เวลานับถอยหลัง ศัตรูเก่าหวนคืน อสูรหกตาไล่ล่าข้ามโลกที่ไม่ปรากฏ เด็กชายอายุเพียงแค่สิบเอ็ดพลันต้องเรียนรู้โลกใหม่เพื่อเป็นผู้ล่า ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเพียงเหยื่อที่ไร้ทางสู้

Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk] - ตอนที่ 17 ไอร์นา อเมร์ริณ (1/2) โดย Vsrin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ไซไฟ,พารานอมอล,ผจญภัย,แฟนตาซี,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ไซไฟ,พารานอมอล,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk] โดย Vsrin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เวลานับถอยหลัง ศัตรูเก่าหวนคืน อสูรหกตาไล่ล่าข้ามโลกที่ไม่ปรากฏ เด็กชายอายุเพียงแค่สิบเอ็ดพลันต้องเรียนรู้โลกใหม่เพื่อเป็นผู้ล่า ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเพียงเหยื่อที่ไร้ทางสู้

ผู้แต่ง

Vsrin

เรื่องย่อ

 

“พวกมันหิว พวกมันกระหาย ความสิ้นหวังของมนุษย์คืออาหารที่มันปรารถนาเจียนตาย และเมื่อมันเสพสมจนพอใจ... มันก็ทำให้ความฝันอันโหดร้ายหลั่งเลือดออกมาเป็นความจริง” - ทหารโดมิเนี่ยน, กล่าวถึงพาเรลในแดนมืด

 

นิยายแนวผจญภัย - ไซไฟ ผสมแฟนตาซี (และสตีมพังค์)

สารบัญ

Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 1 เด็กใต้ขยะ,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 2 พาเรล,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 3 ศูนย์สอง,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 4 รอยแยกมิติ,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 5 พาเรล เจเนซิส,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 6 โลกใบใหม่... โคลด์ฮาร์เบอร์,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 7 สูญเสีย,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 8 สถานีรีเลย์,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 9 โลกแห่งแอสตรัล,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 10 ป่าเรือนแสง,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 11 ทหารโดมิเนี่ยน,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 12 ถ้ำ ดาบ หยดน้ำ และร่างหิน,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 13 ทักษะจากบทเรียนอันแสนเจ็บ,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 14 บอส,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 15 สัตว์นักล่า (1/2),Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 16 สัตว์นักล่า (2/2),Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 17 ไอร์นา อเมร์ริณ (1/2),Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 18 ไอร์นา อเมร์ริณ (2/2),Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 19 เมืองแห่งไอน้ำ (1/2),Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 20 เมืองแห่งไอน้ำ (2/2),Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 21 แขนและเหล็ก

เนื้อหา

ตอนที่ 17 ไอร์นา อเมร์ริณ (1/2)

ไม่รู้ว่านานแค่ไหน… กับความรู้สึกของร่างกายที่ดำดิ่ง

ในความมืดมิด ภาพนิมิตมากมายปรากฏ 

เขาเห็นประตูไม้ประหลาด ประตูที่อีกฝากนำพาไปยังโลกที่แตกต่าง

บ้างก็เป็นโลกที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง… และบางแห่งก็จมดิ่งอยู่ในความมืดมิด

ในบานประตูหนึ่ง สัญลักษณ์งูกินหางปรากฏที่เหนือประตู มันหมุนเป็นวงกลมช้าๆราวกับเข็มนาฬิกา พลันเมื่อเขาเปิดมันเข้าไปอีกด้าน เสียงนับล้านก็ก้องกังวานพร้อมๆกัน

 

‘อสรพิษชั่วช้า คืบคลานเขมือบเวลา’

‘ตัวคัดลอก ของตัวคัดลอก ของตัวคัดลอก’

‘กระจกแตกสลาย กำแพงพังทลายและความจริงจะปรากฏ’

‘ย้อนคำกล่าวของเราแล้วแกจะพบจุดจบ’

 

