เมื่อมือสังหารต้องเลือกเส้นทาง… ระหว่างความถูกต้องกับความแค้น หยาดเลือดจะเป็นตัวตัดสิน!
ไซไฟ,ลึกลับ,แอคชั่น,สงคราม,จิตวิทยา,สืบสวนสอบสวน,ดราม่า,สายลับ,แวมไพร์,พล็อตสร้างกระแส,แอ็คชั่น ,แอ็คชั่น,สงคราม,สงครามโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Assassins Agent Lore Story Light Novel Editionเมื่อมือสังหารต้องเลือกเส้นทาง… ระหว่างความถูกต้องกับความแค้น หยาดเลือดจะเป็นตัวตัดสิน!
"ในโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ เซเรีย อาร์มสตรอง หญิงสาวผู้ถูกฝึกให้เป็นนักฆ่าตั้งแต่ยังเยาว์วัยจากสก็อตแลนด์ ต้องเผชิญหน้ากับภารกิจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเธอไปตลอดกาล เมื่อองค์กรก่อการร้าย ไฮมานา ที่ตั้งอยู่ตะวันออกกลาง นำโดย กามิล มูฮัมหมัด คิดจะทำลายสมดุลแห่งโลก เซเรียและ คุซานางิ ลูอิส แวมไพร์นินจาปริศนาจากญี่ปุ่น และพรรคพวก ต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดหายนะนี้ แต่ในเงามืดที่ซ่อนเร้น อดีตที่โหดร้ายของพวกเขากลับคอยตามหลอกหลอน การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ภารกิจ แต่มันคือเส้นทางแห่งการล้างแค้น ศรัทธา และเสรีภาพของพวกเขา!"
อัพเดทตอนทุกวันพฤหัสค่ะ จะพยายามอัพนะคะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น จะแจ้งข่าวทาง X และ Facebook นะคะ
คำเตือน
นิยายไลท์โนเวลเรื่องนี้มีเนื้อหาเหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ภายในเรื่องประกอบด้วยฉากความรุนแรง การต่อสู้ การทรมาน จิตวิทยามืด และการควบคุมทางอำนาจในโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง
เรื่องราวทั้งหมดเป็นผลงานสมมติ สร้างขึ้นเพื่อเล่าเรื่องในจักรวาลแฟนตาซี-ไซไฟ และไม่ได้มีเจตนาเชิดชูพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมใด ๆ ทั้งสิ้น
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และพักใจหากรู้สึกไม่สบายใจในบางประเด็น
ปี ค.ศ. 2320 หลังจากเซเรียได้มาเรียนที่แลนด์สล็อท วันนี้ก็เป็นวันพิธีจบการศึกษาของเธอพอดี ปีนี้เซเรียก็อายุ 18 ปี ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานการจบหลักสูตรของทางสถาบัน แต่ก็มีนักศึกษาบางคนที่อยู่ในสถาบันนี้อายุต่ำกว่าเกณฑ์ แต่ทำผลงานออกมาไม่แพ้คนรุ่นเดียวกัน
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2320 เวลา 7 นาฬิกา ณ บ้านเซเรีย ทุกคนในครอบครัวของเธอกำลังวุ่นวายกับการเตรียมเซอร์ไพรส์สำหรับพิธีจบการศึกษาของเซเรีย อาร์มสตรอง พ่อของเซเรียกำลังจัดช่อดอกไม้ขณะที่แม่ของเธอเช็กของขวัญกล่องเล็ก ๆ ในกระดาษห่อสีทอง
