"กูเลี้ยงมึงมากับมือ ใครก็พรากมึงไปจากกูไม่ได้!"เศรษฐีหนุ่มใหญ่วัย 39 ปี ที่หวงเด็กในอุปการะพี่เลี้ยงมาอย่างปาริชาติ เด็กกำพร้าที่นับวันยิ่งโตยิ่งสวยนับวันยิ่งหัวกระไดไม่แห้งเพราะเธอต้องเป็นของเขา
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปาริชาติยืนนิ่งราวกับรูปปั้น ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาจนเธอไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือหวาดกลัว ชายที่ยืนตรงหน้าเธอคือบุคคลที่เคยได้ยินแต่ชื่อ เขาดูลึกลับและน่าเกรงขามเกินกว่าที่เธอจะเข้าใจได้
เมื่อคนของไกรสรเดินทางไปถึงบ้านของปาริชาติเพื่อแจ้งความจำนง ป้าแม้นของเธอก็ตกใจจนตัวสั่น ไม่ว่าใครที่ได้ยินชื่อของไกรสรก็ต้องหวั่นเกรงในอิทธิพลของเขา
“ป้าคิดว่า… ป้าไม่ควรให้หนูไป” ป้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “เขาเป็นคนใหญ่คนโต ป้ากลัวว่าเขาจะทำไม่ดีกับหนู”
ป้าแม้นที่มีความผูกพันกับปาริชาติแม้จะเป็นเพียงแค่เวลาหนึ่งปีแต่ป้าแม้นก็ดูแลปาริชาติเหมือนลูกสาวคนหนึ่งแกก็ไม่มีญาติที่ไหนจึงมีความกังวลใจ แต่ถ้าปาริชาติไปแล้วได้ดีมีอนาคตสดใสแกก็ไม่เป็นทุกข์ใจ
ปาริชาติก้มหน้ามองพื้นอย่างเงียบงัน เธอเข้าใจความรู้สึกของป้าดี แต่ชีวิตที่กำลังเผชิญอยู่ก็เป็นเหมือนทางตัน ในวันที่แม่กับพ่อจากไป
โลกของเธอก็เหมือนดับมืดไปพร้อมกับพวกท่านการมีใครสักคนยื่นมือมาช่วยถือเป็นโอกาสที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล
“ป้าคะ… หนูอยากไป” ปาริชาติเอ่ยเสียงเบา “หนูจะไปเรียนหนังสือ จะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น”ปาริชาติเธอก็อยากตอบแทนป้าแม้นด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง แค่ป้าแม้นดูแลเธอมาตั้งแต่เธออายุสิบเอ็ดขวบตอนนี้ก็เข้าเป็นเวลาหนึ่งปปีเธอก็ซาบซึ้งใจมากพอแล้ว
ป้าของปาริชาติมองดูแววตาที่มุ่งมั่นของหลานสาวอย่างแปลกใจ เธอเห็นความหวังและความกล้าหาญที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในตัวเด็กหญิงผู้บอบบาง น้ำตาคลอเบ้าด้วยความสงสารระคนยินดี
“ถ้าอย่างนั้น… ป้าจะให้หนูไป” ป้าเอ่ยเสียงแผ่ว “แต่ถ้าเขาทำอะไรไม่ดีกับหนู… หนูต้องกลับมาหาป้านะ”ด้วยความเป็นห่วงที่เต็มอก เปรียบเสมือนแม่คนนึงที่รักลูกสาว ป้าแม้นจำใจยกปาริชาติให้กับเศรษฐีไกรสรผู้ที่มีอำนาจในช่วงเวลานั้นใครก็ไม่อาจปฏิเสธอำนาจเงินที่ล้นพ้นของเขาได้
เขาไม่ได้มีเพียงแค่อำนาจทางด้านการเงิน แต่เขามีพรรคพวกและคอนเน็คชั่นที่แน่นหนาเขาเลี้ยงพรรคพวกไว้มากมายจึงไม่มีใครกล้าแตะต้องเศรษฐีไกรสรผู้นี้เลย
ปาริชาติพยักหน้ารับคำด้วยความแน่วแน่ เธอไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ในตอนนี้เธอกำลังจะก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย โลกของชายที่ชื่อ ไกรสร ผู้ซึ่งเป็นทั้งความหวังและความน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น รถเบนซ์คันหรูของไกรสรก็มาจอดเทียบหน้าบ้านไม้เก่า ๆ ของป้าแม้น คนขับรถลงมาเปิดประตูรถด้วยท่าทางสุภาพ ปาริชาติสวมเสื้อผ้าชุดที่สะอาดที่สุดที่เธอมีอยู่ในตัว ในมือหิ้วถุงผ้าเก่า ๆ ใบเล็ก ๆ ที่มีเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชิ้น ป้าแม้นมองดูหลานสาวด้วยความอาลัยอาวรณ์ น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความห่วงใย
“ดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก” ป้าแม้นกระซิบเสียงสั่น “อย่าลืมป้านะ”
“หนูไม่ลืมหรอกค่ะป้าแม้น” ปาริชาติเอ่ยตอบ พลางโผเข้ากอดป้าของเธอแน่น น้ำตาที่เคยกลั้นไว้ไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอรู้สึกทั้งตื้นตันและหวาดกลัวไปพร้อม ๆ กัน แต่ก็ก้าวขึ้นไปบนรถด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น
รถเคลื่อนตัวออกจากบ้านหลังเล็ก ๆ ทิ้งไว้เพียงฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจาย ปาริชาติมองดูบ้านที่เคยเป็นที่พักพิงจนลับสายตา ก่อนจะหันมามองโลกภายนอกที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ตึกรามบ้านช่องที่เธอไม่เคยเห็น รถยนต์ที่แล่นสวนกันไปมา แสงสีในเมืองที่ดูแปลกตาไปหมด
รถยนต์มาจอดที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา รั้วบ้านสูงใหญ่ราวกับปราสาท ยามรักษาความปลอดภัยสวมชุดเครื่องแบบยืนประจำการอยู่หน้าประตูอย่างเข้มงวด
“เชิญครับคุณหนู” คนขับรถเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงนอบน้อม ปาริชาติก้าวลงจากรถด้วยความรู้สึกประหม่า
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน เธอก็พบกับความหรูหราอลังการที่เกินกว่าจะจินตนาการได้ พื้นหินอ่อนขัดเงา สะท้อนภาพใบหน้าของเธอที่ดูตื่นตระหนก เฟอร์นิเจอร์ไม้สักแกะสลักอย่างประณีตวางเรียงรายอยู่ทั่วห้องโถงกว้างใหญ่ แชนเดอเลียร์ระยิบระยับห้อยระย้าลงมาจากเพดานสูง
“มาถึงแล้วหรือ” เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้น ไกรสรยืนอยู่บนบันไดไม้สักขัดเงา เขาไม่ได้สวมชุดทำงาน แต่เป็นชุดเสื้อผ้าลำลองที่ดูสบาย ๆ แต่กลับยิ่งเพิ่มความสง่างามให้เขา ปาริชาติเงยหน้ามองเขาด้วยหัวใจที่เต้นรัวราวกับหัวใจของเธอจะทะลุออกมาจากหน้าอก
ใบหน้าที่หล่อเหลาเหมือนกับฟ้าประทานผิวสีเข้มความดูตัวสูงและใหญ่โตหากเทียบกับปาริชาติในตอนนี้เธอเหมือนเด็กแคระเข้าไปอีก
ปาริชาติเหมือนเด็กที่รู้งานเธอนั่งลงกับพื้นคลานเข่าเข้ามาหาไกรสรด้วยท่าทีที่นอบน้อมถ่อมตนแล้วก็ก้มลงกราบที่เท้าของไกรสรด้วยความเคารพนอบน้อม
“จากนี้ไป… เธอจะเป็นคนของฉัน” ไกรสรเอ่ยเสียงหนักแน่น “เธอจะถูกดูแลเป็นอย่างดี และจะได้เรียนหนังสือในโรงเรียนที่ดีที่สุด”
ไกรสรที่เห็นความนอบน้อมในตัวของปาริชาติมือหนาสัมผัสไปที่แก้มเล็กนวลเนียน ยกปลายทางขึ้นให้มองหน้าเขาอย่างเต็มตาเหมือนเป็นสัญญาณบอกกับปาริชาติว่านับจากวันนี้ไปชีวิตของเธอเป็นของเขา