ประโยคนั้นราวคำสวด กล่าวซ้ำไปซ้ำมาด้วยเสียงนับล้าน มันถึงกับทำให้บาร์ตันกระซับกระส่าย ทว่าเมื่อถึงจุดที่สติของเขาแทบแตกสลาย ร่างกายของเขาถูกแรงโน้มถ่วงดึงหายไป ก่อนจะปรากฏตัวในมิติประหลาดสีขาว ที่มีภาพสะท้อนราวกับกระจกไร้สิ้นสุด

และที่ตรงนั้น หนึ่งในภาพสะท้อนกลับหัว หญิงสาวผมแดงคนหนึ่งหันมาหา แล้วในช่วงที่พวกเขาสบสายตา ดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง ก่อนจะกล่าวคำหนึ่งออกมาสั้นๆ

“ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่….?”

ภาพทุกอย่างพลันเปลี่ยน มิติกระจกพับตัว ดับวูบ พลันจิตของบาร์ตันก็ถูกบางสิ่งดึงหายไปอีกครั้ง

 

*****

 

“?” ม่านตาขยับขึ้นช้าๆ สัมผัสทางร่างกายค่อยๆหวนคืน สิ่งแรกที่รู้สึกได้คือสัมผัสเย็นสบายของกระแสน้ำ ดวงตาเห็นระอองแสงสีฟ้า และเพดานทรงกลมสีดำขอบทองในห้องมืดสลัว

‘ฉันอยู่ที่ไหน…?’

สติค่อยๆหวนคืน เรี่ยวแรงกลับมาที่ล่ะนิด เด็กหนุ่มเหลือบมองช้าๆ ก่อนจะพบว่าตนเองกำลังลอยตัวอยู่บนผิวน้ำเรือนแสงสีฟ้า

มันคือแอ่งน้ำทรงกลมในอาคารปิด ราวกับสระ เด็กหนุ่มร่างเพรียวต้องพยายามออกแรงพอสมควรกว่าจะพาตัวเองไปถึงขอบสระได้

สายน้ำที่มีระอองแสงแอสตรัลชโลมร่าง บาร์ตันพาตัวเองขึ้นมาช้าๆ ร่างกายสั่นไหว รู้สึกอ่อนแรงเหมือนคนนอนหลับมานาน เขาหยุดอยู่ตรงนั้นครู่ใหญ่ พลันเมื่อกระแสน้ำนิ่งลง เขาก็พลันเห็นภาพสะท้อนของตนที่มีผมยาวถึงเอว

ผมที่เคยเป็นสีดำแซมขาวของเขา

ตอนนี่มันกลายเป็นสีขาวเทาทั้งหมด

เด็กหนุ่มขมวดคิ้วย่น หยุดพักอยู่ตรงขอบแอ่ง ทว่าพอได้สติดีก็ต้องชะงัก เมื่อเด็กหนุ่มค้นพบว่าตัวเองกำลังยันร่างด้วยแขนข้างซ้าย

แขนที่ไม่ควรจะมีอยู่ตรงนั้น

ตั้งแต่หัวไหล่ไปถึงปลายนิ้ว มันคือแขนที่มีผิวสีเทาดำ ทว่าไม่ใช่แขนกลไม้ หรือโลหะ 

บาร์ตันสามารถรู้สึก และสัมผัสได้ถึงทุกอย่างผ่านผิวของแขนข้างนั้น

ไม่ว่าจะเป็นกระแสเย็นของสายน้ำ หรือสัมผัสของพื้นขอบสระที่เขากำลังยันตัวเองอยู่

เขารู้สึกทุกอย่าง ราวกับว่าเป็นแขนของเขาเอง

“?” ชายหนุ่มชะงัก หันข้าง เลิกคิ้วสูง 

ในห้องทรงกลมเพดานสูงที่เขายันตัวอยู่ ใกล้กับประตูทางออกเองปรากฏเสาที่แขวนเสื้อคลุมตัวยาวคล้ายผ้าขนหนู มันมีดาบใหญ่ของเขาที่วางพิงผนังใกล้ๆ กับมีดสั้นที่หายไปเกือบสองปีของเขาเช่นกัน 