“วันนี้ลูกของเราจะได้ขึ้นกล่าวคำปฏิญาณเป็นตัวแทนของรุ่นด้วยนะ” แม่พูดด้วยความภาคภูมิใจ
“นั่นสินะ เซเรียได้เกียรตินิยมอันดับ 1 มา ผมมั่นใจว่าเซเรียต้องทำได้ดีแน่ๆ” พ่อเสริม พลางส่งยิ้มให้ลูกสาวคนเล็กที่กำลังช่วยเตรียมการอยู่ข้าง ๆ
“พี่เซริเก่งที่สุด!” เมแกน น้องสาวของเธอพูดพร้อมชูนิ้วโป้งให้ พวกเขาทุกคนหัวเราะกันเบา ๆ ก่อนจะกลับไปเตรียมงานต่อ
บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความภูมิใจในตัวลูกสาวคนเก่ง
ตัดมาที่หอพักนักศึกษาของสถาบันแลนด์สล็อท เซเรียกำลังเก็บกระเป๋าสัมภาระใบสุดท้าย เธอมีสีหน้าครุ่นคิดปนประหม่า ข้าง ๆ เธอคือ “ชิราอิชิ ซากุระ” แวมไพร์สาวจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นเพื่อนรูมเมทของเธอ
“พร้อมแล้วใช่มั้ย เซเรียจัง” ซากุระถามด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
“คิดว่าใช่นะ แต่ฉันยังกลัวจะพูดผิดอยู่เลย” เซเรียถอนหายใจ
“ไม่ต้องห่วงหรอก เซเรียจัง เธอเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว ฉันเชื่อว่าเธอจะทำได้ดีแน่” ซากุระพูดให้กำลังใจพร้อมตบบ่าเบา ๆ
“อืม ก็แอบตื่นเต้นอยู่นะ” เซเรียตอบ พลางหันไปเช็กเสื้อคลุมบัณฑิตสีกรมท่าที่พาดอยู่บนเตียง เธอรู้ดีว่าวันนี้จะเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ — วันที่เธอจะกล่าวคำปฏิญาณในฐานะตัวแทนบัณฑิต เพราะเธอคือผู้ที่ทำคะแนนสูงสุดและได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของรุ่น
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ เซเรียและซากุระก็เดินออกจากหอพักพร้อมกระเป๋าสัมภาระ เนื่องจากตามกฎของสถาบัน นักศึกษาที่จบการศึกษาต้องย้ายออกเพื่อเปิดพื้นที่ให้นักศึกษาใหม่เข้ามาใช้ห้องพักต่อ
ระหว่างเดินออกจากหอพัก ซากุระชวนคุยเพื่อช่วยให้เซเรียผ่อนคลาย
“นี่ เซเรียจัง หลังจากเรียนจบแล้ว เธอวางแผนจะทำอะไรต่อเหรอ”
“ยังไม่แน่ใจเลย อาจจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อนสักพัก แล้วค่อยคิดอีกที” เซเรียตอบ
“นั่นสินะ กลับไปพักบ้างก็ดี ฉันคิดว่าเธอทำงานหนักมาตลอดทั้งปีการศึกษาเลยล่ะ ทั้งไปเป็นครูผู้ช่วย เป็นตัวแทนนักศึกษา เป็นครูฝึกให้รุ่นน้องอีก” ซากุระพูดพร้อมพยักหน้าเห็นด้วย
ที่หอประชุมของสถาบัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก หอประชุมขนาดมหึมาสามารถรองรับผู้คนได้ถึงหนึ่งแสนคน โดยแบ่งออกเป็นสามชั้น บริเวณที่นั่งตรงกลางถูกจัดไว้สำหรับบัณฑิตใหม่ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษา ผู้ปกครองและแขกผู้มีเกียรตินั่งเรียงรายตามที่นั่งด้านข้าง ทั้งมนุษย์และแวมไพร์หลากเชื้อชาติจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้ามาเพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในวันสำคัญนี้
