เมื่อมือสังหารต้องเลือกเส้นทาง… ระหว่างความถูกต้องกับความแค้น หยาดเลือดจะเป็นตัวตัดสิน!
ไซไฟ,ลึกลับ,แอคชั่น,สงคราม,จิตวิทยา,สืบสวนสอบสวน,ดราม่า,สายลับ,แวมไพร์,พล็อตสร้างกระแส,แอ็คชั่น ,แอ็คชั่น,สงคราม,สงครามโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Assassins Agent Lore Story Light Novel Editionเมื่อมือสังหารต้องเลือกเส้นทาง… ระหว่างความถูกต้องกับความแค้น หยาดเลือดจะเป็นตัวตัดสิน!
"ในโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ เซเรีย อาร์มสตรอง หญิงสาวผู้ถูกฝึกให้เป็นนักฆ่าตั้งแต่ยังเยาว์วัยจากสก็อตแลนด์ ต้องเผชิญหน้ากับภารกิจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเธอไปตลอดกาล เมื่อองค์กรก่อการร้าย ไฮมานา ที่ตั้งอยู่ตะวันออกกลาง นำโดย กามิล มูฮัมหมัด คิดจะทำลายสมดุลแห่งโลก เซเรียและ คุซานางิ ลูอิส แวมไพร์นินจาปริศนาจากญี่ปุ่น และพรรคพวก ต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดหายนะนี้ แต่ในเงามืดที่ซ่อนเร้น อดีตที่โหดร้ายของพวกเขากลับคอยตามหลอกหลอน การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ภารกิจ แต่มันคือเส้นทางแห่งการล้างแค้น ศรัทธา และเสรีภาพของพวกเขา!"
อัพเดทตอนทุกวันพฤหัสค่ะ จะพยายามอัพนะคะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น จะแจ้งข่าวทาง X และ Facebook นะคะ
คำเตือน
นิยายไลท์โนเวลเรื่องนี้มีเนื้อหาเหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ภายในเรื่องประกอบด้วยฉากความรุนแรง การต่อสู้ การทรมาน จิตวิทยามืด และการควบคุมทางอำนาจในโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง
เรื่องราวทั้งหมดเป็นผลงานสมมติ สร้างขึ้นเพื่อเล่าเรื่องในจักรวาลแฟนตาซี-ไซไฟ และไม่ได้มีเจตนาเชิดชูพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมใด ๆ ทั้งสิ้น
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และพักใจหากรู้สึกไม่สบายใจในบางประเด็น
หลังจากที่บุกเข้าฐานทัพกลุ่มก่อการร้ายของแวมไพร์ เสียงไซเรนกรีดร้องไปทั่วฐานทัพ ไฟสีแดงกระพริบเป็นสัญญาณเตือนภัยทั่วบริเวณ เสียงระเบิดและเสียงปืนดังสนั่น
เสียงระเบิดดังก้องกังวานทั่วฐานทัพของกลุ่ม The Underblood Fangs ท้องฟ้ายามราตรีถูกฉาบด้วยเปลวเพลิงและกลุ่มควันดำ ฝนเริ่มโปรยปราย แต่กลิ่นเลือดและดินปืนกลับเข้มข้นเสียยิ่งกว่าสายฝนที่ร่วงหล่น
เสียงกรีดร้องของเหล่าแวมไพร์ดังระงมทั่วพื้นที่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโกลาหล เมื่อหน่วยจู่โจมจากองค์กร The Resistor บุกเข้าสังหารกลุ่มก่อการร้ายในศึกครั้งใหญ่ที่สุด
ฟรานซิสกำหมัดแน่นก่อนจะชักมีดสั้นออกมา แววตาของเขาฉายประกายเย็นยะเยือก ด้านข้าง เอลล่ากระชับปืนลูกซอง ขณะที่เซเรียยกปืนคู่ขึ้นพร้อมปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา วิเวียนประจำจุดซุ่มยิง ใช้สไนเปอร์ลอบสังหารศัตรูจากระยะไกล
"พวกมันมาเป็นฝูงเลยเหรอวะ" เอเดรียนพึมพำ
"ก็แค่ขยะกองใหญ่น่า ลุยกันเถอะ" เซเรียตอบเสียงเย็น ก่อนจะกระโจนออกไปพร้อมกระแสไฟฟ้าที่ปะทุขึ้นรอบตัว
สนามรบกลางฐานทัพเต็มไปด้วยซากศพของทหารและแวมไพร์ที่สังเวยชีวิต เสียงปืน เสียงระเบิด และเสียงกรีดร้องดังไปทั่ว
เซเรียเป็นคนนำทัพบุกไปข้างหน้า เธอเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ลำแสงไฟฟ้าพุ่งออกมาจากปืนคู่ของเธอ พร้อมกับเสียงฟ้าร้องที่คำรามตามหลัง
