เวลานับถอยหลัง ศัตรูเก่าหวนคืน อสูรหกตาไล่ล่าข้ามโลกที่ไม่ปรากฏ เด็กชายอายุเพียงแค่สิบเอ็ดพลันต้องเรียนรู้โลกใหม่เพื่อเป็นผู้ล่า ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเพียงเหยื่อที่ไร้ทางสู้

Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk] - ตอนที่ 13 ทักษะจากบทเรียนอันแสนเจ็บ โดย Vsrin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ไซไฟ,พารานอมอล,ผจญภัย,แฟนตาซี,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ไซไฟ,พารานอมอล,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk] โดย Vsrin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เวลานับถอยหลัง ศัตรูเก่าหวนคืน อสูรหกตาไล่ล่าข้ามโลกที่ไม่ปรากฏ เด็กชายอายุเพียงแค่สิบเอ็ดพลันต้องเรียนรู้โลกใหม่เพื่อเป็นผู้ล่า ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเพียงเหยื่อที่ไร้ทางสู้

ผู้แต่ง

Vsrin

เรื่องย่อ

 

“พวกมันหิว พวกมันกระหาย ความสิ้นหวังของมนุษย์คืออาหารที่มันปรารถนาเจียนตาย และเมื่อมันเสพสมจนพอใจ... มันก็ทำให้ความฝันอันโหดร้ายหลั่งเลือดออกมาเป็นความจริง” - ทหารโดมิเนี่ยน, กล่าวถึงพาเรลในแดนมืด

 

นิยายแนวผจญภัย - ไซไฟ ผสมแฟนตาซี (และสตีมพังค์)

สารบัญ

Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 1 เด็กใต้ขยะ,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 2 พาเรล,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 3 ศูนย์สอง,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 4 รอยแยกมิติ,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 5 พาเรล เจเนซิส,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 6 โลกใบใหม่... โคลด์ฮาร์เบอร์,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 7 สูญเสีย,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 8 สถานีรีเลย์,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 9 โลกแห่งแอสตรัล,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 10 ป่าเรือนแสง,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 11 ทหารโดมิเนี่ยน,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 12 ถ้ำ ดาบ หยดน้ำ และร่างหิน,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 13 ทักษะจากบทเรียนอันแสนเจ็บ,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 14 บอส,Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 15 สัตว์นักล่า (1/2),Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 16 สัตว์นักล่า (2/2),Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 17 ไอร์นา อเมร์ริณ (1/2),Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 18 ไอร์นา อเมร์ริณ (2/2),Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 19 เมืองแห่งไอน้ำ (1/2),Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 20 เมืองแห่งไอน้ำ (2/2),Astral Break มิติมนตรา ราชาสีดำ [Steampunk / Magicpunk]-ตอนที่ 21 แขนและเหล็ก

เนื้อหา

ตอนที่ 13 ทักษะจากบทเรียนอันแสนเจ็บ

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา…

“ฮึก…!” ร่างเล็กค่อยๆปรือตา ลุกขึ้นมาอีกครั้งในจุดเริ่มต้น “ฉัน… พลาดตรงไหน?”

เด็กชายไม่เข้าใจ เขาคิดว่าตนเองคำนวณและคาดเดาการเคลื่อนไหวของเจ้าหุ่นนั้นได้ทุกความเป็นไปได้ ทว่าพอถึงช่วงเวลาสำคัญ เจ้าหุ่นนั้นก็กลับทำสิ่งที่ไม่คาดคิด

ไม่มีท่วงท่า

ไม่มีลวดลาย… พูดให้ถูกคือไม่มีชั้นเชิงอะไรเลยทั้งนั้น

เจ้าหุ่นนั้นเพียงแค่ล็อคดาบ แล้วก็เอาหัวเขกหน้าผากเขาทื่อๆเท่านั้นเอง

ทำเอาเขามึน ก่อนจะถูกดาบฟาดใส่อีกครั้งแล้วสลบไปทันที

“อ้าา..” ร่างเล็กลูบหน้าผากตัวเองปอยๆ มึนจนคิดอะไรไม่ออก “…หรือว่าฉัน คิดมากเกินไป?”

