เวลานับถอยหลัง ศัตรูเก่าหวนคืน อสูรหกตาไล่ล่าข้ามโลกที่ไม่ปรากฏ เด็กชายอายุเพียงแค่สิบเอ็ดพลันต้องเรียนรู้โลกใหม่เพื่อเป็นผู้ล่า ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเพียงเหยื่อที่ไร้ทางสู้
แฟนตาซี,ไซไฟ,พารานอมอล,ผจญภัย,แฟนตาซี,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]เวลานับถอยหลัง ศัตรูเก่าหวนคืน อสูรหกตาไล่ล่าข้ามโลกที่ไม่ปรากฏ เด็กชายอายุเพียงแค่สิบเอ็ดพลันต้องเรียนรู้โลกใหม่เพื่อเป็นผู้ล่า ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเพียงเหยื่อที่ไร้ทางสู้
“พวกมันหิว พวกมันกระหาย ความสิ้นหวังของมนุษย์คืออาหารที่มันปรารถนาเจียนตาย และเมื่อมันเสพสมจนพอใจ... มันก็ทำให้ความฝันอันโหดร้ายหลั่งเลือดออกมาเป็นความจริง” - ทหารโดมิเนี่ยน, กล่าวถึงพาเรลในแดนมืด
นิยายแนวผจญภัย - ไซไฟ ผสมแฟนตาซี (และสตีมพังค์)
ควันหนาหายไปจนหมด เหลือเพียงหมอกบางๆที่ยังลอยอ้อยอิ่งอยู่ในโถงถ้ำ พาเรลส่งเสียง ‘กรรร’ ในลำคอ หันมามองบาร์ตันด้วยดวงตาข้างเดียว ในระหว่างที่เด็กหนุ่มนั้นก็ย่อตัวต่ำ จ้องเจ้ายักษ์นั้นตาเขม็งราวกับสัตว์นักล่า
พาเรลไม่เข้ามาโจมตีสุ่มสี่สุ่มห้าอีก บัดนี้มันได้เรียนรู้แล้วว่าเจ้ามนุษย์ตัวเล็กตรงหน้านั้นไม่ได้กระจอกอย่างที่มันคิด แต่เป็นผู้ล่าเช่นเดียวกับมัน
นักล่าที่จะปลิดชีวิตมันได้ทันทีหากมันพลาด
มันไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างนักล่ากับเหยื่ออีกต่อไป
แต่มันคือการประจัญหน้าระหว่างนักล่าด้วยกันเอง
ดาบใหญ่พาดหลังในท่าเตรียมพร้อมฟัน บาร์ตันย่อตัวต่ำย่องไปกับพื้นราวกับสัตว์ป่ารอตะครุบเหยื่อ ในระหว่างที่พาเรลเองก็ทำท่าเดียวกัน มันย่อตัวต่ำแทบเลียบพื้น ปกปิดร่างกายช่วงล่างที่เป็นจุดอ่อน ก่อนทั้งสองจะเดินวนช้าๆเป็นวงกลม จับจ้องกันและกันไม่วางตา
ไม่มีแผนการใดๆ
ไม่มีกลยุทธฺิ์อีกต่อไป
หลังจากนี่เป็นต้นไป คือการปะทะกันด้วยความเร็วและไหวพริบ
และในชั่วพริบตานั้นเอง พาเรลถีบตัวพุ่งทะยานพร้อมอ้าปากกว้าง พื้นหินด้านหลังระเบิดเป็นฝุ่นควัน บาร์ตันเองแยกเคี้ยวคำรามลั่น เรียกพลังพร้อมเหยียดขาส่งร่างตัวเองพุ่งทะยานด้วยความเร็วทั้งหมดที่มี
กระชั้นชิด เพียงแค่เสี้ยววินาที ก่อนการปะทะ เด็กหนุ่มถีบขาออก บิดตัว วาดดาบกางออกไปด้านข้าง โมเมนตัมของดาบหนักและเวกเตอร์ที่เปลี่ยนทิศทางก็ส่งตัวเขาเฉียงหลบเคี้ยวของพาเรลได้ในชั่วพริบตา พลันเมื่อดวงตาของเด็กหนุ่มเห็นช่องว่างเป็นคอขาวเกล็ดอ่อน เขาก็บิดตัวกลับ นำวิถีดาบโค้งกลับมา ก่อนจะถ่ายแรงเหวี่ยงดาบหนักฟันคอของพาเรลด้วยทุกสิ่งที่ตัวเองมี
ฉัวะ---!!!!!!!!!!
