เมื่อมือสังหารต้องเลือกเส้นทาง… ระหว่างความถูกต้องกับความแค้น หยาดเลือดจะเป็นตัวตัดสิน!

Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition - Chapter 14 เริ่มต้นใหม่ (TW: NC มีการขัดขืนของตัวละครช่วงแรก) โดย SekineDoyoubi @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไซไฟ,ลึกลับ,แอคชั่น,สงคราม,จิตวิทยา,สืบสวนสอบสวน,ดราม่า,สายลับ,แวมไพร์,พล็อตสร้างกระแส,แอ็คชั่น ,แอ็คชั่น,สงคราม,สงครามโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ไซไฟ,ลึกลับ,แอคชั่น,สงคราม,จิตวิทยา

แท็คที่เกี่ยวข้อง

สืบสวนสอบสวน,ดราม่า,สายลับ,แวมไพร์,พล็อตสร้างกระแส,แอ็คชั่น ,แอ็คชั่น,สงคราม,สงครามโลก

รายละเอียด

Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition โดย SekineDoyoubi @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อมือสังหารต้องเลือกเส้นทาง… ระหว่างความถูกต้องกับความแค้น หยาดเลือดจะเป็นตัวตัดสิน!

ผู้แต่ง

SekineDoyoubi

เรื่องย่อ

"ในโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ เซเรีย อาร์มสตรอง หญิงสาวผู้ถูกฝึกให้เป็นนักฆ่าตั้งแต่ยังเยาว์วัยจากสก็อตแลนด์ ต้องเผชิญหน้ากับภารกิจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเธอไปตลอดกาล เมื่อองค์กรก่อการร้าย ไฮมานา ที่ตั้งอยู่ตะวันออกกลาง นำโดย กามิล มูฮัมหมัด คิดจะทำลายสมดุลแห่งโลก เซเรียและ คุซานางิ ลูอิส แวมไพร์นินจาปริศนาจากญี่ปุ่น และพรรคพวก ต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดหายนะนี้ แต่ในเงามืดที่ซ่อนเร้น อดีตที่โหดร้ายของพวกเขากลับคอยตามหลอกหลอน การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ภารกิจ แต่มันคือเส้นทางแห่งการล้างแค้น ศรัทธา และเสรีภาพของพวกเขา!"

อัพเดทตอนทุกวันพฤหัสค่ะ จะพยายามอัพนะคะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น จะแจ้งข่าวทาง X และ Facebook นะคะ

คำเตือน

นิยายไลท์โนเวลเรื่องนี้มีเนื้อหาเหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

ภายในเรื่องประกอบด้วยฉากความรุนแรง การต่อสู้ การทรมาน จิตวิทยามืด และการควบคุมทางอำนาจในโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง

เรื่องราวทั้งหมดเป็นผลงานสมมติ สร้างขึ้นเพื่อเล่าเรื่องในจักรวาลแฟนตาซี-ไซไฟ และไม่ได้มีเจตนาเชิดชูพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมใด ๆ ทั้งสิ้น

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และพักใจหากรู้สึกไม่สบายใจในบางประเด็น

สารบัญ

Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 0 บทนำ,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 1 เซเรีย อาร์มสตรอง,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 2 สถาบันมือสังหาร,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 3 พิธีจบการศึกษา,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 4 สอบเข้าสายลับ (TW: มีการกล่าวถึงการกลั่นแกล้งในอดีต),Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 5 ฟรานซิส เทเลอร์,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 6 Partner In Crime,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 7 ภารกิจอันใหญ่หลวง,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 8 สูญเสีย,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 9 โศกนาฏกรรม,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 10 คู่หูคนใหม่,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 11 คุซานางิ ลูอิส,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 12 เซเรีย vs ลูอิส,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 13 ไม่ยอมแพ้,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 14 เริ่มต้นใหม่ (TW: NC มีการขัดขืนของตัวละครช่วงแรก),Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 15 กลุ่มก่อการร้ายไฮมานา,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 16 เจตนารมณ์ของกามิล,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 17 แค้นโทสะของเซเรียกับลูอิส (TW: มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับการเหยียดเผ่าพันธุ์และเพศ),Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 18 ฟางเส้นสุดท้ายของเซเรีย (TW: การทรมานเหยื่อ),Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 19 แผนการใหญ่ของกลุ่มไฮมานา,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 20 อดีตของกามิล มูฮัมหมัด (TW: การทำร้ายในครอบครัว อาชญากรรม),Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 21 แผนล้มล้างการก่อการร้าย,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 22 Resistor Agent vs Gamil,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 23 คำพูดที่กดขี่ผู้หญิง,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 24 เซเรียระเบิดแค้นโทสะ,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 25 จบศึก,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 26 เส้นทางใหม่,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 27 ความรู้สึก,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 28 ไว้อาลัย,Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 29 พวกเราคือคู่หูไร้เทียมทาน (NCแบบนิดๆ),Assassins Agent Lore Story Light Novel Edition-Chapter 30 We are Assassins Agent(ตอนจบ)

