"กูเลี้ยงมึงมากับมือ ใครก็พรากมึงไปจากกูไม่ได้!"เศรษฐีหนุ่มใหญ่วัย 39 ปี ที่หวงเด็กในอุปการะพี่เลี้ยงมาอย่างปาริชาติ เด็กกำพร้าที่นับวันยิ่งโตยิ่งสวยนับวันยิ่งหัวกระไดไม่แห้งเพราะเธอต้องเป็นของเขา

จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ) - บทที่ 8 ความผูกพัน โดย บุหงารำพึง-2537 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ) โดย บุหงารำพึง-2537 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"กูเลี้ยงมึงมากับมือ ใครก็พรากมึงไปจากกูไม่ได้!"เศรษฐีหนุ่มใหญ่วัย 39 ปี ที่หวงเด็กในอุปการะพี่เลี้ยงมาอย่างปาริชาติ เด็กกำพร้าที่นับวันยิ่งโตยิ่งสวยนับวันยิ่งหัวกระไดไม่แห้งเพราะเธอต้องเป็นของเขา

ผู้แต่ง

บุหงารำพึง-2537

เรื่องย่อ

เศรษฐีไกรสรผู้ที่เป็นเจ้าของโรงเลื่อยเจ้าใหญ่ที่สุดในเมืองระยอง เขาเป็นผู้ชายที่หวงความโสดมากที่สุดและไม่เคยชายตาและผู้หญิงคนไหนที่จะเอามาเป็นเมียหรือแม่ของลูก นอกจากผู้หญิงชั่วคราวที่เอาไว้บำเรอความใคร่เขา 


 แต่แล้วเหมือนโชคชะตาจะกลั่นแกล้งให้เขาเจอเด็กผู้หญิงที่มีแววตาเศร้าสร้อยที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอนั่งอยู่ในโรงเลื่อยของเขาด้วยท่าทีที่เหม่อลอยเธอกลับถูกชะตาเด็กผู้หญิงมอมแมมคนนั้นจนถึงขั้นรับเลี้ยงเธอ


ปาริชาติเด็กผู้หญิงอายุ 12 ปีที่พ่อแม่ด่วนจากไปก่อนวัยอันควรและเธอก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเธอได้อาศัยอยู่กับป้าแม้นป้าใจดีในโรงเลื่อยแต่ป้าก็ไม่ได้มีเงินทองมากมายจึงทำให้เธอไม่ได้เรียนหนังสือออกมาช่วยป้าแม้นทำงานในโรงเรื่อยเล็กๆน้อยๆ  


ใครๆก็บอกว่าเศรษฐีเจ้าของโรงเลื่อยเป็นคนใจดีมากปาริชาติเพิ่งเคยเห็นเศรษฐีเจ้าของโรงเลื่อยเป็นครั้งแรกเธอแอบกลัวเขาอยู่เล็กน้อยแต่ไม่รู้เคราะห์ซ้ำหรือกำซัดที่อยู่ดีๆก็ถูกรับเลี้ยงโดยเศรษฐีเจ้าของโรงเลื่อยที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุและโหดที่สุด

 

สารบัญ

จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 1 แรกพบสบตาเด็กหญิงกำพร้า,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 2 สิ่งที่เลือกไม่ได้,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 3 สายตาและคำดูถูก,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 4 การปรับตัวของปาริชาติ,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 5 พัฒนาชีวิต,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 6 หัวใจของปาริชาติ,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 7 แม่หนูปาริชาติ,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 8 ความผูกพัน,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 9 ความเปลี่ยนแปลง,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 10 พ่อไกรสรแรง ,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 11 สถานการณ์ที่ตึงเครียด,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 12 อย่าแตะต้องคนของกู,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 13 สั่งสอนคนปากดี,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 14 ความเป็นห่วง,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 15 ความน่ารักของปาริชาติ,จงอางหวงไข่(ดุตัวพ่อ)-บทที่ 16 ศัตรูในรอยอดีต