และร่างใครบางคนที่นั่งก้มหัวอยู่ตรงเก้าอี้ข้างๆ

“นั้นมัน…” บาร์ตันไม่มีทางลืม ชายคนเดียวกับที่สังหารพาเรลร่างยักษ์ได้ในพริบตา 

หน้ากากไม้สีน้ำตาลนั้น เขาจดจำได้เป็นอย่างดี

เลือดสูบเฉียด เรี้ยวแรงหวนคืน เด็กหนุ่มก้าวฝีเท้าเบาเข้าหาช้าๆ จับดาบขึ้นมาจากตรงกำแพง ก่อนจะไปยืนต่อหน้าอีกฝ่าย

ทว่า… ไร้การตอบสนอง

ไร้การเคลื่อนไหว

ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวเลย ไม่มีแม้แต่การกระเพื่อมหายใจ

“…” บาร์ต้นเลิกคิ้ว เขาเหลือบมองไปที่หน้าตักของอีกฝ่าย มันปรากฏปลอกแขนพีดีเอสีดำของเขาที่หายไป หน้าจอมอนิเตอร์ที่เคยแตกร้าวถูกซ่อมแซมจนเหมือนใหม่

ก้มลงเล็กน้อย ขยับตัวเข้าไปใกล้ เอื้อมมือแตะกับหน้ากาก ก่อนจะเปิดมันออก พลันม่านตาของเด็กหนุ่มก็ต้องเบิกกว้าง

ไม่ใช่มนุษย์

ไม่สิ… พูดให้ถูกคือไม่ใช่สิ่งมีชีวิต

ภายในหน้ากาก สิ่งที่เขาเคยคิดว่าจะเป็นใบหน้าของมนุษย์ แท้จริงแล้วคือกลไกลประหลาด ดวงตาเป็นเลนส์ และที่ใจกลางศีรษะคล้ายสมองนั้นคือคริสตัลทรงกลมสีทอง ภายในปรากฏเส้นแสงสมมาตร ราวกับเป็นซีพียู หรือระบบการทำงานบางอย่างที่เขาไม่รู้จัก

มันไม่ใช่วิทยาการของสหพันธ์โลก

“ที่ผ่านมา… ฉันเข้าใจว่าหมอนี่เป็นมนุษย์มาโดยตลอด…” บาร์ตันครุ่นคิด ปล่อยมือจากหน้ากากนั้น ก่อนจะหยิบผ้าคลุมขนหนูมาคลุมตัวที่เปลือยเปล่าและเปียกปอน เขาก้มลงมองพีดีซีของตนเองเล็กน้อย ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาเปิดดู

แล้วก็ต้องชะงักกับข้อความแรกที่ปรากฏขึ้นมา และระบบได้บันทึกเอาไว้ข้างๆว่าเขียนมานานกว่าสองเดือนที่แล้ว

 

ถึงเธอ… ใครก็ตามที่ฉันทำผิดพลาดเอาไว้เพราะความเห็นแก่ตัว,

ชื่อของฉัน คือไอร์นา อเมร์ริณ สายเลือดรองแห่งตระกูลอเมร์ริณ… แต่นั้นคงไม่สำคัญหรอก สิ่งสำคัญคือฉันเป็นคนที่เฝ้ามองเธอในป่าสีขาวมาตลอดเวลาที่ผ่านมา

เธออาจจะสงสัยว่าฉันเป็นใคร ทว่านั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญนั้นคือเธอคงอยากรู้ว่าฉันทำไปทั้งหมดนี่เพื่ออะไร

และเหตุผลนั้น ก็เป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของฉันเอง

ฉันต้องการให้เธอ… ฆ่าฉัน

 

“?” บาร์ตันขมวดคิ้ว ก่อนจะเหลือบมองร่างจักรกลครู่หนึ่ง ก่อนไม่นานจะตัดสินใจอ่านต่อ

 