เนื้อหา

Chapter 14 เริ่มต้นใหม่ (TW: NC มีการขัดขืนของตัวละครช่วงแรก)

หลังจากที่ลูอิสเข้ามาในทีมใน 1 สัปดาห์ ทุกๆคนเริ่มสนิทกันมากขึ้น

ห้องทำงานที่เต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคัก  แม้จะมีการหยอกล้อกันบ้าง แต่ก็ไม่ทำให้บรรยากาศทำงานตึงเครียด

“นายเริ่มพัฒนามากขึ้นแล้วสินะ ลูอิส” เอลล่ากล่าว

“ก็งั้นมั้งครับ ผมได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เพราะรุ่นพี่ทุกคนเลย” ลูอิสตอบกลับ

“ต่อให้เก่งแค่ไหน แต่เจอศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า อย่าประมาทเชียวล่ะ” วิเวียนพูดย้ำเตือนลูอิส ก่อนที่จะถามต่อ

“ว่าแต่ลูอิส นายโตมาในสลัมมาก่อนหรือเปล่าล่ะ”

“หืม ก็ใช่แหละครับ ทำไมเหรอ รุ่นพี่วิเวียน” ลูอิสสงสัย วิเวียนเลยเล่าให้ฟัง

“ตอนที่ฉันอยู่ออสเตรีย ฉันอยู่ในเขตสลัมน่ะ ทั้งขาดแคลนอาหาร ยากจน มีแต่พวกสงครามกลางเมือง ที่ญี่ปุ่นไม่มีแบบนี้ใช่มั้ย”

วิเวียนเกิดมาในย่านสลัมในประเทศออสเตรีย ที่นั่นมีบ่อนพนันกับยาเสพติดผิดกฎหมายจำนวนมาก 

พ่อแม่ของเธอก็ตายจากไปตั้งแต่เด็ก โชคดีที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเก็บเธอมาเลี้ยงจนเธอเติบโตมาอย่างดี

“ครับ ไม่มีเลย”

ขณะที่ทั้ง 3 คนกำลังนั่งสนทนากันอยู่ เสียงประตูบานเลื่อนเปิดออก ฟรานซิสกับเซเรียก็เดินเข้ามาพร้อมกันและทักทายทุกคนในนี้

“อรุณสวัสดิ์”

“มาพร้อมกันอีกแล้วนะ ทั้ง 2 คน” วิเวียนแซว

“ก็นะ เป็นปกติไปแล้วล่ะ” ฟรานซิสขำเบาๆก่อนที่จะตอบกลับ

“เอาล่ะ เริ่มงานวันนี้ได้เลย”

ช่วงเช้า ทุกคนได้ทำงานเอกสารของตัวเอง จะมีบางช่วงที่ลูอิสไปหยิบขนมกับกาแฟมาให้ทุกคนในทีม เซเรียซึ่งเธอแพ้ถั่วทุกชนิด ได้กำชับให้ลูอิสไว้ก่อน

ถึงช่วงแรกจะเผลอหยิบมาให้ จนเธอเกิดอาการแพ้ต่อหน้าต่อตา ด้วยที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอแพ้ถั่วทุกชนิด ทำให้เธอต้องกินยาแก้แพ้ 1 อาทิตย์ก็ตาม

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างสั่นคลอนได้

ตอนพักเที่ยง ทุกคนก็มานั่งรวมตัวกันที่โรงอาหาร ทุกคนต่างกินอาหารชุดที่ต่างกัน ระหว่างนั้นก็มีบทสนทนาขณะกินอาหารด้วย

“รุ่นพี่ก็นะ ถึงจะดูเย็นชา แต่เวลาอื่นนี่คนละขั้วเลย” ลูอิสพูดคุยกับเซเรีย

“ปกติฉันก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้วนี่นา ลูอิสนายสงสัยเหรอ” เซเรียมองหน้าทุกคนก่อนจะตอบกลับ จนลูอิสเริ่มแซวไปอีก

“ก็นะ ผมนึกว่ารุ่นพี่จะหัวรุนแรงซะอีก”

“นายก็ยังกวนตีนเหมือนเดิมเลยนะ” เซเรียเริ่มรำคาญทีละนิด แต่ก็ไม่ได้ถือสาอะไร

“ฮะๆๆๆ”

ลูอิสเริ่มใกล้ชิดกับทุกคนมากขึ้น โดยเฉพาะเซเรีย แต่ว่า 

ฟรานซิสกลับไม่ชอบใจ เพราะเหมือนกับว่า แฟนของตัวเองจะนอกใจ ถึงจะรู้ว่าเซเรียไม่มีทางทำแบบนั้นก็เถอะ 

“ผมเอาขนมมาให้แล้วนะ”

“ขอบใจนะ วางไว้ตรงนั้นได้เลย” เซเรียตอบกลับก่อนที่จะชวนเอลล่าและวิเวียนมากินขนมด้วยกัน

