เรื่องราวของความเจ็บปวด การเติบโต และการค้นหาตัวตนอีกครั้ง ในโลกที่ความรักอาจเป็นทั้งยาพิษและยาถอน แต่สำหรับเธอ คำตอบสุดท้ายอาจไม่ใช่การให้อภัย...แต่เป็นการเลือกที่จะเป็นอิสระจากทุกสิ่ง
รัก,ดราม่า,อาชญากรรม,ระทึกขวัญ,ชาย-หญิง,นักศึกษา,มหาวิทยาลัย,รักวัยรุ่น,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นางฟ้าล่าแต้มเรื่องราวของความเจ็บปวด การเติบโต และการค้นหาตัวตนอีกครั้ง ในโลกที่ความรักอาจเป็นทั้งยาพิษและยาถอน แต่สำหรับเธอ คำตอบสุดท้ายอาจไม่ใช่การให้อภัย...แต่เป็นการเลือกที่จะเป็นอิสระจากทุกสิ่ง
ในโลกที่ความรักและความเจ็บปวดมักเดินเคียงข้างกัน อัญญา หญิงสาวที่เคยเชื่อในความรักอย่างหมดหัวใจ จนกระทั่งถูกหักหลังและทำร้ายจนจิตใจแหลกสลาย เธอจึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก แต่คือการปฏิวัติภายในจิตใจ จากหญิงสาวขี้อาย สู่ผู้หญิงที่แข็งแกร่ง เย็นชา และเต็มไปด้วยไฟแค้น
เมื่ออัญญากลับมาที่มหาวิทยาลัยด้วยใบหน้าที่สวยงามราวกับเทพี เธอไม่ใช่อัญญาคนเดิมอีกต่อไป เธอปฏิเสธความอ่อนแอ เลือกเดินบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความสัมพันธ์ชั่วคราว และการแก้แค้นต่อผู้ที่เคยทำร้ายเธอ แต่ในความมืดมิดนั้น ยังมีคำถามหนึ่งที่คอยหลอกหลอนเธอ เธอกำลังทำเพื่อพิสูจน์ตัวเอง หรือเพื่อหลีกหนีจากความเจ็บปวดที่ยังคงฝังลึกในใจ
“ช่วงนี้ดูเหมือนการันต์จะตามง้อเธอบ่อยมากเลยนะ”
เสียงแซวจากเฟย์ หนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทดังขึ้นเบา ๆ พลางชำเลืองตามองไปยังร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ไกล ขณะนั้นพวกเธอนั่งพักอยู่บนม้านั่งไม้เก่า ๆ หลังตึกคณะ ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้ที่ทอดเงาทาบลงบนพื้นทางเดิน
อัญญายกแก้วกาแฟขึ้นจิบช้า ๆ รสขมปนกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาบ้าง เธอปรายตามองออกไปยังลานกว้างหน้าตึกที่การันต์ยืนอยู่ เขากำลังคุยกับเพื่อนกลุ่มเดิม แต่ทุก ๆ นาทีดวงตาคู่นั้นก็จะเหลือบมาทางเธอ ราวกับไม่สามารถห้ามตัวเองได้
เธอวางแก้วลงช้า ๆ ก่อนหันกลับมาถามเฟย์เสียงเรียบ
“เฟย์…พอจะรู้ไหมว่าแฟนใหม่คนล่าสุดของการันต์เป็นใคร”
อีกฝ่ายยักไหล่เล็กน้อยก่อนตอบ “ก็ดาวนิเทศฯ ไง…มินตรา”
อัญญาแค่นยิ้มบาง ๆ เพียงแค่ได้ยินชื่อ ความรู้สึกบางอย่างก็แล่นวาบขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ
มินตรา…
ชื่อที่ฟังดูสวยหวานแต่ทิ่มแทงลึกลงในใจ
ผู้หญิงที่ไม่ใช่แค่สวย แต่ยังเพียบพร้อมไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอใฝ่ฝันอยากจะเป็น