บาร์ตันครุ่นคิด หลับตา เพ่งสติ ก่อนจะนึกความหลังในอดีต บทสนทนาที่เคยลืมไปแล้วหวนกลับมาอีกครั้ง

‘ทั้งที่ผู้ใหญ่พวกนั้นโตกว่านายแท้ๆ แต่นายเอาชนะได้ยังไง? กฤษณะ… นายมีทริคอะไรรึเปล่า?’

‘ทริคเหรอ? ฮ่าๆๆ! ของแบบแบบนั้นฉันจะไปมีได้ยังไง’

‘หะ? แล้วนายเอาชนะได้ยังไง?’

‘ฉันก็แค่ไม่คิดอะไร’ อีกฝ่ายยักไหล่

‘ไม่คิดอะไร?’ บาร์ตันสับสน ‘ถ้าไม่คิดล่วงหน้า แล้วนายจะเอาชนะได้ยังไง?’

‘เวลาสู้ ความคิดมันต้องมาก่อนหน้า บาร์ต ไม่ใช่ระหว่างสู้’  อีกฝ่ายยักไหล่ ‘เมื่อเวลาจริงมาถึง ถ้าฉันมัวแต่คิด ฉันก็ตาย เวลาเสี้ยววินาทีที่มีดนั้นอาจกระสวกไส้นาย นายไม่เสียเวลามานั่งคิดคำนวณหรอกว่ามีดบ้านั้นจะแทงมาในองศาไหน แต่ทำทุกอย่างที่นายทำได้เพื่อเอาชีวิตรอดต่างหาก เขาเรียกว่าอะไรนะ? การตัดสินใจขณะนั้น? อะไรทำนองนั้นแหละ!’

ว่าแล้วอีกฝ่ายก็เกาหัวเก๋อๆ

‘จะว่าไปแล้ว ฉันไม่ได้เก่งอะไร ทุกวันนี่ฉันยังชกไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ… แต่พอถึงเวลาที่ต้องสู้ ถ้านายไม่กลัว นายจะรู้สึกเหมือนว่าโลกทั้งใบมันหายไป เหลือแค่นายกับศัตรู แล้วในจังหวะนั้น สัญชาติญาณนายจะบอกทุกอย่างเลยว่าต้องทำยังไงเพื่อจะชนะ… มันก็แค่นั้น!’

ว่าแล้วกฤษณะก็ยักไหล่

‘แต่เฮ้! ฉันคิดว่ามันได้ผลกับแค่คนตัวเปล่าๆด้วยกันนะ! ถ้ามีทหารถือปืนมาล่ะก็ ฉันคงสู้ไม่ไหว! ฮ่าๆๆ!’

“อืม…” บาร์ตันหลุดยิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกถึงความหลัง ก่อนจะสะบัดหัวเลิกใส่ใจ เขาลุกขึ้นจากพื้น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะมุ่งหน้าต่อไปทันทีโดยไม่หยุดครุ่นคิดเช่นทุกครั้ง

เขาคิดมามากพอแล้ว คำนวณศัตรูมาทุกเส้นทาง ฝึกตามมาทุกท่วงท่าที่จำได้ 

ทุกอย่างมันอยู่ในหัวของเขา การเคลื่อนไหวเองก็ถูกฝังอยู่ในร่างกาย

เขาแค่ต้องปล่อยให้มันลื่นไหลไปเมื่อเวลามาถึง

กึก!

บาร์ตันหยุดฝีเท้า หุ่นหินที่หันหลังเช่นทุกทีเองหันกลับมา มันขยับดาบประชิดตัว ปลายแหลมชี้ไปด้านหน้า ก่อนจะพุ่งมาทางบาร์ตันโดยไม่ลังเล

เด็กชายสูดลมหายใจ ทีแรกเขาคิดจะขยับร่างกายเป็นท่วงท่าป้องกัน ทว่าครั้งนี้เขาตัดสินใจลืมทุกอย่าง ละลายทุกสิ่งที่เรียนรู้และเตรียมพร้อมมา 

และหลอมมันเป็นความรู้สึกหนึ่งเดียวที่ลุกโชนอยู่ข้างใน

เท้าขยับ ร่างเล็กหลบดาบโค้งที่วาดฟันเข้ามา บาร์ตันจับดาบเฉียงลงไปด้านหลัง แล้วทันทีที่เขาย่อตัวหลบการโจมตีครั้งที่สอง เด็กชายก็ก้าวเท้าบิดเอวถ่ายน้ำหนักตัว เสยดาบโค้งใส่หน้าอีกฝ่าย