“รุ่นพี่ฟรานซิสก็มากินด้วยกันก็ได้นะครับ ผมไม่ว่า”

ถึงฟรานซิสจะเริ่มสนิทกับลูอิสก็ตาม แต่เขาสังเกตว่า ลูอิสพยายามใกล้ชิดกับเซเรียมากขึ้นเรื่อยๆ

ฟางเส้นสุดท้ายของเขากำลังจะถูกเผาในไม่ช้า

คืนวันที่ 10 เมษายน เวลา 2 ทุ่ม เซเรียกลับมาช้ากว่าปกติ เนื่องจากต้องฝึกสอนรุ่นน้องเรื่องอาวุธปืน เธอเดินกลับมาพร้อมกับลูอิสซึ่งกลับมาจากฝึกฟันดาบพอดี

ในขณะที่กำลังพูดคุยอยู่นั้น ลูอิสได้เอามือมาแตะที่ฝ่ามือเธอที่เต็มไปด้วยแผลเป็นในอดีต ลูอิสเกิดสงสัยขึ้นมาทันที

“แผลบนมือนั่น”

“อ๋อ แผลนี่มาจากการฝึกหมดเลยล่ะ” เซเรียอธิบายเหตุการณ์ในอดีตทั้งหมด ทำให้ลูอิสสนใจตัวเธอมากกว่าเดิม 

เขาเริ่มกุมมือของเธอและขอร้องอยากให้เธอเป็นอาจารย์สอนการต่อสู้ด้วยอาวุธปืน

“อย่างงี้นี่เอง แสดงว่าต้องโหดถึงขั้นปรมาจารย์เลยสินะ”

“ลูอิส ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะ ถ้าเข้ามาใกล้ฉันอีก ระวังจะขำไม่ออกนะ” เซเรียเริ่มลางสังหรณ์ไม่ดี จึงรีบเตือนลูอิสด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“พูดอะไรน่ะ รุ่นพี่ ไม่มีใครเล่นงานหรอกนะ” ลูอิสยังคงชิวๆเหมือนเดิม แต่ไม่ทันไร เงาของคนข้างหลังโผล่มาพร้อมน้ำเสียงที่ดุๆ

“หยุดแค่นั้นแหละ ลูอิส”

นั่นไง ไม่ทันขาดคำ

ฟรานซิสโผล่มาจากข้างหลังพร้อมรังสีอำมหิต ไม่ใช่การโกรธแค้น แต่มันคือหึงหวงแบบยันเดเระสุดๆ

 ลูอิสสะดุ้งชุดใหญ่และรีบปล่อยมือเซเรียทันที

“รุ่นพี่ฟรานซิส!?”

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ!? นึกว่ากลับห้องไปแล้วซะอีก” เซเรียถามไปไม่ถึง 3 วิก็โดนฟรานซิสกระชากข้อมือออกมาจากลูอิส เขาส่งสัญญาณให้ลูอิสพร้อมเตือนขู่ไว้

“ขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเข้ามาข้ามเส้นอีก นายโดนแน่”

“รุ่นพี่ฟังผมก่อน!!!” ลูอิสพยายามจะอธิบาย แต่มันไม่เป็นผล

เพราะฟรานซิสไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เขาลากเซเรียกลับห้องพักทันที

 

เสียงประตูปิดกระแทกแน่น

 

เซเรียหันกลับไปทันที รู้สึกถึงแรงกดดันหนักอึ้งที่แผ่มาจากด้านหลัง

“จะลากฉันทำไมวะเนี่ย? ฟรานซิส” เธอถามด้วยเสียงเย็นชา

“รู้ใช่มั้ยว่าที่ฉันเป็นแบบนี้เพราะอะไร…” ฟรานซิสตอบเสียงเรียบ แต่นัยน์ตาของเขานั้น...โกรธจัดและมีความหิวโหย

“หา!? นี่นาย!!” เซเรียเริ่มเห็นออร่าของฟรานซิสเป็นความรู้สึกที่ซับซ้อนมาก เธอสัมผัสได้ถึงความหึงหวงแบบรุนแรง แฝงไปด้วยราคะ

เขาก้าวเข้ามาเรื่อย ๆ ในจังหวะช้า ไม่รีบร้อน ราวกับนักล่าที่รู้ว่าหมายของตนหนีไม่พ้น

เซเรียถอยหลังทีละก้าว จนแผ่นหลังชนกับผนังห้อง

“ฟรานซิส ใจเย็นๆก่อนนะ” เซเรียพยายามเตือนสติฟรานซิส แต่เขาไม่ฟังอะไรเลย

“ไม่ยงไม่เย็นอะไรอีกต่อไปแล้ว!!” ฟรานซิสยังพูดด้วยความเย็นชา ความหึงหวงมันบังตาของเขา ทำให้ไม่สามารถคุมสติได้อีกต่อไป

เธอเริ่มรู้สึกได้ว่า เขาไม่เหมือนเดิม ไม่ใช่แค่เพราะหึงอย่างเดียว แต่เพราะ...ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ด้วย

ทั้ง 2 คนเริ่มทะเลากัน อีกคนพยายามเตือน อีกคนพยายามคัดค้าน บรรยากาศเริ่มตึงเครียดหนักกว่าเดิม

“ฉันเตือนไปแล้วนะว่าอย่าทำแบบนี้น่ะ ฟรานซิส”

“แล้วเธอเตือนลูอิสแบบที่เตือนฉันมั้ย!?หรือว่าหมอนี่...มันสำคัญกว่าแฟนของตัวเองน่ะ!?”