เนื้อหา

บทที่ 8 ความผูกพัน

เมื่อถึงยามค่ำคืน ท้องฟ้าเริ่มมืดมิด มีเพียงแสงจากดวงจันทร์ที่สาดส่องลงมาในห้องนอนของเศรษฐีไกรสร เขากำลังยืนอยู่ริมระเบียงพลางคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ มือใหญ่หยิบซิการ์ขึ้นมาจุดสูบ พ่นควันออกมาอย่างช้าๆ แล้วปล่อยให้มันล่องลอยไปในอากาศ

ในใจยังคงก้องกังวานด้วยเสียงของปาริชาติที่กล่าวว่า "เธอจะเป็นเกราะกำบังให้เขา" คำพูดนั้นทำให้หัวใจที่เคยแข็งกระด้างราวกับหินผาเริ่มอ่อนยวบลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“เจ้าตัวเล็กนี่...” เสียงทุ้มต่ำพึมพำออกมาเพียงลำพัง “ช่างกล้าหาญเกินตัวจริง ๆ ”เศรษฐีไกรสรที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆก็มักจะแว๊บนึกถึงปาริชาติในวันนี้แล้วเผลอยิ้มมุมปากออกมาอย่างไม่รู้ตัว

เขารู้สึกถึงความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้น เขามองไปยังหน้าต่างห้องนอนของปาริชาติ เห็นแสงไฟสลัวๆ ผ่านม่านบางๆ รู้สึกอบอุ่นในใจอย่างประหลาด ความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน... ความรู้สึกที่เรียกว่า "ห่วงใย"

เช้าวันรุ่งขึ้น ปาริชาติรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยแสงแดดที่ลอดผ่านม่านเข้ามาในห้อง เธอลุกขึ้นจากเตียงและเดินออกไปที่ระเบียงห้องทันที 

เธอเห็นเศรษฐีไกรสรยืนสูบบุหรี่อยู่ที่หน้าระเบียงเธอพอดีไม่รู้ว่าท่านเศรษฐีไกรสรของเธอแอบย่องเข้ามาตอนไหน เขาดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ปาริชาติจึงส่งเสียงเรียกเขาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น

“ท่านเศรษฐี!”

เสียงใสๆ ทำให้เศรษฐีไกรสรหันกลับมา เขามองเห็นปาริชาติในชุดนอนลายลูกหมีน่ารักๆ ที่ป้าหน่อยเอามาให้ เขาเก็บซ่อนรอยยิ้มไว้ในใจ แล้วเอ่ยถามอย่างเรียบเฉย

“ตื่นแล้วเหรอ”

“จ้ะ ท่านเศรษฐีมาทำอะไรตรงนี้จ้ะ” ปาริชาติถามอย่างสงสัยพลางชะเง้อมองผ่านราวระเบียง

“มาสูบบุหรี่”ขณะที่เขาพูดอยู่ก็พ่นควันบุหรี่ลอยฟุ้งเต็มระเบียงหน้าห้องของปาริชาติ

“สูบบุหรี่ไม่ดีนะคะ” ปาริชาติพูดเสียงอ่อน “ไม่ว่าจะเป็นควันของท่านเศรษฐีเองหรือคนที่สูบอยู่รอบข้างก็ไม่ดีทั้งนั้นเลยจ้ะ คุณครูบอกกับปาริชาติมาจ้ะ”เสียงของปาริชาติเจื้อยแจ้วแต่เช้ายิ่งทำให้เศรษฐีไกรสรนึกขบขันอยู่ในใจแม่เด็กคนนี้นับวันยิ่งมีอิทธิพลกับความรู้สึกของเขา

หลังจากคิดอะไรเพลิน ๆ เศรษฐีไกรสรนิ่งไปครู่หนึ่ง เขามองปาริชาติด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา แต่ปาริชาติไม่ได้สังเกต เธอพูดต่ออย่างจริงจัง

“หนูไม่อยากให้ท่านเศรษฐีเป็นอะไรไปเลยนะจ๊ะ หนูเป็นห่วงท่านเศรษฐีที่สุด”