หุ่นสูงถูกบีบให้ต้องถอยร่น ปลายดาบคมของบาร์ตันนั้นเฉียดกลางหน้าอีกฝ่าย ในจังหวะเดียวกันเองร่างเล็กก็กระโดดพุ่งตาม ยกดาบขึ้นสูง จับด้วยสองมือ และฟันลงมาเป็นเป็นท่วงท่าง่ายๆ

หุ่นนั้นอยู่ระหว่างการถอย โมเมนตัมที่ส่งไปด้านหลังนั้นมากเกินไปจนไม่อาจหลบได้เป็นครั้งที่สอง

ร่างหินจำใจต้องยกดาบขึ้นป้องกัน ทว่าบาร์ตันที่จ้องเขม็งตาไม่กะพริบตานั้นหาได้แปลกใจ เด็กชายหมุนปลายเท้าเปลี่ยนการเคลื่อนไหว ควบคุมโมเมนตัมของแรงส่ง วิถีดาบแปรเปลี่ยน โค้งกลับแล้วเสยฟัน แหวกทะลวงแนวป้องกันลึกไปถึงหัวไหล่ ก่อนที่ดาบหนักเจ็ดกิโลกรัมจะสะบั้นแขนข้างหนึ่งของหุ่นหินประหลาดจนแตกกระจาย

มันคือท่าเดียวกับที่เคยทำให้เขาเสียแขนข้างซ้ายไปนั้นเอง!

ร่างหินเสียสมดุล ดาบกระเด็นไปกับแขนข้างที่ขาด ตัวของมันเซถอยหลัง บาร์ตันชิงจังหวะพุ่งแทงดาบใส่หน้า ทว่าร่างหินนั้นก็คว้าคมดาบเอาไว้ได้ทัน มันดึงเต็มแรงลากตัวเขาเข้าไปใกล้ ก่อนจะพยายามใช้หัวกระแทกทีเผลอ

ดวงตาของบาร์ตันเบิกกว้าง ทว่าคราวนี้เขาไม่ยึดตามแบบแผนเดิม เขายอมปล่อยดาบเล่มนั้นทิ้ง ปล่อยตัวพุ่งไปตามแรงดึง เอี่ยวตัวหลบหัวหนักได้อย่างฉิวเฉียด ทว่าก่อนที่จะพุ่งเลยผ่านไปด้านหลัง เด็กชายขยับตัวตามสัญชาตญาณ หมุนตัวกลับ ก่อนจะส่งน้ำหนักโมเมนตัมทั้งหมดสะบัดแขนข้างขวา ฟาดกรงเล็บใส่หัวของร่างหินนั้นด้วยทุกอย่างที่มี

เปรี๊ยงงง---!!!!!

ศีรษะนั้นแตกกระจาย ปะจุไฟฟ้ากระจายวูบวาบ คลื่นแสงแอสตรัลสีฟ้าทองระเบิดออกมา เศษหินชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระเด็นไปไกล 

ร่างของบาร์ตันเซไถล แต่ดวงตายังคงจ้องเขม็งไม่กะพริบ ส่วนร่างหินไร้หัวนั้นทรุดลงพื้น ระอองแสงแอสตรัลสีทองส่องประกายครู่หนึ่งก่อนจะดับไป พลันร่างนั้นก็แน่นิ่งไปในที่สุด

“….” บาร์ตันยังคงมองอยู่ครู่ใหญ่ เดินเข้าไปใกล้เล็กน้อยก่อนจะลองใช้มือดัน ร่างหินก็เซช้าๆก่อนล้มลง เด็กชายก็พลันวางใจ ถอนหายใจเต็มแรงกับชัยชนะแรกที่ได้รับ

การต่อสู้ไม่เคยยืดเยื้อ มันตัดสินชั่วพริบตา และหากบาร์ตันไม่ปล่อยดาบเล่มนั้นไปล่ะก็ เขาคงจะน็อคไปอีกรอบ

เด็กชายถอนหายใจ เซเล็กน้อยก่อนจะไปพิงกับผนัง 

เขาเงยหน้า แล้วก็ต้องหลุดหัวเราะ นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนเลยที่เขาหัวเราะได้เต็มเสียงขนาดนี่