“หา!? เดี๋ยวเถอะ!! เลิกเอาลูอิสมาเกี่ยวได้ไหมวะ อีกอย่างนึง ฉันไม่มีทางจะชอบลูอิสหรอก ก็มีนายทั้งคนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ!?”

“งั้นเหรอ? แต่ช้าไปแล้วล่ะ เซเรีย”

“เฮือก!!! นี่นาย!!!”

ทันใดนั้น เขาพุ่งเข้ามากระชากแขนเธอไว้ ร่างของเธอโดนผลักแนบกับผนังโดยไม่มีโอกาสตั้งตัว

เสียงลมหายใจของฟรานซิสรุนแรงหอบอย่างเห็นได้ชัด มือของเขากดที่ต้นแขนเธอแน่นเกินไป ทำให้เธอเจ็บต้นแขนจากแรงบีบของเขา

“หยุดนะ… ฟรานซิส!” เธอตะโกนเตือนสติ

“แต่เลือดเธอมัน…เรียกฉัน เซเรีย มันเรียกฉันอยู่ตลอดเวลา—”

เขาตะเบ็งเสียง แล้วกัดฟันแน่น

ก่อนที่เธอจะได้โต้ เงาของเขาก็โน้มเข้ามา

เขาฝังเขี้ยวลงบนคอเธอ...อย่างโหดร้ายและอดกลั้นไม่ไหว

“อึก!!!” เซเรียกลั้นความเจ็บปวดนี้ไว้ โดนฟรานซิสฝังเขี้ยวไว้แบบไม่ใยดี

เสียงดูดเลือดดังแผ่วไปทั่วห้องพัก โชคดีที่ห้องพักเก็บเสียงมิดชิด ทำให้ข้างห้องและระหว่างชั้นไม่ได้ยิน

ร่างกายของเซเรียสั่น เธอพยายามผลักเขาออก แต่มือเขาจับเธอแน่นจนเธอหนีไม่ได้

ความเจ็บซ่านผ่านเส้นประสาท ก่อนจะถูกแทนด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด — หนักอึ้งแต่เร้าใจ

เลือดไหลลงไหล่ เธอรู้สึกถึงลมหายใจเขาบนผิวหนัง

กลิ่นเหล็กในอากาศปนกับกลิ่นตัวของเขา ร้อน เหงื่อ กล้ามเนื้อแข็งกระชับที่กอดรัดเธอไว้แน่น

ก่อนหน้านั้น เซเรียก็เคยโดนฟรานซิสดูดเลือดมาก่อน แต่ไม่ได้โหดเหี้ยมเหมือนตอนนี้ 

ครั้งแรกที่ดูดเลือด เขาเอาเขี้ยวฝังแค่ตื้นๆให้เลือดมันไหลมาทีละนิด เพื่อไม่ให้เธอปวดเส้นประสาทตามมา ซึ่งปกติแล้วเขาจะเป็นคนที่อบอุ่นมาก

แต่ตัดมาที่ปัจจุบัน เขาได้เผยด้านมืดของตัวเองออกมา ฟรานซิสไม่สามารถละเลยรสและกลิ่นเลือดของเซเรียที่หอมหวานเหมือนลูกอมอีกเลย เรียกได้ว่าเสพติดสุดๆ

“พอได้แล้ว...ฟรานซิส”

เสียงของเธออ่อนแรง ไม่ใช่แค่เพราะเลือด...แต่เพราะเขากำลังทำลายเกราะที่เธอสร้างขึ้นมาตลอด

เขาชะงัก หายใจแรง จ้องมองเธอที่กำลังจะขัดขืน

“ยังมีแรงอยู่อีกเหรอ เซเรีย”

“หา!?”