“ขอต้อนรับบัณฑิตรุ่นที่ 136 และผู้ปกครองทุกท่าน กระผม เอ็ดการ์ พอร์ตแลนด์ ผู้อำนวยการสถาบันแลนด์สล็อทแห่งนี้ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้อยู่ร่วมในโอกาสพิเศษนี้”
เสียงกระซิบเล็ก ๆ ดังขึ้นในกลุ่มบัณฑิต
“เขาดูสุขุมกว่าที่คิดไว้แฮะ” ซากุระกระซิบกับเซเรีย
“ใช่ ฉันคิดว่าผู้อำนวยการจะเคร่งขรึมกว่านี้ซะอีก” เซเรียยิ้มบาง ๆ พลางมองไปยังเวที เสียงของผู้อำนวยการดังขึ้นผ่านไมโครโฟนก้องกังวานไปทั่วหอประชุม
พิธีการดำเนินไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งถึงช่วงเวลาสำคัญที่เซเรียต้องขึ้นกล่าวคำปฏิญาณตน หัวใจของเธอเต้นระรัวเมื่อชื่อของเธอถูกประกาศออกลำโพง เซเรียลุกขึ้นจากที่นั่ง สูดลมหายใจลึก แล้วก้าวขึ้นไปบนเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้อง
เธอยืนอยู่หลังโพเดียม กวาดสายตามองผู้คนในหอประชุม เธอเห็นพ่อแม่ของเธอนั่งอยู่แถวกลาง ส่งยิ้มมาให้กำลังใจ เซเรียหลับตาแวบหนึ่ง ตั้งสมาธิ ก่อนจะเริ่มกล่าวด้วยเสียงที่มั่นคง
“ในนามของบัณฑิตทุกคน ฉันขอให้คำปฏิญาณว่า เราจะยึดมั่นในความรู้ ความยุติธรรม และความรับผิดชอบที่เราได้รับจากสถาบันแห่งนี้ เราจะใช้ความรู้เพื่อสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม” เสียงของเซเรียแสดงถึงความจริงจังและความตั้งใจ สะกดผู้ฟังทุกคนให้เงียบฟังจนจบ
หลังจากนั้น พิธีมอบปริญญาบัตรก็ได้เริ่มต้นขึ้น โดยนักศึกษาที่ได้เกียรตินิยมอันดับที่ 1 จะได้รับก่อน โดยปีการศึกษานี้ มีนักศึกษาเกียรตินิยมอันดับ 1 ทั้งหมด 5 คน รวมเซเรียแล้วด้วย
โดยคณะบดีสถาบันได้ขานขื่อนักศึกษาทีละคนและผู้อำนวยการจะเป็นคนมอบเกียรติบัตรให้ พอถึงคิวของเซเรีย เธอก็ก้าวขึ้นเวทีด้วยความมั่นใจและรับใบเกียรติบัตรจากมือผู้อำนวยการ
เมื่อพิธีสิ้นสุดลง เซเรียเดินออกจากหอประชุมพร้อมซากุระ ระหว่างที่พวกเขาเดินออกมา นิโคลัส พี่ชายของเซเรียที่ทำงานเป็นอาจารย์อยู่ ซึ่งยืนรออยู่ที่ทางออก ก็ก้าวเข้ามาใกล้ด้วยรอยยิ้มกว้าง
“เซเรีย เธอทำได้เยี่ยมมากเลย” เขาพูดพลางยกมือขึ้นแตะศีรษะเธอเบา ๆ ด้วยท่าทางภูมิใจ
“พี่นิโคล! ขอบคุณนะ เอาตรงๆ รู้สึกประหม่าสุดๆไปเลยล่ะ” เซเรียยิ้มตอบพร้อมขำแห้งตาม
“ตอนที่น้องพูดบนเวที ฉันแทบจะลืมหายใจเลยล่ะ พ่อกับแม่และน้องเมแกนก็ต้องรู้สึกตาค้างไปเลยล่ะ เธอดูสง่ามาก เธอพร้อมแล้วที่จะก้าวไปข้างหน้าในเส้นทางต่อไปน่ะ” นิโคลัสเสริมด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“พี่ว่าเธอจะไปทำอะไรต่อดีล่ะ ตอนนี้คนอื่น ๆ คงเริ่มจับตามองเธอกันแล้วนะ” เขาพูดหยอกล้อเบา ๆ ก่อนจะเหลือบเห็นนามบัตรในมือของเซเรีย ขณะที่เธอกำลังคุยกับเพื่อน ๆ อยู่ด้านนอก