ในครั้งสุดท้ายที่ฉันถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา มองผ่านดวงตาของร่างหุ่นจำลอง ฉันพบว่าเธอเกือบต้องตายเพราะสู้กับเดมาห์ หรือสิ่งที่พวกเธอเรียกกันว่าพาเรล

เธอเกือบที่จะกลืนกินพลังของมัน ด้วยความหวังที่รอดชีวิตต่อไป ทว่าโชคดีมากที่เธอหมดสติก่อนที่เรื่องนั้นจะเกิดขึ้น

อย่าได้กลืนกินแสงของพาเรลเป็นอันขาด แสงนั้น สิ่งที่เธอเรียกว่าแอสตรัล ถูกบิดเบือนในร่างของพวกมัน และหากเธออยากรู้ว่าชะตากรรมของผู้ที่กลืนกินแสงนั้นเป็นเช่นนั้น… จงเดินมาพบกับฉันที่ห้องถัดไป

 

“….” บาร์ตันขมวดคิ้วเล็กน้อย ทว่าก่อนจะที่ได้อ่านอะไรต่อ ความสงสัยก็พลันพาเขาเดินเข้าประตูโค้งทรงสูงด้านข้าง ผ่านโถงทางเดินยาว มันประดับไปด้วยสถาปัตยกรรมสวยงามแปลกตา ดูโบราณทว่าก็มีดีไซน์ล้ำสมัยไปในตัว

และที่ตรงนั้น ในห้องสีดำทรงกลมแห่งหนึ่ง แคปซูลสีขาวประดับทองถูกล็อคเอาไว้ ลอยอยู่กลางห้อง ตรงกลางเองปรากฏกระจกทรงกลมขอบทอง เผยให้เห็นใบหน้าของใครบางคนที่นอนอยู่ในนั้น

แท้จริงแล้วคนที่ลักพาตัวเขาไม่ใช่บุรุษ แต่เป็นสตรี เธอถูกสายระโยงรยางค์ทิ่มแทงทั่วร่างภายในแคปซูลจำศีล ผมสีมรกตปลิวไสว ทว่าร่างกายส่วนอื่นๆนอกจากศีรษะนั้นกลายพันธ์ุ แปรสภาพ มีเกล็ดหนาและอุ้งมือเป็นเล็บยาว 

ราวกับพาเรลไม่มีผิด

บาร์ตันเบิกตากว้าง เขามองอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะก้มลงอ่านต่อทันที

 

พวกเราคือผู้ท่องกระแสเวลา เดินทางระหว่างดวงดาวสู่ดวงดาว

พวกเราเคยปกครองดินแดนที่ไกลโพ้นสุดแสงดาว ไม่มีแห่งหนใดที่ไม่เคยเหยียบย้ำ

ทว่าทุกจุดสูงสุดของทุกอารยธรรมนำมาซึ่งจุดสิ้นสุด เมื่อถึงจุดหนึ่ง เหล่าเดมาห์รุกรานพวกเราจากทุกหนแห่ง จากอีกฝากของกำแพงที่เรามองไม่เห็น 

พวกเราถูกบีบให้ต้องยืนหยัดในขอบเหวของการสิ้นเผ่าพันธุ์ และเหล่าผู้รอดชีวิตต้องบังคับตัวเองให้หลับไหลชั่วนิรันดร์ เพื่อซ่อนจิตตัวตนเองจากพวกเดมาห์ที่ทรงพลัง

และหลังจากผ่านไปหลายล้านปี ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้งหลังดาวดวงนี่กลับมาอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิต 

ทว่าฉันพลาด… 

ฉันไม่คิดว่าเดมาห์จะยังคงมีตัวตนอยู่ มันหาฉันเจอจากอีกฝากทันทีที่ฉันตื่นขึ้นมา คลื่นจิตของพวกเรา ‘เทวาริณ’ เป็นอาหารอันโอชะของพวกมันมาโดยตลอด นั้นคือเหตุผลที่พวกมันออกล่าเพียงแค่พวกเราเท่านั้น 