พูดจบปาริชาติเธอก็ทำตามสัญชาตญาณของเด็กโดยทั่วไปเข้าไปกอดเอวของเศรษฐีไกรสรเอาไว้แน่นความสูงของเธอยังไม่ถึงหน้าอกของเศรษฐีไกรสรเลยด้วยซ้ำ

คำพูดของปาริชาติทำให้เศรษฐีไกรสรหยุดชะงัก เขามองไปยังดวงตาบริสุทธิ์ของเด็กหญิงตรงหน้า แล้วเขาก็ยอมรับอย่างเงียบๆ ว่าคำพูดของเธอทำให้เขารู้สึกผิดอย่างประหลาดใจ

“ทำไมหนูถึงห่วงฉัน”เศรษฐีไกรสรตั้งคำถามออกมาให้ร่างบางที่กำลังยืนกอดเขาอยู่ขณะนั้นเขาเองก็ยังยืนสูบบุหรี่ด้วยมือข้างหนึ่งส่วนมืออีกข้างก็โอบกอดไปที่ด้านหลังของปาริชาติอย่างรักใคร่และเมตตา

“ก็... ท่านเศรษฐีเป็นคนช่วยหนูไว้ แล้วก็ใจดีกับหนูมากเลยนี่จ๊ะ ตอนนี้ท่านเศรษฐีเป็นทุกอย่างในชีวิตหนูนะจ๊ะหนูรักท่านเศรษฐีที่สุด”คำว่ารักและเป็นห่วงของเด็กหญิงปาริชาติคนนี้ได้ละลายกำแพงหินของชายหนุ่มแทบหมดสิ้น

ปาริชาติเธอพูดพร้อมกับรอยยิ้มสดใส เศรษฐีไกรสรหันกลับไปมองยังทิวทัศน์รอบคฤหาสน์ เขานึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่ร้านเสื้อผ้าเมื่อวานนี้ 

เขานึกถึงปาริชาติที่กล้าหาญและไม่กลัวอันตราย เขาเอื้อมมือไปหยิบซิการ์ออกจากปาก แล้วโยนมันลงไปในถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ อย่างไม่มีความลังเล

“ฉันจะเชื่อเธอปาริชาติ”เศรษฐีไกรสรเขาโยนซิก้าทิ้งอย่างไม่ใยดีโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องทำตามคำขอของเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่กำลังยืนกอดเขาไว้แน่นเธอช่างมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเขาจริงๆ

ปาริชาติเงยหน้าขึ้นมองตามมือของเศรษฐีไกรสร แล้วมองหน้าของเขาด้วยความประหลาดใจ เธอไม่คิดว่าเขาจะทำตามที่เธอพูดจริงๆ 

“ท่านเศรษฐี... ท่านยอมทำตามที่หนูบอกจริง ๆ เหรอจ้ะ”ปาริชาติถามด้วยความใสซื่อเธอรู้สึกดีใจยิ้มจนแก้มปริ

“ใช่” เขาตอบสั้นๆ แต่แววตาของเขากลับดูอ่อนโยนอย่างน่าประหลาด “ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวลงมาทานอาหารเช้า”เศรษฐีไกรสรรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเด็กขี้อ้อนอย่างปาริชาติเอาแต่ยืนกอดเขาเอาไว้แน่น

ปาริชาติยิ้มกว้าง เธอไม่คิดว่าเศรษฐีไกรสรจะยอมทำตามที่เธอพูดได้อย่างง่ายดายแบบนี้ เธอจึงรู้สึกดีใจอย่างสุดซึ้งที่ได้รับความห่วงใยจากเขา และเธอก็หวังว่าเขาจะตอบแทนเธอด้วยความรักและความห่วงใยเช่นกัน

"งั้นปาริชาติรีบไปอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ จะได้รีบไปโรงเรียน เดี๋ยวสาย" พูดจบเธอก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องคว้าเสื้อผ้าเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าส่วนเศรษฐีไกรสรที่ชอบตื่นแต่เช้าเป็นปกติก็ลงมารอที่ห้องทานอาหาร