“เซเรีย เธอสุดยอดมากเลยนะตอนบนเวที” หนึ่งในเพื่อนร่วมรุ่นเอ่ยชมด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ฉันแทบหยุดหายใจตอนเธอกล่าวคำปฏิญาณ มันดูมีพลังมากเลยล่ะ” ซากุระเสริมพร้อมหัวเราะเบา ๆ จู่ ๆ ก็มีชายคนหนึ่งในชุดสูทสีดำเข้ามาหาเขา ดูเหมือนเขาจะมีบางอย่างที่สำคัญจะพูด
“คุณเซเรีย อาร์มสตรอง ใช่ไหมครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก
“ใช่ค่ะ” เซเรียตอบพร้อมเลิกคิ้วเล็กน้อย “คุณเป็นใครหรือคะ”
ชายคนนั้นยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยื่นนามบัตรให้ “ผมชื่อราฟาเอล จากองค์กร The Resistor เราสนใจในความสามารถของคุณ และอยากชวนคุณเข้ามาร่วมงานกับเรา หากคุณสนใจ เราอยากนัดคุยกันเพิ่มเติมนะครับ”
“เอ๊ะ? องค์กร The Resistor เหรอ?” เซเรียคิดในใจ
เซเรียรับนามบัตรมา สีหน้าของเธอแสดงถึงความประหลาดใจปนความสงสัย เธอเคยได้ยินชื่อองค์กรนี้มาก่อน มันเป็นองค์กรที่คอยปกป้องมนุษย์และแวมไพร์จากอันตรายและการกดขี่ในโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง
“ฉันจะลองคิดดูนะคะ” เซเรียตอบพลางเก็บนามบัตรลงในกระเป๋า
ราฟาเอลพยักหน้า “เราหวังว่าจะได้ร่วมงานกับคุณนะครับ” เขาพูดก่อนจะหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้เซเรียยืนครุ่นคิดกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
“เซเรียจัง คนนี้คือใครกันน่ะ ทำไมดูลึกลับจัง” ซากุระถามด้วยความสงสัย
“องค์กรอะไรนะ The Resistor? ฉันเคยได้ยินชื่อผ่าน ๆ แต่ไม่คิดว่าจะติดต่อเธอโดยตรงเลย” เพื่อนอีกคนพูดพร้อมเบิกตากว้าง
เพราะปกติแล้ว องค์กร The Resistor ไม่มีการรับสมัครงานให้นักศึกษาจบใหม่ แต่เคสนี้เป็นเคสพิเศษ เนื่องจากเซเรียทำผลงานให้กับสถาบันไว้เยอะมาก ทำให้คนในองค์กรสนใจตัวเธอเป็นพิเศษล่ะมั้ง
บรรยากาศรอบตัวเธอเต็มไปด้วยเสียงกระซิบของผู้คนที่พูดถึงเธอ ทั้งมนุษย์และแวมไพร์ต่างส่งสายตาที่เป็นประกายมาที่เธอ เพราะเซเรียก็เป็นนักเรียนที่มีชื่อเสียงเหมือนกัน
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” เซเรียตอบด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด “แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสนใจอะไรบางอย่างในตัวฉัน…”
เพื่อน ๆ ต่างมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจและความตื่นเต้น โลกของเซเรียกำลังจะเปลี่ยนไป และทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่กำลังจะมาถึง โลกของเธอกำลังจะเปลี่ยนไป และเธอเองก็รู้ดีว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเปลี่ยนชีวิตของเธอตลอดไป