แต่แล้วเขากลับโน้มตัวเข้ามาอีก

ไม่ใช่แค่เพื่อดูดเลือด — แต่เพื่อจูบเธอ

ฟรานซิสเริ่มเอาลิ้นของเขาสอดเข้าไปในปากของเซเรียตอนที่เธอเผลออ้าปากเล็กน้อยและเริ่มดูดดื่มแบบเร่าร้อน ลิ้นของทั้ง 2 คนเริ่มตวัดกันไปมา จนเกิดเสียงที่ชวนให้เย้ายวน

ครั้งนี้เป็นจูบที่เร่าร้อน รุนแรง จนเธอไม่ทันตั้งตัว ไออุ่นของทั้งสองแผ่กระจายไปทั่ว

เซเรียใช้แรงเฮือกสุดท้ายผลักเขาออกหลังจากที่ดูดดื่มกันเสร็จ แต่เขากลับจับเธอไว้แน่นกว่าเดิม 

“สงบสติหน่อยสิ ฟรานซิส” เธอพูดช้า ๆ ชัดถ้อย

แต่เขาไม่ตอบกลับอะไรเลย กลับซบหน้าลงที่ไหล่เธอ หายใจฟืดฟาดเหมือนสัตว์ที่บาดเจ็บ ทำให้ร่างกายเธอเริ่มสั่น

“ถึงพวกเราจะเป็นแฟนกันก็เถอะ แต่แบบนี้มัน—” เซเรียเริ่มหอบแรง ขณะเดียวกัน ฟรานซิสเงยหน้ามาที่หูข้างขวาของเธอ

“คืนนี้เธอไม่รอดแน่” ฟรานซิสกระซิบข้างหู น้ำเสียงของเขาทำให้เซเรียเริ่มขาอ่อนแรง มันเหมือนโดนสะกดจิตให้อยู่ในห้วงแห่งราคะ

ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นคำพูดที่ไม่ควรถูกพูดออกมา — แต่เขาก็พูดจนได้

ก่อนจะลากร่างเธอไปที่เตียง

แรงของเขาเต็มไปด้วยความกดดัน แต่ดวงตานั้นสั่นไหว เหมือนคนที่รู้ตัวว่ากำลังทำสิ่งผิด...แต่ก็หยุดไม่ได้

เสื้อผ้าเธอถูกปลดออกทีละชิ้น ไม่ใช่อย่างนุ่มนวล แต่ด้วยมือที่สั่น กระวนกระวาย เขาถอดออกหมดจนไม่เหลือเสื้อผ้าบนตัวเธอเลย

จากนั้น ฟรานซิสก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเองเช่นกัน ซึ่งมันทำให้เธอได้เห็นร่างกายที่กำยำของเขาเป็นครั้งแรก

เธอหอบเบา ๆ กลืนน้ำลาย รู้ว่านี่ไม่ใช่แค่ความใคร่อย่างเดียว แต่คือการปลดปล่อยบางอย่างที่ฟรานซิสกักเก็บมานานเกินไป

เซเรียเริ่มถามฟรานซิสอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะสติเลือนลางกับเสียงกระซิบของเขาอีกครั้ง

“น...นายจะทำจริงเหรอ”

“หึ เธอดิ้นหนีไปไหนไม่ได้แล้วนะ” เขากระซิบข้างหู ทำให้ร่ายกายของเธอถูกสับสวิชอารมณ์ราคะตามไปด้วย

เซเรียสังเกตได้เลยว่า ฟรานซิสได้ใช้มือซ้ายล็อกเอวไว้ ก่อนที่จะหยิบแท่งไฟร้อนมาตีหน้าท้องน้อยของเธอด้วยมืออีกข้าง

เซเรียสะดุ้งทีละนิด ภายในของเธอเริ่มรู้สึกร้อน สัมผัสบนร่างกายของเธอเริ่มมีความอ่อนไหวมากขึ้น เสียงเล็กๆเริ่มออกมาจากลำคอเหมือนลูกแมว ทำให้ฟรานซิสยิ่งชอบเข้าไปใหญ่

“ดูสิ ข้างล่างของเธอมันพร้อมแล้วนะ”

“แฮ่กๆ ฟรานซิส จะแหย่ไปอีกนานมั้ย...” เซเรียขอร้องให้ฟรานซิสหยุดแกล้งเธอ เมื่อเขารู้ว่าเธออยากได้มัน อารมณ์ราคะของเขาก็เริ่มครอบงำทันที

“จะยัดเข้าไปล่ะนะ” เสียงที่แผ่วเบา แต่กลับได้ยินของเขา ทำให้เซเรียหัวใจเต้นแรงขึ้น

ไม่รอช้า ฟรานซิสเริ่มสอดแท่งไฟเข้าไปในช่องรักของเซเรีย

แต่นั่นคือครั้งแรกของพวกเขาทั้งคู่ เยื่อพรหมจรรย์ของเธอถูกฉีกขาด ทำให้มีเลือดไหลออกมา

เธอเริ่มครางออกมาพร้อมกับเขาแต่ไม่สามารถขยับต่อไปได้ เพราะภายในเธอรัดแน่นจนทำให้ฟรานซิสเริ่มรู้สึกปวดไปตามๆกันก่อนที่จะเริ่มสบถออกมาเบาๆ 

“อึก...รัดแน่นขนาดนี้เลยเหรอวะน่ะ...”