ดาบสะบั้นผ่านเกล็ดอ่อน เลือดสีน้ำเงินไหลทะลักราวกับน้ำหลาก มันราวกับว่าชัยชนะได้ถูกตัดสิน
แต่ทว่า…
ฉันพลาด!
บาร์ตันหน้าซีดเผือก
ในจังหวะที่ดาบหนักฟันเข้าไปในลำคอ ในจังหวะที่บาร์ตันคิดว่าตนสามารถสะบั้นหลอดลมให้สัตว์ร้ายกระอีกเลือดตายได้ เด็กหนุ่มก็พลันค้นพบบางสิ่งหลังออกดาบไปแล้ว
ว่าตนเองถูกหลอก!
เหมือนกับสัตว์นักล่าทุดชนิด ลำคอนั้นคือจุดอ่อน เหล่าสัตว์ร้ายนั้นมักจะเล็งไปที่ลำคอเสมอเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรู
พาเรลเอง หลังประเมินบาร์ตันใหม่ว่าเด็กหนุ่มไม่ใช่แค่มนุษย์ก็กระจอก ไม่ใช่แกะ แต่คือหมาป่า เป็นนักล่าเช่นมัน ความคิดของมันก็ไม่ใช่การจู่โจมแบบสุ่มสี่สุ่มห้าอีกต่อไป ทว่าจงใจโชว์จุดอ่อนเพื่อหลอกล่อให้เด็กหนุ่มโจมตี
มันรู้อยู่แล้วว่าบาร์ตันจะลงมือ รู้อยู่แล้วอีกฝ่ายจะอดใจไม่ได้ แล้วทันทีที่เด็กหนุ่มเบี่ยงตัวหลบผ่านดวงตาข้างขวาที่มืดบอดของมันไป เจ้าร่างยักษ์ก็ขยับคอหลบราวกับเตรียมตัวไว้แล้ว ดาบใหญ่นั้นก็พลาดจุดตายไปได้อย่างฉิวเฉียด
และในจังหวะที่บาร์ตันส่งโมเมนตัมทั้งหมดที่มีในการโจมตีสุดท้าย เด็กหนุ่มก็เปิดช่องว่างที่ไม่อาจหลบหนีได้ ขาจากด้านหลังของพาเรลที่เตรียมเอาไว้แล้วก็ตะปบกราดใส่ร่างของเด็กหนุ่มโดยไม่ต้องมอง
บาร์ตันหน้าซีด ยอมปล่อยดาบใหญ่ทิ้งแทบจะในทันที ก่อนจะดึงแขนกลับมาบังจุดสำคัญของร่างกาย เป็นจังหวะเดียวกับที่อุ้งเท้าด้านหลังนั้นตวัดเข้าใส่เต็มแรง
“อั๊ก---!”
ร่างของเด็กหนุ่มสะบัด กระเด็นไปในอากาศ แขนกลไม้ข้างซ้ายนั้นแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย รอยอุ้งเล็บเองฝากบาดแผลเอาไว้กับเด็กหนุ่มเป็นทางยาว
ร่างสะบัด ร่วงหล่น กลิ้งกระเด็นไปกับพื้นหลายตลบ ก่อนจะหยุดลงเมื่อกระแทกกับกำแพง
บาร์ตันกระอักเลือดออกมาคำโต สติแทบดับวูบ ทว่าด้วยความทรหด จากการต้องถูกน็อคจนสลบมานับร้อยครั้ง ก็ช่วยให้เขาฝืนมีสติเอาไว้ได้
“ค่อก-!”