และมัน… ทำให้ฉันต้องติดเชื้อบางอย่างที่ไม่อาจรักษาได้

ทีล่ะนิด กลืนกินจากภายนอกสู่ภายใน ร่างกายของฉันหลุดจากการควบคุมของตนเองไปทุกวัน สุดท้ายฉันก็ทำได้เพียงแค่หยุดชะงักร่างของตนเองเอาไว้ ก่อนจะควบคุมทางไกลผ่านหุ่นจักรกล ออกตะเวนไปทั่วเขตแดนเก็บเกี่ยวข้อมูลทางชีวภาพเพื่อหาทางรักษา ทว่าระยะควบคุมนั้นสั้นเกินไป จนฉันไม่อาจออกไปไกลมากกว่าป่านี่ได้

และสุดท้ายฉันไม่อาจหาทางรักษาพบ… เธอเองก็คงจะคาดเดาเรื่องนั้นได้แล้ว

หนทางสุดท้ายเท่านั้นที่ฉันเหลือ คือความตายก่อนจะถูกกลืนกินอย่างสมบูรณ์

ทว่า… ฉันทำด้วยตัวเองไม่ได้ ร่างจำลองที่ฉันใช้นั้น ดัดแปลงมาจากหุ่นปัญญาประดิษฐ์ เป็นหุ่นรับใช้ มันมีกฏเกณฑ์ของมันเพื่อรักษาความปลอดภัย แต่บัดนี้กลับกลายเป็นดาบสองคม ฉันไม่สามารถใช้ร่างนั้นเข้ามาในห้องหรือฆ่าตัวเองได้ และไม่มีทางควบคุมร่างกายตัวเองได้อีกหากฉันออกจากการจำศีล

ฉันหมดความหวัง ได้แต่รอความตายอย่างช้าๆระหว่างที่มันพยายามควบคุมสมองของฉัน

จนกระทั่งฉันมาพบกับเธอ… ลูกหลานแห่งเทวาริณ

 

“ลูกหลาน?” บาร์ตันถึงกับขมวดคิ้ว ก่อนจะนึกถึงบันทึกของ ดร. โดมินิคขึ้นมา

หรือจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกัน…

 

เธอคงสงสัย เหตุใดกันเผ่าพันธุ์ที่วิวัฒนาการในดินแดนที่ต่างกัน ถึงได้มีลักษณะทางกายภาพเหมือนกันขนาดนี้?

จำได้ไหม… ที่ฉันเคยบอกว่าพวกเราเทวาริณ เคยปกครองดินแดนที่กว้างไกลสุดแสงดาว?

ใช่แล้ว… ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ฉันเชื่อว่าพวกเธอคือลูกหลานของพวกเราที่รอดชีวิตไปได้ แม้จะแตกต่างไปบ้าง ทว่าพันธุกรรมในตัวเธอและคนอื่นๆในโลกนี่คือสิ่งยืนยัน

แต่เธอ… แตกต่างกว่าคนอื่น

ไม่ว่าเพราะวิวัฒนาการ หรือการปรับแต่งพันธุกรรม ฉันพบว่าใครก็ตามที่อยู่เบื่องหลังเธอนั้นประสบความสำเร็จในการทำสิ่งที่พวกเราไม่เคยทำได้มาก่อน

และนั้นคือเธอ… มี ภูมิคุ้มกันต่อพวกพาเรล ทั้งทางกายภาพ และโดยเฉพาะทางจิต

และมันมีบางสิ่ง… อำนาจบางอย่างที่อยู่ในตัวเธอ คล้ายคลึงกับพวกเราบางคนในอดีตกาล ฉันอยากที่จะกล่าวถึงอำนาจนั้น ทว่ามันคงจะดีกว่าหากเธอได้เรียนรู้มันด้วยตัวเอง 

ยังไงก็ตาม เธอคือความหวังเดียวของฉัน ความหวังที่จะยุติความทรมาณที่กำลังกัดกินฉันทุกวินาที