ฟรานซิสตามประกบ ใช้มีดสั้นปาดลำคอแวมไพร์ตัวแล้วตัวเล่า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นยิงกระสุนไรเฟิลเคลือบน้ำแข็งเข้าใส่ศัตรูที่พุ่งเข้ามา
เอลล่าโหมยิงลูกซองอันทรงพลัง กระสุนทุกนัดทำให้ร่างของศัตรูระเบิดกระจาย รากไม้จากพลังควบคุมพืชของเธองอกขึ้นจากพื้น ทิ่มแทงทะลุร่างแวมไพร์
วิเวียนอยู่บนจุดสังเกตการณ์ ดวงตาของเธอเรืองแสงสีแดงเพลิง ไรเฟิลสไนเปอร์ของเธอส่งลูกกระสุนเคลือบเปลวเพลิงพุ่งทะลุร่างศัตรูเป็นแนว
เอเดรียนเป็นแนวหน้าอีกคนที่ปะทะศัตรู เขาฟันดาบเคลือบพิษของสัตว์นานาชนิดลงกลางร่างแวมไพร์ก่อนจะเตะมันกระเด็นออกไป
แต่ถึงแม้พวกเขาจะต่อสู้อย่างเต็มที่ แวมไพร์นับร้อยก็ยังคงเข้ามาไม่หยุด
“แม่งเอ๊ย มันมาเรื่อยๆเลยว่ะ” ฟรานซิสสบถออกมา
“หาตัวหัวหน้าให้เจอและรีบจัดการซะ” ผู้บัญชาการสั่งด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“รับทราบ!!” ทุกคนตอบรับ
ในขณะที่การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด เซเรียซึ่งเป็นฝ่ายโจมตีมากที่สุดเริ่มแสดงอาการเหนื่อยล้า แม้เธอจะเก่งกาจ แต่ศัตรูก็ยังคงล้อมเข้ามาไม่หยุด
ฟรานซิสพยายามช่วยเธอด้วยการใช้พลังน้ำแข็งสร้างกำแพงขึ้นมาขวางไว้ จนกระทั่งเซเรียเจอตัวหัวหน้ากลุ่ม เธอไม่ลังเลที่จะรีบไปปิดบัญชีทันที
เซเรียพุ่งเข้าไปจัดการหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอย่างไร้ความลังเล กระสุนไฟฟ้าของเธอเจาะเข้าร่างมันจนเกิดระเบิดพลังงานรุนแรง พื้นใต้เท้าแตกร้าว ร่างของเธอลอยกระเด็นไปกระแทกกับเศษซากอาคาร
เธอพยายามลุกขึ้น แต่มีแวมไพร์ระดับสูงตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาเร็วเกินไป มันใช้กรงเล็บตวัดเข้าที่หน้าท้องของเซเรีย เลือดพุ่งกระฉูดออกจากร่างเธอ
"เซเรีย!" ฟรานซิสตะโกน กำลังจะไปสมทบเซเรีย จู่ๆมีแวมไพร์อีกตัวจะมาทำร้ายเขา
ขณะเดียวกัน เอลล่าได้สร้างกำแพงเถาวัลย์ปกป้องฟรานซิสพร้อมเตือนสติเขา
“อย่ามัวแต่ประมาทสิ ฟรานซิส นายเกือบตายแล้วนะ”
“แต่ว่าเซเรียกำลังจะ-” ฟรานซิสกำลังจะค้าน แต่เอเดรียนตะโกนสวนกลับไป
“ช่างมัน เอาตัวเองให้รอดก่อนนะ”
ขณะที่ศึกต่อสู้กำลังดุเดือดยิ่งกว่าลาวาในภูเขาไฟ เซเรียเข้าสู่โหมดเอาจริงในทันที
“แม่งเอ๊ย...” เซเรียสบถในขณะที่เธอกระอักเลือด
เซเรียที่อยู่ในสภาพปางตาย ฝืนตัวเองลุกขึ้นมาและเล็งปืนไปที่แวมไพร์ที่โจมตีเธอ
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้น แต่แวมไพร์ยังคงพุ่งมาหาเธอ เซเรียพยายามยกปืนขึ้น แต่ร่างของเธอเคลื่อนไหวช้าลง เลือดสีแดงเข้มไหลซึมออกจากแผลที่สีข้าง
“พวกก้างขวางคอแม่งเยอะชิบหาย”
เซเรียกัดฟันแน่น แม้เธอจะถูกโจมตีแต่เธอก็ยกปืนขึ้นยิงเข้าหัวแวมไพร์ตัวนั้นจนกระเด็นไป
หลังจากนั้น เธอก็เซล้มลง หายใจหอบ เลือดสีแดงสดไหลอาบพื้น
ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด แวมไพร์ระดับสูงสามตัวพุ่งเข้าหาเซเรียที่บาดเจ็บ ซึ่งเธอมองเห็นภาพที่เบลอๆ สติเลือนรางในสภาพที่กำลังจะล้มนอนคว่ำอยู่นั้น ฟรานซิสพยายามจะเข้ามาช่วยแต่ไม่เร็วพอที่จะไปได้
เอเดรียนตัดสินใจกระโจนเข้าไปขวางแทน
เขาใช้พลังอสรพิษเผชิญหน้ากับศัตรูตัวแรก จัดการมันได้ แต่ร่างกายของเขาถูกกรงเล็บของแวมไพร์อีกตัวแทงทะลุ
“อั่ก...!” เลือดไหลออกจากปากของเอเดรียน แต่เขายังคงกัดฟันใช้ดาบฟันศัตรูตัวที่สองจนมันล้มลง
แต่ศัตรูตัวที่สามพุ่งเข้ามา เขาไม่มีแรงพอจะหลบแล้ว
ฉึก!
