปาริชาติ ไม่เป็นไรแล้วนะ”
ไกรสรพูดด้วยเสียงสั่นเครือ เขาลูบหัวของปาริชาติที่ยังคงร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวอยู่ไม่ขาดปาก สายตาของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจาก
ความโกรธที่พร้อมจะเผาผลาญทุกอย่างที่ขวางทางให้มอดไหม้จนหมดสิ้น ไกรสรปล่อยออร่าสังหารออกมาจากร่างกาย เขาต้องการสังหารคนที่บังอาจแตะต้องเด็กน้อยคนนี้!
ไกรสรกอดปาริชาติไว้แน่น เขาลูบผมเธอปลอบโยนความหวาดกลัวที่ยังคงเกาะกุมจิตใจของเด็กน้อยอยู่ น้ำเสียงที่เคยเกรี้ยวกราดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน
“หนูปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ”
สารวัตรดอนที่ถูกเตะกระเด็นไปกองกับพื้น ลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เขามองไกรสรด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแค้น
“แก...ไอ้ไกรสร!”
เขาเห็นไกรสรหันหลังให้ เขารู้ว่านี่เป็นโอกาสเดียวที่จะจัดการกับคนอย่างไกรสรได้ ด้วยความโกรธแค้นที่ถูกหักหน้า เขาชักปืนพกออกมาจ่อไปที่ศีรษะของไกรสร แล้วพูดด้วยน้ำเสียงกระด้างว่า
“ถ้าแกไม่ยอมไปกับฉันดีๆ แกก็ต้องตายตรงนี้แหละ!”
คำพูดของสารวัตรดอนทำให้ปาริชาติตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว เธอเงยหน้าขึ้นมองไกรสรที่ยืนบังเธออยู่เต็มตัว เธอกำชายเสื้อของเขาไว้แน่น
ไกรสรหันกลับมาเผชิญหน้ากับสารวัตรดอนอีกครั้ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็นอย่างน่าขนลุก
“แกคิดว่าปืนกระบอกเดียวจะหยุดฉันได้เหรอ”
ไกรสรพูดพร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างน่าสะพรึงกลัว ในเมื่อเขายอมแล้วที่จะสู้กับคนพวกนี้ เขาก็ไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไป นอกจากจะต้องดูแลปาริชาติให้ปลอดภัยที่สุด
“สารวัตรดอน… แกคิดผิดแล้วที่มาแตะต้องคนของฉัน” ไกรสรพูดพร้อมกับยกมือขึ้นช้าๆ เป็นสัญญาณลับที่ส่งไปยังคนของเขาที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในบริเวณบ้าน
สารวัตรดอนที่กำลังจะควบคุมตัวเศรษฐีไกรสรหันขวับทันทีที่ได้ยินเสียงกระทบกระทั่งจากด้านนอก เสียงนกหวีดดังลั่น ตามมาด้วยเสียงตะโกน
"หยุดอยู่กับที่!" และเสียงปืนที่ขึ้นลำพร้อมกันหลายสิบกระบอก
พิมพ์ภัทราที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สารวัตรดอนถึงกับหน้าซีดเผือด “พี่ดอน...นี่มันอะไรกันคะ”
“พวกมันตามคนมา” สารวัตรดอนพึมพำอย่างตื่นตระหนก เขารู้ว่าคนของไกรสรไม่ธรรมดา แต่ไม่เคยคิดว่าไกรสรจะกล้าเอาจริงเอาจังถึงขั้นนี้
เข้มเดินนำหน้ากลุ่มลูกสมุนที่โผล่ออกมาจากมุมมืดรอบ ๆ คฤหาสน์ของไกรสรอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าของเขาเรียบเฉย แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว
“ปล่อยตัวนายของฉันซะ ก่อนที่พวกเราจะทำอะไรบ้า ๆ”เสียงของเข้มเอ่ยด้วยความท้าทาย
ตำรวจที่คุมตัวไกรสรไว้ลังเลใจ สารวัตรดอนกัดฟันกรอด “อย่าไปกลัว! พวกมันมีแค่ปืน เรามีกฎหมายในมือ!”
แต่คำพูดนั้นก็ดูจะไร้ความหมายเมื่อเห็นปืนในมือของเข้มและลูกสมุนที่ไม่ได้มีไว้ขู่ พวกมันทุกคนต่างอยู่ในท่าพร้อมยิง ทุกสายตามองมาที่สารวัตรดอนราวกับเหยี่ยวจ้องเหยื่อ
ไกรสรยิ้มมุมปาก “สารวัตรดอน...กูเตือนมึงแล้วว่าอย่าให้กูต้องหมดความอดทน”
สารวัตรดอนหันมาจ้องหน้าไกรสรอย่างเจ็บแค้น “แกคิดว่าแกจะใช้เงินมาซื้อกฎหมายได้เหรอ!”