ปาริชาติยืนนิ่งราวกับฝันไป ความฝันที่จะได้เรียนหนังสือกลับมาเป็นจริงแล้ว น้ำตาแห่งความดีใจไหลอาบแก้ม เธอไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า แต่ในตอนนี้เธอก็พร้อมที่จะรับเอาโอกาสครั้งนี้อย่างเต็มที่
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ปาริชาติก็ได้ใช้ชีวิตในฐานะลูกสาวของไกรสร เธอได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด มีห้องนอนที่กว้างใหญ่ มีเสื้อผ้าสวย ๆ สวมใส่ มีอาหารดี ๆ ให้กินทุกมื้อ และที่สำคัญที่สุด… เธอก็ได้กลับไปเรียนหนังสืออีกครั้ง
ไกรสรไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้อุปการะ แต่เขาเป็นเหมือนพ่ออีกคนสำหรับเธอ เขาคอยถามไถ่เรื่องราวในแต่ละวันของเธอ คอยสอนสั่งและให้คำแนะนำในสิ่งที่เธอไม่รู้ เขาใส่ใจในทุกรายละเอียดของชีวิตเธออย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เขาให้ความรักและความอบอุ่นที่เธอโหยหามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
แต่ถึงอย่างนั้น ปาริชาติก็ยังคงรู้สึกถึงช่องว่างระหว่างเธอกับเขา เธอรับรู้ได้ว่าการมีตัวตนของเธอในชีวิตของไกรสรนั้น เป็นสิ่งที่ไม่มีใครในบ้านเข้าใจได้เลย บรรดาคนรับใช้และลูกน้องต่างมองเธอด้วยสายตาที่แปลกไป บางคนก็แสดงความอิจฉาริษยาอย่างเปิดเผย
"ป้าหน่อยดูนังเด็กที่มาจากโรงเลื่อยนั่นสิ อยู่ดีๆก็มาชุบตัวเป็นคุณหนูบ้านเราซะอย่างนั้น"
ลูกตาลสาวใช้ที่จ้องเศรษฐีไกรสรตาเป็นมันตลอดเวลา เธออายุ 25 ปี พ่อแม่ของเธอทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านของเศรษฐีไกรสรมาตั้งแต่เธอจำความได้ ความฝันเดียวที่เธออยากได้คือเป็นเมียของเศรษฐีไกรสรที่เธอหมายปอง แต่อยู่ดีๆก็มีเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มมาปาดหน้าเค้กเธอไป
"พูดถึงคุณหนูให้มันดี ๆ หน่อยนางลูกตาลฉันจะฟ้องพ่อกับแม่แกนะ" ป้าหน่อยที่อายุเข้าเลขหกเป็นแม่บ้านประจำบ้านหลังนี้ ทุกอย่างป้าหน่อยเป็นคนจัดการเศรษฐีไกรสรจะให้ความเคารพป้าหน่อยในฐานะคนเก่าแก่ของบ้าน
"โถ่ ทำไมจะพูดแบบนี้ไม่ได้นะป้าก็แค่เด็กกำพร้าที่ท่านเศรษฐีไกรสรเอามาชุบตัว ไม่รู้จะรักดีแค่ไหน" ลูกตาลที่รู้สึกโมโหก็เดินสะบัดก้นออกจากห้องครัวไปเลย
ป้าหน่อยถึงกับส่ายหัวให้กับความอิจฉาริษยาของลูกตาลที่มีต่อเด็กผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่งและเธอก็ช่างน่าสงสารที่ต้องกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก
ในขณะเดียวกัน ข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับไกรสรก็ยังคงแพร่สะพัดไปทั่วเมือง บางคนก็สงสัยว่าความจริงแล้วเธออาจไม่ใช่ลูกบุญธรรม แต่เป็นหญิงสาวที่ไกรสรรับมาเลี้ยงเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่างในอนาคต
ปาริชาติไม่ได้สนใจข่าวลือเหล่านั้น เธอเพียงแค่หวังว่าความรักและความอบอุ่นที่ไกรสรมอบให้จะคงอยู่ตลอดไป เธอไม่รู้เลยว่าการเข้ามาในชีวิตของเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลคนนี้ จะนำพาเธอไปพบเจอกับอะไรบ้างในวันข้างหน้า....