“จะ…เจ็บชะมัด…” เซเรียร้องออกมา ทันใดนั้น ฟรานซิสก้มหน้าลงไปดูข้างล่าง พบว่าเซเรียมีเลือดซึมออกมาจากช่องรัก

ด้วยที่ตอนนี้ราคะครอบงำ เขาเริ่มพูดเบาๆกับเธอแต่เหมือนสะกดจิตเธอให้เคลิ้มไปกับความเร่าร้อนของคืนนี้ 

“โห… ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะยังเป็นสาวที่บริสุทธิ์อยู่น่ะ…แต่ตอนนี้จะไม่ใช่แล้วล่ะนะ”

“…เพราะของนายมันใหญ่ด้วยแหละ…” 

“เห…เดี๋ยวเธอจะได้ลิ้มรสเองแหละ” 

เมื่อทุกอย่างคลายลง ฟรานซิสเริ่มขยับเอวช้าๆและค่อยเพิ่มความเร็วไปเรื่อยๆ ให้เซเรียรู้สึกเร่าร้อนมากขึ้น 

มันทั้งเจ็บ ทั้งแรง ทั้งเร่าร้อน

เสียงครางของเธอปนกับเสียงหอบหายใจของเขาในห้องอับแสงนั้น เซเรียไม่สามารถประมวลผลภาพที่เธอมองได้เลย ในหัวของเธอมีแต่ความว่างเปล่า

หลายครั้งเธอเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ไม่เอ่ยออกมา

เธอไม่รู้จะเกลียดเขา หรือสงสารเขาดี

และเขาเอง...ก็ไม่รู้จะขอการให้อภัยจากใคร เพราะเขาไม่เคยคิดว่าตัวเองคู่ควรกับมัน

“ฟะ…ฟราน…อ๊ะ…ฮึก!!” เซเรียโดนปลายแท่งไฟกระแทกจุดอ่อนของเธอข้างใน ทำให้เธอครางเสียงหลง เพราะฟรานซิสเปลี่ยนมุมองศาของเอวเธอ ทำให้แท่งไฟเข้าไปลึกกว่าเดิม

“โอ้ จุดนี้สินะ ที่ทำให้เธอหวาดเสียวน่ะ” ฟรานซิสเริ่มจับจุดอ่อนของเซเรียได้ และเริ่มกระแทกซ้ำ ทำให้เธอเสียวซ่านมากขึ้น เขาก็ยิ่งทำแรงขึ้น

ฟรานซิสเลียริมฝีปากก่อนที่จะกัดฟันและเริ่มขยับแรงขึ้น ซึ่งเขาเอาตัวคร่อมข้างบน ขณะที่มือทั้ง 2 ข้างได้จับล็อคข้อมือของเซเรียไว้อย่างแน่น ฟรานซิสเริ่มถามเซเรียขณะขยับสะโพกอยู่

“เธอบอกมาสิ ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร”

“ฟรานซิส…อ๊าา” เซเรียครางออกมาอีกครั้ง

“แล้วเธอเป็นของใคร”

“อ๊ะ…อ๊าา…”

แต่รอบนี้เธอกลับไม่ได้ยินคำถามต่อไป ฟรานซิสเริ่มเอาหน้าเข้าใกล้ใบหูฝั่งขวากระซิบถามย้ำอีกรอบ

“ฉันถามว่า เธอเป็นของใคร”

“ฟะ…ฟรานซิส~” เซเรียครางตอบ

“อืม เด็กดีแบบเธอ ต้องให้รางวัลหน่อยแล้วล่ะ” พูดจบ ฟรานซิสก็ขยับแรงขึ้น 

เซเรียรู้สึกได้ว่าแท่งไฟเริ่มร้อนขึ้นแถมยังถูๆไถๆกำแพงโพรงอุโมงค์รักของเธอจนกระตุกไปทั่วร่าง

เธอก็ปล่อยเสียงครางออกมาไม่หยุดจนฟรานซิสจะเริ่มถึงจุดคลายแม็กซ์แล้ว ตาของเธอเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา เตียงก็เริ่มโยกแรงขึ้น จนในที่สุด

ฟรานซิสได้ปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นเหมือนนมข้นหวานที่อยู่ในอุณหภูมิห้องเข้ามาข้างในเธอ โชคดีที่เธอได้ฝังยาคุมไว้ก่อนเลยไม่มีความกังวลอะไรตามมาทีหลัง

เซเรียหอบแรงสุดชีวิตปะปนกับเสียงครางพร้อมกับคราบน้ำตา

ในช่วงที่ระหว่างพวกเขาเร่าร้อนนั้น ทุกครั้งที่เสร็จแต่ละท่า ฟรานซิสจะเลียคราบน้ำตา จูบอีกครั้ง ก่อนที่จะเปลี่ยนท่าเป็นอีกท่าหนึ่งไปเรื่อยๆจนกว่าเขาจะพอใจ