กรงเล็บของแวมไพร์แทงทะลุแผ่นหลังของเขา ทุกคนรอบๆตัวเขาแสดงสีหน้าช็อค เซเรียที่กำลังจะล้มอยู่กับพื้น เธอก็ต้องช็อคตามๆกัน
“ไม่…! เอเดรียน!” ฟรานซิสคำราม
เอลล่ายิงปืนลูกซองกระแทกแวมไพร์ตัวสุดท้ายจนมันกระเด็นไป ฟรานซิสรีบเข้ามาประคองร่างของเอเดรียนที่กำลังล้มลง
“พ...พี่เอ...เดรียน...” เซเรียพึมพำก่อนที่เธอจะหมดสตินอนคว่ำไป ซึ่งถ้าเซเรียไม่บาดเจ็บสาหัส เธอสามารถลอบสังหารจากข้างหลังได้
เอเดรียนไอออกมาเป็นเลือด ดวงตาของเขาเริ่มพร่ามัว ฟรานซิสกอดร่างเขาไว้แน่น
“นายมันโง่ชะมัด…ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยวะ” ฟรานซิสพูดเสียงสั่น
เอเดรียนหัวเราะเบาๆ “ช่วยไม่ได้นี่นา… ผมเป็นแบบนี้อยู่แล้วล่ะ”
ฟรานซิสมองหน้าเอเดรียน ผู้เป็นรักแรก น้ำตาของเขาคลอเบ้า
“ฟังนะ ฟรานซิส…” เอเดรียนจับแขนของเขาแน่น “หลังจากนี้...พวกเราจะ...ไม่มีข้อผูกมัด...อะไรอีกแล้วนะ...”
“ไม่… นายอย่าพูดแบบนี้”
ก่อนที่เอเดรียนจะสิ้นลมหายใจ เขาได้เอามือที่เปื้อนเลือดมาจับแก้มของเขา ก่อนที่ริมฝีปากทั้ง 2 คนจะประกบกัน ฟรานซิสยิ่งหลั่งน้ำตามากขึ้น เพราะนี่คือจูบแรกและจูบสุดท้ายของพวกเขา
หลังจากนั้น เอเดรียนก็ได้ไหว้วานบางอย่างให้ฟรานซิส
“ถ้านาย...จะคบกับเซเรีย...ผมไม่ว่านะ...ผมฝากดูแลเธอด้วย… ถึงตัวเธอแข็งแกร่งก็จริง…แต่บางครั้งเธอก็เปราะบางกว่าที่คิดนะ...ยังไงก็...อย่าลืม...สนิทกับพี่น้อง...ของเธอด้วยล่ะ” เอเดรียนยิ้มจางๆ “แค่ฉันได้ปกป้องพวกนาย…ได้เจอรักแรกของผมที่จริงใจ... มันก็คุ้มแล้วล่ะ...ขอบใจนะ”
รอยยิ้มสุดท้ายของเขาปรากฏขึ้น… แล้วเปลวไฟแห่งชีวิตของเขาก็ดับลง มือที่จับใบหน้าเริ่มร่วงลงมา
“ฮึก...เอเดรียน!!!” ฟรานซิสกรีดร้องออกมาสุดชีวิต
น้ำตาของเขาหยดลงบนร่างไร้วิญญาณของแฟนผู้เป็นที่รัก ทุกคนในนี้ต่างไม่สามารถทำใจกับการจากไปแบบกระทันหันของเขาเลย
หน่วยเก็บกวาดได้นำร่างไร้วิญญาณของเอเดรียนไป ฟรานซิส เอลล่า และวิเวียนต่างต้องเสียน้ำตาให้กับเขา
เซเรียหมดสติไปจากบาดแผลร้ายแรง ฟรานซิสอุ้มเธอขึ้นมาแนบอก ขณะที่วิเวียนกำลังยิงแวมไพร์ที่เหลือ
แวมไพร์สี่ตัวรอดไปได้ พวกมันหนีไปหลังจากที่หัวหน้ากลุ่มถูกเซเรียปิดบัญชี
ฟรานซิสมองร่างไร้วิญญาณของเอเดรียนที่อยู่ในถุงเก็บศพก่อนจะก้มหน้าลงไปมองเซเรียและพึมพำบางอย่าง
“เซเรีย หลังจากจบงานศพเอเดรียน เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะ”
นี่คือชัยชนะที่แลกมาด้วยชีวิตของใครบางคน
แต่สำหรับพวกเขาแล้ว... มันคือค่ำคืนแห่งความสูญเสีย