…และเธอคือคนที่การันต์เลือก
*****
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
งานกิจกรรมใหญ่ของมหาวิทยาลัยเริ่มต้นขึ้นอย่างครึกครื้น โดยหนึ่งในไฮไลต์คือแฟชั่นโชว์จากนิสิตปีต่าง ๆ
มินตราก้าวขึ้นเวทีในฐานะนางแบบเด่นของค่ำคืนนั้น ชุดราตรีสีแดงสดตัดกับผิวขาว ผมยาวสลวยสยายอย่างมีชีวิตชีวา ทุกย่างก้าวของเธอเต็มไปด้วยความมั่นใจ
อัญญายืนมองอยู่ที่มุมบันไดข้างเวที ใส่เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งสีขาวชายยาวคลุมทับกางเกงยีนรัดรูป เธอดูโดดเด่นแต่ไม่จัดจ้าน ข้างกายคือปริญ เด็กปีหนึ่งหน้าตาหล่อเหลาแบบที่ใครเห็นก็ต้องเหลียวมอง จนมีคนเข้าใจผิดว่าเขาเป็นนายแบบจากเอเจนซี่
เขาคือคนล่าสุดที่ตกหลุมเสน่ห์ของเธออย่างถอนตัวไม่ขึ้น และเธอก็เลือกเขา เพราะเขาเหมาะจะเป็นหุ่นเชิดที่เธอต้องการ
“มองไปข้างหน้า” อัญญากระซิบพลางบีบมือนุ่มแน่น “ยิ้มให้กล้องนิดนึงนะ อย่าเผลอมองพี่ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะจับได้”
ปริญหลุดหัวเราะเบา ๆ เขาอาจไม่เข้าใจทุกอย่างที่เธอทำ แต่ก็ยอมให้เธอจับจูงไปในทุกสถานการณ์
เมื่อแฟชั่นโชว์จบลง ผู้คนกรูเข้าไปในโซนหลังเวทีเพื่อถ่ายรูปและแสดงความยินดี อัญญาจูงปริญเข้าไปในฝูงชน และในจังหวะที่ผู้คนอัดแน่น เธอก็แนบตัวเข้าไปใกล้กระซิบกับเขาเบา ๆ
จากนั้น…เธอจูบลงบนแก้มของเขาอย่างแผ่วเบาแต่แนบแน่นพอให้บางสายตาเห็น
หนึ่งในนั้นคือสายตาของการันต์
เขายืนอยู่ไม่ไกลนัก และเธอรู้ว่าเขาเห็นทุกอย่าง
*****
“เธอทำบ้าอะไรของเธอ” เสียงเขาดังขึ้นจากด้านหลัง ขณะที่เธอกำลังเดินไปยังลานจอดรถยามค่ำ
อัญญาชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองด้วยแววตานิ่งเฉย “ฉันก็แค่อยู่กับคนที่ฉันอยากอยู่ด้วย และก็ไม่แคร์ว่าใครจะรู้สึกยังไง…เหมือนนายไง”
“เธอกำลังเล่นกับความรู้สึกของฉันนะอัญญา” เขาขึ้นเสียง ดวงตาเต็มไปด้วยความผิดหวังและสับสน
อัญญายิ้มบาง สีหน้าเยือกเย็นราวกับไม่รู้จักความรู้สึกเจ็บปวด
“เหมือนกับที่เธอเคยทำกับฉันไงการันต์…จำไม่ได้เหรอ”
เหมือนลมหายใจถูกหยุดจากคำพูดนั้น เขาเงียบงันไปทันที
อัญญาก้าวเข้าไปใกล้ จนริมฝีปากแทบจะเฉียดใบหูเขา
“เธอรู้ไหม…ว่าเด็กปีหนึ่งที่ฉันจูบวันนี้ เขาร้องไห้แทบตายตอนที่ฉันบอกว่าเขาเอาไม่ได้เรื่องเมื่อคืนก่อน”
เสียงกระซิบของเธอเย็นเฉียบ
“และฉัน…ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ”
จากนั้นเธอก็หันหลังให้ เดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง ทิ้งให้การันต์ยืนอยู่กลางลานจอดรถ เพียงลำพัง กับความรู้สึกที่ไม่มีชื่อเรียก ไม่มีคำจำกัดความ