หลังจากที่ทั้งคู่ทำกันบนเตียงจนถึงตี 3 ของวันถัดมา พวกเขาก็หมดแรงทันที ตอนนี้มีเพียงเสียงหัวใจเต้นของทั้งคู่ และรอยเลือดที่เปรอะเปื้อนปลอกหมอน

เขานอนแนบหลังเธอ แขนสอดใต้ร่าง ดึงเธอไว้แน่น 

แผ่นหลังของฟรานซิสมีรอยข่วนจากเล็บมือของเซเรียเป็นเส้นยาวๆสั้นๆสลับกันไป

เธอนอนนิ่ง ดวงตายังไม่ปิด แต่อีกข้าง...มีหยดน้ำใส ๆ ซึมออกจากหางตา ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยรอยกัด รอยแดง และคราบของเหลว เหมือนผ่านศึกสนามรบ

เธอไม่ได้เกลียดเขา

แต่เธอก็ไม่ได้ให้อภัย

 

มันอยู่ตรงกลาง — พื้นที่อันตรายระหว่างความรักกับความเจ็บปวด

 

เช้าวันถัดไป แสงแดดอ่อน ๆ ส่องลอดม่านเข้ามาในห้อง รอยสัมผัสจากเมื่อคืนยังคงติดอยู่บนผิวของเซเรีย แต่เช้าวันนี้...มันแตกต่างออกไป

เซเรียลืมตาขึ้น เสียงลมหายใจแผ่วเบาของฟรานซิสอยู่ข้างหูของเธอ แขนของเขากอดเธอไว้แน่นเหมือนไม่อยากปล่อยไปไหน

ร่างกายของเธอปวดระบมจากเมื่อคืน แต่มันไม่ใช่แค่เรื่องร่างกายที่ทำให้เธอรู้สึกหนักอึ้ง

...เธอควรรู้สึกยังไงกันแน่?

เธอพยายามขยับตัวออก แต่ฟรานซิสกลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น ใบหน้าของเขาแนบชิดอยู่ที่ต้นคอเธอ

“อย่าทิ้งฉัน...” เสียงเขาแผ่วเบาเหมือนละเมอ แต่ก็หนักแน่นพอที่เธอจะได้ยิน

เซเรียชะงัก คำพูดนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดหวังจากเขา ฟรานซิสที่เธอรู้จักไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น

“ฟรานซิส...”

เธอหันกลับไป ดวงตาสีฟ้าของเขาสั่นไหว แววตานั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ยุ่งเหยิง

“ฉันกลัว...” เขาพูดออกมาในที่สุด “กลัวว่าเธอจะไม่มองฉันแบบเดิมน่ะ ขอโทษนะ”

เซเรียเม้มริมฝีปากแน่น เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองมองเขาแบบไหนอยู่ตอนนี้

เธอไม่ตอบอะไร แต่เอื้อมมือไปแตะที่แก้มของเขาเบา ๆ ฟรานซิสหลับตาลง ซึมซับสัมผัสของเธอ ก่อนจะโน้มตัวลงมาแนบหน้าผากกับเธอ

“ไม่หรอก ฉันจะไม่หนีเลย...ฟรานซิส” เธอกระซิบ

พูดจบ ฟรานซิสก็โล่งใจ เซเรียก็เริ่มยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันจะได้ขยับตัว เธอสังเกตดวงตาของเขายังมีแววเร่าร้อนซ่อนอยู่

เขาโน้มตัวลงมา กระซิบข้างหูเธอ “แต่ว่านะ เมื่อคืนมันยังไม่พอ...”

ใบหน้าของเซเรียร้อนวูบ เธอรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ฟรานซิสก็พลิกตัวขึ้นคร่อมเธอไว้

เธอพูดไม่ออก เพราะดวงตาของเขากำลังสะกดเธอ

ดวงตาคู่นั้นไม่ได้มีเพียงความปรารถนา แต่มันเต็มไปด้วยความต้องการที่ลึกซึ้งกว่านั้น

เขาก้มลงมาใกล้ กัดริมฝีปากล่างของเธอเบา ๆ ก่อนกระซิบ

“เธอเป็นของฉันนะ เซเรีย”

เธอรู้ดีว่าเธอไม่ควรปล่อยให้เขาครอบงำแบบนี้...แต่ร่างกายของเธอกลับตอบสนองต่อเขาเอง

และเช้านั้น...มันก็ไม่ได้จบแค่การกอดรัดธรรมดา ๆ เซเรียเริ่มคิดในใจว่าแฟนหนุ่มของเธอเป็นอะไรกันแน่

 

“นี่นายเป็นลูกครึ่งแวมไพร์หรืออินคิวบัสวะ ฟรานซิส!!”