ร่างของบาร์ตันท่วมไปด้วยเลือดสีแดงฉ่าน เด็กหนุ่มพยายามฝืนลุกขึ้นมา ทว่าก็ไม่อาจรู้สึกได้ถึงขาข้างซ้าย เขาพลันเหลือบมองไปดูด้วยดวงตาพร่ามัว ก่อนจะพบว่าขาข้างนั้นของตนบิดงอผิดรูป แถมยังมีโลหิตไหลออกมาไม่หยุด
‘ไม่…’
‘ไม่นะ…’
‘ต้องไม่จบลง… แบบนี่’
มือสั่นไหว ความเย็นเยียบเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่าง บาร์ตันใช้แขนอีกข้างทียังเหลือประคองตัวเองขึ้นมาอย่างสั่นไหว ก่อนจะเงยมองไปทางศัตรู พบว่าพาเรลกำลังเดินกระตุก ขาหน้ากุมคอที่เลือดไหลออกมาเป็นสาย ทว่าก็ยังไม่ตาย มันหันมองหาเขาไปรอบกาย
บาร์ตันปากสั่น เลือกไหลชโลมไปทั่วตัว เขารู้สึกได้เลยว่าร่างกายแทบไม่ตอบสนองต่อคำสั่งแล้ว แค่จะลุกขึ้นมาก็แทบจะไม่มีแรง
‘ต้องจบลงแค่นี่เหรอ…’
‘เพราะโดนตะปบครั้งเดียวเนี่ยนะ?’
เด็กหนุ่มกัดฟันกรอด ดวงตาเริ่มพร่ามัวจนแทบไม่มีสติใดๆ เสียงในหัวร้องลั่นเตือนภัย พลันภาพความทรงจำตลอดชีวิตก็พลั่งพรูออกมาเป็นฉากๆ
ทั้งหมดนี่… เพื่ออะไรกัน?
ดิ้นรนตั้งแดนใต้ขยะ ความอุตสาหะที่จะเลี้ยงชีพตนเองด้วยอาหารเพียงน้อยนิด แม้กระทั้งความสิ้นหวังเมื่อต้องมองเพื่อนของตนเองตายไปต่อหน้าต่อตา
“…” บาร์ตันกัดฟันกรอดจนเลือดไหลซิบ
‘ไม่!’
ความรู้สึกที่พยายามกลบทิ้งไปโพยพุ่ง พาเรลที่สัมผัสได้พลันหูผึง
‘ฉันจะไม่!’
ความหวังจุดประกาย พร้อมแรงใจที่ลุกโชน
‘ไม่หยุดแค่ตรงนี่เด็ดขาด!’
อารมณ์มากมายที่พลั่งพรูในอกเอ่อล้น ลุกโชน ก่อนจะหลอมละลาย หล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกัน กลายเป็นเพียงประสงค์หนึ่งเดียวของเขาเท่านั้น
และนั้นคือความปรารถนาที่จะมีชีวิตรอด
แอสตรัลส่องประกาย ระอองแสงสีฟ้าขอบม่วงลู่ไหวไปทั่วทั่วร่าง ดวงตาของเด็กหนุ่มเองส่องแสง เป็นจังหวะเดียวกับที่พาเรลหันขวับกลับมา สัมผัสจิตของบาร์ตันบัดนี้ลุกโชนจนยากที่จะมองข้าม
จากเด็กหนุ่มที่ไม่อาจจับสัมผัสได้ราวกับภูตผี บัดนี้พาเรลเห็นเขาราวกับเปลวเพลิงที่โชติช่วง
ร่างใหญ่ยักษ์ที่เห็นเด็กหนุ่มนั้นก็พลันพุ่งทะยาน อ้าปากกว้างเข้าหาโดยไม่รีรอ
ประกายแสงแอสตรัลส่องสว่าง บาร์ตันใช้แขนขวายันพื้น เฝ้ารอจังหวะ ก่อนใช้ขาที่ยังขยับได้ถีบตัวขึ้นสูง แรงส่งนั้นทรงพลังยิ่งกว่าตอนที่ร่างกายยังไม่บาดเจ็บ ดวงตาของบาร์ตันเองมองเห็นกระแสพลังงานภายในตัวพาเรลในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เขี้ยวแหลมพุ่งเข้าใกล้ ทว่าร่างของเด็กหนุ่มถีบตัวสูงพุ่งเฉียดเลยปากไปได้ เขาเอื้อมมือไปเบื่องหน้า ฝ่ามือแตะที่จมูกพาเรล ก่อนจะดันตัวตีลังกากลางอากาศ แรงส่งจากแขนข้างเดียวนั้นทรงพลังจนเขาเองยังแปลกใจ