ครืน…

เด็กชายชะงัก ผละตัวออกก่อนจะหันขวับ ค้นพบว่าผนังเกิดการขยับ เสาหินแปดเหลี่ยมที่รวมตัวกันเป็นกำแพงนั้นเลื่อนลง เปิดเป็นทางแคบๆให้มุ่งหน้าไปต่อ

บาร์ตันครุ่นคิด ยกดาบขึ้นต่างเกราะกำบัง ก่อนจะเดินเข้าไปช้าๆ แล้วต้องหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝาก

“รากไม้นี่มัน…”

ร่างเล็กฉงน เขาพลันพบว่าห้องถัดไปนั้นมีขนาดใหญ่มาก มีโพรงถ้ำโค้งไปมาเป็นเส้นทางซับซ้อน และมีทางปีนลงไปยังด้านล่าง

ทว่านั้นไม่ใช่ทั้งหมด เขาพบกับรากไม้สีขาวที่ทะลุลงมาจากรอยแตกของกำแพงหิน ปรากฏใบไม้เรือนแสงจากราก แผ่ใบออกมาให้ความสว่าง ตามพื้นด้านล่างสุดเองปรากฏแอ่งน้ำขนาดเล็กๆที่ไม่ได้ใหญ่มาก ใกล้กับจุดลึกสุดบาร์ตันค้นพบกับเพื่อนเก่าขนปุยสีขาว มันคือพวกกระต่ายมีปีกบินไม่ได้ที่กำลังแทะหินผลไม้บางอย่างที่ด้านล่างสุดของโถงถ้ำ

ความหิวโหยตีขึ้นมาอีกครั้ง เด็กชายกลืนน้ำลายเอื้อก เขาก้าวเท้าไปเบื้องหน้าช้าๆ ทว่าฝีเท้าของเขาหนักเกินกว่าที่คาด ไม่ก็อาจเป็นเพราะเสียงในโถงถ้ำที่ก้องกังวานมากกว่าธรรมดา พวกกระต่ายก็หูผึง วิ่งหนีกระจัดกระจายเข้าไปในรูกำแพงกันทันที

“บ้าจริง…” เด็กชายผมดำแซมขาวสบถ ถอนหายใจแรง ก่อนจะก้าวเดินไปตามพื้นโถงถ้ำ วางดาบ ปีนลงไปตามขอบก่อนจะถึงแอ่งน้ำด้านล่าง จ้องมองผลไม้สีส้มคล้ายสตอเบอรี่เล็กน้อย พอเห็นรอยกัดก็พบว่ามันไม่น่ามีพิษมีภัย เด็กชายพลันทดลองเด็ดมันออกมาแทะ 

แล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อรสเปรี้ยวหวานกลมกล่อมนั้นละลายไปทั่วลิ้นทันที

“อ-อืมม…” เด็กชายสูดน้ำมูก ความรู้สึกซาบซึ้งพลั่งพลูจนแทบอยากจะร้องไห้ ทว่าไม่มีน้ำตา เขาพลันเด็ดผลไม้เหล่านั้นมากินอีกครู่ใหญ่แก้กระหายโดยไม่สนหน้าอินหน้าพรม

อร่อยมาก

อร่อยที่สุดในชีวิตเลย!

บาร์ตันหยุดกินผลไม้อยู่ตรงนั้นครู่ใหญ่ พลันเมื่อดับความหิวโหยไปได้แล้วเด็กชายก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะแบ่งเหลือไว้จำนวนมากเพื่อเป็นทั้งเหยื่อล่อและเสบียงในอนาคต

และด้วยความสงสัย เด็กชายปีนขึ้นไป หยิบดาบ เดินสำรวจต่อไปตามเส้นทางเล็กน้อย มันมีทางแยกถึงหกทาง เขาเลือกสุ่มๆสักทาง ทว่าไม่นานหลังก้าวผ่านทางโค้งไป เด็กชายก็ต้องลืมหายใจกับสิ่งที่เห็น

“ให้ตายสิ…”

ในโถงกว้างถัดไป ร่างหินถือดาบเหมือนตัวก่อนหน้ายืนนิ่งงัน ทว่าคราวนี้กลับมีมากถึงสามตัว แถมหนึ่งในนั้นยังถือโล่ใหญ่  บาร์ตันที่ได้เห็นก็พลันถอนหายใจ

ชีวิตของเขาในถ้ำนี้… เขารู้สึกว่ามันพึ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น