 

พวกเขาทำกันอีกรอบ ก่อนที่ฟรานซิสจะอุ้มเธอไปที่อ่างอาบน้ำในเวลาถัดมา

 

ทั้งคู่มาถึงห้องทำงานเป็น 2 คนแรก พวกเขานั่งทำงานตามปกติ เซเรียตอนนี้ สภาพเหมือนผ่านศึกสนามรบ

บนคอของเธอเต็มไปด้วยพลาสเตอร์ปิดแผล ฟรานซิสนั่งสบายใจ มีความสุข ส่วนเซเรีย ต้องอดทนกับแผลบนคอ ถึงจะเจ็บ แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไร

จนกระทั่งวิเวียนและเอลล่าเดินเข้ามาทั้งคู่ ทันใดนั้น วิเวียนไปเห็นคอของเซเรีย

“หือ? นั่นอะไรน่ะ”

“เซเรีย เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” เอลล่าถาม ก่อนที่เซเรียจะหันไปทักทั้ง 2 คน

“หือ? อรุณสวัสดิ์ ทั้ง 2 คน”

วิเวียนเดินเข้ามาใกล้เซเรีย ชะโงกดูรอบๆคอของเธอ “นี่ เซเรีย คอไปโดนอะไรมาน่ะ” 

เซเรียได้ยินมาแบบนั้น หูและใบหน้าของเธอเริ่มแดงขึ้นมาทันที “อย่าถามได้ไหมวิเวียน” เธอรีบตอบกลับไปทันที เพราะในหัวของเธอได้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอีกครั้ง

“เอ๊ะ? หรือว่า” เอลล่าเริ่มสงสัย แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรออกมา ลูอิสก็มาถึงห้องทำงานพอดี

“โทษทีที่มาช้าครับ” เขาทักทายด้วยสีหน้าที่ต่างจากที่ผ่านมา เพราะรอบนี้เขากลับหวาดกลัวกับอะไรบางอย่าง

“ลูอิส ทำไมทำหน้าแบบนั้นน่ะ” ฟรานซิสถามด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่แฝงไปด้วยความหึงหวง

“ไม่มีอะไรครับ แฮะๆ” ลูอิสตอบแบบเสียงแห้ง เอลล่าเมื่อเห็นแบบนี้ จึงเข้าไปปลอบลูอิส

“นี่ ไม่ต้องกลัวนะ ลูอิส”

“หืม? ครับ” เอลล่าได้อธิบายให้ลูอิสฟัง แต่วิเวียนเหมือนจะเริ่มเข้าใจสถานการณ์บางอย่าง

“อย่างนี้นี่เอง” เธอเริ่มคิดในหัว ประมวลสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“เมื่อคืนนี้ ลูอิสกับเซเรียคุยกันอย่างใกล้ชิด ทำให้ฟรานซิสหึงหวงขึ้นมาสินะ แต่ว่านะ ทำไมถึงทำหน้าแบบนี้ด้วยล่ะไอหมอนี่”

วิเวียนไม่รอช้า เดินเข้าชาร์จไปที่ฟรานซิสทันที

“หือ? มีอะไรเหรอ วีวี่?” 

“ฟรานซิส นายนี่มัน!!!” 

วิเวียนพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ก่อนที่จะเอามือดึงหูฝั่งขวาของฟรานซิสแบบแรงๆ 

“โอ๊ย!!!! เจ็บๆๆๆๆๆๆ ทำอะไรของเธอวะน่ะ!?” ฟรานซิสโวยวาย 

“นายบ้าไปแล้วหรือไงวะ ถึงนายเป็นแฟนกับเซเรียก็ไม่ควรแสดงกิริยาหึงหวงแรงๆแบบนี้นะ”

“แต่ว่า!!”

“ไม่มีแต่ คราวหลังคุมสติด้วยล่ะ!!”

“ขอโทษครับ...”

ฟรานซิสโดนวิเวียนดุเป็นชุด เลยทำหน้าจ๋อยเป็นหมาไปชั่วครู่ ขณะเดียวกัน ลูอิสได้สงสัยจึงได้ถามขึ้นมา

“รุ่นพี่ฟรานซิสกับรุ่นพี่เซเรียคบกันอยู่เหรอเนี่ย?”

“คบมา 2 ปีกว่าๆแล้วล่ะ” เอลล่าตอบ

เซเรียไม่พูดอะไร ปล่อยให้ห้องทำงานวุ่นวายไปก่อนที่จะเงียบอีกครั้ง

ขณะที่ทุกคนกำลังทำงานไป พูดคุยไปอยู่นั้น ก็ได้มีแจ้งเตือนผ่านมอนิเตอร์ขึ้นมา

“เจ้าหน้าที่ระดับ A ทั้ง 5 คน กรุณาเข้าห้องประชุมเดี๋ยวนี้”

เสียงจากอินเตอร์คอมทำให้ทุกคนชะงัก

“ภารกิจใหม่เหรอ” ลูอิสสงสัย

“ไปกันเถอะ” ฟรานซิสเรียกทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม

ทั้งห้าเดินออกจากห้อง

ไม่มีใครพูดอะไร…แต่ภารกิจข้างหน้ายิ่งใหญ่พอจะกลบทุกเรื่องที่ยังค้างคา