หลังจากรับประทานอาหารเช้า เศรษฐีไกรสรก็พาปาริชาติไปส่งที่โรงเรียนเหมือนกับทุกๆวันโดยมีไอ้เข้มเป็นคนขับรถ ปาริชาติเห็นเพื่อนๆ ของเธอที่กำลังเดินเข้าประตูโรงเรียน เธอยิ้มและโบกมือให้พวกเขา

เธอรู้สึกว่าชีวิตของเธอช่างโชคดีเหลือเกินแต่เธอก็ยังไม่ลืมป้าแม้นที่อยู่โรงเลื่อยวันนี้เธอตั้งใจจะขอท่านเศรษฐีไปเยี่ยมป้าแม้นที่โรงเลื่อยเป็นครั้งคราวเพราะพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์อาทิตย์เธอจึงอยากจะไปช่วยงานป้าแมนที่โรงเลื่อยบ้าง

“บ๊ายบายนะคะท่านเศรษฐี”พูดจบปาริชาติกอดคอของเศรษฐีไกรสรเอาไว้แน่นแล้วหอมแก้มของเขาทั้งสองข้างอย่างที่ไม่เคยทำเธอรู้สึกว่าท่านเศรษฐีใจดีเปรียบเสมือนพ่อของเธออีกคนเธอจึงทำตามสัญชาตญาณด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูแต่เธอจะรู้หรือไม่ว่าเข้มที่เห็นเหตุการณ์นี้ก็ถึงกับตกใจน่าเบื่อขณะที่มองผ่านกระจกรถมองหลัง

“ตั้งใจเรียนล่ะ แล้วอย่าไปทำแบบนี้กับใครรู้ไหมถ้าไม่ใช่ฉัน” เขากำชับเสียงเข้มแม้จะรู้สึกตกใจกับการกระทำของปาริชาติแต่เขาก็ต้องเก็บอาการเอาไว้

ปาริชาติพยักหน้าแล้วรีบวิ่งเข้าไปในโรงเรียน เศรษฐีไกรสรยืนมองปาริชาติเดินหายไปในหมู่เพื่อนๆ ของเธอจนไม่เห็น เขาจึงสั่งให้เข้มขับรถกลับไปที่โรงเลื่อย แต่แล้วเขาก็นึกขึ้นมาได้...

“ลืมไปเลยว่าปาริชาติสั่งไม่ให้ฉันสูบบุหรี่ แล้วถ้าฉันมีธุระที่ต้องไปพบเจอคนที่มีกลิ่นบุหรี่ในตัว... จะเป็นอย่างไรนะ ปาริชาติเธอจะโกรธฉันหรือเปล่า” เขาก้มลงมองนาฬิกาข้อมือแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา “อีก 15 นาทีเอง... ยังไงก็ต้องไปแล้ว”

เขานึกถึงเมื่อวานที่เขาได้ทำตามสิ่งที่ปาริชาติบอก เขายิ้มอย่างมีความสุขกับตัวเองส่วนเข้มก็ได้แต่นั่งมองเจ้านายผ่านกระจกหลังด้วยความประหลาดใจที่เขาหยิบซิก้าขึ้นมาแล้ววางลงกับที่เดิม

นายทำไมถึงไม่ดูดซิก้าล่ะครับเห็นวางจับวางจับอยู่หลายรอบเข้มที่รอบมองเจ้านายที่มีอาการแปลกไปเขาจึงได้ถามขึ้น

กูสัญญากับปาริชาติว่ากูจะไม่สูบซิก้าอีกปาริชาติบอกว่ามันไม่ดีนั่นเป็นคำพูดของเศรษฐีไกรสรผู้ยิ่งใหญ่หรือ

เข้มถึงกับตกใจเพราะปกติไม่มีใครสามารถออกคำสั่งให้เศรษฐีไกรสรทำตามได้เพียงแค่ลมปากคำพูดจากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งแค่เธอบอกว่าการสูบซิก้ามันไม่ดีเศรษฐีไกรสรแม้จะอยากสูบมากแค่ไหนก็ถึงกับทำได้เพียงแค่จับและวางจับและวางเท่านั้น...