และด้วยความเห็นแก่ตัว ฉันใช้เธอ โยนเธอลงไปสถานที่ฝึกจำลอง 

ในอดีตกาล วัฒนธรรมของเรานั้นต้องฝึกฝนวิถีนักรบเพื่อป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามอยู่เสมอ และเขาวงกตนั้นคือแบบจำลองลานฝึกในอดีตที่ฉันสร้างขึ้นมา 

เดิมทีในอดีต นักรบฝึกหัดต้องก้าวลงไปในนั้นพร้อมกับผู้ชี้นำ แต่ฉันก็ยังส่งเธอลงไปคนเดียวแม้จะรู้แบบนั้น ด้วยความประสงค์เห็นแก่ตัวที่ต้องการให้เธอพร้อมที่จะสู้กับร่างที่ไม่อาจควบคุมได้ของฉัน

ฉันใส่ทุกอย่างไปในหุ่นพวกนั้น ทักษะการต่อสู้ทุกอย่างที่ฉันมี ฉันคิดเอาไว้ว่าหากเธอเอาชนะพวกมันได้ เธอก็สามารถเอาชนะฉันในสภาวะที่ไร้สตินึกคิดได้เช่นกัน

ทว่า… แม้จะหลับใหล เพื่อชะลอการกระจายเชื้อร้ายที่พยายามกัดกินสมอง ฉันก็ยังเฝ้ามองเธออยู่ตลอดผ่านดวงตาของหินจำลองพวกนั้น

ความต้องการที่จะมีชีวิตรอด จิตวิญญาณที่ไม่ท้อถอย และแรงใจของเธอที่พยายามฝืนลุกขึ้นมาแม้จะสลบเกือบตายไปหลายครั้ง

ฉันที่เฝ้ามองหุ่นพวกนั้นแบกเธอกลับไปจุดเริ่มต้นทุกครั้ง ก็ยังแอบฉงนใจไม่ได้

ดวงตาที่เหมือนปลงกับชีวิต ทว่าลึกๆเต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่ไม่คิดจะยอมแพ้

จิตวิญญาณของผู้มีชีวิตรอด

ดวงตานั้นของเธอทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด

ฉันขอโทษ แม้จะรู้ดีก็ตามว่ามันอาจเป็นคำพูดที่ไร้ประโยชน์ แต่… ฉันขอโทษ

ฉันปรับปรุงอุปกรณ์ของเธอใหม่ บัดนี่ไม่ควรมีอะไรแทรกแซงระบบของมันได้อีก และมันยังเชื่อมต่อกับอาคารแห่งนี่ เข้าถึงได้ทุกอย่าง เธอสามารถใช้มันได้ตามประสงค์ 

แม้จะเป็นเพียงสุสานที่ไร้สิ่งใด แต่ฉันหวังว่ามันจะมีประโยชน์กับเธอในอนาคต

ประตูทางออกอยู่ทางตะวันตก เธอสามารถออกไปจากที่นี่ได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องทำตามความประสงค์เห็นแก่ตัวของฉันอีกต่อไป

แขนของเธอเอง ฉันใช้ทรัพยากรทางการแพทย์ทั้งหมดสร้างมันขึ้นมาใหม่ มันคือเนื้อเยื้อจริงๆที่เชื่อมต่อกับกระแสเลือดและเส้นประสาท และจะเติบโตไปพร้อมกับเธอ เป็นส่วนหนึ่งของเธอ เป็นแขนข้างนั้นจริงๆของเธอ

แต่ถึงเช่นนั้น เธอคงสังเกตแล้วว่ามันไม่เหมือนแขนปกติ 

แต่ก็นะ สิ่งที่สูญเสียไปแล้ว ไม่อาจหวนคืนกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป… ฉันเดาว่าเธอเองก็คงรู้ดี

แขนนั้นคือของขวัญสุดท้ายจากฉัน อย่าเสียมันไปอีกครั่งล่ะ

และไม่ว่าเธอจะเลือกทางไหน ไม่ว่าเธอจะทำอะไรต่อจากนี้ก็ตาม

ฉันขออวยพรให้เธอโชคดี