ทว่านั้นไม่ใช่เวลาสำหรับเรื่องนั้น
บาร์ตันพลิกตัวกลับมาด้านหน้า เป็นจังหวะเดียวที่หน้าของพาเรลร่างใหญ่นั้นก็ชนเข้ากับกำแพงอย่างจัง มันชะงัก เด็กหนุ่มพลันถือโอกาส ชักดาบเล่มเบาออกมาจากข้างเอว ก่อนจะทิ้งน้ำหนักทั้งตัวแทงไปที่เหนือดวงตาข้างสุดท้ายของพาเรลทันที
ร่างยักษ์กระตุก คำรามลั่น ทว่าบาร์ตันที่กำลังเลือดสูบฉีดนั้นร้องคำรามเสียงดังยิ่งกว่า อารมณ์มากมายที่กลบฝังลึกในใจมานานนั้นระเบิดออกมา แสงพลังงงานแอสตรัลในธรรมชาติก็ตอบรับคำร้องหา
มันระเบิด โชติช่วง เปลวเพลิงแอสตรัลสีไพลินขอบอเมทิสต์จุดประกายจากปลายดาบ โลหะที่เคยเย็นเยียบนั้นทะยานผ่านดวงตาไปถึงสมอง มันลุกโชนเผาพลาญทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางจนกลายเป็นจุล
พาเรลสะบัดหัวไปมา บาร์ตันเกาะตัวเอาไว้ แสงเพลิงแอสตรัลและปะจุไฟฟ้าส่องสว่างย่อมโถงถ้ำ ทว่าบาร์ตันก็ยังคำรามลั่น ส่งทั้งแรงกายและความรู้สึกทุกอย่างลงไปในปลาบดาบเล่มนั้น เจตจำนงที่ต้องการมีชีวิตรอดลุกโชน เพลิงแสงแอสตรัลนั้นโชติช่วงออกมาจากร่างพาเรลจนสายลมโหมกระหน่ำ หมอกควันกระจัดกระจายไปรอบทิศทาง และไม่นานร่างของพาเรลก็เกิดการระเบิดจากภายใน
ตู้ม!!!!!!!!
แสงแอสตรัลสว่างวาบ โถงถ้ำที่เย็นเยียบร้อนระอุ เศษเนื้อและเลือดสีน้ำเงินกระจายไปรอบทิศทาง บาร์ตันเองกระเด็นไปในอากาศก่อนจะร่วงลงไปกลิ้งกับพื้นหลายตลบ
ตุบ!
ศีรษะยักษ์ครึ่งเดียวของพาเรลนั้นร่วงหล่นลงมาไม่ไกล ดวงตาที่มืดบอดทั้งหกดวงนั้นจับจ้องมาทางบาร์ตันอย่างพอดิบพอดี ทว่าไร้แสงแห่งชีวิต
มันเผาพลาญจนไม่เหลือสิ่งใด
เด็กหนุ่มเองกระอักเลือด รู้สึกหนาวสั่นแม้อากาศจะร้อนระอุ ดาบในมือนั้นหลอมละลายเหลือเพียงแค่ด้ามดาบ ทว่านั้นก็ไม่ใช่ปัญหาหลักที่เขากำลังกังวล
‘ไม่ไหวแล้ว’
รู้ได้ทันทีว่าประตูความตายกำลังเปิดอยู่ตรงหน้า มือขวาที่อ่อนแรงปล่อยด้ามดาบที่หมดหน้าที่ออกจากมือ เขาพลันจับจ้องไปทางหัวของสัตว์ร้าย ดวงตาที่ยังส่องประกายของเขาก็พลันได้เห็นบางสิ่ง
ไอพลังงานแอสตรัลสีน้ำเงินเป็นประกาย ล่องลอยออกมาจากซากของพาเรล เด็กหนุ่มพลันนึกขึ้นได้ว่าเจ้าตัวตนเหล่านี่มีต้นกำเนิดมาจากอีกมิติ และพลังงานปริศนานั้นก็ไหลเวียนอยู่ในร่างกายที่แข็งแกร่งของพวกมัน
‘บางที… ถ้าหากใช้แขนขวากลืนกินแอสตรัลล่ะก็…’
‘ฉันอาจจะ…’
บาร์ตันพยายามคลาน เอื้อมมือขวาไปทางไอพลังงานที่กำลอยหายไปทุกๆวินาที เสียงภูตผีที่ร้องเตือนดังขึ้นมาในหัวทุกขณะ ทว่าก่อนที่จะคลานไปถึงร่างนั้นได้ บาร์ตันก็ไม่อาจทนพิษบาดแผลไหวอีกต่อไป
ร่างกายของเด็กหนุ่มพลันทรุด น็อค หยุดนิ่งไป ก่อนสติจะมืดบอดไปทั้งเช่นนั้นด้วยม่านตาที่ยังเปิดกว้าง…