“กูไม่ได้ซื้อกฎหมาย” ไกรสรตอบเสียงเรียบ “แต่กูกำลังใช้กฎของกูเอง”ในยุคของเศรษฐีไกรสรปี 2530 ถึง 2534 เป็นช่วงปีที่กฎหมายและการปกครองยังคงอ่อนแอเป็นยุคที่อันธพาลครองเมืองใครมีเงินมีอำนาจกฎหมายก็แทบจะทำอะไรไม่ได้
ปัง! เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดจากเข้ม แต่เป็นปืนที่ยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขวัญ “ถอยไปซะ!” เข้มตะโกน “ไม่อย่างนั้นพวกเราไม่รับประกันความปลอดภัย!”
ตำรวจทุกคนที่ล้อมไกรสรไว้ต่างชะงักพิมพ์ภัทราที่เห็นท่าไม่ดีก็รีบดึงแขนพี่ชาย “พี่ดอน! พอเถอะค่ะ”เธอไม่อยากให้พี่ชายของเธอต้องจบชีวิตลงเธอไม่เคยคิดเลยว่าลูกจะหมุนของไกรสรจะเยอะมากมายขนาดนี้เขาระวังตัวยิ่งกว่าทุกอย่าง
สารวัตรดอนยังคงยืนกราน “ไม่มีทาง!”
แต่แล้วลูกสมุนของเข้มก็เริ่มเคลื่อนไหว ชายฉกรรจ์สองคนเดินเข้ามาประชิดตัวตำรวจที่คุมไกรสรไว้ ก่อนที่จะจ่อปืนไปที่หัวอย่างรวดเร็ว
“ถอยไป!” เข้มสั่งอีกครั้ง
ตำรวจที่ถูกจ่อปืนเริ่มถอยหลังไปทีละก้าวอย่างไม่เต็มใจ พวกเขาไม่ใช่กำลังเสริมของสารวัตรดอน พวกเขาเพียงแค่มาทำตามคำสั่งโดยที่ไม่รู้อะไรเลย
เข้มก้าวเข้ามาปลดปืนของตำรวจที่คุมตัวไกรสรออก แล้วก็ให้ลูกน้องพาไกรสรไปขึ้นรถอีกคันหนึ่งที่จอดรออยู่ใกล้ ๆ
“อย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้นะ ไกรสร!” สารวัตรดอนตะโกนตามหลังไปอย่างเจ็บแค้น
ไกรสรหันกลับมามองสารวัตรดอนพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก “กูไม่ได้หนีหรอก...สารวัตร กูแค่อยากจะบอกคุณว่า...นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น”
"มึงอย่าคิดว่าจะออกไปจากบ้านกูง่ายๆสิ มึงถามหากฎหมายใช่ไหม"
ไกรสรหันกลับมามองสารวัตรดอนด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก “กูไม่ได้หนีหรอก...สารวัตร กูแค่อยากจะบอกมึงเพิ่มเติมถ้ามึงอยากได้กฎหมายกูก็ยินดีหรือมึงอยากได้ศาลเตี้ยกูก็จัดให้”
คำพูดของเศรษฐีไกรษรที่ทุกคนได้ยืนฟังถึงกับหวาดหวั่นเสียวสันหลังวาบเมื่อข้าเห็นอานุภาพและความฉลาดเฉลียวของเศรษฐีไกรสร
เขาเปลี่ยนสรรพนามจาก 'คุณ' เป็น 'มึง' อย่างชัดเจนราวกับจะประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ ไกรสรเผยรังสีอำมหิตออกมาจนสารวัตรดอนรู้สึกได้ถึงความเยียบเย็นที่แผ่ซ่านเข้ามาในกระดูก
“มึงอย่าคิดว่าจะออกไปจากบ้านกูง่าย ๆมาแล้วกูคงต้องจัดต้อนรับมึงเป็นพิเศษท่านสารวัตรดร”
ขณะที่สารวัตรดอนกำลังจะอ้าปากเถียง ไกรสรก็มองตรงไปที่ประตูรั้ว “มึงถามหากฎหมายใช่ไหม...นู่นไง ทนายกูมาพอดี”
รถเบนซ์สีดำคันหรูแล่นเข้ามาจอดสนิทพร้อมกับชายวัยกลางคนในชุดสูทภูมิฐานสองคนก้าวลงมา คนแรกคือทนายที่ปรึกษาของไกรสร ส่วนคนที่สองคือผู้กำกับฯ จากกรมตำรวจ
“เชิญครับคุณทนาย” ไกรสรผายมืออย่างสุภาพ “ช่วยจัดการคุณตำรวจที่เข้ามาค้นบ้านผมพร้อมยัดเยียดข้อหาโดยพลการ แถมยังขู่เข็ญบังคับใช้ปืนจ่อหัวผมต่อหน้าเด็ก”
สารวัตรดอนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าไกรสรจะวางแผนมาถึงขนาดนี้ เขาหันไปมองพิมพ์ภัทราที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ข้างๆ และรู้สึกได้ว่าทุกอย่างกำลังจะพังลงต่อหน้าต่อตา